ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช

ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯจะมามุกเดิมด้วยการส่งเรือประมงเข้าไปในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้และส่งเรือรบตามหลังไป จีนรู้ทันจึงรีบลากเรือประมงของฟิลิปปินส์ออกไปที่อื่นซะเลย



-----------

1.) มาดูข่าวเกี่ยวกับจีนอีกซะข่าวนะครับเกี่ยวกับทะเลจีนใต้นี่แหละ วันที่ 3 มี.ค.59 สำนักข่าว Chinadaily ของจีนพาดหัวข่าวว่า "เรือประมงต่างชาติจงออกไปจากแนวประการังของจีน" (Foreign boat cleared from Chinese reef)



เรือประมงต่างชาติที่ติดอยู่ในแนวประการังของจีนในทะเลจีนใต้เป็นเวลาหลายเดือนถูกลากออกไปที่อื่นแล้ว กระทรวงต่างประเทศของจีนรายงานเมื่อวันพุธนี้

เรือประมงลำดังกล่าวเกยตื้นอยู่ที่แนวประการัง Wufang ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมานาย Hong Lei โฆษกจากก.ต่างประเทศของจีนสรุปข่าว

"เจ้าของเรือลำดังกล่าวล้มเหลวในการลากเรือของตนเองออกไปหลังจากที่ได้มีความพยายามหลายครั้ง และได้สละเรือลำดังกล่าว โดยได้มีการรื้ออุปกรณ์ที่สำคัญบางอย่างบนเรือออกไปแล้ว"

นาย Hong Lei กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวขัดขวางความปลอดภัยในการเดินเรือ และสภาพแวดล้อมทางทะเล ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงตัดสินใจเคลียร์มันออกไปจากแนวประการัง และจัดการกับมัน "อย่างเหมาะสม" (…and dealt with it "properly") [แบบจีน คริๆ - ผู้แปล]

"เพื่อเป็นการรับประกันถึงความปลอดภัยในการเดินเรือ และการปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ จีนได้เรียกร้องให้เรือประมงทั้งหลายที่อยู่ใกล้สถานที่ดังกล่าวออกไปจากที่นั่น เรือของจีนได้ออกไปจากพื้นที่แห่งนั้นแล้ว หลังจากที่ได้เคลื่อนย้ายเรือของต่างชาติออกไป" โฆษกก.ต่างประเทศของจีนกล่าว

รายงานข่าวบอกว่า แม้ว่าทางกระทรวงต่างประเทศของจีนจะไม่ได้ระบุอัตลักษณ์ของเรือลำดังกล่าว แต่สื่อฯต่างประเทศก็กล่าวว่าเรือลำนั้นมาจากประเทศฟิลิปปินส์

ส่วนผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า กรุงปักกิ่งได้ "ทำลายกับดัก" (foiled a trap) ที่วางไว้โดยกรุงมะนิลาที่จะใช้เรือเกยตื้นในการละเมิดอาณาเขตของจีน ซึ่งเป็นแท็กติกที่เคยใช้มาแล้วในแนวประการัง Ren'ai ของจีนในปลายปี 1999

"เหตุการณ์ที่แนวประการัง Wufang ได้ทำให้ผมนึกถึงกรณีของแนวประการัง Ren'ai ทั้งสองเหตุการณ์นี้เกือบจะเหมือนกัน" Chen Qinghong นักวิจัยเกี่ยวกับปัญหาในทะเลจีนใต้จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีนกล่าว

กรุงปักกิ่งกล่าวว่า กรุงมะนิลาจงใจที่จะเกยตื้นของเรือรบไว้ใกล้กับแนวประการัง Ren'ai ของจีนในปี 1999 ฟิลิปปินส์ปฏิเสธที่จะเคลื่อนย้ายเรือของตนเองออกไป - แม้ว่าจีนจะเรียกร้องหลายครั้งก็ตาม - และได้เสริมกำลังเข้าไปบนตัวเรือและดาดฟ้าของเรือที่ขึ้นสนิมลำนั้น ฟิลิปปินส์ยังได้ส่งกองทัพของตนเองเข้าไปคุ้มกันแนวประการัง และยึดครองโดยผิดกฎหมายด้วย

2.) คราวนี้หันมาดูบทบรรณาธิการจาก Global Times ของจีนบ้างนะครับ วันที่ 2 มี.ค.59 หนังสือพิมพ์ของจีนพาดหัวข่าวว่า "จะไม่มีการอนุญาตให้ใช้มุกเรือเกยตื้นในทะเลจีนใต้อีกต่อไป" (No more ship-grounding tricks allowed in South China Sea)

กระทรวงต่างประเทศของจีนยืนยันเมื่อวันพุธนี้ว่า จีนได้ลากเรือต่างชาติที่เกยตื้นแถว Wufang Jiao ในทะเลจีนใต้ออกไป เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย จีนได้เรียกร้องให้เรือประมงหลายลำในละแวกนั้นออกไปด้วย

อย่างไรก็ตาม สื่อฯฟิลิปปินส์และรายงานข่าวจากตะวันตกบางสำนักกลับนำเสนอภาพของเหตุการณ์เดียวกันในมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยกล่าวว่ามีเรือของจีนหลายลำถูกส่งเข้าไปลาดตระเวนในน่านน้ำแถวนั้น หลังจากที่เรือของฟิลิปปินส์เกยตื้น และ "ปิดกั้น" เส้นทางทางน้ำ

ในรายงานข่าวของสื่อฯเหล่านั้น แนวประการัง Wufang Jiao และน่านน้ำโดยรอบเป็น "พื้นที่สำหรับทำประมงแบบดั้งเดิม" (traditional fishing grounds) ของฟิลิปปินส์ เนื่องจากการปิดกั้นจากเรือของจีน ชาวประมงฟิลิปปินส์จึงไม่สามารถเข้าไปทำประมงได้ ซึ่งมีความรู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกรังแกจากจีน (…feeling they were being bullied by China.) [นั่นคือหนังม้วนหนึ่งจากฝั่งฟิลิปปินส์และสื่อฯตะวันตกนะครับ ต่อไปมาฟังคำพูดจากฝั่งจีนบ้าง... - ผู้แปล]

สื่อฯจีนรายงานว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรือของฟิลิปปินส์ไปเกยตื้นบนเกาะและแนวประการังในทะเลจีนใต้ ในปี 1999 ฟิลิปปินส์ได้ส่งเรือรบ และทำให้เกยตื้นที่แนวประการัง Ren'ai มาแล้ว กรุงมะนิลาได้ให้สัญญากับจีนว่าจะลากมันออกไปโดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ แต่ผ่านไป 17 ปี และกรุงมะนิลาก็ได้ทำลายคำสัญญาของตนเองโดยปราศจากความละอายใจ (shamelessly แปลว่า หน้าด้านมาก - ผู้แปล) ได้มีการจัดส่งเสบียงกรังไปยังเรือลำดังกล่าว และเสริมกำลังเข้าไปเสริมโครงสร้างของเรือด้วย ในความพยายามที่จะทำให้เป็นฐานที่มั่นอย่างถาวร

["เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" แบบฟิลิปปินส์ คือ 17 ปีเป็นอย่างน้อยครับท่าน เหมือนบุหรี่แม้วเลย เดินข้ามเขาไป 10 ลูกพี่แกก็ยังสูบบุหรี่มวนเดียวไม่หมดเลย ไม่ใช่ว่ามันยาวมากนะ แต่เดินไปสูบไป ได้ซักจื๊ดสองจื๊ด ก็ดับบุหรี่ และก็เดินต่อ จากนั้นก็จุดบุหรี่สูบใหม่อีก สูบเข้าไปสองจื๊ดก็ดับไว้ แล้วก็เดินต่อ จนถึงจุดหมายปลายทาง บุหรี่มวนนั้นก็ยังสืบไม่หมด - ผู้แปล]





เมื่อไม่กี่ปีมานี้ จีนได้ดำเนินมาตรการตอบโต้หลายอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เรือของฟิลิปปินส์ลำเลียงวัสดุก่อสร้างเข้าไปบนเรือลำดังกล่าว ยกเว้นการพิจารณาด้านมนุษยธรรม จีนอนุญาตให้ฟิลิปปินส์จัดส่งเสบียงอาหารไปให้ลูกเรือได้ ปัจจุบันนี้เรือลำดังกล่าวซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจในความตึงเครียดระหว่างจีน-ฟิลิปปินส์ ตกอยู่ในสภาพที่แย่มาก และกำลังจะหลุดออกจากกันเป็นชิ้นๆ

จีนจะไม่อนุญาตให้แนวประการัง Wufang Jiao กลายเป็น Renai Reef แห่งที่สอง การลากเรือของฟิลิปปินส์ที่เกยตื้นออกไปเป็นมาตรการครั้งเดียวจบ (once-and-for-all measure) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

สื่อฯจีนวิจารณ์ว่า ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ไม่มีความน่าเชื่อถือในประชาคมนานาชาติ (The Philippines is untrustworthy in the international community) มักจะเล่นกลสกปรก (dirty tricks) กับการจัดการกับปัญหาทางการทูตอยู่บ่อยๆ สิ่งที่ฟิลิปปินส์ได้กระทำที่แนวประการัง Ren'ai นั้นได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดจนแจ่มแจ้งมาก

จีนได้พยายามข่มใจตนเองท่ามกลางข้อขัดแย้งในเรื่องการทำประมงกับฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม กรุงมะนิลาก็ได้จับกุมและตัดสินคดีกับชาวประมงชาวจีนหลายครั้ง และทำแม้กระทั่งยิงชาวประมงชาวไต้หวันจนเสียชีวิตมาแล้ว ในที่สุดความโหดร้ายของกรุงมะนิลา ก็ก่อให้เกิดการเล่นแง่ขึ้นมาในหมู่เกาะ Huangyan ในปี 2012 ตั้งแต่บัดนั้นมา จีนก็เข้าทำการควบคุมเกาะดังกล่าวเต็มรูปแบบ [Huangyan Island บ้างก็เรียกว่า Scarborough Shoal, Scarborough Reef, Democracy Reef - ผู้แปล]

คราวนี้กรุงมะนิลาหวังว่าตนเองจะสามารถดึงกองทัพสหรัฐฯให้มาช่วยหนุนหลังได้ เหมือนกับนักเลงหัวไม้แก๊งมาเฟีย (Mafia gangster) ร้องขอความช่วยเหลือจาก "เจ้าพ่อ" (godfather) เห็นได้ชัดว่าฟิลิปปินส์ทราบว่าอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศไม่ได้มีอำนาจเหนือดินแดนพิพาทดังกล่าว ตามที่ได้มีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮก การไม่เข้าร่วมของจีนในอนุญาโตตุลาการได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล แต่ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯได้ใช้ช่องทางนี้เพื่อทำลายภาพพจน์ของจีนในระดับสากล

การแล่แง่เหล่านี้ ไม่สามารถที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ว่าฟิลิปปินส์นั่นแหละที่เป็นฝ่ายไม่รักษาสัญญา และสร้างปัญาครั้งแล้วครั้งเล่า มาตรการตอบโต้ของจีนจึงมีความเหมาะสม

จีนมีข้อได้เปรียบฟิลิปปินส์อย่างท่วมท้น แต่ข้อขัดแย้งของจีนกับฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน เนื่องจากความมีอคติของตะวันตกสำหรับกุรงมะนิลา จีนควรที่จะมีความแน่วแน่ในการปกป้องสิทธิ์ที่ชอบธรรมของตนเอง และจงฉลาดในการจัดการกับความอยุติธรรมของพวกตะวันตก และกองทัพสหรัฐฯ และการแทรกแซงทางการทูตด้วย

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ จีได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการสะกัดกั้นการรุกล้ำจากฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ กรุงปักกิ่งฟื้นความริเริ่มทางด้านยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ ฟิลิปปินส์กำลังจะมีประธานาธิบดีคนใหม่ในปีนี้ และ Benigno Aquino III ก็จะก้าวลงจากตำแหน่ง หลังจากการเปลี่ยนผู้นำแล้ว กรุงมะนิลาก็จะกลายเป็นเหมือนลูกศรที่ใช้แล้ว และจะไม่เหลืออะไรอยู่ในกระเป๋าเล่นกลอีกต่อไป

[งานนี้จีนกำลังรอจังหวะการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองภายในของฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันจีนก็หันมาร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจกับยุโรปเพิ่มมากขึ้น วันที่ 1 มี.ค. People's Daily Online ของจีนรายงานว่า กลุ่มบริษัท Wanda ของจีนได้ทุ่มเงินลงทุนมูลค่า 3 พันล้านยูโรในโครงการก่อสร้างเมือง EuropaCity ทางทิศเหนือชานเมืองของกรุงปารีส ประเทศฝรังเศส และจีนก็กำลังสร้างโรงงานประกอบเครื่องบินโดยสารพลเรือ Airbus A330 ในเทียนจินด้วย และโครงการลงทุ่นร่วมกันระหว่างจีนกับตะวันตกอีกมากมาย มูลค่าการซื้อขายระหว่างจีนกับยุโรปนั้นสูงกว่าฟิลิปปินส์กับยุโรปมากมายนัก ดังนั้นสื่อฯจีนจึงแนะให้รัฐบาลใจฉลาดเดินเกมให้เป็น







