ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพบวชนาค 10รูป @25มิย.67 เเละก่อนเข้าพรรษา วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

"ศาสนาของเรามีความมั่นคงยั่งยืนขึ้นมาได้ถึง ๒ พันกว่าปี และยังจะยั่งยืนต่อไปข้างหน้าอีกไม่มีที่สิ้นสุดนั้น ก็เพราะยังมีกุลบุตร กุลธิดา ที่จะเข้ามาบวชในพระศาสนานี้สืบต่อไป"
ขอเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพร่วมบรรพชาอุปสมบทจำนวน ๖ รูป และอีก 4 รูปช่วงก่อนเข้าพรรษา เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา 1 พรรษากาล ณ วัดป่าบ้านตาด
วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ และก่อนเข้าพรรษา ๒๕๖๗
ร่วมทำบุญได้ที่
510 456666 5
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชีวัดป่าบ้านตาดเพื่อสาธารณกุศล
หลวงพ่อสุธรรม เทศน์ไว้ดังนี้
อ้าวในพรรษานี้ ปีนี้ชุดแรกก็มีนาค ๖ รูป เราก็จะได้บวชในวันที่ ๒๕ ที่จะถึงนี้ จากนั้นไปเราจะจะได้บวชนาคชุดที่ ๒ ในเดือนกรกฎาคมก่อนเข้าพรรษา
นาคที่จะเข้ามาบวชในเดือนกรกฎาคมก็ต้องได้เตรียมพร้อมที่จะเข้ามาอยู่ในวัดเป็นตาผ้าขาวแล้ว หลังจากบวชชุดนี้ไปแล้วนาคชุดที่ ๒ ก็ให้เตรียมเข้ามาอยู่วัดเพื่อฝึกหัดในเรื่องการท่องบทขานนาคหรือฝึกหัดข้อวัตรข้อปฏิบัติทั้งหลาย ให้รู้ให้เข้าใจก็จะทำให้การบวชของเรา บวชมาได้อย่างสมบูรณ์ยิ่ง

เพราะฉะนั้นวันที่ ๒๕ ถ้าท่านใดมีความพร้อม มีความสะดวกจะมาร่วมในการบวชนาคเข้ามาสู่พระศาสนานี้ก็น่าจะมาร่วมกัน เพราะแม้นไม่ใช่ลูกใช่หลานของเราเอง แต่เราได้ร่วมอนุโมทนา คอยยินดีกับผู้ที่เขามีโอกาสได้บวชเข้ามาในพระศาสนานี้ ก็นับว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างมหาศาล
เพราะศาสนาของเรามีความมั่นคงยั่งยืนขึ้นมาได้ถึง ๒ พันกว่าปี และยังจะยั่งยืนต่อไปข้างหน้าอีกไม่มีที่สิ้นสุดนั้น ก็เพราะยังมีกุลบุตร กุลธิดา ที่จะเข้ามาบวชในพระศาสนานี้สืบต่อไป
การบวชจึงเป็นงานสำคัญอย่างยิ่งในพระศาสนานี้ เป็นสังฆกรรมหรือกิจของสงฆ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการต่ออายุของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เพราะศาสนาของเราอยู่ได้ก็เพราะมีภิกษุ สามเณร ที่บวชอยู่ในพระศาสนาเป็นผู้สืบต่อไป
แล้วภิกษุ สามเณรต่างๆทั้งหลายที่บวชเข้ามาในพระศาสนาแล้วจะอยู่ได้ มีความสะดวก ไม่เป็นปลิโพธ ความกังวลในการขวนขวาย ในการแสวงหาเครื่องอยู่ เครื่องอาศัยในการดำรงชีวิต อยู่ได้ก็เพราะมีอุบาสก อุบาสิกา คณะศรัทธาญาติโยม เป็นผู้ให้การอุปัฏฐากอยู่อย่างสม่ำเสมอ
อันนี้ก็เป็นเหตุให้พระที่บวชเข้ามาในพระศาสนาแล้วไม่ต้องไปไม่กังวลในเรื่องการจะดิ้นรน ขวนขวาย แสวงหาเครื่องยังชีพมา เพราะพระทั้งหลายท่านก็มาจากลูกชาวบ้าน หลานชาวนานี่แหละ ชาวบ้านชาวนาจะต้องกินต้องอยู่ ต้องใช้ ต้องจ่าย มีบ้านเรือน มีที่อยู่ที่อาศัยคุ้มแดดคุ้มฝนอย่างไร ภิกษุเข้ามาในพระศาสนานี้ก็ต้องมีอย่างนั้น
แต่เพียงแค่ว่าแตกต่างจากคฤหัสถ์ ฆราวาส ก็คือว่า มีประมาณ
“มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง”

