ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EI 4838 7536 8 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 4838 7537 1 TH

    พี่พรหมพล EI 4838 7538 5 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    สวดมนต์ข้ามปี

    ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี
    เพราะช่วงเวลาดี ก็คือ ช่วงเวลาของศักราชใหม่ ดังนั้นการสวดมนต์ข้ามปี จึงถือได้ว่าเป็นสิริมงคลต่อการเริ่มศักราชใหม่ และถือว่าเป็นสิริมงคลไปตลอดทั้งปีอีกด้วย การสวดมนต์ข้ามปี ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม และเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับลูกหลานให้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพราะการสวดมนต์จะทำให้เจริญสติ ทำให้จิตเกิดสมาธิ จิตใจสงบเป็นสุข ด้วยเหตุนี้เอง การสวดมนต์ข้ามปีจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในวันขึ้นปีใหม่ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงิน ช่วยลดอุบัติเหตุ และอันตรายต่างๆ ยังถือเป็นการทำความดีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่อีกด้วย


    สำหรับการสวดมนต์ข้ามปีนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ แถมยังให้คุณประโยชน์ต่อจิตใจ
    และสุขภาพอีกด้วย และนี่คือประโยชน์ของการสวดมนต์ข้ามปี
    ๑.ช่วยให้จิตเป็นสมาธิ(Meditation) เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะ
    สวดผิดท่อนผิดทำนอง เมื่อจิตเป็นสมาธิความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น
    ๒.เป็นการกระทำที่ได้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยรู้คำแปลรู้ความหมายก็ย่อมทำให้ผู้สวดได้
    ปัญญาความรู้
    ๓.เป็นการตัดความเห็นแก่ตัว เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวดมนต์อย่างตั้งใจ
    ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิได้เกิดขึ้นในจิตตน
    ๔.เป็นสิริมงคล แก่ชีวิตตน และ บริวาร
    ๕.สามารถไล่ความขี้เกียจได้ เพราะขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้าน
    จะหมดไป และเกิดความแช่มชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น
    ๖.เปรียบเสมือนการได้เฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะขณะนั้นผู้สวดมี กาย วาจา ปกติ (มีศีล) มีใจ แน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มีปัญญา) เท่ากับได้เฝ้า
    พระองค์ด้วยการ ปฏิบัติบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง

    อานิสงค์ของการสวดมนต์ข้ามปี
    ๑.ลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุและความชั่วร้าย
    ๒.เป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย ทางจิตและทางปัญญา
    ๓.เป็นการส่งท้ายด้วยธรรมะ และต้อนรับด้วยศีล
    ๔.เป็นการสร้างบรรยากาศรู้เช่นเห็นจริงในสัจธรรม
    ๕.เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคลอันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี

    การสวดมนต์ข้ามปีนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามและ เป็นสิ่งที่ควรปลูกฝั่งให้กับลูกหลานให้ปฏิบัติ
    อย่างสม่ำเสมอ เพราะการสวดมนต์จะทำให้เจริญสติ ทำให้จิตเกิดสมาธิ จิตใจสงบเป็นสุข ด้วยเหตุนี้เอง การสวดมนต์ข้ามปีจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในวันขึ้นปีใหม่ เพราะ
    นอกจากจะช่วยประหยัดเงิน ช่วยลดอุบัติเหตุและอันตรายต่างๆ ยังถือเป็นการทำความดี
    ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่อีกด้วย

    edu-photo-197576089587.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ใครชอบแนวกินตับเย็นนี้ติดตามกันดีๆ ..แต่ใช้ได้หลายทางไม่ใช่แค่ตับที่หลายคนคิด ซ้ำยังได้มหาธาตุอาตมันแบบที่พกเป็นเครื่องรางได้ด้วย
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ร่วมทำบุญบูชา สรภูกลืนอินทร์กินตับควักหัวใจ(มหาธาตุอาตมันมีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง)

    พ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องรางอันมีกฤติยาคมแฝดขึ้นมาชนิดหนึ่งนั่นคือทำวิชาตุ๊กแกของท่าน หากแต่ตุ๊กแกของท่านนั้นต่างจากที่อื่นเพราะเป็นตุ๊กแกที่กลืนงูเขียวโดยมีหางของงูเขียวโผล่จากปากตุ๊กแก หรือที่ท่านเรียกว่าสรภูกลืนอินทร์(ด้วยหมายเอางูเขียวว่าเขียวเหมือนพระอินทร์)

    สรภูกลืนอินทร์
    ท่านหมายถึงวิชาที่มีอำนาจมากสามารถกลืนกินได้ทุกอย่างแม้กระทั่งองค์อินทร์เจ้าสวรรค์ก็ยังโดนกลืนได้ ท่านว่าวิชานี้เอาไว้ทำหุ่นตุ๊กแก # เมื่อทำแล้วผู้ที่พกตุ๊กแกของท่านนั้นจะได้กินทุกสิ่งที่อยากกิน ต่อให้สิ่งนั้นจะหนักหนาหรือมีอำนาจมากกว่าตัวเองซักแค่ไหนก็ไม่พ้นมือเราไปได้ วิชานี้เกี่ยวเนื่องด้วยความเชื่อโบราณซึ่งตุ๊กแกนั้นจะให้งูเขียวช่วยกินตับตัวเอง(เป็นเพียงความเชื่อ)เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เมื่อทำวิชาพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมมีดีเหนือวิชาตุ๊กแกโดยปกติเพราะงูเขียวนั้นท่านเปรียบว่าเขียวอย่างพระอินทร์นะเป็นวิชาทางมายาศาสตร์ที่ช่วยคนให้ชนะได้ง่าย ได้กิน ได้สมหวังในทุกเรื่องที่ปรารถนาอย่างง่ายๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตใครที่ย่ำแย่ลงถ้าได้สรภูกลืนอินทร์นี่มันแก้อาถรรพ์กันทันทีเหมือนความเชื่อที่ว่าพ่องูกินตับตุ๊กแกจากร่างกายที่ย่ำแย่ก็จะกลับมามีชีวิตยืนยาว วิชานี้ก็เช่นกันถ้าชีวิตใครแย่ๆอยู่ใช้สรภูกลืนอินทร์นี้เขาจะดีขึ้นทันที
    ทั้งสรภูกลืนอินทร์ยังเป็นมหาอำนาจอย่างที่สุดหรือจะใช้ทางมหาปราบก็ได้เพราะวิชานี้ท่านว่าเขาดุปราบไปได้ทั่ว
    *** หากชีวิตเรามีใครมาสร้างความรำคาญคอยกวนใจนี่เข้าทางเลย นิสัยเขาคือกำจัดสิ่งรบกวนรอบตัวในชีวิตอยู่แล้ว จะใช้ทางเมตตาโชคลาภก็ได้ แม้แต่การพนัน(สิ่งที่ผิดศีลก็ได้ทั้งสิ้น)...ท่านว่าอะไรทำเงินได้หาเงินได้ หาความสุขได้ วิชานี้ใช้ได้หมดเลยไม่มีข้อห้าม ต้องมานั่งถอดนั่งกลัวว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ทั้งยังเป็นเครื่องมงคลพิเศษที่ขัดเกลาสัมผัสที่หกของผู้ใช้ให้แหลมคมขึ้นจนสามารถรับรู้เรื่องเหนือธรรมชาติได้ รวมไปถึงช่วยสร้างลางบอกเหตุร้ายดีต่างๆให้เอะใจก่อนจะลงมือตัดสินใจทำอะไร(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะขัดเกลาความรู้สึกเรา ก่อนจะทำอะไรให้เราเชื่อความรู้สึกตัวเอง นั่นแหละคือลางสังหรณ์ที่เขาบอกกับเรา)
    เมื่อท่านหล่อสรภูนั้นท่านว่ามีอาถรรพ์มาก นอกจากจะกลืนกินและเขมือบได้ทุกสิ่งแม้แต่สิ่งซึ่งสูงใหญ่และมีอำนาจเกินฝันของตนแล้ว(ท่านเปรียบงูเขียวว่าเขียวแบบพระอินทร์คือเป็นหุ่นอาคมกินได้ทั้งสวรรค์) แม้
    สิ่งผ่านหูผ่านตาเราอยากได้อะไรก็ตะครุบไว้ได้ทั้งสิ้นไม่มีหลุด เหมือนมือตุ๊กแกที่เกาะได้ทุกอย่างจับอะไรไม่หลุดร่วง เกาะสิ่งใดก็ยึดติดเหนียวแน่นเรียกว่าผ่านมือแล้วยากจะปล่อยหรือดึงกลับ ทั้งยังดุร้ายคุ้มครองรักษาผู้เป็นนายอย่างเข้มงวดกวดขัน อาศัยที่วิชานี้เป็นวิชาสรภูท่านว่าตุ๊กแกของท่านนั้นเป็นตุ๊กแกตีนผี(คิดแล้วได้ดั่งใจ) เพราะเราคิดเราทำอะไรมันจะสำเร็จไวอย่างน่าทึ่งเหมือนนิสัยเขาที่เคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว ทั้งยังร้องทักบอกโชคลาภแก่เราได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานแก่เขาได้เลย
    - จะอยู่เย็นเป็นสุขพบความรุ่งเรือง
    - จะได้เงินทองแม้ไม่ตั้งตัว
    - จะได้รับข่าวดีมีแต่เรื่องน่ายินดีในวันที่มีเขาอยู่ด้วย
    - จะได้โชคลาภสมความปรารถนา
    - สิ่งที่ตั้งใจทำจะประสบความสำเร็จ