อ้อ… ดูภาพที่ 3-4 ประกอบนะครับ ในพื้นที่ทะเลจีนใต้นั้น ไม่ได้มีเฉพาะจีนเท่านั้นที่ครอบครองหมู่เกาะต่างๆอยู่ในตอนนี้ มีทั้งเวียตนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวันด้วย ในภาพที่4 สีแดงของจีน เหลืองของฟิลิปปินส์ ส้มของมาเลยเซีย เขียวมีอันเดียวของไต้หวัน น้ำเงินมีมากที่สุดเป็นของเวียตนาม ถ้าเป็นของฟิลิปปินส์หรือฟิลิปปินส์ยึดครอง ก็เท่ากับเป็นของสหรัฐฯ เพราะว่าทางการของฟิลิปปินส์เพิ่งจะอนุญาตให้กองทัพสหรัฐฯเข้าถึงกองทัพของฟิลิปปินส์ได้แบบชนิดที่ว่าเกือบจะไร้ข้อจำกัด สถานภาพของฟิลิปปินส์ปัจจุบันนี้ไม่ต่างอะไรจากการเป็นเมืองขึ้นหรืออาณานิคมของสหรัฐฯ ซึ่งประชาชนชาวฟิลิปปินส์ส่วนมากก็ดูเหมือนจะพึงพอใจกับสถานะนี้ด้วย - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
03/03/2559
----------
China says Philippine ship towed over safety concerns - People's Daily Online
No more ship-grounding tricks allowed in South China Sea - Global Times
Foreign boat cleared from Chinese reef - World - Chinadaily.com.cn
Work starts on Airbus A330 completion center in Tianjin - Business - Chinadaily.com.cn
New Airbus facility under construction in Tianjin
What we know about Jackson Atoll in disputed sea | News Feature, News, The Philippine Star | philstar.com
Philippine officials say China blocked access to disputed South China Sea atoll | Reuters
China’s Wanda group invests 3 billion euros in EuropaCity in France - People's Daily Online

 

อิสราเอลปลื้ม 6 ชาติอาหรับขึ้นบัญชี “ฮิซบุลเลาะฮ์” เป็นกลุ่มก่อการร้าย โดย
เอบีนิวส์ทูเดย์, มี.ค, 3 - 2016



farsnews / alalam – สื่อของอิสราเอลแสดงความดีใจ หลัง 6 ชาติอาหรับขึ้นบัญชีฮิซบุลเลาะฮ์เป็นกลุ่มก่อการร้าย พร้อมกับถือว่าเป็นการเผชิญหน้าครั้งใหม่ระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบีย

กรณี 6 ประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับในการขึ้นบัญชีฮิซบุลเลาะฮ์เป็นกลุ่มก่อการร้ายกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์อิสราเอลทุกฉบับ

หนังสือพิมพ์ Yedioth Ahronoth รายงานว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตล่าสุดระหว่างซาอุดิอาระเบียและเลบานอน และสืบเนื่องจากที่ฮิซบุลเลาะฮ์มีอิทธิพลมากขึ้นในองค์กรต่างๆในเลบานอน ทำให้ซาอุดีอาระเบียประกาศระงับโครงการช่วยเหลือทางทหารให้กับกองทัพเลบานอนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

หนังสือพิมพ์ เยรูซาเล็มโพสต์ รายงานว่า สมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ได้ขึ้นบัญชีฮิซบุลเลาะฮ์เป็นกลุ่มก่อการร้ายนั้นเป็นการกดดันพันธมิตรของอิหร่านมากขึ้นกลุ่มที่มีอิทธิพลอย่างมากในเลบานอนและมีบทบาทสำคัญในภาวะวิกฤตซีเรีย

หนังสือพิมพ์ดังกล่าว รายงานเสริมว่า การตัดสินใจขึ้นบัญชีก่อการร้ายฮิซบุลเลาะฮ์ครั้งนี้ มีขึ้นหลังการปราศรัยของซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ เพียงวันเดียว ซึ่ง ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าวปราศรัยว่า การที่ซาอุดิอาระเบียได้ระงับโครงช่วยเหลือทางทหารให้กับกองทัพเลบานอนนั้น ทำให้ประเทศได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของความขัดแย้งทางการเมือง อีกทั้งซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ยังได้กล่าวหาซาอุดิอาระเบียที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในเลบานอน

แหล่งข่าว ARUTZ SHEVA รายงานว่า การที่ 6 ประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ขึ้นบัญชีฮิซบุลเลาะฮ์ เป็นกลุ่มก่อการร้ายนั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพของสมาชิกรัฐอาหรับในการเผชิญหน้ากับตัวแทนหลักของอิหร่านในเลบานอน เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างทั้งสองยังคงอยู่ในระดับสูง

แหล่งข่าว ARUTZ SHEVA ระบุอีกว่า ความตึงเครียดมีเพิ่มสูงขึ้นนั้นหลังจากอิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ เป็นการบรรลุข้อตกลงที่จะเพิ่มการแข่งขันในด้านอาวุธนิวเคลียร์มากยิงขึ้น

The Times of Israel ถือว่า การกระทำของประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับในการขึ้นบัญชีก่อการร้ายฮิซบุลเลาะฮ์นั้น อ่าวเปอร์เซียคณะมนตรีความร่วมมือสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นระหว่าง “ซาอุดิอาระเบีย” กับ”อิหร่าน” และรายงานเสริมว่า ริยาดได้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับเตหะรานเมื่อต้นเดือนของปีนี้ จากเหตุการณ์บุกสถานทูตซาอุในเตหะราน

อับดุลลาติฟ อัลซายานี เลขาธิการประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ออกมาแถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 ) ว่า การกระทำของฮิซบุลเลาะฮ์เป็นภัยคุกคามต่อชาติอาหรับ และประกาศว่า เราจะทำทุกมาตรการที่จำเป็นในการต่อสู้กับการก่อการร้ายนี้

เขากล่าวอ้างว่า ฮิซบุลเลาะฮ์ ได้ทำการฝึกอาวุธให้กับบรรดาเยาวชนในสมาชิกอ่าวอาหรับเพื่อก่อการร้ายและพยายามที่จะลักลอบนำวัตถุระเบิดและการปลุกระดม

ขณะที่ชาติอ่าวอาหรับภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียได้บุกโจมตีเยเมนมาเกือบปี ทำลายโครงสร้างขั้นพื้นฐานในเยเมนพังเสียหายจำนวนมาก

อับดุลลาติฟ อัลซายานี เลขาธิการประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ กล่าวว่า ฮิซบุลเลาะฮ์ เลบานอน ได้ปลุกระดมประชาชนในอิรัก เยเมนและซีเรีย

อัลอาลัม เผยว่า ผู้สื่อข่าวของอัลอาลัมในเวสต์แบงก์ รายงานว่า หลังจากที่ประเทศสมาชิกกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับขึ้นบัญชีฮิบุลเลาะฮ์เป็นผู้ก่อการร้าย สร้างความดีใจให้กับทางยิวไซออนิสต์ ในเชิงการเมืองและการทหาร

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

อิสราเอลปลื้ม 6 ชาติอาหรับขึ้นบัญชี “ฮิซบุลเลาะฮ์” เป็นกลุ่มก่อการร้าย | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช

อ่ะเชิบๆ… หน่วยยามชายฝั่งกรีซยึดเรือบรรทุกอาวุธของตุรกีที่จะขนไปยังเลบานอนได้จำนวนมาก (Greece's Coast Guards Seize Turkish Ship Carrying Weapons to Lebanon)



-----------

วันที่ 3 มี.ค.59 Sputnik news รายงานโดยอ้างสื่อฯตุรกีว่า หน่วยยามชายฝั่งของกรีซได้สะกัดและยึดเรือของตุรกีที่บรรทุกอาวุธจะไปยังประเทศเลบานอน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รายงานข่าวบอกว่าเรือลำดังกกล่าวออกเดินทางจากท่าเรือ Izmir ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และโหลดตู้คอนเทนเนอร์จำนวนหกตู้ โดยมีสองตู้บรรจุอาวุธและเครื่องกระสุน ทางการกรีซได้จับกุมลูกเรือ ซึ่งเป็นชาวซีเรีย 6 คน อิเดีย 1 คน และเลบานอน 4 คน



ทางการตุรกีถูกกล่าวหาอยู่บ่อยครั้งว่าให้การสนับสนุนอาวุธแก่กลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่มรวมทั้งที่อยู่ในซีเรียด้วย มีรายงานว่าการจัดส่งอาวุธเหล่านั้นเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ซึ่งรวมทั้งจัดส่งไปกับขบวนรถให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับกรีซอาจจะเสื่อมถอยลงท่ามกลางปฏิบัติการของนาโต้เมื่อเร็วๆนี้ในทะเลอีเจี้ยน (Aegean Sea) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดการไหลบ่าของผู้ลี้ภัยเข้าไปในยุโรป

หมู่เกาะในทะเลอีเจี้ยนเป็นแหล่งที่มาของความตึงเครียดระหว่างกรีซกับตุรกี ตั้งแต่ปี 1970s ซึ่งเกือบจะทำให้ทั้งสองประเทศต้องเผชิญหน้ากันทางทหารในปี 1987 และ 1996 มาแล้ว

[ปฏิบัติการของนาโต้ในทะเลอีเจี้ยน ไม่ใช่ความคิดของกรีซ แต่เป็นของเยอรมันต่างหาก ก่อนหน้านี้ผู้นำของเยอรมันเรียกร้องให้นาโต้ส่งกองกำลังเข้าไปตรวจการสะกัดกั้นเรือผู้อพยพในทะเลอีเจี้ยนและตามชายฝั่งของตุรกี ส่วนความตึงเครียดระหว่างกรีซกับตุรกีครั้งหลังๆมานี้เกิดจากที่ตุรกีส่งเครื่องบินรบของตนเองหาเรื่องและละเมิดน่านฟ้าของกรีซปีละเป็นพันๆเที่ยว ซึ่งบางครั้งกรีซก็ส่งเครื่องบินรบของตนเองไล่กวาดเครื่องบินรบของตุรกีออกไปด้วย ถ้าจะตึงเครียดมากกว่านี้ ก็ตอนที่กรีซดันกล้าไปขัดขวางทางปืนของ Erdogan ในการจัดส่งอาวุธไปให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆในตะวันออกกลางนั่นแหละ

เนื่องจากการจัดส่งอาวุธทางบกผ่านซีเรียและอิรัค ถูกกองกำลังฝ่ายพันธมิตรซีเรียนำโดยรัสเซียสะกัดกั้นและทำลายอยู่หลายครั้ง และรัสเซียก็ส่งโดรน เครื่องบินรบ และดาวเทียมคอยจับตาอยู่อย่างไม่กระพริบ จึงยากที่จะหลบพ้นสายตาของรัสเซียไปได้ งานนี้คุณตุรกีก็เลยเปลี่ยนไปใช้ทางทะเลแทน ก็ไม่พ้นสายตาของกรีซที่จ้องรอจังหวะอยู่เช่นกัน - ผู้แปล]

วันที่ 2 มี.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "แผนของแมร์เกิลตกอยู่ในอันตรายอย่างแรง: ตุรกีปฏิเสธไม่ให้เรือรบของนาโต้เข้าไปในทะเลอีเจี้ยน" (Merkel's Plan in Acute Danger: Turkey Rejects NATO Ships in Aegean Sea)

[นั่นไง... บอกแล้วว่าแผนนี้ไม่ใช่ของกรีซ แต่เป็นของเยอรมัน งานนี้นาโต้กำลังงัดกันเองแล้วครับท่าน ขอปูเสื่อนอนดูเพลินๆก่อนนะ ชอบอ่ะ ฮี่ๆๆ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า ก่อนหน้านี้นาโต้ได้ส่งเรือรบเข้าไปประจำการในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อควบคุมการไหลบ่าของผู้อพยพ แต่ตุรกีไม่ได้ต้องการให้พาหนะใดๆทางทหารของนาโต้เข้าไปในน่านน้ำของตุรกี หนังสือพิมพ์ Deutsche Wirtschafts Nachrichten (DWN) ของเยอรมันรายงาน

[อะไรอ่ะ? ก็ไหนว่าเป็นพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน นี่ยังไม่วางใจกันอีกหรือนี่? มิตรภาพของพวกนาโต้นี้แปลกพิลึกจัง ตุรกีมีอะไรซุกไว้ในทะเลอีเจี้ยนมากกว่าเรือผู้อพยพหรือเปล่า? อ้อ… กรีซช่าวหาคำตอบให้แล้วครับ โป๊ะเช๊ะ! ขอบคุณนะครับคุณกรีซที่ช่วยเฉลยให้หายสงกะสัย - ผู้แปล]

"เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าปธน. Erdogan กำลังหลุดจากการควบคุมของอเมริกาและนาโต้โดยสิ้นเชิง แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้มีการจับตาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในพื้นที่พรมแดนของเขา ในน่านน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างตุรกีกับกรีซ เพราะว่าธุรกิจบางอย่างแบบครบวงจรอยู่ที่นั่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับทางการของตุรกี มีเป้าหมายในการลักลอบขนผู้ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมายจากตุรกีเข้าไปยังเกาะของกรีซด้วย" Semen Bagdasarov ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาตะวันออกกลางและเอเซียกลางกล่าว

อย่างไรก็ตาม ต่อมากรุงอังการาได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว ที่ว่าตุรกีปฏิเสธไม่ให้เรือรบของนาโต้เข้าไปในน่านน้ำอาณาเขตของตนเองในทะเลอาเจียน เพื่อเฝ้าระวังเครือข่ายขบวนการลักลอบขนผู้อพยพผิดกฎหมายที่ดำเนินการระหว่างตุรกีและกรีซ สื่อฯตุรกีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูต [ใครเชื่อคำพูดดังกล่าวบ้างครับ? เงียบกริ๊บ! - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/03/2559
----------
Greece's Coast Guards Seize Turkish Ship Carrying Weapons to Lebanon
Merkel's Plan in Acute Danger: Turkey Rejects NATO Ships in Aegean Sea

 

ปอกเปลือก ทรราช

นับถอยหลังได้หรือยัง? คิมน้อยสั่งให้หน่วยอาวุธนิวเคลียร์ประที่เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดหลังถูกยูเอ็นเพิ่มการคว่ำบาตรโหดทางเศรษฐกิจอีกรอบ



-----------

มีข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกัวเกาหลีเหนือมาเล่าสู่กันฟังซักหน่อยนะครับ วันที่ 3 มี.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากยูเอ็นสั่งแซงชั่นรอบใหม่" (N. Korea launches missile test hours after UN introduces new sanctions)

