นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย konun88, 20 มิถุนายน 2016.

  1. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    โดยสรุป ตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว

    ได้รับการเสกชนิดที่ว่า แจกจ่ายผู้จองได้เลย

    แต่ผมยังไม่พอใจขอท่านปรมาจารย์ลงปิดท้ายอีก จนกว่าท่านจะพอใจ หากท่านบอกพอแล้ว แจกจ่ายได้แล้วก็ตามท่านบอกนะครับ

    ดังคำสอนของครูบาสิงโต การมุ่งภาวนาย่อมเป็นเรื่องดีสุด และแน่นอนมารก็จะมาผจญ ให้มีขันติ อดทน ท่านได้ลงป้องกันมารไว้แล้วและลงด้านอำนาจสะท้อนมารด้วย ที่สำคัญคืออย่าทำทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เราจะไม่ได้อะไรเลย

    ตะกรุดนี้แม้ดีเด่นเพียงใด แต่ก็อยู่ที่บารมีแต่ละคนนะครับ อย่ายึดติดว่าตะกรุดแรงมากดีมาก สำคัญที่ตัวเราต่างหากจะแรงดีแค่ไหน

    หวังว่าจบรุ่นนี้คงมีผู้สำเร็จทางจิตเพิ่มขึ้นในโลกอีกหลายท่าน..


     
  2. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    update ตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว ได้ถึงมือครูบาไชยแล้วครับ ท่านบอกจริงๆ ไม่เสกซ้ำอีกก็ได้ แต่ท่านว่า.. เดี๋ยวหาว่าไม่มีส่วนร่วม... ท่านว่านะ ท่านบอกเสาร์ 5 ไม่ได้เกี่ยวกับล้านนา จึงจะไม่เสกจนถึงเสาร์ 5 ท่านอาจเสกไม่กี่วัน


    ที่ปรึกษาจะจัดส่ง พร้อมส้มป่อยให้ไปแช่น้ำอาบ เวลาอาบหันหน้าไปทิศตะวันตก

    เอาฝักส้มป่อยปัดตามตัว ปัดจากบนลงล่าง ไล่เสนียดจัญไร

    น้ำที่แช่ก็ นำอาบ เป็นสิริมงคล

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2020
  3. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    ตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว
    คาถาปลุกตะกรุด...

    นวภา ศรีสวัสดิ์ ฤทธี กูมีดั่งหรมานผู้กล้า เห็นหน้ากูเป็นดั่งตะวันหลวงดวงใหญ่ นวภา ผาธิโน นะชิตามานิโนเยนะ นะเยโน พุทธะภาวนา กูจะบังพะละได้ สี่แสน กูจะบังแปนได้สี่ล้าน ภายหน้ากูมีพระยาอินตาเจ้าฟ้ารักษากูอยู่ ภายหลังกูมีมหาพรหมเจ้ารักษากู ปายซ้ายและปายขวามีพระนารายณ์รักษาตนกู กูไม่กลัวทุกสิ่ง พิษจะก้องหน้าไม้หอกดาบหลาวเหล็ก กูจะตีให้ย่อ ต้อให้เป็นขะจวนไป โอมสรี๋กระจวนสู่คาบหญ้ามา กูจะดูโอมสวาหะ

    อีกไม่กี่วันเตรียมรับตะกรุดได้เลยครับ... ช่วงนี้เหมาะมากมาภาวนากัน...
     
  4. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    update ตะกรุดพระเจ้าภาวนา ตอนนี้รอครูบาไชยติดต่อมาเพื่อไปรับครับ

    ที่ปรึกษาก็คิดจะฝากท่านเสกยาวเลย ซึ่งผมก็คิดเช่นนั้นแต่ ๆ ๆ

    ครูบาไชยไม่เห็นด้วย ดังว่า ท่านบอกเสาร์ 5 ไม่ใช่หลักล้านนา

    และเรื่องความขลัง ต้องแล้วแต่ท่านพิจารณาไปครับ เพราะหากลงมากไป

    เกิดไม่เหมาะกับฆราวาสเราๆ ยุ่งเลย พลังภาวนาสูงไป 55

    จึงแล้วแต่ครูบาอาจารย์พิจารณา ซึ่งก็ดี จะได้ตะกรุดเร็ว ๆ

    เครื่องรางสายนี้ทุกสายเสกจนเหมาะสม ห้ามนำไปเสกเพิ่มเด็ดขาดครับ

    เพราะ อาจเสกไม่เข้าแล้ว55

    จริง ๆ หากมีผู้สูงส่งกว่าลงก็ลงได้ครับแต่จะไม่เหมาะกระแสเพี้ยนไป

    เพราะสายเราเน้นใช้เทา ๆ แม้ไปฝึกจิตอภิญญาก็เอาฤทธิ์ไปใช้เทา ๆ ได้ (ใช้อย่างไรคงไม่ต้องบอกครับ ปัจจัตตัง)


    บางคนบอกฝึกจิตเข้าฌานมั่งอะไรมั่งเห็นยังโลภมากอยู่เลยจ้องจะเอาเปรียบคนอื่น การเอาเปรียบผู้อื่นจ้องจะเอาฟรี เอาของแถม สุดท้ายตัวเองก็โดนเอาเปรียบกลับมั่งจากวิบากกรรม

    สรุป คำว่าจิตสูงก็ปัจจัตตังละครับ คือเรารู้ด้วยตัวเราเอง

    รุ่นนี้จึงพิเศษมาก เพราะถือว่าวัดผลจากผู้ได้รับไป นำไปใช้เป็นตัวช่วยการภาวนาแล้วความดีไม่ดีก็ตัวเราเจ้าของจะทราบเองละครับ...