    ตามเคล็ดโบราณที่ว่างูเขียวช่วยกินตับควักหัวใจตุ๊กแก จึงเป็นเคล็ดที่ว่าสรภูกลืนอินทร์จะช่วยให้เราอิ่ม...ให้เรามีครบในเรื่องทางโลก ถ้าจะเล่นทางเสน่ห์กิน..บ ท่านว่าก็ทำได้จะกินอะไรก็ได้อยู่ที่นิสัยเจ้าของขอให้เป็นเรื่องทางโลกบอกเขาได้หมดไม่ติดว่าจะดีหรือจะชั่วเพราะเขากินลึกกินตับควักหัวใจหมายตาเหยื่อไว้ย่อมไปไหนไม่รอด ใครที่ทำงานแล้วลำบากหรือยากกว่าจะพูดจะทำ กว่าจะได้อะไรมาซักอย่าง(บ้านรถที่ดินทรัพย์สินปัจจัยสี่) พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ให้คุณลูกโดดเลยกินอะไรก็ง่ายกินอะไรก็ได้หมดไอ้ที่ยากๆในชีวิตหรือยังทำไม่ได้นี่หาไม่เจอ ยิ่งถ้าปฏิสัพันธ์กับคนอื่นด้วยก็เหมือนกินใจเขา ขาดอะไรเราก็มีเพราะทำอะไรก็เสมือนหนึ่งว่าคนอื่นยกหัวใจให้ เราเจ้านายสรภูนั้นกำเอาหัวใจเขามา ทั้งคุณวิชานี้ยังเป็นกฤติยามคมแฝดเมื่อเราทำอะไรที่เสี่ยงภัยเสี่ยงอันตรายคาบลูกคาบดอกน่าจะเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าพกหุ่นสรภูกลืนอินทร์นี้แล้วทำไปเถอะ ถ้าไม่ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องทักก็ไม่ต้องหยุด อะไรที่เขาไม่เตือนนี่ลุยได้เลยไปได้ก็กลับได้ที่ว่าอันตรายต้องโดนต้องเคราะห์ต้องโทษต้องอุบาทว์ทั้งหลายก็พ้นมาได้ภัยทั้งหลายกลืนเราไม่ลง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจอยากให้ได้ใช้กันจริงๆเพราะท่านเห็นควรว่าชีวิตคนยุคนี้มีความเสี่ยงมาก จะทำอะไรตัดสินใจอะไรกับชีวิตก็เสี่ยงไปหมด ในเมื่อจะเสี่ยงแล้วก็ต้องทำเพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจะกลัวมันทำไม วิชาสรภูกลืนอินทร์นี้เขาดีทางเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงให้เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่า ยิ่งชีวิตใครเสี่ยงมากก็ยิ่งบรรลุผลตอบแทนซึ่งยิ่งใหญ่มาก ยิ่งอันตรายมากเป้าหมายก็ยิ่งชัดเจนมากดั่งสรภูเขาเปิดช่องน้อยแต่พอตัวที่เราจะรอดหลุดปัจจัยเสี่ยงนั้นไปให้กับเรา เขาแหวกทางให้ปากเหยี่ยวปากกาก็ทำร้ายเราไม่ได้

    ทั้งนี้ยังช่วยให้เจ้าขอมีชีวิตคล่องตัวขึ้นตามสัญชาติญาณของสรภู ไม่ถูกจำกัดในที่ใด สามารถปักหลักประกาศอาณาเขตเป็นของตนเองได้(สมบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่คนที่ไม่มีบ้านหรือทรัพย์สินใดๆเป็นของตนเองต้องใช้) ทั้งยังปราดเปรียวว่องไวในทุกกิจที่คิดจะทำ แม้จะหนีภัยก็หลบพ้นภันอันตรายทั้งหลาย ทั้งวิชานี้ยังเป็นมหากำบังพ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้แม้ศัตรูตามล่าก็มองไม่เห็นตัวเราเพราะเขาอำพรางให้ด้วยการกำบังของเขา แม้เอาไว้กับที่ทำงานหรือติดบ้านก็เรียกคนเข้าหา เรียกลูกค้าเรียกลาภสักการะมาให้เอาว่าเงินทองเข้าดีทุกทางเพราะเขาดักเก่งจับอยู่ไม่หลุด ปรารถนาอะไรบอกหุ่นสรภูนี้สิ่งนั้นจะมารุมล้อมอยู่รอบตัว(บอกเขาไปว่าแม่สรภูจ๋าฉันหิว... ท่านว่าหิวเงินเงินก็มารุม หิวสาวสาวก็มารุม หิวชัยชนะชัยชนะก็มารุม ท่านว่าใช้เป็นไม่ออกนอกลู่นอกทางก็ทำให้ตนเองเจริญขึ้นได้)

    มีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง
    ด้วยที่ท้องนั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเม็ดธาตุจิ๋วขององค์อาตมันที่ท่านคัดขนาดเล็กไว้ฝังไปที่ท้องสรภูรุ่นนี้ทั้งหมด อันว่ามหาธาตุวิเศษนี้มีคุณนัก ท่านว่าฝังไปให้เป็นไข่ตุ๊กแก ตุ๊กแกมีไข่จะยิ่งดุยิ่งให้คุณมากแรงมากมีแต่แรงขึ้นทุกวันไม่มีวันตก สรภูกลืนอินทร์นี้ครูพรหมของฉันท่านว่า "มีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง" คือมีทรัพย์มาก***อุปมาดั่งแม่น้ำสรภู(ชื่อเหมือนสรภู)เป็นมหาธาราอันกว้างใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากมายจะเรียกมาตักอาบดื่มกินใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดไม่รู้จักเหือดแห้ง ซ้ำองค์ธาตุเม็ดเล็กๆนั้นก็ยังมีอานุภาพมากดั่งที่ท่านเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู
    *** เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
    ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน
    การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน
    พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น
    องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
    องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น

    *** ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
    ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง
    บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้
    นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)
    ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด


    ด้วยเหล็กวิชาองค์ครูอาตมันนั้นมีค่ามากถึงปานนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาทำวิชาเข้ากับสรภูกลืนอินทร์อันเป็นคติทางมายาศาสตร์ว่าแม้มหาธาตุยังกลืนได้ เช่นนั้นทุกสิ่งที่เราต้องประสงค์ก็ไม่มีอะไรแล้วที่จะไกลเกินเอื้อม พ่ออาจารย์ท่านปั่นธาตุเรียกสูตรลงวิชาสรภูกลืนอินทร์ เปิดตา เปิดปาก เปิดใจ เปิดสัมผัสให้แสดงฤทธิ์ได้ ทั้งเปิดเท้าทั้งสี่ให้จับสิ่งใดก็ได้ไม่มีวันหลุด(ท่านว่าเพราะมีเหล็กมหาธาตุอาตมันเป็นแหล่งพลังงานหนุนบารมีอยู่จะจับสิ่งใดก็ได้ไม่หลุดรอดเลย ไม่มีสิ่งใดเกินหรือพ้นบารมีองค์อาตมันไปได้) จะเกาะยึดติดสิ่งมงคลทั้งหลายถ้าเราไม่ได้สั่งเขาเขาก็จะเกาะเอามงคลทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมอบให้เรา ทั้งเปิดหางให้กวัดแก่งปัดป้องคุ้มครองเราตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเสกต้องเสกอยู่ในมุ้งไม่งั้นเขาเดินกันออกไปไกลหายไปเลยหลายตนก็มี กว่าจะทำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยโดยเฉพาะองค์ธาตุขนาดเล็กที่ท่านคัดไว้นี้ท่านก็ฝังให้เต็มสูตรเช่นกัน

    สรภูรุ่นนี้ท่านกำกับเป็นพิเศษโดยมนต์เวทย์เฉพาะทางไว้ให้ทำมาหากินคล่องตัว ใครมีหนี้ก็หมดหนี้ งานไม่เข้างานไม่เดินจะกลายเป็นงานไม่ขาดงานไม่สะดุด ใครอยากกิน(อยากมี)อะไรต้องได้กิน ...โชคลาภถูกหวยท่านว่านี่เขาช่วยตรงๆเลยจะเล่นทางไหนก็สมใจเร็วทุกทาง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ว่าหุ่น(สรภูกลืนอินทร์)กับนายใจเดียวกัน เพียงเลี่ยมพกเขาไว้ติดตัวเท่านั้นให้เขาจำกลิ่นจำสัมผัสเราได้ก็ใช้ได้เลย คาถาไม่ต้องใช้เพราะวิชานี้เป็นวิชาเปิดสัมผัสที่หกอยู่แล้วถ้ายังต้องใช้คาถาก็ถือว่าป่วยการณ์มาก ท่านย้ำว่าตุ๊กแกฉันเป็นของทิพย์นะเพราะมีองค์เหล็กเต็มท้อง

    *** รายการนี้ท่านว่าของมีน้อยเพราะเสกทีแรกเขาคลานหนีไปมากกว่าจะมารู้ทางใช้มุ้งครอบไว้ทีหลัง เฉพาะองค์ธาตุก็คุ้มแล้วรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งช่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะผูกสัญญาผูกความซื่อสัตย์ให้เขาเป็นหุ่นรับใช้เราฐานนาย - บ่าว เพื่อให้เราใช้งานเขาได้เต็มที่สูงสุด รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาศทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สรภูกลืนอินทร์กินตับควักหัวใจ(มหาธาตุอาตมันมีไข่เต็มท้องมีทองเต็มพุง) บูชา 2,500 บาท

    81041608-1220865104968908-2746410369206452224-n.jpg 81724589-1013234375702001-5636421479601012736-n.jpg
    80578182-563636174197672-8208574494348935168-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    สำหรับรายการสรภูกลืนอินทร์นี้ แม้ตัวพ่ออาจารย์ท่านยังพกติดตัวตลอดท่านว่ามันจ้องเลขจ้องเบอร์เก่ง ก็ลองนำไปใช้กันดูนะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อวานมีเล่าประสบการณ์เรื่องมหาธาตุสำเร็จองค์ปรมัตถ์พรหม(ธาตุอาตมัน)มาถึงสองเรื่อง ตอนแรกผมก็เบลอๆแล้วก็มาเอะใจว่าทำไมเล่าเหมือนกันเลยเพราะทั้งสองท่านบอกว่าองค์ธาตุให้โชคเห็นเป็นตัวเลขสามตัวเหมือนกัน หากแต่ออกเลขท้ายแค่สองตัวเลยได้โชคกันทั้งคู่ แม้แต่พ่ออาจารย์ท่านก็ยังพูดเหมือนกันว่าเลขที่สรภู(ตัวที่ท่านพก)เขาลอยมาให้เห็นก็ออกมาตรงๆแต่ท่านวางเฉยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่แปลกใจเลยทำไมสรภูกลืนอินทร์ท่านถึงว่ามันจ้องเลขจ้องเบอร์เก่ง ยิ่งมีองค์ธาตุเต็มท้องเรื่องโชคลาภเสี่ยงดวงหายห่วง
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะมาพูดคุยกันเรื่องเคล็ดวิชาชุบตัวกันนะครับ ติดตามกันไว้
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ยกบทความของเก่ามานะครับ สมัยท่านออกน้ำมันเวทย์บรมพุทโธ...........จะเห็นว่าปกติแล้วเกี่ยวกับวิชาชุบตัวโดยตรงนั้น ท่านไม่ค่อยทำหรือทำก็ต้องนานมากและสำคัญจริงๆ ดังนั้นใครที่รอสายวิชาชุบตัวราคาเบาๆ เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    สำหรับเครื่องมงคลรายการชุบตัวนี้จะเป็นตะกรุดชนิดพิเศษที่เรียกว่าตะกรุดก้นแมงสาปซึ่งปกติพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ได้ม้วนตะกรุดแบบนี้ ถือว่าเป็นรายการที่น่าสนใจมาก ตัวนี้ติดตามกันดีๆรับรองคุ้มค่า
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรหมพล EI 4838 6938 0 TH

