มาศึกษาคำว่า "วิชชาธรรมกาย" กันเถอะ

คำว่า "วิชชาธรรมกาย" ประกอบไปด้วย ๒ คำ คือคำว่า "วิชชา" กับคำว่า "ธรรมกาย"

"วิชชา" หมายถึง ความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ<wbr>้ง ความเห็นที่เกิดจากจิตที่บริสุท<wbr>ธิ์จากกิเลสทั้งหลายแล้ว เกิดปัญญาบริสุทธิ์ รู้เห็นไปตามความเป็นจริง รู้ทั่วถึง รู้พร้อม แล้วก็รู้ไปสู่เป้าหมาย ถ้าเราศึกษาคงเคยได้ยินคำว่า อภิญญายะ สัมโพธายะ นิพพานายะ คือรู้ได้ทั่วถึง รู้พร้อม รู้ไปตามความเป็นจริงและถูกต้อง<wbr> เหมือนของที่อยู่ในที่มืดดึงมาอ<wbr>ยู่กลางแจ้งเราก็จะเห็นชัดเจน เช่น เชือกเปียกน้ำ ถ้าอยู่ในที่มืดๆ บางทีเราอาจจะคิดว่าเป็นงู หรือ เป็นตัวอะไรที่มันยาวๆ หรืออาจจะเป็นเชือก ต้องใช้สมมติฐานด้นเดา ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ว่าเมื่อลากมาอยู่กลางแจ้งก็<wbr>รู้ชัดว่า นี่แค่เชือกเปียกน้ำเท่านั้น

คำว่า "ธรรมกาย" ในพจนานุกรม แปลว่า หมวดหมู่แห่งธรรม เขาแปลได้แค่นั้น คือ ธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์รวมประชุมกันเรียกว<wbr>่า หมวดหมู่แห่งธรรม
มีนักศึกษาชาวตะวันตกค้นคว้ารวบ<wbr>รวมความหมายของคำว่า "ธรรม" ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกได้ ๕๐ กว่าความหมาย มีความหมายหนึ่งที่น่าสนใจ เขาบอกว่า ธรรม มีลักษณะเป็นดวงกลมๆ ใสๆ สว่างๆ และมีตัวตน

เพราะฉะนั้น "ธรรมกาย" คือ กายที่ประกอบไปด้วยธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ รวมประชุมเกิดเป็นก้อนกาย เป็นกายที่มีลักษณะมหาบุรุษครบถ<wbr>้วนทุกประการ

เพราะฉะนั้น "วิชชาธรรมกาย" ก็คือความรู้แจ้งที่เกิดจากการเ<wbr>ห็นแจ้งด้วยธรรมจักขุ แล้วก็รู้ได้ด้วยญาณทัสสนะของธร<wbr>รมกายนั่นเอง นี่เป็นเรื่องสำคัญทีเดียว

วิชชาธรรมกายเกิดขึ้นได้ด้วยธรร<wbr>มกาย เป็นที่ประชุมรวมอยู่ตรงนั้น มีอยู่ในกลางกายของมนุษย์ทุกคน มีมาดั้งเดิมตั้งแต่ดึกดำบรรพ์โ<wbr>น้น เริ่มต้นเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ

การที่เราเคารพกราบไหว้บูชาพระส<wbr>ัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะ พระองค์ทรงบรรลุวิชชาธรรมกายก่อ<wbr>น แล้วก็ได้ทรงนำมาเปิดเผยกระทั่ง<wbr>มีผู้ตรัสรู้ตามพระองค์ เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมมากมาย<wbr>ทีเดียว แต่หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน<wbr>ไปแล้ว ๕๐๐ ปี ความรู้ยิ่งนี้ก็หายไปคงเหลือไว<wbr>้แต่ชื่อ คือ คำว่า "ธรรมกาย" ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ทางพระพุทธศา<wbr>สนาในนิกายต่างๆ ทั้งวัชรยาน มหายาน และเถรวาท แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ธรรมกายนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร<wbr>
จนกระทั่งเมื่อ ๘๔ ปีที่แล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านได้สละชีวิตปฏิบัติธรรมกระท<wbr>ั่งเข้าถึงพระธรรมกาย ณ วัดโบสถ์(บน) ต.บางคูเวียง จ.นนทบุรี ความลับนี้จึงได้เปิดเผยออกมาสู<wbr>่ชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านบวชเมื่ออายุ ๒๒ ปี บวชได้หนึ่งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ก็ปฏิบัติธรรมแล้วศึกษาทางด้านป<wbr>ริยัติ ศึกษาหมดทุกสำนักแต่ว่าไม่ได้สอ<wbr>บเป็นมหาเปรียญ รู้ว่าสำนักไหนมีครูดี ชำนาญใน พระไตรปิฎกท่านก็จะไปศึกษาทุกหน<wbr>ทุกแห่ง ศึกษาด้วยตัวเองด้วย จากครูบาอาจารย์ตามสำนักต่างๆ ด้วย
แล้วในที่สุดท่านก็สรุปว่า ความรู้จะสมบูรณ์ได้จะต้องประกอ<wbr>บไปด้วย ๓ ป. คือ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ปริยัติก็คือการศึกษาด้านทฤษฎีต<wbr>้องอ่านต้องศึกษา ท่านอ่านหมดในพระไตรปิฎก แล้วปฏิบัติด้วยตนเองเรื่อยมา ไม่ว่างเว้นในการปฏิบัติเลยแม้แ<wbr>ต่ วันเดียว รู้ข่าวคราวว่าครูไหนสำนักไหนมี<wbr>การปฏิบัติ ก็ยอมตนเข้าไป เป็นศิษย์ไปศึกษา ได้เข้าถึงที่สุดแห่งความรู้ของ<wbr>ครูบาอาจารย์ ซึ่งได้แค่ดวงสว่างปรากฏอยู่แล้<wbr>วครูก็ชวนท่านช่วยกันสั่งสอนศิษ<wbr>ย์เช่นเดียวกับครูบาอาจารย์ของท<wbr>่าน

แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้<wbr>ำมีความคิดว่าความรู้ แค่นี้เหมือนหางอึ่งนิดเดียว จะไปเป็นครูเขาได้อย่างไร ท่านก็กราบลามาด้วยความเคารพ แล้วก็แวะเวียนไปศึกษาวิธีการต่<wbr>างๆ ที่มีปรากฏอยู่ในวิสุทธิมรรค ๔๐ วิธีก็ศึกษากันมาทั่วหมดทุกสำนั<wbr>ก
แต่ยังไม่จุใจเพราะท่านมีความรู<wbr>้สึกว่า ยังไม่ถึงจุดของความรู้ตามที่ได<wbr>้ศึกษาภาคปริยัติมา ในที่สุด หลังจากที่ศึกษาทั้งทฤษฎีและปฏิ<wbr>บัติตามสำนักต่างๆ มาจนย่างเข้าพรรษาที่ ๑๑ ของการบวช ในกลางพรรษาขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ท่านได้ตัดสินใจอย่าง เด็ดขาดว่า วันนี้เป็นไงเป็นกัน ถ้าหากว่าไม่ได้บรรลุธรรมที่พระ<wbr>สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุจะไม่ล<wbr>ุกจากที่ จะนั่งปล่อยชีวิตอย่างนี้เรื่อย<wbr>ไป แม้เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ถ้าไม่รู้ไม่เห็นธรรมของพระสัมม<wbr>าสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ตายเถอะ นี่เป็นความอัศจรรย์ของภิกษุหนุ<wbr>่มวัย ๓๓ ปี ซึ่งยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเ<wbr>ลยเกี่ยวกับหนทางไปนิพพาน ได้ศึกษาแต่พระปริยัติ

