เว็ยนี้มีมนุษย์ต่างดาวเล่น?

ทำไมมันไม่เอายานมันมาโชว์ให้ชาวโลกได้เห็นกันเสียที หรือเพราะจริงๆมันสายโม้?

 

ใครหนอ! ค่ะเป็นมนุษย์ต่างดาว?

แล้วเข้ามายังมนุษย์โลกนี้ทำไมค่ะ

ในเมื่อดาวของตนเองก็มี หรือว่า หรือว่ามาเรียนรู้ความรักจากชาวโลก

สงสัยคงตัองผิดหวังเหง๋งๆเลยค่ะ. เพราะชาวโลกก็ขาดแคลนพลังแห่งรักอยู่

โลกจึงเป็นอย่างทุกวันนี้ โลกร้อนเพราะขาดความเย็นซึ่งเป็นพลังแห่งรักของชาวโลกเหมือนกันค่ะ

 

เพราะมะนาว เข้ามาเจอ หญิงขี้เหร่เหลือประมาณ อย่างแกไง ขากลับเร็วกว่าขามา ซะอีก....ว่าแต่แกเถอะ..มาเพ้อเจ้อเรื่องความรัก โกหกคนอื่น โกหกตนเองไปทำไมกัน...มันบาปเด้อ...ทั้งที่ตนเอง เอง ก็ไม่มีความรักกับใคร..หาคนรักยังไม่เจอ หาสามียังไม่ได้..ลูกก็ไม่มี...แสดงว่าความรักที่สมควร รับผิดชอบต่อตนเอง ยังไม่มีเลย...ยังจะมาเพ้อเจ้อ..เรื่องความรัก ที่ไม่มีในตน..ไปทำไมกัน..(เสียชาติเกิดจริงๆเลยแก)

 

เรื่องมนุษย์ต่างดาวเชื่อไหมค่ะ ถ้าใครเชื่อเรื่องพลังงานยุคใหม่ ก็ต้องทำความเข้าใจกับมนุษย์ต่างดาวค่ะ ถึงแม้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน...ในยุคของพลังงานใหม่นี้จะมาถึงอีกกี่ปี แต่ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าไป...สู่พลังงานยุคใหม่ รู้ได้ยังไงค่ะ ก็ตอนนี้ค่ะ จักรวาลกำลังเปิดมิติเบื้องหลังโลกให้ชาวโลกได้รู้ทั้งทางตรงและทางอ้อมนั่นแหละค่ะ

มนุษย์พลังงานยุคใหม่ต้องเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวค่ะ เป็นบทเรียนใหม่ของชาวดาวเคราะห์โลก กับ มนุษย์ต่างดาวที่ต้องติดต่อสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะยุคนั้นจะมาถึงตอนไหน หรือว่าจะรุ่นลูกหลาน หรือว่าจะ เร็ว ๆ นี้ก็อาจเป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ จิตจักรวาลสื่้อไว้ค่ะในหนังสือจิตจักรวาล

 

:z4

ใจสื่อใจค่ะ ไร้เงื่อนไข รู้สึกอยากให้ ใจก็สุขค่ะ:z4

 

หนังสือจิตจักรวาล ผมอ่านเล่น แต่ไม่เชื่อถือ เพราะคนเขียนไม่น่าเชื่อถือ
เทียบกันแล้ว หนังสือโลกทิพย์ หรือเดอะซีเคล็ด ยังน่าเชื่อถือกว่า

 

ถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เรื่องตำนานสร้างโลก สร้างมนุษย์คู่แรกอย่าง อดัม กับ อี๊พ ก็เป็นอันจบ

 

ท่านเชื่อเรื่องเหล่านี้ไหมค่ะ

จักรวาล กาแล๊กซี่ เอกภพ....

ศาสตร์พลังงาน คือ ธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม

และวิทยาศาสตร์ทางจิต ที่สามารถเข้าถึงพลังงานวิญญาณด้วยกลไกลทางไฟฟ้าที่มีอยู่ในระบบร่างกาย เช่น กระแสจิต หรือ พลังงานจิต นะค่ะ

แล้วเคยเข้าไปอ่านกระทู้ที่ jityim เรื่อง กึ่งพุทธกาล เปิดธรรมโลกุตระ ไขความลับจักรวาล ไขปริศนาแห่งธรรมจักร หรือเปล่าค่ะ

ที่ถามต้องการทราบว่า ท่านคิดรู้สึกอย่างไร เมื่อได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องความลับจักรวาล อนัตตาเป็นธรรมภายในเร้นอยู่ในร่างกาย นะค่ะ

มนุษย์ต่างดาวถ้าไม่สัมผัสจริง ๆ อาจเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่ถ้าเราเข้าใจจักรวาลความเป็นมาของสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่ง เราก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า เราเกิดมาได้อย่างไรในจักรวาลนี้ และ ยังมีกาแล๊กซี่มีมากมายในระบบเอกภพนี้ ก็ว่าในสนามพลังงานนี้ไม่ได้แค่โลกใบนี้เท่านั้นนะคะ ยังมีระบบกาแล๊กซี่อีกหลายล้านระบบ และจักรวาลทางช้างเผือกของเรานี้ ยังมีระบบสุริยะ 2 ระบบ คือ ระบบของเราและระบบสุริยะเพื่อนบ้านคือ ระบบสุริยะแอนโดรมิดา นะค่ะ

เอาเฉพาะจักรวาลของเรานะคะ นอกจากจะมีโลกของเราที่เราอยู่อาศัยด้วยแล้ว ยังมีดาวเคราะห์เพื่อนที่เป็นเพื่อนร่วมกัน อีก 8 ดวงที่หมุนไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ และ ดาวเคราะห์เหล่านั้นก็ไม่แตกต่างกับโลก ที่เป็นดาวเคราะห์ใบหนึ่งที่เกิดจากพลังงานและธาตุต่าง ๆ ก็คือ ดาวเคราะห์เปลือกแข็ง และในโลกของเราที่มีลม อากาศ น้ำ ไฟ อยู่ใต้ผืนโลกไหลไหวไปมา ในดินน้ำไฟลมที่ห่อหุ้มโลก ก็ยังมีมนุษย์โลกอย่างเราอาศัยอยู่ได้ และระบบกาแล๊กซี่อื่น หรือ ระบบจักรวาลที่มีสภาพภูมิลักษณะเหมือนกับโลกเรานี้ จะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่เลยหรือค่ะ ในเมื่อพระพุทธเจ้าก็ทรงได้ตรัสไว้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในจักรวาลอื่นด้วยนะค่ะ

 

สื่อคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล เป็นข่าวสารต่างมิติ ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์โลกและจักรวาล เป็นศาสตร์ด้านอภิปรัชญา อันเป็นศาสตร์สากลจักรวาลที่ว่าด้วยเรื่องกฏเกณฑ์ทางกายภาพของจักรวาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลกโดยตรง

มันไม่ใช่ความรู้ส่วนตัวของผู้เขียนเลยแม้แต่น้อย ผู้เขียน(อ.ปริญญา)แค่ทำหน้าที่ถ่ายทอดคลื่นความคิดรู้จากจิตจักรวาล เป็นความรู้ใหม่ ที่ท้าทายการเรียนรู้และพิจารณาด้วยสติปัญญาของท่าน ผู้เขียนใคร่ขอร้องต่อท่านอีกครั้งหนึ่งว่า จงอย่าเพิ่งเชื่อในทันทีที่อ่าน และจงอย่าปฏิเสธความรู้ใหม่เหล่านี้ทันที โดยยังไม่ได้ใช้สติปัญญาของท่านเลย

จักรวาลยึดถือความเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ และยืนยันว่าทุกศาสนาไม่ใช่ลัทธิ เพราะมีแก่นแท้เป็นเรื่องเดียวกันทั้งสิ้น จิตจักรวาลต้องการยกระดับสติทางวิญญาณของมนุษย์ด้วยความรู้ใหม่เพื่อให้ทุกคนเติมเต็มในส่วนที่ขาด ให้สามารถเข้าถึงแก่นแท้แห่งสัจธรรมของแต่ละศาสนาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น

แม้จะเป็นเรื่องลึกลับสำหรับมนุษย์ในยุคพลังงานเก่าซึ่งค่อนข้างยากแก่การเข้าใจก็ตาม ด้วยอำนาจแม่เหล็กโลกและระดับพลังงานของโลกที่กำลังยกตัวให้สูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ จะช่วยให้สติปัญญาของแต่ละคนได้รับการยกระดับสูงขึ้นตามไปด้วยการทำความเข้าใจในเรื่องยาก ๆ ย่อมง่ายขึ้น (คัดบางส่วนมาจากคำนำค่ะ เพื่อยืนยันว่าความรู้นี้มิใช่ความรู้ส่วนตัวของผู้เขียน ที่ยุคปัจจุบันมีผู้รับการถ่ายทอดสื่อสารในเรื่องแบบนี้มากมายหลายคนที่อยู่ทั่วโลก ความชัดเจนของข้อความที่ถ่ายลงมาอีกครั้งขึ้นอยู่กับบุญบารมีของผู้รับค่ะ)

