การรักษาศีลให้บริสุทธิ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ekmahawet, 30 ธันวาคม 2008.

  1. ekmahawet

    ekmahawet สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +19
    ถ้าบุคคลใดไม่ได้เรียนกรรมฐาน
    ให้จำศีลล้างบาป
    เมื่อจำศีลให้มีดอกไม้ธูปเทียน 2 เล่ม กราบ 3 ครั้ง แล้วนั่งยองๆ ยกมือขึ้นเหนือหว่างคิ้ว แล้วให้คิดถึงคุณพระรัตนตรัย ว่านะโม 3 จบ ถวายธูปเทียน ว่าดังนี้ อิมัง อัคคีทานัง พะหูบุปผัง อะหัง พุทธปูเชมิ ทุติยัมปิ ตะติยัมปิ, แล้วนั่งคุกเข่าทำวัตรพระเสร็จแล้ว ว่า อิติปิโส ถึงพุทโธ ภะคะวาติฯ หมอบลงว่าคำถวายชีวิตดังนี้ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ จบแล้วให้ว่า "สาธุ สาธุ ชีวิตของข้าพเจ้าจะขอถวายบูชาพระพุทธเจ้า จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ขอพระพุทธเจ้าจงเสด็จมากำจัดบาปออกจากจิตจากใจจากธาตุจากขันธ์ จากองค์ แห่งข้าพเจ้า ให้หมดสิ้นไปในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอพระพุทธเจ้าจงมาบังเกิดปกเกล้าเหนือเศียรรักษาตนตัว จิตใจ ธาตุขันธ์ รูปกาย แห่งข้าพจ้าให้สว่างรุ่งเรืองผ่องใส จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน อะหัง พุทโธ โหมิ นิพพานะ ปัจจุโย โหตุฯ แล้วนั่งยองๆ ยกมือขึ้นว่า สวากขาโต ถึง วิญญูหีติฯ กราบ 3 ครั้ง หมอบลงว่า ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ จบแล้วว่า สาธุ สาธุ ลมหายใจเข้าออกแห่งข้าพเจ้า ขอถวายพระธรรมเจ้า จนตราบเท่าเข้าสู่นิพพาน ขอธรรมเจ้าจงเสด็จลงมากำจัดบาปออกจากจิต จากใจ จากธาตุ จากขันธ์ จากรูปกายแห่งข้าพเจ้าให้หมดสิ้นไปในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอพระธรรมเจ้าลงมาบังเกิดปกกระหม่อม จอมขวัญ จิตใจ ธาตุขันธ์ รูปกายแห่งข้าพจ้าให้สว่างรุ่งเรือง ผ่องใส จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน อะหัง พุทโธ โหมิ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ นั่งคุกเข่ายกมือขึ้นว่า สุปะฏิปันโน จนถึง โลกัสสาติฯ แล้วหมอบลงว่า สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯ ตะติยัมปิฯ แล้วว่า สาธุๆ ดวงจิตของข้าพเจ้าคิดร้าย หรือดีต่างๆ นานา ขอถวายบูชาพระอริยะสงฆ์เจ้าตราบเท่าเข้าสู่นิพพาน ขอพระอริยะสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จงเสด็จลงมาพิทักษ์รักษาจิตใจ ธาตุขันธ์ รูปกายแห่งข้าพเจ้าให้แจ้งผ่องใส จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน อะหัง พุทโธ โหมิ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุฯ
    ครั้นแล้วนั่งคุกเข่าประนมมือ ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วว่าดังนี้ อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขออารธนาพระนวโลกุตะระธรรมเจ้าทั้ง 9 ประการ 10 กับทั้ง พระปริยัติธรรมเจ้า อันประเสริฐ อันเกิดแต่พระหฤทัยของพระองค์ และพระธรรมเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ จงเสด็จมาเป็นที่พึ่ง ขอบารมีรัศมีพระพุทธเจ้าจงเสด็จมาบังเกิดให้วิตถาร กว้างขวางในจักษุทวารในปัญจะขันธ์ทั้ง 5 แห่งข้าพเจ้าในกาละบัดเดี๋ยวนี้เถิดฯ อะหัง พุทโธ โหมิ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อุกาสะ สาธุ สาธุ ชีวิตของข้าพเจ้าได้ถวายบูชาพระพุทธเจ้าแล้ว ลมหายใจเข้าออกข้าพเจ้าได้ถวายบูชาพระพุทธเจ้าแล้ว ดวงจิตข้าพเจ้าได้ถวายบูชาพระอรหันตาเจ้าแล้ว อัสสะวาต ปัสสะวาต นิสสะวาต ข้าพเจ้าจะขอจำศีลขอให้เป็นบริสุทธิ์ศีล ชีวิตของข้าพเจ้าสละให้เป็นทาน ศัตรุอันอยู่เหนือแผ่นดิน แม้นว่าราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย ไฟจะไหม้น้ำจะท่วม ท้าวพญาจะทำโทษ โกรธให้ด้วยสิ่งอันใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าหวั่นไหวไปมา ข้าพเจ้าจะขอภาวนาอยู่ในใจว่า (สีลัง กัตตะเม ปะริสุทธัง) จนตราบเท่าสู่พระสุริยะลับเขายุคนธรขออาราธนาต่อพระรัตนตรัยเจ้าจงมาเป็นที่พักที่พึ่งแก่ข้าพเจ้า จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน อะหัง พุทโธ โหมิ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ แล้วจึงหาที่อยู่ที่สงัดๆ เช่นป่าชัฎ หรือต้นไม้ กราบ 3 ครั้ง แล้วเอามือลูบคลำที่ๆ จะนั่งนั่นว่า อิมัง อาสะนัง อะธิฎฐามิ ทุติยัมปิ ตะติยัมปิ 3 ครั้ง ให้นึกแบ่งน้ำดวงจิตไว้ในกระหม่อมแล้วค่อยๆ ระบายลมหายใจให้ดีแล้วว่าต่อไปดังนี้ สีลัง อัตถะเม ปะริสุทธัง ว่าดังนี้อยู่ในใจ อย่าให้ดวงจิตออกจากกระหม่อมสักยามเถิด แม้นว่าเห็นเหตุอันใดมาไม่ถึงคำผัดไว้อย่าได้หนีออกจากเขต ถ้าออกจากเขต ก็จะเสียสัตย์ เสียศีล เสียธรรม มุสาพระเถิดโทษตายไปตกนรกเที่ยงแท้แล ถ้าบำเพ็ญถึงคำที่ผัดไว้บาปกรรมที่ทำไว้ภายหลังก็จะหายหมด เราก็จะได้มีบุญอาจจะนับมิได้เลยครั้นถึงคำผัดไว้ แล้วเมื่อจะออกจากที่นั่นให้กราบ 3 ครั้ง แล้วเอามือลูบหลังเท้าว่าดังนี้ อิมัง อาสะนัง นิกขิปามิ ทุติยัมปิ ตะติยัมปิ คำตรวจน้ำว่าดังนี้ "อะหัง พุทโธ โหมิ"