[ที่แล้วมายังไม่หนำใจสหรัฐฯ งานนี้สหรัฐฯกะเอาให้เกาหลีเหนือตายคามือให้ได้ เกาหลีเหนือก็เลยบอกว่าชินแล้วว่ะ ตามสบายนะลุงแซมจอมอิจฉา งั้นคิมน้อยก็จะไม่แคร์ใดๆทั้งนั้น ฉันก็จะทดลองยิงขีปนาวุธเล่นไปเรื่อยๆ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ (short range missiles) จำนวน 6 ลูกไปยังทะเลญี่ปุ่น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอนุมัติการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อกรุงเปียงยาง เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวจรวดได้บินออกไปประมาณ 100-150 กิโลเมตรก่อนที่จะตกลงในทะเล

Moon Sang Gyun โฆษกกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าวว่า จรวด (ของเกาหลีเหนือ) ถูกยิงออกไปจากมือง Wonsan ชายฝั่งทิศตะวันออกของประเทศเมื่อวันพฤหัสบดี ในขณะเดียวกันหัวหน้าฝ่ายเสธนาธิการของกรุงโซลที่ไม่ประสงค์ออกนามได้แสดงความคิดเห็นว่า ขีปนาวุธได้บินออกไปประมาณ 100-150 กม.ก่อนตกลงในทะเลญี่ปุ่น AP รายงาน

นาย Vitaly Churkin อุปทูตของรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะไม่รับบทเรียนใดๆเด็ดขาด หลังจากการแซงชั่นครั้งล่าสุดโดยคณะมนตรีฯ

"มันหมายความว่า พวกเขาจะยังไม่ได้วาดข้อสรุปที่เหมาะสมเลย" Churkin กล่าว

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า สหรัฐฯรับทราบถึงการยิง (ขีปนาวุธ) และกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ ส่วนนาย Hong Lei โฆษกก.ต่างประเทศของจีนกล่าวว่า กรุงปักกิ่งหวังว่าทุกฝ่ายจะละเว้นจากการดำเนินการที่อาจจะขยายความตึงเครียดในภูมิภาคออกไป

[รัสเซียและจีนก็เป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ร่วมโหวตแซงชั่นเกาหลีเหนือในรอบนี้ด้วย จีนกับรัสเซียกำลังเล่นอะไร? - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา UNSC ได้โหวตให้รับมติที่เป็นการขยายการแซงชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบันออกไปอีกต่อเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง ครั้งนี้รวมถึงการตรวจสอบชิปเม้นท์ (shipment) ทุกอย่างที่เข้าและออกจากเกาหลีเหนือ การสั่งห้ามส่งออกสินค้าอื่นๆที่อาจจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนศักยภาพในเชิงปฏิบัติการทางกองทัพของเกาหลีเหนือ เช่นรถบรรทุก ก็รวมอยู่ด้วย

การแซงชั่นรอบใหม่นี้เป็นการตอบโต้การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเกาหลีเหนือประกาศว่าประสบความสำเร็จในการจุดชนวนระเบิดไฮโดรเจนใต้ดิน

สมัชชาแห่งชาติของเกาหลีใต้ยื่นเรื่องต่อยูเอ็นว่าเกาหลีเหนือได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนนางปาร์ค กึนเฮ (Park Geun-hye) ปธน.ของเกาหลีใต้ได้กล่าวถ้อยแถลงเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการทดลอง (ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้) โดยเธอสาบานว่า "จะทำให้การปกครองแบบทรราชของเกาหลีเหนือนี้สิ้นสุดลง" ให้ได้

[แหม… ถ้าไม่ใส่คำว่า "carried out by North Korea" นี่แอ็ดมินก็จะเข้าใจว่าปธน.ของเกาหลีใต้อาจจะหมายถึงคนที่ทำเนียบขาวก็ได้นะ คริๆ - ผู้แปล]

ส่วนเกาหลีเหนือก็ไม่ยอมให้เกาหลีใต้กล่าวหาอยู่ฝ่ายเดียว ทางกรุงเปียงยางจึงตอบโต้กลับไปว่า "นางปาร์คเป็นเหมือนกับนังค้างคาวตัวเมียที่น่าอัปลักษณ์ มีชะตาที่จะต้องตายอยู่ในถ้ำที่มืดทึบเท่านั้น ร่างกายของหล่อนก็จะห้อยโหนลงมา" [โอ้… คนเกาหลีเหนือเขาด่าเกาหลีใต้แบบนี้เองน้อ ฮ่าๆๆ - ผู้แปล]

รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า แผนการของกรุงโซลที่จะจัดซ้อมรบร่วม (กับสหรัฐฯ) ซึ่งจะมีทหารเข้าร่วมถึง 100,000 กว่านายในเดือนมีนาคม ได้เป็นการจุดไฟโทสะของผู้นำเกาหลีเหนือขึ้นมาจนได้ ซึ่งได้ออกมาตอบโต้โดยการข่มขู่ว่าจะกำหนดเป้าหมายไปที่ทำเนียบสีน้ำเงิน (Blue House) ของประธานาธิบดีในกรุงโซล รวมทั้งฐานทัพของสหรัฐฯในเกาหลีใต้และในแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯด้วย

และแล้ว วันที่ 4 มี.ค.59 Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "กรุงเปียงยางสั่งให้เตรียมพร้อมอาวุธนิวเคลียร์" (Pyongyang Orders Nuclear Weapons to be Placed on Alert)

รายงานข่าวบอกว่า Kim Jong-un ผู้นำของเกาหลีเหนือได้สั่งให้หน่วยอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดเตรียมพร้อมเต็มที่ อ้างว่ามีความจำเป็นที่จะต้องพร้อมใช้งาน "ทุกเวลา"

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่คิมจองอึนเข้าร่วมชมการทดลองใช้เครื่องยิงจรวดหลายลูก (a new multiple rocket launcher) โดยมีคำสั่งให้กองทัพ "เตรียมพร้อม" สำหรับการใช้งานระบบอาวุธที่สามารถจะโจมตีเป้าหมายทางทหารขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ได้

[จริงแล้วการแซงชั่นรอบนี้ถือว่าโหดมากๆเลยนะ แต่เนื่องจากเกาหลีเหนือมีชายแดนติดกับจีนและรัสเซียด้วย มีเส้นทางรถไฟจากรัสเซียวิ่งไปถึงเกาหลีเหนือด้วย จะไปกลัวอะไรหละครับ สหรัฐฯและนาโต้จะไปตั้งด่านตรวจที่ชายแดนของทั้งสองประเทศได้รึ? ถ้าเกาหลีเหนือจะส่งออกอาวุธและสินค้าอื่นๆของตนเองผ่านรัสเซียและจีนไปยัง อิหร่าน ซีเรีย เยเมน สหรัฐฯจะมีปัญญาตรวจเจอรึ? ถ้าสหรัฐฯเก่งขนาดนั้นทำไมถึงไม่ไปสะกัดไม่ให้ตุรกีและซาอุดิอาระเบียส่งอาวุธไปให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆในซีเรียและอิรัคหละ - ผู้แปล]

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/03/2559
----------
https://www.rt.com/news/334428-north-korea-missile-test/
North Korea Fires Short-Range Missiles Into East Sea
Pyongyang Orders Nuclear Weapons to be Placed on Alert

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/jrairRdVCKs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

รัสเซียยืนยันว่ากองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัคยิงเฮลิค็อปเตอร์ของกองทัพตุรกีตกในอิรัคจริง แต่ทางการของตุรกีเงียบกริ๊บ! ฮี่ๆๆๆ ถ้าจะบอกว่า "Yes!" ท่านปธน. Erdogan ของตุรกีคงจะไม่เคืองนะครับ คริๆ
---------------
https://www.youtube.com/watch?v=jrairRdVCKs
https://www.rt.com/news/334377-turkish-helicopter-downed-kurdistan/

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/xYubv7jXtOU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

นาย Donald Tusk ประธานสภาอียูกล่าวถ้อยแถลงว่า "อย่ามาที่ยุโรปเลย อียูของประกาศต่อผู้อพยพด้านเศรษฐกิจ" หลังหารือกับ Alexis Tsipras นายกรัฐมนตรีของกรีซในกรุงเอเธน (3 มี.ค.59) อ้าวววว ก็ไหนว่าอียูมีน้ำใจชอบช่วยเหนือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวโลกผู้เดือดร้อนไม่ใช่รึ ทำไมถึงไม่รับไปเยอะๆหละครับท่าน ทีกับประเทศไทยหละก้อ แหม… บีบให้ไทยรับผู้อพยพชาวโรฮิงญาจังเลยนะ
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=xYubv7jXtOU

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/yikbIuU2XIg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สหรัฐฯส่งคืนยอมส่งคืนเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีลายเซ็นต์ของ Peter the Great, Alexander I, Alexander II และ Joseph Stalin หลังถูกขโมยไปคืนให้รัสเซีย โอ๊ะโอวววว ใครคือหัวขโมยหละนี่?
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=yikbIuU2XIg

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/g323paRRL6o" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

3 มี.ค.59 กองทัพอิรัคระดมพลเตรียมถล่มไอซิสที่จังหวัด Saladin
--------------
https://www.youtube.com/watch?v=g323paRRL6o

 

เพนตากอน ลงนามข้อตกลงขาย“สมาร์ทบอมบ์” ให้ตุรกี
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - มี.ค. 3, 2016



presstv – ขณะที่เกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างอังการากับพรรคแรงงานเคิรด์ (PKK) เพนตากอนได้ลงนามสัญญาข้อตกลงขายสมาร์ทบอมบ์ให้กับตุรกี มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์

การขายระเบิดครั้งนี้ขณะที่มีการประกาศว่ากองทัพตุรกีได้ดำเนินการต่อการต่อสู้และโจมตีชาวเคิร์ดอย่างหนักในภาคเหนือของอิรัก ซึ่งจะทำให้พื้นที่ดังกล่าวยังคงอยู่ในสภาพวิกฤติ

เจ้าหน้าที่ของตุรกีคนหนึ่งออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ชี้ถึงการปะทะและสถานการณ์ที่ตึงเครียดของตุรกีใน “สงครามอสมมาตร” และความต้องการต่อ “สมาร์ทบอมบ์” ถือเป็นข้อตกลงซื้อขายที่ทันเวลา

เพนตากอนได้ขาย bombs Sngrshkn «BLU-109» ครั้งแรกให้กับตุรกีโดยมอบหมายให้กับ บริษัท”Ellwood National Forge” “General Dynamics Avrdnns” และ”Tactical Systems เป็นผู้จัดการส่งมอบ

อังการาคาดว่าการส่งมอบอาวุธดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในปี 2020

ตามรายงานเปิดเผยว่า ระเบิด« BLU-109 » อยู่ในสรรพาวุธของเพนตากอนตั้งแต่ปี 1985 และเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธดังกล่าวในอิรักและอัฟกานิสถาน


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

เพนตากอน ลงนามข้อตกลงขาย“สมาร์ทบอมบ์” ให้ตุรกี | abnewstoday

 

ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

ว่ากันด้วยเรื่อง “ดาวมฤตยูย้ายราศี” ตอนที่ ๑
มีโหรานุโหรตลอดจนนักพยากรณ์มากมายในบ้านเรากล่าวถึง “ดาวมฤตยู” กันมากในช่วงนี้ โดยกล่าวกันไปต่างๆ นานา ตามภูมิความรู้ในศาสตร์พยากรณ์ของแต่ละท่าน บ้างก็ว่าเหตุการณ์บ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่จากรอบวงโคจรของดาว (๑ ราศี ประมาณ ๗ ปี หรือ ๘๔ ปี ใน ๑๒ ราศี) บ้างก็ว่าเป็นดาวแห่งความตายจะโคจรมาทับดวงเมือง บ้างก็ให้ไปทำพิธีรับส่งดาวมฤตยูเช่นเดียวกับที่ไปรับส่งดาวเสาร์หรือพระราหู บ้างก็ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี ๒๔๗๕ ฯลฯ ซึ่งก็ว่ากันไป
แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ดาวมฤตยูที่คำนวณตามแบบดาราศาสตร์ที่ตรงกับความเป็นจริงบนท้องฟ้า “ยกเข้าสู่ราศีเมษ ในเช้าวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๔๗๕” ภายหลังจากการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเพียงแค่วันเดียว แต่กระนั้นนักพยากรณ์ที่เข้าใจอย่างแท้จริงจะทราบว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีนั้น เกิดจากดาวหลายดวงไม่ใช่ดาวมฤตยูเพียงดวงเดียว
ดาวมฤตยูมีอิทธิพลมากมายอย่างเช่นนั้นหรือไม่ admin จะอธิบายขยายความให้เราท่านได้ทราบกันโดยสังเขป ดังนี้
๑.ดาวมฤตยูเป็นดาวเคราะห์ที่เพิ่งคนพบใหม่ โดยถูกค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อ ๑๓ มีนาคม ๒๓๒๔ ก่อนตั่งกรุงเทพฯ เพียง ๑ ปี ดังนั้นจึงไม่มีดาวมฤตยูในปูมโหรของดวงเมืองบ้านเรา และก็ไม่ต้องถกเถียงกันในเรื่องการคำณวณตำแหน่งของดาว เพราะว่าไม่มีสูตรคำณวณดาวนี้ในคัมภีร์สุริยยาตร์ดั่งเดิม ซึ่งจะต้องยึดถือตามตำแหน่งสากลหรือคำนวณตามแบบดาราศาสตร์
๒.ดาวมฤตยูหมายถึงการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมสมัยใหม่ วิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ เหตุเภทภัย เหตุปัจจุบันทันด่วน ฯลฯ ซึ่งโหรทางฝ่ายตะวันตกเป็นผู้เก็บรวบรวมเป็นสถิติเอาไว้ และโหรทางบ้านเรานำมาประยุกต์ใช้ โดยคำพยากรณ์ของดาวดวงนี้ไม่ได้มีกล่าวในคัมภีร์จักรทีปนีซึ่งเป็นแม่แบบหลักที่โหรทางบ้านเรานำมาใช้พยากรณ์
๓.นักพยากรณ์หลายท่านในบ้านเรารังเกียจที่จะนำดาวเนปจูน ดาวพลูโตมาใช้ในการพยากรณ์ บ้างก็ว่าไม่มีในคัมภัร์ดั่งเดิม บ้างก็ว่าเป็นของต่างชาตินำมาใช้ ยังมีสถิติไม่เพียงพอ ฯลฯ ทั้งๆที่ ดาวมฤตยูก็มีที่มาเช่นเดียวกับดาวเนปจูนและดาวพลูโต แต่กลับใช้ดาวมฤตยูกันอย่างพร่ำเพรื่อ
๔.ดาวมฤตยูเป็นดาวแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อโคจรมาร่วมลัคนา (การโคจรเข้าราศีเมษ ถือว่าจรมาร่วมลัคนา) ไม่ใช่ทับลัคนาดวงเมืองอย่างที่เรียกกัน (การโคจรมาทับลัคนาหรือทับดาวใดๆ นั้น ตำแหน่งหรือองศาของดาวจรจะต้องเข้าสู่ระยะประชิดกับดาวเดิม) จะมีผลดีร้ายอย่างไรนั้น admin จะอธิบายให้ทราบกันในตอนที่ ๒ แต่เราท่านสามารถพิจารณาย้อนกลับไปเมื่อ ๘๔ ปีที่แล้ว หลังจากที่มีการปฏิวัติกันในวันที่ ๒๔ มิย. ๒๔๗๕ ว่า “บ้านเมืองดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไรหลังจากที่คณะราษฎร์ทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง
๕.จากพื้นดวงเดิมของดวงเมือง ดาวมฤตยูสถิตย์ราศีเมถุน ที่ ๘ องศา ๕๓ ลิปดา มุมโยคร้าย ๑๘๐ องศากับดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ที่สถิตย์อยู่ที่ราศีธนูที่ ๘ องศาและ ๑๐ องศาเศษ ตามลำดับ ดาวพฤหัสบดีนั้นแทนได้กับกระบวนการยุติธรรม การศาศนา พระสงฆ์องค์เจ้า นักบวช ฯลฯ ซึ่งบ้านเมืองที่มีกระบวนการยุติธรรมที่วิปริต พระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่ครองตนอยู่ในสมณสารูป แก่งแย่งตำแหน่ง บ้ายศบ้าศักดิ์ เป็นอลัชชีกันมาก ฯลฯ ก็มีมูลเหตุในทางโหรมาจากดาวมฤตยูทั้งนั้น
ดาวมฤตยูที่คำนวณทางดาราศาสตร์ที่ตรงกับความเป็นจริงบนท้องฟ้าจะยกเข้าสู่ราศีเมษในวันที่ ๒๗ มิย. ๒๕๕๙ โดยจะพักร์ถอยหลังและยกกลับเข้าสู่ราศีมินอีกครั้งในวันที่ ๓๑ สค. ๒๕๕๙ จากนั้นจะโคจรยกเข้าราศีเมษในวันที่ ๘ เมษ. ๒๕๖๐ ดังนั้น “ดาวมฤตยูจะยังไม่มีผลใดๆ” เลยกับดวงเมืองของบ้านเราในช่วงนี้
โดยในต้นเดือน มีค. ๒๕๕๙ นี้ จะเกิดปรากฎการณ์ “ดาวพฤหัสบดีเพ็ญ” และ “สุริยคราส สรรพคราส” ขึ้นในวันที่ ๘ และ ๙ มีค. ๒๕๕๙ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติใหญๆ ได้ ทั่วโลก แต่กระนั้น “ดาวมฤตยูก็ไม่ใช่เจ้าการใดๆ” ในครั้งนี้
บ้านเมืองที่อาจจะมีปัญหานั้น เกิดจากดาวเสาร์ เจ้าเรือนกัมมะ (แทนการบริหารราชการงานเมือง) และดาวอังคาร ตนุลัคน์หรือดาวประจำเมือง โคจรเข้าสู่เรือนมรณะ ไม่ใช่เกิดจากดาวมฤตยูตามที่กล่าวอ้างกันไม่
เราท่านทั้งหลายพึงพินิจพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเชื่อคำพยากรณ์ใดๆ
Admin ดิลก แสงอุทัย

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=454415431421976&id=230961073767414

 

รัฐปัตตานีที่ผู้ร่วมก่อการที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ใช่รัฐอิสลามแบบสันติ แต่เป็นรัฐอิสลามแบบสุดโต่ง แบบไอเอส ความวุ่นวายจะไม่จบถึงจะได้รัฐปัตตานีของเขาซึ่งเราคนไทยคงไม่ยอมแนนอน

จับตา! “บีอาร์เอ็น” ส่งรหัสสำคัญ ยึดแนวทาง “ญิฮาด” ตามแบบ “วะฮาบีตักฟีรี” โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ -มี.ค. 5, 2016



#“อาวัง ยาบัต” ประธานมาราปาตานี (MARA PATANI) ขณะกล่าวปาฐกถา โดยมีหนังสือ Fiqh Jihad อยู่เบื้องหลัง

รหัสสำคัญผ่านหนังสือ “Fiqh Jihad” ระหว่างประธานมาราปาตานีขณะกล่าวปาฐกถา ส่งสัญญาณชัด “บีอาร์เอ็น” ยึดแนวทางต่อสู้และ “ญิฮาด” ตามแบบนิกาย “วะฮาบีตักฟีรี”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้ จัดงาน“วันสื่อสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ครั้งที่ 3 และสมัชชาสันติภาพ 2016” ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี

จุดสนใจของงานนี้ อยู่ที่การปาฐกถาของบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายขบวนการฯ ที่ส่งเทปวิดีโอมา

บุคคลที่น่าจับตามากที่สุด คือ “อาวัง ยาบัต” ประธานมาราปาตานี (MARA PATANI) เพราะนอกจากการปาฐกถาในหัวข้อ “ความท้าทายและก้าวต่อไปการพูดคุยเพื่อสันติภาพ” ที่เป็นการบันทึกเทปส่งมาเป็นภาษามลายูและมีซับไตเติ้ลภาษาไทยแล้ว เสมือนว่าขบวนการฯ มีเจตนาส่งสัญญาณสำคัญบางอย่างผ่าน “ปกหนังสือ” ที่อยู่บนชั้นเหนือศีรษะของเขา

[IMG[https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/fr/cp0/e15/q65/12495234_822967504497521_4033600372072533438_n.jpg?efg=eyJpIjoidCJ9&oh=3924185006fd5789cafbc59ae9cc1759&oe=57506AD8&__gda__=1464571742_ba76c7fc9bd3e0fc8efda225233face7[/IMG]

#ปกหนังสือ “Fiqh Jihad” เขียนโดย “เชค ยูซุฟ กอระฎอวี”

โดยในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่การปาฐกถาของประธานมาราปาตานีนั้น บนตู้หนังสือฉากหลังปรากฏว่า มีหนังสือชื่อ “Fiqh Jihad” (ฟิกห์ญิฮาด) แปลว่า “ศาสนาบัญญัติว่าด้วยการญิฮาด” ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ถูกจับวางไว้อย่างตั้งใจในจุดที่โดดเด่นของเฟรมวิดีโอ ถึง 2 เล่มพร้อมทั้งหันหน้าปกออกมาให้เห็นชัดเจน โดยหนังสืออีกเล่มที่หันหน้าปกออก คือ คัมภีร์อัลกุรอาน ขณะที่เล่มอื่นๆ ล้วนหันสักปกออกทั้งสิ้น

หากนี่คือรหัส ก็แปลเจตนาของขบวนการฯ ได้ว่าต้องการส่งสารถึงผู้เกี่ยวข้องว่า แนวทางการต่อสู้ของขบวนการฯ นั้นจะยึดแนวทางของอัลกุรอานและหนังสือ “ศาสนาบัญญัติว่าด้วยการญิฮาด” เล่มนี้

ทั้งนี้หนังสือ “Fiqh Jihad” เขียนโดย “เชค ยูซุฟ กอระฎอวี” นักวิชาการศาสนาอิสลามชื่อดังที่มีแนวคิดแบบ “วะฮาบี” ซึ่งอิทธิพลทางความคิดของเขาส่วนหนึ่งส่งผลต่อความวุ่นวายยุ่งเหยิงของตะวันออกกลางในขณะนี้

โดย ยูซุฟ กอระฎอวี เป็นชาวอียิปต์ปัจจุบันลี้ภัยและได้รับสัญชาติกาตาร์ เคยถูกหน่วยงานด้านความมั่นคงอียิปต์จับกุมตัวในข้อหาเป็นสมาชิกและบิดาแห่งจิตวิญญาณพรรคอิควานมุสลิม หรือ ภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) และในข้อหาออกคำวินิจฉัยส่งเสริมยุยงให้เกิดการเข่นฆ่า และนองเลือด

ทางการอียิปต์ระบุว่า เขามีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ถูกประกาศจับของตำรวจสากล

กอระฎอวี เป็นผู้ก่อตั้ง องค์กรสหภาพนักวิชาการมุสลิมนานาชาติ (International Union of Muslim Scholars – IUMS) ในปี 2004 ซึ่งเป็นองค์กรนักวิชาการมุสลิม มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศกาตาร์ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิควาน

คลิปวิดีโอการกล่าวปาฐกถา (ที่มายูทูป บัญชี DeepSouthWatch)

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/ jvEbrF2o97w " frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://m.youtube.com/watch?v=jvEbrF2o97w

อิทธิพลทางความคิดของ “ยูซุฟ กอระฎอวี” มีส่วนสร้างความยุ่งเหยิงในโลกอาหรับ ตัวอย่างเช่น
ลิเบีย

เป็นผู้ออกคำฟัตวา (วินิจฉัยทางศาสนา) สนับสนุน กลุ่มต่อต้านมุอัมมาร์ กัดดาฟี แหล่งลิเบีย และออกฟัตวาอนุญาตให้สังหารกัดดาฟีได้

เขาได้กล่าวว่า “บรรดานักรบคนใดก็ตามที่สามารถสังหารกัดดาฟีได้ และใครก็ตามที่สามารถรับใช้ประเทศ และเหล่าบ่าวของพระเจ้าได้ ด้วยการยิงกระสุนเพียงหนึ่งลูก จงกระทำในสิ่งนั้น และฉันได้ออกคำฟัตวานี้แล้ว”
อิรัก

ฟัตวาแทรกแซงอิรัก โดยกล่าวโจมตี นูรี มาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรัก (ขณะนั้น) ว่าสังหารมุสลิมซุนนีในประเทศ และให้การร่วมมือกับอิหร่านและฮิซบุลเลาะห์ โดยกล่าวว่า

“พี่น้องอะฮลิซุนนะฮ์ของเรากำลังทำสงครามในอิรัก และกำลังปกป้องศาสนาและชีวิตของพวกเขา อิรักกลายเป็นของชีอะฮ์เท่านั้น และมาลิกีคือผู้อธรรม พี่น้องของเราต้องอดทนหลายต่อหลายครั้ง ทว่านูรี มาลิกี ก็ยังคงดำเนินตามแผนงานของตนเองอยู่ต่อไป เขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียแล้วยังร่วมมือกับ อิหร่านและฮิซบุลเลาะห ชีอะฮ์ทุกคนกำลังต่อต้านอะฮลิซุนนะฮ์ พวกเขาคือผู้ละเมิดบนหน้าแผ่นดิน เราจะเตือนมาลิกีและทุกคนที่สนับสนุนว่า ว่านี่คืออันตรายที่พวกเจ้าได้ทำสงครามกับ ประชาชาติหนึ่ง ซึ่งมีอะฮลิซุนนะฮ์เป็นจำนวน 90 เปอร์เซ็นต์ และตราบใด ที่พวกเจ้ายังคงเดินหน้าทำสิ่งนี้ และตราบใดที่ยังสังหารอะฮลิซุนนะฮ์อยู่ เราจะไม่ยอมรับมัน”
ซีเรีย

กอระฎอวีได้เรียกร้องทุกคนที่สามารถต่อสู้และญิฮาดได้ ให้เข้าร่วมรบในซีเรียต่อต้านบาชาร์

เขากล่าวฟัตวา ในโดฮา กาตาร์ว่า “เป็นวาญิบ (จำเป็น) ต่อรัฐบาลอาหรับและอิสลามทุกรัฐบาล ที่จะต้องลุกขึ้นช่วยเหลือชาติซีเรียที่ถูกกดขี่”

และในอีกวาระหนึ่ง เขาได้กล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามที่สนับสนุนบะชาร์ ขอพระเจ้าจงสาปแช่งเขา และพระเจ้าจะต้องแก้แค้นกับพวกเขา ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้มุสลิมทุกแผ่นดิน ว่า เมื่อใดก็ตามที่พวกท่านมีความสามารถจะทำการปกป้องพี่น้องของพวกท่าน จงไปที่นั่น และหากสามารถจะทำสงคราม ดังนั้น พวกท่านจงไปทำสงครามเถิด”
ตุรกี

หลังเหตุตุรกีสอยเครื่องบินรัสเซียบริเวณชายแดนซีเรียจนนำมาสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างสองฝ่าย และรัสเซียเริ่มใช้มาตรการทางเศรษฐกิจตอบโต้ตุรกีนั้น ปรากฎว่า กอระฎอวีได้ออกแถลงการณ์ในนามองค์กรสหภาพนักวิชาการมุสลิมนานาชาติ ระบุว่า มุสลิมจำเป็น ต้องให้การสนับสนุนและยืนอยู่ข้างตุรกี รวมทั้งเรียกร้องให้มุสลิมและประเทศอิสลามหนุนตุรกีในทุกๆ ด้าน รวมถึงการสนับสนุนสินค้าเเละด้านเศรษฐกิจ
ความขัดแย้งกับนักการศาสนามหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร

เนื่องจากการออกทัศนะและฟัตวาที่รุนแรงของเขาทั้งในเรื่องภายในของอิยิปต์และโลกอิสลาม ทำให้ ยูซุฟ กอระฎอวีถูกวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิอย่างรุนแรง โดยผู้รู้อิสลามในอิยิปต์ และ ม.อัลอัซฮัร

