ตอนนี้เราถูกเค้าควบคุมทุกอย่าง บังคับได้หมดเลย 100% ค่ะ ช่วยด้วย

ตอนนี้เราถูกเค้าควบคุมทุกอย่าง ความรู้สึกนึกคิด จิตใจ ร่างกาย การกระทำ คำพูด ความรู้สึกร้อนหนาว และความอยากในเรื่องต่างๆ บังคับได้หมดเลย 100% ค่ะ

ถึงตอนนี้คนที่เปิดจิตเราอาจเห็นเรื่องหยาบ อันเป็นกาม
อย่าสนใจ ไม่ใช่ประเด็น

หลายคนบอกว่าเป็นจิตของเราเอง เราไม่เห็นเป็นอย่างนั้น เราพิจารณาแล้วว่าไม่น่าใช่
เพราะมันควบคุมให้กรงนกตกลงมาได้ คุมมือถือให้ดับเองได้
บางคนบอกเป็นไสย
ตัวเราเองสงสัยว่าจะเป็นคนเล่นฌาน

พบว่าโดนหลายคนอยู่ แต่เป็นหญิงทั้งสิ้น

สิ่งนี้มันไม่ได้ปล้ำเราอย่างเดียวแต่มันสอนธรรมเราด้วย เราจึงไม่ทราบว่ามันต้องการอะไร
อยากรู้วิธีแก้ ?
อยากรู้ว่ามันคืออะไร ?

ขอบคุณพี่ผึ้งที่แนะนำ แต่เราเองก็อยากฟังความเห็นคนอื่นด้วย

 

ุถ้าโดนคุณไสย ก็ ลองไปหาพระ หรือไม่พอหายดีแล้วก็หาอะไรมาห้อยคอ

ไอควบคุมได้หมด ไม่เคยได้ยิน เพิ่งเคยเจอที่นี้แหละ ผมว่ามันเวอร์เกิน ควบคุมได้100% เหอะๆๆ




ใครมีความรู้ก็มาช่วย ชี้แนะ ด้วยนะครับ


ปล. ถ้าเป้นผมนะ ผมจะควบคุมคนสวยๆๆๆรวยๆๆๆๆๆ 555+

 

ไม่ใช่คุณไสย ครับ สิ่งที่เขาควบคุมคือความนึกคิดของตัวคุณเอง ลองมันควบคุมให้กรงนกลอยขึ้นไปได้ และเอามือถือไปซ่อมครับ แล้วมาคุยกันใหม ว่ามันควบคุมได้ใหม ใกล้ชิดพัวพันกับเขามาก เหมือนโดนสกดจิต น่าจะเสียมากกว่าได้

 

อ่านแล้วนึกขำ

 

