วิธีง่าย ๆ ทำให้อายุยื่นยาวขึ้น???

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย บุษบากาญจ์, 20 มิถุนายน 2008.

  1. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=20>
    </TD><TD width=750><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=180 align=left border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=152>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR vAlign=top><TD align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE><DD>[SIZE=+2]ทำอย่างไรจึงจะไม่แก่ และอายุยืน[/SIZE]

    [SIZE=-1]คำตอบคือกินสายกลาง กินสายกลางคือกินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง
    งดมื้อเย็น เปรียบตัวเราเป็นรถยนต์ ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมันก่อน
    หรือกินมื้อเช้า รถจึงจะวิ่งได้ ถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่หมด เติมอีกครั้ง
    ถึงเย็นก่อนนอนก็ยังไม่หมดพิสูจน์ได้ดังนี้ สมมติกินไข่ลวก 1 ฟองโตๆ
    มีไข่แดงหนัก 50 กรัม ในไข่แดงมีคลอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่
    ฉะนั้น 50 กรัม ให้พลังงาน 450 แคลอรี่
    จะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานนี้ โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก.ก.
    ความเร็วที่ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที ขี่อยู่นาน 60 นาที
    จะเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลท่วมตัว แต่ใช้พลังงานไปเพียง 300 แคลอรี่
    ไข่ใบเดียวใช้ไม่หมด ฉะนั้นถ้ากินมื้อเช้า มื้อเที่ยง จนถึงเย็น
    พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปเติมอีก
    เพราะเวลานอนร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับเป็นผู้ทำงานนี้
    ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆ ก็มาก ทำให้อ้วน
    และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด
    ถ้าค้างสะสมมากเท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน
    เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็วขึ้น
    ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก
    ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง
    ถ้าตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร
    ฉะนั้นการกินมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อมถึงเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก
    มื้อเย็นจึงเป็นมื้ออันตราย เป็นมื้อตายผ่อนส่ง ยิ่งกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก
    ตายเร็ว ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า อายุยืน

    การไม่กินอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก
    ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี
    ความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ แต่ท่านต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชิน
    วิธีฝึกมี 4 วิธี

    1. ค่อยๆ ลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ทีละน้อยๆ
    เช่นลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ1 1/2 จาน สัก 3-4 เดือน โดยมีข้อแม้ว่าหลังอาหารเย็นแล้ว
    ห้ามกินอาหารใดๆ ทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า พอกระเพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน
    ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้
    สุดท้ายงดอาหารเย็น
    2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นจาก 2 ทุ่มมากิน 1 ทุ่ม
    ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ
    [/SIZE]3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะใส่ในถ้วยน้ำแกงหรือน้ำเปล่า คนแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตามอีก 4-5 แก้ว
    4. กินมังสะวิรัตมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ
    ร่างกายจะได้พักไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์

    พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัดหมดไปเองได้
    ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อเช้า มื้อเที่ยงได้ทัน

    ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็น จึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้า
    และเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน
    </DD>ท่านทราบแล้วใช่ใหมว่า ทำไมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติให้พระฉันเพียง 2 มื้อ คือ เช้า กับ เพล

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     
  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขออนุโมทนาค่ะ เริ่มปรับตัวในเรื่องงดอาหารเย็นอยู่แล้ว
    พออ่านบทความดีๆนี้มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นค่ะ
     
  3. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่านกัน ดูแลสุขภาพกันทุกๆคนนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...