ก่อนเสียชีวิต ไอน์สไตน์กำลังคิดเรื่อง "การรวมแรงทั้ง ๔"

ในวันที่เสียชีวิต นางพยาบาลที่เฝ้าอยู่เล่าว่า เขามีสติมากและได้พยายามพูดอะไรออกมาสองสามคำแต่เป็นภาษาเยอรมันซึ่งพยาบาลฟังไม่ออก แล้วเขาก็จากไปอย่างสงบ พร้อมทิ้งเศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่เต็มไปด้วยการคำนวณเรื่องสนามเอกภาพการรวมแรงในจ้กรวาลไว้ข้างๆเตียง

ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1955 อายุ 76 ปี พร้อมทั้งทิ้งงานที่คั่งค้างอยู่คือ การคิดทฤษฎีที่จะรวมแรงพื้นฐานในธรรมชาติที่มีอยู่ 4 ชนิดเข้าไว้ในกฎเดียวกันคือ 1. แรงโน้มถ่วง 2. แสงหรือแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
3. แรงนิวเคลียร์ชนิดอ่อน และ 4. แรงนิวเคลียร์ชนิดเข้ม ซึ่งถ้ารวมได้จริง ความลับของจักรวาลจะถูกเปิดเผยมากกว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพหลายเท่า การเหาะเหินเดินอากาศของมนุษย์จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา

ทฤษฎีนี้จะสามารถอธิบายอนุภาคพื้นฐานทุกชนิดในจักรวาลรวมไปถึงอธิบายได้ถึงปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพและแรงทุกระบบในจักรวาลได้หมด

 

เค้าว่ากันว่าอ่ะน่ะ ไอสไตน์แกได้สมาบัติ8 เลยสามารถคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพได้
เพราะคนธรรมดาทั่วๆไป ไม่ได้สมาบัติอะไร จึงไม่สามารถคิดค้นอะไรเยี่ยมๆอย่งนี้ได้

ว่าแต่ ไอสไตน์ได้สมาบัติ8 จริงรึเปล่า?

 

stephen hawking เคยทำนายว่าอีกไม่เกิน 50 ปี เราจะค้นพบสูตรนี้แน่นอน และสูตรนี้จะเปนสูตรที่ทุกๆคนรู้จักเหมือนกับ E=MC2

แต่จะว่าไปตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจเลยว่าแรงธรรมชาติมีแค่สี่แรงจริงหรือเปล่า บางกลุ่มยังเชื่อเลยว่าน่าจะรวมเอา dark matter เปนแรงที่ห้า -*-

 

คิดด้วยสมองอย่างเดียวทำมะได้หรอกนะผมว่า หยั่งรู้อย่างเดียวเท่านั้นแหละนะ

 

ตอนนี้ ได้มีการ ค้นพบ Higgs Boson และ Higgs Field เป็นตัวการทำให้เกิด Mass ซึ่งมีความสัมพันธ์ กับ Gravity แต่คงอีกนานพอสมควรถึงจะ เข้าใจอะไรได้มากกว่านี้ เพราะถึงค้นพบ Higgs Boson แล้ว ยังเจอร่องรอย ว่าอาจมี higgs Boson อีก 5 แบบ ที่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพิสูจน์ได้

 

รอคอยคำตอบต่อไปครับ ^^

 

ที่สุดของ อนุภาค เราก็พอทราบกันจาก ปัญญาฝ่ายพุทธศาสนาว่า มันมีอยู่ 4 อย่าง

คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็น ชื่อเรียก มหาภูตรูป ( ที่สุดของ รูปธรรม )

ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่ใช่ เรื่องของ ขี้ดิน ขี้เถ้า หรือ ของเหลว หรือ ก๊าซ หรือ เพลิงไฟ

ใน มหาภูตรูปนั้น

ดิน คือ สภาพธรรมที่หนักๆแน่นๆ แข็ง ซึ่งก็จัดว่า คือแรงโน้มถ่วง

น้ำ คือ สภาพธรรมความเกาะกุม ซึ่งก็จัดว่าเป็นเรื่องของ เส้นแรงพันธะ แรงแม่เหล็ก

ลม คือ สภาพธรรมที่เคลื่อนไหว ไม่จำกัดมิติ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องของ ปฏิกริยาการชนกัน
ของอนุภาค

ไฟ คือ สภาพธรรมที่แตกสลายด้วยความร้อน/เย็น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องของ ปฏิกริยาการ
ระเบิดของนิวเคลียร/การระเบิดของบิกแบง( ระเบิดแบบยุบมารวมกัน )

ก็เรียกว่า ไอนสไตน์กำลัง วิจัยธรรมเรื่อง มหาภูตรูป

น่าเสียดาย ที่ดูเหมือน ไอนสไตน์จะไม่ได้ปรารภเรื่อง

" ธรรมชาติที่ไม่มีมหาภูตรูป4ตั้งอยู่ "

หรือ

" ธรรมชาติที่ปราศจากมหาภูตรูป4 นั้น มีอยู่ "

ถ้าปรารภตัวนี้ได้ละก้อ ไอนสไตน์ก็คงพบ จุดตั้งต้นของ"แรง" (ฐีติภูตัง) เหล่านั้น
แล้วพิจารณาเล็งเห็นได้ว่า แรงเหล่านั้นเป็นเรื่องของโลกที่ร้อยรัด " ธรรมชาติที่
ปราศจากมหาภูตรูป4 นั้น มีอยู่ " และเป็น ธาตุที่บริสุทธิยิ่ง ( ไม่ใช่แค่ กว่า )

 

ลุงว่า...ถ้าไอสไตค้นพบจริง ไอสไตก็คงได้แต่พบแต่แล้วก็...นะครับนะ

 

ผมว่าไอน์สไตน์กำลังหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ "อภิญญา" หรือที่ฝรั่งเรียกว่า "Magic" ถ้าเค้าทำสำเร็จ โลกนี้ก็จะก้าวเข้าสู่ยุคที่ วิทยาศาสตร์และเวทมนตร์ เป็นสิ่งเดียวกัน ผมขอเรียกว่า "Magical Teachnology" ก็แล้วกัน ข้อดีที่สุดของเทคโนโลยีนี้ ก็คือ สะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ไม่ทำลายธรรมชาติ

ผมคิดว่าถ้าโลกไม่แตกไปซะก่อน ซักวันหนึ่งจะต้องมีคนที่สามารถทำได้ และผมรู้สึกได้ว่าเวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว อีกไม่นาน

 

*** เปิดโลก ****

๑. การกระทำของมนุษย์
๒. ตัวกระทำของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ผู้ที่สำเร็จไปแล้ว
๓. สัจจะมัดกาย
๔. สัจจะมัดใจ

" หนุมาน ผู้นำสาร "