    200317022914.jpg

     
  5. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    6Vh3.jpg

    ขณะนี้ที่ปรึกษากะลังแพ็คตะกรุดเตรียมส่งอยู่ครับ

    ครูบาไชยให้ไปรับแล้ว

    ท่านบอกว่าจะแถมส้มป่อยไปให้ อย่างแรกได้ตะกรุดไปอย่ารีบไปใช้เลย ....ให้นำส้มป่อยแช่น้ำซัก 5 นาที แล้วนำส้มป่อยปัดตามร่างกายจากบนลงล่างไล่สิ่งไม่ดีออกไปก่อนครับ แล้วนำน้ำส้มป่อยอาบ จากนั้นค่อยนำตะกรุดไปจับภาวนาครับ

    ตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว
    คาถาปลุกตะกรุด...

    นวภา ศรีสวัสดิ์ ฤทธี กูมีดั่งหรมานผู้กล้า เห็นหน้ากูเป็นดั่งตะวันหลวงดวงใหญ่ นวภา ผาธิโน นะชิตามานิโนเยนะ นะเยโน พุทธะภาวนา กูจะบังพะละได้ สี่แสน กูจะบังแปนได้สี่ล้าน ภายหน้ากูมีพระยาอินตาเจ้าฟ้ารักษากูอยู่ ภายหลังกูมีมหาพรหมเจ้ารักษากู ปายซ้ายและปายขวามีพระนารายณ์รักษาตนกู กูไม่กลัวทุกสิ่ง พิษจะก้องหน้าไม้หอกดาบหลาวเหล็ก กูจะตีให้ย่อ ต้อให้เป็นขะจวนไป โอมสรี๋กระจวนสู่คาบหญ้ามา กูจะดูโอมสวาหะ

    หมายเหตุ... ควรทำบุญตักบาตร อุทิศให้ปู่ฤาษีวาโย ครูบาข่าย ขัตติโย ทุกครูบาอาจารย์ที่เสกตะกรุดด้วยจะดียิ่งขึ้น

     
  6. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    QwYuBf.jpg

    พุทธะภาวนา
     
  7. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    ที่ปรึกษาจัดส่งตะกรุดแล้วครับ

    พรุ่งนี้มะรืนคงได้รับกัน

    มาเล่าประสบการณ์บ้างนะครับ

    ช่วงนี้เหมาะมาก ... ภาวนา....
     
  8. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    อานุภาพของจิต....

    หลักการนี้ผมได้เทียบกับที่ปรึกษาแล้วนับว่าตรงกัน และเป็นหลักแนวทางที่ถือว่าใช้ได้กับทุกท่าน

    โดยคำสั่งสอนครูบาอาจารย์ และที่พบมามากและจากการฝึกกับหลวงปู่เหิร

    ดังเล่า สมัยก่อนมีนักปฏิบัติไปหาท่านมาก ซึ่งท่านก็จะถือหลักว่า "อย่าไปขัดใคร"

    ที่เรารู้กันแบบง่าย ๆ พวก อีโก้สูงนั่นละครับ... ทีนี้ ดังกล่าวเสมอว่าเรื่องพวกนี้เป็นปัจจัตตัง แม้ตอนไปเสกหรมานล่าสุด ดังพบครูบาอาจารย์ ที่ปรึกษาก็ยืนยันมีคนมาถามครูบาอาจารย์ท่านเหล่านั้นมาก ก็ตอบตรงกันว่า เป็นปัจจัตตัง

    ทีนี้ ผมยึดหลักง่ายๆ ตามท่านสอน ใครดีไม่ดีก็ให้ดูใจตัวเองละครับ กิเลสลดลงไหม หากลงลึก ก็ โลภะ โทสะ โมหะลดลงไหม

    ความน่าสนใจก็อยู่ที่สมถกรรมฐานละครับที่มักทำให้เกิดฤทธิ์ ของแถม

    ดังสถานการณ์ปัจจุบันก็ ปล่อยวางกันได้ว่าคือโลกธรรม คือมีลาภเสื่อมลาภ

    สรุป หากเราภาวนาจนเกิดกำลังสมาธิ ก็พิจารณาไตรลักษณ์ ให้มาก ๆ นะครับว่าทุกสิ่งคือ ธรรม คือเป็นหลักของธรรมชาติ เราก็จะไม่ทุกข์ นี่คือสิ่งสำคัญ ใครจะสูงแค่ไหนก็เรื่องของคนอื่นไป เพราะผมก็เจอพวกขี้โม้มามาก หากจะวัดก็วัดว่าตัวเรามีความสุข ความสุขเกิดจากการเข้าใจ ทำใจกับสิ่งไม่แน่นอนได้ก็ถือว่าสำเร็จละครับ..
     
