ผอม สดใส อ่อนวัย ด้วยการกินมังสวิรัติ

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย paang, 21 มกราคม 2008.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    About the Vegetarian

    ในแวดวงคนรักสุขภาพที่ไม่ต้องการมีน้ำหนักเกินพอดี เราเคยคุยเรื่องกินยังไงให้ผอมกันในหลายประเด็น ตั้งแต่การอด(เพื่อล้างพิษ) กินตามโปรแกรมลดน้ำหนัก กินพร่องแป้งแบบโลว์คาร์บ

    คราวนี้จะขอพูดถึงการกินอีกแบบที่แม้จะไม่ช่วยให้คุณผอมเร็วเป็นคนละคน แต่จะช่วยให้ร่างกายของคุณค่อยๆ กำจัดส่วนเกินที่สะสม พร้อมๆ กับขจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย คืนความสดใส อ่อนเยาว์ และสร้างสุขภาพสมดุลอย่างยั่งยืน หรือที่เราเรียกติดปากกันว่าการกิน “มังสวิรัติ” ไงคะ


    ละเนื้อ ละอย่างไร

    คนที่หันมากินแบบละหรืองดเนื้อแบบมังสวิรัตินั้น ไม่ได้มีเหตุผลจากความเชื่อทางศาสนาหรือไม่อยากเบียดเบียนชีวิตสัตว์ เพราะการละเนื้อโดยสิ้นเชิงทำได้ยากในชีวิตปกติ ด้วยเหตุนี้การกินมังสวิรัติจึงมีหลายระดับ ตั้งแต่ยังกินเนื้อสัตว์บางประเภท ไปจนถึงไม่กินอะไรเลยนอกจากพืชผัก

    * Pollovegetarians คือกลุ่มที่ไม่กินเนื้อแดง แต่กินเป็ด ไก่ และอาหารจากพืช
    * Pescovegetarians คือกลุ่มที่กินปลาเพิ่มขึ้นมาจากกินผักอย่างเดียว
    * Lacto-Ovo-Vegetarians คือกลุ่มที่กินนมและไข่เพิ่มจากการกินพืช
    * Lacto-Vegetarians คือกลุ่มที่กินเฉพาะนม และผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด ร่วมกับการกินพืช
    * Vegans คือกลุ่มที่กินอาหารจากพืชล้วนๆ ไม่กินเนื้อสัตว์ แม้กระทั่งไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม และน้ำผึ้ง

    นอกจาก 5 กลุ่มข้างบน ยังมีการละเว้นเนื้อสัตว์เก๋ๆ อีก 3 แบบ คือ

    * Sproutarians คือกลุ่มที่นิยมบริโภคหน่อต้นอ่อนของพืช อันได้แก่เห็ด ถั่วงอก ต้นอ่อน ก้านใบอ่อนของพืช ถั่วโตเร็ว ซึ่งว่ามีพลังและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

    * Fruitarians คือกลุ่มที่บริโภคผลไม้เป็นหลัก กินผลไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะพวกเบอร์รี่ นิยมดื่มน้ำผลไม้คั้นสด รวมทั้งผลไม้เปลือกแข็งอย่างลูกนัต เมล็ดพืช และถั่วต่างๆ

    * Raw Foodism คือกลุ่มที่นิยมบริโภคอาหารไม่ผ่านความร้อน หรือใช้ความร้อนไม่เกิน 48 องศาเซลเซียส เนื่องจากเชื่อว่าความร้อนจะทำลายเอนไซม์และคุณค่าทางโภชนาการในอาหารไป นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าในอดีตพระเยซูคริสต์ก็บริโภคอาหารในลักษณะนี้เช่นกัน


    สิ่งดีที่ได้จากการกินมังสวิรัติ

    ลองกินมังสวิรัติสักอาทิตย์ คุณจะพบความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลายอย่าง อาทิ

    * หลับสบาย- ถ่ายคล่อง
    กระเพาะของเราย่อยผักผลไม้ได้ง่าย และใช้เวลาในการย่อยน้อยกว่าเนื้อสัตว์มากนัก การกินมังสวิรัติจึงช่วยลดภาระให้กับระบบย่อยอาหารไปในตัว นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีไฟเบอร์หรือเส้นใย ในขณะที่เนื้อสัตว์แทบไม่มีเลย เส้นใยมี 2 ประเภท คือกลุ่มไม่ละลายน้ำ ซึ่งจะไปเพิ่มจำนวนอุจจาระ ทำให้ไม่มีของเสียตกค้างในร่างกาย จึงช่วยป้องกันอาการอึดอัด ไม่สบายท้อง และการดูดซึมของเสียในลำไส้กลับเข้าไปอีก