    พี่วิระพัฒน์ EI 4838 6939 3 TH

    พี่วุฒิชัย EI 4838 6940 2 TH

    พี่ธัญดา EI 4838 6941 6 TH

    พี่สุรวุฒิ EI 4838 6942 0 TH

    พี่ณธพรหม EI 4838 6943 3 TH

    พี่พรเทพ EI 4838 6944 7 TH

    พี่กีรติศักดิ์ EI 4838 6945 5 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 4838 6946 4 TH

    พี่ตริณปรัชญ์ EI 4838 6947 8 TH

    พี่ศิระ EI 4838 6948 1 TH

    พี่สยามรัฐ EI 4838 6949 5 TH

    พี่นฐมน EI 4838 6950 4 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหัวสว่านธาตุวิชาผลาญผจญมารย่อพระธรณี (ชุบตัว,ยกฐานะ)

    ตะกรุดของฉันตัวนี้ชื่อว่าย่อพระธรณี คือย่อจังหวะและเหตุการณ์ความสำเร็จจากที่ยาวไกลให้สั้นลง จากที่มองไม่เห็นให้สัมผัสได้ จะได้ไม่ใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์กันไปวันๆ ท่านว่าจุดหมายทางเดินของใครนั้นย่อมแตกต่างกันไปทุกคน ความคาดหวัง ความสำเร็จย่อมไม่เท่ากันไม่เสมอกัน เช่นนั้นตะกรุดของฉันจึงเรียกว่า"ย่อพระธรณี" ย่อจากหนทางที่เธอต้องเดินไปไกลรอให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยล้มประดาตายเช่นนั้นย่อมันเข้ามา ขอแค่เธอตั้งจิตบอกกล้าวคุณครูคุณวิชาในตะกรุดว่าจะให้ย่อให้ย่นหนทางแห่งความฝันนั้นอย่างไร ชัยชนะในชีวิตพวกเธอเป็นเรื่องอะไร ขอให้บอกกล่าวเอากับเขา พระแม่ธรณีนั้นท่านจะสงเคราะห์ในบัดดล ที่ว่าไกลก็ใกล้ ที่ว่ายาวก็สั้น ที่ว่าลำบากหนักหนาก็สบายขึ้นมาทันที

    หัวสว่านเจาะทะลุทะลวง
    ด้วยยุคนี้โลกตกต่ำลงอย่างรวดเร็วฉับพลัน วิชาทั้งหลายซึ่งได้สถาปนาไว้ใช้ในการณ์ปกติจึงไม่สามารถจะใช้ระงับเหตุหรือจะคุ้มโทษโทสาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนจ่ายยาไม่ตรงกับความแรงของโรค ทั้งนี้วิชาในส่วนของการชุบตัว,ยกฐานะก็เช่นกัน ท่านจึงมีดำริให้เอาตะกรุดหัวสว่านออกมา ตะกรุดนี้ท่านว่าเหมือนเราจ่ายยาตัวที่แรงที่สุดซึ่งจะช่วยตัดกรรมให้สงบระงับไปโดยฉับพลันพร้อมสร้างความสุขนิรันดร์ให้เกิดแก่สรรพชีวิต เช่นนั้นครูท่านจึงประสงค์จะให้สัตว์ที่ตกถึงทุกข์มีพลังศักสิทธิ์เกื้อหนุนดูแล ท่านว่าสูตรที่ลงตะกรุดนี้เสด็จพระใหญ่ท่านเจาะจงไว้เลยว่าให้ม้วนแบบหัวสว่านเพื่อจะได้เจาะทะละทะลวงเหตุแห่งปัญหาและสิ่งขีดขวางต่างๆทุกสิ่งเดินหน้าโกยทรัพย์โกยความสุขสบายแต่ฝ่ายเดียวสิ้นสุดความเดือดร้อนทุกข์ยากความลำบากทั้งหลาย ท่านว่าสรรพสัตว์นั้นจะเวียนว่ายไปตามกระแสโลกแลกฏแห่งกรรมของตนท่านจึงจ่ายยาแรงให้ตรงโรคด้วยตะกรุดหัวสว่านที่แก้ไขความวิบัติให้ถึงจุดสิ้นสุดได้ ท่านว่ายานี้แรงนะแม้โรคหนักยังหายนับประสาอะไรกับชีวิตคนปกติที่จะไม่งอกงามเบ่งบาน จะไม่ดีขึ้นโดยฉับพลันทันทีได้อย่างไร แค่อาราธนาตะกรุดนี้เรื่องเฮงซวย โชคร้าย โดนคนกลั่นแกล้ง โดนใครกระทำ...ไม่รู้ ทั้งความมืด อุปสรรค อธรรมทั้งหลายเอาว่าทะลวงหมดเผาผลาญสิ้นโคตรต้นเหตุแห่งปัญหา ไม่เหลือต้นตอ..เหลือเชื้อที่จะให้เกิดเหตุวิบัติใดๆอีกได้เลย ไม่เพียงแต่มาผลาญสิ่งที่เราจำเป็นต้องผจญอันหลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น พุทธคุณตะกรุดนี้ยังนำออกและเปิดทางให้อีกด้วยคือนำออกจากสถานการณ์เลวร้ายที่เจออยู่เพียงอาราธนาก็จะผ่านพ้นไปอย่างน่าพิศวง ซ้ำยังเปิดทางให้เจอแสงสว่าง ให้มีอนาคตที่ดีเป็นที่ไปไม่ตกต่ำย่ำกลับมาสู่จุดเดิมอีกหนหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องถามตัวเองกันก่อน สมัยนี้ปัญหาเยอะเปรียบกับโรคก็คือโรคมาก ถามใจกันดุว่าเราโดนใครคดโกงหรือเปล่า ตกอยู่ในความเสื่อมไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองที่เสื่อมหรือสังคมรอบข้างที่เสื่อมหรือไม่ ชีวิตมันดูมืดมนไร้หนทางหรือไม่ ทุกวันนี้สับสนวุ่นวายหรือไม่ ซึ่งความมืดมนทั้งหลายนี้มักจะมาในเรื่องของการงาน ความรัก ปากท้อง ครอบครัว หรือสังคมแวดล้อม ถ้ารู้ว่าชีวิตหนีจากเรื่องเหล่านี้ไม่พ้น ก็ถึงเวลาที่เราควรจะให้โอกาศแก่ชีวิตตนเองเพื่อแก้ไขเจาะทะลวงทะลุปัญหาให้ถึงจุดสิ้นสุดได้

    ตะกรุดนี้มีวิชา"ผลาญผจญมาร"ของแม่พระธรณี
    ด้วยนางพระแม่ธรณีนั้นมีความสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้นได้อาศัยอยู่บนพื้นดิน เปรียบก็เหมือนดั่งลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่นั่นเอง จะเจริญก็อยู่บนแผ่นดินนี้ จะวิบัติก็อยู่บนแผ่นดินนี้เช่นกัน หากใครมีพลังของแม่พระธรณีเกื้อหนุนชีวิตแล้ว ความตกต่ำยากไร้ ทำมาหากินไม่ขึ้น โดนคนกลั่นแกล้ง สิ่งต่างๆเลวร้ายทั้งหลายนั้นย่อมไม่มีเป็นแม่นมั่น เพราะแม่ท่านรักและช่วยเหลือประดุจเลือดในอกของพระองค์ท่านเลยกระนั้น หากเรารู้คุณท่านอยู่บ้างระลึกถึงท่านขอบารมีท่านจะมีแต่เจริญขึ้นโดยสถานเดียว ### พ่ออาจารย์ท่านจึงนำ"วิชาผลาญผจญมาร" ของพระแม่ธรณีมาใช้ลงตะกรุดนี้โดยเฉพาะ ท่านเมตตาเล่าว่าพระแม่ธรณีนี้เคยบอกกับท่านว่าตัวของแม่เองได้เป็นพยานการเกิดขึ้นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงปัจจุบัน ได้รองรับกระแสอุทกธาราที่เหล่าพระมหาโพธิสัตว์มากมายหลั่งรินไว้เวลาประกอบธรรมกำกุศล ได้ขึ้นมาช่วยเหล่าพระพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้ทุกพระองค์ในทุกกาลทุกวาระเมื่อจะต้องประจญด้วยพญามาร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะอ้างเอาพระแม่ธรณีนี้เป็นพยานนั่นเอง ท่านจึงว่าพระแม่ธรณีนี่แหละเก่งที่สุดในโลก ท่านอยู่ในทุกที่ทั้งโลก โอบอุ้มทุกชนชาติศาสนามาเนิ่นนาน รองรับบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ตั้งแต่คราวพระชินสีห์องค์ปฐมได้ค้นพบและตรัสรู้สัพพัญญุตญาณเป็นพระสัพพัญญูในโลกธาตุจวบจนถึงพระองค์ปัจจุบัน ได้อยู่เป็นสักขีพยานและเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระนางมีบารมีมากถึงปานนั้น สำหรับวิชาผลาญผจญมารของนางแม่พระธรณีนี้พ่ออาจารย์พ่ออาจารย์ท่านว่าทำมาดีแล้วให้ติดตัวไว้จะชนะมารชนะอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย แม้กิจใดที่แม้แต่เหล่าเทพไม่สามารถกระทำได้ ไม่สามารถช่วยเหลือได้หรือเทพเจ้ายังหวาดกลัวนั้น ท่านว่าแม้อันตรายถึงปานนั้นแม่ก็ยังอยู่กับลูกเสมอและพร้อมที่จะช่วยลูกในกาลทุกเมื่อนั่นเอง *** ด้วยวิชาผลาญผจญมารนั้นสำคัญนักเพราะเทพเจ้าฝ่ายมารจะกลัวกันมาก เทพยดามิจฉาทิฏฐิทั้งหลายจะไม่กล้ากลั่นแกล้งให้โทษแก่เราเลย

