สาธุ 99 ครับ
ก็คงเรื่องที่ว่าพูดดักคนจะยกตำรามาเเย้ง หรือมาถามอะไรว่าไม่ขอถกเถียงอะไรด้วยนั่นเเหละครับ 555 กับอีกเรื่องที่ว่า..คนโง่มันเยอะ...
เค้าว่ากระทู้มีการพาดพิงอย่างอคติครับ 555
จริงๆเรื่องที่นำมาพูด มันก็เรื่องซ้ำๆเดิมๆ ที่หลายๆท่านเค้าก็บอกกันทั้งนั้น เเต่ปัญหาคือ เพราะมันเกิน"รู้"ไปนี่หละครับ เราไปสร้าง ไปให้ความหมาย...
สำหรับกระทู้นี้ พอดีว่างๆเลยจะมาพูดถึงเรื่องของการเป็นโสดาบันหรือการบรรลุธรรมขั้นต้นนั่นหละครับ โดยอย่างเเรกที่จะบอกก่อนเลยคือ...
นิพพาน <- คืออะไรครับ
เเต่ถ้าท้ายที่สุดเเล้ว ไปไม่ถึงฝั่งจริงๆ ก็ต้องพยายามสร้างกุศลกรรมไว้ให้มากครับ มีพุทธานุสสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าสม่ำเสมอ...
คนชอบมองศาสนาเป็นเรื่องของคนเเก่ครับ คือ ช่วงวัยรุ่นก็เสพสุข สนุกกับชีวิตให้เต็มที่ พอเเก่ตัวลงค่อยเข้าหาศาสนา ความคิดเเบบนี้คือผิดมหันต์เลย...
ปกติคนเราไหลไปในโลกความคิด มันก็ไหลยาวๆ เรื่องนึงดับไป เรื่องนึงก็เกิดขึ้น สืบต่อไม่จบสิ้น เเต่ถ้าเดินตามมรรค 8 ของพระพุทธองค์ เลยไม่ไหลยาวครับ...
ใครเกิดมายุคนี้ ผมถือว่าเกิดทันพระพุทธเจ้าครับ เพราะศาสนาพุทธยังอยู่ ยังมีพระธรรมให้ศึกษากันอยู่ มีพระสงฆ์ที่เผยเเผ่หลักคำสอนอยู่...
ต่อให้ไม่ต้องถึงขั้นระลึกชาติได้ เอาเเค่นึกเฉยๆ ยังน่าเบื่อหน่ายสุดๆเลยครับ 555 มองๆดูจะเหมือนว่าเเต่ละชาติมันต่างกัน น่าตื้นเต้น น่าสนใจ...
โอเครครับ เเค่ถามดู พอดีไม่ค่อยเห็นใครในนี้พูดเรื่องระลึกชาติ เเต่มันก็ไม่ใช่ว่าทำกันง่ายๆ อีกอย่างจะทำไปทำไมด้วยนี่สิครับ 555
ก็ถูกเเล้วครับ ที่ควรเเสดงเหตุผลให้ชัดเจน เเต่อย่างที่ผมบอก "บางครั้ง" มันเป็นเรื่องของการเขียน การสรุปย่อ จะตัดสินตรงๆไม่ได้ครับ ควรมองภาพรวม...
ผมว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นของละเอียดมาก การตัดสินภูมิธรรมผู้อื่นเพียงเเค่ตัวอักษรไม่กี่คำที่อ่านบนหน้าจอ ก็ไม่ถูกซักเท่าไหร่นะครับ...
ในนี้มีใครระลึกชาติได้บ้างครับ
คุณฟ้ากับเหว เวลาจะเเย้งอะไรใคร เราต้องให้เหตุผลด้วยสิครับ ว่าเค้าผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน อะไรก็ว่ามา วงมาเลย เเล้วก็บอกข้อที่ถูกให้เค้า...
ปัจจัตตังครับ ไม่มีใครรับรองผม เเละผมก็ไม่รับรองใคร เพียงเเต่เอาทางที่ตัวเองเคยผ่านมา มาบอกเล่าให้คนอื่นได้รู้ มันมีประโยชน์เเน่นอน...
ผมก็ไม่ได้บอกพี่ผิดนะครับ ผมไม่กล้าไปว่าใครผิดหรอก เพราะเเต่ละคนมีจริต มีวิธีการไม่ได้เหมือนกัน (เเต่ทางเดียวกัน เเตกต่างกันบ้างเล็กน้อย)
ตรงนี้เข้าใจที่พี่สื่อครับ คือ ในเมื่อมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิมันตามมาิยู่เเล้ว ไม่จำเป็นต้องพะวงเรื่องวิหารธรรมตรงนี้ผมเข้าใจ...
ผมไม่ได้เเก้ตัวเเทนใครครับ เเต่ผมเเค่เห็นว่าพี่เเนนเข้าใจสิ่งที่หมูไม้เค้าเค้าต้องการจะสื่อผิด เลยอธิบายให้เข้าใจถูกครับ+ออกความเห็นในมุมผมด้วย...
เเต่ตามปกติเเล้ว หากมีสัมมาสติ มันก็ต้องมีสัมมาสมาธิตามมาอยู่เเล้วนะครับ
เเต่คนทั่วๆไป ที่ไม่รู้จักธรรมะของพระพุทธองค์ เวลาหลง ก็หลงต่อ หลงกับหลง ไม่มีหลงกับรู้ คือทั้งวันมีเเต่หลง ไม่มีรู้ เเต่คนฝึกตามพระพุทธองค์...
พี่หมูไม้ เค้าไม่ได้หมายถึง การต้องไปทำสมาธิตลอดวันนะครับ พี่เเนนเข้าใจผิดเเล้ว เเต่ตอนที่มีสติไปรู้...
พี่เเนนครับ ผมว่ายังไงก็ต้องมีวิหารธรรมนะครับ ลองคิดดูว่า วันนึง 24 ชม.เนี่ย มันก็สลับอยู่เเค่รู้กับหลง คือพอหลงก็รู้ รู้เเล้วก็หลง...
ของผมเห็นเกิดดับ จะชัดไปทางอนัตตามากกว่าครับ
เเละสภาวะที่เกิดต่อจากนั้น มันเป็นการหลุดพ้นจากพันธนาการครับ มันโล่ง อิสระไปหมด ในช่วงเวลาหนึ่ง (ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเกิดสภาวะเเบบเดียวกันรึป่าว...
ในส่วนของผม ในเวลานั้นมีสติ ไปรู้อารมณ์หนึ่งเกิดขึ้น รู้อารมณ์ดับไป เเต่ตรงที่ไปรู้ มันเกิดความตั้งมั่นขึ้น เป็นสมาธิ...
พี่หมูไม้นี่เอง 555 ไม่ได้คุยกันนานเลยครับ ผมยุ่งๆด้วย สอบเข้าม.+เข้าเรียนปี 1 ในกระทู้เขียนดีกว่าผมเยอะครับ...
พี่เป็นใครครับ
นี่มาดู ความตาละปัด ของ คนที่บอกว่าตนเองเป็นพระโสดาบัน -ผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นพระโสดาบันครับ กลับกันผมเคยย้ำไปเเล้วด้วยซ้ำว่า "ผมไม่ใช่โสดาบัน...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา