ฌานสมาธิของพระอริยะเจ้า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พลน้อย, 3 กันยายน 2010.

  1. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ท่านผู้อ่านจำไว้ให้ดีที่ยกมานี้ คือ ฌานสมาธิของพระอริยะเจ้า ผู้จะเข้าถึงพระอริยะเจ้า ผู้เข้าถึงพุทธะ ไม่ว่า สาวกภูมิ หรือ พุทธภูมิ ต้องลำดับฌานได้ตามนี้เท่านั้น ถ้าผิดจากนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ครับ

    อธิบายในกระทู้ต่อไป เพราะกระทู้แรกนี้มีโฆษณาอยู่เกรงท่านผู้อ่านจะอ่านลำบากครับ​
     
  2. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    คำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้า (ยกมาจากท่านธรรมภูต)


    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
    บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่

    บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น
    ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่

    มีอุเบกขามีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป
    บรรลุตติยฌานที่พระอริยะสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข

    บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และ
    ดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่



    ถ้าท่านใดสอนแตกต่างจากนี้ ถือเป็นคำสอนที่คาดเคลื่อนจากธรรมะขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งสิ้น เมื่อธรรมะคาดเคลื่อนการปฏิบัติเข้าถึงธรรมะย่อมเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น ท่านผู้อ่านลองนึกดูว่าคำสอนปัจจุบัน ตรงกับคำสอนนี้หรือไม่​
     
  3. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    คำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้า ด้านบนสมบูรณ์ด้วย โพธิปักขิยธรรม 37 ประกอบ ไปด้วย (ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค อันได้แก่ สติปัฏฐาน4 สัมมัปปธาน4 อิทธิบาท4 อินทรีย์5 พละ5 โพชฌงค์7 และมรรคมีองค์ 8)

    คำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้า

    "สัมมาสติ" เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่มี

    ความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำ จัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสีย

    ได้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ฯลฯ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ฯลฯ

    พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด

    อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ อันนี้เรียกว่า สัมมาสติ ฯ"


    "สัมมาสมาธิ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัด

    จากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่

    วิเวกอยู่เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรม

    เอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุข

    อันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย

    เพราะปีติสิ้นไปบรรลุตติยฌานที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้

    ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข เธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์

    ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มี

    อุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ ฯ"


    ถ้าท่านสังเกตุให้ดี สัมมาสติ ,สัมมาสมาธิ ก็อยู่ในธรรมะที่เป็นการปฏิบัติข้างบนโน้นเช่นกัน

     
  4. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    สัมมาสติในมรรคมีองค์ ๘ ก็คือ สติปักฐาน ๔ นั่นเอง
    สัมมาสมาธิในมรรคมีองค์ ๘ ก็คือ สมาธิขั้นต้น ๆ ขณิกะ อุปจาระ แล้วก็อัปปณา (ฌาณ ๑ ถึง ฌาณ ๔ เป็นรูปฌาน และ ฌาณ ๕ ถึง ๘ เป็นอรูปฌาน) สัมมาสมาธิน่าจะครอบคลุมและเน้นไปถึงวิปัสสนาสมาธิ

    ธรรมทั้งหลายทั้งปวงยังเป็นสมมติอยู่ เมื่อไรก็ตามถึงขั้นวิมุติ ธรรมทุกหมวดหมู่ที่โยงใยเชื่อมกันเหมือนตาข่ายหรือใยแมงงมุม แม้แต่ธรรมที่ไม่เข้าหมวดหมู่ ทั้งหมด มันจะรวมเป็นหนึ่ง
     
  5. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>เอกวีร์*, Tboon, สติรู้, หาธรรม </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ถ้ายกเอาตำรามาอธิบายอย่างเดียว ท่านผู้อ่านคงได้อะไรไม่มาก จึงจะขอยกตัวอย่างการปฏิบัติสมาธิของท่าน dangcarry ในกระทู้ สติดีดออกจากสมาธิ รอหาผู้ตอบกระทู้ให้ได้คำตอบที่ถูกต้องมานาน แต่ก็ยังไม่มีท่านใดตอบได้ถูกต้อง จึงจะขอยกมาอธิบายให้ท่านทราบในกระทู้นี้ว่าเป็นอย่างไร
    เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน เคยสอนพระสายธรรมยุตท่านหนึ่ง วัดเขาคอกช้าง จังหวัดนครราชสีมา วัดนี้อยู่บนเขากลางป่า วัดนี้อยู่ในสายของหลวงปู่ชา เคยเห็นท่านปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนาทุกวันมาก่อนที่วัดใกล้บ้าน ก่อนย้ายเข้าไปวัดป่า ท่านมีพรรษาประมาณ 17 พรรษายังไปไม่ถึงไหน ก็อธิบายธรรมะปฏิบัติที่ถูกต้องให้ท่านทราบจากหลังนั้นประมาณ 30 วัน ท่านเข้าถึงพุทธะในตอนต้น ในอดีตที่ท่านไม่ถึงไหนเพราะธรรมะการปฏิบัติคาดเคลื่อนจึงขอเปรียบเทียบตัวอย่างคำสอนให้ท่านผู้อ่านพิจารณา

    เปรียบเทียบคำสอนของท่านที่เสมือนเป็นหัวเรือใหญ่ฝ่ายธรรมยุต คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอรหันต์ผู้ปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน กับ ผู้เข้าถึงพุทธะ (พุทธภูมิ) อย่างผู้อธิบายนี้ว่าคำสอนใดชัดเจน ละเอียด และใกล้เคียงคำสอนขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้ามากกว่ากัน ท่านผู้อ่านพิจารณาเอง


    คำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สอนหลวงปู่ขาวสอนไว้ว่า
    " ถ้าจิตมีความสงบถึงฐานของสมาธิแล้ว อย่าไปบังคับให้ถอนนะ ปล่อยให้อยู่ในความสงบนั้นไป จนจิตได้มีความอิ่มตัวในสมาธินั้น ๆ ได้เวลาแล้วจิตก็จะถอนออกมาเอง เมื่อจิตถอนออกจากสมาธิแล้ว ก็ให้ใช้ปัญญาพิจารณาต่อไป "


    คำสอนผู้เข้าถึงพุทธะภูมิ (กับอาการของท่าน dangcarry )
    จิต ที่มีความสงบ(อุเบกขา) เมื่อตั้งสติในฐานของจิต ย่อมเข้าถึง สัมปชัญญะ จัดได้ว่าเป็นฌานที่ 3 ของพระอริยะเจ้า

    สัมปชัญญะ นี้เป็นสัมปชัญญะของพระอริยะเจ้าทั้งหลาย เป็นสัมปชัญญะที่เกิดจากกำลังของสติ และ สัมปชัญญะ นี้เกิดขึ้นเองอัตโนมัต ประโยคนี้ คือ คำตอบของคุณวิสุโธ เมื่อปีที่แล้ว ถ้าท่านฉลาดหน่อยจะทราบว่าผมอธิบายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้ขยายความ ถ้าวันนี้ยังไม่รู้ก็เรื่องของท่านและไม่อธิบายซ้ำอีก

    สัมปชัญญะ นี้เป็นอาการตื่นด้วยอาการ 32 ของร่างกายทั้งหมด ท่านที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อนย่อมเข้าใจว่า จิตอิ่มแล้วถอนออกจากสมาธิเอง เป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง

    การทำสมาธิเพื่อให้ถึงความเป็นพุทธะ จิตเดินหน้าแล้วไม่มีถอยหลัง จิตจึงมิได้ถอนออกจากสมาธิใดๆเลย


    อาการที่ท่าน dangcarry เข้าถึงเป็นฌานที่ 3 ของพระอริยะเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันเป็นต้นไป

    ท่านผู้อ่านลองพิจารณาเอง ว่าธรรมะปฏิบัติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กับพุทธภูมิ ท่านใดอธิบายธรรมะได้ใกล้เคียงองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ามากกว่ากัน และท่านใดมีความละเอียดในธรรมะมากกว่ากันพิจารณากันเอง​
     
