mead
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
18 กรกฎาคม 2024 at 18:22
วันที่สมัครสมาชิก:
16 เมษายน 2005
โพสต์:
8,116
พลัง:
62,425
อัลบั้ม:
3
Photos:
88

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 62,138 43,733
อนุโมทนา 17 2
รักเลย 243 88
ฮ่าๆ 24 1
ว้าว 3 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
วันเกิด:
มกราคม 28
อาชีพ:
Interior Design

แชร์หน้านี้

mead

เป็นที่รู้จักกันดี

mead เห็นครั้งสุดท้าย:
18 กรกฎาคม 2024 at 18:22
    1. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      หน้าเหมือนสุ เรย อิๆๆ
    2. coolz
      coolz
      เอาภาพเทพเจ้ามาฝาก เอาให้เข้ากับบรรยากาศกินเจหน่อย ^_^
      [IMG]
    3. เจ้าจ้อย
      เจ้าจ้อย
      สวัสดีเจ้า

      เมื่อขอมา ก้อจัดห้าย ย ย ยย

      อะแฮ่ม ม ม ม

      4

      3

      2

      1

      เสียง ง ง ง ง ง ง ง ง ง ง ง มาแว๊ว ว ววค๊า

      [IMG]
    4. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      ศิษย์รักเอ๋ย…

      จริงใจ ลดละชื่อเสียง ผลประโยชน์
      บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตาธรรมให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละอารมณ์นิสัยเคยชิน
      บำเพ็ญเพิ่มพูนให้บรรยากาศธรรมให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละความดื้อดึงความเห็นแก่ตัว
      บำเพ็ญเพิ่มพูนความซื่อสัตย์เที่ยงตรงให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละความใคร่อยาก
      บำเพ็ญเพิ่มพูนจิตกุศลทานให้ปรากฏ
      จริงใจ ลดละการยึดมั่นถือมั่นโกรธเคือง
      บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตากรุณา อภัยให้ปรากฏ

      ในหลักธรรมจริงคือความจริงที่สืบทอดมายั่งยืนไม่เปลี่ยนแปลง เกิดมาหลายภพชาติ มิสู้เกิดมาแล้วเพื่อบำเพ็ญธรรม บรรลุอริยมรรค บำเพ็ญธรรมยุคขาวปฏิบัติภายนอกเที่ยงตรง บำเพ็ญภายในบริสุทธิ์โดยแท้

      ศิษย์รักเอ๋ย...
      อลคัททูปสูตร พุทธะสอนว่า คือแพนำพาใช้ข้ามฝั่ง ให้นำปฏิบัติบำเพ็ญสู่จุดหมายนิพพาน หากชีวิตมีความยึดมั่นถือมั่นก็จะเป็นทุกข์ ชื่อเสียงเงินทอง หากยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปก็จะเป็นทุกข์ ดังนั้นหลักธรรมคำกล่าวทั้งหลาย เพื่อสอนชี้นำให้เจ้าทุกคนก้าวล่วงพ้นจากปุถุชนสู่อริยเมธี
    5. kindred
      kindred
      Hi............................................................

      [IMG]

      หัวหน้าหายอีกแระ ชอบทำตัวลึกลับ...
      เด๋ว ยกพวกยึดกระทู้ กะชมรม ซะเรยนิ...อิอิอิ
    6. chonatad
    7. noobeibei
      noobeibei
      [IMG]

      [IMG]

