จะทำอย่างไรดีคะ หากรู้ว่ากำลังหลง ในกามตัณหา อยากจะขจัดมันไป แต่ทำไม่ได้เสียที

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย cake45pueng, 19 มกราคม 2008.

  1. jackman

    jackman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +194
    ถ้าคุณไปทำอสุภะกรรมฐานแต่จิตยังไม่แข็งพออาจจะทำให้เกิดภาพหลอนนะครับน่ากลัว- - เพราะบางคนจะชอบคิดมากกับสิ่งที่เห็นจนติดตาบางคนไปทำแล้วถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะกลัวผี-*-ผมก็อีกคน
    ก็เลยไปได้วิธีใหม่มาข้างล่างครับลองอ่านๆดูนะ


    (ของผมตัดยากมากๆๆๆๆครับเพราะผมชอบผู้หญิงสวยๆ-*-)
    ในหนังสือของผมท่านบอกว่าถ้าหารูปภาพแบบคนตายซากศพไม่ได้ให้จินตรณาการเอาครับแบบว่าตอนแรกให้นึกถึงรูปผู้หญิงสวยๆผู้ชายหล่อๆแล้วก็นึก
    ถึงตอนเขาเหล่านั้นตาย1วันผ่านไปร่างกายเริ่มเขียว3วันผ่านไปเริ่มปูดบวมเริ่มจำไม่ได้แล้วว่าสวยหล่อขณะไหนหน้าบวมมากๆๆยังกับลูกแตงโม
    7วันผ่านไปเริ่มเน่าเปลือยมีนอนเจาะเวลาคนตายอุจระและปัสวะจะไหลออกมารวมกันตอนนี้ได้ส่งกลิ่นเหม็นเน่าของแอมโมเนียจากอุจระไปผสมกับปัสวะกลิ่นก็จะเริ่มทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ15วันผ่านไปทุกอย่างเริ่มแห้งเริ่มจะเห็นกระดูกทีละนิดๆมีทั้งแมลงวันทั้งหนอนตอมเต็มไปหมด20วันผ่านไปเนื้อแห้งหมดเหลือไว้ก็แต่กระดูก... ให้คิดพิจารณาแบบนี้ไปทุกๆคราวที่กิเลสมาขอให้โชคดีน้า
    (ขอให้ตัวได้ไวๆไปนิพพานในชาตินี้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  2. ณัททา

    ณัททา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +58
    จริงๆแล้วถ้ารู้ว่าตัวเองกำลังหลงอยู่ แสดงว่าคุณยังมีสติ วัยอารมณ์ฮอร์โมนเพศเป็นปัจจัยประกอบเพราะว่ามันเป็นธรรมชาติของเรา บางครั้งการเอาชนะสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ เป็นสิ่งยากยิ่งแต่ว่าถ้าเรายอมรับมันเสีย แต่ใช้สติควบคุมให้อยู่ในขอบข่ายศีลธรรม ไม่นำพาความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น
    แล้วค่อยๆพิจารณาหาต้นเหตุ ที่จะเกิดผลตามมาให้เสียหาย แล้วต่อไปเราก็จะค่อยๆลดละและควบคุมมันได้ต่อไป
     
  3. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    ภาพอสุภกรรมฐาน

    ดับกามตัณหาใช้อารมณ์พิจารณาอสุภกรรมฐานนั้นได้ผลจริง ๆ ถ้ายิ่งพิจารณาบ่อย ๆ เราจะเบื่อโลกทันทีเกิดความสังเวชในใจว่า เราได้อะไรในร่างกายอันนี้บ้าง (ไม่มีอะไร..?...) มีแต่ของเน่าเหม็นโสโครกไม่น่ามองไม่น่ารักใคร่และไม่จีรังยั้งยืน.......เตือนจิตของเราว่า....เราจะนำมันมาเป็นอารมณ์ทำไม...?..

    "ความสุขโลกีย์มีได้ชั่วคราว ความสุขยืนยาวต้องเข้าหาธรรม"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a6.jpg
      a6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.2 KB
      เปิดดู:
      404
    • a13.jpg
      a13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.1 KB
      เปิดดู:
      319
    • at02.jpg
      at02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.3 KB
      เปิดดู:
      265
    • deadBABE.jpg
      deadBABE.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      292
    • jenin5.jpg
      jenin5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      282
    • zx1.jpg
      zx1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      578
    • larcetion.jpg
      larcetion.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.4 KB
      เปิดดู:
      1,229
    • a5.jpg
      a5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.3 KB
      เปิดดู:
      806
    • kop18.jpg
      kop18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.4 KB
      เปิดดู:
      263
    • woman.jpg
      woman.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      377
  4. noo_2002

    noo_2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +503
    โอ คุณ watasit ช่างหาภาพมาให้ดูได้น่ากลัวจิงๆ อิอิ