    ตะกรุดธาตุวิชานี้จะแผ่พลังออกมาถี่มากๆแบบสม่ำเสมอไม่ขาดตอน(พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานแรงและถี่มาก)เพื่อมาเกื้อหนุนยกชูเราโดยเฉพาะ ซ้ำยังหนุนดวงผู้บูชาแม้มีเคราะห์ก็คลายออก แม้มีกรรมก็สะเดาะเสียให้พ้นจากกาลและวาระกรรมเหล่านั้น ทั้งธรณีสารและเรื่องราวเดือดร้อนทั้งหลายทำอันตรายสิ่งใดเรามิได้เลย คนที่ชีวิตลุ่มๆดอนๆ ดีก็ไม่สุด สะดุดมาทั้งชีวิต ก้าวมาถอยกลับ อยู่กับที่ หรือมีความรู้สึกว่าตัวเองมันยังไปไม่ได้ นี่เพราะเราหาสิ่งที่จะช่วยเหลือเราได้ไม่ตลอดหรือตัวเรารับพลังงานได้ไม่ทั้งหมด ขาดช่วง ขาดตอน จึงจำเป็นต้องใช้ของหนักของแรงที่แผ่กระแสพลังได้ถี่มากๆพ่ออาจารย์ท่านว่านี่จึงจะแก้เคล็ดกัน ทั้งคุณแห่งวิชาก็จะเข้ามาหนุนแก้รากฐานชีวิตเรารับรองว่าหนุนชนิดที่เรียกว่าดีวันดีคืน ทั้งปราบปราม ทั้งทำลายและหนุนนำยกชู ประเสริฐสิ้นถึงเพียงนี้แล นอกจากนี้ท่านยังลงยันต์เวทย์สวรรค์บทพิเศษที่ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก เช่นนั้นโดยปกติตะกรุดนี้ท่านจึงใช้สงเคราะห์ให้เป็นการส่วนบุคคล เพราะเป็นตะกรุดที่ผลาญเชื้อกรรมจึงถือว่าขัดหลักศาสนา ขัดหลักกฎแห่งกรรม ใครได้ใช้ก็เหมือนได้ "ชุบตัว ล้างบาป แก้บาป" ให้ผู้อาราธนาดุจมีชีวิตใหม่โดยมิต้องรอให้ล้มหายตายจากไปก่อน

    ด้วยเป็นหนึ่งในชุดวิชาชุบตัวที่ท่านไม่ค่อยจะทำให้ใครง่ายๆเพราะกลัวคนใช้ลืมตัว ลืมคุณครูบาอาจารย์ ลืมพระศาสนา หากแต่พ่ออาจารย์ท่านเมตตาว่าชนทั้งหลายนั้นล้วนมีบาปหนักเป็นตัวคอยถ่วงดุล ถ้าวันใดกรรมดีนั้นไม่ปรากฏ เคราะห์กรรมก็จะให้ผล คนบางจำพวกนี่ทำอย่างไรก็ไม่มีลาภผล ทำมาหากินไม่ขึ้น ขาดความรัก ไปไม่ถึงความสำเร็จ ด้วยเวรภัยเคราะห์กรรมประการต่างๆในเบื้องอดีตชาติตามส่งผลอยู่ นอกจากนี้แม้ในภพปัจจุบันก็ยังมีเวรกรรมที่ได้ก่อและสั่งสมมาเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้เมื่อแสดงอำนาจของกฏแห่งกรรมเค้าจะส่งผลระยะยาวไม่ใช่ผ่านวันพ้นคืนก็จะสูญสิ้น บางคนพิจารณาดวงชะตาว่าพระเคราะห์ถอยถด ดวงจะดีเป็นประการต่างๆแต่ก็กลับไม่ดี ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น มีแต่ปัญหารุมเร้าทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ...การมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็นนั้น ไม่มีใครเข้าใจหรือรู้สึกได้ว่าเป็นอย่างไรนอกจากคนที่เคยผ่านห้วงเวลาเหล่านั้นมาด้วยตัวเอง ด้วยว่าการที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เรียกว่าอยู่ก็ไม่สู้ตายนั้นย่อมเป็นชนวนและผลเหตุให้คนทั้งหลายหลงผิด ออกนอกลู่ทางอันดีงาม ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหตุให้โบราณจารท่านคิดวิธีชุบตัวเพือแก้ไขบาปและเปิดช่องทางให้ผลบุญหนุนส่ง เปิดโอกาสให้ชีวิตได้ขึ้นมาจากหล่ม ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าการชุบตัวนั่นเอง

    ด้วยการชุบตัวนี้สำคัญอย่างไรคนที่ชีวิตดีอยู่แล้วคงจะไม่รู้สึกว่าจำเป็น แต่ตรงข้ามคนที่ขึ้นๆลงๆ ชีวิตบัดซบ ดวงไม่เปิด เทวดาไม่ให้โอกาส ชะตาเล่นตลก ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปทานของคนที่ผ่านอะไรมามาก ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์อันสาหัส ดังนั้นการชุบตัวก็คือสภาวะการเปลี่ยนแปลงจากจุดที่แย่ที่สุด ต่ำที่สุด กลับฟื้นคืนมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด แต่การจะแก้ไขชะตามนุษย์ทุกผู้โดยยืมมือท่านแต่เพียงคนเดียวเช่นนั้นก็ไม่สมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านเองจะโดนเพ่งเล็งจากกฏแห่งกรรมและผู้คุ้มกันสภาวะธรรมชาติทั้งเจ็ดมากจนเกินไป ดังนั้นท่านจึงทำวิชาชุบตัวนี้ออกมาอีกครั้ง เพื่อหวังประโยชน์ให้ผู้อาราธนาได้เกิดใหม่ - แก้ไขบาปของตน จะได้ช่วยตัวเองให้พ้นจากทุกข์ หากไม่เชื่อก็อย่าเอาไป ถ้าคนที่ทุกข์เขายังมองไม่เห็นความทุกข์ไม่อยากพ้นทุกข์ไม่ช่วยตัวของตัวเองแล้วชีวิตนี้ก็เหมือนนั่งรอความตายอยู่ร่ำไป

    วิชาชุบตัวนี้ท่านว่าให้อาราธนาเสมอเพราะจะชุบตัวเราด้วยบารมีพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันโสรจสรงองคาพยพชุบมนต์ ชุบตัว อาบพระพุทธรัศมีของพระเจ้านับหมื่นที่ทรงอุบัติข้ามชาติภพมากมายหลายมหากัปดุจว่าได้ตายแล้วเกิดใหม่ โบราณจารย์ตีค่าไว้ดุจพ้นบาปกรรม แม้กำลังจะร่วงหล่นไปในขุมมหานรกก็ยังมิอาจตกลงไปได้เลยทีเดียว ด้วยตะกรุดนี้ทำง่ายแต่เสกยากเหลือใจ เพราะกว่าจะทำให้เป็นผลสำเร็จได้ต้องเจรจาและขอเอาชีวิต ให้เขา...ยอมละเว้นเพื่อให้คนใช้พร้อมที่จะเดินขึ้นไปในจุดสำคัญซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    ยาขนานเอกที่แรงที่สุด
    ท่านว่าต้องขอเอาเจรจาเอากัยผู้ควบคุมสภาวะกรรมและธรรมชาติทั้งเจ็ด(พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเจรจากันอยู่นานตั้งแต่ตีหนึ่งถึงสว่าง *** เช่นนั้นท่านจึงจัดตะกรุดนี้ว่าเป็นยาหนักเหมาะกับคนโรคแรงกรรรมเยอะ)ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่ละท่านนั้นใจเหล็กอย่างยิ่ง ท่านว่าไอ้ตรงนี้เราก็พูดมากไม่ได้เพราะเบื้องบนเค้าไม่ยอมให้บอกกล่าวอะไรกันมาก เอาเป็นแค่รู้ว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่หมุนเวียน ในยุคหนึ่งๆเทพเจ้าเขาจะเลือกพวกเขาขึ้นมารับผิดชอบและเผอิญยุคนี้ก็มีถึงเจ็ดท่าน ท่านว่าบอกได้เท่านี้และจะไม่พูดมากไปกว่านี้ หากจะทำของเปลี่ยนชีวิตให้คนใช้ได้เกิดใหม่ ชุบตัว ล้างบาป แก้ไขชะตากรรม ก็ต้องล่วงอำนาจของทั้งเจ็ดท่านนี้เท่านั้น หากไม่พ้นย่อมแก้ไขสิ่งใดไม่ได้เลย

    เพื่อจะชุบตัวถอดตัวตนเก่าออกทั้งหมด เพื่อให้เราเกิดเป็นคนใหม่ รูปใหม่ โฉมใหม่ ท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้นเลยทีเดียว เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมี นำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ และตะกรุดมีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าชุบตัวเรา แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่ คุณวิชามันค่อยๆชุบทีละชั้นทีละชาติภพชุบจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียวนี่แหละคือวิชาชุบตัวที่แรงที่สุด ท่านว่าสารพัดจะใช้อยากจะชุบทางไหนถ้าจะเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองก็ไม่ขาดเรียกว่าปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมด ใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ ชนะคู่แข่ง ไม่มีศัตรูมารบกวน ใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำ ใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว

    ผู้อาราธนาเสมอพ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างชุบจิตวิญญาณของเราทำให้เราเป็นผู้เจริญเพราะได้ชุบตัวอาบบารมีพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันเสมอไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ซึ่งตะกรุดที่แรงเป็นพิเศษเช่นนี้ ท่านว่าทำยาก จะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ แค่ติดตัวก็ปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดี ซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าของบางอย่างมากเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหวก็ไม่ดี น้อยเกินไปจนกำลังไม่แสดงออกก็ไม่ดี การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี

    วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ ท่านว่าตะกรุดนี้ลงอาถรรพ์มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น หลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิด ท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคน เป็นอัจฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเอง ใช้เป็นรายบุคคลไป ไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณ เพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆ ดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเอง ท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา...ด้วยหากไม่แก้อาถรรพ์ทำไม่ครบ พ่ออาจารย์ท่านว่าชุบตัวไปก็เท่านั้นเหมือนสวมเสื้อใหม่ทับเสื้อเก่ามีแต่จะยิ่งอึดอัดรำคาญใจ

    ด้วยว่ามนุษย์นั้นจมอยู่ในทุกข์เวทนากันเหลือเกิน ผุดเกิดเวียนว่ายไม่สามารถเข้าถึงพลังในกายตนเองได้ ไม่เห็นอาตมัน ไม่พบสัจธรรม ไม่กลับเข้ารวมกับสภาวะสูงสุด ไปไม่ถึงพระนิพพาน ติดอยู่ในบ่วงกรรม ในห้วงทุกข์เวทนาต่างๆ ด้วยเป็นผลแห่งการกระทำที่ทำไว้ท่านจึงให้ออกตะกรุดหัวสว่านเพื่อจะใช้เจาะทะลุทะลวงตัดกลางหนทางแห่งเวรกรรมทั้งหลายได้ เพราะอำนาจอื่นนั้นไม่สามารถตัดกรรมตรงนี้ได้ทั้งสิ้นช่วยได้ชั่วครั้งชั่วคราวเพียงเท่านั้น ท่านบรรจงเสกมายาวนานก่อนจะนำมาถักเชือกรูดด้วยผงมหากาฬ,ดินกากยายักษ์,ผงเขี้ยวหนุมาน,ผงถ้ำเทวาพิทักษ์,ผงพระธาตุสีวลี,ผงเพชรหน้าทั่ง,นิลตัดเหล็ก,ผงบัวผุด,ขี้เหล็กเปียกภูสิงห์,เหล็กไหลพญานาคภูเขาควาย,แร่ทรหดประเทศลาว,ทรายดำหลวงปู่ทวด,ด้วงหิน,ข้าวสารหิน,ข้าวสารดำ,เหล็กไหลย้อย,เพชรประสาน,เหล็กน้ำพี้,ทรายคำ,ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่,แร่บางไผ่,แป้งเสกหลวงปู่บุดดา,น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ใครมีทุกข์มาก,โรคแรง,ชีวิตผจญมารมากเกินกำลังรับไหวให้เอาตะกรุดแตะหัวว่าคาถา " ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ "

    *** ตะกรุดนี้เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าทำได้ยากมากจริงๆและท่านว่าขอเก็บไว้เองดอกหนึ่งจึงมีไม่มาก เพราะทำครั้งนี้สำหรับวิชาที่ลงเต็มสูตรเช่นนี้ย่อมไม่มีครั้งที่สองอีกอย่างแน่นอน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษษเด็กที่ขาดโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหัวสว่านธาตุวิชาผลาญผจญมารย่อพระธรณี (ชุบตัว,ยกฐานะ) บูชา 2,500 บาท

    81811320-654431445297119-7953838528029261824-n.jpg
    81977311-2874068402652498-1301192305469816832-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    พ่ออาจารย์ท่านว่ารับปีใหม่เปลี่ยนชีวิตใหม่ด้วยตะกรุด...ผจญมารย่อพระธรณีนี่แหละดีที่สุด เพราะปีนี้มารเขารอออกมากันเยอะ เอาไปใช้แล้วจะเข้าใจทำไมถึงเรียกว่ายาขนานเอกที่แรงที่สุด
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เห็นมีบางคนถาม ก็เลยจะตอบไว้เพราะท่านว่าปีนี้หนักท่านจึงจัดยาแรง(ของแรง)ให้ หลายๆคนเอะใจว่าน่าจะหนักจริงๆ และตะกรุดหัวสว่านก็มีคนฝากกันมาจองมาก แต่รายการนี้ของมีน้อยจึงไม่รับฝากและให้จองกันเฉพาะทาง PM ท่านว่าคนที่เห็นเขาก็ได้เอาแค่นั้นแหละ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    - ลูกกรอ 11

    อรุณสวัสดิ์นะครับ ก็มีคนนำเรื่องลูกกรอมาคุยให้ผมฟังอยู่เรื่อยๆเลยช่วงนี้ พี่คนนี้เขาว่าลูกกรอ 11 *** เวลานำติดตัวไปไหนภพภูมิแถวนั้นสะเทือนครับทั้งๆที่ดูภายนอกเป็นลูกเล็กๆ ทั้งยังได้บอกเพิ่มเติมว่าเป็นเครื่องมงคลที่เหมาะกับผู้ปฏิบัติธรรมมาก เอามาอาราธนาทำกรรมฐานดีมาก

    แต่คุณของลูกกรอ 11 จะมุ่งไปทางโลก(จตุปัจจัยทั้งหลาย)ไม่ได้ดั่งกิเลสพาไป # แรงครูท่านคัดกรองให้เหลือแต่ประโยชน์ล้วนๆ

    อันนี้ก็เป็นเรื่องของคนตาดีเขาเก็บมาเล่าให้เราฟัง เพราะท่านให้มาแต่ประโยชน์ล้วนๆ คือชีวิตที่มีแต่ได้ ไม่มีปัจจัยเสื่อมหรือปัจจัยทุกข์เข้ามา สมชื่อลูกกรอนั่นแหละครับทั้งกรอทั้งกรองจริงๆ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พิสุทธิ์ EI 5692 0115 5 TH

    พี่ณธพรหม EI 5692 0116 4 TH

    พี่ทวีพงษ์ EI 5692 0117 8 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    มีคนถามว่ามีของชนิดไหนที่อาถรรพ์แรงๆแก้ไขไม่ได้บ้างมั๊ย อันนี้ก็ต้องถามกลับก่อนว่าแรงยังไงทางไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอธิบายพูดคุยกันอีกที
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    หากใครยังจำพยนต์รุ่นนี้ได้ เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันรอบเย็นนะครับ
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภาคภูมิ EI 5692 0236 3 TH

    พี่พรหมพล EI 5692 0237 7 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 5692 0238 5 TH

    พี่บุญชนะ EI 5692 0239 4 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามกันนะครับรุ่นนี้จะเป็นพระผงบรรจุกริ่ง (มีเคล็ดให้คนบูชาว่าจะต้องปิดทองที่องค์พระก่อน) แอบบอกได้ว่ารุ่นนี้มีกำลังบรมครูใหญ่ซ้ำยังเป็นเป็นสิ่งแทนตัวบรมครูขั้นสูงสุด และมีอาถรรพ์ที่ไม่สามารถถอดถอนหรือแก้ไขล่วงเกินได้ รุ่นนี้ใครที่ไม่ทันตะกรุดผู้เสียสละและลูกกรอถือว่าใช้แทนได้เลย
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,104
    ค่าพลัง:
    +16,527
    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี(ชุดหุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตาร)


    "หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นดั่งความตั้งใจมุ่งหมายของสยมภูว(ผู้เป็นเจ้า)แห่งสังสารวัฏ ด้วยเป็นหุ่นแห่งสยมภูวอวตารจากโลกหนึ่งสู่อีกโลก ...หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้จึงมีเทวานุภาพอันประหลาด วิชานี้อยู่ที่ไหนใครกระทำย่ำยีเธอไม่ได้เลย ### แม้ตัวเธอจะทำอะไรก็ไม่ติดเวรไม่ติดกรรมให้แปดเปื้อนในวงจรวัฏสงสารทั้งสิ้น เป็นวิชาสำหรับผู้เห็นภัยในวัฏสงสารอย่างแท้จริง เพราะใครทำอะไรผู้มีหุ่นสวรรค์อวตารแล้วการกระทำทุกอย่างย่อมผ่านดั่งทะลุตัวเราไปเฉกเช่นทะลุเงาแบบนั้น แม้การกระทำผิด ผลแห่งบาปกรรมทั้งหลายแลสิ่งอันใจเราไม่ต้องประสงค์ไม่พึงใจทั้งมวล สิ่งเหล่านี้ย่อมผ่านตัวเราไปดั่งฟ้าทะลุเงา(คือพุ่งผ่านพอเป็นพิธีแต่ไม่สัมผัสไม่ก่อวงจรกรรมแก่กัน เช่นนี้จึงเรียกว่าสวรรค์อวตาร) ด้วยไม่มีกำลังใดประทุษร้ายให้โทษผู้ครองหุ่นได้เลตลอดเวลาที่ถือครองหุ่นนั้นยอมได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ใด ดั่งสวรรค์อวตารสู่ผืนปฐพีแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ใครก็ต่อต้านไม่ได้ทั้งสิบทิศ"

    ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี
    ตะโพนครูใหญ่อินทรเภรี(พระประโคนธรรพ์)
    คือวิชาทำกลองของพระอินทร์อันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย ด้วยกลองนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่แม้เทวดาทั้งหลายยังต้องหยุดนิ่งทิ้งกิจทุกการกระทำเพื่อสดับสำเนียงอินทรเภรีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่การสร้างกลองไก่กาใดๆทั้งสิ้นหากแต่เป็นกลองที่มีศักดิ์สูงที่สุดในเทวโลกก็ว่าได้ ด้วยกลองอินทรเภรีนั้นต้องเชิญจิตแห่งท้าวเวสสุวัณและท้าวอาฬาวกยักษ์มาช่วยกันแบกแลรักษาอินทรเภรีไว้ เช่นนั้นกลองนี้จึงมีอานุภาพของสองมหายักษ์ที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัตินาๆออกจากตัวเราได้(ท่านว่าอย่าว่าแต่คนเลยแม้บ้านเมืองก็ยังแก้ไขได้)ชีวิตผู้ใดตกอยู่ในภัยพิบัติหาความก้าวหน้าไม่ได้แค่พกอินทรเภรีไว้ก็แก้อาถรรพ์ได้ทั้งสิ้น ซ้ำผู้ใดได้อธิษฐานกับกลองนี้ประดุจได้บอกกล่าวส่งตรงคำพูดถึงพระอินทร์เจ้าสวรรค์เปล่งวาจาดั่งเสียงอสนิบาตได้ยินทั่วฟ้าดิน...เช่นนั้นวิชาสร้างอินทรเภรีนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงหวงแหนอย่างมากเพราะเป็นกลองที่มีแรงครูสูงสุด ท่านอุปมาดั่งว่าคนใช้ยิ่งเจ็บ(รับกรรมมามาก)ยิ่งดี..ยิ่งตียิ่งดัง ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาทำตะโพนครูใหญ่เสริมอาถรรพ์สอดรับกันเข้าไปด้วย ตะโพนนี้สำคัญนักเจ็บไข้ได้ทุกข์ต้องร้องบอกกล่าวครูตะโพน และที่ผ่านมาตะโพนท่านต้องพิจารณาคนให้ทุกครั้งใครจะเอาไปเล่นทางชู้สาวท่านไม่ให้เลยเพราะท่านว่าเสน่ห์ร้ายยิ่งกว่าน้ำมันพรายเสียอีก(ส่วนมากคนใช้ตะโพนชุดนี้จะเอาไปเลี่ยมทองห้อยแทนขุนแผน เขาว่ากันว่าต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถอด) พ่ออาจารย์ท่านจึงตัดปัญหานำตะโพนชุดนี้มาสร้างพยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ชุดนำฤกษ์หุ่นสวรรค์อวตารเอาไว้
    ด้วยตะโพนของท่านนั้นมีแรงครูสูงมากจนไม่มีสิ่งใดมาถอดถอนหรือแก้ไขผู้ต้องอาถรรพ์ตะโพนได้ ทั้งยังสำทับว่าตะโพนฉันยิ่งตียิ่งดังอุปมากับชีวิตเราก็เหมือนตะโพนยิ่งมีคนตีคนคิดร้ายมากเท่าไหร่เรายิ่งดังยิ่งได้ยิ่งดีเจริญมากขึ้นไปเรื่อยๆ พ่ออาจารย์ท่านแกะตะโพนจากไม้มะกรูดที่คั่นกลางเท้าตะโพนใบเก่าที่ผ่านการไหว้ครูใช้เป็นประธานในการบรรเลงเสกเป่าคาถาอาคมมานับร้อยปี ท่านว่ามีอาถรรพ์ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายและข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังใช้กำกับชีวิตคนได้(ใครที่ควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้ ชีวิตไม่เดินไปตามที่คิดให้ใช้ตะโพนครู)ดั่งตะโพนหน้าทับกำกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย ท่านว่าก่อนทำนี่ต้องนำสังข์ไปเทน้ำทิพย์มนต์ล้างหน้าตะโพนเสียก่อนจึงทำพิธีบอกกล่าวแรงครูพลีกรรมมาทำได้ ทั้งกลองตะโพนตำรับพ่ออาจารย์นั้นยังได้ชื่อว่านำความสำเร็จทุกด้านที่ใจประสงค์ส่งตรงถึงคนใช้ด้วย เพราะตะโพนนั้นเป็นกลองใบแรกที่พระคเณศยกขึ้นตี จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แทนตัวพระคเณศด้วยเสมอมา รูปตะโพนนี้จึงเป็นดั่งตัวแทนบรมครูหลายสายวิชาของท่านอย่างแท้จริง
    ด้วยครูตะโพนนั้นทรงอาถรรพ์ชั้นครูเป็นที่เคารพยำเกรงอย่างยิ่ง เป็นดั่งราชาของเครื่องดนตรีทั้งทั้งหลาย
    ทั้งยังใช้แทนองค์พระประคนธรรพ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าในบางตำราก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกับพรหมฤาษีนารท เช่นนี้จึงยกไว้ว่าเป็นมหาประชาบดีหัวหน้าฤาษีและคนธรรพ์ทั้งปวง เพราะรูปตะโพนนี้มีอาถรรพ์ดั่งเป็นรูปของพระประคนธรรพ์นี้เองจึงถือเสมอว่าใช้แทนองค์ท่านได้เลยและต้องยกไว้ในที่สูงเสมอมีพลังที่จะนำมาซึ่งอำนาจลึกลับแห่งชัยชนะ มีอำนาจดั่งราชา มีบารมีเด็ดขาดเหนือผู้ใด ข่มศัตรูคู่แข่งได้ทั้งสิ้น ทั้งยังกันอัปมงคลเสนียดจัญไรผีเข้าเจ้าสิงด้วยแรงครูชั้นสูง ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวาง ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลคนหลงรักนิยมยินดี ดึงหัวใจคนให้น้อมต่ำโอนอ่อน ขออะไรใครเขาก็ให้โดยดี มีคนหนุนมีคนยกคนส่งเสริมไม่ขาดตอน ทำชื่อเสียงเราให้ระบือไปไกลทั่วเมืองแมนแดนสวรรค์ แม้เทพยดาผู้มเหศักขเทวราชก็หยุดอาถรรพ์แห่งครูตะโพนมิได้ ..ตะโพนที่มีฤทธิ์เช่นนี้ท่านจึงฝังไว้ในท้าวอนันตกาลเนื้อนำฤกษ์ชุดหุ่นสวรรค์อวตาร

