รอยพระพุทธบาทที่ นัมมทานที อยู่ที่ "เกาะแก้วพิศดาร" จังหวัดภูเก็ต จริงหรือ?

รอยพระพุทธบาทที่ นัมมทานที อยู่ที่ "เกาะแก้วพิศดาร" จังหวัดภูเก็ต หรืออยู่ที่เขาน้อย อำเภอปราณบุรี ริมแม่น้ำ "ปราณ" ที่สมัยเมื่อไม่กี่ร้อยปีมา นี้ ชาย ฝั่ง อยู่ริมเข้าน้อย

ซึ่ง ย้อนไป สมัยอยุธยา หรือเก่ากว่านั้น "เขาสามร้อยยอด" เป็นเกาะอยู่กลางทะเล โดย ที่ ตั้งเขาน้อยอยู่ในตำแหน่ง หมุดแดง ในแผนที่

อาศัยเหตุอะไรจึงตั้ง กระทู้นี้ เดี๊ยวจะได้นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ
<!--MsgFile=0-->



<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

ความเชื่อที่ว่า "รอยพระพุทธบาทที่ริ่มฝั่งแม่น้ำนัมมทานที อยู่ที่เกาะแก้วพิศดาร " นั้น
ดังปรากฏ ตัวอย่างได้จาก แหล่งข้อมูลในเว๊บบอร์ด หนึ่ง ในหัวข้อ

พระพุทธบาทที่ปรากฏในพระไตรปิฏก มีกี่รอยจ๊ะ และมีอยู่ที่ไหนบ้าง

ที่ว่า..

๕. นัมทานที (เกาะแก้วพิสดาร จ.ภูเก็ต)



ข้อความในวงเล็บนั้น ผู้เขียนลงเอาไว้เพื่อความเข้าใจตามที่ได้ค้นคว้ามา ซึ่งจะหาอ่านรายละเอียดได้จากหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” ฉบับ ที่ ๑๕๖, ๑๖๓, ๑๖๔ (ปี ๒๕๓๗) ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่ ๕ “นัมทานที” ซึ่งได้ยืนยันไว้เป็นหลักฐานจากหนังสือ “พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์”อ่านคำจารึกโดย พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต) วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ มีใจความตามสำนวนสมัยเมื่อสอง พันห้าร้อยกว่าปีมานี้เองว่า...

“บุญมุนี อยู่ถ้ำฤษี ผู้นำพุทธ สู่เกาะ คนชาวน้ำ หมู่คนน้ำ เกาะแก้ว เข้ากราบไหว้ ห้อมล้อม พุทธสอนมาก หมู่คนขอรอยตีนไว้ ชายทเล พุทธเหยียบดิน ทำให้ใหญ่กว่า ๓ เท่า เมื่อวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย พุทธพัสสา ๒๒...”

ถ้าใช้สำนวนในปัจจุบันอ่านได้ดังนี้

“พระปุณณะ อยู่ถ้ำฤษี (เขางู จ.ราชบุรี) ผู้นำพระพุทธเจ้า สู่เกาะคนชาวน้ำ (ชาวเล) หมู่คนน้ำ เกาะแก้ว เข้ากราบไหว้ ห้อมล้อม พระพุทธเจ้าสอนมาก หมู่คนขอรอยพระบาท ไว้ที่ชายทะเล...”
ท่านเจ้าคุณพระราชกวี ได้วินิจฉัยเรื่องนี้ ไว้อีกว่า

“เท่าที่ปรากฏรอยตีนพุทธนี้ ย่อมทรงแสดงให้เห็นหลักฐาน พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระองค์ว่า ได้เสด็จตั้งแต่ใต้สุดถึงเหนือสุดของ ดินแดน “สุวัณณภูมิ” จึงเสด็จเพื่อทรงเหยียบ แสดงรอยพระบาทเป็นประจักษ์พยานไว้ สัจจพันธ์คีรี (จังหวัดสระบุรี) และที่ เกาะแก้ว(เกาะแก้วพิสดาร?) หรือ “นิมมทานที” (ไทยว่า..นัมมะทา) ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมานาน กระทั่งถึงต่างประเทศคือลังกาและชมพูทวีป เพราะคำใน “อรรถกถา” ยืนยันอยู่

 

หนังสือ "พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ" เล่มที่ว่า ก็คือ หนังสือ เล่มข้างล่างนี้ แต่เล่มที่อยู่ในมือผม เป็นฉบับ ที่พิมพ์ใหม่ ปกจึงไม่ได้งดงาม หรือดูเก่าเหมือนเล่มข้างล่างนี้ แต่ "ข้อความมิได้ต่างกัน" มากนัก
<!--MsgFile=2-->

<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

หรือ แม้ใน เว๊บพลังจิต ของเราเอง ที่ กระทู้

"กระทู้สามัคคีทำงาน ~ แปลพระคาถาบูชารอยพระพุทธบาท ณ เกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ต"<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-~-%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%93-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%88-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95.150275/

กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
โดย คุณคณานันท์ ทวีโภค หัวหน้ากลุ่ม​

เรียนพี่น้องทุกๆท่านค่ะ
สืบเนื่องจาก
พี่คณานันท์ได้นำคณะพวกเราไปกราบหลวงปู่ละมัย จ.เพชรบูรณ์
เมื่อวันที่ 21 กย 2551​

จึงได้ทราบข่าว ว่า​

หลวงปู่ละมัย ท่านกำลังสร้าง รอยพระพุทธบาทจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยิงลายละเอียดด้วยเลเซอร์ โดยอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ และจะสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท
ที่มีความยาว 12 เมตร ณ เกาะแก้วพิสดาร จ.ภูเก็ต​

ทั้งนี้ ท่านได้มอบหมายให้พวกเรา ได้ทำงานถวายโดย
ช่วยกันแปลคาถาบูขารอยพระพุทธบาท​

จากภาษาไทย เป็นภาษาต่างๆ
และคณะพวกเราได้อาสา ตั้งทีมแปลเพื่อให้ทุกเชื้อชาติได้มีโอกาสกราบสักการะ รอยพระพุทธบาท เป็นบุญเป็นกุศล​

​

​

ดังนั้น จึงขอใช้กระทู้นี้
เป็นที่ทำงาน และปรึกษาหารึอกัน ของพี่ๆน้องๆ ​

รวมทั้งใช้รวบรวมศัพท์ ด้วยค่ะ​

​

​

หรือครูบาอาจารย์ของผมเองอีกรูปหนึ่ง คือ "หลวงปู่ทองดี อนีโฆ ที่ท่านเอง ก็เชื่อว่า "พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ประเทศไทย" รวมทั้ง "หลวงปู่ละมัย" ที่หลวงปู่ทองดีบอกกับผมว่า "ท่านสามารถยืนยันเรื่องที่ผมค้นคว้าอยู่นี้ได้อีกองค์หนึ่ง" และผมก็ได้กราบหลวงปู่ละมัย ในคราวงานตัดลูกนิมิต วัดใหม่ปลายห้วย จ.พิจิตร เมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่ได้สนทนาเรื่อง "พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ประเทศไทย" เหตุเพราะคนมาทำบุญเยอะมากๆ

ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพทั้งสองรูป นั้น ท่านก็ เชื่อว่า "รอยพระพุทธบาทที่นัมมทานทีอยู่ที่เกาะแก้วพิศดารจังหวัดภูเก็ต"

เอ้า ก็แล้วทำไม ผมจึงไม่เชื่อครูบาอาจารย์ หล่ะ?

 

ถ้าใคร มีหนังสือ "พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ" อยู่ในมือ แล้ว เปิดไปอ่าน เรื่อง "พระพุทธเจ้า พระอัคสาวก และพระสาวกอื่นสู่ปรานชสุนาปรันต (พลิบพลี)" เล่มที่ผมมีอยู่ อยู่หน้า ๓๙๖-๔๐๒ ครับ
แล้ว ลองดู footnote ใน หน้า ๔๐๑ ข้อ ๕ ก็จะรู้ ว่า "ทำไมผมตั้งกระทู้นี้"
ใคร อ่านเจอแล้ว มาพิมพ์เติมไว้ให้เต็มหน่อยครับ จะรีบไปทำงานแล้วว..