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ ที่เราอ่านแล้วก็พลอยได้ประโยชน์เหมือนกัน
     
  5. noo_2002

    noo_2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +503
    ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ได้เจอกับทางสว่างเร็วๆ นะคะ
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ต้องรู้ที่มีที่ไปของมัน แล้วก็ทำลายที่ต้นตอ

    ที่มาที่ไปนั้นพูดง่าย คือ
    การยึดว่ากายนั้นคือเรา เรานั้นมีกายอาศัยอยู่ในโลก

    ตราบใด ที่ยังทัศนะคติว่า เรานั้นมีกายเป็นเรา มันก็
    จะสั่งงานได้ มันก็จะเขย่าความคิดได้ มันก็จะหลอก
    ให้เราปรุงแต่งตอบสนองมันได้

    วิธีต่อสู้ มี 3 วิธี
    1. ใช้ปัญญาความคิด ตรึกตรองบ่อยๆ เหมือนท่องจำ ว่า กามไม่ดี
    แต่จะใช้ตัวนี้ได้ ชีวิตจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ดี ที่สูงสุด หรือเป็น
    คนมีอุดมคติ เพราะนั้นจะเป็นหลักชัย โดยอาศัย การตรึกว่ากาม
    คือศัตรูต่อความสำเร็จนั้น ถึงจะได้ผลจริง

    2. ใช้สมาธิ ก็ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้เป็นการเจริญฌาณสมาธิ จะนั่ง
    สมาธิเฉยๆ หรือ จะพิจารณาอสุภะ จนเห็น จนเด่น จนมองอะไรก็เป็น
    ของไม่น่าภิรมณ์ไปหมด เห็นด้วยการติดตา เมื่อเห็นสิ่งสวยงามด้วยตา
    เนื้อ แต่นิมติภายในจะเห็นภาพซ้อนเป็นของไม่น่าดู หรือ เป็นแค่ของ
    ธรรมดาที่เป็นธาตุ 4 แต่ต้องเจริญสมาธิเรื่อยไป หยุดเมื่อไหร่ก็มีโอกาส
    ย้อนกลับมาได้

    3. ตัดการเห็นผิดว่ากาย คือ ตัวเรา ก็คือ ตัดสายการเชื่อมโยง การสื่อสาร
    ของผัสสะ โดยเป็นไปโดยการกรองข้อมูลที่ละน้อยๆ จนสามารถระงับ
    การไหลของข้อมูลได้ เมื่อนั้น ความคิดเราจะถูกระงับ ไม่มีข้อมูลเข้า
    ก็ไม่มีข้อมูลออก วิธีนี้ เรียกสั้น ก็คือ เจริญสติ เรียกตามสมัยนิยมเวลานี้
    คือ ดูจิต เรียกตามตำราคือ สติปัฏฐาน 4 เรียกตามบัณฑิตร่วมสมัยคือ
    วิปัสสนา โดยทำง่ายๆ แค่ค่อยตามรู้สึกว่าตอนนี้กายมันขยับอย่างไรไป
    เรื่อยๆ เมื่อตามดูการขยับของกายได้ถี่ ละเอียด ก็จะเริ่มเห็นที่มาของการ
    ขยับ ว่ามาจาก เวทนา ความเจ็บปวดเมื่อน มาจากความเคยชิน(คุ้ยแคะ แกะเกา)
    มาจากตัณหา(ความพอใจในสัมพัส) เมื่อกรองอาการได้ถี่ขึ้น ก็จะเห็นทัน
    ทีว่า ภาวะกาม ที่เป็นปัญหานั้น มาจากสาเหตุไหน มาจาก เวทนา มาจากอนุสัย
    หรือ มาจากความพอใจในสัมพัส(ของหูตาจมูกปากกายใจ) เมื่อเห็นบ่อยเข้าก็
    จะเข้าใจว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไร และก็จะเข้าใจว่า มันอาศัยส่วนใดในการส่ง
    ข้อมูลมา และถ้าเบื่อ กามกันจริงๆ ก็จะมีทัศนะว่า กายนี้ไม่ใช่เราเด่นขึ้นๆ
    จนตัด หรือ ละได้ นั้นคือ สังโยชน์ตัวแรกถูกบั่นทอน และทำลาย เมื่อนั้นก็คือ
    ได้เยี่ยมประตู โสดาบัน


