พ่อ....ของแผ่นดิน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย คุณมณฑ์, 5 ตุลาคม 2009.

  1. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    วันนี้ดิฉัน เข้ามาหาอ่านอะไร ที่เป็นสาระ พร้อมๆกับฟังบทสวดมนต์ไปด้วย บังเอิญ ได้ไป อ่านกระทู้หนึ่ง ซึ่งเธอนำข้อความดีๆ มาลง ดิฉันจึงขอนำข้อความดีๆ นั้น มาลง ในเวปนี้ เพื่อให้ทุกๆท่านได้ซาบซึ้ง กับการที่ได้เกิด เป็นคนไทย และ ได้เกิดในแผ่นดิน ......ของ พ่อ พระองค์ นี้ ดิฉัน เชื่อว่า ทุกๆท่าน จะต้อง ซาบซึ้ง ใน หัวใจ อย่างที่ดิฉันรู้สึก เช่นกันค่ะ ขอกราบ แทบเท้า ท่าน ด้วยความ จงรักภักดี ด้วยหัวใจ ค่ะ

    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

    ที่มา...หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เมื่อหลายปีก่อน(ประมาณสัก 13ปี)มีนักธุรกิจคนหนึ่งไปหาอาตมาที่วัดสุทัศน์ฯเป็นนักธุรกิจที่ทำงานกับคุณเจริญ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เมื่อพบกัน ท่านผู้นี้ก็ได้แจ้งความประสงค์ของการมาพบและเล่าเรื่องที่เป็นจุดประสงค์ ดังนี้....

    "ท่านคงพอจะจำผมได้นะครับ เราเคยพบกันที่บ้านของ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ท่านฟังดังนี้ว่า เมื่อก่อนผมเป็นครูสอน วิชาภูมิศาสตร์ และวิชาประวัติศาสตร์ ปกติผมต้องไปค้นคว้าหาข้อมูลในหอสมุดแห่งชาติต่อมา ก็มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งผูกเปีย ๒ ข้าง เข้าไปหาข้อมูลอย่างจริงจัง ว่างก็สนทนากันถึงเรื่องวิชาการ...

    อยู่มาวันหนึ่งนักเรียนหญิงคนนั้นก็ชวนผมไปเที่ยวบ้านโดยบอกว่าจะให้พ่อเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ ในฐานะที่ให้ความรู้ด้านวิชาการ โดยนัดแนะกันที่พระราชวังดุสิต สวนจิตรลดา โดยเธอบอกว่าเมื่อเข้าประตูที่๑ แล้วขอให้บอกแก่คนเฝ้าประตูด้วยคำพูดนี้ (เป็นคำเฉพาะ)...

    ครั้นถึงวันนัดหมายผมก็เดินทางไปโดยแท๊กซี่ เมื่อเข้าประตูผมก็มิได้สงสัย คงบอกเจ้าหน้าที่ตามนั้น ครั้นถึงขั้นที่ ๒ ผมก็บอกตามนั้นอีก เจ้าหน้าที่ก็อัธยาศัยดี ให้ความเคารพผมอย่างยิ่ง แต่พอถึงขั้นที่๓ ผมก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่า...แท้ที่จริงเด็กผู้หญิงคนนั้นคือ "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ซึ่งตอนนั้นยังมิได้เฉลิมพระยศนี้...

    ท่านครับ พอผมนึกออกก็เริ่มสั่นแล้ว แต่เหตุที่ผมนึกไม่ออกนั้น เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าฟ้าจะสนพระทัยในวิชาการอย่างจริงจัง เวลาค้นคว้าก็ทรงสืบค้นด้วยพระองค์เองทุกอย่าง ทรงค้นคว้าและจดจำอย่างขมีขมันโดยมิได้มีข้าราชบริพารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระองค์ และเวลาที่ทรงสนทนาก็ให้ความนับถือคู่สนทนา ยิ่งรู้ว่าผมเป็นครูสอนวิชาดังกล่าว...

