ลักษณะ ของ ธรรมะ อุทาน?

ไม่เอา ไม่คุยธรรมะ เดี้ยวตอบไม่ได้โดนว่าอีก 555

 

ป๊อดให้ระลึกรู้ว่าป๊อดนะคร๊ะ

 

โดนว่าประจำค่ะ ไม่รู้ก้อคือไม่รู้อ่ะเนาะ

 

คุณแนนคับ คิดดีๆนะคับสุขในท่า

 

555 ก็ดีคับ

 

ทักไปแล้ว

แต่เขา ไม่ได้ไล่ตามประเด็น ที่ทัก ไม่ว่าใครทัก

ไล่ไม่ได้ ก็เพราะว่า ไม่ได้จำมาแบบนั้น

เลย กล่าวแต่ที่จำเอาไว้ ตรงไหนต้องพูดซ้ำ เขาจะ
กลัวพูดแล้วไม่เหมือนเดิม ก็จะใช้วิธี refer ให้ไป
อ่านของเก่า ตัดแปะคำ "แม้นของตัวเอง" นี่ก็ นิวรณ์
ตัวเบ้อเร้อ ไม่ใช่อาการ คนมีปฐมฌาณ แม้นแต่นิดเดียว

แล้วหากสังเกต ป๋ม จะเอา ธรรมะแปลกๆ ที่ใกล้ๆ
มาให้อ่าน มากล่าวถึง

ก็จะเกิด การดริฟธรรมะ รีบเอาคำเทศนา แปลกๆ
เข้าไปผสม อย่างบางคำ พูดปั๊ป แหม่ รู้เลยว่าพึ่ง
ไปลอกการบ้านมา

นะ

ที่ไม่โต้กลับ เพราะ ชัดเจน เป็นนักก๊อปปี้ ธรรมะ
เดี๋ยวจำไปดริฟหลอกที่ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ของเก่า

แล้ววิธีโตกลับ ก็ ไร้เดียงสา กระต่ายขาเดียว
เหมือน พวกรุ้ง เพนกวิน ส่งมา

ใครเป็นโซดาด้วย อำนาจธรรมบุคคลใด ก็จะต้อง
แสดงออกความกตัญญูต่อ ธรรมนั้น(ไม่ใช่คน)
พอตีเรื่อง คนนั้น ก็ตกใจ ถุยทิ้งไม่กล่าวเอ่ย
ธรรมของบุคคลนั้นอีกเลย จนจวนตัวก็ไปทำ
อาการเดียวกัน กับบุคคลนั้น คือ ยกนารกมาขู่

โถ่ว here ตั้งแต่ โน้นแหละ


ปล : ไม่ได้ว่า ใคร เลยนะ พูดถึง "โซดา" ธาตุ

 

ถ้าเห็นผู้รู้ที่ลิ้นปี่ พยากรณ์ได้เลยว่า ใกล้จะเห็นอวิชชาแล้ว..

ถ้าเป็นหลวงปู่ดูลย์จะบอกว่า.. "พบผู้รู้ ให้ทำลายผู้รู้"

ถ้าหลวงปู่เทสก์จะบอกว่า.."ผู้รู้ๆ ออกมาอยู่นอกๆนี่"


อวิชชานั้นแหละเป็นต้นตอของสังขารทั้งปวง เมื่อยังไม่เห็นอวิชชาก็หมายความว่ายังไม่เห็นตัณหา ยังไม่เห็นอุปาทาน เช่นเดียวกัน..

 

หวีแทะตำรามา เขาบอกว่าผู้รู้อยู่ลิ้นปี่ ใครๆ ก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรอคะหลวงพรี่

 

ถ้าตาม คลิป ลพ ป ...หาก สังเกตดีๆ จะมี จุดเข้า 2 จัวหวะ ที่ ไม่เหมือน
ซึ่ง จะไม่บอกหละ เพราะ เดี๋ยวเขาเอาไป ดริฟ

ที่จะชี้ได้ เอา จุดเดียว ตามคลิป

คือ อาการประมาทธรรมปัจจุบัน อันนี้เด่นสุด คนที่ทำให้
เด่น ก็นะ ......

