ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อาต้อย เศรษฐา ได้กลับบ้านแล้ว ลูกสาวเผย ปอดยังมีร่องรอยและเชื้ออยู่ (คลิป)

    อาต้อย เศรษฐา ได้กลับบ้านแล้ว ลูกสาวเผย ปอดยังมีร่องรอยและเชื้ออยู่

    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สลด ป้าวัย 60 ป่วยอัมพฤกษ์อยู่คนเดียว เกิดไฟไหม้บ้านคลอกร่างดับสยอง

    สลด ป้าวัย 60 ป่วยอัมพฤกษ์อยู่คนเดียว เกิดไฟไหม้บ้าน เพื่อนบ้านเห็นรีบแจ้งตำรวจ รถดับเพลิงเร่งช่วยเข้าสกัดไฟแต่ไม่ทันการณ์ ร่างถูกย่างดับสยองคาห้องนอน

    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    การบีบอัดอย่างรุนแรงและการบิดของแม่เหล็กของสนามแม่เหล็กโลกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    FB_IMG_1620118301541.jpg FB_IMG_1620118303653.jpg
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุราษฎร์ธานี คุมเข้ม !

    ผู้ว่าฯ จ.สุราษฎร์ธานี ออกคำสั่งมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

    โดยระบุว่า

    - ห้ามตั้งวงสุรา 2 คนขึ้นไป

    - งดรวมกลุ่มกินข้าว

    - ร้านอาหารปิด 21.00 น.

    - งด/เลื่อนงานกฐิน ผ้าป่า งานประจำปี งานหมั้นแต่ง งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ งานมงคล หากจำเป็นจัดได้ไม่เกิน 20 คน

    - งานศพ จัดได้ต้องไม่เกิน 50 คน

    มีผลวันนี้ (4 พ.ค. 64) เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย

    https://www.fm91bkk.com/fm97868-

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โควิด-19 การระบาดของโรค
    .
    ในเกือบทุกประเทศการระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มจากในเมืองที่มีประชากรอยู่หนาแน่นแล้วจึงกระจายไปสู่ต่างจังหวัดและอำเภอ ส่วนหมู่บ้านจะกระทบทีหลังสุด ไม่ว่าจะเป็นในพม่า ในกัมพูชาและประเทศทางตะวันตก จะเป็นรูปแบบเดียวกันหมด
    .
    ในปัจจุบันทราบดีแล้วว่า (จากการศึกษาในอังกฤษ) การให้วัคซีน นอกจากลดความรุนแรงของโรคแล้วยังสามารถลดการแพร่กระจายของโรคลงได้กว่าเท่าตัว ในภาวะที่เกิดการระบาดในประเทศไทยที่เป็นอยู่ขณะนี้ สิ่งที่จะช่วยการระบาดของโรคคือการปูพรมฉีดวัคซีนให้ในจังหวัดสีแดงเข้มก่อนเพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ รวมทั้งกระจายไปยังเมืองใหญ่ก่อน ส่วนเมืองเล็กหรือชนบทยังสามารถรอได้ เพราะจะมีผลกระทบท้ายสุด
    .
    การให้แบบหมู่มากจากเมืองออกไป ในทางปฏิบัติสามารถทำได้ง่ายกว่าและทำได้รวดเร็ว เพราะกลุ่มคนอยู่หนาแน่นและมีโรงพยาบาลที่รองรับหรือมีสถานบริการที่จะให้บริการเป็นจำนวนมาก เมื่อสามารถควบคุมโรคได้ การเก็บตกในการให้วัคซีนสามารถทำได้ง่ายกว่า
    .
    ในภาวะที่ไม่มีการระบาดของโรค การเลือกเป้าหมายให้กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เป็นวิธีการที่ดี ประเทศไทยใหญ่กว่าอิสราเอลมาก ในอิสราเอลเองสามารถเลือกจากกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ก่อนได้ แต่สำหรับประเทศไทยถ้าให้แบบอิสราเอลในแต่ละวัน จะให้ได้จำนวนไม่มาก ดูเรื่องกันการกระตือรือร้นในการลงทะเบียน ไม่ได้มากและเร็วอย่างที่คิด
    .
    ในการให้กลุ่มแรก ถ้าเลือกเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือมีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เป้าหมายในการฉีดวัคซีนในระยะแรกให้ได้วันละ 3-5 แสน ในทางปฏิบัติจะทำได้ยากพอสมควรหรืออาจจะทำพร้อมกัน ทั้งฉีดหมู่มากในเชิงรุกและรณรงค์ในกลุ่มเสี่ยงให้กลุ่มเสี่ยงมาฉีดให้มากที่สุด ที่เหลือเป้าหมายก็ให้ในวงกว้างในจังหวัดสีแดงเข้ม
    #หมอยง

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เฟาซี กุนซือสาธารณสุขสหรัฐฯ แนะอินเดียเรียนรู้จากการควบคุมโรคของจีน

    The Indian Express สื่ออินเดียรายงาน (1 พ.ค.) อ้างคำกล่าวของ แอนโธนี เฟาซี ที่ปรึกษาสาธาณสุขของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีจัดการกับ “สถานการณ์ที่ยากลำบากและสิ้นหวัง” ในอินเดีย ว่าการสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวเช่นเดียวกับวิธีของอู่ฮั่นเมื่อปีที่แล้ว อาจจะเป็นทางออกวิกฤติ เป็นมาตรการฉุกเฉินสำหรับอินเดีย

    “สำหรับผมแล้วสิ่งที่ผมรับทราบ [ในอินเดีย] พบว่าผู้คนกำลังมองหาการรักษาในโรงพยาบาลอย่างสิ้นหวัง” เฟาซี ซึ่งเป็นหัวหน้าสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าว

    นอกจากนี้เขายังชี้ไปที่การใช้มาตรการล็อคดาวน์ ปิดเมืองของจีนโดยกล่าวว่า “เรารู้ดีว่าเมื่อปีที่แล้วจีนเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ จีนปิดเมืองทันที และถ้าปิดก็ไม่ต้องปิดเป็นเวลาหกเดือน สามารถปิดชั่วคราวเพื่อยุติวงจรการแพร่ระบาด”

    ทั้งอินเดียและจีนมีประชากรมากกว่าพันล้านคนและมีประชากรหนาแน่น แม้ว่าการระบาดของจีนในช่วงต้นปี 2563 ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่ที่อู่ฮั่นและส่วนอื่น ๆ ของมณฑลหูเป่ย หลังจากที่รัฐบาลบังคับใช้มาตรการปิดเมืองอย่างเข้มงวด ซึ่งมีผู้ป่วยอย่างเป็นทางการประมาณ 50,000 ราย ในสองเดือน

    รัฐบาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกเมือง โดยมาตรการดังกล่าวเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ในเวลานั้น แต่หลังจากการแนะนำและการบังคับใช้ การควบคุมการระบาดก็ได้ผล พบการระบาดในประเทศเพียงเล็กน้อยและประปรายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

    แม้ว่าบางส่วนของอินเดีย เช่น เมืองหลวงนิวเดลีได้ออกมาตรการปิดกั้นบางอย่างในช่วงระลอกล่าสุด แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ล็อคดาวน์ทั้งประเทศ แบบที่เคยทำเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว

    มาตรการที่สำคัญอื่น ๆ ที่ เฟาซี เน้นให้ทำร่วมพร้อมกันไป ได้แก่ การรณรงค์ฉีดวัคซีนเพื่อการควบคุมในระยะยาว และการเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยชีวิตเช่นออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ป้องกันได้ทันที

    เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานว่า อินเดียขาดแคลนยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ และหลายประเทศได้ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมถึงสหรัฐฯ อังกฤษ บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไทย

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน โทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย สุพรหมณยัม ชัยศังกระ กล่าวว่า กำลังดำเนินการผลิตและส่งออกเสบียงไปยังอินเดีย

    หวังอี้ ยังกล่าวอีกว่าจีนยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ในการต่อสู้กับโรคระบาดกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของอินเดีย

    รายงานข่าวก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปี สี จิ้นผิง ได้พยายามส่งสัญญาณเตือน “โลกจะกลับไปยุคดึกดำบรรพ์หากไม่ร่วมมือกัน” ตั้งแต่เดือนมกราคม ต้นปี 2021 สีจิ้นผิง ได้เคยเตือน ผ่านเวทีประชุม World Economic Forum และใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือพหุภาคี “สี จิ้นผิง” กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปี “ดาวอส อเจนด้า” (Davos Agenda) ของ “เวิล์ด อีโคโนมิกส์ ฟอรั่ม” (WEF) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แนะนำให้โลกต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย

    ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ณ เดือนมกราคมที่ประชุมกันนั้น ห้าประเทศที่รายงานจำนวนผู้ป่วยรายใหม่สูงสุด ยังไม่มีอินเดียเลย (สหรัฐอเมริกา, บราซิล, สหราชอาณาจักร, สหพันธรัฐรัสเซีย และฝรั่งเศส)

    สถิติของอินเดียในปี 2020 ยังห่างไกลคำว่าวิกฤต ยังไม่ติดท็อปทรีของเอเชียด้วย มาปีนี้ ช่วงมกราคม 2564 อินเดียยังมีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว่รวมทั้งหมดที่ 10,667,736 ราย รายวันในอินเดียยังคงลดลงด้วย จนอินเดียเพิ่งจะเข้าระลอกสองของจริง เมื่อแถว ๆ ปลายเดือน กพ. - มี.ค. ที่มีผู้ป่วยในระลอกที่สองเริ่มเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์แล้วก็เป็นสึนามิระบาด ในวันนี้ 4 พ.ค. มีจำนวนรวมผู้ติดเชื้อกว่า 19.9 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว กว่า 2.19 แสนคน

    เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จีนวิตกมาตั้งแต่ต้นปี จึงพยายามเรียกร้องผ่าน G20 ตั้งแต่ประชุมกันเมื่อต้นปี ตอนนั้น ให้ทำอะไรก่อนที่จะมีเกิดรอบสองที่อินเดีย จนล่วงเข้าเดือน พ.ค. องค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ณ เดือน พ.ค. นี้ มีรายงาน 1 ใน 3 รายของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก คือผู้ติดเชื้อในอินเดีย

    ล่าสุด สี จิ้นผิง ก็ยังพูดเรื่องนี้ชัดเจนอีกครั้ง รอยเตอร์ส์รายงาน (1 พ.ค.) ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เสนอที่จะช่วยอินเดียต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยผู้นำจีนส่งข้อความแสดงความเห็นใจและให้การสนับสนุนแก่นายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดี เมื่อวันศุกร์ ที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา

    “จีนยินดีที่จะยกระดับความร่วมมือกับอินเดียในการต่อสู้กับโควิด -19 และให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่อินเดีย” สี จิ้นผิง กล่าวกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย

    ทั้งนี้ รัฐบาลโมดิ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กับการปล่อยให้ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันงานเทศกาลทางศาสนาและกิจกรรมอื่น ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศอย่างไร้การควบคุมเช่นที่เคยทำได้ผลเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว

    .............
    ข่าว /ภาพ - https://www.scmp.com/news/china/dip...-chinas-experience-fighting-covid-19-says-top

    https://indianexpress.com/article/e...is-anthony-s-fauci-coronavirus-death-7297380/

    https://www.thehindu.com/news/national/coronavirus-january-29-2021-live-updates/article33690330.ece

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เคล็ดลับรักยั่งยืนจาก #ญี่ปุ่น ❣ บนยอดเขาคองโกที่อยู่ระหว่างจังหวัดโอซากาและนาราของญี่ปุ่น มีต้นสน 2 ที่เติบโตเคียงคู่กันมานานนับร้อยปีจนได้ชื่อว่า "ต้นสนคู่รัก" และมีศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าอวยพรให้คู่รักที่ฝ่าฟันปีนขึ้นเขามานานกว่า 2 ชั่วโมงรักมั่นขวัญยืน โดยมีป้ายแนะนำเคล็ดลับครองคู่ในแต่ละช่วงวัยว่า
    วัย 20 จงรัก (ความรักหนุ่มสาว)
    วัย 30 พากเพียร (สร้างเนื้อสร้างตัว)
    วัย 40 อดทน (เป็นกลางชีวิตที่ลำบากทั้งหน้าที่การงานที่มีทั้งหัวหน้าและลูกน้อง และยังต้องดูแลครอบครัวและลูกน้อย)
    วัย 50 อุเบกขา (ช่วงวัยที่ต้องพบกับหลายอย่างที่ไม่ได้ดั่งใจทั้งการงาน คู่ชีวิตเริ่มไม่สวยหล่อเหมือนวัยเยาว์ ลูกเริ่มเติบโตและมีความคิดเป็นของตนเอง จึงควรละวางในสิ่งที่สร้างภาระให้จิตใจโดยไม่จำเป็น)
    วัย 60 เชื่อมั่น (ศรัทธาว่าเราจะชราไปด้วยกัน ไม่ทอดทิ้งกัน)
    วัย 70 ขอบคุณ (ขอบคุณที่ดูแลกันยามแก่เฒ่า)
    วัย 80 ร่วมกายร่วมใจ (ครองคู่กันตราบนิรันดร์)
    ผู้ที่ทำได้เช่นนี้ ครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร❣

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    2021 ไข้รักอุณหภูมิสูงบ่าว-สาวชาวจีนถ่ายภาพวิวาห์หน้าโบสถ์เซนต์โยแซฟ ในกรุงปักกิ่ง❣️ คู่รักชาวจีนสามารถจัดงานแต่งงานอย่างคึกคักอีกครั้ง หลังพ้นการระบาดของโรคโควิด ซึ่งทางการขอให้งดจัดงานที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก (ภาพจากสำนักข่าว AFP)

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทุกๆ ปีมีการใช้พาเลทไม้ 1.7 พันล้านชิ้นในการขนส่งสินค้าออกไปยังสถานที่ต่างๆ ในโลก ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นไม้ 170 ล้านต้นถูกตัดเพื่อผลิตเป็นพาเลทเพียงอย่างเดียว
    .
    Michiel vos จึงได้ก่อตั้ง Cocopallet บริษัทสตาร์ทอัพจากอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เปลี่ยนกาบมะพร้าวให้กลายเป็นพาเลททางเลือกทดแทนไม้จริง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs ด้วย
    .
    นอกจากจะช่วยลดการตัดไม้จริงมาทำพาเลทได้แล้ว ยังช่วยลดขยะจากกาบมะพร้าว และลดมลพิษที่จะเกิดขึ้นจากการเผาขยะเหล่านั้น รวมถึง ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวด้วย
    .
    กาบมะพร้าวที่ถูกปอกที่มีทั้งขุยมะพร้าวที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ และลิกนินจากเปลือกด้านนอกที่แข็งในการเป็นสารช่วยให้ยึดติดกัน เมื่อผ่านกระบวนการให้ความร้อน และบีบอัดก็จะจะละลายรวมตัวเป็นชิ้นเดียวกัน
    .
    พาเลทที่ได้จะมีความแข็งแรง เรียงซ้อนกันได้ช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ดีต่อการขนส่ง แต่ไม่ทนทานต่อปลวก เพราะไม่มีการเคลือบสารป้องกัน ซึ่งทำให้สามารถย่อยสลายเป็นปุ๋ยให้กับดินได้ เมื่อหมดอายุการใช้งาน
    .
    พาเลทกาบมะพร้าวนี้ยังได้ชนะรางวัล Hello Tomorrow Bloomberg ในปี 2016 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 3,500 คนจาก 105 ประเทศ
    .
    ลุงว่า ดี๊ดีย์อ่ะ มีประโยชน์หลายอย่างนะเนี่ย เนื้อเอาไปทำขนม น้ำเอาไว้ดื่มแก้กระหาย ใบเอาไปสานเป็นปลาตะเพียน เปลือกก็ยังเอามาทำพาเลทได้อีกอ่ะ
    .
    .
    https://www.cocopallet.com

    https://brightvibes.com/989/en/cocopallet-an-eco-friendly-alternative-to-wooden-shipping-pallets
    https://www.biobasedpress.eu/2016/12/cocopallet-grow-niches-compete-price-says-michiel-vos/
    https://www.webpackaging.com/en/portals/cocopalletinternational/

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อุตสาหกรรมตัดเย็บเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมของโลกที่ก่อคาร์บอนปริมาณมาก โดยแต่ละปีมีส่วนในการสร้างคาร์บอนราวๆ 10% ของทั้งหมด
    ยังไม่รวมถึงขยะมหาศาลที่เกิดจาก Fast Fashion ที่ชักนำให้คนเราเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่อายุการใช้งานของมันจะหมดลง
    ขยะที่เกิดจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ถูกนำไปรีไซเคิลเพียง 12%
    เสื้อบางตัวถูกทิ้งหลังจากการใช้ไม่กี่ครั้ง
    ยังไม่รวมถึงขยะเศษผ้าจากการตัดเย็บ รวมถึงผ้าเหลือม้วนที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้
    .
    ก่อนที่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าจะเฟื่องฟูเหมือนปัจจุบัน 8,000 ปีที่แล้วมนุษย์เราเคยผลิตเสื้อผ้าด้วยการค่อยๆ ถักขึ้นจากเส้นด้ายทีละเส้น เสื้อแต่ละตัวต้องถูกวัดอย่างแม่นยำและถักทอเพื่อแต่ละคนโดยเฉพาะ แต่การถักผ้าแบบนั้นปัจจุบันเป็นเหลือเป็นเพียงงานอดิเรกยามว่างของบางคนเท่านั้น
    .
    จวบจนปัจจุบับน การถักผ้าเชิงอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้น เช่นเทคโนโลยี 3D knit ของ uniqlo ซึ่งสามารถถักผ้าทั้งตัวได้โดยใช้เส้นด้ายแค่เส้นเดียว ซึ่งทำให้แทบจะไม่เกิดขยะในการผลิตเลย ในขณะที่สามารถทำให้พอดีตัวผู้ใส่ได้ด้วย
    .
    น่าเสียดายที่การใช้เครื่องถักเสื้อแบบสามมิตินี้มีข้อจำกัดด้านรูปทรงที่ทำได้เพียงไม่กี่แบบ และผ้าไม่กี่ชนิด และยังทำให้ต้องทำเชิงอุตสาหกรรม คือผลิตทีละมากๆ เพื่อให้คุ้มต้นทุนด้วย
    .
    https://www.uniqlo.com/us/en/news/topics/2018090601/

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หน่วยงานน้ำของรัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา เตรียมแบนหญ้าประดับข้างทางซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ กว่า 21 ตารางกิโลเมตรในเมืองลาสเวกัส สาเหตุมาจากหญ้าเหล่านี้ต้องใข้น้ำในการดูแลสูงถึง 15% ของนำ้ที่ใช้ในเมืองทั้งหมด ซึ่งหากลดหญ้าพวกนี้ลงได้ จะเหลือน้ำให้กับคนในเมืองเพิ่มขึ้นถึงวันละ 53 ลิตรต่อคนเลยทีเดียว
    .
    วิกฤติการขาดแคลนน้ำของลาสเวกัส เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เมื่อฝนขาดช่วงนานถึง 240 วัน ทำให้น้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำโคโลราโดมีปัญหา และรัฐจำเป็นจะต้องหาทางออกให้กับเรื่องนี้
    .
    ความจริงในช่วงหน้าแล้ง ปกติจะมีการหยุดให้น้ำกับพวกหญ้าข้างทางบ้างอยู่แล้ว แต่รัฐเนวาด้าจะเป็นที่แรกที่ตัดสินใจออกกฎแบนถาวรไปเลย โดยจะใช้การปลูกพืชพื้นถิ่นเช่น กระบองเพชรซึ่งใช้น้ำน้อยกว่า 4 เท่าแทน
    .
    กฎนี้จะบังคับใช้เฉพาะหญ้าส่วนกลางที่แทบจะไม่ถูกใช้งาน เช่น หญ้าข้างทาง เกาะกลางถนน ฯลฯ แต่สำหรับสนามหญ้าส่วนบุคคลจะยังให้ประชาชนปลูกได้ตามปกติ เพียงแต่จะต้องเสียค่าปลูกหญ้าสูงถึง 3 เหรียญต่อตารางฟุตแทน
    .

    https://apnews.com/article/las-vegas-wants-ban-ornamental-grass-63017cc13af74dc49308a635e2c98346
    https://www.nydailynews.com/news/na...0210412-vvej4rao4fennmdjk5s4a6ffmq-story.html

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดเดือด!!! สาวโพสคลิปโวยวายหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.ดังในเชียงใหม่ อ้างหมอไม่รักษา ด้าน จนท.ออกชี้แจง เผยความจริงเจ้าตัวไม่ยอมดำเนินการมาตรการคัดกรอง ไม่สวมหน้ากากอนามัย แถมมีอาการเมาหนัก

    วันนี้ พ.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่โลกโซเชียล เกิดประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก เมื่อผู้ใช้แอพลิเคชั่น tiktok ที่ชื่อว่า "@Smile Ploy699" โพสต์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 27 วินาที ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งโวยวายเสียงดังหน้าทางเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมระบุข้อความว่า “ โดนแก้วบาดแผลฉีกลึกกว้างมาก เข้าใจหมอนะว่าเหนื่อยเพราะช่วงนี้โควิดระบาด ขอร้องอ้อนวอนหมอ ขอรักษาแผลน้อง แต่หมอไม่ยอมรักษา #โรงพยาบาลนครพิงค์” ซึ่งคลิปดังกล่าวทำให้ผู้ที่เข้ามาชมเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่ยอมรักษาผู้บาดเจ็บในคลิป และภายหลังคลิปถูกเผยแพร่ ได้มีเจ้าหน้าที่เวชกิจของโรงพยาบาบาลนครพิงค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้โพสต์อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และ รู้สึกท้อใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ขณะที่ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่คนนี้ ได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุกู้ชีพเวียงพิงค์ ได้รับแจ้งทางสายด่วน 1669 มีผู้บาดเจ็บถูกแก้วบาดแขนที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อซักประวัติตามขั้นตอนทำให้ทราบว่า ผู้บาดเจ็บเป็นหญิงวัยรุ่นที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัวเนื่องจากมีเพื่อนในกลุ่มติดเชื้อโควิด-19 และทราบว่าในช่วงเกิดเหตุ น้องกลุ่มนี้ซื้อเหล้ามาดื่มกันในสถานที่กักตัวและเกิดทะเลาะกันในกลุ่มจนได้รับบาดเจ็บ และหลังทราบประวัติทางศูนย์จึงแจ้งให้รอ เพื่อเตรียมทีมแพทย์พยาบาลออกไปรับตัวในชุดป้องกันการติดเชื้อ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่เตรียมชุด กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ขี่รถจักรยานยนต์รถจักรยานยนต์ 2 คัน วัยรุ่นชายหญิงรวม 6 คน เข้ามาที่โรงพยาบาล หนึ่งในนั้นเป็นหญิงวัยรุ่นเสื้อดำเป็นผู้บาดเจ็บ

    ต่อมาเมื่อมาถึงพบว่าทั้งหมดอยู่ในสภาพเมาหนัก เจ้าหน้าที่จุดคัดกรองได้ขอทำการตรวจวัดคัดกรองตามขั้นตอน แต่หญิงเสื้อสีดำไม่ยอม โวยวายเสียงดังว่าหมอไม่ช่วยรักษา แถมไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย เจ้าหน้าที่ขอร้องก้ไม่ให้ความร่วมมือและยืนยันว่าหากไม่ผ่านการตรวจตัดกรองไม่สามารถให้เข้าไปในห้องฉุกเฉินที่อยู่ในพื้นที่อาคารของโรงพยาบาลได้ จากนั้นเพื่อนในกลุ่มจึงเข้ามาห้ามปรามจนทะเลาะกันเองพักใหญ่ กระทั่งผ่านไปนานเกือบสิบนาที หญิงวัยรุ่นยังโวยวายไม่เลิก เพื่อนห้ามก็ไม่ฟัง ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งไปยังสายตรวจ สภ.แม่ริม เข้ามาระงับเหตุ จึงทำให้ทั้งหมดขี่จัรกบยานยนต์ออกไปจากโรงพยาบาล โดยไม่ยอมเข้าตรวจัดกรองเพื่อทำแผล

    นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่เคยคิดที่จะปฎิเสธคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือมาในสภาพไหน แต่การเข้ารักษาต้องมีขั้นตอนคัดกรอง โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ระหว่างกักตัว คลิปที่ถูกนำไปโพสเป็นคนละเรื่องกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกท้อใจ อยากให้ทุกคนทราบว่าบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนจำเป็นต้องทำตามขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ คนในสถานการณ์โรคระบาด

    รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ในเวลาต่อมา ภายหลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในคลิปดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้ล่าสุดจากการตรวจสอบ คลิปดังกล่าวพบว่าถูกลบออกไปจากบัญชีผู้ใช้คนดังกล่าวแล้ว


    ไม่พลาดข่าวเพจนี้ CM108
    การตั้งค่าการติดตาม
    - รายการโปรด
    คุณจะเห็นโพสต์แสดงอยู่สูงกว่าในฟีดข่าวของคุณ
    รับรองไม่พลาดเรื่องราว-ข่าวสารจากเพจนี้
    ---------
    • ข่าวย้อนหลัง : CM108.com
    • กลุ่มเฟซบุ๊ก CM108 : https://www.facebook.com/groups/cm108/
    • LINE CM108 : line.me/ti/g2/OGUXX9M6K3
    • Twitter : https://twitter.com/chiangmai108/
    • Instagram : instagram.com/chiangmai108/
    • YouTube : youtube.com/channel/UCCPu1rZLTp9Y0eMlrTStULQ/
    • Tiktok : https://www.tiktok.com/@cm108.com