แล้วในที่สุดวันนั้นตามประวัติท<wbr>ี่ท่านได้บันทึกเอาไว้ ท่านได้ทำความเพียรที่วัดโบสถ์(<wbr>บน) บางคูเวียง ปัจจุบันนี้ในโบสถ์นั้นยังมีพระ<wbr>พุทธรูปองค์ดั้งเดิมอยู่ ที่นั่งก็ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่ราบเรียบ ท่านเลือกเอามุมหนึ่งเป็นสถานที<wbr>่นั่งสมาธิตัดสินใจยอมสละแม้ชีว<wbr>ิต เอานิ้วจุ่มน้ำมันก๊าดเพื่อจะขี<wbr>ดวงกันมดที่ไต่ตามช่องแตกของพื้<wbr>นหินไม่ให้มารบกวน แต่ขีดไปได้ครึ่งหนึ่งท่านก็นึก<wbr>ละอายใจว่า สละชีวิตแล้วยังมากลัวมดอีกจึงต<wbr>ัดสินใจหลับตาปล่อยชีวิตไปเลย ท่านบอกว่า ค่อนคืนทีเดียวจึงได้บรรลุถึงธร<wbr>รมกาย บรรลุถึงธรรมกายแล้วท่านก็บอก โอ้! มันยากอย่างนี้นี่เอง มันต้องดับก่อนแล้วจึงเกิด คือใจต้องหยุดต้องนิ่งเสียก่อน ถูกส่วนถึงจะเห็นไปตามลำดับ จนกระทั่งถึงกายธรรม พอถึงกายธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดี<wbr>ยวกันเข้าก็รู้ว่านี่แหละ คือ กายธรรม เป็นกายตรัสรู้ธรรมอยู่ศูนย์กลา<wbr>งกายฐานที่ ๗ ท่านตรวจตราดูทบทวนดูอย่างดีทีเ<wbr>ดียว จนกระทั่งมั่นใจว่า นี่ถูกทาง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็ทบทวนทำความเพียรไปทั้งคื<wbr>นจนกระทั่งติดอยู่ในกลางท่าน แล้วต่อมาท่านเห็นในญาณทัสสนะว่<wbr>า จะมีผู้บรรลุธรรมกายตามท่านอยู่<wbr>ที่วัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม

ภายในพรรษานั้นท่านทบทวนแล้วก็ศ<wbr>ึกษาวิชชาธรรมกาย ด้วยธรรมกายภายในกลางกายเรื่อยไ<wbr>ป ในที่สุดออกพรรษาแล้วก็ได้ไปที่<wbr>วัดบางปลา มีผู้บรรลุธรรมตามท่าน เป็นพระภิกษุ ๓ รูป ฆราวาส ๔ ท่าน ตามที่ท่านได้เห็นในญาณทัสสนะ แล้วก็เริ่มเผยแผ่ธรรมเรื่อยมาจ<wbr>นกระทั่งได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดป<wbr>ากน้ำ ภาษีเจริญ

เพราะฉะนั้น การที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้ ค้นพบ "วิชชาธรรมกาย" ทำให้พวกเราทั้งหลายรู้จัก "ธรรมกาย" ว่ามีอยู่ในกลางกายของมนุษย์ทุก<wbr>คน เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด และเป็นเป้าหมายของการเกิดมาเป็<wbr>นมนุษย์ ที่ต่างเกิดมาก็เพื่อแสวงหาธรรม<wbr>กาย เพราะฉะนั้นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงเป็นบุคคลสำคัญที่มีพระคุณต่<wbr>อชาวโลกและเป็นบุคคลที่ควรแก่กา<wbr>รเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง



...........โอวาทพระราชภาว<wbr>นาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย).........
...............วันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔.....

 

อนุโมทนาครับ ขอบคุณ จขกท ด้วยครับ

นมัสการ หลวงพ่อสดครับ

 

รวมพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
คลิ๊กลิ้งค์นี้ http://khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C5.html​

การฝึกวิชชาธรรมกายแนวประยุกต์ กับการเห็นธรรมที่ไม่ถูกตรงหลักวิชชาเป็นไฉน..?

http://khunsamatha.fix.gs/index.php?topic=303.0



ห้องสนทนาวิชชาธรรมกาย สำหรับท่านผู้ใฝ่ใจในหลักวิชชา ​

http://khunsamatha.fix.gs/index.php​