สวด ภาวนา ในชีวิตประจำวัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 11 มีนาคม 2016.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970

    เมื่อวานนอน ๆ เทวดาท่านบอกว่า ถ้ากำลังใจตก ให้ใช้วัตถุมงคลที่เป็นกำลังใจของพุทธภูมิ เช่นพระหลวงปู่ปาน หลวงพ่อทวด หลวงพ่อกวย หรือพระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดิน เหรียญรัชกาลที่ ๕ (วัตถุมงคลที่เป็นรูปลักษณ์ของพระโพธิสัตว์และหากเป็นไปได้ให้ท่านอธิษฐานจิตด้วย)และให้ขึ้นกรรมฐานใหม่ ดอกไม้สามสี เทียน ๑ บาท ธูปสามดอก ขอกำลังใจฟันฝ่าอุปสรรค

    ตกบ่ายลูกค้ามาดูดวงลูกค้าบอกว่ากำลังใจตกมาก ๆ อ่านหนังสือสอบไม่ได้ จะอ่านทีไรมีเรื่องมาวุ่นวาย

    เทวดาเขามาบอกก่อนล่วงหน้าก็แนะนำไป ท่านบอกเวลากำลังใจเราตก ตัวเองเป็นกำลังใจของตัวเองไม่ได้ ให้ทำอย่างที่บอกไว้

    ----------------------
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ถาม : ก่อนที่จะพิจารณาทุกครั้ง จะต้องกำหนดลมหายใจก่อนทุกครั้ง ใช่ไหมคะ ?
    ตอบ : ควรที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะว่าถ้าใจไม่นิ่งไม่สงบ พิจารณาไปก็ไม่ค่อยจะได้ผล จึงต้องเริ่มด้วยการจับลมหายใจเข้าออกให้สมาธิทรงตัวก่อน

    ถาม : การปฏิบัติสำหรับคนที่โง่เขลา ปัญญามีน้อย ควรจะเริ่มจากอะไรดีคะ ?
    ตอบ : ลมหายใจเข้าออก #จะโง่หรือฉลาด #ก็ทิ้งลมหายใจไม่ได้เลย ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก ความดีที่เราทำไว้จะไม่ทรงตัว เพราะฉะนั้น..นั่งดูลมไป..ทุกวัน..ทุกวัน

    __________________
    เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๓
     
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    d6dZc0raasRkEtMStd-Ez_ecqbCajVEhWv7SzAI0PLoF&_nc_ohc=mOMN7k_94LMAX8zrno6&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    วิธีกำหนดอารมณ์อันเป็นนิมิตของจิต ตามกาล

