เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๔๑ : เล่ห์ลวงแห่งมาร

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 24 สิงหาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    41.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๔๑ : เล่ห์ลวงแห่งมาร

    บุคคลผู้ตั้งใจปฏิบัติความดี มักจะมีอุปสรรคมาขัดขวาง เรียกกันว่ามาร คำว่ามาร แปลว่าผู้ฆ่า คือฆ่าเราจากความดี หากไปหลงติดบ่วงของมัน มารมี ๕ อย่างคือ

    ๑. ขันธมาร หมายถึง ร่างกายของเราเป็นมาร พอจะทำความดี มันให้เจ็บโน่นปวดนี่เมื่อยนั่น จะเข้าวัดเข้าวามันพาลป่วยหนักซะเลย ถ้าจะเข้าเธคเข้าคลับเข้าบาร์ละก็ไม่เป็นไร ไปได้ปร๋อเชียว...

    ๒. กิเลสมาร คือ อารมณ์ชั่วของจิตเป็นมาร จะคิดดี พูดดี ทำดี มันเป็นขัดขวางสุดตัว ถ้าจะคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว เชิญตามสบาย มันคอยชักนำให้ยึดความรัก โลภ โกรธ หลง แทนที่จะปล่อยวาง...

    ๓. มัจจุมาร คือ ความตายเป็นมาร พอเราจะทำความดี มันกลัวเราหนีพ้น ไม่รู้จะขัดคอเราอย่างไร พาลชักแหง็ก ๆ ตายเอาดื้อ ๆ ฆ่าเราตายจากความดีทั้งร่างกายและจิตใจเลย

    ๔. อภิสังขารมาร คือ ผลแห่งบุญบาปเป็นมาร คอยขวางเราไม่ให้ทำดีจนถึงที่สุด ฝ่ายบุญที่ถูกมารแฝง เช่น ยึดติดในรูปฌาน อรูปฌาน มานะถือตัวถือตน ว่าเราดีกว่าคนอื่นเพราะเราทำดี ฝ่ายบาป คือ ความชั่วทุกอย่างที่ทำมา ที่ดึงให้เราชั่วไปกับมันตลอดเวลานั่นเอง...

    ๕. เทวปุตตมาร คือ เทวดาเป็นมาร เป็นเทวดาพวกมิจฉาทิฏฐิ นอกจากจะไม่ส่งเสริมเวลาคนทำความดีแล้ว ยังคอยขัดขวางไม่ให้เขาทำความดีอีก สารพัดวิธีที่พวกนี้จะนำมาหลอกล่อ หรือบางทีก็เทวดาสัมมาทิฏฐินั่นแหละ ทดสอบกำลังใจแล้วเราสอบตก ท่านเลยกลายเป็นมารไปซะฉิบ...

    พอเราเริ่มทำความดี มารทั้งหลายก็ยกพหลโยธามาคอยขัดขวางทันที ล่อหลอกให้เราติดบ่วงของมัน จะได้ดึงเราให้ห่างความดี คอยยั่วให้กำหนัด ล่อให้หงุดหงิด ลวงให้หลงผิดร่ำไป...

    อาตมาผจญกับมันมาจนนับไม่ถ้วน ทุกวันนี้ก็ยังรบกันอยู่ พอรู้ทันเท่ห์ลวงของมันปุ๊บ มันก็เปลี่ยนวิธีใหม่มาทันทีเลย กว่าจะจับได้ไล่ทันก็ปางตาย แล้วก็ต้องผจญกับวิธีการใหม่ ๆ ต่อไป...

    จะขอยกตัวอย่างให้ทราบเล่ห์ลวงแห่งมาร คือ ตอนอาตมาฝึกมโนมยิทธิใหม่ ๆ จัดอยู่ในจำพวกรุ่นใหม่มาแรง มันอยากอวดคนอื่นว่าเราทำได้ อยากพูด อยากสอน อยากไปหมด...

    ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน การปฏิบัตินั้นถ้าอารมณ์เราถึงระดับไหน ก็มักจะตู่เอาว่าทุกคนต้องเป็นแบบนั้น (ซึ่งผิดร้อยเปอร์เซ็นต์) พออารมณ์ละเอียดขึ้นไปอีก อ้าว...ที่ผ่านมาผิดนี่หว่า...