ความเป็นผู้รู้จักประมาณในภัตตาหาร เครื่องอยู่ เครื่องอาศัยต่างๆทั้งหลาย เพราะภิกษุเราเป็นผู้ผู้อิสระ ไม่มีสิ่งที่มาผูกพัน ไม่มีอะไรที่จะต้องมารับผิดชอบ ในเรื่องสังคม ในเรื่องครอบครัว เพียงแค่ปากท้องของตนเอง เพียงแค่ร่างกายของตนเองก็พออยู่ได้อย่างสะดวกสบาย ฉันก็เพียงแค่วันละครั้ง กระเพราะก็ไม่ได้ใหญ่โตกว่าคณะศรัทธาญาติโยมหรอก
กระเพาะของคณะศรัทธาญาติโยมมันใหญ่ขนาดไหน บรรจุได้ขนาดไหน พระเราก็คงจะบรรจุพอประมาณขนาดนั้นแหละ
เพียงแต่ว่าพระเราบรรจุเพียงแค่วันละครั้ง ศรัทธาญาติโยมบรรจุวันละ ๓ ครั้ง
การเลี้ยงชีพของพระ ถ้าพระเรารู้จักระมัดระวัง รู้จักสำรวม อย่าใช้ความขี้โรคเข้ามาครอบงำตนเองแล้วความเป็นอยู่ของพระเรา หากยังมีคณะศรัทธาญาติโยมที่มีความความศรัทธาในการอุปัฏฐากอยู่อย่างไร พระเราก็จะยังคงมีความสมบูรณ์อยู่ตลอด ไม่มีความขาดเขินเลยในการใช้ชีวิต
แต่ถ้าใช้ชีวิตอย่างพวกที่โลภโมโทสันต่างๆทั้งหลาย มีเท่าไหร่มันก็ไม่พอ มีเท่าไหร่มันก็พร่องอยู่เนืองนิจ เพราะความดิ้นรน ทะเยอทะยานอยากของจิตใจมนุษย์ ปุถุชนนั้นนะ มันไม่มีพอ ไม่มีอิ่ม ไม่มีเต็มหรอก
พระพุทธเจ้าท่านจึงทรงกล่าวไว้ว่า “นัตถิ ตัณหา สมานที” แม่น้ำเสมอด้วยตัณหา ความทะเยอทะยานอยากภายในจิตในใจไม่มี