ไม่มีใครสามารถควบคุมเราได้ 100 %หรอก หากเขาบอกว่าให้เราฆ่าตัวตายซะ (ถ้าเราทำตามโดยไม่ลังเลเลยน่ะถึงจะเรียกว่าใช่) เพราะมนุษย์เรามีกลไกป้องกันตนเอง เช่นหากเราจับของร้อนเราจะสะดุ้ง หรือชักมือหนี มันอยู่ที่ตัวเราว่าจะต่อต้านได้มากแค่ไหนมากกว่า (อย่าลืมซิว่า บางคนขนาดพ่อแม่ (เลี้ยงดูเรามา) ห้ามอะไร เรายังไม่ฟังเลย แล้วเค้าเป็นใครถึงมามีอำนาจเหนือเราได้ (สวดมนต์ ไหว้พระซะ ไม่มีอะไรจะเหนือไปกว่าพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ไปได้ หากว่าเราไม่มีเวรกรรมต่อกัน จะช่วยได้) แต่หากพูดถึงไสยศาสตร์ จะมีมนต์ที่ทำให้เรามีอำนาจเหนือสัตว์ชนิดนั้นได้ อย่างมนต์หัวใจคชสาร มีในพุทธประวัติ ที่พูดถึงพระราชา ขี่ช้างไปเที่ยวป่า ช้างทรงได้กลิ่นตัวเมีย ก็วิ่งตามช้างป่าตัวเมียไป พระราชาต้องเกาะกิ่งไม้ไว้จนทหารมาช่วย เมื่อถึงวังพระราชาก็ตามควาญช้างมาลงโทษ ว่าเลี้ยงช้างยังไงถึงได้สลัดพระราชาตกลงมา ถ้าไม่มีกิ่งไม้เกาะไว้ก็โดนช้างเหยียบตายแล้ว ควาญช้างก็บอกว่า ตัวควาญเองก็เลี้ยงมาดี แต่เพราะในฝูงนั้นมีช้างตัวเมียอยู่ด้วยทำให้มนต์เสื่อม พระราชาไม่เชื่อเลยรอให้ช้างทรงกลับมาก่อนค่อยพิจารณาโทษ เมื่อช้างทรงกลับมาควาญช้างได้ให้ช้างทรงใช้งวงจับเหล็กที่เผาไฟจนร้อน ไม่ยอมให้ปล่อยจนช้างตาย พระราชาก็สังเวชใจไม่มีอะไร ที่จะสู้กิเลศตัณหาได้ จึงไปบวช ควาญช้างก็ไปบวชด้วย พระราชาคือพระสมณโคดม ควาญช้างคือพระศรีอริยเมตตรัย ส่วนช้างคือพระมหากัสปะ

 

สิ่งที่ปุถุชนถูกควบคุมได้ทั้งหมด 100 % คือพลังอำนาจของกาม ตัณหา ต่างหากหาใช่จากบุคคลภายนอกไม่ เป็นพลังตามธรรมชาติ ที่มีมาตั้งแต่เกิด และสะสมอยู่ในตัวคน ในทุกอณู มีเพศชาย-หญิง ตั้งแต่แรกเกิดและจะคอยชักใย ในทุกวิถีทาง คอยสั่งการให้เราปรุงแต่งจิตเพื่อหาคู่ เลือกคู่ เสพกาม โดยที่เราไม่รู้ตัวและฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ผู้-เมียทุกคน เมื่อรู้ตัวและหมั่นฝึกจิตตามเท่าทัน เมื่อฝึกลดความกำหนัดในกามได้จริง นั่นจึงจะมีโอกาสหลุดพ้นจากพลังอำนาจนี้ได้ แต่ก็ยากมากๆ เพราะนักปฏิบัติธรรมที่เป็นปุถุชนที่ยังไม่เข้าใจก็ยังแตะอยู่ที่ผิวๆ ในระดับจิตสำนึกเท่านั้น
เราจึงพบบ่อยๆ เป็นธรรมดาว่ามีพระที่บวชมานานหลายสิบพรรษาก็ยังสึกมาออกเรือน

 

จขกท.พูดไม่ชัดเจน ที่ว่าเค้าอ่ะ เค้าอ่ะหมายถึงใคร คุยกับเขางี้ก็ถามได้ซิว่า ใครส่งมา คนส่งบ้านอยู่ที่ไหน

 

ก็เป็นเพราะเรายอมเขาไงครับ..

 

นอนคว่ำหน้ากับที่นอนน่ะครับ ทำคอตรงๆกับศรีษะ แล้วก็เอานิ้วชี้มือข้างไหนก็ได้ที่ถนัด กดหลังคอเบาๆ ต้องกดให้ถูกด้วยน่ะครับ ถ้ากดไม่ถูกชิปเซ็ตมันจะไม่ออกมา แล้วก็นำเอาชิปเซ็ตไปล้างระบบที่คอมฯ แล้วนำข้อมูลใหม่เข้าไป โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับ สติ แล้วหาโปรแกรมมาล็อคข้อมูลไว้ด้วยเขาจะได้ไม่สามารถทำลายข้อมูลเราได้ เสร็จแล้วก็นำชิปเซ็ตมาใส่ไว้หลังคอตามเดิม แค่นี้อาการก็จะดีขึ้นเอง..





ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...

 

ปุ่มที่ว่าอยู่หลังคอด้านซ้ายใช่ปะ

 

สิ่งที่ช่วยแก้ขัดไปก่อน นิ้วน่าจะเล็กไป น่าใช้ฝักแก้ว หรือหัวผักกาดแก้ขัดไปก่อนครับ ก่อนใช้ล้างให้สะอาดนะครับ

 

ใกล้แล่ะ - - เห็นใจเจ้าของกระทู้ครับ คงไม่มีที่พึ่งทางใจ อย่าไปคุยกับจิตซิครับ บ้านของคุณ คุณใหญ่ที่สุดในบ้าน คุณตั้งกระทู้ซะผมนึกถึง ไอตัว ที่เล่นเรื่อง the rod of the ring เลย บังเอิญจำชื่อไม่ได้ ^^

 

ตอบช้ามาก ขออภัยครับ
ลองเปิดเพลงโมสาร์ทฟังครับ
เปิดไว้เป็นแบ็คกราวก็ได้ ฟังสบายๆครับ
จากนั้นหาเวลาว่างๆเมื่ออยู่คนเดียว ให้ปรับลมหายใจ
และอยู่ในอิริยาบทที่สบายครับ
และปล่อยตัวตามสบาย ให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
จากนั้นให้บอกตัวเองว่า
จากนี้ไปเรามีความมั่นใจในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง
มีความสงบสบาย และเข้าใจในธรรมชาติ
ปล่อยวางได้กับเรื่องไร้สาระต่างๆ
จิตใจเราสงบและผ่อนคลาย
เราแผ่กระแสความรัก ความอบอุ่น ความเมตตา ออกไปสู่ทุกรูปทุกนาม
(รวมทั้งตัวเราเองด้วยนะครับ)
จิตใจเราสงบและมีพลังมาก จิตใจเราเปิดรับแต่สิ่งดีเข้ามาเสมอ

บอกซ้ำๆไปเรื่อยๆด้วยจิตที่สงบสบายครับ
บอกก่อนนอและตื่นนอนด้วยก็จะได้ผลดีมากครับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=HCQjk45Bsq8]TWO HOURS of Mozart for Baby - Bedtime music - Lullaby - Baby sleep music - YouTube[/ame]

แล้วอีกอย่าง ให้เอาสิ่งนี้เตือนตัวเอง และยึดถือปฏิบัติไว้จะดีมากครับ
รักตัวเองให้เป็น
รักที่ว่านี้รักอย่างไร
รักอย่างที่ปรารถณาให้ตัวเองพ้นทุกข์
ปรารถณาให้ตนมีความสุข
ชื่นชม ยินดี ในสิ่งดีที่ตนทำและได้รับ
วางเฉยได้อย่างเข้าใจความธรรมดา
จากนั้นก็ส่งมอบความรักที่ว่านี้ให้ผู้คนรอบตัว
พิจารณาความรักที่ว่านี้โดยรอบและเสมอๆ
ยึดไว้เป็นฐานหลักของการคิด พูด และทำ
เมื่อทำเช่นนี้ ความเดียดฉันท์ตัวเองและผู้อื่นจะหายไป
เมื่อนั้นสิ่งดีจะเข้ามาในชีวิต และสิ่งไม่ดีจะหายไปเอง

แล้วพิจารณาให้ดี เราทุกข์เพราะความคิดเราน่นเอง
พิจารณาให้ดีจะเห็นว่า ถ้าเราไม่เก็บมาใส่ใจ มันก็เป็นแค่"ความคิด" ครับ

ทุกวันเป็นวันดีครับ

 