    ทั้งสามวิธีนี้ จะเกิดขึ้น และใช้อย่างชำนาญไปตามแต่ละจริต อาจจะไม่ได้
    ใช้ไปในทางหนึ่งทางใด ทุกอย่างใช้ผสม สลับกันได้ แต่ถ้าวิธีที่สามเกิด
    ได้จนเป็นสภาวะนำ ก็คือ ยกวิปัสสนาญาณสำเร็จ เมื่อไหร่ ก็จะพบคำตอบ
    ที่ประจักษ์ได้แก่ตัว

    * * * * * * *

    กล่าวไปแล้วถึงต้นตอ ยังเหลือรากเง้า

    รากเง้าขอกล่าวสั้นก่อนว่า คือ จิต

    จิตที่ยังปรุงแต่ง ที่เรายังยึดว่าเราคือมัน มันคือเรา

    มันก็ยังสามารถถอดถอนการเห็นกายไม่ใช่เราได้

    ทำให้ยังเพลินด้วยมโนจิตในการสัมผัสกาม กามจะปราณีต
    ขึ้น หรือ รุนแรงขึ้น เพราะการเสพกามจะเป็นไปด้วยจิตล้วนๆ
    ซึ่งไม่ใช่เรื่องของสัมผัสทางกายอีก เมื่อนั้นถ้า สติไวพอ
    จะเห็นว่า จิตนั้นแหละคือที่มาของกามฉันทะ เป็นรากเง้า
    ของปัญหา เป็นที่ซุกซ่อนของความเผารน ก็จะเริ่มเห็นจิต
    เมื่อเริ่มเห็นจิต ก็จะรู้ว่า มันก็แค่สิ่งชั่วคราว ถอนจิตได้เมื่อ
    ไหร่ เห็นจิตไม่ใช่เราได้เมื่อไหร่ กามก็ถูกตัดเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
    ส่วนวิธีนั้น ก็คือ วิธีที่ 3 ที่กล่าวไปแล้ว เพียงแต่หมั่นฝึกเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2008
  7. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    ชอบจังครับ
     
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    ได้ลองกำหนด ดูจิตในภาวะนั้น เมื่อรู้ ราคะจะลดลง เพราะสติเป็นกุศล ราคะเป็นอกุศล ลองหลายครั้ง ได้ผล ราคะลดลงไปเมื่อเรารู้ตัว แต่ไม่หมดไปเพราะยังอยู่ในสภาพแวตล้อมเดิม ต้องปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้วย


    สะราคัง วา จิตตัง สะราคัง เม จิตตันติ ปะชานาติ
    แปลว่าจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ <O:p</O:p

    วีตะราคัง วา จิตตัง วีตะราคัง เม จิตตันติ ปะชานาติ
    แปลว่า จิตไม่มีราคะก็รู้ว่าจิตไม่มีราคะ

    เพียงแค่รู้ ก็เป็นกุศลแล้ว ยื่งรู้แล้วละก็จะเป็นกุศล ดับทุกข์ได้มากยิ่งขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2008
  9. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    ใช้กิเลสนี้เป็นโอกาศจิ เรียนรู้มันไปเลยว่าอ้อ กิเลสตัวนี้มันเป็นอย่างนี้หนอ มันรู้สึกอย่างนี้หนอ ต้นเหตุมันเกิดจากอย่างนี้หนอ เรียนรู้มันไปเรื่อยๆ คอยดูมันไปว่ามันจะอยากได้มากซักแค่ไหน พิสดานซักแค่ไหน จอยจับดูรู้ไปเรื่อยๆ แค่ให้รู้นะอย่าเคริ้มไปกะมันหละ พอรู้แล้วเดี๋ยวมันก็วางได้เองแหละ
     
  10. pimrapat

    pimrapat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +97
    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สำหรับผู้ที่ตั้งกระทู้และผู้ตอบ ดิฉันได้ความรู้และจะนำไปปฏิบัติ อย่างน้อยก็ยังมีหนทางที่จะเดินต่อไปได้อีกก้าวหนึ่งให้สมบรูณ์มากยิ่งขึ้น ขอบพระคุณค่ะ
     
  11. เศษธุลีในจักวาล

    เศษธุลีในจักวาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +150
    เราก็เป็นเหมือนกันเลิกกับแฟนใจยังผูกพันจิตหดหู่เศร้าไม่หาย อยากหยุดความรู้สึกนี้เป็นกำลังใจ ให้นะ เราก็จะพยายามตัดโซ่แห่งกิเลสให้ขาดให้จงได้
    อนุโมทนากับท่านที่ให้ความรู้ด้วยค่ะ
     