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "อ.หางดง" ออกมาตรการเข้ม‼ คุมพื้นที่ หมู่ 5 ต.หารแก้ว อ.หางดง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย ด้านเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนโรค และตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโดยเร่งด่วน
    >> อ่านต่อได้ที่ https://www.cm108.com/w/48823/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมื่อวานนี้ (3 พ.ค. 64) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี พลโท กิตติชัย วงศ์หาญ เจ้ากรมพลาธิการทหารบก พร้อมคณะนายทหาร ส่งมอบโรงพยาบาลสนามแก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจำนวน 2 อาคาร 200 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว โดยมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ พร้อมคณะแพทย์และพยาบาลร่วมรับมอบโรงพยาบาลสนามดังกล่าว
    .
    จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา กองทัพบกได้ตระหนักถึงความสำคัญและเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการเตรียมพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนสนับสนุนหน่วยงานราชการต่าง ๆ และกระทรวงสาธารณสุข จึงมอบหมายให้กรมพลาธิการทหารบกจัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 (COVID-19) กรณีเกินขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลัก
    .
    และได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารกองคลังยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก เป็นโรงพยาบาลสนาม ประกอบด้วยอาคาร 2 อาคาร การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 200 เตียง ณ กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบกในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนและรองรับผู้ป่วยกรณีโรงพยาบาลหลักเกินขีดความสามารถที่จะดูแลผู้ป่วยได้ทั้งหมด โดยรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาและสังเกตอาการจากโรงพยาบาล กรณีอาการไม่รุนแรง (กลุ่มสีเขียว) ให้มาพักรักษาและติดตามอาการต่อเนื่องจนกว่าผลตรวจจะเป็นลบหรือไม่พบเชื้อแล้ว แต่หากพบว่ามีอาการหนักขึ้นก็จะถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหลักทันที
    .
    นอกจากนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนนำเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าไปสนับสนุนการทำงาน การเว้นระยะห่างของการทำงานของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ฯ (Social distancing) เพื่อช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับให้การทำงานของทีมแพทย์ และบุคลากรต่าง ๆ ไร้อุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ด้วย
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/politics/detail/9640000042301
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    4 พ.ค.64 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนเกี่ยวกับการรับข้อมูลข่าวสารในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยพบว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ และข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในสื่อออนไลน์ ก่อให้เกิดความสับสัน ตื่นตระหนก และเข้าผิดเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ดังนั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวัง เลือกรับข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่งต่อ แชร์ข้อมูล เพื่อช่วยลดปัญหาข่าวปลอม ไม่เป็นการสนับสนุนกระบวนการผลิตข่าวปลอมที่สร้างความสับสนแก่คนในสังคม
    .
    น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง จึงกำชับให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ตรวจสอบข่าวสารอันเป็นเท็จ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม รวมถึงชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง หากพบกรณีจงใจสร้างความสับสนแก่ประชาชน ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวง กรม ส่วนราชการต่างๆ ยังมีหน้าที่ตรวจสอบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานตนเอง และชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงข้อมูลที่ถูกต้องด้วย
    .
    น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังพบหลายกรณีที่พยายามโจมตีและดิสเครดิตรัฐบาล โดยอาศัยข้อมูลเพียงบางส่วน ไม่ครบถ้วน และข้อมูลเท็จ ฉวยโอกาสโจมตีรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นวัคซีน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ขอวิงวอนกลุ่มคนที่กระทำการดังกล่าว ให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนจากการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือไม่ครบถ้วน โดยขอให้ทุกฝ่ายลดความขัดแย้ง ช่วยกันทำให้เกิดบรรยากาศของความร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อที่สถานการณ์โควิด-19 จะได้คลี่คลายลงโดยเร็ว
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/101722
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วันนี้ เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า
    .
    มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,763 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,750 ราย มาจากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 1,519 มาจากการค้นหาเชิงรุก 231 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 72,788 ราย หายป่วยสะสม 42,474 ราย
    .
    เฉพาะวันนี้หายป่วย 1,490 ราย อยู่ระหว่างรักษา 30,011 ราย อาการหนัก 1,009 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 311 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 27 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 6 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 303 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 154,178,244 เสียชีวิตสะสม 3,226,875 ราย
    .
    นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในวันที่ 4 พ.ค. ได้แก่ กทม. 526 ราย สมุทรปราการ 201 ราย นนทบุรี 168 ราย ชลบุรี 91 ราย และสมุทรสาคร 55 ราย ภาพรวมสถานการณ์ในต่างจังหวัดแนวโน้มทรงตัว และควบคุมได้ ยกเว้น กทม.และปริมณฑล
    .
    อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการพูดถึงการแพร่ระบาดใน กทม.และปริมณฑล เฉพาะวันที่ 4 พ.ค. มีผู้ติดเชื้อรวมกัน 956 ราย มากกว่าอีก 73 จังหวัดรวมกัน ดังนั้น ถ้าเราจัดการ กทม. และปริมณฑลได้เท่ากับการจัดการได้เกินครึ่งของประเทศ
    .
    ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่แขวงลุมพินี แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน มีชุมชนแออัด 6 แห่ง และเคหะชุมชน 1 แห่ง รวมประชากรทั้งสิ้น 29,581 คน ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. พบการติดเชื้อใน 6 ชุมชน จำนวน 162 ราย ซึ่งพบมากที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ 61 ราย เคหะบ่อนไก่ 14 ราย ชุมชนโปโล 10 ราย และตัวเลขพุ่งขึ้นมาในช่วงสงกรานต์
    .
    โดยเราต้องรีบหาผู้ติดเชื้อเพื่อแยกออกจากคนในชุมชน ลงตรวจเชิงรุกในชุมชนเฉลี่ยวันละ 1,000 ราย โดยวันที่ 4 พ.ค. จะไปตรวจเชิงรุกที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.thaipost.net/main/detail/101714
