ข้อความจากต่างมิติ - รวมการตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์จาก Kryon

(menuKryon pointer)

กระทู้นี้ผมได้รวบรวมคำตอบจากครายออน (Kryon)
เอาไว้ด้วยกันมากมาย ซึ่งก็เอามาจากเวปไซต์ของครายออนนั่นแหละนะครับ

(menuKryon pointer)

ในหมวดหมู่ของการตอบคำถามที่ชื่อว่า Q&A

(ARCHIVES - Index)

ซึ่งเดี๋ยวผมจะค่อยๆทยอยเลือกเอามาแปลและโพสต์ให้ท่านอ่าน
เพิ่มเรื่อยๆนะครับ แต่ก็จะเลือกเอามาเท่าที่เห็นว่าน่าสนใจ
และก็เท่าที่จะแปลไหวเท่านั้นนะครับ

ดังนั้น ท่านใดที่สนใจคำถามอื่นๆนอกเหนือจากนี้
ก็สามารถเข้าไปดูได้ในลิงค์ที่ว่านี้นะครับ

และก็เหมือนเคยครับ โปรดใช้วิจารณญาณ
ในการรับรู้ข้อมูลเอาเองนะครับ
เพราะว่ามันจะมีอยู่หลายเรื่องที่ครายออนตอบเอาไว้
ที่มันจะไม่ตรงกับคำสอนในศาสนาของท่าน

ด้วยความปราถนาดีครับ
...................................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen

#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

สารบัญ:

1).ชีวิตคืออะไร? (What’s life all about)
2).ทางเลือกเสรีบนดาวเคราะห์โลก (Free will on earth)
3).ดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี
4).ดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี (ต่อ)
5).ทุกชีวิตล้วนคือส่วนหนึ่งของพระเจ้าใช่หรือไม่?
6).ทุกชีวิตล้วนคือส่วนหนึ่งของพระเจ้าใช่หรือไม่? (ต่อ)
7).จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราทำภาระกิจบนโลกเสร็จแล้ว?
8).ร่างกายมนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่มีวิญญาณได้ไหม๊?
9).ภาพรวมของมัน (The Big Picture)
10).ความจริงขั้นสูงสุด (Ultimate Truth)
11).ออกนอกจักรวาลของพวกเราไปแล้วจะเป็นอะไร?
12).จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณตายลงไป?
13).จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสัตว์ตายไปแล้ว?
14).การปฏิบัติต่อสัตว์
15).วงกลมปริศนา (Crop Circles)
16).ทำไมพระวิญญาณจากเบื้องบนถึงไม่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างให้มนุษย์รู้ไปซะเลยหละ?
17).การสวดมนต์
18).เราควรจะสวดอ้อนวอนถึงใครดี?
19).การพูดคุยกับเซลในร่างกายของเราเอง
20).พระพุทธเจ้า กับ พระเยซูคริสต์
21).เรื่องเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
22).กระบวนการเกิด
23).ทุกๆคนมาจากไหน?
24).ทำไมพวกเราต้องสร้างสรรค์ด้วยหละ? (Why do we create?)
25).ความตาย (Death)
26).การสะสมกรรมด้านลบ
27).การลบล้างกรรม
28).การร้องขอให้กรรมเก่ากลายเป็นโมฆะกรรม หรือที่ครายออนเรียกว่า “Neutral Implant”
29).พันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ
30).จิตวิญญาณ (Soul) กับ ตัวตนที่สูงส่งกว่า (Higher-Self)
31).การรักร่วมเพศ (Homosexuality)
32).ความฝัน (Dream)
33).ความฝัน (ต่อ)
34).การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีตจากสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในปัจจุบันนี้
35).การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต (ต่อ)
36).กาลเวลาที่เคลื่อนที่เป็นวงกลม (Circular time)
37).เกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimers)?
38).การเปลี่ยนแปลง DNA
39).การติดต่อสื่อสารกับเหล่าเทพผู้นำทาง (guides) ของเรา
40).บริเวณที่หนาวเย็นกว่าของโลกคือบริเวณที่เอื้ออำนวยต่อการรู้แจ้งมากกว่าจริงหรือไม่?
41).แรงแม่เหล็กของบริเวณที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร
42).โหราศาสตร์ – ในทางวิทยาศาสตร์แล้วมันทำงานอย่างไร
43).การบำบัดด้วยพลังงาน และการสัมผัสรู้พลังงาน
44).การบำบัดรักษาด้วยพลังแม่เหล็ก
45).ที่นอนพลังแม่เหล็กบำบัด (Magnetic mattresses)
46).คำถามด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพลังแม่เหล็ก

(เดี๋ยวจะมีเพิ่มเรื่อยๆนะครับ)
........................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen

#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

1.ชีวิตคืออะไร? (What’s life all about)

ที่มา:
kryon-Q&A.html


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

ครายออนที่รัก ฉันมีคำถามอยู่ 1 คำถาม ที่ไม่เคยมีใครสามารถตอบฉันได้เลย
มันเป็นคำถามที่ทำให้ฉันสงสัยและรบกวนจิตใจของฉันมานานมากแล้ว
ดังนั้น ฉันจะรู้สึกซาบซึ้งใจมากถ้าคุณจะสามารถตอบคำถามนี้ให้ฉันเข้าใจได้

ทำไมพวกเราถึงต้องมาอยู่ที่นี่กันด้วย? ฉันไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของชีวิตมนุษย์เลย?
มันจำเป็นด้วยหรือ? และทำไมในระหว่างที่ยังอยู่ในร่างกายเนื้อของมนุษย์นี้
พวกเราจะต้องคลุมม่านพรางแห่งการหลงลืมเอาไว้ด้วย? ทำไมถึงต้องมีสิ่งเหล่านี้ด้วย?

คำตอบ:

ที่รัก..คำถามนี้เคยมีคนถามมาหลายครั้งแล้ว และตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้
พวกเราก็เคยตอบคำถามนี้ไปหลายครั้งแล้วด้วย คุณถามถึงความหมายของชีวิตใช่ไหม๊?
แต่ว่ามันเป็นคำถามที่มีคนถามบ่อยที่สุดเลยหละ และมันก็เป็นคำถามที่ทรงเกียรติมากที่สุดเลยด้วย
ดังนั้น พวกเราจึงจะไม่มีวันเหนื่อยที่จะตอบคำถามนี้เลย!

ลองคิดดูสักครู่สิว่า ถ้าในความเป็นจริงแล้ว พวกคุณคือชิ้นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า
ที่มีชีวิตนิรันดร์ แต่ลงมาที่นี่ด้วยความจงใจ
ดังนั้น มันก็เลยจะต้องมีอะไรบางอย่างที่จะถูกซุกซ่อนเอาไว้ ใช่ไหมหละ?
เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว พวกคุณจะลงมาทำไมหละ?
แล้วทำไมจะต้องมีทางเลือกเสรี (free will) ด้วยหละ?
และทำไมมนุษย์ชาติจะต้องมีความทุกข์ทรมานและมีการดิ้นรนต่อสู้ด้วยหละ?