    อานิสงฆ์ในการรักษาศีล
    พระบาลีว่า เอกังสะมะยัง ในกาลครั้งหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จอยู่ในพระอารามแห่ง นางวิสาขามหาอุบาสิกา บริจาคทรัพย์สร้างถวายใกล้เมืองสาวัตถี อะถะโข ครั้งนั้นแลนางวิสาขามหาอุบาสิกา มีหญิงทั้งหลายเป็นบริวาร สมเด็จพระศาสดาจารย์ ทรงประทับอยู่ในที่ใดนางวิสาขาก็เข้าไปสู่ที่นั้น ครั้นเข้าไปถึงแล้วนางก็ทำการเคารพด้วยปัญจางคประดิษฐ์นั่งสถิตในทางที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้มีพระภาคจึงตรัสแก่นางวิสาขาว่า ดูกรนางวิสาขา อันอุโบสถศีลประกอบไปด้วยองค์ 8 ประการ หญิงก็ดี ชายก็ดี ได้อยู่รักษาด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใส ย่อมมีผลมากมีอานิสงฆ์มากให้สำเร็จประโยชน์ในโลกนี้ และโลกหน้า ดูกรวิสาขา พระอริยสาวกในพระพุทธศาสนา และโลกหน้า ดูกรวิสาขา พระอริยสาวกในพระพุทธศาสนา ย่อมปฏิบัติรักษาพระอุโบสถศีล 8 ประการ ตราบเท่าสิ้นชีวิต ความว่า พระอริยะสาวกทั้งหลายในพระพุทธศาสนา ท่านย่อมรักษาพระอุโบสถศีล 8 ประการ สิ้นวันหนึ่งคืนหนึ่ง แล้วและละเสียซึ่งกรรม อันเป็นบาปคือปาณา ฯลฯ เป็นต้น จนตราบสิ้นชีวิต เพราะเหตุนั้นพระพุทธองค์จึงตรัสแก่นางวิสาขาว่า ดูกรนางวิสาขาหญิงชายเหล่าใดก็ดี ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้อยู่รักษา ซึ่งพระอุโบสถศีล 8 ประการ สิ้นวันหนึ่งคืนหนึ่งแล้วก็ได้ชื่อว่าปฏิบัติตามพระอริยเจ้า หรือเดินตามพระอริยะเจ้าสิ้นวันหนึ่งคืนหนึ่ง ย่อมมีผลอานิสงฆ์มากวิเศษ ที่ได้ชำระกิเลสเครื่องเศร้าหมองในสันดาน ให้เป็นนิสัยแก่พระนิพพาน ในอนาคตกาลเบื้องหน้า แล้วพระองค์ทรงตรัสเปลี่ยน ซึ่งผลอุโบสถแก่นางวิสาขาว่าอุโบสถศีล 8 ประการ มีอานิสงฆ์มากนั้นเป็นอย่างไร สมบัติทั้งหลายมีเงิน, ทอง, แก้ว, แหวน, เพชร, นิล, จินดา, อันหาราคามิได้ทั้ง 16 พระนคร มีเมือง กาสี และโกศลเป็นต้น ฯลฯ สมบัติทั้ง 16 พระนครนั้นน้อยนัก ก็ไม่ได้ส่วนเสี้ยวแห่งผลพระอุโบสถศีล ความว่าอานิสงฆ์พระอุโบสถศีล 8 ประการ ที่บุคคลรักษาวันหนึ่งให้บริสุทธิ์เป็นอันดี แล้วเอามาแบ่งออกเป็น 16 ส่วน ยกเสีย 15 ส่วน ยังเหลืออยู่ส่วน 1 เอามาแบ่งออกไปอีก 16 หน ที่ยังเหลืออยู่ส่วนที่สุดนั้น ยกเอาสมบัติทั้ง 16 พระนครมาเปรียบ สมบัติทั้ง 16 พระนครก็ต่ำต้อยนักหนาน้อยกว่าผลอานิสงฆ์ พระอุโบสถในส่วนเสี้ยวที่สุดนั้น เพราะเหตุใด เพราะเหตุว่า สมบัติในมนุษย์นี้ต่ำต้อยน้อยกว่า สมบัติของเทวดาในสวรรค์ คือเทวดานั้นมีอายุยืนยาวนานมากกว่ามนุษย์ ถ้าจะนับปีในมนุษย์นี้ 50 ปีในมนุษย์จึงจะเป็นวันหนึ่งคืนหนึ่งในชั้นจาตุมหาราช อายุของเทวดาในจาตุมหาราชนั้นประมาณ 500 ปีทิพย์ และ 100 ปี ในชั้นมนุษย์ นี้เป็นวันหนึ่งคืนหนึ่งในชั้นดาวดึงส์อายุของเทวดาในชั้นดาวดึงส์นั้นประมาณ 1000 ปีทิพย์ ที่เป็นมนุษย์ได้ขึ้นไป เกิดเป็นเทวดาในชั้นหนึ่งๆ ก็ดี ย่อมมีอายุยืนยาวนานแล้ว พระองค์นั้น ก็ตรัสแก่นางวิสาขาว่าอุโบสถพร้อมด้วยองค์ 8 ประการ ย่อมได้รับความสุขความเจริญมาก ย่อมมีผลอานิสงฆ์มาก ให้สำเร็จประโยชน์ในทางมนุษย์ ทางสวรรค์ ทางพระนิพพาน ด้วยพระอุโบสถพร้อมด้วยองค์ 8 ประการ เป็นธรรมเครื่องประหารกิเลสราคะเป็นต้น ให้น้อยเบาบางดังวิสัชชนามาฉะนี้
    ------------------
     

แชร์หน้านี้

Loading...