จักรวาลสื่อบอกว่า รูปธรรมชั้นสูงและจิตจักรวาลต่าง ๆ ไม่อาจสื่อกับมนุษย์แต่ละคนเป็นส่วนใหญ่ได้โดยตรง แต่จะใช้วิธีโดยอ้อม เพราะมนุษย์แต่ละคนสร้างความสัมพันธ์กับจักรวาลไม่ได้ มีเครื่องรับส่งแต่ไมยอมเปิดใช้ ขณะบางคนต้องการเปิดใช้แต่ไม่รู้จักวิธีเปิดเครื่อง และบางคนเข้าใจผิดว่าตนไม่มีเครื่องรับที่ว่านี้ด้วยซ้ำ

เครื่องรับที่ว่านี้คือ การสื่อสารภาษาจิต เป็นภาษาที่สาม ซึ่งเป็นภาษาสากลของจักรวาลนะคะ

 

.
เขียน ๒๒.๔๗


คิดเอาเอง ว่ามีประสบการณ์ตรง ครั้งนึง
เกี่ยวกะมนตด. ขอยืนยันอย่างเหยาะแหยะ
คล้ายเห็นจริงๆ แต่ก็ดูเลอะเลือน อย่างลึกลับ

เป็นเรื่องสี่ห้าปีก่อน ตอนเริ่มเล่นนิทาน นักรบแสงน่ะ
เหมือนว่าจะเคยเจอกะตาครั้งนึง บนดาดฟ้าที่บ้าน
ตัวเล็กๆ สูงซักแปดสิบเซน นั่งยานลำน้อยๆ
ลอยอยู่ตรงหน้า ยานลำใหญ่กว่ากระด้งนิดนึง
ทรงเหมือนจานบินแบบคลาสสิค กลมแบนป่อง

ช่วงนั้นกะลังเพี๊ยนหนัก ทำอะไรแปลกๆ เยอะแยะมากมาย
เหมือนรู้ตัว และไม่รู้ตัวไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่ทำกสิณเทียนกระพริบ
คือเพ่งเทียนแบบเล่นๆ ไม่เคยทำนะ ลองทำแค่สองครั้ง ก็ได้เรื่องเลยอ่ะ
เหมือนไฟจากเทียนมันกระพริบได้ มองที่ผนังน่ะนะ แต่ดูที่เทียนก็ดูเป็นปกติ
กระพริบเป็นจังหวะ จากช้าไปเร็วๆ เหมือนมีเครื่องอิเล็ค คอยควบคุมอยู่
เป็นไม่นานนะ แค่ไม่กี่วิ แล้วก็ไม่เคยลองทำอีกเลย เหมือนเสร็จงาน
ในจิตเหมือนรู้สึกว่า เราสื่อสารออกไป มีใครรับได้แล้ว หาเจอน่ะ

หลังจากนั้น ก็เหมือนมีการตามหาตัว สื่อสารผ่านจิตกันวุ่นวายหลายวัน
รู้สึกเหมือนเป็นคนบ้า บวกคนดีๆ สลับกัน เช่น กดโทรศัพท์แปลกๆ
กดแล้วกดอีก เหมือนใช้ส่งสัญญานอะไร แล้วรับได้จากในจิต
แปลผิดแปลถูก มั่วอยู่หลายวันเลย กว่าจะเหมือนว่าเข้าที่
จากนั้นก็เป็นเรื่องของการวิเคราะห์ และเริ่มพัฒนา
เหมือนได้รับโปรแกรมการพัฒนาตัวเองน่ะนะ
ทำโน่นทำนี่ แบบว่า พัฒนาเซลล์สมอง
คิดว่างั้นนะ จากเรื่องหลายปีก่อน
คิดว่ามีนะ แต่อาจจะอีกมิตินึง
หรือไงก็ไม่ทราบได้ เนอะ


กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / คนเคยบ้า
.