ดังนั้น ทั้งหมดทั้งปวงนี้มันจะต้องเป็นไป
เพื่ออะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆแน่ๆเลย
เพียงแต่ว่าสิ่งนั้น ในทางจิตวิญญาณแล้ว
มันถูกซุกซ่อนเอาไว้เท่านั้นเอง


ฉันขอถามคุณสักหน่อยเถอะว่า: คุณคิดว่ามีอะไรที่พระผู้เป็นเจ้าหรือพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทำไม่ได้บ้างไหม?
ซึ่งในเบื้องต้นแล้ว คุณอาจจะตอบว่า “ไม่” เพราะว่าพระเจ้าสามารถทำได้ทุกอย่าง

แต่คำตอบจริงๆก็คือ: พระเจ้ามีความลำเอียง! เพราะว่าพระเจ้าเข้าข้างความรัก
เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เกิดสถานการณ์ใดๆขึ้นในจักรวาล
ที่ต้องการการตัดสินใจโดยปราศจากความลำเอียงดังกล่าวนี้
ซึ่งหมายถึงเป็นการตัดสินใจโดยไม่ลำเอียง และอยู่ภายในสนามเด็กเล่นที่เป็นกลางจริงๆ
เพราะว่ามันจะไม่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพระเจ้ามาเกี่ยวข้องด้วย
มันก็จะมีวิธีการของมันอยู่วิธีการหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้ พวกเราเรียกมันว่า “ดาวเคราะห์โลก”

คุณเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีเพียงดวงเดียว” ไหม๊?
แล้วคุณเคยสงสัยไหม๊ว่ามันหมายความว่าอย่างไร?
มันหมายความว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆทั้งหมดที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
ไม่สามารถเลือกอะไรได้ใช่ไหม๊? ก็ต้องไม่ใช่แน่นอน เพราะว่ามันหมายความว่า
นี่คือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียว (ในขณะนี้) ที่สามารถเลือกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองได้
พวกเขาคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีพลังอำนาจและมีความสามารถในการ

1).จดจำแหล่งกำเนิดทางจิตวิญญาณของตัวเองได้ และ
2).ใช้มันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความเป็นจริงของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ได้

ดังนั้น ในตอนนี้ ดาวเคราะห์โลกจึงคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียว
ที่มีสิ่งมีชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าอาศัยอยู่

ที่ผ่านมาพวกเราเคยบอกเรื่องนี้กับพวกคุณไปมากมายแล้ว ลองไปค้นหาดูสิ
มันอธิบายด้วยซ้ำไปว่าทำไมพวกมนุษย์ต่างดาวถึงได้มาเยือนโลกแล้วก็จากไปเฉยๆ
โดยไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น (เช่น การนำยานลงมาจอด แล้วเดินออกมาปรากฎตัวให้ชาวโลกเห็นเป็นต้น)

พวกเราเคยอธิบายไปว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนั้นต้องการที่จะผสมพันธุ์กับพวกคุณ
(ซึ่งพวกเขาก็สามารถทำได้ในทางชีวภาพ แต่ไม่ใช่ในทางจิตวิญญาณ)
พวกเขาเคยพยายามที่จะโคลน (clone) “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self)
ของพวกคุณด้วยซ้ำไป แต่ว่าพวกเขาก็ทำไม่ได้

พวกเขาสัมผัสรู้ถึงพลังอำนาจที่น่าทึ่งของพวกคุณ แต่ว่าพวกคุณสิ
กลับไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงพลังอำนาจที่น่าทึ่งของตัวเองได้!
(ซึ่งเรื่องนี้แหละ ที่เป็นเรื่องตลกระดับเอกภพเกี่ยวกับความเป็นทวิภาวะของพวกคุณ)

พวกเราเคยอธิบายไปว่าทำไมพวกคุณถึงมีดวงอาทิตย์อยู่แค่ดวงเดียว
(ทั้งๆที่ดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ส่วนใหญ่ จะมีระบบดวงอาทิตย์อยู่ 2 ดวง)
แต่เรื่องแปลกก็คือ ปกติแล้วถ้าดาวเคราะห์ดวงใดมีดวงอาทิตย์ 2 ดวงหละก็
ก็จะทำให้สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนนั้น สามารถพัฒนาไปได้เร็วมากกว่าและมีศักยภาพมากกว่าด้วย

แต่พวกคุณกลับมีดวงอาทิตย์แค่ดวงเดียว
ดังนั้น จึงทำให้ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณไม่เป็นที่สังเกตของสิ่งมีชีวิตจากที่อื่นมากนัก
และก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถหาตำแหน่งที่อยู่ของดาวเคราะห์โลกเจอง่ายๆด้วย

คุณอาจจะเรียกมันว่า “การทดสอบ” ก็ได้นะ ถ้าคุณต้องการ
แต่มันก็เป็นการทดสอบเกี่ยวกับพลังงานและความสั่นสะเทือนเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณอยากจะตั้งชื่อให้มันจริงๆหละก็
ก็จงใช้คำว่าพวกคุณกำลังอยู่ใน “ประสบการณ์” อย่างหนึ่งอยู่
ไม่ใช่กำลังอยู่ในการทดสอบ เพราะว่าถ้าพูดแบบนี้มันจะถูกต้องมากกว่า

พวกคุณคือผู้ทดสอบที่อาสาสมัครกันลงมาเกิด
เพื่อมามีประสบการณ์บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
แต่ว่าความจริงในเรื่องนี้ก็ได้ถูกซุกซ่อนเอาไว้ไม่ให้พวกคุณรู้
ในขณะที่พวกคุณมาแล้วก็ไป และมาแล้วก็ไปอยู่อย่างนั้น

แต่นี่ก็เป็นแก่นแท้ของความหมายของคำว่า “เสมอภาคกัน” ด้วยนะ
เพราะว่ามันหมายความว่า พวกคุณทุกๆคนคือสิ่งมีชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
ที่มีความสามารถทางจิตวิญญาณเสมอเหมือนกันหมด
และการนำความสามารถของตัวพวกคุณเองไปใช้นี้
ก็คือสิ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเอง
และกับของดาวเคราะห์โลกเองด้วย

และต่อไปนี้ คืออีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรจะนำไปพิจารณาด้วย:

ทำไม..หลังจากที่ผ่านบททดสอบของชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก
และความเศร้าโศกในภพชาติหนึ่งแล้ว มนุษย์โลกคนหนึ่งจึงเลือกที่จะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง?
แต่นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณทำกันหละ! คุณสามารถอธิบายได้ไหม ว่าเพราะอะไร?

ฉันสามารถอธิบายได้..เพราะว่าในตอนที่พวกคุณไม่ได้อยู่ที่นี่นั้น
พวกคุณจะมองเห็นภาพรวมของมัน ดังนั้น ในตอนที่พวกคุณไม่ได้อยู่ที่นี่
พวกคุณจึงแทบจะอดทนรอไม่ได้ที่จะลงมาทำอีก
เพื่อมาสานต่อประสบการณ์ของตัวเอง และเพื่อที่จะมาช่วยทำบททดสอบเกี่ยวกับพลังงานอันนี้

ไหนลองตอบคำถามนี้ของฉันดูหน่อยซิว่า:

ทำไมคุณถึงได้กลับมาเกิดใหม่ในภพชาตินี้หละ?
ทั้งๆที่มันเป็นช่วงเวลาที่ “วันสิ้นโลก” ก็เห็นลางๆอยู่ข้างหน้าโน่นแล้ว
และผู้พยากรณ์ส่วนใหญ่ที่อยู่บนโลกใบนี้ ก็ได้พยากรณ์เอาไว้ตรงกันแล้วว่า
มันจะเป็น “การสิ้นสุด” (the end) ลงอีกด้วย
แล้วทำไมคุณถึงได้เลือกเอาช่วงเวลาที่พิเศษแบบนี้กลับมาอยู่อีกหละ?

คุณคิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญใช่ไหม๊?
(หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้น..คุณคิดว่ามันเป็นการลงโทษทัณฑ์แบบใดแบบหนึ่งใช่ไหม๊?)
No! มันไม่ใช่เลย เพราะว่าพวกคุณบางคนได้ตั้งตารอคอย
เพื่อที่จะเลือกลงมาเกิดในช่วงเวลานี้จริงๆด้วยซ้ำไป!

ทำไมหละ? คุณคิดว่าคุณได้เลือกที่จะกลับลงมาเกิดในช่วงเวลานี้
เพื่อที่จะมาตายอย่างสยดสยองอย่างนั้นหนะหรือ?

คำตอบก็คือไม่..เพราะว่าพวกคุณแทบจะอดใจรอไม่ได้ที่จะกลับมาเกิดใหม่
ในช่วงเวลานี้ด้วยซ้ำไป เพื่อที่จะมาเปลี่ยนแปลงมันทั้งหมด!
เพราะว่า ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง (ในโลกของวิญญาณ – ผู้แปล)
พวกคุณเข้าใจดีว่า “อนาคตไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้แน่นอนตายตัวแล้วแต่อย่างใดเลย”

ดังนั้น คำพยากรณ์ที่ถูกเขียนเอาไว้โดยผู้พยากรณ์ที่เก่งกาจที่สุดในโลกของพวกคุณ
ก็เป็นแค่ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อย่างหนึ่งของโลกเท่านั้นเอง
เพราะว่ามันเป็นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ ที่ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของโลกในขณะนั้นๆเท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะต้องเข้าใจเอาไว้ด้วยว่า
มันมี “ความลับที่ยิ่งใหญ่” อยู่อย่างหนึ่ง ที่ทุกๆคนรู้เหมือนๆกันหมด
เพียงแต่ว่าในระดับจิตสำนึกของพวกคุณ มันได้ถูกซุกซ่อนเอาไว้เท่านั้นเอง

ความลับที่ว่านี้ มันเป็นความลับที่เกี่ยวกับ “จักรวาลใหม่” แห่งหนึ่ง
และก็เกี่ยวกับพลังงานที่เป็นจุดเริ่มต้นของมันด้วย

มันเกี่ยวกับการตอบคำถามอย่างไม่มีความลำเอียงของดาวเคราะห์โลก
ต่อคำถามที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาลคำถามหนึ่ง ที่ว่าพลังงานจะไปจบลงที่ไหน?
และเมื่อการวัดค่าครั้งสุดท้ายของพลังงานของโลกได้ดำเนินการไปแล้ว
ผลลัพธ์ของมันจะเป็นอย่างไร?

ตอนนี้มันดีขึ้นมากแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้การวัดค่าครั้งสุดท้ายเคยถูกกำหนดให้เป็นตอนนี้
ซึ่งผู้พยากรณ์ทุกๆคนของพวกคุณก็ได้บอกพวกคุณไปแล้วแบบนั้นเหมือนกัน
และทุกๆคนก็เรียกช่วงเวลาในตอนนี้ของพวกคุณว่า “the end time” ด้วยกันทั้งสิ้น

แต่ว่าพวกคุณก็ได้ทำให้ทุกๆอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว
และก็ได้ทำให้ทุกๆอย่างมันเบี่ยงเบนออกไป
จากเส้นทางที่ได้ถูกพยากรณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เพราะว่าตอนนี้พวกคุณได้ทำให้เกิดอะไรบางอย่าง
ที่ไม่มีใครคาดหมายมาก่อน ขึ้นมาแล้ว
และเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีผู้พยากรณ์คนใดพยากรณ์เอาไว้เลย


ลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองสิ! ลองไปค้นหาคำพยากรณ์
ที่พูดถึงสถานการณ์ของพวกคุณในตอนนี้ดูสิ คุณจะค้นหาไม่เจอหรอก

ส่วนคำพยากรณ์ทั้งหลายที่พูดถึงยุคนี้พวกมันได้เกิดขึ้นจริงหรือยัง?
ไม่เลยพวกมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆเลย

ซึ่งนี่แหละคือเหตุผลที่โครงข่ายพลังงานของโลกถูกเปลี่ยนแปลงไปหละ
และนี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกคุณถึงกำลังนั่งอยู่ในสถานที่ๆการทดสอบยังคงดำเนินต่อไปอยู่หละ

สิ่งที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ จะส่งผลกระทบต่อสรรพชีวิตทั่วทั้งจักรวาลใหม่แห่งนี้ในท้ายที่สุด
และสิ่งที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่ในตอนนี้ ก็เป็นที่รับรู้กันไปทั่ว
ของทุกผู้ทุกนานที่อยู่ ณ.ฟากฝั่งนี้ของม่านพรางซะด้วย

และนี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้พวกเราต้องมาสอนพวกคุณหละ
และนี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมชาวโลกหลายคนจึงได้รับข้อความเหมือนๆกันหมดหละ
พวกเรากำลังหมายถึงข้อความที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกคุณ
และก็ท้าทายพวกคุณให้ก้าวเดินต่อไป และให้พวกคุณหาวิธีการแก้ปัญหาเก่าๆ
ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ได้เสีย และให้พวกคุณค้นหาความเป็นพระเจ้าในตัวเองให้พบอย่างแท้จริง

และนี่ก็ยังเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงพูดเรื่อง “บิ๊กแบง” (Big bang)
กับพวกคุณด้วย เพราะว่ามันเป็นการเปลี่ยนมิติของจักรวาล
ที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ กลับดูเหมือนว่าอยู่ๆก็หายวับไปเฉยๆอย่างนั้นแหละ
แต่ว่ามันก็มีเรื่องราวทางด้านจิตวิญญาณอยู่มากมายและยาวเหยียด
ที่จะใช้อธิบายว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรอยู่ และว่าพลังงานเริ่มต้นนั้นคืออะไรด้วย
ซึ่งตอนนั้นพวกคุณอยู่ที่นี่ด้วย แล้วหลังจากนั้น..ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่ง

ความลำเอียงของพระเจ้าคือเข้าข้าง “ความรัก”
ซึ่งถ้าคุณสามารถขึ้นไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนที่สูงมากขึ้นกว่านี้ได้หละก็
เซลในร่างกายของคุณก็จะสามารถได้ยินเสียงของกองเชียร์ที่ลำเอียงพวกนี้ได้เลยทีเดียว
นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงรักพวกคุณมากเหลือเกิน

Kryon

……………………..

