ขายตัวหัว40ล้านเสนาะแฉเอง

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย เพพัง, 19 ตุลาคม 2007.

  1. เพพัง

    เพพัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +8,250
    ขายตัวหัว40ล้าน'เสนาะ'แฉเอง

    ขายตัวหัว40ล้าน'เสนาะ'แฉเองสุดอนาถใจชี้อนาคตชาติมืดมนแตกยับ

    19 ตุลาคม 2550 กองบรรณาธิการ
    โสเภณีนักการเมือง "เสนาะ" อนาถพฤติกรรมวิ่งเต้นขายตัว พรรคไหนให้ราคาดีก็แจ้นไปพรรคนั้น แฉมีการประมูลให้ค่าตัวถึงหัวละ 40 ล้าน "เพื่อแผ่นดิน" เปิดตัวคึกคัก "ริมน้ำ-พัลลภ"

    <DD>กระโดดเข้าคอก "สุรเกียรติ์" เพ้อชู "สุวิทย์" ขึ้นนายกฯ พปช.ขึ้นเหนือเดินหน้าขายภาพ "เหลี่ยม" หาเสียง ถล่มมาร์คมาตรา 7 สมคบเผด็จการเล่นงาน ทรท. ด้าน "แอ้ด" มั่นใจ "บัง" ไม่นอกกรอบ "กกต." คาดแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จก่อน 25 ตุลา.
    <DD>นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ถึงสถานการณ์การเมืองก่อนการเลือกตั้งว่า เป็นการเมืองที่ไม่เคยพบเคยเจอ น่าอนาถใจที่สุด เป็นการเมืองที่สิ้นหวังที่จะใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนฟื้นฟูประเทศชาติในภาวะวิกฤติของประเทศ โดยเฉพาะการที่นักการเมืองวิ่งขายตัว ขึ้นค่าตัวกัน จากเดิมคนละ 30-35 ล้านบาท
    <DD>"ตอนนี้ราคาถึง 40 ล้านบาท เช่น ตอนพรรคประชาราชเปิดตัว ก็มากันเต็ม พอพรรคมัชฌิมาธิปไตยเปิดตัวก็ไปกันเต็มที่นั่น พอรวมใจไทยชาติพัฒนาเปิดตัวก็ไปอีก และตอนนี้พรรคเพื่อแผ่นดินราคาดีก็แห่กันไปเปิดตัว เชื่อว่าในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็คงถูกดูดตัว ส.ส.ไปเช่นกัน จึงมองไม่เห็นอนาคตของประเทศเลย ไม่เคยเห็นนักการเมืองวิ่งขายตัวกันอย่างนี้ เอารายชื่อผู้แทนฯ ไปประมูลขายตัวกัน มีคนดูดผู้แทนฯ กันมา ตั้งราคาค่าหัวกัน ทำให้ผมท้อและหดหู่ใจมาก ถ้าเล่นการเมืองกันอย่างนี้อย่าหวังเลยว่าอนาคตของบ้านเมืองจะได้รับการแก้ไขจากนักการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย" นายเสนาะกล่าว
    <DD>นายเสนาะกล่าวต่อว่า ยิ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมา ระบุว่า ส.ส.ไม่จำเป็นต้องฟังมติพรรค ถ้าพอได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีอีแร้งทึ้งกันอีก เพราะได้นักการเมืองที่มาจากการซื้อขายตัว ไม่รู้จะเลือกตั้งกันไปทำไม เลือกตั้งไปตนฟันธงอนาคตมืดมน ประเทศจะแตกแยกย่อยยับ จะมีความวุ่นวายตามมามากมาย มีนายกรัฐมนตรีรักษาการดีกว่า เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก
    <DD>"เอาพวกอะไรมาก็ไม่รู้ ที่ต้องแตกแยกกันก็เพราะเงิน บางคนอยู่ดีๆ ก็หลงใหลไป จะเป็นนั่นเป็นนี่ ตอนนี้ประเทศชาติไม่เหลืออะไรให้มากอบโกย เหลือแต่ซากที่ยิ่งกว่าเอาเลือดกับปู อย่าหวังว่าจะมาดูดอะไร"
    <DD>ผู้สื่อข่าวถามถึงการแต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง จะสามารถดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมได้หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาราชตอบว่า ไม่ต้องพูดไปถึงการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เพราะแม้แต่ตัว ส.ส.ยังประมูลกัน จะให้ใครมาดูแลเรื่องการเลือกตั้งก็ไม่จบหรอก ไม่มีทาง
    <DD>หัวหน้าพรรคประชาราชยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัครของพรรคว่า ถึงตอนนี้พรรคประชาราชคงได้ ส.ส.มาบ้าง ประมาณ 3 ที่นั่ง แต่จะไม่ทุ่มงบประมาณไปประมูลตัว ส.ส.มา เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเล่นการเมืองไปเพื่ออะไร</DD><DD>วันเดียวกัน พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก และมีการเปิดตัวบุคคลที่รับตำแหน่งสำคัญภายในพรรค ซึ่งประกอบด้วย นายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานคณะที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน
    <DD>นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นอกจากนี้ยังมีนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นประธานสภานโยบายและยุทธศาสตร์พรรคอีกด้วย