เชค มะฮัมมัด ชะฮาต อัลญุนดีย์ สมาชิกองค์กรเจรจาอิสลาม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราจะต้องตระหนักว่า เกอระฎอวีไม่ใช่แบบอย่างและผู้นำของเรา อิสลามต่างหากคือผู้นำของเรา อิสลามคือศาสนาที่เรียกร้องให้มุสลิมเป็นปึกแผ่น ไม่ใช่แตกแยกกันระหว่างพวกเขากับประชาชน”

เชคมูฮัมมัด อับบัสฏูยีซีย์ ประธานสมาพันธ์อิมามนมาซญะมาอัต และ นักการศาสนาอิยิปต์ ได้กล่าวว่า “เชคยูซุฟ กอระฎอวี จะถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัยในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร”
ความสัมพันธ์กับอิสราเอล

ในปี 2010 หนังสือเล่มหนึ่งฉบับภาษาฝรั่งเศส ชื่อ “กาตาร์มิตรที่ไม่ดีสำหรับเรา” ถูกตีพิมพ์ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ มีเรื่องการตั้งสถานีโทรทัศน์อัลจาซีร่าของกาตาร์ รวมถึงเป้าหมายที่เปิดเผยและ ซ่อนเร้น และการเล่นบทสกปรกในการบิดเบือนสถานการณ์ในโลกอาหรับ เจ้าของหนังสือคือ นิโคลา พู และ ช๊าก มารีย์ เปิดเผยถึง ความสัมพันธ์ระหว่าง เจ้าชายกาตาร์ และยูซุฟ กอระฎอวี กับ มอสสาด และ สภาคองเกรสของอเมริกา

เจ้าของหนังสือ ระบุถึงการปรากฎตัวของ ยูซุฟ กอระฎอวี ในเทลอาวีฟ ตามคำกล่าวของ รองประธานสภา อัลจีเรีย และคำยืนยันของภรรยาคนที่สามของ ยูซุฟ กอระฎอวี ที่ชื่อ อัสมาอฺ บิน กอฎะฮ์ ซึ่งระบุว่า กอระฎอวีได้เดินทางไปอิสราเอล ในปี 2010 อย่างลับๆ

ภรรยาคนที่สามของ อัล-เกาะเราะฎาวีย์ ได้ออกมาเปิดเผย ถึง ความสัมพันธ์ ระหว่าง สามีของนางกับหน่วยงานลับอิสราเอล และยังเปิดโปงความสัมพันธ์แบบลับๆ ระหว่างผู้นำกาตาร์ โดยใช้อิทธิพลและตำแหน่งศาสนาของกอระฎอวีในโลกอิสลามในการดำเนินตามแผนการของ อิสราเอล และ สหรัฐฯ
เป็นศัตรูกับชีอะห์

แต่เดิมกอระฎอวี มีมุมมองที่มเป็นมิตรต่อชีอะห์​ แต่มาในช่วงหลายปีหลัง กอรฎอวีกลับต่อต้านและกล่าวประณามชีอะห์อย่างหนักหน่วง

ในปี 2009 (ก่อนเกิดวิกฤตซีเรีย) กอระฎอวีให้การสนับสนุนบะชัรและกองทัพซีเรีย และ ฮิซบุลเลาะห์ แต่หลังจากที่เดินทางไปอิสราเอลปี 2010 ในปี 2011 เขาออกฟัตวา ให้ฆ่าบะชัร ทหารของรัฐบาล และให้ต่อสู้กับฮิซบุลเลาะห์

นอกจากนี้ กอระฎอวี ยังได้รับฉายาจากสื่อมวลชนและโลกอาหรับบางส่วนว่าเป็น “นักการศาสนาของนาโต้” (the NATO Mufti) เพราะเมื่อมีวิฤตหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโลกมุสลิม กอระฎอวีมักออกคำวินิจฉัยที่สอดคล้องและรองรับแนวทางและคำประกาศของนาโตเสมอมา

จากรหัสสำคัญของ “อาวัง ยาบัต” ประธานมาราปาตานี ในครั้งนี้ที่ส่งสัญญาณว่า แนวทางการต่อสู้และ “ญิฮาด” ของ “บีอาร์เอ็น” นั้นยึดโยงตามแนวทางหนังสือ “Fiqh Jihad” ของ ยูซุฟ กอระฎอวี นักการศาสนาซึ่งมักมีคำวินิจฉัยส่งเสริมและยุยงให้เกิดการเข่นฆ่า และนองเลือด ซึ่งชัดเจนว่าเป็นไปตามแบบ “วะฮาบี” และ “ตักฟีรี” (วินิจฉัยว่าผู้อื่นตกศาสนา) จนทำให้โลกอาหรับระอุยุ่งเหยิงวุ่ยวายไม่รู้จบสิ้นอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจากนี้ต่อไปจึงน่าจับตาว่าสถานการณ์ชายแดนใต้จะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป!!


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

จับตา! “บีอาร์เอ็น” ส่งรหัสสำคัญ ยึดแนวทาง “ญิฮาด” ตามแบบ “วะฮาบีตักฟีรี” | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช

อัยย๊ะ! ตำรวจสเปนยึดเครื่องแบบทหารของขบวนการก่อการร้ายดาอิชได้ถึง 20,000 ชุด นาโต้ว่าไงครับ?



-----------

เมื่อวานนี้หน่วยยามชายฝั่งของกรีซเพิ่งจะยึดเรือบรรทุกอาวุธของตุรกีที่เตรียมจะส่งไปยังเลบานอนได้สองตู้คอนเทนเนอร์ ในวันเดียวกันนี้ก็มีข่าวนี้ปรากฎออกมาอีก เอ… รู้สึกว่าฝ่ายที่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวข้องกับไอซิสนี่จะเป็นพันธมิตรนาโต้และพันธมิตรของสหรัฐฯแทบทั้งนั้นเลยนะครับ



อ่านข่าว... วันที่ 4 มี.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ตรวจพบยูนิฟอร์มทหารสำหรับดาอิชจำนวน 20,000 ชุดในสเปน" (20,000 Military Uniforms Destined for Daesh Discovered in Spain) ส่วน The New York Post ของสหรัฐฯพาดหัวข่าวว่า "สเปนยึดเครื่องแบบทหารจำนวน 20,000 ชุดได้เชื่อมดยงไอซิส" (Spain Seizes 20,000 Military Uniforms Bound for ISIS)

กรุงมาดริด - เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ทางการของประเทศสเปนได้ประกาศว่า ได้ยึดชุดทหารจำนวน 20,000 ชุดที่กำลังส่งออกทางเรือจากท่าเรือของสเปนไปให้สมาชิกผู้ก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ กระทรวงมหาดไทยของสเปนรายงาน

เครื่องแบบเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่ประกาศว่าเป็น "เสื้อผ้ามือสอง" (secondhand clothing) เพื่อผ่านศุลกากร กระทรวงกล่าว และถูกซ่อนไว้ในตู้คอนเทนเนอร์สามตู้ที่ดักจับได้ที่ท่าเรือ Valencia และ Algeciras นอกจากนี้ยังมีการยึดสิ่งของทางทหารประเภทอื่นๆด้วย

กระทรวงมหาดไทยของสเปนกล่าวในแถลงการณ์ว่า การตรวจยึดอุปกรณ์เหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับการจับกุมบุคคลจำนวน 7 คนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งต้องสงสัยว่ามีส่วนสนับสนุนด้านเครือข่ายโลกิสติก ที่จัดส่งยุทโธปกรณ์ไปให้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส ซึ่งรวมทั้งกลุ่มอัลนุสราฟรอนท์ที่เป็นสาขาย่อยของขบวนการก่อการร้ายอัลเคด้าในซีเรียด้วย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางการของสเปนได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นถึงกองเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ยึดมาได้ ต่อมาโฆษกก.มหาดไทยของสเปนกล่าวว่า เครื่องแบบเหล่านั้นไม่ได้ผลิตในประเทศสเปน และว่าจะมีการตรวจสอบเพื่อระบุว่าเครื่องแบบเหล่านั้นมาจากไหน

ทางการสเปนพยายามจะปัดมลทินให้พ้นตัว จึงกล่าวว่า "ยังไม่ชัดเจนว่าเครื่องแบบเหล่านั้นมีเจตนาที่จะนำไปใช้สำหรับภารกิจเฉพาะใดๆหรือไม่"

[อึ่มมมม ก็ไม่รู้สินะ... ว่าผลิตในสเปนหรือไม่ กำลังรอคำตอบอยู่เหมือนกันว่ามาจากไหน? ถ้าสุดท้ายแล้วพบว่าผลิตในสเปนก็งานเข้าหละครับท่าน ทางการสเปนน่าจะยกหูโทรศัพท์ไปถามปธน. Erdogan หรือปธน.โอบาม่านะ อาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้ - ผู้แปล]

รางายข่าวกล่าวต่ออีกว่า ห้าในเจ็ดคนที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่ผ่านมาเป็นพลเมืองชาวสเปน [ฮ่าๆๆ ฮิ้วววว ขนาดนี้แล้ว ทางการสเปนยังพยายามแถอยู่อีกหรือนี่? - ผู้แปล] เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ณ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยว่า เครือข่ายที่กำลังจัดส่งยุทโธปกรณ์ไปให้เหล่าผู้ก่อการร้ายไอซิสใช้การขนส่งสินค้าในรูปแบบของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบังหน้า ผู้ต้องสงสัยทั้งเจ็ดคนถูกจับกุมคนละที่ในเมืองต่างๆในภาคตะวันออกของสเปน ซึ่งรวมทั้งเมือง Ceuta ที่แอฟริกาด้วย

[เมืองนี้อยู่คนละฝั่งกับเมือง Gibraltar ของช่องแคบ Gibraltar ที่ถูกอังกฤษยึดไปจากสเปนในปี 1713 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่คืนให้สเปนเลย สเปนก็ข้ามไปยึดเมือง Ceuta ที่อยู่ตรงข้ามกันของ Morocco แทน - ผู้แปล]

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่มีเครื่องแบบในวันพุธ ทางการของสเปนยังไม่ได้เปิดเผยว่าจุดหมายปลายทางของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวคือที่ใด?

[อ้อ… มีอีกข่าวหนึ่งคล้ายกันนี้ สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่ากองมีขบวนรถขนสิ่งของช่วยเหลือจำนวนมากจากตุรกีเข้าไปสนับสนุนให้กับขบวนการก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ในเมือง Azaz จังหวัด Aleppo ของซีเรียซึ่งไม่ไกลจากพรมแดนของตุรกี เมืองแห่งนี้เป็นจุดที่ทางการตุรกีต้องการมาก ประกาศว่าหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ให้กองกำลังชาวเคิร์ด YPG ยึดเมืองแห่งนี้ได้เด็ดขาด จุดมุ่งหมายก็เพื่อใช้เมืองนี้เป็นฮับในการกระจายอาวุธและเสบียงกองหนุนไปให้กลุ่มก่อการร้ายต่างๆในซีเรียนั่นเอง แล้วสหรัฐฯและอียูทำอะไรบ้างไหม? ก็นาโต้ด้วยกันอ่ะ จะไปทำอะไรกับตุรกีได้หละครับ - ผู้แปล]

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
04/03/2559
----------
20,000 Military Uniforms Destined for Daesh Discovered in Spain
http://www.nytimes.com/2016/03/04/w...00-military-uniforms-bound-for-isis.html?_r=0
https://www.rt.com/news/334483-turkey-nusra-ypg-exclusive/
https://www.youtube.com/watch?v=0M00c-2YRhw
https://www.youtube.com/watch?v=pjsTcGk88uQ

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/ 5atsKREi3Oo " frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ธนาคารของจีนขนาดใหญ่ 4 แห่งระงับการโอนเงินหยวนและเงินดอลล่าสหรัฐฯไปยังเกาหลีเหนือ หนังสือพิมพ์ Tokyo Shimbun ของปุ่นรายงาน ส่วนปูตินก็กำลังหารือร่วมกันกับสมช.ของรัสเซียเกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน ถ้าจีนเล่นงานเกาหลีเหนือแรงเกินไป คิมอาจจะปล่อยลูกบ้าออกมาจริงๆ งานนี้ ความฝันของจีนที่ต้องการจะใช้เกาหลีเหนือเป็นกันชนสหรัฐฯในคาบสมุทรเกาหลีใต้อาจจะลดลงไปก็ได้ แต่ในขณะที่จีนพยายามใช้ไม้แข็งกับเกาหลีเหนืออยู่นั้น รัสเซียก็จ้องเสียบแทนเช่นกัน แต่ถ้าโฉ่งฉ่างเกินไปก็จะทำให้จีนแสดงความไม่พอใจรัสเซียได้ ก็จะเข้าทางสหรัฐฯและตะวันตกที่ต้องการเห็นจีนกับรัสเซียทะเลาะกันอยู่แล้วนั่นเอง ต้องรอดูว่ารัสเซียจะมีท่าทีอย่างไรกับเกาหลีเหนือต่อไปหลังประชุมสมช.ของรัสเซีย
---------------
https://www.youtube.com/watch?v=5atsKREi3Oo
https://www.rt.com/business/334540-china-cashflow-north-korea/

 

ปอกเปลือก ทรราช

นายกฯทรูโด้ของแคนาดาแนะนำให้ชาวอเมริกันออกจากกะลาหันไปดูโลกกว้างบ้าง ว้าววว! แรงส์อ่ะ



-----------

วันที่ 5 มี.ค.59 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "ทรูโด้กล่าวว่า ชาวอเมริกันจำเป็นต้องให้ความสนใจต่อโลกภายนอกมากว่านี้ ส่วนชาวอเมริกันถามกลับว่า ทรูโด้คือใครหรือ?" (Trudeau: ‘Americans Need to Pay More Attention to World,’ Americans: ‘Who?’)