  12. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    นึกถึง พ่อ และ แม่ เข้าไว้นะครับ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อ้าวคุณเศษธุลี อันนั้นไม่ใช่กามกระมังครับ

    ถ้าไม่โทษะ ก็ โมหะ

    คือ ถ้าไม่ตามโกรธพยาบาทอยู่

    ก็ ยังยึดมั่นในรูปของใช้ชีวิตคู่อยู่ อาจจะเป็นรูปเก่าที่เคยร่วมกันสร้าง
    หรือ อาจจะเป็นรูปที่เราวาดฝันไว้

    คือ ต้องระงับที่สองตัวนี้ ตามที่มันเกิดขึ้นครับ กรณีนี้ถึงจะระงับทุกข์ได้

    ตัวโมหะ ภาพฝันวันวานนี้ ละยากหน่อย ต้องใช้สติมากๆ เพราะตื่นก็เห็น หลับ
    ก็เห็น ต้องเจริญสติและรู้จักวาง ถึงแม้จะฝัน จะเห็น ก็ไม่ยินดียินร้าย รับรู้ไป
    เฉยๆ ว่าเห็นอีกละ

    ตัวโทษะ พยาบาทนี้ ละไม่ยากนัก เพราะเห็นง่าย เพราะผลที่เกิดมันเห็นๆ
    เช่นข้าวของแตก อาการกระฟัดกระเฟียด อันนี้ใช้สตินิดหน่อย ปัญญามากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2008
  14. Starpegasus

    Starpegasus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +826
    ถือศีลข้อ 3 แบบ อพรหมจริยา คือ ไม่ข้องแวะในเรื่องเพศ ไม่สำเร็จความใคร่ อันนี้จะเป็นการควบคุมกายได้ในระดับหนึ่ง แต่คนที่มีแฟนจะลำบากมาก เพราะชายหญิงใกล้กันเมื่อไร ไฟก็ลุกเมื่อนั้น ถ้าจะบำเพ็ญจริงๆ เป็นโสดจะสะดวกกว่า

    พยายามลดการกินให้อิ่มมากๆ หรือไม่ทานอาหารเย็นเพราะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีของกาม

    การกระทำทางกาย ก็เหมือนเป็นการขังกิเลสในระดับหนึ่ง แต่ใจมันก็ยังต้องการอยู่ ให้อัดมันด้วยสมาธิ (ตามที่ความเห็นก่อนหน้ากล่าวมาก็ดีแล้ว) หรือพิจารณาว่าร่างกาย ที่แท้ประกอบขึ้นด้วยธาตุ 4 อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มันประกอบกันเข้า

    "กามนี้เป็นสุขน้อย แต่เป็นทุกข์มาก"

    ชายหญิงต่างทำทุกข์อย่าง เพื่อให้ได้ความสุขทางกาม เทียบกับตอนที่ต้องเป็นทุกข์เพราะกามนั้น มันเป็นเพียงแค่ความสุขเพียงชั่วครู่เท่านั้น
    ทุกข์ของกาม
    - ต้องคอยหาคู่กามที่ต้องใจ
    - ต้องใช้ทรัพย์สิน เวลา แรงกาย และแรงใจเพื่อให้ได้คู่กามที่หมายปองนั้น
    > ชาย : แต่งตัวให้หล่อ ซื้อรถ เตรียมงบเลี้ยงสาว คอยบริการ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆหายไป เมื่อเขาได้เสพกามแล้ว ยกเว้นชายที่แน่วแน่ เด็ดเดี่ยว ไม่มักมาก และผู้หญิงมีดีพอที่จะดึงเค้าไว้ได้ (แต่ผู้ชายที่ option ครบมักจะเจ้าชู้มั้ง)
    > หญิง : สารพัดบำรุงตัวเองให้เปล่งปลั่ง หน้าตาสวย แต่งตัวให้ดี ทำศัลยกรรม
    - พอได้เป็นคู่กันแล้ว ก็มีความเป็นห่วงกัน คิดถึงกัน จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่มีสติ ทำให้ปัญญาอาจจะตกต่ำ หรือสมาธิสั้น แล้วแต่คน
    - มีความหึงหวงในคู่กาม อาจลุกลามเป็นทะเลาะวิวาท สร้างศัตรู ทำร้ายร่างกาย ฆ่ากันตาย
    - ต้องดูแล เอาใจใส่คู่กาม ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
    - เกิดความทุกข์ เมื่อความสุขระหว่างคู่กามเสื่อม ต้องหาคู่ใหม่ ถ้าฝ่ายหนึ่งจะไป แต่อีกฝ่ายไม่ยอม จะเป็นทุกข์
    - เมื่อเลิกกัน ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ (เสียความบริสุทธิ์)
    - ผลจากกามที่ไม่ถูกต้อง : มีลูกโดยไม่ถึงเวลาอันควร, โรคติดต่อ, เสียชื่อเสียง, ทำร้ายร่างกาย, ฆ่ากันตาย และสารพัดปัญหาที่จะตามมา
    - ผลจากกาม
    > มีความสุขดี จึงอธิษฐานขอเป็นคู่ไปทุกชาติ บางชาติอีกฝ่ายเกิดเป็นสัตว์ อีกฝ่ายก็ต้องไปเสพสมกับสัตว์, เป็นการก่อให้เกิดภพชาติไปอีก ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน (ไม่เกิดอีก)
    > ไม่มีความสุข มีการเอาเปรียบ มีการอาฆาต จะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรข้ามภพข้ามชาติกันไป
    - ฯลฯ