    <DD>เพื่อแผ่นโวกวาด ส.ส. 70 ที่นั่ง
    <DD>นายสุวิทย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้แถลงถึงนโยบาย 9 ความสุขว่า ประกอบด้วย กินดีอยู่ดีมีความสุข, สุขภาพดี, ความรู้ดี, ครอบครัวดี, สังคมดี, สิ่งแวดล้อมดี, ราคาพืชผลดี, รู้รักสามัคคี และศักดิ์ศรีประเทศดี มีความสุข หากพรรคสามารถทำสิ่งดังกล่าวได้ จะสามารถนำความสุขมาให้กับคนไทย และนำรอยยิ้มกลับมาให้กับคนไทยทั้งได้อีกครั้ง แต่สิ่งดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับความร่วมจากทุกๆ คน ดังนั้นตนจึงขอโอกาสจากคนไทย เพื่อให้พรรคเพื่อแผ่นดินได้ทำสิ่งที่เราได้กล่าวไว้
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในครั้งนี้ นายวัฒนาได้เปิดตัวบุตรชายทั้งสองที่เตรียมจะลงสมัครในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบด้วย นายชนม์สวัสดิ์ และนายพูลผล ส่วนนายสุชาติ ได้นำนายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรชื่อดัง บุตรชาย มาเปิดตัวบนเวที โดยได้ยันยืนว่าจะให้บุตรชายของมาช่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์รณรงค์หาเสียงในครั้งนี้ด้วย
    <DD>การเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินครั้งนี้ นายสุวิทย์มั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นพรรคน่าจะได้จำนวน ส.ส. 60-70 ที่นั่ง
    <DD>นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า พรรคมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ขณะนี้มีผู้สมัครในนามพรรคที่ลงตัวแล้ว ประมาณ 150 คน และยังมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกับพรรคอีกประมาณ 300 คน ทั้งนี้ ตนยินดีที่จะสนับสนุนนโยบายและกิจกรรมต่างๆ ของพรรคอย่างเต็มที่ และจะขอชูนายสุวิทย์เป็นนายกรัฐมนตรี
    <DD>นายสุชาติ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ เปิดเผยว่า การสังกัดเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินครั้งนี้ เป็นเพราะพรรคที่จะสังกัดก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องการส่งผู้สมัครในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ไม่ลงตัว และเห็นว่าพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นพรรคแกนกลางไม่อยู่ฝ่ายใด ที่สำคัญอุดมการณ์ทางการเมืองตรงกัน คือ มีความชัดเจนต้องการแก้ปัญหาของบ้านเมือง
    <DD>นายสุชาติกล่าวต่อว่า มีอดีต ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำย้ายตามมาจากพรรคพลังประชาชนประมาณ 10 คน แต่กลุ่มภาคกลางของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ไม่ได้ย้ายตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งยังไม่มีผลบังคับใช้ การเมืองจึงยังไม่นิ่ง และยังสามารถย้ายพรรคได้อยู่ แต่ตนก็คงไม่เชิญอดีต ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ ที่ยังอยู่กับพรรคพลังประชาชน มาร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดินเพิ่มเติมแล้ว เพราะไม่ต้องการแก่งแย่งผู้สมัคร
    <DD>ส่วนนายพินิจกล่าวว่า ขณะนี้มีหลายกลุ่มจากพรรคการเมืองต่างๆ แสดงความสนใจจะเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อแผ่นดิน เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองตรงกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตจะมีการเจรจาความร่วมมือระหว่างพรรคชาติไทยและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่จะมีการรวมพรรคเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาในอนาคต เพราะการเมืองในขณะนี้ยังไม่นิ่ง
    <DD>ก่อนหน้านี้ นายพินิจให้สัมภาษณ์ว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ประมาณ 60-70 คน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกลุ่มการเมืองที่ติดต่อเพื่อขอร่วมงานกับพรรค และจะมีการนัดหมายพูดคุยกัน เช่น อดีต ส.ส.ภาคอีสานจากจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งอดีต ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน และอดีต ส.ส.ที่ยังแทงกั๊กอีกหลายคน
    <DD>"พัลลภ" ซบเพื่อแผ่นดิน
