รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 25 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    จากผลที่ทำได้แล้วผ่ามมาก่อน
    ขั้นอธิจิต ก็ไม่พ้นเกี่ยวกับฝันมะโน
    แบบหลุดออกไปแล้วก็ไปพบมนุษย์ที่เจริญ
    กว่าเรา ท่านอยู่ฝ่ายโลกวิญญาณ พอเราทะลุมิติ
    ไปหากันได้ในโลกของท่านผู้เจริญแล้ว ทางนั้นก็อาจจะเรียกเราว่าเป็นมนุษย์ต่างมิติ มนุษย์ต่างดาว
    สำหรับบ้านเค้าเมืองเค้าก็ได้เมื่อออกจากภพภมิตรงนั้นมาแล้ว ถ้าเบื่อเบื่อยังไม่พอ
    นะท่าน มันต้องเบื่อหน่ายคลายจากสิ่งที่ไปยึดติด
    ในสิ่งที่ท่านไปยินดียินร้ายเข้าว่าเป็นเราของเรา มันใช่ของเราของเขาที่ไหนกัน เมื่อนั้นจิตท่านก็จะคลาย
    ออก จิตย่อมวิมุตหลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นแล้วก็จะรู้ได้จากญานว่าท่านพ้นแล้ว ความรู้แบบนี้ถ้าไม่ถึงจริง
    ย่อมอธิบายไม่ได้ มะโนเอาก็ไม่ได้จะเป็นวิปัสสนึก
    นึกเอาคิดเอา จนเป็นอุปาทานใหญ่
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ใครฟังลพ.พุธ ลองจับประเด็นเรื่อง ลักขณูปนิชฌานดูนะ เราว่าสำคัญมากๆ วันนี้ฟังเป็นครั้งที่2แล้ว
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คุณแสดงธรรม คัดค้านหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ลองฟังลพ.พุธดูนะ บางท่านถนัด อารัมณูปนิชฌาน

    แต่บางท่านอาจถนัด ลักขณูปนิชฌาน (เวลามีความรู้ความคิดเกิดขึ้น เข้าใจผิดว่าฟุ้งซ่าน จริงๆแล้วไม่ใช่) .. ลองหาฟังกันเอาเอง
     
  5. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    การปฎิบัติธรรม ถ้าจะปฎิบัติตามใจตน เอาแต่ที่ตนชอบ ตนศรัทธา มันไม่เป็นธรรมมะหรอก ปฎิบัติไปเพื่อกิเลส เพื่อตัณหา โดยไม่รู้ตัว.
     
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เอ้า คลายเครียดกันเถอะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอแอบแซวนิสนึง หยิกแกมหยอก ^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เท่าที่ได้กลิ่นที่เทพนำมาในวัดที่อุบาสกอุบาสิการ่วมกันทำกรรมฐาน เช่น ช่วงเข้าพรรษา จะหอมเย็นทวนลม ทำให้หายใจโล่งโปร่งสบาย มีความเย็นกายเย็นใจ ได้กลิ่นแล้วมีความสงบระงับ แต่ไม่ติดกลิ่น หมายถึงได้กลิ่น แต่ไม่รู้สึกรำคาญว่ากลิ่นหอมเกินไป หอมฉุนเกินไป ไม่มีความรู้สึกว่าดมของหอม แต่รู้ว่ากลิ่นทิพย์ เคยสัมผัสช่วงที่เค้ามาโปรย เหมือนโดนกระทบเนื้อตัวเราเหมือนกัน ได้กลิ่นแล้วจิตมีสมาธิได้ง่าย และไม่ติดกลิ่น คือ ถ้าทำกรรมฐานจะเดินจะนั่ง ก็เหมือนกลิ่นไม่มี แต่พอออกจากกรรมฐานก็ได้กลิ่น รู้ว่ากลิ่นมีอยู่ตลอดเวลานั้นแหละ
     
  9. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
    มันก็ดีนะ หากเริ่มแรกนี่

    ปฎิบัติตามใจตน เลือกเอาแต่ตนศรัทธา

    เพียงแต่ว่า ขอให้สิ่งที่ตนศรัทธา เป็นสิ่งที่มาจากพระไตรปิฏก
    หรือ บุคคลาธิฐานที่เดินตามพระพุทธเจ้า ที่ตนนับถือไว้เป็นตัวอย่าง

