เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 กรกฎาคม 2024 at 22:06.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +26,147
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +26,147
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานที่กระผม/อาตมภาพไม่ได้ลงทำวัตรค่ำ เพราะว่าต้องประชุมคณะกรรมการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในส่วนของคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับหนกลาง วาระสำคัญก็คือ กำหนดการลงตรวจยกหมู่บ้านขึ้นเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการรักษาศีล ๕ ซึ่งทำให้บรรดางานต่าง ๆ ประจำปีของวัดเราก็สับสนวุ่นวายไปหมด

    เนื่องเพราะว่างานวันแม่เสร็จ เขาก็จะเริ่มตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบเลย ก็คือจะเริ่มในวันที่ ๑๓ สิงหาคม แต่กระผม/อาตมภาพได้ทักท้วงในที่ประชุมว่า วันที่ ๑๓ สิงหาคมนั้นเป็นวันประชุมพระนวกะของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ซึ่งทางที่ประชุมบอกว่าให้เลื่อนเป็นวันอื่น

    แต่กระผม/อาตมภาพแจ้งว่า การประชุมพระนวกะของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีนั้น กำหนดไว้ตายตัวว่าแต่ละอำเภอจะตรงกับขึ้น - แรมเท่าไร ถ้าหากว่าเลื่อน ๑ อำเภอก็จะกระทบกระเทือนที่เหลือทั้งหมด ท้ายที่สุดที่ประชุมก็มีมติสรุปให้เริ่มต้นการตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบประจำปี ๒๕๖๗ ในวันที่ ๑๔ สิงหาคมเป็นต้นไป

    โดยวัดแรกที่จะได้รับการตรวจยกนั้นก็เป็นไปลำดับการปกครองคณะสงฆ์ภาค ก็คือไล่ตั้งแต่ภาค ๑, ภาค ๒, ภาค ๓, ภาค ๑๓, ภาค ๑๔ และ ภาค ๑๕ วัดแรกของภาค ๑ ก็คือวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเจ้าอาวาสได้ยินก็สะดุ้ง ๘ ตลบ เนื่องเพราะว่าไม่มีใครอยากจะเป็นวัดแรก ๆ เพราะว่าอันดับแรกเลย ยังไม่รู้ว่ารูปแบบการจัดการแบบไหนเป็นที่พอใจของคณะกรรมการ อันดับที่สองก็คือมีเวลาในการจัดเตรียมพร้อมรับการตรวจน้อยที่สุด แต่ว่าทุกปีก็เป็นเช่นนี้ ก็เลยต้องมีการใช้มติในที่ประชุมในการลงความเห็นด้วยกัน

    ส่วนงานไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชรของวัดท่าขนุนตรงกับวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๗ วันที่ ๖ กันยายนช่วงบ่าย กระผม/อาตมภาพยังต้องตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบอยู่เลย แล้วงานประจำปีคือวันบูรพาจารย์ วันที่ ๑๔ กันยายนนั้น วันที่ ๑๓ กันยายนก็ยังตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบอยู่เช่นกัน แต่ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ว่า วันที่เขากำหนดว่าเป็นวันเว้นว่างให้ ตรงกับวันงานของเราพอดีทุกครั้ง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +26,147
    เรื่องนี้ต้องบอกว่า "ธรรมะจัดสรร" แต่ว่าทำให้ไม่สามารถที่จะนิมนต์พระเถรานุเถระมาตามที่ต้องการได้ เพราะว่าไม่มีโอกาสอยู่รับรองท่านเลย ก็คงต้องใช้วิธีเดียวกับปีที่แล้ว ก็คือใช้พระวัดเราเจริญพระพุทธมนต์ในลักษณะ "ชงเอง..กินเอง"

    แต่ก็ดีตรงที่ว่าไม่สิ้นเปลืองมาก เนื่องเพราะว่าการนิมนต์พระเถระจากที่อื่น กระผม/อาตมภาพจะคำนวณตามระยะการเดินทางของท่าน แล้วก็ถวายปัจจัยให้มากกว่า เพราะว่าหลายท่านก็มาไกลมาก อย่างเช่นว่ามาจากเชียงราย หรือว่ามาจากสกลนคร เหล่านี้เป็นต้น ก็แปลว่าปีนี้งานวันแม่ และงานวัดบูรพาจารย์ของวัดท่าขนุนก็ต้องใช้พระของเรากันเอง

    ส่วนวันนี้ก็มีงานประชุมต่อเนื่อง ก็คือการประชุมคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และการประชุมคณะกรรมการกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ปรารภกับหลายท่านไปแล้วว่า ไม่ได้คิดว่าจะได้รับภาระส่วนนี้ขึ้นมา เนื่องเพราะว่าได้ถวายปัจจัย เพื่อช่วยงานของท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ

    พูดง่าย ๆ ว่าอยากแบ่งเบาภาระของครูบาอาจารย์บ้าง เนื่องจากว่าท่านเมตตาสอนมาตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท ยันปริญญาเอก แต่ปรากฏว่าเจ้าคุณอาจารย์ท่านทำงานแบบโปร่งใสมาก ก็คือไม่ยอมให้มีข้อตำหนิเลย ท่านจึงเอาเงินก้อนนั้นไปตั้งเป็นกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วมีคณะกรรมการกองทุนในการอนุมัติใช้งบประมาณทุกครั้ง จึงกลายเป็นเวรเป็นกรรมว่า เจ้าของเงินต้องเป็นกรรมการไปด้วย..!