    <DD>นายพินิจเปิดเผยว่า มีโอกาสที่กลุ่มลำตะคองของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดิน และจะมีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นนายสุวัจน์ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่พรรครวมใจชาติพัฒนาจะมารวมกับพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถตอบได้
    <DD>พล.อ.พัลลภกล่าวว่า พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเคยชวนร่วมงานด้วย แต่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคเพื่อแผ่นดิน เพราะเห็นว่ามีแนวคิด อุดมการณ์ตรงกับตนเอง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงและปัญหาภาคใต้ อีกทั้งเดิมตนอยู่ในกลุ่มรักชาติ มีปัญหากัน จึงต้องรับผิดชอบต่อการเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานกับตนในกลุ่มรักชาติ ด้วยการมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินตามที่นายพินิจเชิญชวน
    <DD>พล.อ.พัลลภกล่าวต่อว่า การมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินครั้งนี้ จะไม่ทำให้เห็นภาพการเชื่อมโยงกับกลุ่มทหาร เพราะตนอยู่ในการเมืองมากว่า 10 ปีแล้ว เป็นทหารแก่คนหนึ่ง และไม่ได้เชิญทหารคนใดมาร่วม แต่ในอนาคตไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีอดีตนายทหารใหม่มาร่วมงานด้วยหรือไม่ เพราะทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง
    <DD>"ไม่มีนายทหารคนอื่นติดตามมาด้วย โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่าง พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ก็ยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่มีพลังมวลชนจำนวนมาก ไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่พร้อมสนับสนุนผมในฐานะเพื่อนตาย" พล.อ.พัลลภกล่าว
    <DD>ทางด้านนายประดิษฐ์ กล่าวถึงกรณีนายพินิจระบุว่าตนและนายสุวัจน์สนใจจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อแผ่นดิน ว่าคงต้องไปถามนายสุวัจน์ แต่เท่าที่ได้คุยกับนายสุวัจน์ ก็ยืนยันว่าไม่มี ตามที่นายพินิจพูด ทั้งนี้ การที่นักการเมืองพรรคต่างๆ พูดคุยกันนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ขณะนี้พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาชัดเจนแล้ว เพราะได้จดทะเบียนตั้งพรรคแล้ว ไม่เหมือน 2 เดือนที่ผ่านมาที่การเมืองฝุ่นตลบ
    <DD>"พรรคเพื่อแผ่นดินมีอดีตรัฐมนตรีคือนายพินิจ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ ที่ชำนาญในภาคอีสานและวิธีของตัวเอง และผมก็เชื่อในประสิทธิภาพของพวกท่าน แต่พรรคของผมก็มีวิธีและเป้าหมายที่วางไว้ และไม่ได้วางเป้าว่าจะมี ส.ส.100-150 คน เป็นพรรคขนาดเล็ก-กลาง และจะไม่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต จะส่งในพื้นที่ที่วางไว้เช่นบางจังหวัด หรือ กทม. ภาคใต้ไม่ส่ง ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล มาร่วมงานกับพรรค" นายประดิษฐ์กล่าว
    <DD>ส่วนนายสุวัจน์กล่าวว่า ไม่มีข้อเท็จจริงเลย คงเป็นข่าวปล่อย กลุ่มรวมใจไทยชาติพัฒนาทั้งหมดยังเป็นปึกแผ่นกันดีอยู่ และคงจะสมัคร ส.ส.กันในนามพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
    <DD>นายเกษมสันต์ วีระกุล รองหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เปิดเผยว่า เราได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาเพื่อเปิดตัวนโยบายของพรรค ที่ตั้งใจพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคม 4 แนวคิด ประกอบด้วย สังคมสร้างสรรค์ สังคมที่เป็นธรรม สังคมสามารถ สังคมสามัคคี เพราะว่าปัจจุบันนี้สังคมไทยตกอยู่ใน 4 กับดัก คือ สับสน เหลื่อมล้ำ แตกแยก ถดถอย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจึงอยากให้สังคมเป็นสังคมที่มีความน่ารัก สดใส ร่าเริง ปราศจากการเสแสร้ง ชิงดีชิงเด่น โดยใช้เยาวชนเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความจริงใจของพรรคในการตั้งใจที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศชาติ
    <DD>กล่อมนักธุกิจเลือก ปชป.