  9. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    แนวทางขั้นต่อมา เมื่อจิตเรามีพลัง คำว่าพลังก็จะมาจากเราตัดนิวรณ์ได้

    ที่มา

    https://th.wikipedia.org/wiki/นิวรณ์
    นิวรณ์มี 5 อย่าง คือ




      • กามฉันทะ ความพอใจ ติดใจ หลงใหลใฝ่ฝัน ในกามโลกีย์ทั้งปวง ดุจคนหลับอยู่
      • พยาบาท ความไม่พอใจ จากความไม่ได้สมดังปรารถนาในโลกียะสมบัติทั้งปวง ดุจคนถูกทัณท์ทรมานอยู่
      • ถีนมิทธะ ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้กำลังทั้งกายใจ ไม่ฮึกเหิม
      • วิจิกิจฉา ความไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย กังวล กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่เต็มที่ ไม่มั่นใจ
    หลักการตัดนิวรณ์ เราต้องฝึกเองนะครับ แต่ที่ใช้ได้ผลคือปล่อยวาง และเข้าใจ คือยึดถือมากก็ทำให้เป็นเครื่องขวางกั้น

    พอเราตัดนิวรณ์จิตก็จะรวมตัว ซึ่งตอนนี้ละครับ หากใครมีตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว จะสัมผัสกันได้เลย

    จิตรวมตัว จนเกิดปิติ ความสุขแบบสูงสุด และความสงบ

    ในตอนนี้ หากจิตแน่วแน่ ผมจะใช้วิธีภาวนาบทสำคัญ ๆ ในใจ เช่นบทบูชาพระสีวลี หรืออะไรแล้วแต่ แล้วแผ่เมตตาให้มาก

    หลักการนี้ หลวงปู่เหิรสอนผมว่าได้ผล เพราะเรายังแสวงหาทางโลก ลาภ อยากได้เงินว่าง่ายๆ ครับ หากเราแผ่เมตตาก็จะเห็นผลไว (แต่ต้องอยากแบบอย่าให้ความอยากมาแฝงในจิต พูดง่ายๆ อย่าโลภ )

    หลักนี้ผมทดลองมาเองนะครับ จะเห็นผลชัดเจน อะไรๆ ราบรื่น ลาภผลมี

    จนหลวงปู่เหิรสอนว่า พลังแห่งจิตไม่ใช่เล่น ๆ นะ เราต้องทำเองเห็นเอง...


    ส่วนจะข้ามขั้นให้สมาธิลึกขึ้น จนเกิดความว่างสงบหรือเสมือนอยู่ในห้องปิดลึกผู้เดียวก็เป็นขั้นสูงต่อไป แล้วค่อยพิจารณาวิปัสสนาเพื่อให้เกิดปัญญาอะไรก็แล้วแต่ผู้ฝึกไปครับ
     
  10. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    สรุป ขอให้ผู้ได้ตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้วไป นำไปใช้ให้เกิดผลนะครับ ใช้กำลังแห่งสมาธิตามแต่วิธีของแต่ละท่าน เพราะที่ปรึกษาย้ำแล้วว่า

    บารมีแต่ละคนไม่เท่ากันไม่เหมือนกัน

    เมื่อเข้าใจหลักของโลกธรรม ซึ่งก็ทราบกันมีลาภเสื่อมลาภ มีสุข มีทุกข์ เราก็จะไม่ยึดติดไม่ฝังใจกับสิ่งเหล่านี้มาก

    การทำสมาธิ ก็เหมือนเรากินอาหารทางใจละครับ ให้ใจเรามีพลัง อย่างน้อยทำงานอะไรก็สำเร็จโดยง่าย

    เมื่อสมาธิแน่วแน่มาก อานุภาพแห่งตะกรุดก็จะออกมาเองครับ แล้วจะทราบว่าได้ของล้ำค่ามาแล้ว

    จากนั้นอย่าลืมนะครับ พิจารณาร่างกายก็ได้ เกศาโลมา นขา ทันตา ตโจ เนื้อหนังกระดูกร่างเราไม่เที่ยงแท้ เราจะได้ไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้มาก

    จากนั้นก็ภาวนาบทอะไรก็ได้ผมใช้ภาวนาบทสวดมนต์สำคัญ ๆ ให้แน่วแน่จนจิตมีสมาธิอีกครับ แล้วตบท้ายด้วยบทมหาลาภ (55) แล้วแผ่เมตตาไปให้มาก ขอเทพเทวดามาช่วยเหลือให้ผ่านพ้นอุปสรรค

    หลักการนี้หลวงปู่เหิรยืนยันกับผมว่า "พลังแห่งจิตไม่ธรรมดานะเราต้องทำเอง" คือทำให้อะไรราบรื่นจริง ๆ ถือว่าท่านยืนยันว่าไม่ผิด... กับปุถุชนเช่นเรา

    จบ... ไม่อธิบายมากครับ เดี๋ยวพวกแก่ธรรมจะมาออกความเห็นอีก55 เถียงกันตายอีก55

    หลักสำคัญคือ โลภะ โทสะ โมหะลดลงนะครับ คือตัวชี้วัด ใครจะมาโม้ได้ฌาณฤทธิ์อะไร ผมฟังมาเยอะตามสบายเลย เดี๋ยวต่อไปก็จะโหยหวนมาเอง55
     