  7. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ท่านผู้อ่านที่เข้าไม่ถึงพุทธะ จงอย่าได้วิเคราะห์วิจารณ์ธรรมะของผู้เข้าถึงพุทธะ ไม่ว่าจะเป็นพุทธะสาวก หรือ พุทธะภูมิ การวิเคราะห์วิจารณ์ธรรมะโดยความไม่รู้จริง เข้าไม่ถึงในสิ่งที่ตนวิจารณ์ ท่านจะต้องลง อบายภูมิ เพราะความไม่รู้อย่างแน่นอน
    ท่านทั้งหลายจงอย่าได้ประมาทเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กันยายน 2010
  8. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ผู้ปรารถนาพุทธะภูมิ คือ พระโพธิสัตว์

    ผู้เข้าถึงพุทธะภูมิ เรียกว่า พุทธะภูมิ คือ พระมหาโพธิสัตว์ ในมหายาน เรียกว่า อรหันต์โพธิสัตว์

    พุทธภูมิ คือ ภูมิของบรมครูองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมต้องมีความรู้มากกว่าสาวกภูมิจนถึงประมาณมิได้

    การที่สาวกภูมิ อธิบายภูมิของ พุทธภูมิ จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม อธิบายได้ก็ไม่ถูกต้อง และที่ผ่านมาก็ไม่มีท่านใดเลยอธิบายได้ถูกต้อง

    วันนี้มาแสดงภูมิของพุทธะให้ท่านได้ทราบว่า พุทธะภูมิ นั้นมีอยู่จริง

    ผมไม่ค่อยมีเวลาอธิบายมากนัก ถ้าท่านสงสัยการปฏิบัติสมาธิให้ถามท่าน dangcarry ไปก่อน อ่านดูการปฏิบัติของท่านแล้วถูกต้องทั้งหมด อย่างน้อยการปฏิบัติเบื้องต้นของท่านจะได้ไม่หลง และรักษามารยาทด้วย ผมมีเวลาว่างจะอธิบายการปฏิบัติให้ท่าน dangcarry และผมไม่สามารถอยู่อธิบายได้นาน

    หวังว่าสิ่งที่อธิบายวันนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย

    ขอบคุณครับ​
     
  9. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    สติฐานสี่ เป็นตัวเิดินมรรค ไล่ไปตั้งแต่สัมมาทิฐิเลยครับ สัมมาสมาธิ คือ สมาธิที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2010
  10. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    โมทนาในการปฏิบัติ ของทุกๆท่านค่ะ

    ด้วยความเคารพ คงต้องขออนุญาตแสดงคคห
    เนื่องจากที่นี่เป็นกระดานสาธารณะ จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่ต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
    เมื่อมีคนกล่าวถึงธรรม ผู้อ่านย่อมต้องออกมาแสดงคคห
    ซึ่งย่อมต้องมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และเสนอข้อโต้แย้งเป็นธรรมดา

    อันเป็นไปตามหลักกาลามสูตร
    อย่าเพิ่งรีบเชื่อ ควรลองสมาทานดูก่อน
    ถ้าเป็นกุศล มีประโยชน์ ผู้รู้สรรเสริญ
    เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
    จึงจะเชื่อถือ และสมาทานให้เต็มที่ต่อไป


    (smile)
     
  11. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    โมทนาในสิ่งที่ท่านคิดว่าจะเกิดประโยชน์ค่ะ

    ขอเรียนถามว่า ท่านทดสอบ1 รู้จักกับท่าน dangcarry เป็นการส่วนตัวหรือไม่
    เคยพบปะเจอะเจอหน้าตา-พูดคุยกันหรือไม่

    หรืออ่านเฉพาะข้อความที่ท่าน dangcarry โพสในกระทู้ที่ท่านอ้างอิงเท่านั้น
    แล้วท่านก็รับรองธรรมให้ท่าน dangcarry เลยกระนั้นหรือ???

    โดยส่วนตัว โมทนาในการปฏิบัติของทุกๆท่านอยู่แล้ว

    แต่ถ้าท่านไม่เคยพบปะเจอะเจอ-พูดคุยกัน
    แล้วรับรองธรรมให้กัน โดยแค่อ่านข้อความที่โพสเท่านั้นล่ะหรือ???