เพราะว่าแม่น้ำมหาสมุทรยังมีโอกาสเต็ม มีโอกาสล้นฝั่ง แต่ความดิ้นรนทะเยอทะยานอยากภายในจิตใจของมนุษย์ปุถุชนน่ะ มันพร่องอยู่เป็นเนืองนิจ เพราะฉะนั้นผู้ที่บวชเข้ามาในพระศาสนานี้แล้ว ก็มีหน้าที่ในการมาศึกษา มาประพฤติปฏิบัติ อบรม ขัดเกลาจิตใจของตนเองให้เบาบางไปจากสิ่งทั้งหลายอันเป็นแบบอย่างของปุถุชน หรือเป็นเรื่องราวของปุถุชนนั้น ความหยาบ ความกระด้าง ความมักง่าย ความขี้โลภโมโทสันต่างๆทั้งหลาย นั่นแหละเป็นหน้าที่ของผู้ที่บวชเข้ามาในพระศาสนานี้แล้ว จะต้องมาขัดเกลา มาประพฤติปฏิบัติ มาขัดเกลาสิ่งต่างๆ ทั้งหลายเหล่านั้นให้เบาบางจางลงไป
เมื่อความเป็นปุถุชนจางลงไป จางลงไป ความเป็นอริยบุคคลมันก็เริ่มทอแสงขึ้นมา เริ่มแสดงตัวตนออกมาแล้ว
ความเป็นอริยบุคคลก็คือความเป็นผู้ประเสริฐ ความเป็นผู้ประเสริฐก็คือ ผู้ที่สามารถปฏิบัติตนอยู่เหนืออำนาจของกิเลสได้ ผู้ที่ยังอยู่ต่ำกว่ากิเลส เป็นข้าทาสของกิเลส มันหาความประเสริฐไม่ได้หรอกยิ่งเรียกว่าปุถุชน ต้องหลังจากการได้ศึกษา ได้ประพฤติปฏิบัติ อบรมขัดเกลาจิตใจของตนเองให้เบาบางจากอำนาจของกิเลส ให้อยู่เหนืออำนาจของกิเลส สามารถควบคุมกิเลสได้ สามารถอดกลั้นต่อกิเลสได้ ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่นอกเหนือจากอำนาจของกิเลสแล้ว นั่นแหละความเป็นอริยบุคคลเริ่มทอแสงออกมาสู่บุคคลผู้นั้น
ความเป็นผู้ประเสริฐเริ่มปรากฏขึ้นมาในบุคคลผู้นั้น ใครมาพบมาเห็น ใครมาใกล้ชิด มาได้กราบได้ไหว้ เขาก็เกิดเป็นศิริมงคลต่อผู้นั้น

เพราะฉะนั้นท่านจึงบอกว่า บุคคลใดก็ตาม ได้เข้าไปใกล้บุคคลผู้มีธรรม หรือบุคคลผู้มีธรรมไปใกล้กับบุคคลใดก็ตาม บุคคลนั้นย่อมได้รับความร่มเย็นจากจากธรรม นั้นแหละก็เปรียบเหมือนน้ำแข็ง ตัวของน้ำแข็งมันเย็น เมื่อใครอยู่ใกล้น้ำแข็งก็จะรู้สึกเย็น หรือน้ำแข็งอยู่ใกล้ใคร คนนั้นก็จะรู้สึกเย็น ผู้มีธรรมก็เปรียบเสมือนน้ำแข็ง นั่นแหละ ใครได้ไปอยู่ใกล้ผู้มีธรรมก็จะได้รับความชุ่มเย็นจากธรรมนั้นด้วย หรือผู้มีธรรมไปอยู่ใกล้ใคร คนนั้นก็ได้รับความชุ่มเย็นจากธรรมไปด้วย
แตกต่างจากไฟ ไฟนั้นเป็นของร้อน ใครไปอยู่ใกล้ไฟมันก็ร้อน หรือไฟอยู่ใกล้ใครมันก็ร้อน เพลิงของกิเลสที่แผดเผาบุคคลใด จิตใจของบุคคลผู้นั้นก็มีแต่ความดิ้นรน ทุรนทุราย เศร้าหมอง ขุ่นมัว มีแต่ความเดือดร้อน อยู่ตลอด แม้ไปอยู่ใกล้ใคร คนนั้นเขาก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ใครมาอยู่ใกล้บุคคลประเภทนี้เขาก็เดือดร้อนไปด้วย
เพราะฉะนั้นชีวิตที่มีโอกาสได้บวชเข้ามาในพระศาสนานี้แล้ว จึงมีหน้าที่ที่จะต้องมาศึกษา ตาให้ดู ดูผู้เก่า ดูผู้ที่มีหลักมีเกณฑ์ ท่านประพฤติปฏิบัติอย่างไร ท่านทำอย่างไร ท่านมีข้อวัตรอย่างไร แล้วตัวเองก็ให้ตื่นตัว ตื่นตัวที่จะประพฤติปฏิบัติตามนั้น มีหูก็เอามาฟัง ฟังว่าครูบาอาจารย์ท่านแนะนำอย่างไร ท่านบอกกล่าวอย่างไร ท่านพูดอย่างไร เราก็เอามาคิดพิจารณา เมื่อลงใจด้วยเหตุด้วยผลแล้ว เราก็ลงมือประพฤติปฏิบัติ นี่แหละจึงขึ้นชื่อว่าผู้ที่มาศึกษามาประพฤติปฏิบัติอย่างแท้จริง