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    4 พ.ค.64 - นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอความคิดเห็นของพระมหาสมปอง ตาลปุตโต วัดสร้อยทอง แสดงความคิดเห็นเสียดสีโจมตีการทำงานของรัฐบาลช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อีกทั้งมีการประชาสัมพันธ์โฆษณาขายสินค้า (ปุ๋ยน้ำ) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมออกสื่อสังคมออนไลน์ โดยตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาความเห็นต่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ซึ่งถือว่าไม่เป็นกิจของสงฆ์
    .
    ล่าสุด ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 30 เมษายน มีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของพระมหาสมปองเข้าข่ายการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเป็นการแสดงที่ไม่เหมาะสม และมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
    .
    รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุอีกว่า ได้กำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเร่งดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมโดยด่วน โดยให้ประสานเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัด รวมถึงเจ้าคณะปกครองสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่มีการกระทำที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เพื่อมิให้เกิดความเสื่อมเสียวงการสงฆ์และพระพุทธศาสนาอีกต่อไป
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/101725
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    4 พ.ค.64 - ดร.บุญส่ง ชเลธร อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่ความคิดเห็นเรื่อง "ฝันเข้าสวีเดน : การโฆษณาที่ให้ความจริงครึ่งเดียว"
    .
    Fb: Embassy of Sweden in Bangkok ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงในวันสองวันมานี้ ขณะที่การโหมกระแสว่าด้วยการย้ายหนีรัฐบาลคุณประยุทธ์ไปอยู่ต่างประเทศกำลังมาแรง
    .
    Fb ของสวีเดนก็ออกมาโฆษณาชวนเชื่อรัว ๆ ว่า
    .
    “ท่านกำลังฝันจะย้ายประเทศอยู่หรือเปล่า เราขอนำเสนอเหตุผลว่าเหตุใดประเทศสวีเดน อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่ดี”..บลา บลา บลา
    .
    ผมในฐานะของคนที่อยู่ในสวีเดนมาแล้ว 30 ปี ทุกวันนี้ลูกสาวที่เกิดที่นั่นก็ยังอาศัยอยู่ ไม่ได้ย้ายตามพ่อมาไทย
    .
    ถามว่า ประเทศสวีเดนดีไหม เป็นสังคมที่น่าอยู่หรือเปล่า
    .
    ตอบได้ว่า เป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ระบบรัฐสวัสดิการที่ดูแลคนตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ถือเป็นระบบที่ใช้ได้ผล และดีเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกก็ว่าได้ เช่นเดียวกับ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ ที่สำคัญคือเป็นประเทศประชาธิปไตยสุด ๆ เท่าที่จะมีได้ประเทศหนึ่งในโลก
    .
    เมื่อ fb สวีเดนออกมาอย่างนั้น ภายใน 22 ชั่วโมงที่โพสต์นี้ออกไป ก็มีคนเข้าไปกดไลค์ถึง 5.1 หมื่นครั้ง มีคอมเมนต์เข้ามา 8.1 พันครั้ง และแชร์ออกไปถึง 3.6 หมื่นครั้ง
    .
    นับว่า fb สวีเดนประสบความสำเร็จในการโฆษณาชวนเชื่อ ยิ่งดูจากคอมเมนต์ที่เข้ามาที่ส่วนใหญ่ชื่นชม และแน่นอนว่าจำนวนไม่น้อยวาดหวังจะเก็บกระเป๋าบินกันไปเลย
    .
    Fb สวีเดน พูดความจริงแค่ครึ่งเดียว
    .
    และนี่คือสิ่งที่น่าสงสัยว่า ที่โพสต์มาอย่างนั้นในวันนี้ ต้องการอะไร
    .
    เด็ก ๆ ที่ดูแล fb คิดอะไรกันอยู่หรือ
    .
    สวีเดนน่าอยู่ – ใช่
    .
    แต่การเข้าไปนั้น –ยากมาก
    .
    ถ้าไม่มีคุณสมบัติเข้ากับเงื่อนไขของการเข้าไปอยู่อาศัยแล้ว ไม่มีโอกาสได้เข้าประเทศครับ
    .
    ช่วยพิจารณาจุดนี้ด้วย
    .
    สวีเดนไม่ได้ให้ใครเข้าไปง่าย ๆ
    .
    การเข้าสวีเดนได้ หลักกว้าง ๆ ก็คือ เข้าไปอย่างนักท่องเที่ยว อันนี้ไม่ยาก ซื้อทัวร์ไปง่ายที่สุด แต่จะอยู่เกินกว่ากำหนดการท่องเที่ยวไม่ได้ หรือเข้าไปแบบนักเรียน แต่เรียนจบหรือเลิกเรียนเมื่อไหร่ ต้องกลับไทย ยกเว้นแต่ระหว่างเรียนมีแฟนหรือคู่สมรสที่อยู่ที่นั่น ก็สามารถขอทำเรื่องเปลี่ยนวีซ่าจากนักเรียนไปเป็นผู้อยู่อาศัยและทำงานได้
    .
    แต่กับการเข้าไปทำมากิน อยู่อาศัยอย่างถาวร อันนี้มีเงื่อนไขแล้ว
    .
    หลัก ๆ การขอไปอยู่ได้ก็คือ มีแฟนหรือคู่สมรสที่อยู่ที่นั่น หรือขอตามพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าไป (แต่อายุต้องไม่เกิน 21 ปี) หรือเป็นคนที่อยู่อาศัยอยู่แล้วในประเทศยุโรปเหนือ (มี 5 ประเทศ) หรืออยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (มี 27 ประเทศ) จึงย้ายไปได้ หรือมีองค์กร บริษัท ห้างร้านในสวีเดนรับรอง ทำเรื่องขอเราเข้าไปเป็นคนงาน
    .
    อีกอันที่มี คือ ขอเข้าไปเป็นผู้ลี้ภัย
    .
    นี่คือเงื่อนไขที่เป็นจริง ไม่ใช่ว่านึกจะบินก็บินไปได้
    .
    อันนี้ fb สวีเดนควรแจงให้ชัด จะมาแค่อ้างว่ามีรายละเอียดอยู่ในเวปอื่น ๆ ของสถานทูต เข้าไปหาอ่านเองได้ แค่นี้ไม่ได้ ควรเสนอและให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องให้มากกว่าการพูดแค่ “ฝัน” จะย้ายประเทศ คิดถึงสวีเดน
    .
    วันนี้สวีเดนมีคนในวัยทำงาน ตกงานถึง 10% คิดเป็นจำนวนคนถึง 549,300 คน สัปดาห์ที่ผ่านมา คนว่างงานเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 3% ยิ่งยุคโควิด ยิ่งแย่
    .
    ในสวีเดน รัฐบาลโดนโจมตีมาก เรื่องหางานให้คนทำไม่ได้
    .
    ทางการเมือง พรรคขวาจัด Sverigedemokraterna ที่ต่อต้านคนต่างชาติแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ คะแนนไล่ ๆ กันมากับพรรคสังคมประชาธิปไตย Socialdemokraterna และพรรคอนุรักษ์นิยม Moderaterna
    .
    แล้วเขาจะให้คนแห่กันเข้าไปทำไม
    .
    ถ้าแค่รังเกียจรัฐบาลคุณประยุทธ์ แล้วย้ายไปที่นั่น จะหนีเสือปะจระเข้ ครับ
    .
    มีใครเล่าหรือยังครับว่า หลายปีที่ผ่านมานโยบายของรัฐบาลสวีเดนไม่ได้สนับสนุนให้คนต่างชาติเข้าประเทศมากเลย มีโอกาสพิจารณาจากใบสมัคร ถ้ามีช่องโหว่ให้ไล่ ให้ส่งกลับแล้ว เขาจะไม่รอช้า คนที่เข้าไปขอลี้ภัยจำนวนมาก รอฟังการพิจารณาเป็นปี ๆ อยู่แบบไม่มีอนาคตและไม่เห็น “ความฝัน” ในชีวิต ที่ถูกจับตัวขึ้นเครื่องบินส่งกลับประเทศก็มีเยอะแล้ว แม้กระทั่งว่าหลายคนถูกส่งกลับไปประเทศที่เป็นเผด็จการ และตำรวจที่นั่นรอรับตัวเพื่อยัดเข้าคุก หรือเอาไปประหารชีวิต ก็เกิดเป็นข่าวเสมอ คนต่างชาติที่เข้าไปอยู่อาศัยแล้วเป็นปี ๆ หรือเกิน 10 ปี หลบ ๆ ซ่อน ๆ หนีตำรวจหัวซุกหัวซุนเป็นหลายหมื่นคนในประเทศเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในประเทศ ทุกวันนี้มีแต่เพิ่มจำนวนขึ้น เกินแสนคนแล้วมั้งครับ
    .
    ผมไม่ได้เจตนาขัดขวางความสุขใน “ความฝัน” ของใครที่จะออกนอกประเทศ
    .
    ที่เขียนมาทั้งหมด ก็พูดเรื่องสวีเดนประเทศเดียว ที่ผมเห็นว่าเด็ก ๆ ที่ทำ fb สวีเดน ไม่ได้ให้ภาพที่รอบด้านกับผู้สนใจ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
    .
    ถ้าไม่เตือนกันแล้ว “ความฝัน” ที่วาดหวังไว้จะเป็น “ฝันร้าย” ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเชียวละครับ
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://www.thaipost.net/main/detail/101724
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตามเส้นทางผู้ติดเชื้อเขตไทเป‼️ 1134 ทำงานที่ตึกซินกวาง Taipei main station และ1136 : ตลาดนัด-ซีเหมิน-รถไฟฟ้า-รถเมล์ ในไทเป