" อาจารย์ของการ้อง เขาเอง " <----

 

หลักฐานโยมชัดเจนดี

งั้น โสดา ยัน อนาคา ก็ ไม่พ้นอาตมาเป็นคนบงการสินะ

อยู่ๆก็ได้เป็นแม่ทัพ หญ่ายยยย

อรหันต์ม้านิลมังกรชอบเสพเมถุน มอบ อริยะ ให้อาตมาจากชั้นโสดา ยัน อรหันตมรรค มาแล้ว

มาคราวนี้ เป็นถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลังเลยแฮะ

 

เห็นยูสแกแล้วหมั่นไส้หว่ะ
ฉันเนี่ยะก็เป็นคนไม่รู้ภาษาปริยัติ ถ้าใครแปะบาลีแล้วไม่แปลให้ คือตึ๊บมาก

แกว่าคนที่เขาไม่รู้ตำราแบบแก เขาจะเป็นคนบาปมั้ย ถ้าเขาจะเน้นไปที่ฝึกอย่างเดียว

ของบางอย่างมันจะเกิด มันก็เกิดเลย ไม่ต้องมาเรียงลำดับโน่นนี่นั่นตามสเต็บ ตามหนังสือแบบที่แกคิดก็ได้ อะไรพวกนี้มันก็มีอยู่จริง

ที่แกจับผิดคือนิสัยรึป่าวหล่ะ ก็เหมือนแกด่าเขาจานลาย ด่าเฮีย ด่าไปนาหญ้าขึ้นรก ฉันยังไม่เห็นเขาด่าแกกลับด้วยคำพวกนี้แบบที่แกทำกับเขาเลยนะ

 

ถ้าชี้เข้าไปที่รูป หรือ ขันธ์ จะเห็นแบบว่า.. จิต อวิชชา ตัณหา นิพพาน..

แต่ถ้าไม่โทษขันธ์ จะเห็นตามพระพุทธองค์ ที่ว่า.."จิต เจตสิก รูป นิพพาน"

ส่วนมากนักตำราก็มักบอกว่า ผู้รู้อยู่ลิ้นปี่ แต่ นักปฏิบัติ จะเห็นผู้รู้ที่มีอวิชชาห่อหุ้มที่ลิ้นปี่..

ลิ้นปี่อย่างเดียวนะ ไม่มีลิ้นกลอง ลิ้นฆ้อง ลิ้นระฆัง

 

555 ช่วยขำ คนโพสต์ก้อขำ คนอ่านก็ขำ 555

 

เอานิดนึงพอ กองขันธ์ ใครก็รู้เนอะ ถ้าจะรู้แจ้งแทงตลอดในธรรม เห็นความแปรปรวน ไม่มีทางอื่นนอกจากอาศัยกองขันธ์ ปักฐานธรรมสติ ก็พิจารณาที่กองขันธ์ เหมือนมี 4 แต่มีแค่หนึ่ง ความแปรปรวน ความ...ช่างเหอะ มากความ มาที่นี่ดีกว่า มาที่กองขันธ์ มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เคยมีปรากฎนะว่า อวิชาอยู่ที่ขันธ์ ขันธ์ ผิดอะไร เอ้า ขอเพลงหน่อย ฉันมันไม่ดีตรงไหน โง่เกินไปรึเปล่า ...555 แม้กระทั่งชี้ไปที่ขันธ์ ก็ไม่ได้หมายความว่า นั่นคือต้นกำเนิด 555 ไม่ได้วิชาการนะ ม่ายมีธรรม อยากฟังๆ เอา อยากเมารินเอง 555

 

จิตไม่มีที่ตั้ง แต่สติทำให้จิตอยู่ในสรรพรางกาย
เป็นผู้รู้อยู่ในสรรพรางกาย

ที่ลิ้นปี่ มันเป็นอาการ ของ สติที่ถูกต้องเริ่มเกิด สัมมาสติ
มันจึงเริ่มรู้สึก วิ๊บวั๊บ ยุบยิบ กลางอก