 

ธรรมดา.. ..นะ มนุษย์ ย่อม ไม่อาจรู้เห็น สิ่งใด เกิน กำลัง ของ สังขาร นี้ไปได้ รู้ เท่านี้ เห็น ได้ยินเท่านี้ ได้สัมผัส รับรส มนุษย์ รู้ได้เท่านี้ เพราะ สังขารนี้ เท่าได้เท่านี้ เมื่อไม่เห็น และ รับรู้ไม่ได้ ก็ สรุปเอา ว่า ไม่เห็น ไม่มี ไม่จริง เพราะสังขารนี้ ครองงำ อยู่ :boo:

เว้น แต่ ผู้เจริญ อภิญญา(จุด ปฏิหาริย์ ทั้ง7 ที่ติดกายมนุษย์ มาตั้งแต่เกิด) จึงรู้ ละเอียด ขึ้นไปกว้างไกล เกิน กว่า ร่างกายนี้ :boo:

เห็นว่า usa russia จะเปิดเผย ต่อชาวโลก ในเร็ววันนี้ :boo:

 

มนุษย์ต่างดาวมีมานานแล้ว มีทุกประเภท ที่ดีและไม่ดี พวกมนุษย์ต่างดาวชั้นต่ำกินพลังงานความกลัว ความโกรธ และความโลภ ของกินกิเลสทางอารมณ์ของมนุษย์เป็นอาหาร และคอยช่วยพวกมนุษย์ที่ชอบสะสมอำนาจให้ประสพความสำเร็จในการกระทำรุนแรงต่างๆ มันอาศัยอยู่รอบๆตัวเรา บ้างอยู่นานไปก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ ได้เหมือนคน

 

ไม่ทราบว่ามนุษย์ต่างดาวที่ว่านี้มาจากดาวไหนกันครับ
แล้วมีชื่อเรียกไหมว่าเผ่าพันธุ์อะไร หน้าตาเป็นอย่างไร
เราจะหาพวกเขาพบจากที่ไหนได้ง่ายที่สุด แล้วถ้าไม่ใช่อารมณ์โกรธ โลภของมนุษย์ อาหารอื่นเขากินไหม ?

 

น่าสนใจนะครับ

 

คุณก็คงมีความเชื่อแบบที่เราถูกปลูกฝังกันมา ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าสิ่งใดที่ตา มองไม่เห็น จมูกไม่ได้กลิ่น มือสัมผัสไม่ได้ อย่าเพิ่งไปเชื่อว่า มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง เราเองก็เคยคิดแบบนั้น แบบหัวชนฝามาก่อน แต่ดั่งแต่มาเจอมนุษย์ต่างดาว เข้ากับตังเองที่ NYC เราจึงลบความคิดแบบนั้นออกไป มนุษย์ต่างดาวก็เป็นพลังงาน อย่างหนี่ง มีทั้งที่มีร่างและเป็นเพียงพลังงาน มีมากเหมือนคนทั้งที่ดีและเลว อาศัยอยู่ในมิติ ภพต่างๆ แฝ่งเข้ามาในลัทธิต่างๆ บางจำพวก ส่งคลื่นความกระหายการรบ เลือด การตาย อย่างบ้าคลั่ง สามารถส่งคลื่น เข้าสู่สมองมนุษย์ อยากเจอจริงๆลองส่งกระแสจิตหา ถ้าแข็งจริง ทำทุกวันทุกคืนนะ รับรอง 100% ได้เจอแน่ แต่จะมาดีหรือไม่ดี มาในรูปลักษณะไหนเรากำหนดไม่ได้ แล้วแต่ว่าคลื่นกระแสจิตของผู้ส่งจะไปจูลติดกับตนไหน ถ้าเค้ามาก็ลองถามเค้าดูสิว่าอยากินอะไร มนุษย์ต่างดาวบางกลุ่มก็เป็นเพียงแค่พวกแฝงเข้ามาธรรมดา ไม่ได้มีพลังอะไรมาก ส่วนใหญ่แฝงอยู่ในลัทธิใหญ่ ศาสนาต่างๆ และกลุ่มผู้นำทางการเมืองและทางการทหาร

 

มนุษย์ต่างดาวก็ต้องเป็นมนุษย์
ถ้ามันเป็นพลังงานมันก็เป็นผีต่างดาว

 

การที่คนเราไม่ต้องไปสัมผัส ไปรับรู้ ไปเห็นพวกนี้ ถือเป็นภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง
ที่ธรรมชาติให้มา เพราะถ้าไปรู้ไปเห็น ไปสัมผัสเข้า ก็มีแต่เรื่องยุ่งยาก
พวกนี้ ถึงจะมีอยู่จริง แต่ถ้ารับรู้ไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเงา ไม่ส่งผลกระทบ
ต่อวิถีชีวิตของคนเรา แต่ถ้าจะเป็นเรื่องก็คือ พวกเราไปเปิดจิต ไปรับสัมผัสของเขาเข้ามา ทำให้เขามีโอกาสครอบงำและชักจูงได้
แบบเดียวกับคนที่ผีเข้าได้ กับคนที่ผีเข้าไม่ได้ วิถีชีวิตย่อมต่างกัน