    อีกกลุ่มละลายน้ำได้ จะไปจับตัวกับน้ำดีและคอเลสเตอรอลในลำไส้แล้วขับออกมาทางอุจจาระ การกินผักจึงช่วยให้หลับสบายแบบไร้อาการท้องอืด ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยังถ่ายคล่องอีก และถ้ายิ่งรู้จักเลือกกินให้ดี ไม่เน้นแป้งและน้ำตาล น้ำหนักตัวก็ยังลดอีกแน่ๆ



    [​IMG]


    * ล้างพิษ
    ลำไส้ของคนเรามีความยาวถึง 20 ฟุต เป็นลักษณะเดียวกับสัตว์กินพืชชั้นสูง ซึ่งต่างจากร่างกายของสัตว์กินเนื้อที่ถูกสร้างให้ย่อยและขับเนื้อที่กินออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด ร่างกายมนุษย์ไม่อาจดูดซึมโปรตีนจากสัตว์ได้ทั้งหมด โปรตีนที่ร่างกายเราดูดซึมไว้ได้มากที่สุดคือ ไข่- ร้อยละ 94 ส่วนโปรตีนที่ดูดซึมได้น้อยที่สุดได้แก่ เนื้อวัว-เพียงร้อยละ 67 เท่านั้น อีกร้อยละ 33 ที่ไม่อาจดูดซึมได้จะเหลืออยู่ในลำไส้ซึ่งในที่สุดก็จะเกิดการหมักบูด เปลี่ยนไปเป็นสารเคมีกลิ่นเหม็น เช่น มีเทน แอมโมเนีย และซัลเฟอร์ไดออกไซด์(ก๊าชไข่เน่า)

    เมื่อเดินทางถึงลำไส้ใหญ่ กระบวนการดูดซึมน้ำกลับสู่ร่างกายจะพาสารพิษเหล่านี้กลับมาด้วย สารเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุของอาการหืดหอบ ภูมิแพ้ ไปจนถึงมะเร็งในลำไส้ใหญ่ การงดกินเนื้อ หันมาเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชมากขึ้นจึงช่วยเคลียร์ลำไส้ให้สะอาด เป็นการล้างพิษกลายๆ นั่นเอง


    * หน้าใส-ผิวสวย
    นอกจากช่วยล้างพิษแล้ว การเน้นกินผัก-ผลไม้ทำให้ร่างกายได้วิตามินซีและอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เซลล์ของร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส โดยเฉพาะวิตามินซีมีหน้าที่สำคัญในการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจนส่วนใหญ่ ซึ่งทุกเซลล์ในร่างกายต้องมีเส้นใยนี้ร้อยรัด เสริมสร้างความแข็งแรงเสมือนบ้านต้องมีรั้ว หากรั้วไม่แข็งแรงหรือบุกรุกง่ายก็จะเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้าโจมตีได้ การได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอจึงช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง


    * สุขภาพดี
    ทราบหรือไม่ว่าในเนื้อสัตว์มีสารพิษจำนวนไม่น้อย ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหาร และขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้นว่าฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท สารปรุงแต่ง สารถนอมอาหาร ยาฆ่าแมลง และอีกจิปาถะ สารเหล่านี้อาจอยู่ในน้ำและอาหารสัตว์ และจะไปสะสมอยู่ตามเซลล์ต่างๆ ของสัตว์

    ยิ่งกินเนื้อสัตว์มาก สารเหล่านี้จะเปลี่ยนถ่ายเข้ามาสะสมในตัวเรา จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ในที่สุด การกินเนื้อสัตว์มากๆ ยังเป็นสาเหตุของโรคอย่างหลอดเลือดอุดตัน ผนังหลอดเลือดแข็งตัว และโรคหัวใจ จากไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลที่มีมากในเนื้อและไขมันสัตว์อีกด้วย ยิ่งกินน้อยลงเท่าไรจะยิ่งช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้มากเท่านั้น