  11. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    การดู เห็นนิมิตร เหตุการณ์ล่วงหน้า

    โดยหลักแห่งตะกรุดพระเจ้าภาวนาบนแท่นแก้ว จะส่งผลอย่างนึงที่ผู้ฝึกจิตมักจะพบ

    นิมิตร หรือการหยั่งรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ เรื่องอดีตเป็นแค่ความมันเร้าใจ แต่สำคัญคือการรู้อนาคต หรือสอบถามเรื่องบางเรื่องละครับ ที่น่าสนใจกว่า

    โดยหลักที่ต้องพึงระวัง คือนิมิตรลวง ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่ากลัวมาก ดังว่ามาจากมาร มาขวางนั่นละครับ ดูมากบ้าไปกันเลย

    ซึ่งแนวทางสำคัญ คืออย่าอยากรู้มาก ท่านสอนมานะ ยิ่งอยากรู้เผลอ ๆ เจอลวง ให้เรารู้เห็นโดยเราไม่อยากรู้ดีกว่าครับ... แต่แม้รู้ก็อย่าสนใจ...

    การสอบถามเรื่องบางเรื่อง ตามหลักมาคืออาศัยกำลังครูบาอาจารย์มาบอกจะชัวร์ที่สุด ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ มักเป็นระดับสูงกันแล้ว

    สรุป ได้ตะกรุดไป อย่าให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นนะครับ ให้ฝึกให้ใจมั่นคง พิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จนเราปล่อยวางทุกข์ใจได้ ใช้ชีวิตให้มีสุขจะดีที่สุดครับ..
     
  12. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    61sB.jpg

    โดยสรุป การภาวนาเป็นบุญที่สูงที่สุด ยิ่งกว่าทำทาน ถือศีล และทำยากสุด55

    เมื่อเราภาวนาแม้สมาธิแก่กล้าเพียงใด ก็ยืนยันว่าไม่เท่ากับพิจารณาให้เห็นปัญญา

    คือเข้าใจหลัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    แต่สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าทำให้ปล่อยวางความทุกข์รอบตัวละครับ เพราะการจะไปถึง

    จุดสูงสุดได้ดวงตาเห็นธรรมนั้นยาก แต่ใช่ว่าทำไม่ได้กัน

    สิ่งสำคัญคือใช้กำลังของสมาธิ ภาวนาแล้วแผ่กุศลไปให้มากที่สุด

    แผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรขออโหสิกรรม หากสมาธิแรงกล้ามากแน่นอนได้บุญมาก

    เขาก็อโหสิกรรมโดยง่าย แล้วแผ่ให้เทพเทวดามาอนุโมทนาบุญ

    จากนั้นกำลังของเทพเทวดาก็มาช่วยเรา (อย่าหวังตรงนี้มาก) นั่นละครับ..

    อย่าลืมคำเตือนครูบาไชยนะครับ ...ระมัดระวังมีสติให้มาก ไม่ประมาทจึงจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้...

     
  13. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    สัมภาษณ์สด พลังตะกรุดพระเจ้าภาวนา

    ได้สอบถามกระแสพลังจากผู้มีตะกรุดตอนนี้ 555 ท่านบอกว่า.... ท่านจับสัมผัสทำสมาธิ ปรากฎว่า นั่งได้ยาวนานมาก ดับเวทนาได้ (เวทนาคือความทรมานจากการนั่งนานปวดนู่นี่นั่นว่าง่าย ๆ ) และไม่ร้อนด้วย จนนั่งภาวนาเสร็จถึงรู้ว่า อ้าวร้อนเว้ย...

    ด้านกระแสพลัง ท่านบอกเหมือนคนเปิดไฟหน้ารถส่องหน้าเราละครับสว่างจ้าไปหมด กระแสพลังกระจายออก เหมือนเราจุดพลุขึ้นฟ้า พุ่งกระจายออกแล้วรวมตัว

    อารมณ์ท่านสัมผัสตอนนี้คือสงบ สงบมากเหมือนเราหยดน้ำลงแม่น้ำ ค่อย ๆ ติ๋ง ๆ ขนลุกขนพอง ฉีกแนวทางแห่งตะกรุดที่เคยสร้างมาทั้งหมด...

    ผมสอบถามแนวภาวนาตามวิธีการท่าน มาดังนี้

    การภาวนาสำคัญตรงลมหายใจ ถึงบอกอาจเริ่มต้นหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ หายใจให้เต็มปอด ค่อยๆ หายใจ ดังครูบาอาจารย์สอนเราหายใจยาวเต็มปอด ช้า ๆ จะอายุยืนซึ่งมีผลมากในการภาวนา

    การภาวนาให้ลึก ก็ค่อยเป็นค่อยไป เหมือนเราสะสมพลังงานนั่นละครับ เมื่อสะสมไปมากเข้าก็จะระเบิดออกมาในจุดนึง การระเบิดจุดนี้จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ซึ่งครูบาอาจารย์ระดับสูงที่เสกของใช้พลังเหล่านี้ละครับ พลังจะสมสมที่ลิ้นปี่...