    **********
    โยคีผู้ใด ย่อมประคองจิตในกาล ย่อมข่มจิตในกาลอื่น ย่อมให้จิตรื่นเริงโดยกาล ย่อมตั้งจิตไว้ในกาล ย่อมวางเฉยในกาล
    โยคีผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดในกาล
    ความประคองจิตควรมีในกาลไหน? ความข่มจิตควรมีในกาลไหน? กาลเป็นที่ให้จิตรื่นเริงควรมีในกาลไหน? และ
    กาลของสมถะเป็นกาลเช่นไร? บัณฑิตย่อมแสดงกาลเป็นที่วางเฉยแห่งจิตของโยคีบุคคลอย่างไร?
    เมื่อจิตของโยคีบุคคลย่อหย่อน เป็นกาลที่ควรประคองไว้
    เมื่อจิตของโยคีบุคคลฟุ้งซ่านเป็นกาลที่ควรข่มไว้
    โยคีบุคคลพึงยังจิตที่ถึงความไม่แช่มชื่นให้รื่นเริงในกาลนั้น
    จิตเป็นธรรมชาติรื่นเริงไม่ย่อหย่อน ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมมีในกาลใด กาลนั้นเป็นกาลของสมถะ
    ใจพึงยินดีในภายใน โดยอุบายนั้นนั่นแหละ
    จิตเป็นธรรมชาติตั้งมั่น ย่อมมีในกาลใด ในกาลนั้น โยคีบุคคลพึงวางเฉยไว้ซึ่งจิตที่ตั้งมั่นแล้วด้วยปัญญา
    ธีรชนผู้รู้แจ้งกาล ทราบกาล ฉลาดในกาลพึงกำหนดอารมณ์อันเป็นนิมิตของจิต ตลอดกาล ตามกาล อย่างนี้.
    ...........
    ข้อความบางตอนใน สารีปุตตนิทเทส ขุททกนิกาย มหานิทเทส พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๙ (ฉบับหลวง)
    http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=29&A=10137...
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตามกาลมีการประคองเป็นต้น ด้วยพระดำรัส มีอาทิว่า กิมฺหิ กาลมฺหิ ในกาลไหน ดังนี้. บัดนี้ เมื่อจะทรงวิสัชนากาลมีการประคองเป็นต้น จึงตรัสพระดำรัสมีอาทิว่า ลีเน จิตฺตมฺหิ เมื่อจิตหดหู่ ดังนี้.
    เมื่อจิตถึงความหดหู่เพราะความเพียรย่อหย่อนยิ่งนักเป็นต้น เป็นกาลที่ควรประคองไว้ด้วยการตั้งอยู่ด้วยธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยสัมโพชฌงค์และปีติสัมโพชฌงค์.
    บทว่า อุทฺธตสฺมึ วินิคฺคโห เมื่อจิตฟุ้งซ่านเป็นกาลที่ควรข่มไว้ คือ เมื่อจิตฟุ้งซ่านเพราะปรารภความเพียรเกินไป เป็นกาลที่ควรข่มด้วยปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์และอุเบกขาสัมโพชฌงค์.
    บทว่า นิรสฺสาทคตํ จิตฺตํ สมฺปหํเสยฺย ตาวเท โยคีพึงยังจิตที่ถึงความไม่แช่มชื่นให้รื่นเริงในกาลนั้น คือ โยคีพึงยังจิตที่เว้นจากความแช่มชื่น เพราะขวนขวายทางปัญญาอ่อน หรือเพราะไม่ได้รับสุขอันเกิดแต่ความสงบ ให้รื่นเริงด้วยพิจารณาสังเวควัตถุ ๘ ประการ หรือด้วยระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยในขณะนั้น.
    บทว่า สมฺปหฏฺฐํ ยทา จิตฺตํ จิตรื่นเริงในกาลใด คือในกาลใด จิตเป็นธรรมชาติรื่นเริงตามนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล.
    บทว่า อลีนํ ภวติ นุทฺธตํ จิตเป็นธรรมชาติ ไม่หดหู่ ไม่ฟุ้งซ่าน คือ จิตเว้นจากความหดหู่และฟุ้งซ่าน เพราะผูกไว้ด้วยวิริยะและสมาธิ.
    บทว่า สมถนิมิตฺตสฺส ของสมถนิมิต คือ สมถะและนิมิตของกาลนั้น ชื่อว่าสมถนิมิต.
    บทว่า โส กาโล คือ กาลที่ท่านกล่าวถึงกาล ที่เว้นจากความหดหู่และฟุ้งซ่าน.
    บทว่า อชฺฌตตํ รมเย มโน ใจพึงยินดีในภายใน คือ จิตสัมปยุตด้วยฌาน พึงยินดีพึงให้อภิรมย์ในภายในอารมณ์มีกสิณเป็นต้น.
    บทว่า เอเตน เมวุปาเยน โดยอุบายนั้นนั่นแล คือ โดยอุบายดังที่กล่าวแล้วนั้นนั่นแล. ม อักษร ท่านกล่าวด้วยบทสนธิ.
    บทว่า อชฺฌุเปกฺเขยฺย ตาวเท พึงวางเฉยในกาลนั้น คือ ในกาลใด จิตนั้นตั้งมั่นด้วยอุปจารและอัปปนา ในกาลนั้น ชื่อว่าจิตตั้งมั่นแล้ว เพราะเหตุนั้น โยคีรู้แล้วไม่พึงทำความขวนขวายในการประคอง การข่ม การให้ร่าเริง ควรกระทำการวางเฉยอย่างเดียวในขณะนั้น.
    บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงย่อคาถาที่พระองค์ตรัสถามว่า กิมฺหิ กาลมฺหิ ปคฺคาโห ความประคองจิตควรมีในกาลไหน จึงตรัสพระดำรัส มีอาทิว่า เอวํ กาลวิทู ธีโร ธีรชนผู้รู้แจ้งกาลอย่างนี้ ดังนี้.
    บทว่า กาเลน กาลํ จิตฺตสฺส นิมิตฺตมุปลกฺขเย พึงกำหนดอารมณ์อันเป็นนิมิตของจิตตลอดกาลตามกาล. ความว่า พึงกำหนดเข้าไปกำหนดอารมณ์ของจิตอันสัมปยุตด้วยสมาธิตามกาลอันสมควร.
    บทที่เหลือในที่ทั้งปวงชัดดีแล้ว.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจบเทศนาลงด้วยธรรมเป็นยอดคือพระอรหัตด้วยประการฉะนี้.
    ...................
    ข้อความบางตอนใน อรรถกถาสารีปุตตนิทเทส https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=29.0&i=881&p=2
    vk-6wM1nJFoMFQRjIYFgsZ0zk6ad5gn6ofSf5XIhHuN9bz2YtuqzmnYQDVaNq0PMAJP3IEAx&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    H8h6WVfKdGvZrG5pzSQxd91La3NX98pjOeTbhsTOTemu&_nc_ohc=s5xy9C_iOLYAX9oyOG1&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    ถาม : เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทุกวันนี้อยู่มาได้ ก็ดูลมหายใจเข้าออก ?
    ตอบ : นั่นแหละ..ดีแล้ว เราต้องตั้งสติอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา ถ้าเราจับลมหายใจเข้าออกได้เป็นปกติ โรคต่าง ๆ ก็เหมือนกับไม่มี เพราะว่าใจไม่ได้ไปอยู่ที่ร่างกาย ใจไปอยู่ที่ลมหายใจแทน
    .
    ถ้าโยมเป็นอย่างอาตมาคงไม่อยากมีชีวิตอยู่หรอก เพราะทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนอาการจะกำเริบ แล้วคิดดูว่าช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อยขนาดไหน ? ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหน่อย อาตมาก็หมดสภาพไปแล้ว
    .
    ถาม : วิธีที่ถูกต้องคือ..?
    ตอบ : พยายามให้เห็นโทษของร่างกายนี้ จนไม่อยากอยู่กับร่างกายนี้อีก เราไปพระนิพพานดีกว่า ร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์เราไม่ต้องการอีกแล้ว เกิดมาในโลกที่มีแต่ความทุกข์อย่างนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว เป็นพรหมเทวดาพ้นทุกข์ชั่วคราวเราก็ไม่เอา เพราะเกิดใหม่เราก็ทุกข์อีก ฉะนั้น..เราไปพระนิพพานที่เดียว
    .
    เอากำลังใจเกาะภาพพระหรือลมหายใจเข้าออกไว้ คิดว่าตายเมื่อไรเราขอไปอยู่กับพระพุทธเจ้า ส่วนโรคจะหายหรือไม่หายก็เรื่องของโรค ไม่ใช่เรื่องของเรา
    .
    ถาม : (ไม่ได้ยิน)
    ตอบ : เอาแค่ว่าถ้ารัก โลภ โกรธ หลง มาแล้วเราดูทันก็พอ ไม่ต้องไปดูอย่างอื่น รู้ทันแล้วก็ไม่ต้องไปไล่ฆ่าไล่ฟัน พวกนี้อาย พอรู้ทันเขาก็เลิก มีสติรู้เท่าทันอยู่กับปัจจุบันก็พอ ควบคุม กาย วาจา ใจ ให้อยู่ในกรอบของศีล ถ้าหากความชั่วจะล้นออกมา ก็อย่าให้ล้นออกไปหาคนอื่น ยอมอกแตกตายอยู่คนเดียวดีกว่า
    .
    ถาม : เพียงแค่ให้สวดโพชฌงค์ แล้วหายจากอาการป่วยได้หรือครับ ?
    ตอบ : เนื้อหาของโพชฌงค์ท่านบอกให้เราวางกำลังใจอยู่กับหลักธรรม ในเมื่อเอาใจอยู่กับธรรมะไม่ได้อยู่กับร่างกาย อาการป่วยหนักก็กลายเป็นเบา อาการป่วยเบาก็กลายเป็นหาย เพราะสภาพจิตทรงตัวขึ้นมา
    .
    ถาม : ฟังแล้วเกิดความสบายใจ ?
    ตอบ : ฟังแล้วเหมือนกับอาศัยเสียงสวดมนต์โยงใจให้เป็นสมาธิ สวดไว้ได้ทุกวันแหละดี เพราะเป็นอานิสงส์แก่ตัวเอง อย่างน้อยที่เราทำเป็นการเคารพพระรัตนตรัย ใจเราเกาะพระอยู่แล้ว
    __________________
    เก็บตกบ้านวิริยบารมี
    เมษายน ๒๕๕๓
     