 

นมัสการตามรอยพระพุทธบาท วัดเขาน้อย(เก่า)

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#808080 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
รอยพระพุทธบาท วัดเขาน้อยเก่า ซึ่ง มีอยู่ในตามรอยพระพุทธบาท เล่ม 1 ในรอยพระพุทธบาทภาคใต้ นั้นผมได้มีโอกาส ไปทำงานที่หัวหิน จังหวะว่าง คิดไว้ว่าจะมานมัสการรอยพระพุทธบาท
ที่วัดเขาน้อย(เก่า) ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆ กับตลาดปากน้ำ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบขีรีขันธ์ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งใน อ.ปราณบุรี ซึ่ง แถบปราณบุรี ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย และวัดวาอาราม กับสำนักปฏิบัติธรรม
ส่วนวิธีการเดินทางนั้น หากท่านพักที่ ในตัวเมืองหัวหิน ก็สามารถนั่งรถ เมล์ เล็ก ค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดทางครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
จากตัวเมืองหัวหิน ระยะทาง ประมาณ 23 กิโลเมตร จากตัวเมืองหัวหินครับ

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ซึ่งตัววัดนั้น ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ สายเอเชีย เส้นที่ 4 ที่จะตัดตรงไปแยกเข้า อ.หัวหิน และ จ.เพชรบุรี และ กทม. ครับ

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

จากปากทางเดินเข้าไปถึงซุ้มประตูวัด ก็ประมาณ ร้อยกว่าเมตร ได้ครับ


http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
สาธุ ผมขอเล่าต่อครับ จากนั้นผมก็ลองเซียมซีถามพระท่าน ว่าที่นี้มีรอยพระพุทธบาทมากกว่า 1 รอยรึเปล่า ถ้ามีขอให้ออกเป็นเลข 2 คู่ ผลออกมา ได้เลข 22 (ไม่ได้ถ่ายภาพมา) เป้งๆ เลยครับ แต่จากการสอบถามพระที่จำพรรษา ที่นั้น ถ้าเป็นพระใหม่ จะไม่ทราบครับ แต่ก่อนหน้านั้นที่ผมจะเซี่ยมซี่ถาม ผมได้ลองเดินขึ้นไปบนเขา ก็นับจำนวนขันบรรไดไปด้วย ทั้งหมด 199 ขั้น จนถึง โบถ์สด้านบน ครับ แต่ระหว่างทางก็สังเกตุว่ามี มฌฑป อยู่ด้วย แต่ว่าล๊อกกุญแจ เลยสงสัยว่าน่าจะเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท จำลอง แต่ไหงล๊อกกุญแจไว้? ตอนที่ผมเซียมซี่ถามพระท่าน ว่าผมจะได้นมัสการรอยพระพุทธบาทมั้ย? ถ้าได้ขอให้ออกเป็นเลข 9 ผลก็คือออกมาเป็นเลข 9 ตรงๆ เลย ซึ่งจะเอากุญแจเปิดได้ต้องรอท่านเจ้าอาวาส วัดเขาน้อย ซึ่งท่านไปรับนิมนต์ ข้างนอกพอดี เลยต้องนั่งรอภายในวัด ภนวกกับว่าผมมีงานตอนบ่าย เวลายิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็.......

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ภาพนี้ทางขึ้นบนเขาไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทจำลองครับ พระที่จำพรรษามานานท่านบอกว่า จำลองมาจาก รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ผมคิดว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่รอยเดียว หากมีโอกาส เราคงได้ไปตามหากันบนเขาครับ ซึ่งผมคิดว่ามีและมั่นใจมากจากการเซี่ยมซี เพราะไม่ใช่มีแค่รอยจำลองเป็นแน่

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
พอขึ้นมาบนสุดจะเป็นโบถ์สครับสวยงามทีเดียว และมีวิวให้ชมทิวทัศน์มองออกไปเป็น ภูเขา มากมายครับ

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120&page=2

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#f2f9fd align=middle><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
จากนั้นผมก็ กราบไว้พระ สวดมนต์ขอ ขมาต่อพระรัตนไตร และอธิษฐาน ขอให้วัดนี้เจริญกว่านี้ ให้สถานที่ ที่มีรอยพระพุทธบาท แม้นจะเป็นแบบจำลองก็ตามให้สวยกว่านี้ ไม่รกหรือสกปรกแบบนี้ หากเราๆ ท่านๆ มีโอกาส น่าจะได้ร่วมทำบุญกันไปช่วยทางวัดทำความสะอาดครับ

โมทนาสาธุ โอกาสหน้าหากมีโอกาสได้ไปหัวหินอีก ผมจะไปเขาตะเกียบครับ ซึ่งมีรอยพระพุทธบาทสองแห่งด้วยกัน และที่หัวหินก็มี อีกหลายที่ครับ โอกาสนี้ขอจบการพาทุกท่าน ทำบุญ ถือว่าทริปนี้ของผม เป็นการสำรวจ ย้อนรอย การเดินทางตามรอยพระพุทธบาทของหลวงพี่ชัยวัฒร์ ล่ะกันครับ สาธุ และหากข้อมูลใดๆ ที่โพสไปนี้ผิดพลาดประการใดขออภัยทุกท่าน ใน ณ ที่นี่ด้วยครับ

ขอขอบคุณ
ท่านพระครูอาทรคีรีรักษ์ เจ้าคณะอำเภอปราณบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาน้อยองค์ปัจจุบัน มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

http://www.danpranipparn.com/web/board/show.php?Category=tamroiphra&No=1120&page=2

 

ขอบคุณ ท่านหนุมาน ผู้นำสาร ที่นานๆ จะเห็นพี่ท่าน post ข้อความยาวๆ และเป็น ข้อมูล ที่ ผมยังไม่เคยได้อ่านด้วย พยายม searh หาข้อมูลเหมือนกัน แต่ไม่เจออย่างที่พี่ท่าน นำมา post นี้ เลย ขอบคุณจริงๆ ครับ

เรื่องรอยพระพุทธบาทที่เขาน้อย ริมฝั่งแม่น้ำปราณ อาจจะเชื่อมโยง กับ "ตำนานลอยกระทง" ของ สุโขทัย ดังย่อๆ มานี้ว่า

...ในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือตำนานนางนพมาศ ซึ่งเป็นพระสนมเอกของพระมหาธรรมราชาลิไทยหรือพระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย ได้กล่าวถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองว่าเป็นเวลาเสด็จประพาสลำน้ำตามพระราชพิธีในเวลากลางคืน และได้มีรับสั่งให้บรรดาพระสนมนางในทั้งหลายตกแต่งกระทงประดับดอกไม้ธูปเทียนนำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง ในคราวนั้นท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือนางนพมาศ พระสนมเอกก็ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษที่บานในเวลากลางคืนเพียงปีละครั้งในวันดังกล่าว สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีป ลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นก็รับสั่งถามถึงความหมาย นางก็ได้ทูลอธิบายจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า “ แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน ๑๒ ให้นำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน ” ...

จาก...http://ลอยกระทง.co.cc/loykrathong/

ซึ่ง เมื่อพิจารณา ทางภูมิศาสตร์ ที่ตั้ง แล้ว จะมีความสัมพันธ์กันยิ่งนัก <!--MsgEdited=7-->

<!--MsgFile=7-->

<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

เหตุผลหนึ่งที่ สำคัญ ที่ผมไม่คิดว่า "รอยพระพุทธบาทที่ เกาะแก้วพิศดาร" ที่จังหวัดภูเก็ต จะเป็น รอยพระพุทธบาท ที่ริม แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งอยู่ใน เขตชมพูทวีป ก็เพราะว่า

"ดินแดนจังหวัดภูเก็ต ในปัจุบัน" ในการศึกษา ค้นคว้า ของผม นับเนื่องเป็น เขต "ลังกาทวีป" นั่นเอง

ซึ่ง ใน "ลังกาทวีป" นี้ จะมี รอยพระพุทธบาทอยู่ ๒ รอย ในจำนวน ๕ รอย ที่อยู่ในคาถาบทสวด ที่ว่า ..สุวณฺณมาลิเก สุวรรณปพฺพเต สุมณกูเฏ โยนกปุเร นมฺมทาย นทิยา ปญฺจปาทวรํ ฐานํ อหํ วนฺทามิ ทูรโต...

