ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

บอกแล้ว ว่า มนต์ คือคำสอน

สวดมนต์ก็คือ ท่องบ่นคำสอน

บท สติปัฏฐาน ก็มีเป็นบทสวด ก็คือ การ ท่องจำวิธีทำนั่นแหล่ะ

ว่าอานาปานะสติ ทำยังไงบ้าง ก้อยู่ในบทสวด

พอเข้าใจ ไม่ตรงประเด็น กับคำว่า สวดมนต์
ความกระแดะจะออกมาทันที

ทีนี้ สำหรับ คนที่สวดมนต์ จะสวดด้วยอะไรก็ช่าง

แต่เมื่อเข้าใจ วิธีในการฝึก สติปัฏฐาน ก็เอา การเม้มปากขยับ มาเจริญสติได้หมด

 

ลุงไม่ใช่ราชบัณฑิต ที่จะต้องตีความว่ามนต์คืออะไร
แต่ลุงพูดแบบภาษาชาวบ้านว่าสวดมนต์ชาวบ้านจะนึกอะไร
เอาแค่นั้นพอ พูดให้เข้าใจกันว่าสวดมนต์ให้นึกถึงกริยาแบบนี้. ใครอยากสวดก็เป็นเรื่องปัจเจก เพียงแค่พูดว่าทำกันเกินที่ทรงสอน ส่วนภิกษุจะสวดปาฏิโมกข์เพื่อกันลืมข้อวัตรนั่นเป็นกิจของสงฆ์ไม่ใช่ชาวบ้าน จุดประสงค์ก็ชัดเจนว่ากันลืม แต่ไม่ใช่สวดก่อนที่จะเม้มปากแล้วนั่งแน่นอน แต่ใครอยากจะทำเกินก็ทำไป

 

การฟังธรรมจักรกัปวัตนสูตรนั้นช่วยต่อปฏิบัติได้อย่างเเท้จริงครับ (ต้องฟังให้รู้ความหมาย คือเเปลไทย หรือใครมีความสามารถฟังบาลีออกก็เเล้วเเต่สะดวกครับ) ซึ่งการฟังบทนี้ ก็เปรียบเหมือนเราได้มานั่งฟังปฐมเทศของพระพุทธเจ้าอย่างใดอย่างนั้น

ที่ว่าช่วยต่อการปฏิบัตินั้น เพราะเวลาเราฟัง(อย่างมีสติ ตั้งใจ ไม่ฟังผ่านๆ) เเละพิจารณา ทบทวนตามคำสอน ตามธรรมที่พระพุทธองค์สอน มันช่วยให้จิตน้อมไปในความดับ(กิเลส) น้อมไปในความสิ้น(กิเลส) เเละน้อมไปสู่พระนิพพานครับ หรือจะเรียกว่าจิตน้อมไปสู่ทางที่ถูกที่ควร ทางเเห่งการดับสนิทไปของตัณหานั่นเอง เเละช่วยลดความหลงเสพในกามารมณ์ได้ อันเกิดจากการพิจารณาเห็นโทษซึ่งทำให้ปฏิบัติได้ราบรื่นเเละดียิ่งขึ้นครับ

 

มันก็ไม่ใช่เรื่องของ ราชบัณฑิตอะไรหรอก

เป้นเรื่องของคนที่อยากศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้า
ก้ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ ในคำสอน ก่อนจะลงมือทำ

ก่อนจะไปทำอะไรผิดๆ เข้าใจผิดๆ กลายเป็นเพี้ยนๆไป

 

ถ้าฟังแล้วพิจารณาตาม ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลยครับแถมถูกดีเสียอีก ติ๊งต่างว่านั่งฟังธรรมจากหลวงพ่อ หลวงตา
แต่ลุงว่าจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่เขาสวดเพื่ออะไร อันนี้ทุกคนคงรู้กันมั้งฮับ ลุงว่าต้องเลิกแอ๊บ มีสักกี่คนที่พิจารณาตามแต่ลุงอโมทนานะสำหรับคนที่พิจาณาตามจริงๆไม่ได้ว่าคนกลุ่มนี้