 

ข้อนี้ผมเห็นด้วย ถ้าจะใช้คำว่ามนุษย์นั้น ต้องมีเลือดเนื้อ มีชีวิต มีสติปัญญา
มีวิทยาการที่เจริญแล้ว

 

มนุษย์ถูกขีดเส้นจำกัดพรสวรรค์และประสิทธิภาพของจิตใต้สำนึก ด้วยการจำกัดขอบเขตและศักยภาพในด้านความคิด ของการสื่อสาร ด้วยการใช้ภาษา เราถูกกำหนดให้ใช้ภาษาในการพูด ออกเสียงและเขียนอย่างมีรูปแแบบมาตั้งแต่เกิด ด้วยจำนวนและขอบเขตที่จำกัด จุดปะสงค์เพื่อบันทอนพรสวรรค์ และลดสมรรถะภาพด้านจิตอภิญญา พรสวรรค์แฝงในการสื่อสารของจิต ความอัจฉริยะของจิตใต้สำนึกที่มีศักยภาพพิเศษ แฝงเร้นอยู่ในสมองของคนทุกๆคน การรักษาโรคร้ายด้วยพลังจิตของตนเองโดยไม่ต้องใช้ยาเคมี ดูเหมือนว่าไม่มีคนสนใจมากนักกับความเชื่อเหล่านี้ และเรากำลังจะถูกลบล้างออกไปโดยการปลุกฝังความเชื่อในสังคมของคนรุ่นใหม่ และให้ความหมายของศาสตร์ด้านพระพุทธคุณว่าเป็น "เรื่องล้าสมัย"

ภาษาของจิตใต้สำนึกเป็นภาษาที่ไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นตัวอักษรได้หมดทุกตัว ความละเอียดอ่อนทีแฝงแน่นอยู่ในการสื่อสาร ข้อมูลมากมายที่ท้าทายการค้นหา เราไม่เคยถูกฝึกสอนให้รู้สึกเลยว่า เรามีสมรรถะภาพและพลังจิตพิเศษที่แฝงอยู่ในตัวเรา เราไม่เคยถูกฝึกให้นำสิ่งมหัศจรรย์,พิเศษเหล่าออกมาใช้เลย จะมีมนุษย์สักกี่คนที่ค้นพบศักยภาพพิเศษ ที่แฝงเร้นอยู่ในตัวเองและสามารถนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เราจะได้พบเห็นก็จะเป็นท่านพระเกจิอาจารย์ต่างๆที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น.

 

เรื่องมนุษย์ต่างดาวหลาย ๆ ท่านคงสนใจกันมากค่ะ บางคนที่สัมผัสได้ก็เชื่อ บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางคนไม่เชื่อเลยก็มีค่ะ

จะเรียบเรียงให้นะคะว่า จิตจักรวาลบอกเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาวไว้ว่าอย่างไร

มนุษย์ต่างดาวมีรูปลักษณ์หน้าตาและสติปัญญาที่แตกต่างกัน ซึ่งถูกล้วนด้วยอำนาจแม่เหล็กของดาวเคราะห์ดวงนั้น ๆ และระยะเวลาที่ใช้ในการวิวัฒนาการสายพันธ์ของแต่ละเผ่าดาวเป็นสำคัญทั้งสิ้น

ยุคพลังงานเก่า มนุษย์มีความสับสนเรื่องนี้กันมาก ขณะที่มุนษย์โลกส่วนใหญ่ปกปิดความจริงไว้ไม่ให้เชื่อ มีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งกลับสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างลับ ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งท่าทีที่เป็นมิตรและก้าวร้าวกันอยู่ตลอดมา