  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ?temp_hash=b2c1c11fc86ad5e5f295c1300128fec2.jpg

    สำหรับคนที่กำลังกลัดกลุ้ม มีแต่ความทุกข์ มีแต่ความเศร้าในชีวิต ให้ภาวนาคาถานี้ แล้วจะทำให้สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ค่อยๆ ลดน้อยถอยลง และหายไปจากชีวิตของเรา
    “ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน โหตุ สัพพะทา”

    เพิ่มเติม:
    ขอสรรพสัตว์ทั้งปวง ที่ประสบทุกข์ จงเป็นผู้หมดทุกข์ ที่ประสบภัย จงเป็นผู้ปราศจากภัย ที่ประสบความโศก จงเป็นผู้สร่างโศก เทอญ.

    หลวงพ่อจง พุทธสโร
    วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    9_I-1b4e4LD4XmdXorhArTC6_LaDS4yfvO4PB-dzUnT0&_nc_ohc=ETqEVIsWUdEAX-N8Tgn&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    ตรงจุดนี้ได้เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติกรรมฐาน อันดับแรก คือ เรามีกำลังใจเข้มแข็งกว่า สามารถอยู่ในดงอบายมุขได้โดยไม่ไหลตามเขาไป อันดับที่สองก็คือ ในเรื่องของการใช้สมองคำนวณ คนที่ใจทรงสมาธิอยู่ การคำนวณจะง่าย

    บางทีอาตมามองใบเสร็จนิดเดียว ก็วางเงินลงไปได้เลย ได้ตัวเลขออกมาแล้ว ระยะหลัง ๆ เมื่อไปซื้อของในตลาดทองผาภูมิ ถ้าไปซื้อเอง หยิบสินค้าเสร็จสรรพ แม่ค้าจะถามอาตมาที่เป็นคนซื้อว่าเท่าไร ?

    เพราะว่าเขาเคยเอาเครื่องคิดเลขมาไล่กดแล้วไม่เคยทัน อาตมาหยิบเงินให้แล้วบอกว่าต้องทอนเท่าไร ตอนแรก ๆ เขาก็ไม่เชื่อ พอเอาเครื่องคิดเลขมากดหลาย ๆ ครั้ง ได้เท่าที่อาตมาบอกทุกที ตั้งแต่นั้นมาเขาเลิกกดเลย อาตมาหยิบของเสร็จบอกเลยว่าเท่าไร แทนที่จะเป็นคนซื้อ ก็กลายเป็นคนขายไป ขายให้กับตัวเอง

    เราจะเห็นประโยชน์ชัด ๆ ว่าสภาพจิตที่นิ่ง เรื่องของการคาดคำนวณสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องโลก ๆ เป็นของง่ายมาก เพราะว่าการดับกิเลส เราต้องดับกิเลสให้ทัน ซึ่งยุ่งกว่านั้น มีรายละเอียดมากกว่านั้น ดังนั้น..ถึงได้กล้าบอกกับเด็ก ๆ เต็มปากเต็มคำว่า ในเรื่องของการเรียน ถ้าเราฝึกสมาธิมา จะเรียนเก่งทุกคน

    ตอนนี้อาตมาจบปริญญาโทแล้ว ยังสามารถรักษาที่ ๑ เอาไว้ได้ แต่ปริญญาโทไม่มีเกียรตินิยม ไม่อย่างนั้นจะเอาเกียรตินิยมมาอวดอีกใบ"