    <DD>มีรายงานข่าวจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเปิดเผยว่า ยอมรับว่าสมาชิกพรรคบางส่วน เช่น กลุ่มมดงาน ที่นำโดยนายมหินทร์ ตันบุญเพิ่ม และนายอัศวิน อภัยวงศ์ ลาออกจากพรรคเพื่อไปร่วมงานกับพรรคมัชฌิมาธิปไตยแล้ว โดยสาเหตุคือพรรคอาจจะไม่ส่งบุคคลเหล่านั้นลงสมัคร ส.ส.กทม. เพราะโพลล์ที่ออกมานั้นสะท้อนว่าคงจะไม่ชนะพรรคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายพิจิตต รัตตกุล และนายสมคาด สืบตระกูล ยังทำงานกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาต่อไป
    <DD>ด้านพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงาน "ก้าวใหม่เศรษฐกิจไทย" ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน โดยได้เชิญนักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 300 คน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค กล่าวถึงนโยบายว่าหากได้เป็นรัฐบาลนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ คือ 1.รัฐบาลควรเปลี่ยนจากการควบคุม เป็นผู้กำกับดูแลอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน และเร่งแก้ไขมาตรการที่เป็นอุปสรรค เช่น ยกเลิกมาตรการกันเงินทุนสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ ยุติการแก้ไขกฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว และส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
    <DD>2.ภาครัฐต้องเปลี่ยนการบริหารเศรษฐกิจแบบเดิม โดยใช้จุดแข็งในประเทศที่มี เช่น ทรัพยากรประเทศ ภูมิศาสตร์ที่ตั้งของประเทศ ผลผลิตทางการเกษตรให้เต็มที่ 3.รัฐบาลต้องเชื่อมโยงระบบการศึกษาเข้ากับระบบการผลิต โดยภาครัฐต้องร่วมมือกับเอกชน ในการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับธุรกิจ รวมไปถึงด้านการวิจัย ภาครัฐต้องสนับสนุนเงินทุนให้ภาคเอกชนสามารถทำวิจัยที่เกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ และให้ธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และ 4.ภาครัฐต้องมีบทบาทในการลดต้นทุนทางธุรกิจ เพิ่มผลิตภาพให้ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิต พัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ และที่สำคัญประโยชน์ต้องตกอยู่กับประชาชน
    <DD>นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจความนิยมอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พื้นที่ภาคใต้ว่า เบื้องต้นยังไม่เห็นผลสำรวจดังกล่าว แต่จากที่ทราบคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ 2-3 จังหวัด เพราะการส่งตัวผู้สมัครของพรรคนั้น ก็ต้องรับฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่ และหากอดีต ส.ส.ในพื้นที่ไม่ลงพื้นที่ ไม่ทำงาน และประชาชนไม่ปลื้ม ก็ต้องมีการเปลี่ยนตัว
    <DD>นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่คนของพรรคชาติไทยออกมาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์คงทำได้แค่ฝันในการที่จะได้ตัว ส.ส.หลายคนในพื้นที่อีสานว่า ตนไม่เคยโวโอ้อวดว่าพื้นที่อีสานพรรคประชาธิปัตย์จะได้ตัว ส.ส.จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำงานให้เต็มที่ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน ส่วนที่ลงพื้นที่อีสานเพื่อประกาศนโยบายนั้น ก็หวังว่าประชาชนจะชอบใจและลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์บ้าง
    <DD>พปช.ขึ้นเหนือชู "แม้ว" หาเสียง
    <DD>ที่จังหวัดเชียงราย พรรคพลังประชาชนได้ปราศรัยหาเสียงเป็นครั้งแรกในเขตภาคเหนือตอนบน โดยมีแกนนำร่วมปราศรัย อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเข้าร่วมสังเกตการณ์ อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยกว่า 1 หมื่นคน