    สิ่งสำคัญอย่าไปมุ่งดูเรื่องไร้สาระ (หากฝึกระดับนึงคุมจิตได้ก็จะเริ่มละ ดูนิมิตรส่องนู่นี่นั่น) เพราะเน้นย้ำให้มองดูจิตใจเรา

    ในหลักสายวิชาของท่านอย่างแรกเรียนคาถาอาคม ต่อมามุ่งฝึกจิตให้แกร่ง ระดับครูบาอาจารย์จะไม่ขี้โม้กันแล้วนะครับ พบกันยังคุยแค่ไม่กี่คำ...

    สุดท้ายก็พิจารณาให้เห็นความจริงแห่งธรรมชาติ จนปล่อยวางความทุกข์ได้

    ผมถึงบอกพวกขี้โม้ สุดท้ายก็มาโหยหวนเองเพราะเมื่อเจอทุกข์ร้องจ๊ากทันทีละครับ

    สิ่งสำคัญ บุญทานที่ทุกท่านทำมา จะเป็นแสงสว่างในช่วงมืดมิด แล้วจะเห็นครับว่าทำบุญมาไม่ขาดทุน...

    การภาวนาดีมาก ๆ ช่วยเร่งผลแห่งทาน ศีลให้ส่งผลให้เร็วนะครับ..

     
  14. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    บทเรียนอย่างนึง....

    ที่ปรึกษาเล่ามีพระองค์นึง ออกเพี้ยน ๆ ไปขอฝึกกับครูบาไชย

    ทีนี้ ฝึกไปฝึกมาจนมีช่วงเกิดลอยขึ้น (ท่านบอกคนอื่นเห็นท่านไม่ได้เห็น)

    ลอยเหนือพื้นแล้วหล่น สุดท้ายปัจจุบันเพี้ยนไปแล้ว

    ถามว่า เกิดจากอะไร เกิดจากฝึกจนเกิดอารมณ์ว่าง จิตว่างจนเหมือนจะลอย

    การลอยของจิตมีพลังจนเหมือนดึงกายเนื้อขึ้น

    คือ จะมีอารมณ์ช่วงนึงเหมือนว่างหมดจนขาดสติได้

    หลักการนี้จึงเป็นหลักสำคัญให้มีสติเสมอ...ที่ว่าแม้เกิดความว่างแห่งจิต

    ก็ให้เอาสติกำกับ สติคือความระลึกได้ อาจภาวนาว่างหนอ ๆ

    สิ่งสำคัญนะครับ ตัวชี้วัดคือ เรามีโลภะ โทสะ โมหะลดลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2020
  15. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    6VYe.jpg

    คงได้รับแล้วนะครับ...55
     
  16. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    QZ9MmP.jpg
     
  17. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    6fbE.jpg
    6fbT.jpg
    6fbU.jpg
    6fbq.jpg