    "ถึงเวลาแล้วกำลังใจที่ฝึกมา สามารถต่อสู้กับกิเลสหยาบ ๆ ก็คือพวกอบายมุขต่าง ๆ ได้ แต่เพื่อน ๆ สู้ไม่ได้เพราะว่าเขาไม่เคยฝึกเรื่องนี้มา แต่ว่าเรื่องความจำที่เห็นผลชัดที่สุดคือ ถึงเวลาเลิกงานต้องไปเล่าเรื่อง "เพชรพระอุมา" ให้เพื่อนทั้งแผนกฟัง

    หนังสือเพชรพระอุมา ๑๘ เล่มใหญ่ ๆ (ตอนนั้นภาค ๑ ยังเป็นชุดปกแข็ง ๑๘ เล่ม ต่อมาปรับเป็น ๒๒ เล่ม แล้วถึงมาปรับเป็น ๒๔ เล่ม) นั่งเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนนั่งฟังแน่นไม่ไปไหนเลย เพราะว่าสามารถที่จะเล่าได้เหมือนอย่างกับเปิดหนังสืออ่าน เพราะฉะนั้น..ถ้าจำทั้ง ๑๘ เล่มได้นี่ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงหรอก"

    เก็บตกบ้านวิริยบารมี
    เมษายน ๒๕๕๕
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    DcnKMowXAGizhfoSEoOjG5xXHJrBVzbzbzvscFFYU9KY&_nc_ohc=f92nluCUtW4AX-lOay8&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    หลวงพ่อเมตตาสอนวิธีแก้ปากเสีย (วจีกรรม4)

    โดยให้หลักไว้ดังนี้
    โรคปากเสีย คือ โรคชอบต่อกรรม เมื่อถูกกระทบทางทวารทั้ง 6 (ประตูทั้ง 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่มากระทบผิวกาย และธรรมารมณ์)
    เพราะอุเบกขา หรือวางเฉยไม่เป็น เบรกจึงแตกเป็นปกติ มีผลทำให้กรรมบท 10 หมวดวาจา ไม่เต็มสักที (กรรมบท 10 หมวดวาจา 4 มี ไม่พูดโกหก, ไม่พูดคำหยาบ , ไม่พูดส่อเสียดหรือพูดนินทาผู้อื่น และไม่พูดเรื่องไร้สาระไม่เกิดประโยชน์)
    วิธีปฏิบัติแก้โดย
    1) พยายามคิดเสียก่อนจึงค่อยพูด
    2) หรือพยายามคิดอยู่ตลอดเวลาที่ฟังคนอื่นเขาพูด
    3) พยายามดึงจิต อย่าไปไหวตามคำพูดของผู้อื่น (โดยฟังอย่างเดียว ห้ามปรุงแต่งธรรมนั้นๆ)
    4) พยายามฟังแล้วกรองเอาสาระจากคำพูดนั้นๆ ของเขา ว่ามีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ (ด้วยปัญญา)
    5) เวลาคนอื่นเขาพูด จะยาวจะสั้น ปล่อยเขาพูดให้จบก่อน เราใช้ความคิดฟังไปแล้ว จะรู้ว่า คำพูดนั้นๆ มีสาระหรือไม่มีสาระ ควรพูดหรือไม่ควรพูด หรือ ควรวาง ควรตัด ก็รู้ได้ด้วยความคิด ไม่ใช่ประโยคไหนมากระทบหูแล้ว กูอยากจะพูดก็ว่าไปเรื่อย โดยไร้ความคิดพิจารณา
    6) หากทำตาม 5 ข้อแรกแล้ว คิดอยากพูดบ้างก็ให้พิจารณาว่า พูดแล้วเป็นคุณหรือโทษ มีสาระหรือไม่มีสาระ ยิ่งเป็นสาระธรรมในพระพุทธศาสนายิ่งสำคัญ จะต้องมั่นใจเสียก่อนว่าเป็นความจริง ไม่ผิดศีล-ไม่ผิดพระวินัย ไม่ผิดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ผิดก็พูดได้ สรุปว่าต้อง นิสสัมมะ กรณัง เสยโย หรือใคร่ครวญด้วยปัญญาเสียก่อนจึงค่อยพูด เพราะแม้ว่าจะเป็นจริงแต่พูดแล้วคนฟังไม่เชื่อ-ไม่ศรัทธา ก็ไร้ประโยชน์ที่จะพูด