    <DD>นายจาตุรนต์กล่าวว่า ดีใจที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยมาสังกัดพรรคพลังประชาชนถึง 250 คน ที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทยกำลังแก้ปัญหาได้อย่างดี นโยบายหลายอย่างประชาชนได้รับประโยชน์มากมาย แต่ก็มีบางพรรคที่คิดว่าตัวเองรอไม่ไหวแน่ ต้องเป็นฝ่ายค้านไปอีก 20 ปี ก็เลยพยายามใช้มาตรา 7 ใช้เผด็จการมายึดอำนาจ ขณะเดียวกันผู้ที่ยึดอำนาจก็ได้ทำการยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มุ่งหวังที่จะมีรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดสภาพพรรคเล็กพรรคน้อยรวมตัวจัดตั้งรัฐบาล พยายามทำให้พรรคไทยรักไทยอ่อนกำลังหรือสูญพันธุ์ และเขียนเพื่อให้พรรคพลังประชาชนเป็นฝ่ายค้านและประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ "เนื่องจากองค์กรอิสระตั้งขึ้นโดย คมช. ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน ทำให้การทำงานไม่เป็นอิสระมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แต่วันนี้มีการทะเลาะกันระหว่างคนหน้าแหลมฟันดำ และนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์วันนี้มีความไม่พอใจ ที่ไม่มีการจัดการขั้นเด็ดาดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นหากเลือกให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้กลับมาประเทศไทยแน่นอน ถ้าต้องการให้นโยบายดีๆ กลับมา และให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ต้องเลือกพรรคพลังประชาชน" นายจาตุรนต์กล่าว
    <DD>นายอดิศรกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริหารประเทศ สามารถแก้ไขปัญหาจนเป็นที่พึงพอใจของคนทั้งประเทศ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และได้ ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งจนสามารถตั้งรัฐบาลได้ และมีนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะภาคอีสาน พรรคพลังประชาชนจะได้ ส.ส.ทั้งหมด 136 คน และจะได้พื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางอีกเป็นจำนวนมาก และถึงตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็จะกลับมาสู่มาตุภูมิ
    <DD>"ส่วนพรรคมัชฌิมาฯ ผมเห็นว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง จะเห็นได้ว่านายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ก็เป็นคนออกมาโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่แรก จึงเชื่อว่าพรรคมัชฌิมาธิปไตยจะได้ ส.ส.ไม่มากตามที่ตั้งเป้าไว้" นายอดิศรกล่าว
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปราศรัยของนายสมัคร มีเนื้อหาโจมตีรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญเลวทราม ผู้ร่างรัฐธรรมนูญไม่มีความเป็นกลาง รวมทั้งร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ผู้ร่างและพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการได้มาซึ่ง ส.ส.และ ส.ว. เนื่องจากการได้มาของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ถือว่ามีการแบ่งเขตและกฎกติกาที่เป็นสากลชัดเจน แต่การแบ่งเขตตามรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยเฉพาะ ส.ส.แบบสัดส่วนนั้นต้องการให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่งได้ ส.ส.ตามจำนวนที่สามารถจะจัดตั้งรัฐบาลได้
    <DD>นายสมัครเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ประชาชนในภาคอีสานและภาคเหนือจะพร้อมใจเลือกพรรคพลังประชาชนเข้ามาบริหารประเทศ ตนสัญญาว่าหากได้รับเลือกจะเดินหน้าแก้ไขสิ่งที่ผิดในรัฐธรรมนูญปี 2550
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีการจัดเต็นท์ขายของที่ระลึก พร้อมกันนี้ยังนำซีดีมาร่วมขายพร้อมกับของที่ระลึกของพรรค อาทิ แผ่นซีดีผลงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ซีดีเพลงให้กำลังใจ บันทึกสีม่วง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ปะทะกับตำรวจหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และยังมีการนำซีดีชุด "สมคิดนกสองหัว" ซึ่งเป็นซีดีที่โจมตีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
    <DD>"แอ้ด" เชื่อ "บัง" ไม่แหกคอก
    <DD>สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึง พล.อ.สนธิ ในฐานะเป็นประธานกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ว่าเป็นการสนับสนุน กกต.ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการมอบแนวทางต่างๆ ฉะนั้น การทำงานของรัฐบาล กรอบการทำงาน ได้กำหนดไว้แล้ว เป็นไปตามกฎหมายการเลือกตั้ง คิดว่าในส่วนนี้เป็นการทำงานตามหน้าที่เท่านั้น ยืนยันว่า พล.อ.สนธิเข้าใจในกรอบทำงานเหมือนกัน คือต้องใช้กรอบเดียวกัน