      มาส่งข้าววันนี้ทำ จับฉ่ายมา น่ากินไหมขอให้มีความสุขนะจ๊ะ อิๆๆหอมมาก อิ่มแร้ว คิดถึงสุด้วย
    8. noobeibei
    9. coolz
      coolz
      เอารูป "ไธ้ซ่างเหล่าจิน" มาให้ชมค่ะ
      [IMG]
    10. เจ้าจ้อย
    11. MissP
      MissP
      คำถามก่อนสอบ
      เนื่องจากการเรียนแพทย์หนักมาก ในชั่วโมงสุดท้ายของการสอน อาจารย์มักจะเตือนนักศึกษาในชั้นเรื่องการเตรียมตัวสอบโดยพูดว่า
      "ขณะนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกคุณจะได้ดูหนังสือเตรียมสอบปลายปี ซึ่งเหลือเวลาน้อยลงทุกที ตอนนี้ข้อสอบเรื่องระบบประสาท อยู่ในมือคนพิมพ์เรียบร้อยแล้ว มีใครจะถามอะไรเกี่ยวกับข้อสอบไหม"
      นักศึกษาชายคนหนึ่งนั่งอยู่หลังสุดถามว่า "ข้อสอบมีคำถามทั้งหมดกี่ข้อครับอาจารย์?"
      นักศึกษาชายอีกคนถามว่า "ข้อสอบเป็นแบบอัตนัยหรือปรนัยครับ?"
      นักศึกษาหญิงคนหนึ่งถามว่า "ข้อสอบมีแนวเหมือนของเดิมไหมคะ?"
      สมศักดิ์กำลังนั่งลอกรายงานเพื่อนอยู่หลังห้อง ยกมือสูงแล้วถามว่า "ใครเป็นคนพิมพ์ข้อสอบครับ?????"
      ที่มา:ตอบปัญหาวิชาโลก โดยทันตแพทย์สม สุจีรา
    12. MissP
      MissP
      สมถะกับวิปัสสนา ต่างกันอย่างไร
      ตอบ: โดยรูปศัพท์ สมถะ แปลว่า "ความสงบ" คำว่า "สมถะ"ที่มาคู่กับคำว่า "วิปัสสนา" นั้น เป็นชื่อของวิธีการฝึกจิตในทางพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง ทั้งสมถะและวิปัสสนาแตกต่างกันดังนี้
      สมถะ คือ การฝึกจิตที่มุ่งเน้น "สมาธิ" หรือความสงบแห่งจิตเป็นสำคัญ เมื่อฝึกจนถึงที่สุดแล้วทำให้เกิดฌาน(ฌานที่1-4) และอาจมีความสามารถพิเศษต่างๆได้อย่างอเนกประการ เช่น แสดงฤทธาปาฏิหาริย์ได้ หูทิพย์ ตาทิพย์ ล่วงรู้ใจคน ระลึกชาติได้ และทำให้สิ้นกิเลสได้ด้วย
      วิปัสสนา คือ การฝึกจิตที่เน้น "ความรู้เท่าทันปรากฏการณ์ทางกาย เวทนา(รู้สึก) จิต(อาการของจิต) และธรรม (กิเลสหรือธรรมที่ปรากฏในจิต)" หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า วิปัสสนาฝึกจิตเพื่อมุ่งเน้นความมี "สติ-สัมปชัญญะ" สมบูรณ์ จนเกิดความรู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมตามความเป็นจริง กระทั่งสามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อมทุกอิริยาบถอย่างสมบูรณ์ หรือดับทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง เป็นผู้มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาอย่างแท้จริง
      สรุป วิปัสสนานั้นทำให้ดับทุกข์ได้ บรรลุนิพพานได้ ส่วนสมถะนั้นทำให้จิตสงบ ประณีต ลึกซึ้ง ถึงขั้นฌาน และมีความสามารถพิเศษทางจิตอย่างที่เรียกกันว่า "อภิญญ" (extra sensories perception) รวมทั้งใช้เป็นบรรทัดฐานของการทำงานทางจิตที่ลึกซึ้งได้..
      ที่มา :ธรรมะทำไม โดย ว.วชิรเมธี
    13. MissP
      MissP
      ทำไมคนเราต้องฝึกสติด้วย?
      ตอบ: สติทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เราทุกคนมีสติกันอยู่ระดับหนึ่ง จึงมีสมาธิและปัญญาในระดับหนึ่งเช่นกัน แต่แน่ใจหรือ ว่ามีสติตลอดเวลา ถ้ามีสติตลอดเวลาเราจะไม่โกรธเพราะสติจะคุมความโกรธอยู่ เราจะไม่ฟูมฟายเวลาเศร้า ไม่ตระหนกเวลาเกิดเรื่องร้ายแรง
      การฝึกสติช่วยให้รู้ทันอารมณ์ต่างๆ เช่นเมื่อโกรธก็จะรู้ว่ากำลังโกรธ เมื่อรู้ตัวแล้วก็จะยับยั้งอารมณ์โมโหให้หยุดลง
      การฝึกสติก็เหมือนนักมวยที่ฝึกชกกับเป้าหลอก ถามว่านักมวยจะฝึกชกไปทำไม ในเมื่อทุกคนก็ชกได้อยู่แล้ว การฝึกชกจะทำให้ไวขึ้น เวลาเจอสถานการณ์จริงบนเวทีจะได้สู้กับคู่ต่อสู้ได้ เช่นเดียวกัน การฝึกสติก็เพื่อจะทำให้ไวขึ้น เข้มแข็งขึ้น เวลาเจอผัสสะทั้งหลายจะได้ต่อสู้ทัน
      ที่มา:ตอบปัญหาวิชาชีวิต โดยทันตแพทย์สม สุจีรา
    14. noobeibei
      noobeibei
      อย่างที่หนึ่งข้าวกระเพราเจ