    ท้าวอนันตกาล
    วิชาการผูกพยนต์นั้น เป็นวิชาที่พระโบราณจารหรือผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์มักจะทำเอาไว้ ซึ่งก็มีปรากฏในหลายๆรูปแบบทั้งมนุษย์ สัตว์ หรือสัตว์ประหลาด พ่ออาจารย์ท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องธาตุทั้งสี่ตลอดจนวิชาการทำพยนต์แขนงต่างๆอยู่มาก จะเห็นได้จากที่มีคนมาขอเศษก้านธูปที่ท่านหักหรือแม้แต่ก้อนดินที่ท่านปั้นเป็นหุ่นพยนต์แบบง่ายๆกำหนดจิตเสกเพียงชั่วอึดใจเดียวแล้วมอบให้เพื่อฉลองศรัทธาของเขาเหล่านั้น ก็ปรากฏว่าหุ่นพยนต์เหล่านั้นกลับไปแสดงฤทธิ์มีตัวมีตนให้คนเห็น บางคนมีตาใน จิตมีตัวรู้ดีก็กล่าวสรรเสริญจนเกินเลยไปมากกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้บรรดาคนรู้จักหรือญาติของผู้ที่ครอบครองพยนต์ไม้ก้านธูปพยนต์ดินเหล่านี้ต่างขอเมตตาเข้ามามาก เรียกว่าในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ท่านทำให้ชนิดว่าเอาจนก้านธูปไม่มีติดกระถางทีเดียว ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าวิชาการทำพยนต์ของพ่ออาจารย์นั้นท่านมีความชำนาญเพียงใด
    ด้วยบารมีบูรพาจารย์และญาณวิถีตลอดจนกฏของโชคชะตาและวิถีดวงดาว
    พ่ออาจารย์ท่านได้มีความรู้สึกถึงเทพโบราณตั้งแต่ยุคบรรพกาลองค์หนึ่งซึ่งเคยได้รับการบูชาในรูปของมหายักษ์ผู้ทำลายล้างอำนาจมืดทั้งหลาย ท่านว่าย้อนกลับไปก่อนจะมีมนุษย์ จนมนุษย์แตกดับสิ้นยุคสิ้นสมัยและอุบัติขึ้นใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนับกัปกัลป์แลอสงไขย ดวงจิตแต่ครั้งบรรพกาลนี้ก็ยังดำรงอยู่ ท่านจึงเรียกขานว่าท้าวอนันต์กาลมหายักษา ด้วยหมายใจว่ามีห้วงเวลาของชีวิตที่ยืนยาวเป็นอนันต์กาล เพราะยังไม่รู้จุดสิ้นสุดหรือดับสูญ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยักษ์ที่มีอายุพอๆกับมหาพรหมทีเดียว ท่านว่าท้าวอนันต์กาลนี้เป็นหนึ่งในบรมครูฝ่ายยักษ์ของท่าน มีฤทธิ์มากสามารถปราบปรามหมู่เทวดายักษ์มารปิศาจหรือแม้แต่คลื่นพลังอันเลวร้ายต่างๆที่จะเปลี่ยนแปลงจุดสมดุลของธรรมชาติได้ เมื่อท่านตัดสินใจสร้างหุ่นพยนต์อย่างเป็นทางการ ท่านจึงอาศัยยืมรูปยืมนามของครูยักษ์ของท่านเพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้นำไปบูชาส่วนหนึ่ง และเป็นการอาศัยบารมีบรมครูช่วยให้พยนต์นี้มีทิพย์อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าที่เทพยดาและมนุษย์จะกระทำได้ส่วนหนึ่ง ตลอดจนเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์อันจะดลให้ท่านเข้าคุ้มเกรงคุ้มครองรักษาดูแลผู้บูชาอีกส่วนหนึ่ง
    ดังที่กล่าวเบื้องต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าการจะสำเร็จพยนต์ให้มีฤทธิ์สูงสุดก็จะต้องทำธาตุทั้งสี่ให้ครบจะขาดจะเกินไม่ได้ ซึ่งท่านก็ได้เพียรหามวลสารสะสมมามากมายตามอุปเท่ห์ที่เป็นรหัส จำต้องใช้ปัญญาคิดและพิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่ครูเคยกล่าวให้หาหรือเทพเบื้องบนท่านบอกใบ้ให้เอามาผสมเป็นธาตุตั้งต้นให้ได้แต่ละอย่างนั้นคืออะไร ท่านว่ากว่าจะได้ครบก็หนักหนาสาหัสมากทีเดียว เมื่อท่านตั้งใจจะทำแล้วจึงได้ขอบารมีครูเทพครูพรหมครูยักษ์ทั้งหลาย นั่นย่อมหมายรวมไปถึงท้าวอนันต์กาลด้วย ท่านว่าครูท่านมานิมิตให้เห็นเป็นรูปของมหายักษ์ถือกระบองเพชรและจักรแก้วมีหัวยักษ์มากมายวางเรียงรายอยู่บนพื้น พ่ออาจารย์ว่าท้าวอนันต์กาลนี้มีฤทธิ์มากจริงๆ เอาดีๆแล้วจะเรียกว่ามีอานุภาพมากจนบงการเผ่าพันธ์ยักษ์ทั้งหมดได้ก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้บูชาครูและแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาโดยท่านเรียกแม่พิมพ์นี้ว่าพระผงทรงผานไถ ท่านว่านี่เป็นมงคลที่หนึ่ง ผานไถนี้ใช้พลิกกลับหน้าดิน พลิกฟื้นพระแม่ธรณีให้อุดมสมบูรณ์ได้ฉันใดก็ฉันนั้น ที่ท่านตั้งใจทำพระพิมพ์นี้ก็เพื่อจะให้ชีวิตคนใช้สามารถพลิกกลับพลิกฟื้นสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าเขาเช่นกัน ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์แล้วท่านก็นำมาลงวิชาเสกกำกับแม่พิมพ์ด้วยนะกลบทนารายณ์พลิกแผ่นดินทั้งสามสูตร เพื่อให้องค์พระที่จะกดออกจากแม่พิมพ์นี้มีอานุภาพดุจผานไถอย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของท่านนั่นเอง
    อันว่าหุ่นพยนต์นั้น พ่ออาจารย์ท่านหมายใจจะทำไว้ให้แต่แรกเพื่อ
    เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างที่สุดแก่ผู้บูชา ท่านว่าสมัยนี้คนมักนิยมบูชาเครื่องมงคลต่างๆ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวคนบูชาเองนั้นต้องไปกราบไปอ้อนวอนขอสิ่งต่างๆเดือดร้อนทีก็อ้อนวอนที เป็นฝ่ายที่ดูไปดูมาคล้ายกับเราไปปรนนิบัติเสียมากกว่า ด้วยว่าความต่างกันของมนุษย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวกำหนดให้เราไม่สามารถล่วงเกินหรือไม่เคารพได้ ดังนั้นท่านจึงตั้งใจมากที่จะทำเครื่องมงคลชนิดนี้ เพราะท่านว่าหลายครั้งและหลายคนเป็นฝ่ายรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกันมานาน ควรแล้วที่จะมีและทำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะคอยตามรับใช้พวกเขาให้เสมอใจในทุกๆสิ่งที่พึงมีพึงอยากบ้าง ซึ่งวิชาการผูกพยนต์นั้นท่านว่ามันก็ใช้ได้ในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายเกินไปกว่ากุมารทองเท่าใดนัก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงปลุกพระเวทย์ผูกพยนต์เทวภูติขึ้นมา ท่านว่ามันก็สูงสุดแล้วในสายวิชาพยนต์ทั้งเราได้ยืมรูปยืมนามครูยักษ์แต่บรรพกาลที่ถูกลืมเลือนไปมาตั้งไว้ให้เป็นชื่อเรียกขาน ท่านว่าถ้าจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวมันก็มีขั้นตอนอยู่มาก เพื่อให้ได้มาซึ่งมงคลวิเศษที่มีหน้าที่ประดุจทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์มีตบะและฤทธานุภาพสูงส่ง ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่อดทนพอทำไม่ได้จริงๆ
    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิชาธาตุสี่ มีธาตุตั้งต้นและหนุนธาตุเข้าไปทีละธาตุสลับกลับไปกลับมาตั้งแต่ดินน้ำลมไฟ เป็นดินหนุนด้วยน้ำเป็นต้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันจนครบตามหลักแม่ธาตุเพื่อให้เกิดฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์ตามเคล็ดวิชาจตุธาตุอันเป็นที่สุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมากสารพัดจะใช้หากเข้าถึงและทำเป็นทำสำเร็จแล้ว ผงนี้มีคุณมหาศาลเปรียบประมาณมิได้เลย ท่านได้นำผงวิชาจตุธาตุนี้ มาผสมเข้ากับผงวิชาเทพนิมิตที่ท่านลบถมเพื่อให้ผู้ใช้มีเทวดารักษาตัวและสามารถขอหรืออธิษฐานสิ่งใดก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเมตตาลบถมผงพระยันต์สูตรสำคัญต่างๆผสมลงในเนื้อพระด้วย ไม่ว่าจะรัตนมาลา มหาจักรพรรดิ มหาปราบ มหาระงับพิศดาร พระเจ้าห้ามญาติ นวหรคุณ พระเจ้าเข้านิโรธ พระเจ้าห้ามทุกข์ พระไตรปิฏก ปาฏิโมกข์ วิปัสสิ กรณี พุทธจักร นวโลกุตรธรรม พระไตรรัตน์ พุทธคุณเจ็ดดวง โสฬสมงคล ตรีนิสิงเห จตุโรถอด ไตรสรณคมสามดวง ฝนแสนห่า พระเจ้าสิบหกพระองค์ นะโมตาบอด ฤาษีตาไฟ มงกุฏพระเจ้า ชาตรี จตุราริยสัจจ์สองดวง นกคุ้มตัวผู้ตัวเมีย อิติปิโสแปดทิศ ยันต์ธงพระฉิมสองสูตร นอกจากนั้นท่านได้นำผงคตสำคัญที่ท่านฝนรวบรวมไว้มาเข้ากับผงวิเศษเหล่านี้ พร้อมทั้งว่านยาอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้บอกว่าว่านอะไรรู้แต่ว่าหลายชนิดแน่นอนที่สำคัญท่านว่าจะทำพยนต์เทวภูติต้องใช้แต่ว่านที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวรู้จักหลบหนีมีชีวิต ว่านธรรมดาใช้ไม่ได้ ท่านได้นำผงวิเศษต่างๆเหล่านี้มานวดรวมกันกับน้ำมันว่านวิเศษของท่านเมื่อนวดได้ที่แล้วด้วยมวลสารธรรมชาติทั้งหลายทำให้เนื้อขององค์พระมีวรรณะอมแดงอมม่วงดั่งที่ปรากฏนั่นเอง
    *** ชุดนำฤกษ์เบิกดวงจิตครู ท่านจะใช้มวลสารพิเศษเพื่อสร้างหุ่น ด้วยผงวิชาเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นดั่งความตั้งใจมุ่งหมายของสยมภูว(ผู้เป็นเจ้า)แห่งสังสารวัฏ ด้วยเป็นการสร้างหุ่นแห่งสยมภูวอวตารจากโลกหนึ่งสู่อีกโลก ...หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้จึงมีเทวานุภาพอันประหลาด วิชานี้อยู่ที่ไหนใครกระทำย่ำยีเธอไม่ได้เลย ### แม้ตัวเธอจะทำอะไรก็ไม่ติดเวรไม่ติดกรรมให้แปดเปื้อนในวงจรวัฏสงสารทั้งสิ้น เป็นวิชาสำหรับผู้เห็นภัยในวัฏสงสารอย่างแท้จริง เพราะใครทำอะไรผู้มีหุ่นสวรรค์อวตารแล้วการกระทำทุกอย่างย่อมผ่านดั่งทะลุตัวเราไปเฉกเช่นทะลุเงาแบบนั้น แม้การกระทำผิด ผลแห่งบาปกรรมทั้งหลายแลสิ่งอันใจเราไม่ต้องประสงค์ไม่พึงใจทั้งมวล สิ่งเหล่านี้ย่อมผ่านตัวเราไปดั่งฟ้าทะลุเงา(คือพุ่งผ่านพอเป็นพิธีแต่ไม่สัมผัสไม่ก่อวงจรกรรมแก่กัน เช่นนี้จึงเรียกว่าสวรรค์อวตาร) ด้วยไม่มีกำลังใดประทุษร้ายให้โทษผู้ครองหุ่นได้เลตลอดเวลาที่ถือครองหุ่นนั้นยอมได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ใด ดั่งสวรรค์อวตารสู่ผืนปฐพีแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ใครก็ต่อต้านไม่ได้ทั้งสิบทิศ นำมาผสมด้วยผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆจึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพยนต์เทวภูติอนันต์กาลมหายักษา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่อง ไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลาย ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งซึ่งองค์นำฤกษ์นี้ท่านผสมผงลงไปนวดทั้งหมดเลย ท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกอณู เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆ อธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน

    ซึ่งพยนต์เทวภูติท้าวอนันต์กาลมหายักษาชุดนำฤกษ์หุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตารนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของวิเศษต่างๆนอกจากตะโพนอินทรเภรีไว้ดังนี้
    - ตะกรุดหล่อยอดคน(ชุดพิเศษบรรจุแก้วสามโลก) กว่าจะทำตะกรุดซึ่งลงวิชาสำคัญนี้ได้ ครูพระสยมท่านให้พ่ออาจารย์รวบรวมยอดโลหะที่หาได้ยากตั้งแต่เหล็กยอดประสาท ยอดพระที่นั่ง ยอดพระเจดีย์ ยอดนคร ยอดเมือง ยอดฉัตร ยอดวัด ยอดเมรุ ยอดธาตุ ตามคติว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดซึ่งจะมีอาถรรพ์หนุนชีวิตเราให้สูงขึ้นทั้งยังปราบศัตรูช่วยให้เราเป็นยอดคนได้ ท่านจึงเรียกโลหะชุดนี้ว่าตะกรุดหล่อยอดคน ท่านเอามาหล่อเข้ากับยอดเหล็กจารของบูรพาจารย์ของท่านที่ท่านว่าขลังที่สุดเพราะตอนครูท่านเขียนท่านจารท่านก็กำหนดจิตบริกรรมคาถาไปด้วยตลอดเรียกว่าเป็นสุดยอดด้วยแรงครูทั้งยังผสมด้วยเหล็กไหลฤาษี,ไหลเงินยวง,เหล็กไหลตาแรด,เหล็กน้ำพี้...ชินจากกรุมเหศวร(กลับร้ายกลายเป็นดี) ทั้งยังนำเหรียญทองโบราณที่หายาก(ปัจจุบันมีค่าหลายแสนบาท)เป็นเหรียญทองอาถรรพ์ที่ใช้เรียกทรัพย์โดยเฉพาะท่านว่าหาไม่ได้ไม่มีอีกแล้วท่านหล่อผสมลงไปด้วย ท่านถือว่าประเทศไทยนั้นเป็นธาตุทองถึงต้องใช้กำลังทองอาถรรพ์เพื่อดึงเอาชัยชนะต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อหลอมออกมาแล้วจึงได้ตะกรุดหล่อวรรณะอมเขียวที่ท่านว่าสร้างได้ยากที่สุดเพราะมวลสารนั้นหาไม่ง่ายเลย พอหล่อออกมาท่านต้องเสกด้วยมนต์ทศกัณฐ์ถอดหัวใจจึงจะสำเร็จแม้ใครได้พกไว้ก็จะเป็นยอดคนดวงไม่ตกฆ่าไม่ตาย ดั่งเราย้ายจิตออกไปจากตัวแม้เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่สามารถให้โทษถึงตัวได้ ที่สำคัญเลยในองค์นำฤกษ์นี้ท่านจะบรรจุแก้วสามโลกไว้ตามตำรับเสด็จพระใหญ่ที่สอนเฉพาะพ่ออาจารย์ในตะกรุดหล่อยอดคนด้วย ท่านว่าแก้วสามโลกนี้ไม่ใช่ของธรรมดาเพราะทำเอาด้วยวิชา ย่อมเหนือกว่าเหล็กไหลและปรอทสำเร็จ ท่านว่าเล่นแร่แปรธาตุอยู่นานยากนักกว่าจะได้มาเพียงติดว่าเกือบตายไปเสียก่อนไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ทำต่อ อาถรรพ์แก้วสามโลกนี้แม้ตัวเราจะปรารถนาอะไรถ้าเขย่าแล้วอธิษฐานด้วยเคล็ด"จักรพรรดิราชตวาดฟ้า"ที่พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ดังปรารถนา เสมอด้วยความต้องการให้ได้มา ดั่งเป็นความปรารถนาของพญาจักรพรรดิราชที่เทพยดาทั้งหลายต้องน้อมรับเท่านั้น แก้วสามโลกที่ลงอาถรรพ์ด้วยวิชาพญาจักรพรรดิราชตวาดฟ้านี้แม้ปรากฏขึ้นที่ใดเทวดาต้องมารับใช้มาดูแลบันดลดันดาลให้มิเช่นนั้นเขาจะทนเสียงเขย่าไม่ได้ดั่งศรีษะเขาจะเเตกออกเป็นเจ็ดภาค ***นี่จึงเป็นที่มาของเสียงกริ่งในชุดนำฤกษ์ ท่านว่าพระกริ่งเขย่าแล้วพระไภษัชยคุรุรู้อย่างไร พยนต์ฉันที่มีกริ่งก็เช่นกัน ทั้งกริ่งยอดอาถรรพ์ที่เกิดแต่วิชารวมกับกำลังครูตะโพนนี้ กริ่งดังทีหนึ่งก็เหมือนมีคนตีตะโพนลั่นเทวสภาเช่นนี้จึงนับได้ว่าเป็นเครื่องมงคลที่พิเศษที่สุด
    - ตะกรุดวิชาอาถรรพ์พันธะมหาสัญญาเนื้อตะกั่วขอมโบราณ
    พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แรงนัก ท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณที่ท่านได้มาจากใต้ปราสาทสมัยอาณาจักกรขอมได้ผ่านพิธีเทพพิธีพราหมณ์มามากกมีพลังงานมากกว่าตะกั่วธรรมดาทั่วไป ซ้ำท่านยังได้นำมาลงถมซ้ำก่อนรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านผูกวิชานี้ไว้ในพยนต์ท้าวอนันต์กาลเพื่อให้พยนต์ท้าวอนันต์กาลมีอาถรรพ์ตรึงรูปนาม มีชีวิตและมีฤทธิ์เป็นเอนกอนันต์สุดแล้วแต่จะใช้จะอธิษฐาน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้พกติดตัวก็ได้ เฝ้าบ้านก็ได้ ท่านว่าแม้แต่สงครามเทวดาก็ยังเอาพยนต์นี้ไปสู้รบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดวิชาอาถรรพ์ท่านผูกให้เป็นหัวใจสำคัญของพยนต์เทวภูติ ท่านว่าวิชานี้เป็นเลิศยิ่งนักใช้งานได้สารพัดแม้จะไปกระทำอะไรกับใครเขา ท่านว่าตรงนี้ต้องระวัง อย่าไปคิดร้ายหรือสั่งให้พยนต์ไปทำร้ายใครเชียว มันจะเป็นกรรมหนักเปล่าๆ เพียงเอาไว้แค่คุ้มครองรักษาตัวเองก็พอ วิชาพันธะมหาสัญญานี้เป็นที่สุดของวิชาผูกหุ่นพยนต์แต่โบราณ เป็นวิชาที่หุ่นนั้นจะอุทิศทั้งร่างกายและชีวิตเพื่อรับคำซื่อสัตย์และทำตามความประสงค์ของเจ้านาย พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช่เถิด แม้จะสะกดคน สะกดขึ้นเรือนหรือเข้าหาหญิงสาวย่อมทำได้ทุกสิ่ง ท่านว่าพูดอย่างใดเป็นอย่างนั้นทีเดียว

    ### พระผงชุดนำฤกษ์นี้ท่านทำด้วยวิชาผูกหุ่นสวรรค์อวตาร ซึ่งท่านย้ำสำทับว่าคนที่เขาเดือดเนื้อร้อนชีวิตหรือติดขัดในชีวิตความเป็นอยู่จะมานำไป โดยเฉพาะผู้เห็นภัยในวัฏสงสารกลัวกรรมจะเปื้อนเนื้อเปื้อนตัวไม่จบไม่สิ้นเท่านั้น เขาจึงจะเห็นค่าหุ่นวิชาสวรรค์อวตารนี้ ถ้าคนธรรมดานัยน์ตายังมีมลทินโทษยังไม่คิดถึงชาตินี้ชาติหน้า ยังไม่รู้วงจรแห่งกรรม ไม่เชื่อในกฏการกระทำ เค้าจะไม่สนหุ่นนี้เลย จะเพียรหาแต่ของช่วยดับร้อนผ่อนเย็นไปวันๆเท่านั้น เช่นนั้นหุ่นวิชาสวรรค์อวตารนั้นจึงเป็นดั่งสิ่งมีค่าสูงสุดสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือโดยเทพพยนต์ ทั้งยังหวาดกลัวภัยแห่งกรรมลิขิตไม่อยากผูกกรรมใดๆเพิ่มกับผู้อื่นอย่างแท้จริง ด้วยวิชานี้ใครกลั่นแกล้งทำร้ายเรามาหรือจะมีเวรกรรมพันผูกมาแต่หนใด ทุกสิ่งจะผ่านตัวเราดั่งแสงผ่านเงามีแต่ดูดกลืนลงผืนแผ่นดินอย่างเดียวเท่านั้น จึงเป็นเคล็ดสวรรค์อวตารที่สิ่งอันเลวร้ายจะไม่ฝืนกฏแห่งกรรมเขาจะตกต้องตัวเราหากแต่ผ่านหายไปดั่งทะลุเงาเช่นนี้ตลอดกาล..เหลือไว้เพียงสิริมงคล

    คาถาบูชา
    พุทธังจุติ ธัมมังจุติ สังฆังจุติ ท้าวอนันต์กาลมหายักษาจงมาปฏิสนธิ อัตถะโลโปจะจงมาบังเกิดเป็นพยนต์มหาเทวภูติ ยักษะกาโรโหติสัมภะโว จงบังเกิดรูปด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าผงคุณวิชานี้ชีวิตฉันทำได้เพียงครั้งเดียว ถ้าใครรู้สึกว่าตรงกับจริตและชีวิตตัวที่ต้องคอยมาเป็นเหยื่อของกรรม ชดใช้กรรมอยู่ ทำกรรมดีไม่ขึ้น นั่นแหละจึงใช้หุ่นสวรรค์อวตารนี้ ด้วยพยนต์เทวภูตินี้เลือกเจ้าของและมีเจ้าของแล้วทุกคน ท่านว่าผู้ที่มีวาสนาต้องกันจะได้ใช้งานนั้นเขาจะมีตัวรู้ผุดขึ้นในใจของเขาเอง ว่าสิ่งนี้แบบนี้แหละที่เขาหาที่เขาต้องการ ท่านว่าท่านทำไว้ไม่มากเนื่องจากผงลบและมวลสารอะไรหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย เพราะเมื่อทำแล้วก็อย่าจะใช้ชนวนมวลสารล้วนๆไม่ต้องผสมอะไรเจือจางให้มากมาย ดังนั้นท่านว่าให้บอกเค้าว่าตัวนี้ใครไวใครได้ เพราะหมดไปแล้วย่อมไม่มีอีก ท่านว่าทำพยนต์เทวภูติแบบนี้เหนื่อยกว่าทำเครื่องมงคลแบบอื่นๆหรือพยนต์ทั่วไปมากนัก

    * พยนต์เทวภูติชุดนำฤกษ์สวรรค์อวตารนี้มีเพียง 5 องค์เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้ติดเอวท่านตนหนึ่งจึงมีให้จองกันสี่องค์ จะให้จองเฉพาะทาง PM และผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการชักยันต์นะกันทั้งปวงอธิษฐานจิตครอบรูปนามผู้บูชาให้ตลอดจนจะได้เจิมประสิทธิ์เครื่องมงคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้วยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พยนต์เทวภูติดึกดำบรรพ์ตะโพนชัยสายฟ้าอินทรเภรี(ชุดหุ่นเจตน์จำนงค์สวรรค์อวตาร) บูชา 4,000 บาท


    82219552-840584769733369-4462456293101142016-n.jpg 81383393-599257130907866-8644448378505134080-n.jpg
    81886794-446667652907710-4895452171211898880-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...