 

2.ทางเลือกเสรีบนดาวเคราะห์โลก (Free will on earth)

ที่มา:
Q&A-7-15.html


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

ครายออนที่รัก ฉันอยู่ในอัมสเตอร์ดัม
คุณจะช่วยอธิบายเรื่องทางเลือกเสรี และดาวเคราะห์ดวงอื่นๆได้ไหม๊?
เพราะฉันอยากจะรู้เหลือกเกิน

คำตอบ:

ที่รักทั้งหลาย ก็อย่างที่ฉันเคยบอกพวกคุณไปแล้วตั้งมากมาย
และก็กำลังจะบอกอยู่นี่อีกว่า ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณมีความพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร
แต่ว่าพวกคุณหลายคนก็อาจจะยังคงไม่เข้าใจอยู่จริงๆ

จักรวาลแห่งนี้คับคั่งไปด้วยสิ่งมีชีวิต
และดาวเคราะห์โลกของพวกคุณก็เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์
ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา และมีอารยธรรม และมีพลังงานชีวิตอาศัยอยู่

แต่อย่างไรก็ตาม ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
ถูกออกแบบมาให้เป็นสถานที่ๆใช้ในการตัดสินใจเรื่องอะไรบางอย่างที่มีความสำคัญ
ซึ่งปริศนาดังกล่าวนี้ก็เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
จนกระทั่งว่าตอนที่พวกคุณไม่ได้อยู่ที่นี่พวกคุณเรียกมันว่า
“คำถามสำคัญ” (the big question) ด้วยซ้ำไป

ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง จะมีคำตอบของคำถามที่ว่าทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่กันอยู่
และมีคำตอบที่เกี่ยวกับว่าทั้งหมดนี้มันคืออะไรอยู่ แต่ว่าความเป็นทวิภาวะของพวกคุณที่อยู่ที่นี่
จะไม่ยินยอมให้พวกคุณมองเห็นคำตอบเหล่านี้ได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยให้ความไม่ลำเอียง
หรือความยุติธรรมที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่ที่นี่ ไม่มีวันถูกประณีประนอม

“คำถามสำคัญ” หรือ the big question ดังกล่าวนี้
ในระดับเซลแล้วพวกคุณทุกๆคนรู้จักมันดี และทุกๆครั้งที่พวกคุณตายจากชีวิตนี้ไป
คำถามแรกที่พวกคุณมักจะถามกันก็คือ “ตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

แผนการดังกล่าวนี้ จำเป็นจะต้องให้ดาวเคราะห์โลกมีความพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร ในด้านพลังงาน
และในด้านมนุษย์ที่จะอาศัยอยู่บนโลก เพราะว่ามนุษย์ทุกๆคนจะต้องเหมือนกันทั้งหมด
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือครายออนเล่มที่ 8 ..ที่ว่ามนุษย์โลก
จะมีวิวัฒนาการสวนทางกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ
เพราะว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆพอวิวัฒน์นานไปๆแล้ว ก็จะแตกสายพันธุ์ออกไปมากมาย
แต่มนุษย์โลกกลับมีอยู่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น)

และนอกจากนี้ แผนการดังกล่าวนี้ ยังจำเป็นจะต้องให้สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า
“จิตวิญญาณ” (soul) ของมนุษย์นั้น มาจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
ที่พวกคุณเรียกกันว่า “พระเจ้า” (God) เพียงครอบครัวเดียวเท่านั้นด้วย..
แล้วมันก็เป็นไปตามนั้น

และความพยายามใดๆของบุคคลภายนอกที่จะมารบกวนแผนการนี้
ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นด้วย แต่ว่าก็ยังมีหลายกลุ่มที่เคยพยายามทำแล้ว

มิหนำซ้ำ..พวกคุณยังถูกซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีในกาแล็กซี่ของตัวเองอีกด้วย
ซึ่งซักวันหนึ่งถ้าพวกคุณสามารถค้นพบโลกของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาโลกอื่นๆเข้าจริงๆหละก็
พวกคุณก็จะได้รู้ว่า โลกของพวกเขาส่วนใหญ่แล้วจะมีดวงอาทิตย์อยู่ 2 ดวงด้วยกันทั้งสิ้น
เพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์เหล่านั้นสามารถวิวัฒน์ไปได้ตามแบบที่พวกเขาควรจะเป็น

พัฒนาการของพวกคุณถูกผลักและดันด้วยวิธีการต่างๆมากมาย
เพื่อให้พวกคุณวิวัฒน์ไปจนถึงจุดที่วางเอาไว้ และด้วยความตั้งใจ
พวกคุณจึงมีดวงอาทิตย์เหลืออยู่แค่ดวงเดียวเท่านั้น
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหนังสือครายออนเล่มที่ 9 เกี่ยวกับเรื่องวิวัฒนาการของโลก
ทั้งทางด้านกายภาพและทางด้านจิตวิญญาณ)

ซึ่งนี่ก็หมายความว่า โอกาสที่จะมีใครมามองหาพวกคุณในระบบสุริยะขนาดเล็กแบบนี้
และตรงขอบของกาแล็กซี่แบบนี้ด้วยแล้ว ก็จะมีน้อยลงแล้ว
เพราะว่ามันเป็นตำแหน่งที่ไม่สะดุดตาเอาเสียเลย

ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณมีความพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใครอย่างสมบูรณ์แบบ
เพราะแม้ว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆจะมี “ทางเลือก” ด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ว่าดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ คือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวเท่านั้น
ที่มี “ทางเลือกเสรี” (free choice) ที่จะมีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ
จนไปถึงขั้นที่จะสามารถกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ
เพราะว่ามันคือทางเลือกเสรีที่ว่า..พวกคุณจะนำพาโลกทั้งโลกไปสู่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นก็ได้
หรือว่าจะนำพาไปสู่การทำลายล้างก็ได้

ส่วนโลกอื่นๆนั้น ไม่มีโลกไหนเลยที่จะมีอิสระในการคิดหรือกระทำ
หรือพันธะสัญญา หรือเป้าประสงค์อย่างเช่นพวกคุณ
ดังนั้น ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ จึงเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี
ที่จะเลือกว่า จะสั่นสะเทือนด้วยระดับความสั่นสะเทือนสูงหรือต่ำแค่ไหนก็ได้!

ดังนั้น คำว่า “ดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี” นี้
จึงมีความหมายมากกว่าที่พวกคุณคิดมากมายนัก
ซึ่งสักวันหนึ่งพวกคุณก็จะเข้าใจเองหละว่าดาวเคราะห์โลกมีความพิเศษเฉพาะไม่เหมือนใคร
เพราะว่ามันเป็นเพียงสถานที่เดียวที่มีพระเจ้าอาศัยอยู่ในร่างกายเนื้อทางชีวภาพที่เรียกว่า “มนุษย์” นี้

Kryon

………………….

 

3.ดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี

ที่มา:
kryon-Q&A.html - 4-28


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

ครายออนที่รัก ฉันขอขอบคุณหนังสือที่ยอดเยี่ยมของคุณ
และขอขอบคุณในความรักของคุณ คุณบอกว่าดาวเคราะห์โลกคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียว
ที่มีสิ่งมีชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าอยู่ ตรงนี้คุณหมายความว่าอย่างไร?
แล้วในดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ มีสิ่งมีชีวิตที่กำลังวิวัฒน์อย่างเช่นพวกเราอาศัยอยู่ไหม๊
ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดเหมือนกันกับพวกเราหนะ?

คำตอบ:

ที่รัก..ดาวเคราะห์โลกคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวในจักรวาลแห่งนี้
ที่อยู่ในแผนการอันศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า
ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีดาวเคราะห์ดวงใดที่เป็นเหมือนกับดาวเคราะห์โลกของพวกคุณหรอกนะ
เพราะว่าทุกๆครั้งที่มีการทดสอบเช่นนี้เกิดขึ้น รายละเอียดทั้งหมดของการทดสอบก็จะเหมือนๆกันนี่แหละ

แต่ตรงนี้คือข้อมูลใหม่นะ..จักรวาลของพวกคุณ
ก็เคยเกิดขึ้นมาจากพลังงานของการทดสอบแบบนี้แหละ
เช่นเดียวกับที่พวกคุณกำลังทำการทดสอบกันอยู่
เพื่อสร้างจักรวาลใหม่ขึ้นมาอีกอันหนึ่งอยู่นี่แหละ

(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่คำถามข้างบนนี้)

Kryon

…………………………

 

4.ดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี (ต่อ)

ที่มา:
kryon-Q&A 3rd Quarter2004


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

ครายออนที่รัก ฉันลองอ่านทบทวนข้อความของคุณ
ที่เกี่ยวกับเรื่อง spiritual winter แล้ว ซึ่งในนั้นคุณได้บอกอีกครั้งหนึ่งว่า
ดาวเคราะห์โลกคือดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีเพียงดวงเดียว
และเป็นดาวเคราะห์ที่สามารถเปลี่ยนมิติของตัวเองได้ด้วย

ซึ่งถ้ามนุษย์โลกสามารถเข้าใจแนวคิดเรื่องอิสระภาพนี้ได้หละก็
ฉันรู้ว่ามันจะต้องเป็นข้อมูลที่ศักดิ์สิทธิ์แน่ๆเลย
และก็จะสามารถช่วยพระเจ้าได้อีกด้วย

แม้ในฐานะมนุษย์โลก พวกเราก็ยังอยากจะให้ชาวโลกทุกๆคน
มีอิสระภาพเหมือนๆกันหมดเลย แล้วทำไมอิสระภาพในการเปลี่ยนศักยภาพที่ว่านี้
ถึงไม่ขยายไปสู่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆด้วยหละ?


คำตอบ:

ในบางระดับ..ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆก็มีอิสระภาพอยู่ด้วยเหมือนกันนะ
แต่พวกคุณรู้ไหมว่า สิ่งที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่ที่นี่
จะไปส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์ดวงอื่นๆทั้งหมดด้วย
ซึ่งก็รวมถึงดาวเคราะห์ที่ยังไม่เกิดด้วยนะ

ดังนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่มี “ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”
มาเป็นองค์ประกอบที่ทำให้สมบูรณ์แบบอย่างพวกคุณก็ตาม
แต่สิ่งที่พวกคุณทำกันอยู่ที่นี่ จะไปเปลี่ยนแปลงระดับความตระหนักรู้ของพวกเขาด้วย

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณก็คือตัวกระตุ้นของอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่มากๆ
จนพวกคุณเองก็ไม่อาจเข้าใจได้เลยทีเดียวหละ
มันเป็นการทดสอบที่อยู่ในแผนการมานานมากแล้ว
และมันก็จะไปเปลี่ยนแปลงศักยภาพของดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทั้งหมดในท้ายที่สุดด้วย
แต่ว่าพวกคุณก็คือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีหน้าที่รับผิดชอบทำสิ่งนี้
ในฐานะที่พวกคุณเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งเทพ-ครึ่งมนุษย์
ดังนั้นพวกคุณจึงมีชีวิตอยู่เพื่อทำสิ่งนี้

(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในคำถามที่ 19 ใน section นี้)

ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆก็มีอิสระภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองด้วยเหมือนกัน
โดยอาศัยผลการตัดสินใจของพวกเขาเอง แต่มีเพียงพวกคุณเท่านั้น
ที่มีอิสระภาพในการเป็นคุรุได้ในขณะที่ยังอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงระดับความสั่นสะเทือนของตัวพวกคุณเอง
ซึ่งด้วยวิธีการนี้มันก็จะไปเปลี่ยนแปลงแผ่นผืนของกาลเวลาของคนอื่นๆทั้งหมดด้วย

แต่อย่าไปมองหาข้อพิสูจน์สำหรับเรื่องนี้เลยนะ
เพราะว่าพวกคุณจะไม่มีวันหาเจอหรอก
เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายสำหรับพวกคุณ
แต่เมื่อใดที่พวกคุณไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
มันก็จะกลายไปเป็นประเด็นหลักในการตั้งคำถามเกี่ยวกับพลังงานของพวกคุณ

Kryon

…………………………

 

5.ทุกชีวิตล้วนคือส่วนหนึ่งของพระเจ้าใช่หรือไม่?

ที่มา:kryon-Q&A 3rd Quarter2004


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

จากข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ว่า
“แล้วพระเจ้าก็สร้างมนุษย์ขึ้นมาตามภาพลักษณ์ของพระองค์” นั้น
ครายออนพยายามอธิบายความหมายของข้อความนี้
จนเป็นการยกระดับมนุษย์ขึ้นให้กลายไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับพระเจ้า
และ/หรือ จนแบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆใช่หรือเปล่า?

บางทีฉันอาจจะกำลังจับผิดเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่ก็ได้ แต่ว่าเรื่องนี้มันกวนใจฉันอยู่จริงๆ
เพราะว่าตอนที่ฉันเป็นเด็กนั้น ฉันเคยเข้าใจว่าทุกๆชีวิตล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าทั้งสิ้น

คำตอบ:

อย่ารู้สึกเป็นกังวลไปเลย..อีกครั้งหนึ่ง..พระเจ้าสามารถสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้
และสามารถทำให้มันกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของผลงานสร้างสรรค์ของพระเจ้า” ( a creation of God) ก็ได้
โดยที่ไม่ต้องทำให้มันกลายเป็น “ส่วนหนึ่งของความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”
( a part of the divinity of God) ก็ได้

มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า
(Humans were created in the "image of God")
ซึ่งภาพลักษณ์ที่ว่านี้ ก็อยู่ใน DNA ของมนุษย์นั่นเอง
และพระเจ้าก็พูดว่ามนุษย์คือรูปธรรมชีวิตที่เป็นนิรันดร์
และก็เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าเองในฐานะของพระผู้สร้างอีกด้วย
และใช่แล้ว มนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆทั้งหมด

มนุษย์และหัวหอม ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของผลงานสร้างสรรค์ของพระเจ้าด้วยกันทั้งคู่
แต่ว่าผลงานสร้างสรรค์ชิ้นหนึ่ง คือทวยเทพที่สามารถเปลี่ยนแปลงสสารได้
โดยใช้กระแสความคิดของตัวเอง

ส่วนผลงานสร้างสรรค์อีกชิ้นหนึ่งเป็นแค่อาหารให้กับมนุษย์เทพเหล่านี้เท่านั้นเอง
แต่ทั้ง 2 ชิ้นก็เป็นผลงานสร้างสรรค์ของพระเจ้าด้วยกันทั้งคู่
เพียงแต่ว่าชิ้นหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างเองเลยจริงๆเท่านั้นเอง

ส่วนหัวหอมนั้น จะไม่มีการกลับมาเกิดใหม่
แต่พวกมันก็ยังคงเป็นผลงานสร้างสรรค์ของพระเจ้าอยู่
ซึ่งในอาณาจักรแห่งการสรรสร้างนั้น
พวกมันทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งทั้งปวงเพื่อก่อให้เกิดความสมดุลขึ้นมาในระบบ

Kryon

………………….