    ((( รายนามพระคณาจารย์และฆราวาสที่ปลุกเสกเหรียญนอโมมหามงคล ดังนี้...)))
    วาระที่ ๑.พ่อท่านผ่อง ฐานุตฺตโม อายุ ๘๗ พรรษา ๖๗ วัดแจ้ง (คอกวัว) ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง
    วาระที่ ๒.พระมหาพงษ์พิศาล ฐานุตฺตโร อายุ ๕๗ พรรษา ๑๙ วัดใหม่ยายแป้น เขตบางกอกน้อย แขวงบางขุนนนท์ จ.กรุงเทพมหานคร
    วาระที่ ๓.หมอแซม บ้านดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    วาระที่ ๔.หมอแคล้ว มากทอง บ้านปากคลองเก่า อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    วาระที่ ๕.พ่อท่านจรูญ อคฺควณฺโณ วัดเขาเมืองเก่าชัยบุรี ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง
    วาระที่ ๖.ตารพี ศิลปสมศักดิ์ บ้านสวน ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง
    วาระที่ ๗.พระอาจารย์รรรสิริ สิรินฺธโน อายุ ๔๗ พรรษา ๒๗ วัดภูเขาทอง ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    วาระที่ ๘.ณ.วิหารหลวงวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
    เมื่อวันที่ ๑๓ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
    ได้นำไปร่วมในพิธีพุทธา - มังคลาภิเษก หัวนะโม รุ่นประสิทธิเม
    ณ.วิหารหลวงวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
    จัดสร้างโดย...สมาคมนักข่าวบันเทิง
    ((( รายนามพระเกจิย์อาจารย์และฆราวาสที่ร่วมปลุกเสก ดังนี้... )))
    ๑.พระอาจารย์ขวัญ สำนักสงฆ์เลิศบุปผาราม ( ถ้ำขนมโค) จ.กระบี่
    ๒.พ่อท่านเล็ก วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช
    ๓.พ่อท่านพรหม วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    ๔.พระเทพวินยาภรณ์ (สมปอง) วัดพระบรมธาตุฯ จ.นครศรีธรรมราช
    ๕.พระครูอดิสัยธรรมศาสก์ (ชอบ อติเมโธ) วัดหน้าพระธาตุ จ.นครศรีธรรมราช
    ๖.พระครูวินัยธรเอี่ยม อิสิทตฺโต วัดหน้าพระธาตุ จ.นครศรีธรรมราช
    ๗.พระอาจารย์หมี วัดห้วยลาด จ.สงขลา
    ๘.พระอาจารย์เกิ้ง สำนักสงฆ์ควนไม้บ้อง จ.นครศรีธรรมราช
    ๙.พระครูกิตติธรรมภาณ กตปุญฺโญ วัดผาสุกาวาส จ.สงขลา
    = พราหมณ์จิรสิฏฐ์ พลอยดำ จ.พัทลุง
    = อาจารย์เหลี้ยม นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๙.พระครูพิศาลวิหารวัตร (บุญให้ ปทุโม)
    อายุ ๙๑ พรรษา ๗๑ วัดท่าม่วง ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๑๐.พระอาจารย์ปราโมทย์ ฐิตธมฺโม วัดวิเชียรรังสฤษดิ์ (ห้วยรักษ์ไม้) อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๑๑.หลวงพ่อชอบ โชติธมฺโม (ไชยฤทธิ์)
    อายุ ๙๒ พรรษา ๒๑ วัดจำปาวนาราม ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๑๒.พระครูจิรธรรมคุณ (เจน คุณากโร)
    อายุ ๗๔ ปี ๕๒ พรรษา วัดปรางหมู่ใน ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
    วาระที่ ๑๓.พระครูวรจันทโชติ (เคลื้อม จนฺทโชโต)
    อายุ ๘๙ พรรษา ๖๗ วัดควนสีนวล ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๔.มโนราห์ชบ (พ่อชบ) ชัยเพชร บ้านออกหลา ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๕.พ่อท่านเอียด จนฺทสโร อายุ ๙๓ ปี วัดชลวาปีวิหาร (หนักแบกใต้) อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๖.พระครูประยุตอัครธรรม (รัตน์ อคฺคธมฺโม) วัดควนนาแค ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๗.หมอวุฒิ ลงทอง อายุ ๗๓ ปี บ้านป่าไส - หัวงาน อ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๘.ตาหมอเพิ่ม ชัยแก้ว บ้านไสบ่อลึก ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๑๙.พระมหาพงษ์พิศาล ฐานุตฺตโร อายุ ๕๗ พรรษา ๑๙ วัดใหม่ยายแป้น เขตบางกอกน้อย แขวงบางขุนนนท์ จ.กรุงเทพมหานคร
    วาระที่ ๒๐.ตาเรือง ช่วยธานี อายุ ๙๑ ปี บ้านเขาแก้ว ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๑.พ่อท่านม่อน กิตฺติญาโน วัดใหม่ท่าจีน (วัดใต้) อ.เมือง จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๒.พระครูพิทักษ์อินทมุนี
    ( พระอาจารย์สมนึก ฉนฺทธมฺโม) อายุ ๖๓ พรรษา ๓๙ วัดหรงบน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๒๓.พระครูสิริธรรมทัศน์ (พ่อท่านวาส) อายุ ๘๔ ปี วัดตรงบน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๒๔.พระครูปัญญาธรานุวัตร (เคล้า ปญฺญาธโร) วัดแดง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ จ.นครศรีธรรมราช
    วาระที่ ๒๕.พราหมณ์ไสว รังษี บ้านทุ่งเกาะยวน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๖.อาจารย์เหลี้ยม นาโยง บ้านหนองเหรียง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๗.ตาหลวงเชย สิงห์อินทร์ อายุ ๘๖ ปี
    บ้านหน้าควน ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๘.โต๊ะยีสาจ เส็นฤทธิ์ อายุ ๘๖ ปี บ้านในควน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
    วาระที่ ๒๙.พ่อท่านเพียรชัย จนฺทโชโต วัดช่องน้อยอ.นาโยง จ.ตรัง
    วาระที่ ๓๐.พิธีปลุกเสก ณ.โรงพิธีหน้าพระอุโบสถวัดพระพุทธสิหิงค์ จ.ตรัง
    วันที่ ๖ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีกุน
    ตอนเช้า อาจารย์เหลี้ยม นาโยง บวงสรวงเทพ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    ตอนเย็น พระสงฆ์ ๕ รูปเจริญพระพุทธมนต์ , ธัมมจักรกัปปวัฒนสูตร
    ตอนค่ำพระสงฆ์และฆราวาสเข้าโรงพิธีปลุกเสกเดี่ยว ทั้งหมด ๑๑ ท่าน ดังนี้...
    ๑.หมอภักดิ์ บวรภิรมย์ บ้านนาคลุ้ม อ.นาโยง จ.ตรัง
    ๒.อาจารย์เทียบ มุกดารักษ์ บ้านกะพังสุรินทร์ อ.เมือง จ.ตรัง
    ๓.พระครูวินัยธรกวี วัดพระพุทธสิหิงค์ อ.นาโยง จ.ตรัง
    ๔.พระอาจารย์นิกร (หลวงกร) วัดควนนาแค อ.เมือง จ.ตรัง
    ๕.พระอาจารย์วุฒิศักดิ์ (หลวงลัก) วัดจอมไตร อ.นาโยง จ.ตรัง
    ๖.หมอนอม หอยสกุล บ้านต้นปรง อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
    ๗.พราหมณ์ดำ ขำวิชา บ้านหนองแจ้ง อ.นาโยง จ.ตรัง
    ๘.อาจารย์ทอน ถึงแก้ว บ้านทุ่งชน อ.เมือง จ.ตรัง
    ๙.อาจารย์สุรพล ยูงทอง บ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    ๑๐.อาจารย์เหลี้ยม นาโยง บ้านหนองเหรียง อ.นาโยง จ.ตรัง
    ๑๑.พระวรณัฏฐ์ (หลวงปอนด์) สำนักสงฆ์หว้าทอง อ.กันตัง จ.ตรัง...
    หมายเหตุ !!!
    เหรียญนอโมมหามงคล เสาร์ ๕ พ.ศ.๒๕๖๒
    ได้นำไปให้พระคณาจารย์และอาจารย์ฆราวาสปลุกเสก ทั้งหมด ๓๐ วาระด้วยกัน
    นับแยกเป็นพระสงฆ์ที่ปลุกเสก ทั้งหมด ๒๙ รูป
    อาจารย์ฆราวาสที่ปลุกเสก ทั้งหมด ๑๘ ท่าน
    #สำหรับท่านไหนที่ปลุกเสกแล้วไม่นับซ้ำ
    รวมทั้งหมด จำนวน ๔๗ รูป / ท่าน
    ((( อาจารย์เหลี้ยม นาโยง ผู้ดำเนินการ )))
     