    (smile)
     
  12. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขออภัย เห็นท่านกล่าวถึงและเรียกหาท่านวิสุทโธ ๒ ครั้งแล้ว

    ครอบครัวเราคุ้นเคยกับท่านวิสุทโธในระดับหนึ่ง

    ก็อยากจะบอกว่า อย่างน้อยที่สุด ท่านวิสุทโธ ก็เป็นนักปฏิบัติธรรม
    ที่ถูกพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคี่ยวกรำมาไม่น้อยค่ะ


    (smile)
     
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โมทนาสาธุกับเจตนาธรรมที่ดีครับ.....

    จริงๆแล้วไม่ว่าธรรมหมวดใดนั้น.....เมื่อถึงที่สุดก็จะเข้าหากัน...เป็นเนื้อเดียวกันได้ในที่สุด....อย่างกับที่ท่าน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หาธรรม<!-- google_ad_section_end --> [​IMG] กล่าวไว้.....คำนี้ไม่ใช่เป็นคำที่พูดกันขึ้นมาเอง.....แม้ครูบาอาจารย์หลายท่านก็กล่าวกันไว้อย่างนี้......

    <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3741599", true); </SCRIPT>ส่วนในเรื่อง มรรค ๘ นั้น จริงๆแล้วอย่างไรก็ตาม ถ้าจะเป็นอริยเจ้า มันก็ต้องมีทั้ง ๘ ข้ออยู่ดี.....ขาดข้อเดียวก็ไม่ได้อยู่ดี.....ฉะนั้นข้อนี้ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเหตุที่จะเอามาขัดแย้งกันอย่างไร...

    ส่วนเรื่องสติกับสมาธินั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะมีปัญหากัน....เพราะอาจารย์รุ่นหลังต้องการที่จะแยกออกจากกัน....สั่งสอนศิษย์ต่อกันมา...ทำให้เกิดปัญหาขึ้น......การเจริญสติดีกว่าการเจริญสมาธิ....แล้วก็ไปว่าการเจริญสมาธิแบ่งเป็นสัมมา กับ มิจฉา แล้วก็ว่ากันไป......สมาธินอกศาสนา.......มองไปมองมาไม่มีสาระกันเลย......ถ้าเอากันตรงๆ กรรมฐาน ๔๐ กอง มันก็ในศาสนาหมดนะครับเพียงแค่จะเอาตัวใหนเป็นตัววางของสติที่เอาไปจับ.........แล้วถ้าเอากันจริงๆ เรื่องของสัมมาสมาธิ กับสัมมาสติ มันก็ต้องเอื้อกันอยู่ดี......เพราะสมาธิจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีสติ เพราะเป็นเหตุให้เกิด....เนื้อหลักจริงๆไม่มีอะไรมากเลย....ถ้าปฏิบัติได้ก็จะเข้าใจ...ถ้ายังทำไม่ได้..และยังมีทิฏฐิอยู่...ก็ถกก็เถียงกับไปตามแบบกิเลส ฉันดีกว่าเธอ เธอดีกว่าฉัน ไม่เป็นสาระ.....แล้วเดียวก็ลามไปเรื่อง สมถะ และ วิปัสสนา อีก....ไม่เป็นสาระเรื่องการถกเถียงพอกัน.......

    การรับรองคุณสมบัตินั้น...อย่าไปทำเลยดีกว่าครับ.....ใครจะไปรู้คนที่พูดดีอาจไม่ดีก็ได้...พูดอย่างทำอย่าง.....ต่อหน้าดี ลับหลังชั่ว ก็มีมาก...ถ้าชอบคนนี้ก็ว่าคนนี้ดี ไม่ชอบก็ว่าไม่ดี ถ้าไม่สน ก็งั้นๆ..เฉยๆ....ในโลกนี้มันมีแค่นี้หละ...ไม่ได้ว่าใครนะ....ผมว่ามองตนเองดีกว่า...เห็นชัด ดี หรือ เลว.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2010
  14. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ท่านธรรมะสวนัง

    ถ้าดูให้ดีผมอธิบายตามธรรมะขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้าและองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะเจ้าแจ้งไว้ชัดว่า " มีอุเบกขามีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข "

    ประโยคด้านบน ท่านว่าใครเป็นผู้รับรองความเป็นพระอริยะเจ้า ผมอธิบายตามธรรมะเท่านัั้น

    ท่านธรรมะสวนัง รองอ่านใหม่อีกครั้งให้ชัดเจนด้วยครับ

    ขอบคุณครับ​
     
  15. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อยากเป็นโพธิสัตว์หรือเพราะเป็นโพธิสัตว์ หรือพึ่งรู้จักโพธิสัตว์เลยต้อง...ธรรมะคลาดเคลื่อนเพราะ...หรือยังหลงอยู่
     
  16. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ท่านธรรมะสวนัง

    ไม่เคยรู้จักท่าน dangcarry เป็นการส่วนตัวหรือรู้จักกันมาก่อน

    ได้กล่าวถึงท่านวิสุทโธ ด้วยเพราะขยายในสิ่งที่ท่านไม่รู้เมื่อปีที่แล้ว และเขียนในกระทู้ที่ผมอธิบายธรรมะไว้เมื่อปีที่แล้ว ก็ทราบดีอยู่ว่าท่านเป็นลูกศิษย์พระอรหันต์จึงเมตตาสงเคราะห์ท่าน โดยไม่มีอคติใดๆในใจแม้แต่น้อย คำพูดที่พูดถึง ท่านวิสุทโธ ท่านธรรมะสวนังลองกลับไปอ่านใหม่ให้ชัดว่า เป็นการเรียกหาท่านวิสุทโธหรือเป็นการสอนแนะนำธรรมะ

    อธิบายธรรมะไปตั้งมาก ท่านธรรมะสวนัง เห็นสาระสำคัญของธรรมะที่อธิบายไปเพียงเท่านี้ อย่างนั้นหรือ

    ผู้ที่มีอคติแม้เพียงเล็กน้อย กับผู้เข้าถึงธรรมะ ธรรมะที่อธิบายไปท่านจะไม่สามารถได้เข้าใจได้ ท่านจงวางอคติใดๆในใจแล้วอ่านธรรมะใหม่
    ถ้าจะมีอคติแม้เพียงเล็กน้อย ธรรมะย่อมไม่เข้าไปในใจท่านได้ ไม่ว่าจะอ่านกี่ร้อยกี่พันครั้ง ธรรมะก็ไม่เข้าไปในใจ

    อคติ เกิดได้หลายอย่าง รวมถึง ขุ่นเคืองใจที่ผู้รู้จักถูกตำหนิ

    ประโยคด้านบน ไม่ได้ว่าท่านธรรมะสวนัง อธิบายไปตามธรรมะ เพียงแต่จะย่อมรับธรรมหรือไม่เท่านั้น

    ธรรมะ คือ ความจริงและจะเป็นความจริงตลอดไป โดยไม่ขึ้นกับกาลเวลา

    ขอบคุณครับ
     
  17. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ท่านที่มีความสงสัยในการปฏิบัติธรรมะ ลองถามท่านที่ผมแนะนำดูก่อน เพราะผมมีเวลาว่างไม่มากนัก อาจไม่สามารถตอบกระทู้ของท่านได้

    ขอบคุณครับ​
     
  18. พลน้อย

    พลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +473
    ใช้ชื่อ ทดสอบ1 ก็เพื่อทดสอบใจพวกท่านทั้งหลายนั้นล่ะ​
     