    ที่มา : ธรรมะที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑ หน้า ๙๒-๙๓
     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    wN9Ya0z2hTTCEvLQi51D7348rsazmo0RNZsJ53AKVwE6&_nc_ohc=OKDW7Nbs9JAAX8CLkuR&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    (การหนีกรรมทำได้โดย)
    ลืม.. เราต้องทำใจ จะทำใจได้มันก็ต้องภาวนา ต้องสวดมนต์ให้จิตมันอยู่ในความสบายใจ ความสงบ เวลาคิดในทางที่ดี ความดีมันก็มา ถ้าเราคิดในทางที่ไม่ดี ไอ้สิ่งที่ไม่เคยทำมันก็มานะ มันเป็นกระแส ถ้าเราเบรกมันได้ เราก็ปัญหาน้อย โรคภัยไข้เจ็บก็น้อย
    (คำสอนหลวงตาม้า)
     
  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    บ้านสุมโน


    “อธิษฐานเจาะจงโรค”
    คนที่เจ็บป่วยเฉพาะจุดนานๆ เช่น ปวดหัวข้างขวา ปวดขาข้างซ้าย ฯลฯ รักษายังไงก็ไม่หาย อาตมาเคยแนะนำไปหลายคนว่า เวลาเราทำบุญอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะสวดมนต์ ปล่อยสัตว์ ทำสังฆทาน หรือบุญต่างๆอีกมากมาย โดยเฉพาะบุญการนั่งสมาธิภาวนา ให้อธิษฐานเจาะจงโรคหรืออาการที่เราเป็นลงไปโดยเฉพาะ เช่น การทำบุญครั้งนี้ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เล่นงานเข่าขวา ขอให้ข้าพเจ้าหายจากอาการปวดเข่าขวาโดยเร็ว เป็นต้น มีอาการตรงจุดไหน ก็ให้อธิษฐานระบุตรงจุดนั้นไปเลย ให้เจ้ากรรมนายเวรที่เล่นงานจุดนั้นๆ โปรดหลีกทางให้เรา...หลายคนมาเล่าว่า หลังจากทำแล้วมีอาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำแนะนำนอกเหนือจากการปล่อยสัตว์ที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ
    คำสอนของพระอาจารย์เอ
    Unhpm9XKUoBodTPEXUj6xpAlC4XMuUjECP2kmsFs2H7k&_nc_ohc=hGllOBbaukgAX85PCRL&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ?temp_hash=c8b7c01e604f27b11e84e23ef2b22edb.jpg

    หยุดอยู่กับปัจจุบัน ไม่ไปอดีต ไม่ไปอนาคต

    ถาม :
    รู้สึกกังวลใจ ?
    ตอบ : ไม่ต้องไปกังวลล่วงหน้า จำเอาไว้ว่าคนเรามีบุญมีกรรมเป็นของตัวเอง ถ้าวาระบุญยังรักษาอยู่ อย่างไรถึงเวลาก็ต้องมีคนช่วยเหลือ ถ้าหากวาระกรรมเข้ามาตัดรอน ต่อให้มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ก็อาจจะต้องสูญเสียไปหมด อย่าไปห่วงเลย มีหน้าที่ทำดีละชั่วเท่านั้น

    ละชั่วทำดีไปเรื่อย ๆ เรื่องอื่นไม่ต้องไปกังวล ยังมาไม่ถึง พระพุทธเจ้าบอกว่า อตีตํ นานุโสจนฺติ อย่าไปคำนึงถึงอดีต เพราะมันผ่านมาแล้ว รถที่มันวิ่งเลยไปแล้ว เราขึ้นไม่ได้หรอก นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ อย่าไปฟุ้งซ่านถึงอนาคต รถที่ยังมาไม่ถึงเราก็ขึ้นไม่ได้หรอก ปจฺจุปนฺเนน ยาเปนฺติ เอาใจจดจ่อตั้งมั่นอยู่กับปัจจุบันนี้เท่านั้น เพราะว่ารถขบวนนี้ที่จะออกเราจึงจะขึ้นมันได้

    เราถึงได้มีวันเดียวและตอนนี้เท่านั้น ไม่ต้องไปกังวลเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทำหน้าที่ตอนนี้ให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดขึ้นช่างมัน