    ทั้ง2เคสเป็นผู้เกี่ยวข้องกับ เคสนักบินChina Airlines และ Novotel Taoyuan

    1134 /1135/1136 เป็นบุคคลอาศัยในบ้านเดียวกัน(เครือญาติ) ของ1129ที่ทำงานฝ่ายห้องพักโรงแรมNovotel Taoyuan

    1134 : ชาย30ปี ทำงานที่ตึก ซินกวางต้าโหลว 新光大樓 ใครงงคือตึกไหน>> ก็คือตึกห้าง Shin Kong...ตรงข้ามไทเปเมน (รูป1) ซึ่งชายคนนี้ทำงานในตึกส่วนสำนักงานปล่อยเช่าออฟฟิสด้านบน(มี46ชั้น ผู้เช่าสำนักงานมักเป็นชาวญี่ปุ่น-ไต้หวัน) ซึ่งเส้นทางที่ชายคนนี้ใช้เดินทางทำงานเป็นปกติ ถูกสั่งให้ฆ่าเชื้อแล้ว (ทันไหม?! ผ่านมาหลายวันละ)

    1136 : รายนี้ไปมาทั่วเลยในไทเป ล่าสุดรายการเดินทางมีดังนี้

    26/4
    - สถานีรถไฟฟ้า DingXi -Ximen
    -ร้านอาหาร72C ที่ เลขที่9 ถ.ป่าวผิง หย่งเหอ นิวไทเป

    27/4
    -Carefour เขตหย่งเหอ
    -รถเมล์สาย5 เดินทางระหว่างรถไฟฟ้าซีเหมิน-ติงซี
    สาย2 (ตลาดซีเหมิน西門市場- สถานีรถไฟฟ้า先嗇宮 Xian Se Temple)

    28/4
    - ตลาดนัดเล่อหวา 樂華夜市
    -รถเมล์สาย5 (รถไฟฟ้าติงซี-ซีเหมิน)
    รถเมล์สาย637 ตลาดซีเหมิน西門市場- สถานีรถไฟฟ้า先嗇宮 Xian Se Temple
    -รถเมล์สาย2 (ถนนจงซิ่ง中興街口- รถไฟฟ้าซีเหมิน
    - รถเมล์262 จากรถไฟฟ้าซีเหมิน-ถนนต้าซิน

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจ้าสาวของศัตรู เมื่อผู้หญิงญี่ปุ่นตัดสินใจย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่อเมริกา

    ในญี่ปุ่นยุคยึดครอง (1945–1952) มีแต่ครอบครัวร่ำรวยเท่านั้นที่จะสามารถซ่อนตัวลูกสาวและภรรยาไม่ให้พบปะเจอหน้ากับทหารอเมริกัน ผู้หญิงส่วนใหญ่สมั้ยนั้นถ้าไม่เป็นม่ายก็เป็นกำพร้า จำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงปากท้อง และแน่นอนว่า การเข้ามาของคนกลุ่มใหม่ หมายถึงโอกาสทางอาชีพมากมายที่ยากจะปฎิเสธ

    ฮิโรโกะ ฟุรุคาวะ เคยมีชีวิตสุขสบายในเกาหลี (เกาหลีเคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น) เธอมีบ้านหลังใหญ่ มีสาวใช้ มีอาจารย์สอนเต้นรำ และมีทุกอย่างที่ลูกสาวนายทหารชาวญี่ปุ่นพึงได้รับ ทุกเช้าจะมีเด็กรับใช้มาขัดรองเท้าและขับรถพาพ่อของเธอไปทำงาน

    หลังสงครามพ่อของเธอจากไปด้วยโรคร้าย ฮิโรโกะกลับมาญี่ปุ่นแบบสิ้นเนื้อประดาตัว เธอเลิกเรียนหนังสือและเริ่มทำงานเป็นพนักงานขายจิวเวอรี่ในย่านกินซ่า งานใหม่ทำให้เธอได้พบนายทหารอเมริกันมากหน้าหลายตาที่แวะมาจับจ่ายซื้อของขวัญให้สาวงามในดวงใจ

    ราวปี 1950s ฮิโรโกะได้พบนายทหารชาวอเมริกันที่พิเศษกว่าใครเพราะเขาไม่ได้มาหาซื้อเครื่องประดับ แต่มารอที่เดิมทุกวันเพื่อขอโอกาสสักครั้งที่จะทำความรู้จักกับเธอ ฮิโรโกะปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าแต่แล้วก็ใจอ่อน เธอแต่งงานกับนายทหาร เปลี่ยนชื่อเป็นซูซี่และย้ายไปอยู่กับเขาที่อเมริกา สำหรับคนรุ่นใหม่การทิ้งชื่อของตัวเองเพื่อมีชื่อเรียกแบบอเมริกันอาจหมายถึงการสูญเสียตัวตน แต่ฮิโรโกะเล่าว่าการเปลี่ยนชื่อไม่ได้สร้างความหนักใจให้เธอเท่าไหร่ ถ้านั่นจะทำให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ง่ายขึ้น

    ชีวิตของฮิโรโกะอาจไม่ต่างจากสาวญี่ปุ่นมากมายในเวลาเดียวกัน ช่วงเวลานั้นผู้ชายญี่ปุ่นเหลือน้อยเต็มที คนที่รอดกลับจากสงครามถ้าไม่พิการทางร่างกายก็พิการทางใจ สำหรับครอบครัวยากจน การแต่งงานกับคนอเมริกันหมายถึงชีวิตที่ดีกว่า

    แต่สำหรับครอบครัวมีฐานะ การมีลูกเขยผิวขาวยังเป็นเรื่องยากจะทำใจ เพราะเท่ากับให้ลูกสาวแต่งกับผู้ชายไม่รู้หัวนอนปลายเท้า บางครอบครัวถึงขั้นตัดหางปล่อยวัด ถ้าจะแต่งกับฝรั่งก็ไม่ต้องกลับมาบ้านอีก หลายบ้านเกลียดกลัวการมีหลานผมสีทองตาสีฟ้า และมองว่าลูกสาวของพวกเขาไม่ได้ทำหน้าที่ของสตรีชาวญี่ปุ่น