    ถือเป็นการ"แนะนำ"แล้วกันครับ เราต่างก็พยายามกันอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008
  15. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    ลองฝึกถือศีล 5 ก่อนครับ โดยก่อนถือศีลให้สมาทานศีลด้วย คือ การตั้งสัจจะว่าจะรักษาศีล จากนั้นก็ขยับมารักษาศีล 8 ครับ วิธีนี้จะทำให้กามลดลงได้ครับ
    ลองดูนะครับ อนุโมทนาสาธุๆๆครับ
     
  16. kunchaynor

    kunchaynor สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +5
    อสุภกรรมญานเป็นคำตอบสุดท้ายครับ ลงอ่านดูตามนี้นะครับ โดย หลวงพี่เล็ก ครับ

    http://grathonbook.net/book/grammathan40/07.html#002
     
  17. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    อนุโมทนา สาธุ.........

    จริงแล้วการมีอะไรกับคู่ของตน คือ สามี ภรรยา ผมว่าก็ไม่น่าจะผิดครับ
    แต่หากไปมีกับคนอื่น หรือซื้อบริการตรงนี้ก็ น่ากลัวครับ เดียวนี้โรคภัยจากการเสพกาม มีเยอะมาก ...............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2008
  18. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    ความสงบของจิต

    การเห็นความฟุ้งซ่านของจิตนั้น คือ
    ปัญญาขั้นต้น ฉะนั้น ความสงบของจิต
    จึงเป็นพื้นฐานของปัญญา

    ความสงบทำให้เกิดความสุข

    เราวุ่นมานานแสนนานแล้ว มันก็ไม่เป็น
    ความสุขอะไรเลย พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำใจ
    ให้สงบ จะเกิดสุข
     
  19. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    พิจารณา ทุกครั้งที่เสร็จกิจ มันมีคุณและโทษอยู่ในตัวเอง...ได้ประโยชน์อะไร..?
    ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ค่อย ๆ ลดด้วยการหาทำงานทำให้เหนื่อยแทนการอยู่ว่าง ๆ

    ถ้ามันจะทำให้ใครเดือดร้อน มองให้เห็นโทษของมันว่า มันมีประโยชน์ ตรงไหนมันเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกาย แต่ บรรเทา ลงบ้างก็ดี ถ้าไม่ไหวก็ช่างมันเถอะ

    กาย ของเราที่ได้ความสุขจากธรรมชาติ อย่าคิดให้เป็นทุกข์เลย ธรรมดาของสัตว์โลก
    มันมีอยู่ในทุกตัวคนนั่นแหละ สุขจากเนื้อหนังมังสา อย่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเท่านั้น
     
  20. imfd

    imfd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +335
    จะว่าไปแล้วนี่คือบทพิสูจน์ท้าย ๆ ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้เลยนะครับ ซึ่ง
    มี 3 ธิดาของพญามารมาเป็นบททดสอบพระองค์ ไงก็ลองปฏิบัติดูเถอะครับ
    ทุกหนทางที่เพื่อน ๆ โพสกันมาล้วนเป็นทางเลือกที่เห็นว่าเหมาะสมแล้วตาม
    ลำดับ แต่ถึงแม้นจะทำได้ในระดับใด ๆ ก็ตาม...แต่ถ้ารักษาศีลห้าไว้ได้อยู่เสมอ
    ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งแล้วครับ....แต่ที่สำคัญก็คือ จิตอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าควบคุมมันได้เราจะสามารถทำอะไร ๆ ให้มันง่ายขึ้นได้อีกเยอะเลยทีเดียวครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...