 

6.ทุกชีวิตล้วนคือส่วนหนึ่งของพระเจ้าใช่หรือไม่? (ต่อ)

ที่มา:
kryon-Q&A 3rd Quarter2004


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถามที่-1:

ครายออนที่รัก คุณเคยบอกว่าในขณะที่พวกเราอยู่ที่นี่ พวกเราคือสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพ
ที่มีชิ้นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าเป็นองค์ประกอบที่ทำให้สมบูรณ์แบบอยู่ภายใน
แต่สำหรับโลกอื่นๆแล้วพวกเขาไม่ได้มีองค์ประกอบเหมือนกับพวกเรา
ดังนั้น ฉันก็เลยเดาว่า คำถามของฉันก็น่าจะเป็นว่า ถ้างั้น..จริงๆแล้วพวกเราเป็นใครกันแน่?

เพราะว่าถ้าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในโลกบางโลก เป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตทางกายภาพเท่านั้น
แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีสิ่งที่เรียกว่า “ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า” อยู่ด้วย
แต่ว่าทั้ง 2 อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาประกอบเข้าด้วยกัน เหมือนอย่างที่มันเป็นอยู่ที่นี่เสมอไป
ดังนั้น คำถามของฉันคือ..ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นหละ? และตอนที่พวกเราไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเราเป็นอะไรกันแน่?

แล้วบ้านของพวกเราอยู่ที่ไหน? เพราะว่าคุณเคยบอกว่าพวกเราจะเป็นที่รู้จัก
โดยสีสันของพวกเราเอง ในฐานะที่พวกเราคือผู้ที่อาสาลงมามีส่วนร่วมในประสบการณ์อันนี้
แต่ว่าพวกเราจะถูกรู้จักหรือจดจำได้โดยใคร? และที่นั่นหนะคือที่ไหน?

ฉันเคยอ่านเจอในเรื่อง “Pearl of Great Price” ว่า พระเจ้าบอกกับโมเสสว่า
“จงดูให้ดี นี่คืองานของเราและนี่คือเกียรติของเรา ที่จะนำความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์มาสู่มนุษย์”
ฉันสงสัยว่าตรงนี้มันหมายความว่างานของพวกเราที่อยู่ที่นี่
ก็คือการนำพาความตระหนักรู้ที่ว่าพวกเราคือผู้ที่เป็นอมตะและมีชีวิตนิรันดร์ และคือพระเจ้าใช่ไหม๊?

และฉันก็สงสัยอีกว่า ทำไมมันจะต้องมีโลกบางโลกที่ไม่มี
“ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า” อยู่ด้วยหละ?
เพราะว่ามันมีแต่สิ่งมีชีวิตทางกายภาพอยู่เท่านั้น
ตรงนี้มันหมายความว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกที่ว่านั้น มีวิวัฒนาการต่ำกว่ามนุษย์โลกใช่ไหม๊?
แล้วทำไมมันถึงจะต้องมีโลกที่มนุษย์ไม่ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ
และเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างของพวกเขาหละ?

ฉันรู้ว่าฉันถามคำถามมากมาย แต่ฉันก็ถามแบบนี้มาหลายปีแล้ว!

คำถามที่-2:

ฉันไม่เข้าใจที่คุณอธิบายว่ามนุษย์คือส่วนหนึ่งของพระเจ้า
แต่มันก็ยังมีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆอยู่อีกในจักรวาลแห่งนี้ ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าด้วย
เพราะว่าฉันรู้สึกว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าไม่ใช่หรือ?

คำตอบ:

อันดับแรก เราจะมาทบทวนกันว่าทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่กัน
และมันมีความหมายอะไรต่อจักรวาลบ้าง
(ดูคำตอบใน Kryon Q&A reference 1 และ Kryon Q&A reference 2)
เพราะว่าคำถามนี้เคยตอบไปหลายครั้งแล้ว และพวกเราจะไม่ตอบซ้ำอีกแล้ว

พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ
และพวกคุณก็คือส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างของพวกคุณเองด้วย
เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณสามารถวางความคิดที่ว่า
พระเจ้าอยู่ที่ไหนซักแห่งบนท้องฟ้าได้แล้วหละก็
และก็สามารถเข้าใจได้ว่าพวกคุณมาอยู่ที่นี่
ในฐานะที่เป็นชิ้นส่วนหนึ่งของพระเจ้า ที่กำลังมีชีวิตอยู่
และกำลังมาทำหน้าที่ของตัวเองอยู่หละก็
พวกคุณก็จะไม่มาติดแหง็กอยู่กับคำถามที่ว่า “ทำไมๆๆ”
อย่างที่พวกคุณกำลังเป็นกันอยู่ในตอนนี้หรอก

อันที่จริงแล้ว พวกคุณไม่ได้มีปัญหากับความจริงที่ว่า
บนโลกใบนี้มันมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีเป้าหมายทางจิตวิญญาณอยู่ด้วยหรอกนะ
เพราะว่าพวกคุณคือรูปธรรมชีวิตทางชีวภาพ
ที่มีความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าอยู่ภายใน DNA ของพวกคุณเอง
แต่พวกคุณก็กำลังได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพชนิดอื่นๆอยู่ด้วย
(ที่ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าอยู่ – ผู้แปล)
พวกมันกำลังสนับสนุนและค้ำจุนพวกคุณอยู่
และพวกมันก็มีชีวิตอยู่เพื่อทำให้ไกอาอยู่ในความสมดุลเท่านั้นเอง

พวกคุณรู้สึกเครียดที่ผึ้งและกระต่ายไม่มีคุณสมบัติเหมือนกับพวกคุณหรือเปล่าหละ?
พวกมันอยู่ที่นี่เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของ “ระบบของโลกใบนี้”
และพวกมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาด้วย พวกมันมีชีวิต
และพวกมันก็มีความสำคัญในระบบด้วย
แต่ว่าพวกมันไม่ใช่ชิ้นส่วนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าที่ลงมาเกิด
เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือจักรวาลเหมือนกับพวกคุณเท่านั้นเอง
เพราะว่าพวกมันแค่ลงมาเกิดเพื่อมาเป็น “ระบบสนับสนุน” ให้กับพวกคุณเท่านั้นเอง

ในจักรวาลเองก็ไม่ต่างไปจากโลกเลย คือมันจะมีดาวเคราะห์อยู่มากมาย
ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่ แต่พวกเขาแค่ดำรงชีวิตอยู่
เพื่อทำให้เกิดความสมดุลขึ้นในระบบของจักรวาลเท่านั้น
พวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์อย่างที่พวกคุณกำลังเป็นกัน
เพราะว่าพวกเขาไม่มีพิมพ์เขียวศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเหมือนกับพวกคุณ
และพวกเขาก็ไม่มีการกลับมาเกิดใหม่อีกด้วย แต่พวกเขาก็มีชีวิตนะ
และพวกเขาก็ได้รับเกียรติด้วย เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่เหมือนพวกคุณเท่านั้นเอง

ดาวเคราะห์โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงเดียวเท่านั้น
ที่มีสิ่งมีชีวิตอย่างพวกคุณอาศัยอยู่
ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณคือสถานที่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ที่สามารถเลือกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองได้ในฐานะดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง
และก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงกรอบกาลเวลาของตัวเองได้ด้วย ถ้าพวกคุณต้องการ

พวกคุณคือสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่สามารถบรรลุความเป็นคุรุทางจิตวิญญาณได้
ถ้าพวกคุณต้องการ พวกคุณคือสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียว
ที่สามารถคิดกระแสความคิด ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสสารได้
หรือสามารถกำจัดโรคภับไข้เจ็บที่อยู่ภายในเซลของร่างกายของตัวเองได้
โดยผ่านทางกระบวนการภายในของ DNA ของพวกคุณเอง

พวกคือคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีทางเลือกเสรี
แต่ว่าทางเลือกเสรีที่พวกคุณเลือกนี้จะไปส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์ดวงอื่นๆทั้งหมดด้วย!
พวกคุณคือดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มนุษยชาติ
เกิดมาพร้อมกับมีความเชื่อในเรื่องชาติหลังความตาย
และคือผู้ที่ในยีนมีรหัสสำหรับการค้นหาพระเจ้าอยู่

ลองพิจารณาดูแบบนี้สิว่า ถ้าเปรียบดาวเคราะห์ทุกๆดวงว่า
เป็นยานพาหนะลำเดียวกันทั้งหมด แล้วพวกคุณคือพวงมาลัย
แล้วทีนี้..พวกคุณจะบ่นไหมหละว่าทำไมดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
ถึงไม่เป็นพวกมาลัยเหมือนกันด้วย?
ไม่เลย..เพราะว่าทุกๆส่วนของระบบต่างก็จะมีเป้าประสงค์ของมันเองอยู่

ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆอยู่ห่างไกลจากพวกคุณมาก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกคุณเลย
เพราะว่าพวกคุณถูกซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี
เพราะว่าพวกคุณมีดวงอาทิตย์อยู่เพียงดวงเดียว
(ในขณะที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆส่วนใหญ่จะมีดวงอาทิตย์อยู่ 2 ดวง
เพราะว่ามันจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของชีวิตในระบบได้เร็วกว่า)
ดวงอาทิตย์อีกดวงหนึ่งของพวกคุณได้หายไปนานแล้ว

มนุษย์ต่างดาวผู้ที่สามารถมาเยี่อนพวกคุณได้
ก็มาด้วยความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมาก
เพราะว่าพวกเขาสามารถอ่านความคิดของพวกคุณได้
และพวกเขาก็กลัวว่าพวกคุณจะใช้พลังจิตเผาพวกเขาด้วย!
แต่ว่าเรื่องตลกก็คือว่า พวกคุณกลับไปหวาดกลัวพวกเขาแทน
และก็ไม่เคยรู้ในพลังอำนาจของตัวเองเลย!

พวกเขาจับพวกคุณบางคนไปตรวจสอบเพื่อค้นหาคำตอบว่า
“ทำไมพวกคุณถึงได้มีพลังอำนาจชนิดนี้ได้!”
แต่หลังจากค้นหาคำตอบอยู่นานกว่า 100 ปี พวกเขาก็ล้มเลิกไป

ในระบบหลากมิติ พวกคุณมีความแตกต่างจากพวกเขามาก
แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถมองเห็นส่วนนั้นของพวกคุณได้
แต่พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในพลังอำนาจของพวกคุณมาก
ซึ่งเป็นพลังอำนาจที่พวกเราพยายามที่จะบอกพวกคุณมาโดยตลอด
แต่พวกคุณกลับปฏิเสธพลังอำนาจอันนั้นเสียนี่ แม้แต่จะถามหามันก็ยังไม่เคย

พระเจ้าได้พูดกับโมเสสว่า “จงดูให้ดี นี่คืองานของเราและนี่คือเกียรติของเรา
ที่จะนำพาความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์มาสู่มนุษย์”
แล้วพระเจ้าคือใครหละ? พระเจ้าก็คือพวกคุณนี่เอง
เพราะฉะนั้นแล้ว ภาระกิจของพวกคุณก็คือการค้นหาความเป็นคุรุภายในตัวเองให้เจอ
จนถึงระดับที่ว่าพวกคุณสามารถผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับความศักดิ์สิทธิ์ภายในตัวเองได้แล้วโน่นแหละ
นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเราเรียกมันว่า “การเลื่อนระดับขึ้น” (ascension) หละ

แล้วบ้านของพวกคุณหละอยู่ที่ไหน? มันไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดกันหรอกนะ
พวกคุณคิดว่าพวกคุณมาที่เพื่อมาทำงานกันใช่ไหม๊
แล้วซักวันหนึ่งเมื่องานเสร็จแล้ว พวกคุณก็จะได้พักผ่อนกันใช่ไหม๊?
นั่นเพราะว่าพวกคุณไม่เข้าใจหนะสิ ว่าก่อนหน้านี้พวกคุณเคยยืนเรียงแถวเพื่อต่อคิวกันลงมาเกิดที่นี่!

และในตอนที่พวกคุณไม่ได้อยู่ที่นี่นั้น
พวกคุณก็ไม่ได้อยู่ใน “สถานที่” ไหนเลยซักแห่งเดียว
เพราะว่าพวกคุณจะอยู่ใน “สภาวะ” อย่างใดอย่างหนึ่งแทน
(เพราะว่าพวกเราอยู่เหนือช่องว่างและกาลเวลา – ผู้แปล)
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความเป็นหลากมิติ
ซึ่งมันยากที่จะอธิบายให้ใครก็ตามที่กำลังอ่านอยู่เข้าใจได้

“ความรัก” มันไปอยู่ที่ไหนหละเวลาที่มันไม่ได้ถูกใช้งาน?
มันไปอยู่ในตู้เก็บความรักใช่ไหม๊? มันไม่มีแมชั่นอยู่บนท้องฟ้าหรอกนะ
และมันก็ไม่มี 72 Virgin หรือ “สถานที่” แห่งความสงบสุขอยู่อีกด้วย
เพราะว่าพวกคุณคือ “ความสงบสุข” ซะเอง! พวกคุณคือความรัก!

พวกคุณคือชิ้นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า ที่กำลังมาเดินอยู่ในบทเรียนบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
พวกคุณคือผู้ที่ตัดสินใจที่จะมาอยู่ที่นี่เอง
และพวกคุณก็คือผู้ที่กำลังขับเคี่ยวกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวาลอยู่

สีสันต่างๆนั้น คือ “เครื่องหมายแสดงประสบการณ์” ที่พวกคุณมีอยู่
ซึ่งภายในสภาวะหลากมิตินั้น ทุกๆรูปธรรมชีวิต
จะสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณกำลังเป็นอยู่
และที่เคยเป็นมาแล้วได้ รวมถึงสามารถมองเห็นจักรวาลที่เป็นจุดเริ่มต้นของพวกคุณได้
และมองเห็นกลุ่มรูปธรรมชีวิตที่พวกคุณสังกัดอยู่ได้...
ทั้งหมดนี้มันจะเหมือนกับเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง
เพียงแต่ว่าจะสามารถมองเห็นมันได้ในทันทีทันใดเท่านั้นเอง

นี่แหละคือสิ่งที่พวกเราหมายถึงหละ เพราะว่าความจริงก็คือว่า
ทุกๆรูปธรรมชีวิตจะรู้จักพวกคุณหมดโดยดูจากสีสันของพวกคุณ
และเมื่อใดที่พวกคุณไม่ได้อยู่บนระนาบแห่งโลกใบนี้แล้ว
พวกคุณก็จะยุ่งอยู่กับการชี้นำทางให้กับผู้ที่ยังคงอยู่ในระนาบแห่งโลกใบนี้ต่อไป