Oh, Cannada!… ผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆนี้บอกกว่ามีชาวอเมริกันเพียงแค่ 38% เท่านั้นที่อาจจะรู้จักชื่อของนายกรัฐมนตรีของเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของสหรัฐฯ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นายกฯจัสติน ทรูโดหยุดป่าวประกาศเลย ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสำนักข่าว CBS ของแคนาดา [ปูตินก็เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแห่งนี้มาแล้ว มันส์หยดเลยหละ - ผู้แปล] ว่า "น่าจะดีกว่า หากว่าชาวอเมริกันให้ความสนใจต่อชาวโลกเพิ่มขึ้นสักนิดนึง" (it might be nice if Americans paid a little more attention to the world.)

[แปลว่าอะไรครับท่านนายกฯ พูดภาษาชาวโซเชียลแบบบ้านๆที่เราเจอบ่อยๆในโลกอินเตอร์เน็ทก็คือ "ออกจากกะลาครอบ" บ้างเถอะครับคุณชาวอเมริกันทั้งหลาย แรงนะนั่นหนะ - ผู้แปล]

โชคร้ายสำหรับนายกฯทรูโด้ ซึ่งจะดีมากหากกว่าชาวอเมริกันอีก 62% ที่ไม่รู้ว่าทรูโด้เป็นใคร ได้ดูรายการ "60 นาที" ที่เขาให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์นี้

การเรียกร้องให้ชาวอเมริกันได้รู้จักกับวัฒนธรรมทั่วโลกได้รับการเน้นย้ำโดยผู้นำรูปหล่อของแคนาดาคนนี้ ซึ่งไม่ได้ละความพยายามที่จะแสวงหาการได้รับเกียรติจากประชาชนชาวอเมริกัน "ผมคิดว่า บางครั้งพวกเรามักจะคิดว่า ชาวอเมริกันจะเริ่มให้ความสนใจพวกเราเป็นครั้งคราว ซึ่งคุณก็รู้เช่นกัน"

นายกฯทรูโด้ยังได้แนะนำอีกว่า "การสนับสนุนให้ชาวอเมริกันได้มีส่วนร่วมในกิจการทั่วโลก ถือว่าเป็นภารกิจตามปรกติของประชาชนชาวแคนาดา"

[อูยยยยส์ จะดีหรือครับท่าน แค่พวกนักการเมืองของสหรัฐฯไม่กี่คนก็ยังทำให้โลกนี้ปั่นป่วนได้ถึงขนาดนี้แล้วนะ ถ้ามาทั้งประเทศนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหละนี่? แต่ก็จะพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นะครับ หากว่าประชาชนชาวอเมริกันหันมาให้ความสนใจกับสถานการณ์โลกมากขึ้นกว่านี้ อาจจะมีส่วนช่วยยับยั้งการบ้าอำนาจและบ้าสงครามของฝ่ายรัฐบาลอเมริกันก็ได้ การเหยียดผิวสี และความรุนแรงในสหรัฐฯอาจจะลดลงมากกว่านี้ก็ได้ - ผู้แปล]

"การได้รับรู้เพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังดำเนินไปในส่วนอื่นๆของโลกใบนี้ ผมคิดว่า เป็นสิ่งที่ชาวแคนาดาคาดหวังสำหรับชาวอเมริกันนะครับ" นายกฯจัสติน ทรูโดกล่าว นายกฯแคนาดามีกำหนดเดินทางไปเยือนปธน.บารัค โอบาม่าที่กรุงวอชิงตัน ในวันที่ 10 มีนาคมนี้

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
05/03/2559
----------
Trudeau: ‘Americans Need to Pay More Attention to World,’ Americans: ‘Who?’
Trudeau to Visit Washington on March 10

 

ปอกเปลือก ทรราช

ตุรกีเดือด! ทางการสั่งปิดปากสื่อฯอีกแล้วครับท่าน



-----------

วันที่ 4 มี.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ตำรวจตุรกีจู่โจมสำนักงานใหญ่ของหนังสือพิมพ์ Zaman ของฝ่ายค้านทั้งแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วง" (Turkish police raid opposition Zaman daily HQ, unleash tear gas & water cannon on protesters)

ส่วนอีกข่าวหนึ่ง RT news พาดหัวข่าวว่า "ศาลมีคำสั่งให้หนังสือพิมพ์ Zaman อยู่ในการควบคุมของรัฐบาล สร้างความกังวลต่อการละเมิดเสรีภาพของสื่อฯ" (Court orders Turkish Zaman daily into administration, raising concerns of free press abuse)

สำนักข่าว Hurriyet Daily News ของตุรกีพาดหัวข่าวว่า "คณะกรรมการด้านการสื่อสารได้รับการแต่งตั้งให้เข้าควบคุมกิจการของกลุ่ม Zaman media" (Trustees appointed to Zaman media group)

สื่อฯตุรกีรายงานว่า คณะกรรมการฯได้รับการแต่งตั้งให้ไปดูแลกลุ่มสื่อฯในเครือ Zaman ของตุรกี (ที่อิสตันบูล) ซึ่งได้รับการพิจารณาว่ามีการเชื่อมโยงกับ Fethullah Gülen นักวิชาการของอิสลามในสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีของตุรกีกล่าวหาว่าเป็นผู้นำของ "ขบวนการก่อการ้าย" มีจุดมุ่งหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลตุรกี

[กรรม! นาย Fethullah Gülen ดันไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐฯกับโอบาม่าเฉยเลย ทำไมสหรัฐฯถึงได้รับบุคคลที่เพื่อนซี้อย่าง Erdogan บอกว่าเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายหละนั่น? แบบนี้ก็เท่ากับว่าสหรัฐฯให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายด้วยนะสิ แต่ว่า ทั้งโอบาม่าและแอร์โดกันต่างก็ต้องการที่จะโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดของซีเรียที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วทีอย่างนี้ โอบาม่า แอร์โดกัน คิงซาอุดิอาระเบีย เหล่าผู้นำตะวันตกจะไม่เข้าข่ายเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายในฐานะที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลของประเทศอื่นบ้างหรือนี่? - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า ศาลอาญาแห่งสันติภาพที่6 ของอิสตันบูล (The Istanbul 6th Criminal Court of Peace) ได้มีคำสั่งให้ Feza Gazetecilik ซึ่งเป็นกลุ่มสื่อมวลชนที่ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ Zaman รายวัน และหนังสือพิมพ์ Today’s Zaman ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการด้านกิจการสื่อสารมวลชนตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมเป็นต้นไป ตามคำสั่งของสำนักอัยการในอิสตันบูล

[หลังจากศาลมีคำสั่งให้มีการเข้าไปควบคุมสำนักงานใหญ่ของหนังพิมพ์ดังกล่าว ฝ่ายลูกจ้างพนักงานและประชาชนทั่วไปจำนวนมากก็ก่อการประท้วงและเข้าขัดขวาง ฝ่ายผู้รักษากฎหมายที่อยู่ภายใต้คำสั่งของปธน. Erdogan ก็ทำการสลายม็อบด้วยแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำ เหตุการณ์ชุลมุนมาก - ผู้แปล]

คราวนี้มาดูฝ่ายสหรัฐฯบ้างว่าจะมีท่าทีอย่างไรเกี่ยวกับกรณีนี้ นาย Mark Toner โฆษกก.ต่างประเทศของสหรัฐฯอ่านแถลงการณ์ว่า "พวกเราพบว่าเหตุการณ์นี้เป็นครั้งล่าสุดในการพิจารณาคดีที่น่าหนักใจและการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย โดยรัฐบาลตุรกีที่มีเป้าหมายที่สื่อสารมวลชน และเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับสื่อฯ...พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลตุรกีรับประกันว่าจะเคารพต่อกระบวนการอย่างเต็มที่และปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย การกำกับดูแลตามคำสั่งของศาลเกี่ยวกับการเงินของสื่อฯและการดำเนินกิจการ ไม่ควรนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงห้องข่าวหรือนโยบายเกี่ยวกับกองบรรณาธิการ"

นาย Mark Toner กล่าวต่ออีกว่า "พวกเราไม่คิดว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการรักษาค่านิยมตามแบบประชาธิปไตยที่ดี ในฐานะเพื่อนของตุรกีและพันธมิตรของนาโต้ - พวกเรายังนับว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งของตุรกี และแน่นอนว่าพวกเราก็เป็นพันธมิตรของนาโต้ด้วย - พวกเราขอเรียกร้องให้ทางการของตุรกีรับประกันการดำเนินการของตนเองให้เป็นไปตามคุณค่าของประชาธิปไตยสากล เป็นไปตามรัฐธรรมนูญของตุรกี" RT news รายงาน

ส่วนนาย Nils Muižnieks คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสภายุโรปกล่าวว่า "เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการมอบหมายให้คณะกรรมการดูแลกิจการสื่อสารมวลชนของตุรกีเข้าควบคุม สื่อฯในเครือ Koza İpek ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นการแทรกแซงเสรีภาพของสื่อฯอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ควรจะมีที่ยืนในสังคมประชาธิปไตย"

ส่วนนาย Nils Muižnieks กล่าวต่ออีกว่า "นี่เป็นครั้งล่าสุดในการจำกัดเสรีภาพของสื่อฯในตุรกีที่ไม่อาจจะยอมรับได้และไม่เหมาะสม และก็เป็นการตอกย้ำถึงรูปแบบที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการล่วงละเมิดอำนาจศาลต่อสื่อฯหรือผู้สื่อข่าวที่ไม่เห็นด้วย (กับฝ่ายรัฐบาล) ในประเทศตุรกี" Hurriyet Daily News ของตุรกีรายงาน

วันที่ 3 มี.ค.59 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่า ได้มีการดำเนินคดีฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท (insulting) จากประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกี ต่อประชาชนของตนเองเกือบ 1,845 คดี นับตั้งแต่ Erdogan เป็นประธานธิบดีได้ 18 เดือนที่ผ่านมา และได้มีการสั่งจำคุกสูงสุดเป็นเวลาสี่ปีแก่เด็กนักเรียนและนักข่าวหลายคน

[เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญของตุรกีได้พิจารณาตัดสินว่าบก.ของหนังสือพิมพ์ Cumhuriyet ของตุรกีสองคนที่ถูกทางการดำเนินคดีในข้อหาเปิดเผยความลับของรัฐบาล เนื่องจากเผยแพร่ข่าวและหลักฐานว่าทางการของตุรกีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย - ผู้แปล]

วันที่ 3 มี.ค.59 Sputnik news รายงานว่า ปธน. Erdogan กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ตนเองไม่รับหรือเคารพต่อคำตัดสินของศาล เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสรีภาพของสื่อฯ [สิ่งที่ปธน. Erdogan อยากจะพูดก็คือ ไม่มีเสรีภาพของสื่อฯในตุรกีต่างหากหละ เพราะว่านายแอร์โดกันเจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนไอซิสไม่รับอำนาจศาล แต่แปลกนะที่เขากลับไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นศาล - ผู้แปล]

นาย Bekir Bozdağ รมว.ยุติธรรมได้ออกมาสนับสนุนจุดยืนของ Erdogan โดยกล่าวว่า การตัดสินของศาลสูงไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ Bekir Bozdağ ยังได้กล่าวอ้างอีกว่า มันเป็นสิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยของนาย Erdogan ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การพิจารณาคดีของศาล [ฮ่าๆๆๆ เอากับพวกนักการเมืองหัวหมอของตุรกีสมัยนี้สิ ยกเลิกศาลทิ้งเถอะนะคุณ Erdogan ให้ครอบครัว ญาติ และเพื่อนฝูงของคุณปกครองทั้งประเทศแทนละกัน - ผู้แปล]

"รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินของศาลได้ แต่เขาไม่สามารถกล่าวได้ว่าการพิจารณาตัดสินของศาลผิด จากมุมมองตรงนี้ พวกเรายกเลิกศาลทิ้งซะ และก็ก่อตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งจ้างแรงงานของประชาชน ผู้ที่จะรับภาระเกี่ยวกับการดำเนินคดีตามสิ่งที่ประธานาธิบดีและรัฐมนตรียุติธรรมต้องการ" ศาสตราจารย์ İbrahim Kaboğlu ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะทำงานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของตุรกีกล่าว (เชิงประชด)

[เอางี้สิคุณแอร์โดกัน เปลี่ยนไปเป็นการปกครองแบบซาอุดิอาระเบียเลย หรือไม่ก็แบบสมญาณาสิทธิราชเต็มตัว ตั้งตัวเองเป็นสุลต่านแอร์โดกันขึ้นมาเลย หรือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนาซีเยอรมันก็ได้ อำนาจทุกอย่างอยู่ที่ผู้นำเท่านั้น รัฐธรรมนูญมีเพียงมาตราเดียวก็คือ "คำสั่งของแอร์โดกันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอและปฏิเสธไม่ได้" - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
05/03/2559
----------
Trustees appointed to Zaman media group - CRIME
https://www.rt.com/news/334547-turkey-newspaper-zaman-administration/
https://www.rt.com/news/334367-insult-cases-erdogan-turkey/
Turkey Files Over 1,800 Criminal Cases for Insulting President - Reports
Turkey's President vs Top Court: Erdogan's Remarks 'Violate Constitution'

 

บุกทลายเครือข่ายธุรกิจเชื่อมไอซิสในสเปนยึดเครื่องแบบทหารราว 20,000 ชุด
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - มี.ค. 5, 2016



#ภาพจาก https://twitter.com/policia

presstv – กระทรวงมหาดไทยสเปนเผยว่าสามารถยึดเครื่องแบบทหารราว 20,000 ชุด ซึ่งมีจุดหมายปลายทางส่งมอบแก่พวกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและอันนุศราฟรอนต์ที่กำลังปฏิบัติการในซีเรียและอิรัก

กระทรวงมหาดไทยสเปน รายงานจาก ตำรวจสเปนเมื่อวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) ว่าเครื่องแบบเหล่านี้ยึดได้ในบาเลนเซีย และอลิกันเต สองเมืองท่าทางตะวันออกของประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว ระหว่างตำรวจเข้าทลายปฏิบัติการลักลอบขนอาวุธของกลุ่มก่อการร้าย