    ถาม : กังวลว่าตัวเองจะไม่มีอะไร ?
    ตอบ : คนไม่มีอะไรเลยอาตมาขอยืนยันว่าน่าอิจฉามาก ไม่มีอะไรเลยก็ไม่มีอะไรจะเสีย..!
    ...........................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ถาม : นักแข่งรถ เวลาเขานั่งอยู่ในรถ เขาจะทำตัวไม่มีตัวไม่มีตน นั่นคือการใช้อรูปฌานหรือเปล่าคะ ?
    ตอบ : การที่เขาจดจ่ออยู่แค่ว่าตัวเองทำอะไร โดยที่ไม่ได้คิดถึงว่าตัวเองจะเจ็บจะตายหรือเปล่า สมาธิต้องเป็นระดับปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ถึงจะทำได้

    ถาม : แค่ปฐมฌานละเอียดหรือคะ ?
    ตอบ : เพราะว่าพอถึงระดับนั้นแล้ว จิตกับประสาทเริ่มจะเป็นคนละส่วนกัน จะมุ่งงานเฉพาะหน้า ไม่ได้ใส่ใจในร่างกาย คนที่ทำได้ในระดับนี้ บางทีทำงานไประยะหนึ่งแล้วหมดสภาพไปเฉย ๆ เพราะว่าลืมพักผ่อน ประเภททำข้ามวันข้ามคืนไปเลย พอถึงเวลาจะพัก ตัวเองก็ไม่ไหวเสียแล้ว งานหมดก็หมดสภาพไปเลย เขาเรียกว่ายังหาจุดพอดีของตัวเองไม่เจอ

    ฉะนั้น..กำลังใจที่มุ่งมั่นขนาดนั้น พอถึงเวลาจิตกับประสาทแยกส่วนกัน ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าจะต้องกลัวอะไร สมาธิระดับนั้นก็เลยกล้าที่จะขับรถด้วยความเร็วระดับสองร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง บางครั้งเข้าโค้งทีไฟแลบเลย

    ถาม : ไม่ต้องถึงอรูปฌานหรือคะ ?
    ตอบ : ถ้าถึงอรูปฌานก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าจะไม่รับรู้ข้างนอก ถ้าไม่คล่องตัวจริง ๆ อรูปฌานจะไม่รับรู้อะไรข้างนอกเลย แล้วจะไปบังคับรถอย่างไร ? ยกเว้นท่านที่ชำนาญเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นหนึ่งในหลายสิบล้าน..!

    ถาม : แค่ปฐมฌานจะสามารถรับรู้อะไรข้างนอกได้ ?
    ตอบ : จะยิ่งรู้ละเอียด เพราะเป็นลักษณะของฌานใช้งาน โดยเฉพาะปฐมฌานละเอียด สติจะสมบูรณ์พร้อมอยู่กับตัวเอง หลับกับตื่นความรู้สึกเท่ากัน เวลาทำอะไรก็จะทำได้ดีกว่าคนทั่วไปเยอะมาก บางทีมีส่วนของความเป็นทิพย์มาช่วยคำนวณด้วย

    อย่างเช่นต้องเข้าโค้งแรงแค่นี้ ต้องแตะเบรกแค่นี้แล้วรถจะไถลไปถึงมุมนั้นพอดี แทนที่จะคำนวณด้วยความชำนาญเฉพาะตัว ก็เริ่มไม่ใช่แล้ว กลายเป็นมีความเป็นทิพย์บางส่วนมาช่วยแล้ว

    นักกีฬา หรือนักรบ นักต่อสู้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิมาช่วยเป็นอย่างมาก เราจะสังเกตว่า นักกีฬาบางคน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว สถิติจะเสียไปเลย หรือแพ้คู่ต่อสู้แบบยับเยินเลย

    อย่างสมัยก่อนเวลารบกันไม่เหมือนกับสมัยนี้ สมัยนี้ห่างกันเป็นกิโลเมตรก็ยิงกันแล้ว สมัยก่อนต้องถือดาบถือหอกเข้าไปประจัญบานกัน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว กำลังใจลดหน่อยเดียว ก็ไม่กล้าสู้แล้ว บางทีวิ่งหนีเอาดื้อ ๆ ก็มี..!