 

จุดประสงค์แต่ละคนก็หลากหลายกันไป ส่วนตัวแนนก็ไม่เน้นสวดมนต์นะ ส่วนมากก้อเจริญสติไปตรงๆเลย วันไหนฟุ้งซ่านหน่อยก้อค่อยสวดมนต์นั่งสมาธิ ซึ่งสวดมนต์มันช่วยเสริมสร้างให้จิตเป็นกุศลได้ดีระดับนึงนะคะ เพราะได้ระลึกถึงคุณของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ได้มีพิษภัยอะไรกับใคร ถ้าเป็นผลดีเป็นกุศลก็ทำไปเถอะ

 

เห็นด้วยกะลุงโจค่ะ พวกสวดมนต์คือพวกสวดไปตั้งศาลพระภูมิ อิอิ

ใครจะสวดไม่สวดก้อได้ จะมีสักกี่คนที่จะทำจิตทะลุคำสวดได้ ส่วนมากจะยึดคำบริกรรม ได้อารมณ์สมถะทั้งนั้น

แม้ความเป็นจริง ไตรลักษณ์จะมีอยู่ทุกขณะ ทุกเวลาก็ตาม แต่จิตจะได้สมถะมากกว่า

 

พิธีกรรม สิริมงคล มันจะตามมาเป็นพรวน สีลพตปรามาส ที่ จขกท เขาย้ำนักย้ำหนานั่นละ จขกท เขาถึงบอกไงว่า สัมมาทิฐิไม่ได้สร้างกันง่าย กิเลสมันจ้องโจมตีอยู่
ตัดจบ 555

 

กร๊ากๆ สวดไปตั้งศาล พวกกระแดะเหยียด การสวดมนต์
คิดได้ไง

มนต์ พระพุทธเจ้ามันต่างกัน
สวดมนต์ได้แค่ สมถะ ยิ่ง ขำกร๊ากๆๆ
เอาความฉลาดไปไว้ที่ไหนหนอ

 

ลุงงงว่ามีคนที่ยังอยู่ในโลกคู่ขนานจริงๆเหรอ
ที่ไม่รู้ว่าเมืองไทยใช้บทสวดมนต์ทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสวดและพรหมน้ำมนต์ในห้อง server ที่มี electonic board เต็มไปหมดดีไม่ระเบิด จนเป็นข่าวขบขันก็มีมาแล้ว

 

คนสวดแล้วพิจารณาตามเนื้อความจริงไม่ต้องเดือดร้อน แต่ควรภูมิใจเรามีการพิจาณาธรรมทุกวัน
แต่ถ้าสวดเพื่อรอพรมน้ำมนต์ทำพุทธคุณ ค่อยออกมาต่อต้านและกาหัวว่านายคนนี้เป็นคนของสำนักนี้ และด่าลามไปถึงสำนัก อันนี้ก็อีกกรณี จะได้ไม่ต่อความยาวว่าเจอแนวกิเลสต้านมาอีกหนึ่งราย

 

วันนี้ลุงจอซพูดเก่งเป็นพิเศษนะฮับ
...น่าจะค้างคาตั้งแต่... โพสตั้งกระทู้จะคุยกับโสดาบันเมื่อตอนโน้นใช่ไหมฮับ

 

สวดมนต์ก้อได้สมถะ
แต่จะมีสักกี่คนไม่เอาไปอิงพิธีทางพราหณ์ ฤกษ์พิธี ขึ้นบ้าน ออกรถ ลาสึก บลาๆ

นอกจากโสดาขึ้นไป จิตไม่หวนกลับ สวดสรรเสริญ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าทางพ้นทุกข์ต้องไปด้วยตัวเอง พึ่งใครไม่ได้ จริงตรงตามมนต์บรรยาย มีไม่กี่คนหรอกที่จะทำจิตทะลุคำสวด เข้าหาความรู้สึกตัวเป็นวิปัสสนาได้