  19. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,306
    เรียนท่านทดสอบหนึ่งด้วย ศัทธาที่มีต่อท่าน โดยมิใช่ด้วยเหตุผลใดๆทั้งสิ้นนอกจากภูมิธรรมความรู้ที่ท่านมอบให้มานี้ถือ เป็นพระคุณอย่างสูง และกราบขอบพระคุณที่ท่านให้กำลังใจมาตลอด ในเรื่องการปฏิบัติของข้าพเจ้า ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางอีกมากการที่ท่านเมตตารับรองให้นั้นข้าพเจ้า รู้สึกซาบซึ้งใจแต่ไม่ปราถนาให้ท่านเน้นย้ำตรงจุดที่ว่าอริยะ เพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นคิด หรือปรามาศท่านด้วยเหตุทุกประการ ธรรมของข้าพเจ้านั้นยังไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้อย่างชัดเจนจึงยังไม่มี ความเหมาะสมใดๆด้วยประการทั้งปวง ข้าพเจ้าเองไม่ปราถนาสร้างผลกรรมใดๆ และก็ไม่ปราถนาให้ผู้อื่นมีกรรมใดๆด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ ส่วนเรื่องที่ท่านทดสอบ1 เมตตาให้ความไว้วางใจให้ข้าพเจ้าได้ให้คำแนะนำท่านอื่นในเรื่องการปฏิบัติ ข้าพเจ้ายินดีเท่าที่ปัญญาพึ่งมี ก็ต้องขอให้ท่านช่วยขยายความรู้ให้กับผู้ที่มีภูมิธรรมมากกว่าข้าพเจ้า เพราะสิ่งที่ไม่เที่ยงที่สุดคือจิตมนุษย์นี่เอง สุด ท้ายข้าพเจ้าขอขอบคุณผู้ก่อตั้งเว็ปพลังจิต เจ้าหน้าที่ทุกท่าน เพื่อนธรรมทุกท่าน ที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสดีๆได้เรียนรู้ธรรม ได้มีโอกาสรู้จักท่านทดสอบ1 และเพื่อนๆๆ ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมาดีแล้วจงถึงแก่พวกท่านจงทุกประการเทอญ<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,306
    เรียนท่านธรรมสวนัง ต้องขออนุญาติตอบข้อความบางส่วนนี้ เราคือผู้ที่ใช้นามdangcarry ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับท่านทดสอบ1 เพียงแต่ตั้งกระทู้เรื่องสติดีดออกจากสมาธิ ท่านทดสอบ1ท่านได้เมตตาตอบปัญหาทางธรรมให้เป็นการชี้แนวทาง ส่วนเรื่องที่ท่านให้กำลังใจนั้นไม่อยากให้ท่านธรรมสวนังคิดมากไป ในส่วนตัวแล้วต้องขอเรียนให้ท่านธรรมสวนังทราบว่า ตัวเราเองไม่เคยคิดมากไปกว่าคิดว่าท่านให้กำลังใจ ข้อความของท่านทดสอบ1 ไม่ได้อยู่ในกระทู้นี้ทั้งหมด เพราะแตกออกมาจากกระทู้ที่กล่าวไว้ในเนื้อหาด้านบน สิ่งที่ท่านถามท่านทดสอบ1 เป็นเหตุและผลที่ถูกต้องที่ทุกท่านสามารถนึกคิดได้ โดยธรรมชาติของจิตและความคิด เราเองไม่ได้หลงหรือชืนชมตัวเอง ตามที่ท่านทดสอบ1 ได้ให้กำลังใจ มันเป็นเพียงแค่บัญญัติเท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือการปฏิบัติต่างหาก เรามองว่าสิ่งที่ท่านทดสอบ1กล่าวเป็นแนวทางเท่านั้น สำคัญจุดหมายเราเองต้องเพียร เพราะฉะนั้น เราจะยึดติดกับบัญัติที่ท่านตั้งไว้ให้ได้ยังงัย เช่นเดียวกันเราก็ไม่ปราถนาให้ท่านธรรมสวนัง ยึดเอาประเด็นนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องภูมิธรรมของท่านทดสอบ1 เท่าที่ได้สนทนาผ่านทางเว็ปพลังจิต ทำให้เราเกิดศัทธาและได้ความรู้ ในสิ่งที่ตนเองยังมีปัญญาไม่ถึง และก็ไม่อยากให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านความคิดเห็นต่างๆมาติดตรงจุดนี้(ที่ท่านให้กำลังใจเท่านั้น)ถามธรรมท่านดีกว่าอย่างน้อยก็จะได้พอวัดผลตัวเองว่ามีธรรมเท่าไหนพอจะเอาเป็นกำลังใจในชาตินี้กันไหวไหม สุดท้ายขอขอบคุณ ท่านธรรมสวนังมากน่ะค่ะที่ได้ให้โอกาสตอบความคิดเห็นร่วมด้วย สาธุๆๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...