ถ้อยแถลงของตำรวจระบุว่า ในตอนนั้นว่ามีผู้ต้องสงสัย 7 คนถูกจับกุม ส่วนหนึ่งในการสืบสวนโครงข่ายต่างชาติที่ให้การสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงแก่พวก ไอซิสและอัล-นุสรา ฟรอนต์ เครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2014

ตำรวจเผยว่า ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้จัดส่งยุทธภัณฑ์ทางทหาร เงิน วัสดุอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร อาวุธขนาดเล็กและสารตั้งต้นสำหรับผลิตระเบิดไปยังซีเรียและอิรัก 
ตำรวจเผยว่า สามารถยึดเครื่องแบบทหารราว 20,000 ชุด เพียงพอสำหรับกำลังพลทั้งกองทัพ ซึ่งมีจุดหมายปลายทางส่งมอบแก่พวกนักรบไอซิสและอัล-นุสรา ฟรอนต์ ที่กำลังปฏิบัติการในซีเรียและอิรัก

ตำรวจเผยว่า เครื่องแบบเหล่านี้ถูกพบซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้ที่ยึดได้ในบาเลนเซีย และอลิกันเต สองเมืองท่าทางตะวันออกของประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว ระหว่างตำรวจเข้าทลายปฏิบัติการลักลอบขนอาวุธของพวกกลุ่มก่อการร้ายที่ใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องอำพราง
หนึ่งในบริษัทที่บริหารโดยพวกผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้ามือสอง การขนส่งคราวนี้ ดำเนินการผ่านตู้คอนเทนเนอร์ที่แอบแฝงภายใต้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากระบบ “ฮาวาลา” เป็นการโอนเงินแบบไม่เป็นทางการจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่งบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งแกะรอยยากกว่าการโอนเงินผ่านธนาคาร

ตำรวจเผยว่า “เครื่องแบบทหารราว 20,000 ชุดและเครื่องประดับ เป็นไปได้ที่จะเพียงพอสำหรับจัดหาให้ทั้งกองทัพ ที่พร้อมเข้าสู่การประจัญบานในสมรภูมิใดๆ ที่พวกองค์กรก่อการร้ายกำลังสู้รบอยู่ทั่วโลก”


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

บุกทลายเครือข่ายธุรกิจเชื่อมไอซิสในสเปนยึดเครื่องแบบทหารราว 20,000 ชุด | abnewstoday

 

โค้งสุดท้ายแก้ไขพ.ร.บ.ปิโตรเลียม กฤษฎีกาเพิ่มเติม"ระบบจ้างผลิต"ชงครม.พิจารณา. updated: 06 มี.ค. 2559 เวลา 13:11:00 น.

กฤษฎีกาใกล้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมแล้วเสร็จ หลังเพิ่มวิธีการ "จ้างผลิต" สำหรับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ จ่อหารือสรรพากร ประเด็นผู้ถูกจ้างผลิตต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ เอ็นจีโอบี้ขอให้ชัดเจนเงื่อนไขและควรนำวิธีประมูลมาใช้ในแปลงสัมปทานที่การแข่งขันสูง

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับใหม่ว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างแก้ไขรายละเอียดใหม่ ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นสั่งให้เพิ่มรูปแบบของการให้สิทธิ์สำรวจ และผลิตปิโตรเลียมด้วยการ "จ้างผลิต (Service Contract)" จากเดิมที่มีเพียงระบบสัมปทาน กับระบบแบ่งปันผลผลิต หรือ PSC (Production Sharing Contract)

นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังเตรียมให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ-กรมสรรพากร เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของ 1) รายละเอียดของการจ้างผลิต 2) ควรมีกฎหมายออกมารองรับการใช้รูปแบบจ้างผลิตหรือไม่ และ 3) ผู้ประกอบการในรูปแบบจ้างผลิตข้างต้นจะเข้าข่ายต้องเสียภาษีเงินได้ นิติบุคคลหรือไม่

เนื่องจากในระบบสัมปทานปิโตรเลียมที่ใช้ใน ปัจจุบัน ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายในส่วนของภาษีเงินได้ปิโตรเลียมกับค่าภาคหลวงทาง กระทรวงพลังงานกล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับปรับปรุงแก้ไขใหม่ จะแล้วเสร็จได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากนั้นเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาก่อนที่จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ว่า กระทรวงพลังงานจะเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นขอสิทธิ์ในการสำรวจและผลิต ปิโตรเลียมรอบที่ 21 ได้ภายในต้นปี 2560

"ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ค่อนข้างใช้เวลานานมาก เพราะได้มีการเพิ่มรูปแบบการให้สัมปทานที่มีความแตกต่างจากที่เคยใช้ ทางกระทรวงต้องเสนอต่อ สนช.เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และมีการปรับแก้ตามที่มีการนำเสนอจากภาคประชาชนด้วย" แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ใช้รูปแบบการจ้างผลิตในปัจจุบันมีเพียงประเทศมาเลเซีย ที่ใช้เฉพาะกับแปลงสัมปทานที่มีการดำเนินการผลิตมาแล้ว และใกล้หมดอายุสัญญา ที่สำคัญคือ สามารถระบุปริมาณปิโตรเลียมคงเหลือที่ชัดเจนได้ แต่ในส่วนของประเทศไทยเป็นแหล่งปิโตรเลียมใหม่ที่เตรียมจะเปิดให้ผู้ประกอบ การที่สนใจยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางแปลงไม่เคยมีการสำรวจทางธรณีวิทยามาก่อนด้วยซ้ำ โดยผู้ที่จะพิจารณาว่า แปลงสำรวจใดควรใช้รูปแบบไหนนั้น ได้แก่ คณะกรรมการปิโตรเลียม

ด้านนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า แม้ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมจะเปิดรูปแบบการให้สิทธิ์สำรวจและผลิตไว้ 3 แนวทางก็ตาม แต่ในเชิงรายละเอียดของเงื่อนไขยังไม่มีการเปิดเผยว่า จะบริหารจัดการกันเป็นอย่างไร ทางศูนย์จึงมีข้อเสนอว่า หากเป็นพื้นที่ใหม่และยังไม่เคยมีการสำรวจมาก่อนให้ใช้รูปแบบสัมปทานเหมือน ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อลดความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการ หากเป็นพื้นที่ที่มีข้อมูลชี้ชัดถึงปริมาณปิโตรเลียมควรใช้รูปแบบแบ่งปันผล ผลิต และหากเป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการมาก่อนแล้วควรใช้รูปแบบจ้างผลิต

นอกจากนี้ ทางศูนย์เห็นว่า กระทรวงพลังงานไม่ควรเปิดให้สิทธิ์เพื่อสำรวจและผลิตแบบลอตใหญ่เหมือนที่ ผ่านมา ควรปรับให้เป็นแปลงหรือลอตเล็ก ๆ ตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดการแข่งขันได้ทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ ด้วย รวมถึงควรนำวิธีประมูลมาใช้ในแหล่งที่มีการแข่งขันสูงเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานต้องการเปิดให้ผู้สนใจยื่นขอสิทธิ์ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 ตั้งแต่ช่วงปี 2558 แต่ต้องยกเลิกประกาศออกไป เนื่องจากเกิดการคัดค้านจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ภาคประชาชน" ที่กดดันรัฐบาลให้มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติปิโตรเลียมใหม่ โดยอ้างสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ส่งผลให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจให้กระทรวงพลังงานเลื่อนการเปิดให้สิทธิ์เพื่อสำรวจและผลิตออกไป จนกว่าพระราชบัญญัติดังกล่าวจะแก้ไขแล้วเสร็จ

โค้งสุดท้ายแก้ไขพ.ร.บ.ปิโตรเลียม กฤษฎีกาเพิ่มเติม"ระบบจ้างผลิต"ชงครม.พิจารณา : Prachachat Mobile

 

ปอกเปลือก ทรราช

สหรัฐฯรู้สึกกังวลใจกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย แต่จะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ระยะไกล B-52 เข้าไปในซีเรีย รัสเซียส่งเรือพิฆาต Smetlivy จากทะเลดำไปรอต้อนรับในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน



-----------

1.) วันที่ 3 มี.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯ 'รู้สึกกังวลใจอย่างย่ิง' เกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นสูงของรัสเซีย" (US 'Very Concerned' About Advanced Russian Air Defense Systems)

พล.อ.อ. Mark Welsh หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการจากกองทัพอากาศของสหัฐฯกล่าวต่อคณะกรรมธิการด้านอาวุธแห่งวุฒิสภาของสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการขยายศักยภาพการป้องกันและโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ในแง่ของความพยายามของสหรัฐฯที่จะพัฒนากองทัพอากาศของตนเองให้มีความทันสมัย

[รัสเซียพัฒนาและขยายระบบป้องกันภัยทางอากาศของตนเอง แต่สหรัฐฯบอกว่ามีความกังวลใจซะงั้น ทำไมรึ? จะทำให้สหรัฐฯโจมตี รุกราน และหาเรื่องรัสเซียไม่ง่ายอีกต่อไปใช่ไหมครับท่านนายพล? ที่แท้ก็เพื่อหาข้ออ้างในการเพิ่มงบกลาโหมให้กับตนเองนั่นเอง ไม่มีเหตุผลใดที่จะฟังดูเข้าท่านอกจากจะอ้างรัสเซีย หรือไม่ก็จีนที่มีแสนยานุภาพทางกองทัพพอที่จะรับมือกับจักรวรรดิเฮเกโมนี่ได้ - ผู้แปล]

"ผมรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงได้ยืนยันว่าพวกเราจะต้องปรับปรุงให้ทันสมัย" Gen. Welsh กล่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับศักยภาพของสหรัฐฯต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วย S-400 รุ่นใหม่ของรัสเซีย

"ในอนาคต รัสเซียจะส่งออกแสนยานุภาพใหม่ๆของพวกเขา ตามสายงานของพวกเขา และแสนยานุภาพรุ่นใหม่ของพวกเขาจะแซงหน้า (ดีกว่า) ของพวกเรา อากาศยานของรัสเซียกำลังบินอยู่เหนือ 53 ประเทศ"

[ว่ากันตามหลักการของเสรีภาพและทุนนิยมแล้ว ทุกฝ่ายก็ควรที่จะมีสิทธิ์พัฒนา เผยแพร่ และค้าขายกันโดยเสรีอย่างเท่าเทียมกันไม่ใช่รึ เมื่อรัสเซีย (และจีน) หันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมบ้าง แล้วทำไมสหรัฐฯถึงได้แสดงความกังวลหละนี่? สหรัฐฯต้องการที่จะให้ประเทศต่างๆทั่วโลกซื้อเครื่องบินรบเฉพาะจากสหรัฐฯเท่านั้นอย่างนั้นหรือ? มันเป็นประชาธิปไตยและเสรีภาพตรงไหนหละนั่น? พอตัวเองอยากจะแข่งขันกับคนอื่นก็อ้างเรื่องเสรีภาพ พอคนอื่นทำได้ดีกว่าตน ก็บอกว่าเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อตนเองซะงั้น - ผู้แปล]

รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ รัสเซียได้ทำสัญญากับซีเรียเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 และสัญญาฉบับใหม่กับอิหร่านที่จะจัดส่ง S-400 ไปให้อิหร่านในอนาคตด้วย ระบบดังกล่าวมีศักยภาพในการป้องกันการรุกรานอากาศยานของฝ่ายตรงข้าม

[เสร็จแน่ซาอุดิอาระเบียและอิสราเอล รวมทั้งสหรัฐฯด้วยที่ฝันว่าจะได้ฮุบอิหร่าน งานนี้อิหร่านไม่ได้ stand alone อีกต่อไปแล้วนะครับ

ก่อนหน้านี้ทางการอิหร่านส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้ามาปรึกษากับรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องอาวุธและเทคโนโลยีทางทหารของรัสเซีย อิหร่านพูดตรงๆเลยว่าอยากได้เทคโนโลยีและอาวุธที่ทันสมัยของรัสเซียไปไว้ครอบครอง อันที่จริงอิหร่านก็สนใจของยุโรปด้วย แต่อิหร่านเห็นบทเรียนของจากรัสเซียและบทเรียนโดยตรงจากตนเองมาแล้ว

ถ้าอิหร่านพึ่งพาอาวุธจากตะวันตกเป็นจำนวนมากเมื่อไร วันดีคืนดีตะวันตกอาจจะงดส่งอาวุธเหล่านั้นให้อิหร่านเอาดื้อๆ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าตะวันตกจะยกเรื่องอะไรมาเป็นข้ออ้างก็ได้ทั้งนั้น อิหร่านไม่ต้องการโดนแบบนั้นอีก ดังนั้นจึงหันมาหารัสเซีย

แต่ถ้าพึ่งพาแต่จากรัสเซียด้วยการซื้ออย่างเดียว ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าถ้าเกิดรัสเซียไม่พอใจอิหร่านเมื่อไร รัสเซียอาจจะทำอย่างตะวันตกก็ได้ ดังนั้นอิหร่านก็เลยบอกว่า ขอให้รัสเซียช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูงทางทหารให้กับกองทัพของอิหร่านได้ไหม เช่นรถถัง T-90s หรือระบบขีปนาวุธต่างๆ เหมือนกับที่รัสเซียร่วมมือกับจีน หรืออินเดียและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ประเทศเหล่านั้นนำไปพัฒนาต่อยอดเอาเอง

ตอนนี้รัสเซียก็กำลังพิจารณาจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะร่วมมือกับอิหร่านในส่วนนี้ แน่นอนว่ารัสเซียจะไม่ปล่อยของดีออกไปทั้งหมดอยู่แล้ว และรัสเซียก็จะตามไปถือหุ้นในบริษัทเหล่านั้นในต่างประเทศด้วยเช่นกัน แอ็ดมินก็ฝันไปว่ารัฐบาลคสช.ของพวกเราก็คงจะมีวิสัยทัศนะไม่ด้อยไปกว่า จีน อินเดีย และอิหร่านในเรื่องนี้หรอกนะครับ