      เครื่องปรุง
      1.พริกแดง 1 - 2 เม็ด
      2.พริกชี้ฟ้า 1 เม็ด
      3.ถั่วฝักยาว
      4.บุกแผ่น
      5.ซีอิ๋ว
      6.น้ำตาล
      7.น้ำมันเห็ดหอม

      วิธีทำ
      พัดทุกอย่างเหมือนผัดกระเพราซอนะ




      [IMG]
    15. เกิดมาหล่อ
      เกิดมาหล่อ
      มาเชิญคุณมืดถึงที่ครับ

      ไป อยู่ ชม รม " ตระกูลหล่อ " กัน เถอะ ท่าน Falkman ก็อยู่แล้วนะ
    16. coolz
      coolz
      [IMG]
      เดี๋ยววันนี้ไปไหว้เจ้าที่วัดเล่งเน้ยยี่ ก่อนเทศกาลกินเจ

      [IMG]

      ในช่วงเทศกาลจะถือศีล แต่งชุดขาว(เว้นวันที่มีสอบ)

      [IMG]

      แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ พอถึงระยะมารผจญขอให้ลูกผ่านไปได้ด้วยเทอญ
      [IMG]

      [IMG][IMG][IMG][IMG][IMG][IMG][IMG]
      [IMG]
    17. MissP
      MissP
      บ่อศักดิ์สิทธิ์
      สามีพาภรรยาไปที่บ่อศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่า ถ้าใครโยนเหรียญลงกลางบ่อลึกพร้อมกับอธิษฐาน คำอธิษฐานนั้นจะเป็นจริง!!
      สามีเริ่มอธิษฐาน พร้อมโน้มตัวก้มลงไปในบ่อเพื่อโยนเหรียญลงไป ฝ่ายภรรยาเห็นดังนั้น ก็ทำตามบ้าง แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่มากเกินไปจึงเสียศูนย์ เธอพลัดตกลงไปในบ่อลึก..จมน้ำเสียชีวิตทันที!!
      สามีตกกะใจ จนตัวสั่น พร้อมกับอุทานว่า "โอ้ ช่างศักดิ์สิทธิ์จริง จริง"
    18. MissP
      MissP
      จับผิดเด็ก
      สมชายกับสมศักดิ์เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งคู่ไปเที่ยวพัทยาจนกลับมาสอบที่มหาวิทยาลัยไม่ทัน จึงไปขออนุญาตอาจารย์สอบใหม่ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย รถยางแตกขณะกำลังขับกลับมหาวิทยาลัยเลยมาสอบไม่ทัน
      อาจารย์ใจดีบอกว่า ถ้าสุดวิสัยจริง ไม่ได้โกหก อาจารย์ก็จะให้สอบใหม่ในวันพรุ่งนี้
      วันรุ่งขึ้นทั้งคู่ถูกแยกให้สอบคนละห้อง เนื่องจากอาจารย์อ้างว่ากลัวแอบลอกข้อสอบกัน
      เมื่อเข้าห้องสอบทั้งคู่ก็อ่านข้อสอบ แล้วพบว่าข้อสอบมีเพียง 2 ข้อเท่านั้น!!
      ข้อที่ 1 จงอธิบายความหมายของคำว่า อะตอม (5 คะแนน)
      ทั้งคู่ตอบคำถามข้อแรกไปอย่างสบายใจ เพราะง่ายมากเมื่อตอบเสร็จก็เปิดหน้าต่อไปทำข้อที่ 2
      ข้อ 2 จงบอกว่ายางรถยนต์ข้างไหนแตก แตกบริเวณใด และจ่ายค่าปะยางไปเท่าไหร่ (95 คะแนน !!)
      บอกแล้วทีหลังเอาให้เนียนกว่านี้..
      ที่มา: ตอบปัญหาวิชาชีวิต โดยทันตแพทย์สม สุจีรา
