สกล-อุดร-หนองคาย-เที่ยว-ทำบุญ-ไหว้พระอริยะ

25-29 มีนา ไปอิสานตอนเหนือ ได้ไปหลายแห่งครับ
ไหว้หลวงปู่มั่น-ไหว้หลวงปู่หลุย-พระธาตุเชิงชุม
คำชะโนด-ภูทอก-ไหว้พระอาจารย์จวน
ออกจากบ้านเย็น 25 หลับๆตื่นๆขับไปหลับไป
คนขับก็ขับไป ผมก็หลับไป
ตี 2 เช้าวันที่ 26 ถึงหนองหาร(ที่อุดรฯ ไม่ใช่ที่สกลฯ)
ปั๊ม ESSO บนถนนสาย 22 มีหลักกิโล บอกระยะทางบริการให้ลูกค้า
ใครจะไปไหนก็นับกิโลกันเอาเอง
ส่วนผมจะไปสกลฯครับ ว่างๆมาเล่าต่อครับ

 

พักที่สกลนคร โรงแรมมาเจสติกครับ ใกล้วัดหลวงปู่
ไปกราบหลวงปู่มั่นที่พิพิธภัณฑ์อยู่ภายในวัดป่าสุทธาวาส
ตอนนี้กลายเป็นวัดกลางเมืองไปซะแล้วครับ
กราบหลวงปู่ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ที่คิดว่าสวยที่สุด
นอบน้อมที่สุด เคารพที่สุด
กะเกิดชาติหน้าบุญกุศลส่ง ขอให้หล่อเริ่ด Smart หุ่นดี ฯลฯ
เก็บภาพอัฐบริขารของพระอริยะมาให้ชมกันด้วย
เชื่อว่าถูกต้องตรงตามพระวินัยแน่นอนครับ ดูไว้เป็นแบบอย่าง
พระธาตุของหลวงปู่องค์ที่เป็นแก้วผลึก ของจริงสวยกว่าในรูป
ผมไปกราบด้วยความเคารพอย่างยิ่งครับ

 

ยังมีภาพเพิ่มอีกครับ
ภาพพระธาตุหลวงปู่ฯองค์ใหญ่สุด(ในรูป)เป็นแก้วผลึก
รองเท้าหลวงปู่อีกคู่นึง
โบสถ์ของวัดป่าสุทธาวาส มีผึ้ง รังใหญ่
Trip นี้ผมเจอผึ้งแทบทุกแห่ง ฤดูของเค้าแต่ไม่รบกวนคน

 

เคยไปกราบหลวงปู่มาแล้วค่ะแต่นานมาแล้วล่ะ

 

พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย (สายหลวงปู่มั่น)
อยู่ห่างจากหลวงปู่มั่นไป 100 เมตร
สถูปพิพิธภัณฑ์ สวยงาม แสดงศรัทธาของลูกศิษย์
เดินเข้าประตูที่มีลายเซ็นต์หลวงปู่
ชั้นล่างมีรูปพุทธประวัติ
ชั้นบนมีรูปปั้นเหมือนและพระธาตุหลวงปู่

 

ชั้นบน รูปปั้นหลวงปู่ คงจะเป็นขี้ผึ้งนะครับ
ผมพยายามถ่ายรูปหลบมุมสะท้อนแสงตู้กระจก(รอบตัว)
แม้แต่รูปปั้นหลวงปู่ ผมมองแล้วยังรู้สึกถึงมหาเมตตาของท่าน
มีรูปพระธาตุสวยๆของหลวงปู่ด้วยครับ
ผมก็ได้กราบงามๆไปแล้วครับ

 

ชั้นล่างที่มีภาพพุทธประวัติ
ผมชอบภาพที่ชื่อว่า"โลกมืดด้วยอวิชชา"คำบรรยายภาพบอกว่า
.
--ตัวอวิชชา(คล้ายยักษ์)มี ๔ มือ จับโลก(ดวงตา)หมายถึง
โลกถูกควบคุมอยู่ด้วยอวิชชา คือ ความโง่ ความหลง
ความไม่รู้ตามความเป็นจริง ที่ครอบงำจับตรึงในจิต-
-ความคิดความเชื่อของมนุษย์ ได้แก่
ความไม่รู้ในทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดแห่งทุกข์
ไม่รู้ความดับทุกข์และไม่รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
ผู้คนไร้ที่พึ่งทางใจ พากันกราบไหว้บูชาบวงสรวงต้นไม้ ภูเขา
จอมปลวก ทรงเจ้าเข้าผี หวังให้พ้นทุกข์
แต่ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้--
.
จากภาพที่ ๑ คือภาพรวม"โลกมืดด้วยอวิชชา"
ผมขยายภาพเฉพาะจุด ของภาพรวม จะได้เห็นชัดขึ้น
กราบไหว้หมอผี กราบไหว้ต้นไม้
ภาพบวงสรวงและพิธีกรรมต่างๆ(ภาพคล้ายทำสเน่ห์)
ขออภัยภาพเบลอนิดหน่อย

