ช่วยฝากถามหลวงพ่อด้วยครับ

ในห้อง 'ฝากคำถามถึงหลวงพ่อเล็ก' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 29 กรกฎาคม 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    แบบว่าตอนนี้ผมเริ่มขอขมาพระรัตนตรัย ก่อนนอน
    คือต
    1.แต่อยากถามครับว่า เวลาขอขมาพระรัตนตรัยแล้วผมขอขมาพระ แต่ก็เสียใจที่ปรามาสพระ จิตใจเศร้าหมอง จะทํายังไงให้มันแบบว่าเบิกบาน ควรจะชั่งมัน หรือยังไงครับ แล้วผมอ่านมาการปรามาสพระ อดเป็นพระโสดาบัน แล้วฌานสมาบัติหาย แล้วมีนรกเป็นที่ไป แล้วถ้าขอขมา ผมจะได้เป็นพระโสดาบัน แล้วมีคติแน่นอนว่าถึงนิพพานใช่ไหมครับ

    2.อยากถามครับผมเป็นคนชอบอ่านชอบเรียน ความรู้ใหม่ๆชอบ แต่อยากถามครับบางครั้งเกิดอารมณ์ว่าเรารู้มากกว่าคนอื่น เลยคิดอกุศล จะเรียกว่ามานะทิฐิก็ได้ แล้วผมเชื่อว่ามานะทิฐิ เนี่ยแบบว่าทะนงตัวว่า เป็นคนมีความรู้มาก แล้วจะเบียดเบียนคนอื่นขมเห็นคนอื่น แบบนี่ ไปนรกแน่ๆ ผมไม่ชอบเลย อยากทราบวิธีแก้ ถ้ามีอารมณ์แบบนี้

    3.แล้วถามต่อครับ ถ้าเราพิจารณาเห็นโทษต่ออารมณ์เลวๆที่ผ่านมาในจิตเช่น ความอกตัญญู ไม่เคารพคนอื่นเลย เป็นปัจจัยให้ความดีนี่ฉิบหาย จิตมันจะละอารมณ์เหล่านั้นใช่ไหมครับ พอละแล้ว จิตจะเห็นคุณของ การกตัญญู รู้คุณคน แบบนี่ใช่ไหมครับ

    4.ศีลข้อสาม ถ้าร้องเพลงพวก ชีวิตมันน่าเศร้า แล้วเกี่ยวกับผู้หญิง ยาเสพติด หรือเพลงที่เหน็บแนบคนอื่น(ถึงจะจริงก็ตาม) แบบนี้จะผิดศีลเปล่าครับ
    5.วิกิจอิจฉา ช่วยบอกวิธีละวิกิจอิจฉาได้ไหมครับ ผมคิดแบบง่ายๆ ว่า อริยทรัพย์ที่พระพุทธเจ้าให้มา แล้วพระสงฆ์ท่านก็นํามาสอนตัวผม แบบนี้ได้ไหมครับ
    6.ช่วยบอกได้ไหมครับจะทํากําลังใจยังไงแบบว่ามีเมตตามหาศาล ชนิดว่าโกรธยากมาก สมมุตินะครับ ผมโดนคนต่อย ถ้าผมไม่ต่อยเค้ากับเค้าก็ต่อยผม จะทํายังไงดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2012
  2. Hanataro

    Hanataro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +490
    ...

    เหตุใดต้องขอขมาพระรัตนตรัย .....
    ถาม : กลัวทำอะไรผิดไปโดยที่เราไม่รู้ แล้วเป็นบาปนะคะ ก็ขอกราบขมาอภัย

    ตอบ : จ้ะ...เวลาจะทำอะไร ตั้งใจขอขมาต่อหน้าพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป พระสงฆ์ทุกรูปคือศากยบุตร ก็คือลูกของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น..ขอขมาตรงต่อท่าน ท่านไม่ถือโกรธเราอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาให้พ้นจริงๆ ต้องขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

    ก่อนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนทำกรรมฐานทุกครั้ง ควรจะกราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน หลวงพ่อท่านสอนให้ปฏิบัติจนชิน จนกระทั่งทุกวันนี้ อาตมากราบพระเมื่อไรคนเขาจะเห็นว่ากราบหลายครั้ง คือครั้งแรกกราบก่อน หลังจากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย ก็กราบอีก สวดมนต์เสร็จก็ค่อยกราบ อย่างน้อยต้องเก้ากราบไปแล้ว