  18. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    มีให้บูชาไหม
     
  19. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    เหรียญนอโม ติดต่อได้ที่วัดหมูเปิ้งครับ ส่งไปแล้ว รวม 30 เหรียญ

    ติดต่อที่ผมเดี๋ยวจะกลายเป็นค้าขายอีก บางตัวจะมาแหย่ขอฟรีอีก

    เหตุที่ส่งไปที่วัดหมูเปิ้ง พระอาจารย์จะทำพิธีบางอย่าง

    ด้านความแจ่ม สุดจะบรรยายครับ...
    ที่มา


    ซึ่งหัวเมืองในทางภาคใต้ในอดีต
    จะประกอบพิธีขับอุบาทว์เมืองกันเป็นส่วนใหญ่
    โดยเมืองนั้นจะต้องมีพราหมณ์ประจำเมืองอยู่จึงจะจัดพิธีขับนี้ได้
    และหัวนอโมเองก็ต้องมีการนำมาร่วมในพิธีขับอุบาทว์เมืองด้วย
    ในพิธีจะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดภาณวาร
    ส่วนพราหมณ์นั้นสวดพระเวทย์บูชาพระอิศวร พระนารายณ์
    เมื่อพระสงฆ์และพราหมณ์ได้ทำพิธีสวดเสร็จเรียบร้อย
    ทหารตามกำแพงก็จะยิงปืนใหญ่เพื่อขับยักษ์
    ในฐานะหัวนอโมเป็นเครื่องรางป้องกันภัยของเมือง
    เมื่อพิธีขับอุบาทว์เมืองเสร็จสิ้นพราหมณ์หรือหมอประจำเมือง
    ก็จะให้สัปปบุรุษนำเอาหัวนอโมไปโปรยตามกำแพงเมือง
    ประตูเมืองและโปรยลงในลำคลองต่างๆ
    เพื่อป้องกันโรคไข้ห่าและป้องกันอันตรายทุกรูปแบบ
    ส่วนที่เหลือก็จะแจกให้ชาวบ้านและทหารยามรักษาเมือง
    ได้พกพาป้องกันตัวและไว้ป้องกันเจ็บกันไข้ต่างๆ
    จากพิธีกรรมในอดีตที่ได้นำเสนอมานี้
    ก็ย่อมแสดงให้เห็นถึงอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของหัวนอโม
    หัวนอโมนับว่าเป็นที่เชื่อถือมาตั้งแต่สมัยโบราณ
    และในปัจจุบันก็ยังมีผู้เชื่อถือในด้านการป้องกันภัยของหัวนอโมตลอดมา...
    และสำหรับพิธีการขับอุบาทว์เมืองนั้น
    เชื่อว่าทุกเมืองในภาคใต้ (ยกเว้นหัวเมืองฝ่ายแขก) จะทำกันทุกปี
    เมื่อทำพิธีแล้วก็จะต้องทำหัวนอโมขึ้นมาด้วยเพื่อใช้ขับอวมงคล

    ((( อุปเท่ห์การใช้เหรียญนอโมหามงคล )))
    = ใส่กระเป๋าเงินได้ เลี่ยมทำพวงกุญแจรถพกพาได้
    = ทำหัวเข็มขัด ทำหัวกำไล ทำหัวไม้เท้าได้ ทำหัวตะพดได้
    = ทำเป็นเม็ดกระดุม ห้อยคอ ห้อยสะเอว หรือห้อยข้อมือได้
    = ใส่ร่วมกับสายคาดเอวหรือแขวนรวมกับเครื่องรางต่างๆได้
    = เหรียญนอโมมหามงคลนี้ สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกเพททุกวัย
    = หากจะพกพาไว้ป้องกันตัว ให้เลี่ยมทำเป็นสร้อยข้อมือได้
    การเลี่ยมใส่กรอบ ให้เอาส่วนด้านหัวขึ้น เหมือนกับตัว " ร " เรือ
    จะเป็นเครื่องปกป้องกันภัย จะคุ้มครองได้ทั้งทางน้ำและบนบก
    ให้แคล้วคลาดนิรันตราย และยังมีอิทธิคุณหลายๆ ประการ ฯ.

