ทำไมคนเก่ง-ฉลาด มักผิดพลาด

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย PalmPalmnaraks, 23 มกราคม 2005.

  1. PalmPalmnaraks

    PalmPalmnaraks บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ทำไมคนเก่ง-ฉลาด มักผิดพลาด
    อาหารสมอง วีรกร ตรีเศศ varakorn@dpu.ac.th มติชนรายสัปดาห์ วันที่ 09 มกราคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 24 ฉบับที่ 1221

    ใครเป็นแฟนของ STEVE IRWIN นักล่าจระเข้ออสซี่คนดังทางโทรทัศน์ คงรู้สึกงงๆ ว่า เขาทำได้อย่างไร ในรายการโชว์เมื่อเร็วๆ นี้ ที่แขนข้างหนึ่งโอบอุ้มลูกชายคนที่สองอายุหนึ่งเดือน และอึกมือหนึ่งกำลังเอาโครงกระดูกไก่ป้อนไอ้เข้ยาว 4 ฟุต ที่อ้าปากกว้างไล่โดดงับ

    STEVE ได้แสดงโชว์นี้ในรายการของเขา ที่สวนสัตว์ควีนสแลนด์อย่างน่าเสียวไส้ เช่นเดียวกันกับการเอามือ ไปล่องูพิษร้ายแรงหลายครั้งในรายการทีวี การแสดงครั้งนี้ได้รับโทรศัพท์ประท้วงมากมายจากคนดู และจากทางการที่กำลังพิจารณาโทษของเขาเพราะเห็นว่า เป็นการทำให้เด็กอาจตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงได้ และสำหรับคนดูทั่วไปเห็นว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด (BAD JUDGEMENT) ไม่รู้เหมือนกันว่า จะมีผลต่อเขาในด้านลบมากเพียงใดสำหรับรายการโทรทัศน์ระดับโลกที่มีประจำอยู่ทุกอาทิตย์

    งานนี้เรียกได้ว่าสตีฟและเทอรี่ภรรยาอเมริกันของเขาเสี่ยงต่อการตกจากความนิยมไม่น้อยทีเดียวในบางประเทศ เหตุการณ์ครั้งนี้คล้ายกับที่ ไมเคิล แจ๊กสัน เอาลูกในวัยไม่กี่เดือนของเขา ออกไปแกว่งโตงเตงนอกระเบียงสูงหลายชั้น ของโรงแรมที่เขาพักต่อหน้าแฟนๆ และชาวโลกเมื่อปีที่แล้ว

    คำถามก็คือ สตีฟ และ ไมเคิล แจ๊กสัน ทำเช่นนี้ได้อย่างไร ? BAD JUDGEMENT เกิดขึ้นได้อย่างไรกับคนที่เก่งฉลาดเช่นเขาทั้งสอง ?

    เมื่อเห็นข่าวนี้ผมก็ไปค้นหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่ซื้อไว้นานแล้ว ชื่อ WHY SMART PEOPLE DO DUMB THINGS โดย M. FEINBERG และ J.J. TARRANT มาอ่านเพื่อหาข้อมูลวิชาการมาเขียนประกอบในครั้งนี้

    "ทําไมคนเก่ง-ฉลาดจึงทำอะไรโง่ๆ" เล่มนี้ได้เล่าตัวอย่างของคนเก่ง-ฉลาด ที่มักทำอะไรโง่ๆ ที่คนนึกไม่ถึงหลายเรื่อง ในคดี WATERGATE ที่ทำให้ประธานาธิบดีนิกสัน เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาที่ลาออกนั้น ถ้านิกสันเอาเทปที่เขาแอบอัดคำพูดทั้งหมดในห้องทำงานประธานาธิบดีไปทำลายเสียแต่แรก โดยให้ใครๆ รู้ก็ไม่มีใครว่าอะไรได้ เพราะยังมิได้เป็นหลักฐานในศาล แต่นิกสันก็ไม่ทำเพราะไม่คิดว่าจะมีใครทำอะไรได้ แต่ต่อมาเมื่อเป็นหลักฐานอ้างในศาลก็ไม่อาจทำลายได้แล้ว และสิ่งที่อยู่ในเทปนั้นทั้งหมดแหละที่ทิ่มแทงเขาในที่สุด

    ผมคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังหนังสือเล่มนี้ออกมา คือ คดีลูวินสกี้ เป็นไปได้อย่างไรที่คนเก่ง-ฉลาด อย่างประธานาธิบดีคลินตันจะทำอะไรโง่ๆ กับเด็กฝึกงาน และทำอะไรอุบาทว์เช่นนั้นใน OVAL OFFICE (จำซิก้าลูวินสกี้ได้นะครับ) ชนิดที่คนอเมริกันจำนวนมากรับไม่ได้

    ถ้าเขาไม่มี DR. SPIN ดีๆ (กุนซือและทีมที่ SPIN หรือหมุนข่าวสาร เพื่อให้ความสนใจของสื่อ และประชาชนเป็นไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว รับรองเดินทางเดียวกับนิกสันแน่ เพราะทั้งสองได้ทำลายศรัทธา และความไว้วางใจซึ่งเป็นฐานของความศักดิ์สิทธิ์ของตำแหน่งนี้ นั่นก็คือ โกหกประชาชน

    ในบ้านเราตัวอย่างก็มีมากมาย เช่น คดีหมอวิสุทธิ์ คำสั่งฆ่าฟันประชาชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ กรณีข้อเสนอเอาระเบิดน้ำมันหมูไปใช้ในสงครามอัฟกานิสถานของ คุณทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ จนหลุดจาก ส.ส. ฯลฯ

    คำถามเดิมก็คือ ทำไมคนเก่ง-ฉลาด จึงพลาดได้ ?

    ผู้เขียนได้เฉลยว่า คนเก่ง-ฉลาด หรือ SCIPI (SUPERIOR COGNITIVE INTELLIGENCE POSSESSING INDIVIDUAL) เหล่านี้ สามารถก้าวกระโดดในเรื่องการรับรู้เข้าใจเรื่องต่างๆ ได้ลึกซึ้งรวดเร็วและบรรลุความก้าวหน้าในงานจนได้ตำแหน่งสำคัญๆ เป็นผู้นำสังคมในภาครัฐและเอกชน ฯลฯ

    โดยทั่วไปคนเหล่านี้เก่ง-ฉลาด เกินไป ที่จะทำอะไรโง่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราจะเห็นว่ามันเกิดขึ้นเสมอๆ จนผู้เขียนทั้งสองสรุปว่า "คนที่มีความเฉลียวฉลาดระดับสูงมีทางโน้มที่จะทำลายตัวเองสูง"

    ทั้งสองอธิบายว่า คนฉลาดมีความเสี่ยงที่จะทำลายตัวเอง โดยมีสาเหตุมาจากความฉลาดหลักแหลม ของตนเองนั่นแหละเป็นหลัก

    และในความเฉลียวฉลาดนี้จะมีไวรัสชนิดหนึ่ง แอบซ่อนอยู่ในทุกคน หากไม่มีสติกำกับให้ดีแล้วมันจะออกมาอาละวาด และทำลายตนเองในที่สุด

    ไวรัสนี้ก่อให้เกิดกลุ่มอาการที่เรียกว่า SELF DESTRUCTIVE INTELLIGENCE SYNDROME หรือ SDIS โดยไวรัสตัวนี้มีที่มาจาก 4 ปัจจัยหลักดังนี้

    (1) HUBRIS = ความภูมิใจ และความเชื่อในความสำคัญของตนเองอย่างยิ่ง

    (2) ARROGANCE = ความภูมิใจอย่างหยิ่งผยอง และมีวัตรปฏิบัติราวกับว่าตนเองสำคัญกว่าหรือรู้มากกว่าคนอื่น