    โดยเฉพาะนักปฏิบัติ พอเริ่มเข้าเขตอุปจารสมาธิไปแล้ว มารเขารู้ว่าเราจะหนีห่างไปแล้ว เขาจะหาวิธีขวางเราไว้ทุกวิถีทาง
    วิธีขวางที่ง่ายที่สุด ก็คือทำให้เราเกิดการลังเลสงสัย หรือทำให้เรามีความคิด มีคำพูด มีการกระทำ ที่เป็นการปรามาสในพระรัตนตรัย

    พอเราเกิดความคิด มีคำพูด หรือมีการกระทำอย่างนั้น อย่าไปเสียอกเสียใจ อย่าไปหนีห่างจากความดีตรงจุดนั้น ให้คิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ว่าในขณะนี้ด้วยการชักนำของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม พาให้เราทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ถึงไม่ใช่เจตนาโดยตรงของเราก็เถิด แต่เราก็เต็มใจกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ตั้งใจกราบขอขมาไป

    พวกนี้เขากลัวคนหน้าด้าน ถ้าเราหน้าด้านตื๊อสู้อยู่ เขาก็ถอย รู้ทันเขาก็ถอย ทุกคนที่ปฏิบัติอยู่ต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น แล้วมารก็มีตัวตนจริงๆ เขามาแต่ละทีน่ากลัวมาก อาตมาเจอเข้ามาแล้ว

    ครั้งแรกที่เป็นเด็กๆ ท่องบทพาหุงสรภัญญะ พญามารยกพลมาผจญพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างกับคลื่นในมหาสมุทร เจอเข้าจริงๆ ลักษณะนั้นเลย เขามาอย่างชนิดที่ เหมือนกับว่าเราไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย แต่เราถอยไม่ได้ ต้องสู้ เจอเข้าจริงๆ

    แต่ไม่ต้องกลัว ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง เขาทำหน้าที่ขวาง เราทำหน้าที่หนี มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราอยู่ทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากว่าเราผ่านไปตรงจุดนั้น เราจะไม่แพ้อีก ครูที่ขยันออกข้อสอบขนาดนั้น น่าจะยกขึ้นหิ้งเป็นครูดีเด่นเสียด้วยซ้ำไป

    คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของเขา เขามีหน้าที่ขวางให้เขาขวางไป เราทำหน้าที่ของเรา เราจะหนีให้พ้น เราก็หนีของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้เขา เขาทำต่อไป ก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาต่อไป เราไม่มีทางสู้เขา ไม่ว่าวิธีไหนก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าเลิกสู้ไปเลย

    โดนมาแล้วทุกวิถีทางเลย งานนั้นเกือบตาย..! ประมาณสิบกว่าวัน ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ตามที่อ่านในตำราที่บอกว่าเวลาเขามา มีลักษณะตัวดำเป็นนิล มาลักษณะนั้นจริงๆ โอ้โฮ ! แล้วเวลาเขามานี่ พลังที่รุมล้อมรอบข้างนี่ เหมือนอย่างกับลูกไก่ไปเจองู เราเองลุ้นไม่ขึ้นเลย ทำท่าจะยอมหมอบราบคาบแก้วแพ้อยู่ท่าเดียว ยกเว้นกำลังใจสุดท้ายที่คอยเตือนสติว่า ถ้าแพ้เราจะเป็นทาสเขาตลอดไป จึงได้ยืนหยัดสู้ต่อไป

    แต่ก็อย่างว่าแหละ สู้ไปสู้มา สู้เท่าไร ก็สู้เขาไม่ได้ จะใช้ความสามารถพิเศษรบกับเขา เราแพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย เพราะว่าสู้ก็คือเกิดโทสะ ก็เสร็จเขา ใช้กำลังใจแผ่เมตตาอย่างเดียวก็สู้เขาไม่ได้ เพราะว่ากำลังเขาสูงมาก ขนาดพระพุทธเจ้าเขายังไม่ยอมรับ ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่เก่งนะ ...(หัวเราะ)... เก่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าให้เท่าไรเขาไม่รับ มีปัญญาให้ไปซิ..เราก็แย่อยู่ฝ่ายเดียว ตื๊อกันเข้าไป..ฟาดกันอยู่นานเนกาเล คิดว่างานนี้แค่ตาย ปรากฏว่าตื๊อไปตื๊อมา อาจจะพ้นวาระกรรมของเราพอดีก็ได้ เขาก็เลยถอยให้ แต่กว่าจะถอย เล่นเอาเราซะงอมพระรามไปเลย..!


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1595
     

แชร์หน้านี้

Loading...