    <DD>พล.อ.สนธิกล่าวถึงนักวิชาการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งว่ากลุ่มพลังประชาชนจะเข้ามามีบทบาทภายหลังการเลือกตั้ง และอาจทำให้ผลการปฏิวัติ 4 ข้อไม่ประสบความสำเร็จว่า ต้องอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกใคร อันนี้เราไม่รู้สึกกังวลใน 4 ประเด็น ก็เห็นชัดๆ อยู่แล้ว จะไปปิดว่ามันไม่ใช่ไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าทาง คตส.และ ป.ป.ช. เขาสามารถทำให้เห็น เช่น การยึดอะไรบางอย่างได้หลายหมื่นล้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหลบเลี่ยงภาษี ถือเป็นผลการทำงานที่ออกมาเห็นชัดว่า คตส.ทำงานจนประสบผลสำเร็จ ดังนั้นประชาชนจะเป็นผู้พิสูจน์ว่าจะเลือกใคร ผลสรุปออกมาประชาชนเลือกใคร คือความถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย
    <DD>พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งทบวงชายแดนว่า เป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอ คงคู่กับ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรที่รัฐบาลทำขึ้นมา แต่ก็คงไม่ใช่รองรับการทำงานของ พล.อ.สนธิในการดูแลเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม สนช.คงเห็นว่าทางชายแดนมีความสำคัญในเรื่องความไม่มั่นคง และแทนที่จะประกาศกฎอัยการศึกน่าจะมี พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก
    <DD>ส่วนการมอบหมายให้ พล.อ.สนธิเข้ามาดูเรื่องการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านสวมหมวกอีกใบเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย และ พล.อ.สนธิก็ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งดูแลมหาดไทยด้วย เลยทำให้ท่านมีหน้าที่ที่จะไปกำกับดูแลงานในส่วนที่ท่านได้รับ และเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน
    <DD>"เขามีสิทธิที่จะคิดอย่างนั้น เอาไว้ดูการปฏิบัติจริงๆ ดีกว่า เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าท่านเป็นคณะกรรมการรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เพราะฉะนั้นต้องทำทุกพรรคการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่จับตาดูพรรคหนึ่งพรรคใด มันต้องใช้เหมือนกันหมดทุกพรรค" พล.อ.บุญรอ ระบุถึงการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีเป้าหมายเพื่อสกัดพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งนั้น
    <DD>พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของท่านในสายงานที่ดูแลด้านความมั่นคง และท่านเคยเป็น ผบ.ทบ. ท่านคงรู้มาตรการเฝ้าระวังว่าทำอย่างไรจะให้เกิดความบริสุทธิ์ ส่วนที่ห่วงว่าจะใช้อำนาจไปกีดกั้นบางพรรคการเมืองนั้น คิดว่าทำไม่ได้ จะไปใช้อำนาจตรงไหน เราทำแค่ให้การเลือกตั้งทุกจุดปลอดภัยไม่วุ่นวาย ทหารมีแต่ไปช่วย เราจะไปกดดันใครไม่ได้ ประชาชนต้องเลือกเองบ้านเมืองอยู่ในมือของท่าน ขอให้ทุกคนเลือกให้ดี เลือกให้ถูก ถ้าเลือกไม่ถูกบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกแล้วจะทำอย่างไร เราต้องเสียเวลา ดังนั้นตอนนี้เราต้องช่วยกันดูแล
    <DD>กกต.เดินแบ่งเขตเลือกตั้ง
    <DD>พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเอง โดยสนใจที่จะทำงานการเมือง เพราะต้องการทำงานให้ประชาชน แต่ยังไม่มีพรรคการเมืองใดมาทาบทามให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่คงไม่ไปร่วมกับพรรคพลังประชาชน เพราะไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณมาก่อน
    <DD>"ตอนนี้ยังไม่มีใครมาจีบเลย คอยคนมาจีบอยู่ ผมคงใช้เวลาไม่นานที่จะตัดสินใจถ้ามีพรรคใดมาจีบ จะแจ้งสื่อมวลชนก่อน เหมือนผู้หญิง ถ้าไม่มีคนมาจีบ จะไปบอกผู้ชายก่อนได้ยังไงว่าเราชอบเขา ส่วนตัวผมชอบนโยบายทุกพรรค เพราะมีนโยบายดีหมด สำหรับการจะลงสมัคร ส.ส.เขตหรือสัดส่วนก็แล้ว แต่พรรคว่าจะเห็นว่าผมเหมาะสมตรงไหน" พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าว และว่า การตัดสินใจทางการเมืองคงเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ไม่ขึ้นอยู่กับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร
    <DD>นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ได้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว 2 เขตที่จังหวัดลพบุรี ทั้งนี้คาดว่าจะมีการทยอยส่งการแบ่งเขตมาจากจนครบ 157 เขต จาก 45 จังหวัด ซึ่ง กกต.จะมีการประชุมเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งในช่วงบ่ายของวันที่ 19 ตุลาคม คาดว่าจะแบ่งเขตเสร็จ ทั้ง 157 เขตก่อนวันที่มีพระราชกฤษฎีกา ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 ตุลาคม ส่วนค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองต่อผู้สมัคร ส.ส. 1 คนนั้น จะหารือกันในวันที่ 22 ตุลาคม
    <DD>นายประพันธ์กล่าวถึงรัฐบาลแต่งตั้ง พล.อ.สนธิมาเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติรณรงค์ป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียงว่า มาเป็นส่วนเสริม ไม่ได้มาเป็นส่วนกำกับหรือสั่งการอะไร ซึ่งทางรัฐบาลแถลงชัดเจนแล้วว่ามาเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือ กกต.เท่านั้นเอง แต่คนที่มีหน้าที่กำกับดูแลจริงๆ คือ กกต. ซึ่งเราคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะวาระป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียงต้องช่วยกันหมด เพราะ กกต.เองมีคนเพียงประมาณ 2,000 คน ในขณะที่การบังคับใช้กฎหมายนั้น คนที่มีอำนาจจับกุมก็คือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ ซึ่งเป็นคนทางฝ่ายรัฐบาล
    <DD>นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับองค์กรเอกชนว่า ได้ตั้งคณะกรรมการจากองค์กรเอกชน 9 องค์กร เพื่อร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง โดยให้ทั้ง 9 องค์กรตั้งตัวแทนขึ้นมา เพื่อทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แล้วให้อำนาจองค์กรเหล่านั้นบริหารงบประมาณที่มีกว่า 73 ล้านบาท ทั้งนี้ เขารับปากว่าจะทำงานเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้นได้ แม้องค์กรเหล่านี้จะเป็นมือใหม่ แต่เราก็ต้องทดลอง ต้องไว้ใจให้เขาเข้ามาร่วมตรวจสอบ
    <DD>นายสุเมธกล่าวอีกว่า พื้นที่น่ากังวลและน่าเป็นห่วงคือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ กาญจนบุรี ราชบุรี ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ แต่อาจไม่แน่ ก็น่าเป็นห่วงทุกพื้นที่ ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มเติมในบางจังหวัดนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการหาเสียงและการเลือกตั้ง เพราะการประกาศเพิ่มอำนาจการจับกุมคุมขังเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อย่าไปมองในแง่ร้าย ซึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังมีกฎการศึก
    <DD>ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการร้องว่าการปฏิบัติงานของ พล.อ.สนธิไม่เป็นกลาง สามารถสั่งย้ายออกจากตำแหน่งได้เหมือนกับย้ายข้าราชการอื่นหรือไม่ นายสุเมธตอบว่า คงไม่ได้ แม้ตามกฎหมายจะถือว่า พล.อ.สนธิเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตาม คงได้แค่เตือน หากใครเห็นว่าการปฏิบัติงานของ พล.อ.สนธิไม่เป็นธรรม ก็สามารถแจ้งความตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 157 ได้.</DD><DD>................................................................................................................................................</DD><DD></DD>
     
  2. skygecht

    skygecht เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,117
    ค่าพลัง:
    +46,605
    ว๊าตัวเล็กจังฮะ.....
     
  3. pechklang

    pechklang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    400
    ค่าพลัง:
    +829
    การเมืองไทย ก้อเป็นอย่างนี้ล่ะ !!
    ย่ำเท้าอยู่กับที่ ถอยหลังเข้าคลอง !!!

    เวรกรรม กรรมเวร ของชาวไทย เราจริง ๆ
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เอ.....ว่าเป็นโสเภณีทางการเมือง

    แล้วใครจะเป็นพ่อเล้า...ล่ะ......อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...