    (3) NARCISSISM = ความรักและชื่นชมตัวเองอย่างล้นเหลือในรูปลักษณ์หรือความสามารถ

    และ (4) UNCONSCIOUS NEED TO FAIL = ความต้องการที่จะล้มเหลวอย่างไม่รู้ตัว

    ปัจจัยแรกคือ HUBRIS นั้น เป็นที่รู้จักกันมากว่า 2000 ปีแล้ว (HUBRIS มีรากมาจากภาษากรีก) เมื่อ SCIPI รู้ตัวว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น คิดวิเคราะห์ทำอะไรได้เก่งกว่าคนอื่น ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ HUBRIS จะมาเยือน

    ตัวอย่างที่ผู้เขียนยกมาก็คือ นายพลดักลาส แม็กอาเธอร์ บุคคลที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นทหารผู้ยิ่งใหญ่แต่ยังแบเบาะ พ่อเป็นนายพลมีชื่อในสงครามกลางเมือง เรียนเวสปอยต์ รบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เก่งกาจปราดเปรื่องแต่อายุยังน้อย

    ในสงครามโลกครั้งที่สองเป็น SUPREME COMMANDER ของการสู้รบกับญี่ปุ่น

    แต่สุดท้ายชีวิตก็จบลงอย่างผิดหวัง ในปี 1950 หลังสงครามจบลง เขาต้องการลุยเข้าไปในจีน เพื่อทำลายล้างคอมมิวนิสต์ เพราะมั่นใจว่าตนเองตัดสินใจถูก เพราะไม่เคยตัดสินใจผิดแม้สักครั้งในชีวิต และจะไม่มีใครมาหยุดเขาได้

    แต่ในที่สุดเขาก็ถูกปลด โดยประธานาธิบดีทรูแมนจนตกจากความนิยมชมชื่น

    ปัจจัยที่สองคือ ARRO GANCE ได้ทำลาย SCIPI มามากมาย เพราะความเก่งฉลาด "ลวง" ให้เข้าใจว่าตนเองนั้น เหนือกว่าคนอื่นตลอดเวลา ไม่มีโอกาสที่จะพลาดได้เพราะเห็นชัดเจนมาตลอดชีวิตว่าคนอื่นนั้น "โง่" กว่าตนไม่ทันตน ความประมาท ไม่สำรวมตน ไม่ระมัดระวัง การกระทำหรือคำพูดของตนเองจึงเกิดขึ้นจนเป็นผลเสีย

    ปัจจัยที่สามคือ NARRCISSISM หรือความหลงไหลในตนเอง เป็นตัวเสริมสองปัจจัยข้างต้นให้เกิดความผิดพลาดหรือทำสิ่งโง่ๆ ได้ง่ายเข้า เมื่อ SCIPI มีทั้งความมั่นใจในความวิเศษของตนเอง เชื่อมั่นศรัทธาอย่างยิ่งในความสำคัญของตนเอง อีกทั้งเชื่อมั่นเหลือเกินในความสามารถของตนเอง อย่างนี้ DUMB THING จะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร

    ปัจจัยตัวสุดท้ายคือ UNCONSCIOUS NEED TO FAIL ผู้เขียนทั้งสองเชื่อมั่นว่า SCIPI จำนวนมากมีจิตวิทยาชนิดที่ต้องการความล้มเหลวแอบช่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว และกระทำสำเร็จด้วยการทำลายตัวเอง

    SCIPI ประเภทนี้มักกระทำสิ่งที่ไม่รอบคอบกล้าเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ซึ่งในที่สุดก็ได้สิ่งที่ต้องประสงค์ นั่นก็คือความล้มเหลวในบั้นปลาย ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในช่วงแรกก็ตามที

    ตัวอย่างมีมากมาย เช่นนักกีฬาหรือทีมกีฬาที่เกือบจะชนะอยู่แล้วหากทำตามแผนที่วางไว้ แต่เมื่อเป็นต่อก็ออกนอกแผนเพื่อจะเสี่ยงแสดงว่าตนเองนั้นเก่งอย่างที่สุดและในที่สุดก็แพ้ ซึ่งการแพ้นี้โดยแท้จริงแล้วเป็นความล้มเหลวที่ตนเองต้องการอยู่ลึกๆ โดยไม่รู้ตัว