    * หน้าตาแจ่มใส
    ข้อนี้เป็นผลพลอยได้จากความรู้สึกดีๆ จากการไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น เมื่อสุขภาพจิตดีหน้าตาก็พลอยแจ่มใส บุคลิกเมตตาอารียังดึงดูดผู้คนให้อยากคบหาสมาคมอีกด้วย





    <TABLE class=fontDefault cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE class=fontDefault cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ก้าวแรกสู่การกินมังสวิรัติ

    อย่าเพิ่งสร้างภาพวิถีแห่งการเป็นมังสวิรัติว่าเป็นถนนที่แห้งแล้งและขมขื่น ขอแค่อยากเริ่มต้นละเนื้อจริงๆ คุณจะพบว่ามีทางเลือกในการกิน (อร่อยด้วย) มากมาย

    * ข้าวกับน้ำพริก กินเรียบง่ายแบบคนไทยสมัยก่อน จะเป็นน้ำพริกปลาร้า กะปิ ปลาทู หรือน้ำพริกหนุ่ม เต้าเจี้ยวหลน ฯลฯ เลือกได้ตามชอบ อาจกินแกล้มไข่ต้ม ปลาทอด นึ่ง หรือย่างก็ได้ ถ้าจะให้ดีควรกินกับข้าวกล้องซึ่งจะให้วิตามินบีและไฟเบอร์สูงกว่าข้าวขัดขาว ส่วนผักแนมน้ำพริกควรเน้นความหลากหลายเข้าไว้ ถ้าอยากลดหุ่นลองจัดสัดส่วนให้บริโภคผักมากกว่าข้าว

    * อาหารญี่ปุ่น นอกจากหน้าตาน่ากิน รสชาติอร่อย และหากินไม่ยากแล้ว อาหารญี่ปุ่นยังมีความหลากหลายของส่วนผสมจากธรรมชาติ ทั้งผัก เห็ด และถั่ว มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก เพราะใช้ปลาทะเลและสาหร่าย ทั้งยังเสิร์ฟพร้อมชาเขียวซึ่งเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ

    * กินหลากหลาย อย่าจำกัดอาหารมังสวิรัติอยู่แค่จับฉ่ายหรือสลัดผัก พืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการยังมีอีกมากมาย ไล่ตั้งแต่ข้าวไม่ขัดขาว ธัญพืชอย่างลูกเดือย ข้าวโพด ถั่ว ถั่วงอก อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วพิตาชิโอ เมล็ดฟักทอง งา เมล็ดทานตะวัน ถั่วเหลือง ไปจนถึงเห็ดสดต่างๆ นอกจากนี้เมืองไทยเรายังมีผลไม้สดตามฤดูกาลมากมาย แค่ขยันเลือกกินให้เหมาะสมและหลากหลายก็ได้รับทั้งคุณค่าทางอาหารและวิตามินเพียบแล้ว

    * นมถั่วเหลือง คนเอเชียส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดมาพร้อมเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยแลคโตสในนมวัว กินแล้วเลยมีอาการไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลองเปลี่ยนจากดื่มนมสดมาเป็นน้ำนมถั่วเหลืองดู

    ถั่วเหลืองมีคุณค่ามากที่สุดในบรรดาถั่ว เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูก เป็นแหล่งของวิตามินบี เกลือแร่ และกรดไขมน เลซิทินที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายก็มีอยู่มากเช่นกัน


    หากยังหวั่นไหวกับความเชื่อเดิมๆ เรื่องกินมังสวิรัติแล้วจะขาดอาหาร เพราะขาดกรดอมิโนที่จำเป็นสำหรับร่างกายซึ่งหาได้จากเนื้อสัตว์ ผลวิจัยชิ้นหนึ่งจะช่วยขจัดความคลางแคลงใจนี้ได้ เพราะมีการพบว่าร่างกายของเราสามารถหากรดอมิโนจำเป็นที่ขาดหายไปจากอาหารมื้อหนึ่งๆ ได้เองจากแบคทีเรียนานาพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้หรือเซลล์ในลำไส้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้นักมังสวิรัติที่รู้จักเลือกกินอย่างหลากหลายและเหมาะสมจึงไม่เพียงมีหน้าใส หุ่นสวย สุขภาพดี แต่ยังแข็งแรงและอายุยืนกว่าคนกินเนื้อสัตว์ด้วย