โดยมากได้สมถะ สตินิ่งทั้งนั้น

 

ก็เห็นด้วยกับลุงโจในเรื่องพวกนี้นะ คนภาวนาเป็นจะเห็นเรื่องพวกนี้แล้วมันจะรู้สึกขัดๆความรู้สึก

แต่ก็ต้องแยกแยะเรื่องเจตตนาในการสวดมนต์แต่ละค ถ้าสวดเพื่อสนองตัณหาความโลภ มันก้อไม่ใช่ทางที่เหมาะสมที่เป็นไปเพื่อเจริญปัญญา ไม่ต่างกับบางคนนั่งสมาธิเพื่อเอาฤทธิ์เอาปาฏิหาริย์ หวังลาภสักการะ หวังให้คนมาสรรเสริญ แต่เราก็ไม่ได้ไปตีเหมาว่านั่งสมาธิเป็นเรื่องไม่ดีใช่มั้ยคะ

 

เออ นั่นสิ รู้ทันลุงเลย สมใจอยากลุงละ555

 

การสวดมนต์พระพุทธเจ้าเป็นพื้นฐานที่ดี แม้ไม่รู้ความหมาย

พูดในแง่วิทยาศาตร์ ก็เป็น การสร้างสนามพลังแม่เหล็กที่ดี
เพื่อให้ สนามพลังงานโลก มีความสมดุล ด้วยการเปล่งเสียง

แม้ยังไม่อาจหลุดพ้น แต่ช่วยให้ยืนอยู่ในกุศล เป็นพื้นฐาน
ประเทศไทยเราก็มี สวดมนต์ข้ามปี
ประเทศไทย จึงเป้นประเทศ ที่ มีภัยภิบัติน้อย
เป้นประเทศที่เหมาะแก่การภาวนา

แม้กระนั้น ก็ยังเป็นเรื่องประพฤติ จรรโลง ให้ศาสนายืนยาว

พระวัดไหน ไม่มีวัตรเช้าวัตรเย็น

ญาติโยมที่ไหน จะอยากมาใส่บาตร

สิ่งพวกนี้ ล้วนเป็น เครื่องขัดเกลาพื้นฐาน


สำหรับเรื่องอะไร ที่ย้อมแมวกับลัทธิพราหมณ์
คนที่ ศึกษาพุทธศาสนาจริง ย่อมมองออก
ไม่มีไปกระแดะกะเขา

ส่วนการย้อมแมวกะลัทธิพราหมณ์ อันนี้ก้แล้วบุคคลที่ตั้งตนให้อยู่ในที่อย่างไร ตามความฉลาดที่มี จะมากจะน้อย

 

ตั้งแต่ใช้ยูส "ซีฟอร์ซ" จำได้ว่า
แทบไม่ได้พูดถึงเรื่องสมาธิ
หรือ เรื่องฌานเลย
น่าจะคนละคนกันฮับ



#อันนี้หรือเปล่าฮับ

 

ทีกับผม ... ลุงไม่มาจับผิดบ้างนะฮับ

#สแตนบายรอลุงจอซ...มาจีบตลอดก็ไม่มา
... งอลล่ะ555

 

สวิตเซอรแลนด์ นิวซีแลน แคนาดา ก็ภัยภิบัติน้อยมั้งลุงว่า ลุงว่าอย่าลืมซึนามิภาคใต้ น้ำท่วม 54 และโควิดก็ควรเรียกว่าภัยภิบัติ เมืองไทยไม่ได้ตั้งบนเมฆจะวิเศษกว่าที่อื่นๆบนโลก ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ
แล้วลุงก็จะบอกว่า เขาก็สวดมนต์กันที้งโลก โดยเฉพาะวันอาทิตย์ หรือวันละ 3-4 เวลาแถวตะวันออกกลาง

 

เป็นการพูดแบบกลิ่นสายมู ลอยมาเต็มที่
ละครหลังข่าวเรียกพี่