การที่พวกเราคณะศรัทธาญาติโยมได้มีโอกาสได้มาร่วมอนุโมทนาในการที่มีกุลบุตร กุลธิดาเข้ามาบวชในพระศาสนานี้ ก็นับว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง เป็นบุญอย่างมหาศาลต่อพวกเราอย่างแท้จริง แล้วใครมีลูกมีหลานที่ปรารถนาจะบวช เราก็ต้องเตรียมพร้อมว่าจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้างในการบวช เราก็เตรียมให้พร้อมไว้ ถ้าท่านใดยังไม่มีลูกไม่มีหลานที่มีโอกาสเข้ามาบวชเป็นพระในศาสนา เราก็ได้ร่วมอนุโมทนากับผู้ที่จะเข้ามาบวชในพระศาสนานี้ ก็นับว่าเป็นบุญ เป็นกุศลอย่างยิ่ง
ในวันที่ ๒๕ มิถุนายนนี้ เป็นวันอังคาร ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะบวชวันที่ ๒๒ วันเสาร์ที่ ๒๒ แต่พอดีพระอุปัชฌาย์ไม่ว่าง ท่านไม่อยู่ ท่านติดภาระกิจของคณะสงฆ์อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็เลยไม่สามารถมาบวชได้ เลยเลื่อนเอาไปเป็นวันที่ ๒๕ วันอังคารนี้ จะเป็นวันบวชนาคในวัดป่าบ้านตาดเรา ๖ รูป

แล้วบวชครั้งต่อไปก็ในเดือนกรกฎาคม แต่ยังไม่กำหนดว่าเป็นวันใด ขอให้นาคมีความพร้อมก่อน จึงค่อยกำหนดวันบวชขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะฉะนั้นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นมงคล ต่อผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ ต่อผู้ที่ได้ร่วมอนุโมทนาทั้งนั้น เมื่อพวกเราได้พากันสร้างมงคลขึ้นมาในชีวิตของพวกเราแล้ว ก็จะเป็นเหตุที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญให้เกิดขึ้นต่อพวกเราด้วยกันทุกท่านทุกคนตลอดไปอย่างแน่นอน ก็ขอให้พวกเราน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติด้วยความใส่ใจเพื่อความสุขความเจริญของพวกเราด้วยกันทุกท่านทุกคนเด้อ
หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด
รายละเอียดเทศน์รับชมได้
https://fb.watch/sNgjQe9LcE/
#วัดป่าบ้านตาดวัดเกษรศีลคุณ
#บวชพระวัดป่าบ้านตาด

https://www.facebook.com/watpabaantaadwatkesarasilaguna?locale=th_TH

 

ขอร่วมบุญครับ สาธุ

 

ผมและญาตมิตรขอร่วมบุญด้วยครับ

 

ขอร่วมบุญ บรรพชาอุปสมบท ณ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอร่วมบุญครับ

 

ขอร่วมบุญครับ