Sputnik news รายงานเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2009 โดยอ้างข่าวจากนิตยสารออนไลน์ของสหรัฐฯฉบับหนึ่งว่า สหรัฐฯได้ซื้อเครื่องบินรบ Su-27UB Flanker-C (ของรัสเซีย) จำนวน 2 ลำจากประเทศยูเครนผ่านบริษัทเอกชน (Pride Aircraft) อ้างว่านำไปใช้ฝึกรับมือจากผู้รุกราน และในปี 1995 ก็ซื้อ Su-27sจำนวน 2 ลำจากประเทศเบลารุสไปแล้วเช่นกัน

แถมเกร็ดความรู้ให้อีกนิดหนึ่ง นอกจาก Su-27UB แล้ว สหรัฐฯยังซื้อเครื่องบินรบ MiG-29UB Fulcrum-B ของโซเวียตไปใช้ถึง 3 ลำด้วยนะครับ เอิ่มมมมม… ไม่ยักกะรู้ว่าสหรัฐฯก็นิยมก็อปของรัสเซียไปใช้แบบเนียนๆเหมือนกันนะนี่ ส่วนเกาหลีเหนือก็มี MiG-29 ของรัสเซียจำนวน 35 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิด Su-25 ที่กำลังแสดงแสนยานุภาพอยู่ในซีเรียขนะนี้อีก 34 ลำ และอื่นๆอีก แค่ MiG-29 จากค่าย Mikoyan ของรัสเซียก็เจ๋งแล้ว

มาเลเซียเพื่อนบ้านเรามีเครื่องบินรบของรัสเซีย Sukhoi Su-30MKM 18 ลำ Mikoyan MiG-29 อีก 12 ลำ และ Boeing F/A-18D Hornet ของสหรัฐฯ 8 ลำ BAE Hawk ของอังกฤษ 19 ลำ และอื่นๆอีก ขานี้ชอบผสมค่ายเหมือนกับหลายประเทศ ส่วนอินโดนีเซียก็ใช้ทั้งของค่ายนาโต้และรัสเซียเช่นกัน มีทั้ง Su-30MKK, Su-27 จากค่ายรัสเซียและ F-16 Block 32+ ของสหรัฐฯและอื่นๆด้วย

ส่วนประเทศของผู้ชนะสิบทิศ (เมียนมาร์) มี MiG-29 จำนวน 31 ลำ (บางแห่งบอกว่า 14 ลำ) หม่องก็ไม่ธรรมดานะครับ ถ้าไม่อยากถูกเผากรุงศรีฯรอบที่สามก็อย่าได้เอา F-16 หรือ Saab JAS-39 Gripen C/D ไปตอแยกับ MiG-29 ของหม่องเด็ดขาดนะครับ ยกเว้นคุณจะมี MiG-29K (G4++) หรือ Su-35BM (G4++) หรือ PAK FA T-50 ของรัสเซียซะก่อน แต่ทุกวันนี้คงไม่ต้องรอให้หม่องมาเผาหรอก เพราะว่ารอบที่ 3 และ 4 พวกคนไทยขายชาติบางกลุ่มมันพากันชิงตัดหน้าหม่องเผากรุงรัตนโกสินทร์ไปเรียบร้อยแล้ว (ปี 52 และปี 53) - ผู้แปล]

2.) มาดูความเคลื่อนไหวทางกองทัพของสหรัฐฯต่ออีกซักข่าวนะครับ วันที่ 5 มี.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯอาจจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 Stratofortress เข้าร่วมในแคมเปญจ์โจมตีทางอากาศใส่ไอซินในเดือนเมษายนนี้" (B-52 Stratofortress may join air campaign against ISIS in April)

[เพิ่งจะแสดงความกังวลไปหยกๆเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย ไม่กี่วันต่อมาก็บอกว่าจะส่งรุ่นเดอะเข้าไปบอมบ์ไอซิสในซีเรียซะแล้ว - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาว่าจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ (นิวเคลียร์) ระยะไกลอย่าง Boeing B-52 Stratofortress เข้าไปต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสใกล้เมือง Kobani (Kobane) รายงานข่าวอ้างโดยเจ้าหน้าที่จากกองทัพอากาศของสหรัฐฯ B-52 Stratofortress สามารถทิ้งระเบิดที่มีน้ำหนัก 32 ตันครั้งละหลายลูกได้พร้อมๆกันด้วย

[Kobani เป็นเมืองหนึ่งที่กองกำลังชาวเคิร์ดเข้าไปยึดไว้หลังจากที่ถูกกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯถล่มอย่างหนักเมื่อปี 2014 อยู่ในพื้นที่ของจังหวัด Aleppo ของซีเรียติดกับชายแดนตุรกี เมืองที่ตุรกีและไอซิสกำลังแย่งจากฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังชาวเคิร์ด YPG อยู่ในขณะนี้ก็คือเมือง Azaz ถ้าสหรัฐฯโจมตีเมืองนี้อย่างหนักจริง ก็คงจะมีสภาพไม่ต่างจากเมือง Konaki ที่เละไม่เป็นชิ้นดีมาแล้วแน่นอน - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า B-52s จะเข้าไปประจำการแทนเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ซุปเปอร์โซนิก Rockwell B-1 Lancer ซึ่งได้โจมตีตำแหน่งของผู้ก่อการร้ายใกล้เมือง Kobani ในซีเรียมาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน และปัจจุบันนี้ก็กำลังจะกลับไปประจำการที่ฐานทัพอากาศในรัฐเท็กซัส ประเทศสหัฐอเมริกา รายงานจากกองทัพอากาศของสหรัฐฯกล่าว เจ้าหน้าที่จากกลาโหมยังได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวกับสำนักข่าว Fox News ของสหรัฐฯด้วย

ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าสหรัฐฯจะส่ง B-52s เข้าไปประจำการเพื่อต่อต้านพวกจีฮาดิสต์จำนวนกี่ลำ และยังไม่ชัดเจนว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดลำมหึมาของอเมริกันนี้จะไปประจำการอยู่ในฐานทัพแห่งไหนในยุโรป

รายงานข่่าวบอกว่า ตลอดเวลาหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา เครื่องบินรบของสหรัฐฯที่ทิ้งระเบิดใส่ไอซิสในอิรัค ได้ขึ้นบินจากฐานทัพอากาศในซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯในภูมิภาคดังกล่าว

จากเดือนสิงคหาคม 2558 เป็นต้นมาสหรัฐฯได้ใช้ฐานทัพอากาศ Incirlik ของตุรกีเพื่อโจมตีเป้าหมายผู้ก่อการร้ายในซีเรีย B-52 ของสหรัฐฯสร้างขึ้นในปี 1962 (จำนวน 744 ลำ) กองทัพอากาศของสหรัฐฯยังคงปรับปรุงเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นนี้ให้มีความทันสมัย (สำรองไว้ 18 ลำ) ครั้งล่าสุดที่สหรัฐฯใช้งาน B-52s ก็คือในปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน สหรัฐฯจะยังคงให้ B-52 ประจำการต่อไปจนถึงปี 2040 เป็นอย่างต่ำ

เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา กองบัญชา (กลาง) การของสหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปบินระดับต่ำเหนือน่านฟ้าของเกาหลีใต้เพื่อแสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์และความมุ่งมั่นของตนเอง หลังจากที่เกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งล่าสุด

เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2558 สหรัฐฯก็ส่ง B-52 ไปโฉบเหนือน่านฟ้าของเกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ กรุงปักกิ่งได้ออกมาตำหนิเพนตาก้อนต่อเหตุการยั่วยุดังกล่าว และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐฯก็ส่ง B-52 เข้าประจำการในยุโรปเพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบในประเทศนอร์เวย์

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมา รัสเซียได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ของตนอย่าง Tu-160s (Blackjack), Tu-95s (hug), and Tu-22s (Blinder) ไปปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศในรัสเซีย เพื่อโจมตีเป้าหมายผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย Tu-22s ทำหน้าที่ทิ้งระเบิดรุ่นเก่า ส่วน Tu-160s และ Tu-95s ใช้ขีปนาวุธครูซ Kh-101 ที่มีความแม่นยำสูงจากอากาศยานพิสัยไกล

[ก็ประมาณว่า พอเห็นรัสเซียอวดของดีบ้าง สหรัฐฯก็อยากจะเอามาโชว์บ้างว่างั้นเถอะ กรรมของซีเรียแท้ๆ ว่าแต่ว่างานนี้สหรัฐฯจะส่ง B-52 ไปบอมบ์กองทัพซีเรีย หรือกองกำลังชาวเคิร์ด YPG พันธมิตรของทั้งสหรัฐฯและรัสเซีย หรือว่าผู้ก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ พันธมิตรของตุรกีหละครับท่านโอบาม่า? - ผู้แปล]

3.) ไหนๆก็พูดถึงเรื่องความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอาวุธและทางทหารแล้ว งั้นก็ขอต่ออีกซักข่าวนะครับ คราวนี้เป็นข่าวจากฝั่งรัสเซียบ้าง วันที่ 6 มี.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เหยียบคันเร่งเต็มพิกัด! เรือรบรัสเซียกำลังแล่นสู่ภารกิจในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน" (Full Speed Ahead! Russian Warship Sets Sail for Mediterranean Mission)

[ภารกิจอะไรหรือครับท่านปูติน? ภารกิจถอนขนไก่งวงและหักปีกอินทรีย์ สอย B-52 ของสหรัฐฯ อุ๊ยยยย แอ็ดมินแค่พูดเล่นเองนะครับ ท่านโอบาม่าไม่ต้องต๊กกะใจนะ - ผู้แปล]

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า เรือพิฆาต Smetlivy จากกองเรือทะเลดำของกองทัพเรือรัสเซียจะเดินทางออกจากเมือง Swvastopol ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ (จากไคร์เมีย) และกำลังมุ่งหน้าไปที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ซึ่งเรือรบลำนี้จะรับภารกิจ

แถลงการบอกว่าเรือพิฆาต Smetlivy มีกำหนดเข้าร่วมภารกิจในกองทัพเรือของรัสเซียในวันที่ 7 มีนาคมนี้ ปัจจุบันนี้มีเรือรบของรัสเซียจำนวน 15 ลำ และเรือสนับสนุนอื่นๆกำลังปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมทั้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนด้านโลจิสติกให้กับกองทัพอากาศของรัสเซียและกองทัพบกของซีเรียด้วย

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ มีรายงานข่าวว่า หน่วยเฉพาะกิจในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากกองทัพเรือของรัสเซียซึ่งรวมทั้งเรือรบต่างๆจากทะเลดำ ทะเลบอลติก และกองเรือภาคเหนือ และกองเรือแปซิฟิก อาจจะได้รับการเข้าร่วมภารกิจโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน Admiral Kuznetsov ของรัสเซียในภาคฤดูร้อนของปี 2559 นี้ด้วย

[เอาหละสิครับท่าน มันไม่ใช่แค่ศึกปราบไอซิสในซีเรียเท่านั้นนะนั่นหนะ ปูตินกำลังเตรียมทัพเรือชุดใหญ่เข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดึงสนามรบออกห่างจากหน้าบ้านตัวเองชัดๆ ใครจะเจอแจ็กพ็อตก่อนระหว่างไก่งวงโดดๆ หรือนาโต้นำโดยสหรัฐฯ อียูจะยอมเล่นเกมนี้ด้วยหรือ? ]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
07/03/2559
----------
US 'Very Concerned' About Advanced Russian Air Defense Systems
U.S. buys Su-27 fighters from Ukraine for 'aggressor' training
https://en.wikipedia.org/wiki/Sukhoi_Su-27
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_active_United_States_military_aircraft
https://en.wikipedia.org/wiki/Mikoyan_MiG-29
https://www.rt.com/usa/334625-b-52-syria-airstrikes-isis/
The B-52 could rise again, this time to fight ISIS
Full Speed Ahead! Russian Warship Sets Sail for Mediterranean Mission
https://en.wikipedia.org/wiki/Russian_destroyer_Smetlivy

 

....ดูจะไปกันใหญ่ล่ะนะฮะ ท่านผู้ชม!!!

 

ปอกเปลือก ทรราช

สหรัฐฯสั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โอคะนีในรัฐ South Carolina หลังเกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้หม้อแปลงไฟฟ้า



-----------
วันที่ 7 มี.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "เหตุการณ์ไม่ปรกติ: ปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์โอคะนีหลังเกิดการระเบิดและไฟไหม้ที่หม้อแปลไฟฟ้า" (‘Unusual event’: Oconee nuclear reactor shut down after transformer explosion & fire)



หนึ่งในเครื่องปฏิกรณ์หลายเครื่องที่สถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โอคะนี (Oconee Nuclear Station) ของสหรัฐฯได้ถูกปิด หลังจากเกิดการระเบิดหลายครั้ง และเกิดไฟไหม้ทำให้หม้อแปลงไฟได้รับความเสียหาย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (ของสถานีฯ) ประกาศว่าเหตุการณ์ดังกล่าว "ไม่ปรกติ" (unsual) แต่เน้นย้ำว่าไม่มีภัยคุกคามจากการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
มีการส่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุเพื่อดับไฟ และจะยังคงอยู่ในสถานที่เกิดเหตุเพื่อให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ประจำสถานี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ทะเลสาบ Keowee ใกล้เมือง Seneca รัฐเซาท์แคโรไลน่า
เจ้าหน้าที่กล่าวว่ายังไม่มีความเสี่ยงถึงระดับที่จะต้องอพยพหรือหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจร ได้มีการเปิดเครื่องปฏิกรณ์หน่วยที่ 1 แต่ยังคงเดินเครื่องหน่วยที่ 2 และ 3 สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอกตัวอาคาร สาเหตุเกิดจากการทำงานผิดพลาดของระบบหม้อแปลงไฟฟ้า (malfunctioned) และเกิดไฟไหม้เวลา 3.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีอายุการใช้งานมานานแล้ว โดยเปิดใช้งานในปี 1973
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
07/03/2559
----------
https://www.rt.com/usa/334749-oconee-nuclear-transformer-fire/
https://www.youtube.com/watch?v=0IsdxPih1KY