เรื่องเด่น พุทธศาสนาหยั่งรากในต่างแดน รัฐบาลสวีเดน อุปถัมภ์พุทธศาสนา! สร้างตึกถวายพระไทยในสวีเดน แด่ “พระวิเทศปุญญาภรณ์” เพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาต่อไป

ตามที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้จัดพิธีถวายปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ พระวิเทศปุญญาภรณ์ พระธรรมทูตไทยในประเทศสวีเดน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์วัดพุทธารามทั้ง 5 สาขาในประเทศสวีเดน และเป็นกรรมการบริหารสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป และเป็นทูตสันติภาพแห่งประเทศสวีเดน และรางวัลทูตสันติภาพอีกหลายสถาบัน และเจ้าของหนังสือ คู่มือการเดินทางไปต่างประเทศของพระสงฆ์ และล่าสุดได้รับมอบหมายให้จัดงาน "World Peace International Stockholm in Sweden" ในปีหน้าอย่างเป็นทางการที่ประเทศสวีเดนนั้น



ในการนี้เฟซบุ๊ก"Banjob Bannaruji - บ้านบรรณรุจิ" ของร.ท.,ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้โพสต์ข้อความว่า


"เจ้าคุณสวีเดนกลับมาไทยอีกครั้ง ม.รามถวายปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ประกาศศักดาพระธรรมทูตไทย "จะทำตึก 'สีทอง'ที่รัฐบาลสวีเดนถวาย ให้เป็นศูนย์กลางกัมมัฏฐานพุทธสำหรับคนทั่วโลก"




@ หลังจากมาไทยไม่กี่วันเพื่อประชุม Peace Conference ร่วมกับองค์กรสันติภาพโลก ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อ 12-13 มิ.ย.2560 ในนามพระธรรมทูตไทยและในนามทางการสวีเดนแล้วต้องรีบกลับสวีเดนด่วนเพื่อเคลียร์งานคณะสงฆ์ ขณะนี้ได้กลับมาไทยอีกครั้งเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ม.รามคำแหง ถวาย


@ เจ้าคุณสวีเดน หรือ พระวิเทศปุญญาภรณ์ (นามเดิมบุญทิน) เป็นชาวศีรษะเกษ บวชเณรแต่อายุยังน้อย มาอยู่เป็นศิษย์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จเกี่ยว) ณ วัดสระเกศราชวรวิหาร แล้วได้เข้าศึกษาปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต ณ ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังจากจบการศึกษาได้ถูกวางตัวจากเจ้าประคุณสมเด็จฯให้ทำงานเป็นพระธรรมทูตสายยุโรปประจำสวีเดน




@ ท่านทำงานด้วยความมุ่งมั่นพร้อมทั้งเรียนภาษาสวีเดนและวัฒนธรรมยุโรปจนเข้ากับคนท้องถิ่นได้ดีโดยไม่เสียความเป็นพระธรรมทูตไทย ประจักษ์พยานในเรื่องนี้เห็นได้จากการที่ท่านสามารถขยายงานสร้างวัดในเครือได้ถึง ๕ วัด โดยเจ้าถิ่นไม่รังเกียจที่จะให้การช่วยเหลือ


@ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจว่าพระพุทธศาสนาไม่เป็นภัยใดๆต่อสวีเดน รัฐบาลสวีเดนจึงตัดสินใจยก "ตึกสีทอง"ซึ่งเคยเป็นที่ทำการทหารแต่บัดนี้ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วถวายให้ท่านเจ้าคุณใช้ประโยชน์ในการทำงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา

@ ตอนที่ท่านเชิญผมไปพบทึ่วัดสระเกศ ท่านเล่าให้ฟังว่า ...."ตั้งใจจะใช้ตึกนี้ทำประโยชน์เผยแพร่พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมเชิงพุทธเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ซึ่งรัฐบาลสวีเดนสนับสนุน
โชคดีของเราชาวพุทธที่เป็นศาสนาแห่งสันติภาพ...แต่เราก็ไม่ประมาทกับการไม่มีสันติภาพที่อาจเกิดได้จากองค์ประกอบภายนอกรอบด้าน โชคดีที่พระพุทธเจ้าทรงให้แนวทางเข้าสู่สันติภาพแท้จริงไว้ให้พวกเรา คือ กัมมัฏฐาน อาตมาตั้งใจจะทำกัมมัฏฐานให้เป็นระบบสำหรับศึกษาปฏิบัติและวัดผลได้ และจะเปิดสอนทึ่ตึกนี้.."


@ วันนั้น ท่านคุยกับผมอยู่นาน สุดท้ายท่านบอกว่า "อาตมาเป็นลูกศิษย์อาจารย์ เรียนวิชาพระไตรปิฎกกับอาจารย์ อยากให้อาจารย์มาช่วยงานนี้"


ผมเรียนว่า "ยินดีช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง แล้วแต่ท่านเจ้าคุณจะบอกให้ทำอะไรเกี่ยวกับงานนี้จะทำถวายตามกำลังกายและสติปัญญา เพราะงานนี้ ถ้ามีคนรู้จะมีคนเข้ามาช่วยเยอะเพราะเป็นงานมีเกียรติ" และบัดนี้งานก็ได้เริ่มต้นแล้วอย่างเงียบ ๆ ซึ่งก็ไม่อยากเปิดเผยอะไร ขอให้ท่านเจ้าท่านพูดเองก็แล้วกันเพราะเป็นงานของท่าน


@ วันนี้ สำหรับเจ้าคุณหนุ่มรูปนี้...ผมคงจะยังไม่พูดอะไรมาก นอกจากจะบอกว่า
...ภูมิใจกับ ม.มหาจุฬาฯที่สร้างนิสิตไปทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและแก่โลก ทำให้ช่วยล้างภาพลบที่บุคคลผู้ไม่เข้าใจ มจร จริง ป้ายให้
...ภูมิใจกับเจ้าประคุณสมเก็จเกี่ยวที่ตาถึงแหลมคมวางตัวศาสนทายาทได้เหมาะสม
...ภูมิใจกับสำนักเรียนและครูบาอาจารย์เดิมทึ่สร้างท่านมาให้แก่พระศาสนา
และสุดท้าย
...ภูมิใจกัยตัวผมเองที่ท่านเรียกหาให้ไปช่วย ซึ่งจะได้ทำบญใหญ่สู่สันติอย่างที่หวัง หลังจากกรำศึกมากับงานประกาศภัยของพระพุทธศาสนามาหลายปี จนหลายคนเห็นผมแล้วกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ




@ เขียนถึงท่านเจ้าคุณแล้ว ก็ต้องขอบคุณน้องๆและผองเพื่อนที่กรำศึกมาด้วยกันอย่างไม่ย่อท้อ ...เขาพร้อมรับงานต่อ แต่ผมก็ยังไมทิ้งพวกเขาหรอก ...โธ่! สู้ยากลำบามาด้วยกัน"



ขอขอบคุณภาพจาก : buddharamsweden.com


เรียบเรียงโดย

จินต์จุฑา เจนสระคู : สำนักข่าวทีนิวส์