    ในเมื่ออารมณ์เข้าไม่ถึงที่สุด มันก็พูดผิดสอนผิดร่ำไป กลายเป็นเอาทิฏฐิของตน ลัทธิของตน ซึ่งถูกมารชักนำหลอกลวง ไปสอนปนกับธรรมะของพระพุทธเจ้าไปโน่นเลย...

    พอสอนคนใหม่ต่อใหม่เข้าด้วยกัน กิเลสมันใกล้เคียงกันนี่ พูดอะไรก็จี้ใจดำเขาเป๊ะเลย คราวนี้คำสรรเสริญก็จะตามมา พาเข้ารกเข้าพงกู่ไม่กลับมานักแล้ว...

    เมื่อกู่ไม่กลับ ยึดมั่นถือมั่นในความรู้ความสามารถของตนก็พังซิครับ ถูกมารจูงจมูกตามมันต้อย ๆ ห่างความดีไปทุกที พญามารตบมือหัวเราะร่า เสร็จข้าอีกหนึ่งรายล่ะ...

    พอใช้มโนมยิทธิทำนายทายทักเข้า แรก ๆ ก็แม่นดี คำชมเชยก็มาทันที “แหม...รู้ได้แจ่มใสชัดเจนดีจริง...” “แม่นอย่าบอกใครเลย...” “เก่งอะไรอย่างนี้...”

    ขาดสติหลงคำชมก็พัง การที่เรารู้ได้เพราะพระท่านสงเคราะห์ หรือ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ท่านช่วยเหลือ พอถูกยกยอเข้าหน่อย ชักเคลิ้มไปว่า “เอ๊ะ..เราก็เก่งไม่เบานี่หว่า...?” ถ้าอย่างนี้ละก็เตรียมพังได้...

    จะมีอยู่ระยะหนึ่ง ที่เราพูดจริงพูดเล่นมันก็ถูกไปหมด คนก็จะทึกทักว่าเราเก่ง ยกตัวอย่างอาตมาเอง ยกของชิ้นหนึ่งให้คณะคุณพรพรรณ พลางบอกเขาว่า “อย่าทะเลาะกันนะ...”

    คือของมีชิ้นเดียว กลัวเขาจะแย่งกัน กลายเป็นว่า “โอ้โฮ...รู้ไปหมด หลวงพี่นี่...เราเพิ่งทะเลาะกันมาจริง ๆ...” เป็นซะอย่างนี้ ยืดแทบจีวรขาดไปเลย...

    ทักสุทธิพัฒน์ หลานหลวงปู่มหาอำพัน เพราะเห็นเขาหน้าตาสดใสว่า “โหงวเฮ้ง เงินล้านขึ้นแล้ว จะรวยใหญ่แล้วนะ...” เขาตอบว่า “จริงครับ...ผมเพิ่งเซ็นสัญญาส่งสินค้าราคาเป็นล้านมาจริง ๆ...”

    เป็นอย่างไรบ้าง...ถ้าท่านเจอเข้าแบบนี้ ตามด้วยคำเยินยออีกกระบุงโกย ยัง...ยังมีที่แสบกว่านี้ ที่จะให้ท่านหลงติดกับของมารอีกมากมายนัก ตัวอย่างคือ...

    ลุงถนอม รวงผึ้ง รายนี้เป็นฆราวาสทรงอภิญญา อธิษฐานขอพบครูบาอาจารย์ที่จะสอนตนให้เก่งไปยิ่งกว่านี้ แล้วพบกับอาตมาในนิมิต เขาอุตส่าห์ตามตัวจนเจอ...

    “ท่านนี่แหละ...ใช่แน่นอน ผมจำได้ รูปร่างหน้าตา ลักษณะท่าทาง ไม่มีผิดเพี้ยนจากนิมิตเลย...” น่าเคลิ้มไหมล่ะ...มีลูกศิษย์ทรงอภิญญาเชียวนี่...