    สำหรับหัวนอโมในด้านประวัติศาสตร์ของทางใต้นั้น
    เเต่เดิมอาจเป็นสัญลักษณ์ทางการค้า
    หรือเป็นเงินตราของพราหมณ์ในยุคโบราณ
    ที่เข้ามาอาศัยในคาบสมุทรของทางภาคใต้เรา
    โดยสัญลักษณ์ของตัวนอโมนั้น
    ได้แปลมาจากตัวอักษรตัว " นะ "ในอักษรปัลลวะ
    ซึ่งในยุคที่พราหมณ์สร้างหัวนอโมนั้น
    ตัวนะนั้นคงจะแทนบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์
    ซึ่งสามารถใช้สักการะองค์เทพเจ้าได้ทุกพระองค์
    ซึ่งถ้าเป็นพระศิวะหรือพระอิศวร ก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะมัสศิวายะ หรือนะโมภะคะวะเตรุทรายะ นะมะห์
    ถ้าเป็นพระวิษณุหรือพระนารายณ์ก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะโมภะคะวะเตวาสุเทวายะ นะมะห์
    ถ้าเป็นพระพรหม ก็จะขึ้นต้นว่า...นะโมพรหมะเทวายะ นะมะห์
    ถ้าหากเป็นพระพิฆเนศวรก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะโมภะคะวะเตคะชานะนายะ นะมะห์ เป็นต้น
    ซึ่งภายหลังเมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงคติทางศาสนา
    ทำให้มีการปรับเปลี่ยนคติความเชื่อของหัวนอโมมาเป็นคติในทางศาสนาพุทธ
    โดยให้หัวนอโมนั้นแทนบท ปุพพภาคนมการหรือบทนะโมตัสสะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2020
  20. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,044
    ค่าพลัง:
    +55,393
    สำหรับหัวนอโมในด้านประวัติศาสตร์ของทางใต้นั้น
    เเต่เดิมอาจเป็นสัญลักษณ์ทางการค้า
    หรือเป็นเงินตราของพราหมณ์ในยุคโบราณ
    ที่เข้ามาอาศัยในคาบสมุทรของทางภาคใต้เรา
    โดยสัญลักษณ์ของตัวนอโมนั้น
    ได้แปลมาจากตัวอักษรตัว " นะ "ในอักษรปัลลวะ
    ซึ่งในยุคที่พราหมณ์สร้างหัวนอโมนั้น
    ตัวนะนั้นคงจะแทนบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์
    ซึ่งสามารถใช้สักการะองค์เทพเจ้าได้ทุกพระองค์
    ซึ่งถ้าเป็นพระศิวะหรือพระอิศวร ก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะมัสศิวายะ หรือนะโมภะคะวะเตรุทรายะ นะมะห์
    ถ้าเป็นพระวิษณุหรือพระนารายณ์ก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะโมภะคะวะเตวาสุเทวายะ นะมะห์
    ถ้าเป็นพระพรหม ก็จะขึ้นต้นว่า...นะโมพรหมะเทวายะ นะมะห์
    ถ้าหากเป็นพระพิฆเนศวรก็จะขึ้นต้นว่า...
    นะโมภะคะวะเตคะชานะนายะ นะมะห์ เป็นต้น
    ซึ่งภายหลังเมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงคติทางศาสนา
    ทำให้มีการปรับเปลี่ยนคติความเชื่อของหัวนอโมมาเป็นคติในทางศาสนาพุทธ
    โดยให้หัวนอโมนั้นแทนบท ปุพพภาคนมการหรือบทนะโมตัสสะ
    ซึ่งบทปุพพภาคนมการนั้นแทนความนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้าทั้งกายและใจ...



    6fbE.jpg

    ผู้ติดตามกระทู้มายาวนานย่อมทราบ

    ในสายของผม จะเอาอะไรซักอย่างไม่ใช่สักแต่ว่าจ่ายตังเอาจบ

    ต้องศึกษาประวัติความเป็นมาให้แน่ชัด

    หัวนอโมนี้เช่นกัน เราอาจรู้จักกันดี แต่น้อยที่จะทราบความเป็นมาอ้างอิงแบบโบราณ

    สำหรับที่ปรึกษาท่านเองก็รู้จักของโบราณ ท่านบอกรุ่นนี้ถือว่าตามรอยแบบโบราณได้เลย คือป้องกันโรคระบาด

    การเสกก็อย่างที่เห็น คือเสกทั้งสายพระ ฆราวาส และมีสายอิสลามเสกด้วย ตามประวัติการเสกที่ลงไป

    สำคัญ เมื่อที่ปรึกษาได้ไป ก็จะทำพิธีแบบโบราณล้านนาอีกครั้งในด้านที่เราต้องการ คือลงบทป้องกันโรคภัย เสนียดจัญไรครับ ผมจำชื่อบทสวดไม่ได้ (มีรตนสูตรด้วย)

    6frJ.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...