    คนเก่ง-ฉลาด ที่พลาดในที่สุดมีให้เห็นเสมอในประวัติศาสตร์ ดังที่ผู้เขียนทั้งสองยกตัวอย่างให้ดูข้อสรุปที่จะทำให้ SCIPI หลีกหนีการกระทำ DUMB THING ได้ก็คือ ความมีสติ การอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างจริงใจ ความไม่ประมาท และการเข้าใจ 4 ปัจจัยอันเป็นรากของการเกิด SDIS

    ------------------------

    เครื่องเคียงอาหารสมอง

    นับตั้งแต่ธนบัตร 1,000 ใหม่สีหม่นๆ ออกมาใช้ในบ้านเราหลายเดือนที่ผ่านมา ความเสียหายจากการใช้ธนบัตรผิดก็เกิดขึ้นอย่างดาษดื่น เพราะดูเผินๆ ในเวลารีบร้อนมันคล้ายกับธนบัตร 20 บาท ใหม่อย่างมาก หลายคนใช้ธนบัตร 1,000 บาทจ่ายค่าทางด่วนโดยนึกว่าเป็น 20 บาท และแปลกใจเมื่อเขาทอนเงินคืนให้มากมาย

    วิธีใช้ธนบัตร 1,000 บาทที่ปลอดภัยก็คือ จงแยกธนบัตร 1,000 บาทนี้ออกจากธนบัตรอื่นๆ ในซองธนบัตร เพื่อป้องกันความสับสนและเผลอเรอ และถ้าจะให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ถูกเบี้ยวโดยคนไม่ดี ที่อ้างว่าไม่ได้ให้ธนบัตร 1,000 บาท แต่ให้แบงก์ 100 บาท ก็จงพูดทุกครั้งที่นำแบงก์ 1,000 บาท หรือ 500 บาท ออกใช้ว่า "ขอใช้แบงก์ใหญ่นะ" หรือจะเอ่ยว่า แบงก์ 1,000 บาท ก็ได้ เพื่อกันไม่ให้ถูกขี้ตู่คดโกง เพราะเราจะได้อ้างว่า ผมได้พูดแล้วเมื่อกี้นี้ว่าใช้แบงก์ใหญ่

    นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนตัวเราเองอีกด้วยว่ากำลังใช้ธนบัตร 1,000 บาทซื้อของ คนป้ำๆ เป๋อๆ ทั้งหลายควรใช้วิธีดังเล่ามานี้

    เพราะคงไม่มีใครอยากผิดพลาดใช้เงินซื้อของที่แพงกว่าจริง 50 เท่าเป็นแน่



    น้ำจิ้มอาหารสมอง EVERY MAN MUST SCRATCH HIS HEAD WITH HIS OWN NAILS.

    มนุษย์ทุกคนต้องเกาหัวด้วยเล็บของตนเอง (สุภาษิตอาหรับ)
     
  2. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่า ถ้าพูดตามประสาเราก็คือ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    คนเราประมาทกันได้หมดแหละ
    มีสิทธิ์ทำผิดได้พอๆกัน
     
  3. witt

    witt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +551
    คนเก่นทำอะไรสำเร็จมักประมาท เพราะความประมาทนี้แหละ ถึงผลาดท่านาทีสุดท้าย
     
  4. PalmPalmnaraks

    PalmPalmnaraks บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ครับ

    สู้ๆ
     
  5. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เคยเจอกับตัวเองเหมือนกัน .... ตอนนั้นไปกินอาหารที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ....
    สิ่งที่สำคัญคือ ... ตอนเข้าห้องน้ำชาย (ปกติจะมีบริกร คอยนวดให้) .... และก็ให้ทิปไป 20 บาท ...... แล้วก็กลับบ้าน

    พอกลับมาถึงบ้าน .... ไอ๊หยา แบ้งค์พันหายไป .... เหลือแต่แบ้งค์ยี่สิบ ....เซ็งงง...เลย
    อย่างนี้เขาเรียกว่า "คนเก่ง-ฉลาด มักผิดพลาด" หรือเปล่า?
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...