วิธีสังเกตุการถูกโฉลกกับวัตถุมงคล

ก่อนอื่นกระผมขออธิบายสั้นๆเกี่ยวกับประเภทของวัตถุมงคลเสียก่อนนะครับ
1. เครื่องรางของขลัง
- เช่น ผ้ายันต์ , ยันต์ 8 เหลี่ยม , ตะกรุด , ลูกอม , ลูกประคำ , เบี้ยแก้ , มีดหมอ , แหวน , สร้อย , กำไลข้อมือ , ควายธนู , เสือ สิงห์ ลิง , แร่ธาตุต่างๆ(เช่น หิน ดิน น้ำ อัญมณี) ฯลฯ ให้นึกถึงลักษณะอุปกรณ์ต่างๆจะอยู่ในรูปแบบของเครื่องรางของขลัง

2. พระเครื่อง
- ง่ายๆตามชื่อเลย เช่น สมเด็จวัดระฆัง , หลวงพ่อต่างๆ , พระขุนแผน , พระปิดตา ฯลฯ ลักษณะเป็นพระนั่นแหละครับ

3. องค์เทพ
- เป็นอีกประเภทหนึ่งแยกตัวออกมา เช่น พระพิฆเนศ , ท้าวมหาพรหม , ท้าวเวสสุวรรณ , จตุคามรามเทพ , เจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ ฯลฯ

สามข้อนี้ทั้งหมดรวมกันเรียกว่า "วัตถุมงคล"

การจะรู้ว่าเราถูกโฉลกกับวัตถุมงคลอะไรนั้น หลักๆเลยก็คือใช้ความรู้สึกเป็นตัววัด ซึ่งความรู้สึกนั้นก็มี 2 ประเภทคือ
1.ความรู้สึกทางกายหรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ มองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และการสัมผัส(ตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง)
2.ความรู้สึกทางใจ หรือญาณ หรือสัมผัสที่ 6 เป็นการหยั่งรู้ รู้สึกและเข้าใจด้วยตนเอง เราจะใช้ความรู้สึกในข้อที่ 2 นี่แหละครับเป็นตัววัดว่าเราถูกโฉลกกับวัตถุมงคลอะไร คนๆนึงอาจถูกโฉลกกับวัตถุมงคลหลายอย่างก็ได้ แต่ปัญหาคือเราไม่มีวัตถุมงคลมากพอให้ลองใช้ ก็เอาเท่าที่มีนั่นแหละครับ อันไหนดีที่สุดก็เอาอันนั้น ถ้าเน้นใช้งานก็เอาตัวเราเข้าว่า อย่าไปตามกระแสเซียนและธุรกิจอันนั้นหวังปั่นราคาหาเงินตาดีได้ตาร้ายเสียใช้ปลาซิวปลาสร้อยมาตกปลาใหญ่ ไม่ได้เน้นใช้งาน

บางคนใช้การดูดวงตรวจดวงชะตาของตนเองเพื่อให้รู้ว่าเหมาะกับวัตถุมงคลชนิดไหน แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่ใช่ ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องบุญเก่า กรรมเก่าของเราก็มีส่วนกับการถูกโฉลกวัตถุมงคลด้วยนะครับ

ทิ้งท้ายให้นิดนึง
- คนที่จะได้พระแท้มาครอบครองหาใช่คนที่มีเงิน(คนรวยเช่าพระปลอมราคาเป็นล้านก็มีมาหลายเคสแล้ว) แต่คือคนที่ทุ่มเททั้งกายและใจในการศึกษาพระเครื่องมาทั้งชีวิตและดูพระเป็นเท่านั้น คนแบบนี้แหละที่จะมีพระเครื่องสวยสมบูรณ์ล้ำค่าไว้ในครอบครอง เช่าองค์ไหนแท้ทุกองค์

 

เห็นด้วยครับ พระปลอมมีมากกว่าพระจริงมากมายครับ

 