    สุวรรณา ลูกสาวลุงถนอม ตอกย้ำความเชื่อของครอบครัวให้ศรัทธาหนักเข้าไปอีกว่า “หนูเห็นกับตาจริง ๆ ท่านเดินทะลุประตูเข้ามา ทั้ง ๆ ที่ประตูล็อกอยู่...” เอาเข้าไป...เอาให้หนัก...

    น้องแสงชัย น้องชายอาตมา มักจะพบอาตมาไปสอนในนิมิตเสมอ แล้วไปประกาศปาว ๆ ว่า อาตมาเก่งอย่างโน้นเก่งอย่างนี้ ไอ้ตัวเขาเก่งอยู่แล้ว มาว่าเราเก่งเข้าก็เละหนักเลยซิ...

    “หลวงพี่ไปหาผมที่ซาอุดิอาระเบียเวลาตีสองกว่า ตรงกับประมาณตีห้าของเมืองไทย ลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น...” นั่น...เอาให้พอ ไอ้เรานอนกรนตูดโด่งอยู่แท้ ๆ ...!

    นี่เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ที่ละเอียดจนนึกไม่ถึงในเล่ห์กลของมาร ยังมีอีกมากนัก บอกได้เลยว่า มารนั้นแฝงอยู่ในทุกลมหายใจเข้าออก มันเดินบนทางแห่งความดีนี่แหละ พอถึงจุดสุดท้าย มันดึงท่านออกนอกทางก้าวเดียว ลงเหวไปกับมันทันที...!

    พอคำสรรเสริญเยินยอมา ชื่อเสียงลาภยศก็ไหลมาเทมา คราวนี้แหละ สารพัดบ่วงที่จะเค้นคอท่านให้ตาย เป็นทาสมันอย่างไม่รู้ผุดรู้เกิดเลย...

    อยากเด่นอยากดังรึ...? โอ๊ย...มีคนโฆษณาแทนท่านเป็นร้อยเป็นพัน สารพัดปาฏิหาริย์แปลกจนคิดไม่ถึง เดี๋ยวก็มีหนังสือมาสัมภาษณ์ เอาไปลงให้ดังหนักเข้าไปอีก...

    โลภในลาภรึ...? สารพัดเงินทองข้าวของเครื่องใช้ จะเอาทันสมัยใหม่ล่าสุดเพียงไรได้ทั้งนั้น ตัวเลขในบัญชีธนาคารขึ้นพรวดพราด ยิ่งกว่าน้ำป่าบ่าไหลซะอีก...

    อยากมีบริวารมากรึ...? เอาไปเลย คนมาหมอบราบกราบกรานเป็นร้อยเป็นพัน จะเอานายพันนายพลมีทั้งนั้น พูดคำไหนบริวารเป็นกระตั้กรีบสนองความต้องการทันที...

    ตายครับ...ตายสนิทไม่ต้องกระดิกเลย ไม่มีแม้แต่เวลาจะหลับจะนอน เวลาปฏิบัติจะเอามาจากไหน ยิ่งทิ้งการปฏิบัติ มารยิ่งชอบใจ ฮ่า...เสร็จข้าล่ะ...!

    เท่านั้นเอง ปณิธานปรารถนาจะปฏิบัติเพื่อเข้าถึงอรหัตตผลพระนิพพาน ก็สลายเป็นอากาศธาตุ กลายเป็นบรรลุซึ่งคฤหัสถผลมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ไอ้ที่จมจ่อมยอมเลวอยู่ทั้งผ้าเหลือง รอเวลาลงอเวจีหรือโลกันต์อีกนับไม่ถ้วน...

    นี่แหละ...ตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมารที่มาลวงท่านให้หลงติดบ่วงของมัน ต้องใช้สติสัมปชัญญะมาก ๆ ประกอบด้วยปัญญารู้เท่าทันมันให้ได้ ถึงรู้ช้าหน่อยก็ขอให้รู้แล้วกัน พยายามมุ่งลัดตัดตรงไปตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่ตายเข้านิพพานเพียงไร อย่าไว้วางใจอะไรทั้งนั้น มารยังรอท่านอยู่...!

    ๑ เมษายน ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...