ลองดูที่ผมแนะนำนะครับ สักหนึ่งอาทิตย์ก็เห็นผลแล้ว
ทำต่อไปให้ต่อเนื่องก็จะได้ผลมากยิ่งขึ้นครับ
สิ่งดีดีก็จะตามมาเองตามธรรมชาติครับ
ชมตัวเองและให้กำลังใจตัวเองให้เป็นด้วยนะครับ

 

คุยเรื่องนี้ ไม่รู้จบหรอกครับ แต่ที่ท่านหัวข้อ ของกระทู้ มันยังไม่ชัดเจนครับ ทุกอย่างต้องมี ที่มาและที่ไป ชัดเจนกว่านี้ จึงพอ อธิบายให้เข้าใจ ทุกอย่างมันมี ข้อ จำกัด ใน ประเด็น ประสบการณ์ ของผม คุณจะคุยเรื่องไหน คุยได้ทุกเรื่อง แต่จะไห้ละเอียดลออมากนัก ไม่ได้ครับ แต่ ถ้าได้ อธิบาย ให้ฟังละเอียด มันจึงจะเข้าใจ ชัดเจน แจ่มแจ้ง แดงแหจ เรื่อง ความรัก ความ ใคร่ มันไม่เข้าใคร ออกใคร เรื่อง ไสย เวท มันก็มีข้อ จำกัด เรื่อง ฌาณ โลกีย์ ได้ มันก็เสื่อมได้ พวกมนต์ดำ มันมีเฉพาะ เวลากาล ของมัน ไม่จำเป็นต้องมีศิล มันจะมีได้แค่ ชั่วขณะหนึ่ง เท่านั้น ผมทว่า ผมน่ะ เป็นไม่แพ้ คุณหรอก นะครับ เรื่องความอยากนี่ แต่มันมี หลาย สิบวิธีการ ทุกอย่าง เราคุม ตัวเองจิตตัวเองไม่ได้ ต่างหาก มัวแต่ไปตามใจมันเท่านั้น


ไอ้โรค ต่างๆ มันมีเวลา จำกัด ของมัน ทั้งนั้น ผมว่าไม่มีอะไรจะใหญ่ เท่า เราหรอกครับ จิตเรา มีกาย เป็นที่ อาศัย มีปรกติ เที่ยวไปไกล เที่ยวไปแต่ผู้เดียว ทั้งดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษา ยาก ห้าม ยาก แต่ค่อยๆทำไปนะครับ ตามดูมัน ห้ามไม่ได้ มีวิธี การ มากมาย ก็ตามมันไป แต่ต้องไม่ใคร เดือดร้อนครับ เดือดร้อนแค่ตัวเราเอง

 

Soul is mine body is mine no one can control

 

ไปหาพระเถอะครับ เลือกด้วยครับให้ท่านสอนเจริญสติ...

 

น่าจะบอกด้วยว่าอยู่แถวไหน ลงมาแค่นี้แปลกๆเหมือนทานยาไม่ครบ

 

อาจเป็นเรื่องของฌาณก็ได้

ต้องฟังอาการอย่างละเอียด

เช่นบางคนตัวแข็ง หรือคอแข็ง

เมื่อเรื่มต้น สภาพจิตรเจอสภาวะ

แปลกใหม่อาจไม่เข้าใจและยัง

ไม่ยอมรับ เลยต่อต้าน เหมือน

คนที่ได้ฌาณแต่ไม่รู้ว่าตัวเองได้

ฌาณมีเยอะ สิ่งที่เล่ามาครูอาจารย์

ท่านว่าเสียการควบคุมตัวเอง จิตรก็ปรุงไป

แต่ที่สังเกตุเห็น ยังมีสติรับรู้อาการต่างๆได้

จะว่าเขาควบคุมเรา 100% ไม่น่าใช่

ลองหาครูอาจารย์ท่านผู้รู้ ศึกษาเรื่อง

สติปฐาน๔ และเจริญสติให้มากครับ

จะเป็นทางที่ทำความเข้าใจ และแก้ไขได้ครับ.