    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    พระธารณปริตร

     
  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    eD74hIxLytExXe5Ot75zlc2sNMtqJO7L-33yO8zTkxlI&_nc_ohc=C8-AlkgaPpIAX8lPHTB&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg


    “หลับได้อานิสงส์”

    คนที่นอนภาวนาหรือสวดพระคาถาเงินล้านจนหลับไป จงอย่าตำหนิตัวเองว่าเราไม่ได้เรื่อง เพราะฌานถ้าไม่ได้ระดับจะไม่ตัดหลับ ดังนั้น คนที่สวดพระคาถาเงินล้านจนหลับ นั่นก็หมายความว่า เราได้แช่อยู่ในฌานของพระคาถาเงินล้านตลอดทั้งคืนจนตื่น อานิสงส์ย่อมมีได้ แต่จะมีมากมีน้อยต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของฌานด้วยเช่นกัน

    คำสอนของพระอาจารย์เอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    “หลับได้อานิสงส์”

    คนที่นอนภาวนาหรือสวดพระคาถาเงินล้านจนหลับไป จงอย่าตำหนิตัวเองว่าเราไม่ได้เรื่อง เพราะฌานถ้าไม่ได้ระดับจะไม่ตัดหลับ ดังนั้น คนที่สวดพระคาถาเงินล้านจนหลับ นั่นก็หมายความว่า เราได้แช่อยู่ในฌานของพระคาถาเงินล้านตลอดทั้งคืนจนตื่น อานิสงส์ย่อมมีได้ แต่จะมีมากมีน้อยต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของฌานด้วยเช่นกัน
    คำสอนของพระอาจารย์เอ
    xzwpttuumejypaqhrvyrnzgrtgoyymgfhrdany_b-_nc_ohc-9jvzizruurwax-v2tyi-_nc_ht-scontent-fcnx3-1-jpg.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    oubJzXG5lNG8geqHuISrIzy1_mQx0nmxp7FH1bvVASb4&_nc_ohc=onZr1_IwKQMAX-Rp09p&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    ถาม : คาถาเงินล้านมีผลในด้านใด ?
    ตอบ : มีความคล่องตัวในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่

    ถาม : หน้าที่การงานติดขัดมาก
    ตอบ : ไปทำเอา..ถ้าทำจริง ๆ ภายในสองเดือนได้ผลแน่

    ถาม : มีคำแนะนำ ?
    ตอบ : ไม่มี ทำอย่างเดียว อย่าเสียเวลาถาม
    _________
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์
    พฤศจิกายน ๒๕๕๓
     
  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    4_cIbymjY57cr88ubrxyqHKZr1zXHlptz_te1O9ve9W_&_nc_ohc=az7I-7Bz9T8AX-FZLSA&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    ถาม : ไม่อยากออกไปหาความทุกข์ค่ะ ?
    ตอบ : ไม่ต้องออก อยู่กับทุกข์นั่นแหละ เพียงแต่อย่าแบกทุกข์เอาไว้

    ถาม : วางไม่เป็นค่ะ ?
    ตอบ : วางไม่เป็นก็อย่าแบกไว้สิ จะได้ไม่ต้องวาง ใช้คำว่า "ธรรมดา" ธรรมดาการเกิดมาต้องมีทุกข์เช่นนั้น เพราะฉะนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีทุกข์เช่นนี้จะไม่มีกับเราอีก ถ้าเราสามารถออกจากกองทุกข์ได้ในชาตินี้ ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดเพื่อมาทุกข์อีกนับชาติไม่ถ้วน การที่เราทุกข์ชาตินี้ก็แค่พักเดียวเท่านั้น ทำไมเราจะอยู่กับทุกข์นี้ไมได้ ก็แค่อย่าไปแบกเอาไว้เท่านั้น

    ธรรมดา..ทำไม่ถูกใจเขาก็ต้องด่าเรา ธรรมดา..มีครอบครัวก็ต้องปวดหัว ธรรมดา..มีงานก็ต้องเครียด ให้เห็นธรรมดาให้ได้ พอเห็นธรรมดาก็แบกน้อยแล้ว

    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
    Cr.วัดท่าขนุน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...