    เมื่อผมรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ "สมเด็จพระเทพฯ" ผมก็ประหม่า และแล้วรถแท๊กซี่ก็ถึงที่นัดพบ สักครู่พระองค์ก็เสด็จออกมาแล้วตรัสปฎิสันถาร ถึงตอนนี้ผมก็ก้มลงกราบกับพื้น และที่ทำให้ผมยิ่งสั่นยิ่งขึ้นก็คือตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณพ่อของเด็กผู้หญิงคนนี้คือ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"...

    ท่านครับ สักครู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เสด็จออกมาทรงมีพระพักตร์ที่ยิ้มแย้มแล้วตรัสว่า "เห็นลูกสาวบอกว่าเป็นเพื่อนกัน" เมื่อพระองค์ตรัสดังนี้ ผมก้มลงกราบด้วยความประหม่าเป็นที่สุดแล้วกราบบังคมทูลว่า "มิเป็นการบังอาจ พระพุทธเจ้าข้า"...

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตรัสว่า ขอให้ทำตัวตามปกติไม่ต้องประหม่าหรือกลัวแต่อย่างใด พระองค์ตรัสขอบใจที่ได้เป็นเพื่อนสนทนาในวิชาการดังกล่าว

    จากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่า "อันที่จริงก็มีผู้อยากขอเข้าเฝ้าฯเป็นจำนวนมาก บางรายก็ขอนำเงินขึ้นทูลเกล้าถวาย แต่เราก็ไม่สามารถจะรับเงินของบางคนได้ เราจะรับเงินของเขาได้อย่างไร ในเมื่อเงินที่เขานำมาถวายเรานั้นเป็นเงินที่เกิดจากการขายแผ่นดินของเรา เราจึงรับเงินนั้นไม่ได้...ถ้าจะถามพระราชาอย่างเราว่า พระราชาอย่างเราต้องการอะไร "เราก็ขอตอบว่า...พระราชาอย่างเราต้องการคนที่ซื่อสัตย์ เพราะคนที่ซื่อสัตย์ คือ สมบัติของพระราชาอย่างเรา"...

    ท่านครับ ผมก้มลงกราบถวายบังคมพระองค์อีกครั้ง ด้วยความซาบซึ้งน้ำตาไหลในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้แก่ ครูสอนหนังสือเล็กๆคนหนึ่ง พระราชดำรัสของพระองค์มีคุณค่ายิ่งต่อชีวิตของผม จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานเลี้ยง ก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารที่ผมรับประทานแล้วอิ่มตลอดชีวิต...

    ท่านครับ จากวันนั้นมา ชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ผมเองก็มิได้รู้ว่าทำไมชีวิตของผมซึ่งเป็นครูต้องเปลี่ยนแปลงงานที่ทำโดยมิได้ตั้งใจ ชีวิตเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ แต่พระราชดำรัสที่พระองค์ตรัสไว้นั้นจารึกอยู่ในใจผมเสมอมา...

    ผมอยากจะเรียนท่านให้ทราบเพียงเท่านี้แหละครับ ถ้าท่านจะกรุณานำไปเล่าให้คนทั้งหลายได้รับทราบ จะเป็นลาภของคนที่ฟัง เขาจะได้รู้ว่าพวกเขาควรทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่า เป็นคนของพระราชา อาจารย์ท่านนี้เมื่อเล่าจบก็ลากลับด้วยสีหน้าที่อิ่มสุขและน้ำตาที่คลอเบ้าตา มิใช่เพียงอาจารย์ท่านนี้ที่อิ่มสุขเท่านั้น อาตมาเองซึ่งเป็นผู้ฟังก็อิ่มสุขน้ำตาคลอเบ้าเช่นเดียวกัน บทความของ พระราชวิจิตรปฎิภาณ วัดสุทัศน์
     
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,667
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ทรงพระเจริญ
    ทรงพระเจริญ
    ทรงพระเจริญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2009
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ...
    ดิฉันตั้งจิตอธิษฐาน..ขอรับใช้พระองค์ท่านและแผ่นดินไทยด้วยชีวิตค่ะ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...