 

มีภาพที่ถ่ายไปเรื่อยๆ 2 รูป
รูปแรก ตู้ใส่เงินบริจาคเต็มจนดันเงินไม่ลงแล้วครับ
รูปที่ 2 ต้นไม้หน้าสถูป--ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด--

 

พระอาจารย์ จวน กุลเชฎโฐ ที่ภูทอก ครับ
มีภาพมุมช่างภาพนิยม
ภูทอกมองข้ามสระน้ำจากพระเจดีย์
พอไปทางขึ้นภูก็มองมาทางพระเจดีย์(เหมือนมีรัศมีบนฟ้า)
ข้างในพระเจดีย์เป็นพิพิธภัณฑ์ มีรูปพระอาจารย์
มีทั้งรูปปั้นและรูปถ่าย(ผมถ่ายมาอีกที)
เห็นบาตรของท่านบุบ คงเกิดตอนละสังขารครับ
ภูทอกปิดห้ามคนขึ้นระหว่าง 10-16 เมษา ทุกปี
สงสัยหลีกเลี่ยงความอึกทึกของสงกรานต์
ว่างๆมาเล่าต่อครับ

 

ขึ้นบนภูทอก มองไปทางตะวันออก แดดร่มลมเย็น
เห็นอ่างเก็บน้ำเล็กๆของอำเภอ ศรีวิไล ใกล้ๆภูทอก
ส่วนที่อยู่ไกลลิบๆ เป็นมุมสุดตะวันออกเฉียงเหนือของภาคอิสาน
ตรงเส้นสีแดง คือ กลุ่มภูเขาของ อุทยาน ภูวัว หนองคาย
ตรงเส้นสีดำ คือ ภูลังกา รอยต่อ หนองคาย-นครพนม
หลังแนวภู ทั้งสองไปนิดเดียว ก็แม่น้ำโขงครับ เลยไปอีกก็ ลาว

 

ชีวประวัติ พระอาจารย์ จวน
ทำเป็นรูปปั้นดินเผาพร้อมคำบรรยาย ติดอยู่รอบๆพระเจดีย์
มี 5 ชุด อ่านแล้วสนุกได้ความรู้ครับ ทะยอบโพสต์
คงต้อง Click สลับไปมาระหว่างรูปกับคำบรรยาย
ถ้าย่อมารวมกันกลัวอักษรตัวจิ๋วมาก อ่านไม่ออก

 

ชีวะประวัติพระอาจารย์จวนฯ ต่ออีกหน่อยครับ
คำบรรยายที่ 2 และดูภาพที่ 2 เป็นช่วงที่ท่านได้พบกับหลวงปู่มั่น
คำบรรยายที่ 3 และดูภาพที่ 3 ท่านต่อสู้กับนิมิตผู้หญิงและผี
ถ้าภาพไม่ขึ้นก็Click ขวาที่ภาพแล้ว Click open new window ก็ได้

 

บนทางเดินทิศตะวันตกของภูทอก
มีก้อนหินใหญ่รูปเหมือนหัวและคองูโผล่จากดิน
ให้บรรยากาศพญานาคครับ
แสงสะท้อนเป็นดวงแดงๆดวงขาวๆเพิ่มความขลังอีกหน่อย
ถ่ายรูปเสร็จก็รีบๆเดินต่อ
ผมกลัวก้อนหินขยับตัว
เดี๋ยวเค้าเลื้อยขึ้นมาทั้งตัว

 

ประวัติพระอาจารย์จวนแผ่นที่ 4และ5
มีรูปพระธาตุของพระอาจารย์ที่ใสเหมือนเพชรด้วย

 

โมทนาบุญด้วยทุกประการจ๊ะ เคยไปกราบมาแล้วแต่นานมากแล้วค่ะ