    ลองเริ่มกินสักอาทิตย์ แล้วดูว่าพอไหวไหม ถ้าทำได้ลองทำต่อให้ครบเดือน บางทีเมื่อถึงวันนั้น คุณอาจรู้สึกดีจนไม่นึกอยากกลับมากิน “ทุกอย่าง” อย่างที่เคยกินอีกก็ได้


    รู้จักนักมังสวิรัติตัวยง [​IMG]

    มังสวิรัติกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของการบริโภคเพื่อสุขภาพ บรรดาดาราฮอลลีวูดหลายรายก็กลายมาเป็นนักมังสวิรัติตัวยง ที่น่าสังเกตคือไม่มีใครเจ็บป่วยเพราะขาดอาหาร แต่กลับสวยงาม เซ็กซี่ แข็งแรง และอ่อนเยาว์ อย่างน่าแปลกใจ มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง...

    โทบี้ แมคไกวร์ ไอ้แมงมุมกล้ามงามเลิกกินเนื้อตั้งแต่ปี 2535 (เห็นไหมว่าไม่กินเนื้อก็มีกล้ามล่ำๆ ได้)

    คริสเตียน เบล แบตแมนเนื้อแน่นนั้นเลิกกินเนื้อสัตว์มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หลังจากอ่านเรื่องของหมูน้อยวิลเบอร์ในหนังสือแมงมุมเพื่อนรัก(Charlotte’s Web) ส่วน ลินดา แบลร์ เจ้าของบทเด่นใน ดิ เอ็กโซซิส ยืนยันว่าตั้งแต่เลิกกินเนื้อสัตว์เธอไม่เคยมีปัญหาน้ำหนักตัวอีกเลย

    นอกจากนั้นยังมี โจอาควิน ฟินิกซ์, พาร์เมล่า แอนเดอร์สัน ลี, นาตาลี พอร์ตแมน, กวินเน็ต พัลโธรว์, มาดอนน่า, จอช ฮาร์ทเน็ต, เดมี่ มัวร์และเคท วินสเล็ต


    นักแสดงไทยเราก็ไม่น้อยหน้า หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส เจ้าของผิวสวยละเอียดเหมือนเซรามิกเนื้อดีก็กินมังสวิรัติมานานแล้ว รวมถึง ป้าจิ๊-อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ในวัยใกล้ 60 ก็ยังคงดูสาวและสดใสกว่าอายุจริงเป็นสิบปี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=fontMore vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD align=middle>
    ขอบคุณที่มา​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://board.agalico.com/showthread.php?t=17444
     
  2. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    ขอบคุณสำหรับสาระความรู้ค่ะ เดิมก็ไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่างเจ
    กับมังสวิรัติ และบางทีก็งง ว่าตกลงมัสวิรัติ กินไข่กับนมได้รีเปล่า
    ตอนนี้กระจ่างแล้วค่ะ แสดงว่าเราก็เข้าข่ายมังสวิรัติแล้ว แต่เป็นแบบ
    Pollovegetarians ต่อไปจะเลื่อนให้เป็นแบบ Pescovegetarians
    ให้ได้ ติดอยู่ตรงไม่ได้ทำอาหารกินเองนี่แหละค่ะ เลยค่อนข้างจะ
    เลี่ยงยากหน่อย แต่ดูจากประโยชน์ที่ได้รับก็นับว่าคุ้มค่า เดิมเคยทานพวก
    เนื้อสัตว์ใหญ่ ทานแล้วจะรู้สึกเพลียๆ และอึดอัด น่าจะเป็นเพราะการย่อย
    ที่ยาก พองดแล้วรู้สึกทันทีว่าดีขึ้นเลยค่ะ
     
  3. marx159

    marx159 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +180
    ตอนนี้กำลังลดการกินเนื้อสัตว์ให้ได้น้อยที่สุดครับ ถ้ามื้อไหนเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงไม่กินเลยครับ
    ขอบคุณคุณ paang สำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
     
  4. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    เด๋วทำให้กินจ้ะ (kiss)
     
  5. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    शुक्रिया जी
     
  6. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    แปลด้วยกั๊บ
    อ่านไม่ออก
     
  7. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ตอนนี้ก็จะกินเจตอนช่วงเทศกาลอ่ะค่ะ ขอบคุณคุณแป้งนะคะได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว
    (good) (good) (good)
     

แชร์หน้านี้

Loading...