หาก มีกำลัง กำหนดรู้ได้ต่อ มันก็จะพัฒนาไปได้ไว
แต่ส่วนใหญ่ กะโดน นิวรณ์ ลากไปก่อน
ตามไปหาความสงสัย
เพราะอดรนทนไม่ได้ในอะไรไม่รู้ดันยุบยับกลางอก

แต่หาก เริ่มกำหนดรู้ สงสัยให้ได้ บ่อยๆ มันจึงจะเริ่มกะเทาะ นิวรณ์ ออกไปได้เรื่อยๆ อนุสัยที่นอนเนืองมานานแสนนาน
จะค่อยๆหลวม เหมือน น๊อต ที่ขันแน่นๆ เจอแรงสั่นสะเทือน
สนิมจะเริ่มคลาย แล้วจะเริ่มหลุดร่อน
ถอดถอนออกได้ง่ายขึ้นไปตามลำดับ

ไม่ใช่เฉพาะ สงสัย
เบื่อ
เซ็ง
รำคาญ
หงุดหงิด ก้เช่นกัน ต้องกำหนดรู้หมด

 

นี่ยังงงเพื่อนพี่ณุ ผญ.คนนั้นอยู่เลยนะ ที่บอกการกำหนดกลุ่มอสุภะคือส่งจิตออกนอก กำหนดอสุภะส่งจิตออกนอกยังไง ไม่เข้าจายย

 

โผมเปงแค่หน่วยสอดแหนม แก้ตัวให้เขาม่ายหว่ายยเด่วโดนด่าไปล้วยย

 

จะบอกพระว่า สติ เข้าทางไหนก็ได้ รูปคือกาย แต่มันก็นำไปต่อจะเห็นเวทนาก่อนก็ได้ ค่อยสัญญา จะเห็นสังขารก่อนก็ได้ จะเห็นวิญญาณก่อนก็ได้ เพราะสุดท้ายถ้าใช้สติเห็น มันก็เห็นเหมือนๆกัน ไม่ใช่เรื่องเครื่องบินอะไร แปรปรวนในระดับไหน แรกๆ คงในระดับที่รับไม่ได้ รู้สึกเสียดาย พิไรรำพัน โอ้ ของรักของข้า ต่อมาก็จะเริ่ม ทำใจได้ ต่อไปก็ ไม่ต้องไปทำอะไร อยากเข้าทางไหนก็เข้าสิ บางคนเข้าทางเวทนา บางคนเข้าทางวิญญาณ เอาแค่สองทางนี้ ก็อาศัยสิ่งที่ต้องรู้มากมาย เคยบอกแล้วไง ถ้าเอาแบบง่ายต้องส่องกระจก ทุกๆวัน รู้เรื่องเลย ถ้ามีสติในทางธรรมอะนะ

 

ผมขออนุญาต cut in and beg your pardon นิดนึงนะครับ ณ จุดๆนี้ตรงนี้ชัดเจนครับ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ การที่คุณ @ปวีรัศม์ชา ตอบแซะคุณ @หมูไม้ละ5 ณ จุดๆนี้ คุณ @ปวีรัศม์ชา ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองครับ จริงๆคุณ @ปวีรัศม์ชา ไม่ใช่แบบนี้ครับ

ณ จุดๆนี้ตรงนี้ก็ชัดเจนครับ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ การที่คุณ @ปวีรัศม์ชา เกิด “ปฏิฆะ” ความกระทบกระทั่งแห่งจิต ความที่จิตหงุดหงิดจากอำนาจโทสะและตอบแซะคุณ @maokvid-1800 ณ จุดๆนี้ คุณ @ปวีรัศม์ชา ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองครับ จริงๆคุณ @ปวีรัศม์ชา เป็น "แม่พระแม่พลอย" ครับ แต่มีคนใช้อำนาจจิตฤทธิ์ทางใจครอบงำความคิด อารมณ์ ความรู้สึกของคุณ @ปวีรัศม์ชา ให้เกิด “ปฏิฆะ” ครับ และพิมพ์ตอบโต้กันไปมาแบบนั้นครับ… มีหลักฐานคือคำคม Motto ใต้ User Name ของบุคคลท่านนั้นที่ว่า “ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม” เป็นหลักฐานสำคัญครับ

 

ยัง ยังไม่หยุด ยัง ฮาได้อีก 555