    แล้วก็ฝึกฝนตามกันไป

    ไม่ได้มาจาก เนื้องอกแปลกปลอม แหวกแนว

    เช่น บรรลุธรรมแล้ว มีเมียได้ อย่างนี้เป็นต้น

    แก้ไขเพิ่มเติม
    ต้องหมายเอา บรรลุอรหันต์นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2016
  10. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710


    [286] สัปปายะ 7 (สิ่งที่เหมาะกัน สิ่งที่เกื้อกูล ช่วยสนับสนุนในการบำเพ็ญภาวนาให้ได้ผลดี ช่วยให้สมาธิตั้งมั่น ไม่เสื่อมถอย — suitable things; things favorable to mental development)
    1. อาวาสสัปปายะ (ที่อยู่ซึ่งเหมาะกัน เช่น ไม่พลุกพล่านจอแจ — suitable abode)
    2. โคจรสัปปายะ (ที่หาอาหาร ที่เที่ยวบิณฑบาตที่เหมาะดี เช่น มีหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีอาหารบริบูรณ์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป — suitable resort)
    3. ภัสสสัปปายะ (การพูดคุยที่เหมาะกัน เช่น พูดคุยเล่าขานกันแต่ในกถาวัตถุ 10 และพูดแต่พอประมาณ — suitable speech)
    4. ปุคคลสัปปายะ (บุคคลที่ถูกกันเหมาะกัน เช่น มีท่านผู้ทรงคุณธรรม ทรงภูมิปัญญาเป็นที่ปรึกษาเหมาะใจ — suitable person)
    5. โภชนสัปปายะ (อาหารที่เหมาะกัน เช่น ถูกกับร่างกาย เกื้อกูลต่อสุขภาพ ฉันไม่ยาก — suitable food)
    6. อุตุสัปปายะ (ดินฟ้าอากาศธรรมชาติแวดล้อมที่เหมาะกัน เช่น ไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไป เป็นต้น — suitable climate)
    7. อิริยาปถสัปปายะ (อิริยาบถที่เหมาะกัน เช่น บางคนถูกกับจงกรม บางคนถูกกับนั่ง ตลอดจนมีการเคลื่อนไหวที่พอดี — suitable posture)


    .................................................


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน

    คือ

    อัปปิจฉกถา ๑
    สันตุฏฐิกถา ๑
    ปวิเวกกถา ๑
    อสังสัคคกถา ๑
    วิริยารัมภกถา ๑
    สีลกถา ๑
    สมาธิกถา ๑
    ปัญญากถา ๑
    วิมุตติกถา ๑
    วิมุตติญาณทัสสนกถา ๑


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้แล
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากว่าเธอทั้งหลาย
    ยึดถือเอากถาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้แล้ว กล่าวเป็นกถาไซร้
    เธอทั้งหลาย
    พึงครอบงำเดชแม้ ของ พระจันทร์และพระอาทิตย์
    ผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมาก อย่างนี้ด้วยเดชได้
    จะป่วยกล่าวไปไยถึงปริพาชกอัญญเดียรถีย์ทั้งหลายเล่า ฯ

    อ่านต่อที่นี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2016
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    งั้นให้ใครหาหลักฐานยืนยันมาหน่อย ว่ามีผู้บรรลุธรรมที่มีสามีภรรยาได้ โอเคร๊
     
  12. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
    หาก บรรลุธรรมขั้นต้น

    มีครอบครัว ก็มีหลายท่านในพระไตรปิฎก

    แต่จะหา บรรลุอรหันต์ แล้วนี่

    อ่านเจอมีแต่ท่าน บรรลุอรหันต์แล้ว บวช ประพฤติพรมจรรย์
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไม่ได้ค้านทั้งหมด แต่ค้านในหลักของความจริง
    ที่พิสูจน์มาแล้วทั้งหมด ช่วงแรกในระยะเริ่มใหม่
    หรือ ยังไปไม่ถึงไหน อยู่กับที่มักจะถูกทรรศนะ
    ของคนที่มีประสบการณ์มากมาฉุดรั้งได้ง่าย
    ทานที่ดีแล้วไม่ควรเชื่ออะไรทั้งนั้น จนกว่าตน
    จะพิสูจน์เรื่องเหล่านั้นมาแล้วเป็นอย่างดี
    ควรจะหาคนที่เป็นผู้รู้ทุกเรื่องที่มีความฉลาด
    ปราดเปรื่องเพราะอริยบุคคลเหล่านี้อาจสามารถ
    จะทำลายกรอบเดิมของคนรุ่นก่อน สร้างสรรค์
    ผลงานใหม่ ๆ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จได้
    คุณเคยรู้อะไรแบบนี้บ้าง ขึ้นรถไฟผิดขบวน
    อาจพาเราไปถูกสถานีได้
     