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกคุณทำเช่นนี้ด้วย
เพราะว่าพวกคุณคือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ที่ทำภาระกิจนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ให้กับจักรวาลในอดีต และให้กับจักรวาลอื่นๆที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในอนาคตด้วย
(พูดแบบกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง)

เพราะฉะนั้นแล้ว จงอยู่อย่างสงบ และรู้เอาไว้ว่าพวกคุณคือพระเจ้า
จากนั้น คำถามทั้งหมดนี้ก็จะจมหายไปเอง แล้วคำถามใหม่ๆก็จะผุดขึ้นมาแทนที่..ว่า:

1).ฉันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อค้นหาความเป็นพระเจ้าในตัวฉันเองให้เจอ?
2).ฉันจะสามารถสร้างสันติภาพบนโลกขึ้นมาได้อย่างไร โดยอาศัยความเป็นพระเจ้าของฉันเอง?
3).ฉันจะสามารถมีอายุขัยที่ยืนยาวกว่านี้ได้อย่างไร
เพื่อที่ฉันจะได้คงอยู่ในสภาวะปัจจุบันของตัวเองต่อไป
เพื่อจะทำประโยชน์ให้ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ให้มากกว่านี้ ในช่วงเวลาที่วิกฤติเช่นนี้?
4).ฉันควรจะรู้อะไรอีกบ้าง ที่จะช่วยยกระดับความเป็นพระเจ้าในตัวของฉันเองให้สูงขึ้นได้
และที่จะช่วยให้ฉันสามารถแผ่ขยายแสงสว่างออกไปสู่สถานที่ที่มืดมิด
ที่กำลังต้องการแสงสว่างอย่างมากอยู่ได้?
5).จิตใจเจ้าปัญญาของฉัน จะสามารถมีความสงบได้อย่างไร
บนความจริงที่ว่าฉันเป็นแบบเส้นตรง แต่สามารถรับคำตอบแบบไม่เป็นเส้นตรงได้?

Kryon

…………………

 

7.จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราทำภาระกิจบนโลกเสร็จแล้ว?

ที่มา:
kryon-Q&A 2nd Quarter2004


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

คำถาม:

ครายออนที่รัก มันจะมีซักวันไหม๊ ที่งานของพวกเรา
ซึ่งเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของพระเจ้าที่กำลังอยู่บนโลก จะเสร็จสิ้นลง
แล้วพวกเราก็จะได้จากโลกนี้ไป และทิ้งมันไว้ให้อยู่กับสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพทั้งหลายต่อไป?

คำตอบ:

พวกคุณก็คือสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพด้วยเหมือนกันนะ
เพียงแต่ว่าพวกคุณมีส่วนประกอบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้ามาเติมเต็มด้วยเท่านั้นเอง
ซึ่งนี่แหละที่ทำให้พวกคุณแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพชนิดอื่นๆ
ที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้ ที่ไม่มีเหมือนพวกคุณ อย่างที่พวกเราเคยบอกพวกคุณไปแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้

มันหมายความว่าพวกคุณเป็นสายพันธุ์ลูกผสม
ระหว่างส่วนที่เป็นชีวภาพกับส่วนที่เป็นทวยเทพ
แต่ส่วนที่เป็นทวยเทพของพวกคุณนั้น
ซุกซ่อนอยู่ภายในความเป็นทวิภาวะนี้
และนี่แหละคือบททดสอบเกี่ยวกับพลังงานบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ที่กำลังดำเนินไปอยู่ในตอนนี้หละ

คำตอบของคำถามของคุณก็คือ: ใช่แล้ว..มันจะต้องมีซักวันหนึ่งหละ
ที่งานของพวกคุณบนโลกใบนี้จะเสร็จสิ้นลง แต่ว่าเมื่อถึงวันนั้นแล้ว
ดาวเคราะห์โลกก็จะเสร็จสิ้นภาระกิจของมันไปด้วย
ซึ่งหลังจากนั้นมันก็จะกลับไปเป็นดาวเคราะห์ที่สะอาด
และบริสุทธิ์ของมันเหมือนเดิม และสิ่งมีชีวิตก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

แต่อย่าเพิ่งกังวลไปเลย เพราะว่ากว่าจะถึงวันนั้นมันยังอีกนานนัก
และด้วยความเหมาะสมทั้งปวง มันก็จะเป็นอะไรที่พวกคุณ
ควรจะต้องเฉลิมฉลองกันหละ นี่ไม่ใช่คำทำนายอนาคตนะ
แต่มันคือแผนงานที่พวกคุณได้วางกันเอาไว้ให้กับดาวเคราะห์ที่สวยสดงดงามดวงนี้แล้ว

Kryon
………………

 

้ความสมดุลสร้างทุกสรรพสิ่ง ติดแต่ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังความสมดุลนี้ (มีเกิดมีดับ) เกิดมาเพื่อสร้างหรือทำลาย จุดประสงค์ให้มาเกิด คงจะมาเพื่อปรับหรือสร้างสมดุล อะไรบางอย่าง แต่ในระหว่างการปรับหรือสร้างก็จะมีผู้ได้กับผู้เสีย ซึ่งไม่รู้ว่า จะเป็นเวรกรรมเกี่ยวข้องกันบ้างไหม หรือ เป็นจุดประสงค์ของความสมดุล ที่สัตว์ชนิดนึงต้องกินอีกชนิดนึง เพื่อความสมดุล หรือ เพียงเพื่อตัวเอง

 

สิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็คือสิ่งที่ขาดสมดุล ที่เกิดบังเกิดขึ้นบนสิ่งที่มีสมดุล จึงต้องพยายามหาสมดุลให้กับตัวเอง โดยการหายใจ กินอาหาร เพื่อรักษาความเป็นสมดุล ถ้ามองให้ใหญ่กว่านี้ ก็อาจเหมือนหลุมดำ ที่กลืนกินสิ่งต่างๆ เป้าหมายก็คงเพื่อรักษาสมดุลให้กับตัวมันเอง หรือ อะไรบางอย่าง แต่จำเป็นต้องทำลายบางอย่างด้วย ส่วนสิ่งไม่มีชีวิตนั้นมีสมดุลในตัวเองจึงไม่จำเป็นต้อง หายใจ หรือ กินอาหาร เพื่อรักษาสมดุล แต่มันก็จะเสียสมดุลเมื่อสิ่งที่ขาดสมดุลนำมันมารวมกัน ในทางกายภาพ
ก็เหมือนคำที่คุณ Nakamura บอกนะแหละ "สิ่งใดพร่อง สิ่งนั้นย่อมดัง สิ่งใดเต็มสิ่งนั้นสงบ" ถ้ามองในทางโลก สิ่งที่สงบจะไม่สงบโดยสิ่งที่พร่องเหล่านี้ ถ้ามองในทางธรรมสิ่งที่สงบก็สงบในตัวมันเองอยู่แล้ว ฉะนั้นผมคิดว่า ทั้งสิ่งที่พร่องและสิ่งที่สงบมีความสำคัญทั้งสองอย่าง เพื่อรักษาสมดุลนั่นเอง ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งนึงไปอีกสิ่งจะไม่มี