    วันนี้ในส่วนของการอนุมัติงบประมาณสำคัญนั้นก็คือ การจัดปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของทั้ง ๑๘ ภาคในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะมีงบประมาณให้ปีละ ๔๕๐,๐๐๐ บาท ก็แปลว่า "ไม่พอยาขี้ฟัน" กระผม/อาตมภาพจึงได้ให้เอาเงินจากกองทุนนี้เสริมเข้าไปอีก ๔๕๐,๐๐๐ บาท รวมแล้วทั้ง ๑๘ ภาค ได้รับไปเป็นต้นทุนภาคละ ๕๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น

    แล้วท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า การจัดปฏิบัติธรรม ๑๐ วันบ้าง ๑๕ วันบ้าง แล้วมีต้นทุนแค่ ๕๐,๐๐๐ บาท อย่างไรเสียก็อยู่ไม่รอด แต่ละภาคจึงต้องมีวัด หรือว่าพระสังฆาธิการ ที่มีกำลังใจเสียสละช่วยเหลือกันตรงนี้ แล้วก็ยังได้ญาติโยมทั้งหลายที่ร่วมบุญเพิ่มเติมเข้ามาอีก จึงพอที่จะอยู่กันได้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +26,147
    อีกส่วนหนึ่งก็คืออนุมัติงบประมาณเพื่ออบรมพระจริยานิเทศก์ ซึ่งพระจริยานิเทศก์นั้นเป็นพระที่น่าสงสารมาก เพราะว่าไม่มีสังกัด เนื่องเพราะว่าในแต่ละจังหวัดนั้นมีมากน้อยไม่เท่ากัน โดยมีประธานคณะพระจริยานิเทศก์ของจังหวัดนั้นก็คือหลวงพ่อของแต่ละจังหวัด ก็แปลว่าเจ้าคณะจังหวัดต้องเป็นประธานคณะพระจริยานิเทศก์ของจังหวัดนั้น ๆ ไปโดยปริยาย

    แล้วถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาจะใช้งบประมาณอุดหนุนจึงไม่ทราบว่าจะลงไปที่ตรงไหน เขาจึงเอากลุ่มพระจริยานิเทศก์มาผูกเอาไว้กับศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ พูดง่าย ๆ ว่าถ้ามีงบประมาณหลวงมาก็โอนเข้าศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วค่อยกระจายไปให้พระจริยานิเทศก์ ซึ่งแต่ละท่านก็ทำงานในลักษณะที่ว่าเงินที่ให้มาก็ "ไม่พอยาขี้ฟัน" เช่นกัน แต่ก็อาศัยกำลังใจที่อยากจะทำในส่วนงานของพระพุทธศาสนาให้ดีบ้าง ได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมบ้าง

    อีกส่วนหนึ่งก็คืออนุมัติงบประมาณในการประชุมคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ ซึ่งจะต้องสิ้นสุดลงก่อนวันที่ ๓๐ กันยายน เพราะว่าส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วในช่วงนั้น กระผม/อาตมภาพก็กำลังตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบอยู่ "มือเป็นระวิง" พูดง่าย ๆ ว่าประชุมเท่าไรก็ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย

    พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิตก็ยังอุตส่าห์ถามว่า "แล้วงานแสดงพระธรรมเทศนา ๔ ภาคเฉลิมพระเกียรติที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถไปร่วมงานได้หรือไม่ ?" กระผม/อาตมภาพเรียนถวายไปว่า "ต่อให้มีบัตร VVIP ก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพติดเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา งานอื่นสามารถให้คนไปแทนได้ แต่การเป็นพระเกจิอาจารย์ไม่มีใครแทนได้" ท่านเจ้าคุณอาจารย์ยังแซวว่า "ตกลงว่าคนอื่นเสกแล้วไม่ศักดิ์สิทธิ์" ความจริงแล้วไม่ใช่
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    17,607
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +26,147
    เนื่องเพราะว่าแต่ละจังหวัดจะมีพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกำหนดตัวแค่ ๔ รูปเท่านั้น ต้องถือว่าเป็นเกียรติเป็นศรีอย่างยิ่งในชีวิตของตนเอง ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมถึงผูกพันกับเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ต้น อุปสมบทในปี ๒๕๒๙ พอปี ๒๕๓๐ ก็ยุ่งเกี่ยวกับการเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ที่อุโบสถวัดท่าซุง พอมาถึงทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา คราวนี้ต้องเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์เอง ในฐานะพระเกจิอาจารย์ของจังหวัดกาญจนบุรี

    แล้วพอเสกน้ำเสกศักดิ์สิทธิ์ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ในวันบรมราชาภิเษก ก็อยู่ในฐานะพระเกจิอาจารย์อีกหนึ่งรอบ มารอบนี้ก็ถือว่าเป็นวาระสำคัญ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ ๖ รอบ

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เมื่อตกมาแล้วก็ยังรู้สึกสงสัยตนเองว่า ทำไมถึงมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ขนาดนี้ ? น่าจะอยู่ในลักษณะที่ว่าอดีตชาติเคยเป็นข้าราชบริพาร ถวายการรับใช้มาหลายยุคหลายสมัย

    พอมาถึงยุคนี้สมัยนี้มาบวชเสียก่อน โอกาสที่จะถวายการรับใช้นั้นมีน้อย จึงกลายเป็นว่าพอมีวาระสำคัญอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้มีส่วนร่วมในวารสำคัญนั้น ๆ พอดี ถือว่าเป็นเกียรติประวัติส่วนตนที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

    เนื่องเพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายภาระธุระในพระพุทธศาสนาให้ ทรงตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร แล้ว
    กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่มีโอกาสตอบแทนทางด้านอื่น จนกระทั่งได้มาถวายงานในลักษณะแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...