    19. MissP
      MissP
      เจตนาที่เป็นเหตุในการให้ทานนั้นแบ่งตามกาลเวลาได้ 3 กาลคือ
      ปุพเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นก่อน คือเมื่อนึกจะให้ ก็เสวงหาตระเตรียมสิ่งที่จะให้นั้นให้พร้อม
      มุญจเตนา เจตนาที่เกิดขึ้นในขณะกำลังให้ของเหล่านั้น
      อปรเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นหลังจากได้ให้เรียบร้อยแล้ว เกิดความปีติยินดีในการให้ของตน
      บุคคลใดที่ทำบุญหรือให้ทานด้วยจิตใจที่โสมนัสยินดี ทั้งประกอบด้วยปัญญา เชื่อกรรมและผลของกรรมครบทั้งสามกาลแล้ว บุญของผู้นั้นย่อมมีผลมาก และผลบุญที่เกิดขึ้นก็อยู่กับชนิดของทานด้วย
      การให้ข้าวให้น้ำ ชื่อว่า ให้กำลัง
      การให้ผ้า เครื่องนุ่งห่ม ชื่อว่า ให้ผิวพรรณ
      การให้ยานพาหนะ ชื่อว่า ให้ความสุขทั้งกายและใจ
      การให้ประทีบดวงไฟ ชื่อว่า ให้ดวงตา
      การให้ที่อยู่อาศัย ชื่อว่า ให้ทุกอย่าง คือให้กำลัง ให้ผิวพรรณ ให้ความสุข และให้ดวงตา
      แต่...เหนือสิ่งอื่นใด สุดยอดของการให้ทานคือ ธรรมทาน การให้ธรรมะย่อมชนะการให้ทั้งปวง เกิดกุศลมากที่สุด
      ที่มา :ตอบปัญหาวิชาชีวิต โดย ทันตแพทย์สม สุจีรา
    20. MissP
      MissP
      จิตวิญญาณนักวิทยาศาสตร์ในพุทธศาสนา
      1.อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการฟังตามๆกันมา
      2.อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา
      3.อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
      4. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการอ้างคัมภีร์
      5. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการใช้วิธีการทางตรรกะ
      6. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการอนุมาน
      7. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการตรึกตรองตามแนวเหตุผล
      8. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการทึกทักเอาว่าเข้ากับทฤษฎีที่ตนรู้จัก
      9. อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการคิดว่ามีเค้าน่าเชื่อถือ น่าเป็นไปได้
      10.อย่าเพิ่งเชื่อ ด้วยการถือว่าสมณะท่านนี้เป็น "ครู" ของเรา
      "ความสงสัยเป็นก้าวแรกของความรู้"
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    วันเกิด:
    มกราคม 28
    อาชีพ:
    Interior Design
  • Loading...
Loading...