ซึ่ง จะตรงกับ ที่ "หลวงจีนฟาเหียน" บันทึกไว้ ในบันทึกการเดินทางของท่าน ที่ว่า..

"...
เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาเพื่อดัดนิสัยพญานาคที่ดุร้ายยังประเทศนี้ พระองค์ได้แสดงปาฏิหาริย์ด้วยการประทับรอยพระพุทธบาทรอยหนึ่งไว้ที่ทางเหนือของเมืองหลวง และอีกรอยหนึ่งอยู่บนยอดเขา รอยพระพุทธบาททั้งสองนี้อยู่ห่างกัน ๑๕ โยชน์ เบื้องบนเหนือรอยพระพุทธบาทที่อยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงนี้ พระมหากษัตริย์ได้ทรงสร้างสถูปใหญ่สูง ๔๐๐ ศอก ครอบรอยพระพุทธบาทไว้ สถูปองค์นี้ได้รับการบุด้วยแผ่นทองคำและเงิน และตกแต่งด้วยอัญมณีล้ำค่านานาชนิด ข้างๆ ของสถูปนั้น ในเวลาต่อมาพระองค์ได้สร้างเป็นวัดขึ้นมา เรียกว่า อภัยคีรีมหาวิหาร ซึ่งในปัจจุบันนี้มีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่ประมาณ ๕,๐๐๐ รูป ที่นั่นมีหอพระพุทธ ซึ่งได้รับการตกแต่งด้วยแผ่นทองคำและเงินที่ได้รับการสลักเสลาลวดลายและฝังด้วยอัญมณีล้ำค่า ๗ ชนิด ซึ่งในหอพระพุทธนี้มี พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากหยกเขียว มีความสูงมากกว่า ๒๐ ศอก ส่องแสงสุกใสเป็นประกาย และมีความสง่างามเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาโดยใช้คำพูดได้..."

ซึ่งรอยหนึ่ง ที่อยู่ทางเหนือ ของเมืองอนุราธปุระ ก็คือ รอยพระพุทธบาทที่ เจดีย์สุวรรณมาลิกเจดีย์ สร้างครอบไว้อยู่ที่ เขาพิพัทธสิงห์ แขวงเมืองพัทลุง (Pa-tha-lung-ka) ปัจจุบัน คือ วัดพะโคะ จังหวัด สงขลา
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
อีกรอยหนึ่ง ที่อยู่ บนยอดเขา ห่างกัน ๑๕ โยชน์ หรือ ๒๔๐ กิโลเมตร ตามรัศมีแผนที่ แล้ว ก็จะตก อยู่ บนเกาะภูเก็ต นี่เอง ครับ ซึ่ง บนเกาะภูเก็ต มีเขาที่สูงที่สุด คือ "เขาไม้เท้าสิบสอง" อยู่ในเขตอำเภอกะทู้ ซึ่ง อาจจะมี "รอยพระพุทธบาท" ที่เรียกขานใน บทสวดว่า "สุมณกูเฏ" ที่ พระสงฆ์ มอญ หัวเมืองเหนือ หรือจากสุโขทัย เดินทาง มาสักการะ และจำลอง ไปไว้ที่ ชมพูทวีป ในสมัย สุโขทัย ดังปรากฏ ในแผนที่โบราณ ในสมุดภาพไตรภูมิพระร่วง หรือ ใน จารึกกัลยาณี ที่ประเทศพม่า

 