    ไม่ใช่แค่ยากทางฝั่งญี่ปุ่น กฎหมายอเมริกันสมัยนั้นก็ไม่ง่าย ตั้งแต่ปี 1924 การย้ายถิ่นฐานมีโควต้าของแต่ละประเทศและแม้ว่าในช่วง 1940s รัฐบาลจะอนุญาตให้พาภรรยาชาวญี่ปุ่นกลับอเมริกา แต่ก็ต้องทำเอกสารและตอบคำถามมากมาย...มากพอที่จะทำให้คนหนุ่มใจร้อนถอดใจ หลายคนล้มเลิกและกลับบ้านโดยทิ้งคนรักไว้ข้างหลัง

    แต่ก็มีอีกหลายเคสเหมือนกัน ที่ฝ่าฝันพากันไปถึงอเมริกา ที่นั่นชีวิตใหม่ของสาวญี่ปุ่นไม่ได้สวยงามเริดหรูอย่างที่เข้าใจ หลายคนออกจากบ้านในโตเกียวที่มีคนรับใช้ไปเจอบ้านสามีทำไร่ไถนาแถมมีห้องน้ำแยกอยู่นอกตัวบ้าน ยิ่งสาวคนไหนแต่งงานกับทหารผิวสี ชีวิตจริงอาจกลายเป็นตลกร้าย ชิซูกะ วัตคินส์ ในวัย 88 เล่าว่าตอนไปถึงอเมริกาใหม่ๆ เธอสามารถเช็คอินนอนโรงแรมของคนขาวได้ในขณะที่สามีของเธอต้องไปนอนโรงแรมสำหรับคนดำ

    เมื่อไปถึงอเมริกาแล้ว การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับละแวกบ้านก็เป็นงานใหญ่ ผู้ชายอเมริกันมีความคาดหวังให้ภรรยาดูแลบ้านแบบอเมริกัน ทำอาหารแบบอเมริกัน และเลี้ยงลูกให้เป็นชาวอเมริกันที่ดี ในตอนนั้นกาชาดอเมริกาถึงขั้นเปิดสอนคอร์สพิเศษ ‘How to เป็นแม่บ้านอเมริกัน’ เพื่ออบรมภรรยาจากอีกฝั่งทะเลแปซิฟิกให้เข้าใจชีวิต ความคิด และการปฎิบัติแบบอเมริกันชน

    ชิโยฮิ ทาจิมะ เคยคิดว่าการแต่งงานกับคนอเมริกันจะทำให้เธอได้เป็นคนอเมริกันในทันที อันที่จริงเส้นทางของการเป็นเจ้าสาวยาวนานกว่านั้น “พวกเขาสอนตั้งแต่การอบพายแอปเปิ้ล การแต่งหน้าแบบสาวอเมริกัน ไปจนถึงการเดินที่ถูกต้องที่ต้องแกว่งสะโพกเล็กน้อย” ชิโยฮิ กล่าวว่าคอร์สที่ว่ามักมีผู้สอนเป็นภรรยานายทหารอเมริกัน

    โรงเรียนสอนเจ้าสาวได้รับความสนใจอย่างมากในยุคนั้น อันที่จริงนิตยสารชื่อดังในยุคนั้นอย่าง The Saturday Evening Post ถึงขั้นเข้ามาติดตามการสอนและเขียนบทความพิเศษความยาว 5 หน้า ซึ่งปรากฎว่าเต็มไปด้วยข้อความอคติเพราะเขียนถึงผู้หญิงญี่ปุ่นในเชิงที่ว่าพวกเธอไม่รู้เรื่องรู้ราว ต้องให้สามีพามาเข้าคอร์สสอนวิธีใช้เครื่องซักผ้า

    อย่างไรก็ดีการย้ายไปอเมริกามอบโอกาสใหม่ให้ชิโยฮิ เธอมีความฝันจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ครอบครัวของเธอไม่มีเงินมากพอ พ่อของชิโยฮิเสียชีวิตไปก่อน พี่สาวสองคนป่วยตายเพราะความยากไร้ ส่วนพี่ชายคนเดียวที่เป็นความหวังของบ้าน ก็ต้องมาตายจากเพราะการรบ แม่ของชิโยฮิที่เป็นม่ายไม่สามารถส่งเธอเรียนต่อ แต่ชิโยฮิชอบภาษาอังกฤษมากจนสมัครทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดคอยดูแลที่พักให้ทหารอเมริกัน นั่นทำให้เธอได้รู้จักกับกิลเบิร์ตผู้เป็นสามี แม่ของชิโยฮิไม่คัดค้านการแต่งงานของลูกสาว และเมื่อย้ายมาอเมริกา ชิโยฮิก็สามารถทำงานส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยได้ดั่งฝัน แม้วันนั้นจะมาถึงช้า คือเมื่อเธออายุใกล้ 60 แล้วก็ตาม

    หลายคนมองว่าคอร์สสอนการเป็นแม่บ้านอเมริกันได้ผลค่อนข้างดีเพราะภรรยาญี่ปุ่นจำนวนมากไม่ได้เลี้ยงลูกแบบชาวเอเชียเลยสักนิด ในหลายครอบครัว บรรดาลูกๆ ที่เกิดมามองว่าตัวเองเป็นคนอเมริกันเต็มร้อยและแทบไม่มีเด็กคนไหนมีชื่อภาษาญี่ปุ่น รู้ภาษาญี่ปุ่น หรือรู้สึกผูกพันกับครอบครัวที่อยู่อีกฝากฝั่งของมหาสมุทร

    แคทเธอลีน ทอลเบิร์ต ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน เล่าว่าแม่ของเธอแทบไม่เคยพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้ยิน แม่บ้านญี่ปุ่นคนอื่นในละแวกบ้านก็เหมือนกัน การจากมาของแม่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ความเสียใจที่ไม่อาจกลับไปแผ่นดินเกิดได้อีก ความละอายที่ต้องทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง และความผิดหวังที่ประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถมอบทางเลือกอื่นให้ชีวิตเธอได้ การกลายเป็นอเมริกันโดยสมบูรณ์ เป็นคำมั่นสัญญาที่เธอมอบให้กับตัวเองและสามี

    ในขณะที่รอนดี โยเดอร์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Harvard เลือกที่จะไปแลกเปลี่ยนและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น หลายปีให้หลังเมื่ออิตสุโกะ - แม่ของเขามาเยี่ยม รอนดีกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขาสามารถเข้าใจความคิดของแม่ได้ เมื่อสามารถสื่อสารกับเธอโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น เหมือนว่าเขาได้รู้จักแม่อีกครั้ง แม่ของเขาเป็นคนตลก คิดบวก และมีอารมณ์ขันแบบที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ช่างน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เห็นด้านนี้ของเธอไวกว่านี้

    ฟังเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับเจ้าสาวของศัตรูได้ที่ - https://www.warbrideproject.com/stories/

    อ้างอิงประกอบ:

    https://www.washingtonpost.com/sf/n...ie-the-untold-stories-of-japanese-war-brides/

    https://japan.stripes.com/news/japa...dexsjaUJfUsklYBnFYB27dlfnLhbpKB5tySutCvY0d3bc

     

แชร์หน้านี้

Loading...