  14. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    เลิกติดนั่น ติดนี่ จะดีกว่าคับ ถ้าติดแล้ว ไม่มีแรงสวดมนต์ จะเอาสมาธิมาจากไหนเล่า
    "ขี้เกียจ"คำเดียวนี่ ."ความสงบ"มันหายกระเจิงไปหมดเลยนะ
    ารสวดมนต์เป็นพื้นฐานสำคัญในการฝึกสมาธิ สมถะเกิดขึ้นได้จากการสวด
    ปลงอสุภะไม่ได้ แต่สวดมนต์ได้ ก้ถือว่าทดแทนกันได้คับ

    ต้องละ กับ ตัดทิ้ง สมาธิ คู่กับจิตสงบ แต่ ความอยากนี่ คู่กับ จิตฟุ้งซ่าน สมาธิจะรั่วตลอด .... .... ."หายใจเข้า;ตาย หายใจออก;ตาย หรือหายใจเข้า ถ้าไม่หายใจออก เราก้ตาย หายใจออก ไม่หายใจเข้าเราก้ตายเช่นกัน" คิดยังงั้ก้มีสติตลอด ใจไม่ประมาทเลย ก้เท่ากับปลงอสุภะแล้วครับ เพราะความตายมีอยู่ในทุกลมหายใจเข้า-ออก
     
  15. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    จะค้านมากค้านน้อยก็คือค้าน
    ที่สำคััญนะ คุณน่ะ ค้านในหลักการใหญ่เลยละ
    เพราะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประกาศหลักการเบื้องต้นว่า
    ๑.ไม่ประพฤติตนพัวพันด้วยสุขในกาม
    ๒.ไม่ทรมานตนให้ลำบากเปล่า
    เพราะสองทางนี้ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
    จากนั้นทรงแสดงอริยมรรคมีองค์แปดที่เป็นทางพ้นทุกข์
    ทรงแสดงอริยสัจจ์ ๔ คือทุกข์ สมุทัย(เหตุให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ความอยากในกาม ความอยากมีอยากเป็น ความอยากไม่มีไม่เป็น)
    นิโรธ ความดับทุกข์ และอริยมรรคมีองค์แปด

    และผมมีความเชื่อว่า พระอริยบุคคลก็ดี โพธิสัตว์ก็ดี จะไม่สอนธรรมคัดค้่าน
    กับหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้

    แล้วความหลุดพ้นนั้น ท่านก็แสดงไว้ว่า มีสองแบบคือ

    สัมมาวิมุตติ พ้นโดยชอบ
    มิจฉาวิมุตติ พ้นผิด(ไม่ได้หลุดพ้นจริงๆ แต่หลงเข้าใจว่าหลุดพ้น)

    เรื่องที่เข้าใจว่า เมื่อบรรลุธรรมขั้นสูง คือสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว
    จะกลับมายินดีในกาม แต่งงานมีลูกเมียได้ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ
     
  16. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ผมคิดแบบนักวิทยาศาสตร์
    และเป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต
    ไม่ได้เชื่อแบบงมงายตามกัน
    ไป พระพุทธองค์ท่านก็ไม่เชื่อ
    เรื่องของพระเจ้าตามประวัตของ
    เจ้าชายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธะ
    หลังนิพานของท่านก็ได้รับการบรรจุอยู่ในถานะ
    พระเจ้าห้าพระองค์ ถามคนเฒ่าคนแก่ก็จะรู้เอง
    พระเจ้าห้าพระองค์มีนามอะไรบ้างหรือคุณไม่รู้
    เมื่อไม่รู้จริงไม่รู้ด้วยตัวเอง ระวังจะถูกหลอกเอาได้
    อีกอย่างถ้าไปเอาแนวความคิดคนอื่นที่ไม่ได้รู้ด้วย
    ตัวเอง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จักไปกล่าวหาว่าเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ ของมันจะเข้าตัวคุณเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2016
  17. ขง

    ขง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +676
    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ บอกว่า พระโสดาบัน มีคู่ครองได้ เช่นนางวิสาขา เป็นต้น

    อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นต้น


    ในสมัยพุทธกาล มีผู้บรรลุธรรมเป็นพระสกิทาคามี

    มาตั้งแต่ศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ได้แต่งงานกัน

    ก็ไม่มีความรู้สึกอยากมีคู่ครอง ทั้งคู่ จึงแสวงหาหนทางหลุดพ้น

    ผู้ชายก็ได้บวชเป็นพระภิกษุ ในศาสนาพระสมณโคดม

    ผู้หญิง ก็ได้บวชเป็นพระภิกษุณี ในศาสนาพระสมณโคดม

    สุดท้ายท่านทั้งสองได้บรรลุเป้นพระอรหันต์ เช่นกัน ทั้ง 2 องค์


    ส่วนพระอนาคามี ถือศีล 8 ไม่มีคู่ครอง

    พระอรหันต์ ถ้าหากไม่บวชเณร หรือ บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์

    จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ก็จะนิพพานทันที
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อ้อ แสดงว่าคุณยอมรับแล้วว่าสิ่งที่เขียนไปนั้น เป็นแค่ความคิด ยังไม่ใช่การบรรลุ
    และคุณคิดว่า ตัวเองคือนักวิทยาศาตร์ ไม่ใช่ โพธิสัตว์

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดจึงกล้า มาแสดงความคิดเห็นคัดค้านหลักการที่
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับวิทยาศาตร์เลย

    การแสดงความสงสัยในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ดีแล้ว ซ้ำยังพยายามชักชวนให้ผู้อื่นคล้อยตาม มันเป็นการตู่พระพุทธเจ้า

    การแสดงอาการดูหมิ่น ผู้ที่เชื่อตามหลักคำสอนที่ถูกสืบทอดกันมา
    ก็เท่ากับดูหมิ่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปด้วย เพราะหลักคำสอนเหล่านั้น
    ได้ถูกพิสูจน์จากสงฆ์สาวกรุ่นก่อนๆมานับไม่ถ้วนว่าปฏิบัติแล้วได้ผลจริง

    คุณมันพวกเนื้อร้าย แอบอ้างเป็นพระบรมโพธิสัตว์ที่ควรเป็นที่เคารพสักการะยังไม่พอ ยังกล่าวคัดค้านคำสอนของพระตถาคต ดูหมิ่นผู้ที่เชื่ิตามหลักคำสอนของพระตถาคต ทำศักดิ์ศรีของพระบรมโพธิสัตว์ให้ตกต่ำด้วย คุณไม่ใช่โพธิ์สัตว์
    คงเป็นพวกมารนอกรีตมากกว่า สงสัยว่า พญาวัสวัตตีมาราธิราช
    คงจะควบคุมสมุนตนเองไว้ไม่ดี ถึงได้ปล่อยให้มาอาลวาดบนโลกมนุษย์
     
  19. ปทุมมุต

    ปทุมมุต ผมเป๋นใตร?

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +286
    สังกะสัยว่า. เกิดการวิวาทะขึ้นในกระทู้ เจ้าของกระทู้จะมีส่วนรับผลวิบากนั้นด้วยอ๊ะป่าว สงสัยๆ
     
  20. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตอนนี้นะ เราไม่ค่อยฟังครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง แล้ว เราฟังลพ.พุธอยู่ ท่านสอนได้ครอบคลุมลึกซึ้งชัดเจน คุณแม่บอกว่สอัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุแล้ว ถ้าต้องการพ้นทุกข์พ้นกาม ต้องนมัสการครูบาอาจารย์ที่สนับสนุนการพ้นจริงๆ เรื่องอื่นๆที่ไม่ช่วยให้พ้นทุกข์ ก็ต้องตัดออกไป

    นี่กำลังโหลดยูทูบอยู่ ช้ามากๆ อยากให้คุยกันในประเด็น อารัมณูปนิชฌาน กับ ลักขณูปนิชฌาน บ้าง ว่าใครถนัดปฏิบัติแบบไหน อยากฟังคนที่ปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่ทฤษฏีปึก แต่ตอบการปฏิบัติไม่ได้

    เวลาจขกท.เกิดความรู้ความคิดผุดขึ้นมาตลอด เราเข้าใจว่าเป็นความฟุ้งซ่าน เราจะบังคับมันให้สงบตลอด แต่ลพ.พุธบอกว่าไม่ใช่ เพราะอะไร มาคุยกันเรื่องนี้บ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...