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าชมพูทวีปอยู่ที่ไทย พม่า ลาว กัมพูชา
ลังกาทวีปเองก็อยู่ที่นครศรีธรรมราช จากที่ได้มีสืบค้นหาหนังสือและตำนาน
ต่างๆ ทั้งหนังสือพระเจ้า 500 ชาติของพระธรรมเจดีย์ (ปาน)
หนังสือพุทธสาสนสุวัณณภูมิ ของเจ้าคุณอ่ำ วัดโสมนัส รวมทั้งตำนานพระเจ้าเลียบโลก ตำนานพระอุรังคธาตุ ฯลฯ แต่ที่ยืนยันแน่ชัดว่าอินเดียไม่ใช่ชมพูทวีปก็คือสถานที่ตั้งของโบราณสถานนั้นผิดตำแหน่งจากที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกอย่างชัดเจน เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม คิดเอาเองว่าอินเดียเป็นชมพูทวีป ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎกแม้แต่น้อย น่าเสียดายที่เราไม่มีกำลังไปขัดแยังกับอังกฤษที่เป็นมหาอำนาจในวันนั้น

 

ผมขอสนับสนุนแนวคิดของคุณเอก แต่ขาดที่เราไม่มีหลักฐานทางโบราณคดีมาอ้างอิงเหมือนที่เซอร์คันนิ่งแฮมกล่าวอ้าง ถ้าคิดเอาคร่าวๆ ก็พอจะได้สถานที่ประสูติและปรินิพพาน แต่สถานที่ตรัสรู้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ ซึ่งในหนังสือพระเจ้า 500 ชาติ ได้กล่าวว่าน่าจะอยู่ริมแม่อิรวดี ของพม่า

 

แผนที่ จากสมุดภาพไตรภูมิ ฉบับ กรุงธนบุรี ปัจจุบันอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ
หน้าตา เป็นอย่างนี้ครับ
<!--MsgFile=12-->

<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

กลับมาปิดประเด็นครับ หลังจากเมื่อเช้า เปิดประเด็นไว้ และ เพิ่มเติมข้อมูล ที่ได้เพิ่มเติม
เพราะ ยังไม่มีใคร มาช่วยเติมเต็ม เลยต้องกลับมาเติมเอง..

อาศัยข้อมูลอะไร ที่ผม เปิดประเด็นนี้ ก็คือ อาศัย footnote ใน ท้ายหนังสือ "พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ" อยู่ในมือ แล้ว เปิดไปอ่าน เรื่อง "พระพุทธเจ้า พระอัคสาวก และพระสาวกอื่นสู่ปรานชสุนาปรันต (พลิบพลี)" เล่มที่ผมมีอยู่ อยู่หน้า ๓๙๖-๔๐๒ ครับแล้ว ลองดู footnote ใน หน้า ๔๐๑ ข้อ ๕ ซึ่งท่านเจ้าคุณอ่ำ หรืออดีตพระราชกวี ท่านเขียนไว้ว่า

"...วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๑๖ กับพระครูพิศิษฐ์ศิลปาคม พร้อมชาวปราณได้พาขึ้นไป ณ เขาน้อย มีรอยตะแคงลึกลงไป เป็นรอยเท้าขวา ว่ากันว่าเป็น รอย รอย ณ นิมมทานี้ มีต้นจันทน์ผา มีเจดีย์ชำรุด ได้พบแผ่นกระเบื้องมีรอยจารึกว่า ปุณณภิกขุ ยังมีศาลพระเจ้าทับไทยทอง ได้เล่าบอกทั่วไปแล้ว และจะรื้อฟื้นขึ้น จะอย่างไรก็ดีของเหล่านี้มีอยู่แล้วแต่โบราณ ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นเรื่องของคนปัจจุบัน "ไม่เชื่อ" ทำไมจึงทำใจได้ "เชื่อ" ทำจึงทำไม่ได้ ว่าโกหกและปลอม ทำไมจึงว่ากันได้ "ของจริง" ของ "แท้" ทำไมจึงพูดไม่ได้ ของและสถานที่กับหลักฐานมีประจักษ์ชัดอยู่แล้ว"

เป็นไงครับ เมื่อได้อ่าน ก็จะรู้ ว่า "ทำไมผมตั้งกระทู้นี้"

 

ซึ่งผมไม่รู้ว่า เขาน้อย ที่ ท่านเจ้าคุณอ่ำ เดินทางไป เมื่อ ปี ๒๕๑๖ กับวัดเขาน้อยที่ พี่หนุมาน ผู้นำสาร นำมาบอกกล่าว จะเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า?

ใครจะบอกได้บ้างเอ่ย

 

เข้ามาเก็บข้อมูลดีๆครับผม