มนุษย์โลกส่วนใหญ่ยังไม่อาจล่วงรู้ความจริงของตนเองบางประการ มี[B]มนุษย์กลุ่มหนึ่งทีหวังเป็น[U]เจ้าโลก[[/U]/B] ยึดกุมทุกสรรพสิ่งเอาไว้ในกำมือของพวกตนให้จงได้ ไม่ละเว้นแม้ชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อนมนุษย์คนอื่น ๆ โดยพวกเขาคิดสร้างพลังอำนาจให้ตนเองด้วยเทคโนโลยอันสูงส่ง และบทบาทนักบุญใจบาปที่คนทั้งโลกรู้จักดี แม้บุคคลกลุ่มน้อยเหล่านี้ จะไม่ใช่ระดับผู้นำประเทศมาหาอำนาจอย่างเป็นทางการแม้แต่คนเดียว พวกเขาก็จะสามารถสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นแก่คนส่วนใหญ่ได้ในวันหน้า แม้การคิดการใหญ่ของพวกเขาจะไม่มีวันสำเร็จได้ก็ตาม

บุคคลเหล่านี้ได้สร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์ต่างดาวที่อยู่ในจักรวาลนี้ และจากต่างกาแล๊กซี่ โดยยอมตนทอดสะพานให้ เพื่อแลกเปลี่ยนนำเอาเทคโนโลยีอันสูงส่งจากต่างพิภพเข้ามาแลกกับข้อมูลจำเพาะของมนุษย์โลกบางอย่างกลับไป บางครั้งมนุษย์ต้องแลกด้วยชีวิตและจิตวิญญาณเลยทีเดียว ความจริงเหล่านี้ถูกปิดมิดชิดมาตลอดจนมนุษย์ส่วนใหญ่ยังเชื่อยูว่าว่า มนุษย์ต่างดาว เป็นแค่นิยายวิทยาศาสตร์ หรือในจินตนาการเท่านั้น

บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยจักราวาลและกาแล๊กซี่อยู่นับไม่ถ้วน ยังมีรูปธรรมคล้ายมนุษย์ดำรงอยู่อีกมาก เพื่อเตือนสติให้มนุษย์ได้รู้ว่า ตนเองมิใช่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแต่เพียงพวกเดียวในจักรวาลเท่านั้น

รูปธรรมต่างดาวบางดวงก็เป็นได้เพียงแค่คล้ายมนุษย์ มนุษย์ต่างดาวบางดวงก็ผิดลักษณะมนุษย์น่าจะเป็นเดรัจฉานที่มีจิตใจและจิตสำนึกระดับเดียวกับมนุษย์มากกว่า ซึ่งมันเทียบกันไม่ได้เลยในด้านความงดงามของรูปธรรมหน้าตา และความซับซ้อนอันมหัศจรรย์ของระบบชีววิทยาของมนุษย์โลก จนทำให้มนุษย์โลกเป็นเผ่าพันธ์แห่งดวงดาวกลุ่มเดียว ที่มีลักษณะบุคคลิกและรูปร่างงดงามที่สุดในบรรดารูปธรรมมีชีวิตเผ่าอื่น

เงื่อนไขที่พวกเขาต้องการติดต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเทคโนโลยีระหว่างดาวมาช้านาน จะได้ใช้เทคโนโลยีที่รุดหน้าวิวัฒนาการในสิ่งที่ตนบกพร่องให้ทัดเทียมมนุษย์โลกบ้าง

ปัจจุบันนี้รูปธรรมแห่งดวงดาวบางแห่ง สามารถโคลนนิ่งพันธุกรรมมนุษย์ เพื่อลดความสูงใหญ่ทางร่างกายลงให้เท่ากับมนุษย์โลกได้แล้ว บางเผ่าก็สามารถเพิ่มความสูงให้เท่ากับขนาดมนุษย์โลกจากเดิมที่รูปธรรมคล้ายคนแคระและบางเผ่าพันธ์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดแลดูดน่ากลัวดั่งสัตว์ในเทพนิยายโบราณ ก็สามารถแก้ไขตนเองให้มีใบหน้าละม้ายเข้ามนุษย์ไปทุกทีแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นอดีตที่มนุษย์ส่วนใหญ่ควรล่วงรู้ไว้บ้าง เส้นทางที่เข้าสามารถเดินทางข้ามมิติมาสู่ดาวโลกของเราได้ก็คือ แนวเส้นสมมุติของสนามแม่เหล็กโลกที่อ่อนตัวลง ทำให้พวกเขาสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หากเทียบกับเทคโนโลยีของพวกเขาแแล้ว มนุษย์โลกในปัจจุบันไม่อาจเทียบพวกเขาได้เลย เช่นกรณียานพาหนะเดินทางระหว่างดาวอังคารกับโลก ขณะที่มนุษย์ต้องใช้่ระยะเวลานานร่วม 7 เดือน แต่พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากพวกเขามีก้อนสมองที่โตกว่ามนุษย์มากนั่นเอง

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/684zLg5psIk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>