ยึดติดมากระวังจะเป็นเปรตเรื่องเล่าจากหลวงพ่อจรัญ

หลาย ๆ ท่านคงจะรู้สึกผิดหวังทุกข์ใจจากคนที่รัก ของที่รัก หรือความเจ็บปวดรวดร้าวที่ถูกกระทำโดยใครบางคน สิ่งเหล่านี้เรียกว่า " ยึดติด"

การยึดติด ภาษาพระท่านว่า อุปาทาน คือ การยึดมั่นถือมั่นทางจิตใจ เช่น
ยึดมั่นถือมั่นในเบญจขันธ์ คือร่างกายและจิตใจรวมกันว่าเป็น"ตัวตน" และยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ถูกใจ อันมาเกี่ยวข้องด้วยว่าเป็น"ของตน"
หรือที่ละเอียดลงไปกว่านั้นก็คือยึดถือจิตส่วนหนึ่งว่าเป็น"ตัวเรา" แล้วยึดถือเอารูปร่างกาย ความรู้สึก ความจำ และความนึกคิด 4 อย่างนี้ว่าเป็น"ของเรา"



การยึดติดเป็นยาพิษทางใจขั้นรุนแรง เมื่อสะสมเข้ามาก ๆ ก็จะกลายเป็นโรคที่สุดฮิตของคนปัจจุบันคือโรคซึมเศร้า ซ้ำร้ายเมื่อเกิดเสียชีวิตในขณะนั้นก็จะไปเกิดในอบายภูมิ เหมือนเรื่องเปรตทวงหนี้ ที่หลวงพ่อจรัญเมตตาเล่าให้ฟังว่า

ในปี 2517 หลวงพ่อจรัญท่านได้รับอาราธนาไปงานพุทธาภิเษกที่วัดโพธาราม จังหวัดสุโขทัย เมื่อไปถึงท่านเจอโยมคนหนึ่งเป็นหมอรักษาคนบ้า ท่านหมอบอกว่าได้ยามาจากพระผีบอกท่านเล่าให้ฟังว่า คืนหนึ่งมีผีพระมาเข้าฝันเป็นพระรูปร่างใหญ่โต ห่มผ้าขาดร่องแร่ง อายุประมาณ 70 ปี มาจากสิงห์บุรี บอกว่าเดินทางมาทวงหนี้ที่สุโขทัย ทั้งๆ ที่ตัวเองมรณภาพไปแล้ว 50-60 ปี แต่จิตก่อนตายคิดถึงแต่หนี้ที่เขายืมไปพอตายไปก็กลายเป็นเปรตมาทวงหนี้เขาตลอดเวลา ดังนั้นการหัดปลอยวางไม่ยึดติดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก



ฉะนั้นเรามาหาวิธีฝึกละการยึดติดแบบง่าย ๆ กันดีกว่า โดยเป็นวิธีละการยึดติดแบบง่าย ๆ ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงปู่ท่านสอนว่าเวลาเห็นหรือใช้อะไรให้ “บังสุกุล” คือ “สละ” เช่นเมื่อใช้รองเท้าเราก็คิดในใจว่า อิมังบังสุกุล เราสละรองเท้านี้ ทำบ่อย ๆ ใจเราก็จะคลายลง เวลามีอะไรมากระทบจิตใจเราก็ไม่ต้องเสียใจมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก

การยึดติดคือยาพิษทางจิตใจ
8 เหตุผลที่ว่า ทำไมเราเลือกที่จะ ไม่ยึดติด
เมื่อพระกลายเป็นเปรต เรื่องเล่าโดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
อิมังบังสุกุล - สละลดอาการของกูหลวงตาม้า

ขอบคุณรูปภาพจาก
รูปภาพเปรตจากวิกิ
รูปภาพหลวงพ่อจรัยญจากวิกิ
รูปภาพหลวงปู่ดู่จากwinnews