ถูกโฉลกหรือไม่ ไม่รู้เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่เห็นได้ชัดแบบเป็นรูปธรรม เช่น ถูกหวย ได้เงิน ได้งานแบบง่ายๆ (พอดีรับราชการก็ทำงานตามหน้าที่) เสน่ห์หรือเมตตาแรงๆ ก็ไม่เคยมี ส่วนเรื่องแคล้ดคลาดน่าจะมีบ้าง แต่เพียงเราไม่สังเกตุ ไม่เจอก็เลยคิดว่าแคล้วคลาดน่าจะมีบ้าง แต่หลวงพ่อมาโปรดนี้เจอค่อนข้างบ่อย
1.ไปกราบหลวงพ่อกวยที่วัด ขอให้ได้พระของหลวงพ่อในราคาที่จับต้องได้ อีกไม่กี่วันไปขอเช่าเหรียญหลังหนุมานกับคนรู้จัก พี่เค้าก็บอกดูไม่ขาดเนื่องจากไม่ใช่สายตรง ให้สายตรงทางชัยนาทดูก็ไม่ฟันธง เพราะตำหนิมีหลายจุด แต่พระสภาพใช้เลยบอกไม่ได้ เค้าก็บอกให้เช่าถูกๆ 500 ก็เลยเช่ามา แห่หลายที่แล้วก็บอกว่าค่อนข้างดี ผมก็คิดว่าหลวงพ่อคงมาโปรดจริง เพราะสภาพนี้อย่างน้อยต้องมี 25,000 ถึงจะเช่าได้
2.อยากได้เหรียญนารายทรงครุฑ หลวงปู่หมุน จะไปขอเช่าคนรู้จัก เค้าบอก 7,500 แต่ปล่อยไปหมดแล้ว ก็เลยอธิฐานต่อรูปหลวงปู่บอกขอให้ได้เหรียญนี้มา รุ่งขึ้นในเวปนี้เลย ลงในราคาเดี๋ยวกับที่จะไปขอเช่า ทั้งนี้ตอนที่จะหาเช่าเหรียญนี้ราคาขึ้นไปเป็นหมื่นแล้ว
3.หยุดยาวที่ผ่านมาไปไหวหลวงปู่ทิมวันพระขาว ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ให้หลวงพ่อคุ้มครอง เช้าวันรุ่งมีเพื่อนลูกน้อง ซึ่งผมไม่รู้จักเลยเอาเหรียญทับทิมหลังสิงห์ หลวงปู่ทิมมาให้ ผมก็รับมาแบบงงๆ
3 เหรียญที่บอกผมก็ใส่ไว้ในคอตลอด ไม่รู้หรอกว่าถูกโฉลกรึป่าว แต่คิดว่าหลวงพ่อมาโปรดก็ต้องเก็บไว้บูชา

 

ไม่เห็นด้วยนิดหนึงกับที่ทิ้งท้ายครับ

แน่นอนควรจะทุ่มเททั้งกายและใจในการศึกษาพระเครื่องถ้าสนใจจริง

แต่ส่วนตัวผม ไม่สามารถศึกษาได้เพราะพระเครื่องแต่ละรุ่นแต่ละหลวงพ่อหลวงปู่มี(ไม่ใข่ผมมีนะ)เยอะเหลือเกิน และไม่ค่อยมีเวลา แต่ส่วนมากที่เช่ามาก็ได้พระแท้มาตลอดครับ วิธีของผมก็คือหาคนที่ไว้ใจได้และส่งประกวดบ่อยๆครับ ไม่ต้องศึกษามาก อาจจะไม่ถูกที่เดี๋ยวแต่สำหรับผมก็ใช้ได้ผลครับ

 

ห้อยแล้ว สบายใจ อุ่นใจ รู้สึกปลอดภัย และสมหวังในสิ่งที่ต้องการบ้าง(บางครั้ง)....โฉลก น่าจะทำนองนี้

ไม่ต้องแพง ไม่ต้องทุ่มสุดๆ น่าจะพอหาได้ ....ใช้ความรู้สึกแรกที่ว่า ใช่ เราศรัทธาท่านจริงๆ ไม่อิงกระแส ความเชื่อและโฆษณา......