ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ตารางเปรียบเทียบภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7 ในพระธรรมวิวรณ์

<TABLE style="WIDTH: 546px; HEIGHT: 1420px" cellSpacing=1 cellPadding=7 width=546 border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top width="7%">ลำดับ
</TD><TD vAlign=top width="28%">

ตรา

​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

แตร

​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

ขัน (หรือชาม) ​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

1
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

ม้าขาว ผู้ขี่ม้าถือธนู บัตรพระราชทานมงกุฎ อย่างผู้ที่มีชัยชนะ (6:1-2)
​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

ลูกเห็บไฟบนเลือดตกสู่แผ่นดิน หนึ่งในสามของต้นไม้ หญ้าเขียวถูกทำลาย (8:6-7) ​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

ผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของสัตว์ร้าย เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว (16:1-2) ​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

2
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

ม้าสีแดงสด ผู้ขี่ม้านำสันติสุขไปจากดินแดนโลก รับพระราชทานดาบใหญ่ คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน

(6:3-4)
​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

สิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่ ลุกเป็นไฟถูกทิ้งลงไปในทะเล หนึ่งในสามของทะเลกลายเป็นเลือด หนึ่งในสามของสัตว์ทะเลและเรือ ถูกทำลาย (8:8-9) ​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

ทะเลกลายเป็นเหมือนเลือดคนตาย บรรดาสิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมดสิ้น (16:3)
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

3
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

ม้าดำ ผู้ขี่ม้าถือตราชู ข้าวสาลีราคาทะนานละหนึ่งเดรานิอัน ไม่ทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น (6:7-8)
​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

ดาวใหญ่ ชื่อบรเพ็ดลุกเป็นไฟ ตกจากท้องฟ้าสู่ธารน้ำ ทำให้แม่น้ำมีรสขมหนึ่งในสามส่วน มีคนจำนวนมากตาย เพราะน้ำมีรสขม (8:10-11) ​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งหลายกลายเป็นเลือด เสียงจากแท่นบูชาร้องว่า การพิพากษาของพระเจ้า เที่ยงตรงและยุติธรรมแล้ว (16:4-7)
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

4
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

ม้าสีกะเลียว ผู้ขี่ม้าชื่อมัจจุราช ตามด้วยแดนคนตายล้างผลาญแผ่นดินโลก หนึ่งในสี่ ด้วยคมดาบ ความอดอยาก โรคระบาด และด้วยสัตว์ร้าย (6:7-8) ​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

ดวงอาทิตย์ถูกทำลายหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวก็เช่นเดียวกัน มืดไปหนึ่งในสาม กลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน (8:12-13)
​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ (16:8-9)
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

5
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

วิญญาณใต้แท่นบูชา ร้องว่าอีกนานเท่าใดจึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก

คำตอบ : ประทานเสื้อขาวและให้คอยจนครบจำนวน (6:9-11) ​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

ดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าพร้อมกุญแจ สำหรับช่องบาดาลมีฝูงตั๊กแตนจากช่องบาดาล ซึ่งมีอำนาจของแมลงป่องแห่งแผ่นดินโลก ทำร้ายผู้ที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผาก (9:1-12) ​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

อาณาจักรของสัตว์ร้าย มืดไป ประชาชนกัดลิ้นของตนด้วยความระทมทุกข์ เพราะแผลตามตัวของเขา (16:10-11)
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%">

6
​

</TD><TD vAlign=top width="28%">

แผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์มืดลงดวงจันทร์เป็นสีเลือด ดวงดาวตกจากฟากฟ้า ท้องฟ้าหายไปภูเขา และเกาะเคลื่อนย้าย มนุษย์รู้ว่าเป็นพระพิโรธของพระเจ้า (6:12-17) ​

</TD><TD vAlign=top width="30%">

ทูตสวรรค์ที่ถูกมัด ได้รับการปลดปล่อยให้ทำลายมนุษย์เสียหนึ่งในสามด้วย ไฟควัน และกำมะถันที่พลุ่งออกจากปากม้า (9:13-21)
​

</TD><TD vAlign=top width="35%">

แม่น้ำยูเฟรติสแห่งผีโสโครกสามตน จากปากของพญานาคสัตว์ร้าย และผู้เผยพระวจนะเท็จออกไปล่อลวงคน
​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="7%" height=188>

7

​

</TD><TD vAlign=top width="28%" height=188>

ความเงียบครอบคลุมสวรรค์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ รับพระราชทานแตรทั้งเจ็ดคัน ถวายเครื่องหอม พร้อมคำอธิษฐานของธรรมิกชน สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า ทูตสวรรค์ยื่นกระถางไฟสู่แผ่นดินโลก เกิดเสียงฟ้าร้อง ฟ้าแลบ แผ่นดินไหว (8:1-5) ​

</TD><TD vAlign=top width="30%" height=188>

ในสวรรค์มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้า ผู้อาวุโส 24 คน กราบนมัสการ พระวิหารในสวรรค์เปิดออก มีหีบพระสัญญาสายฟ้าแลบ ฟ้าร้องแผ่นดินไหว และลูกเห็บตกอย่างหนัก (11:15-19)
​

</TD><TD vAlign=top width="35%" height=188>

พระสุรเสียงว่า "สำเร็จ" แล้ว มีเสียงฟ้าร้องต่างๆ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด นครถูกแยกเป็นสามส่วน เกาะและภูเขาเลื่อนหายไป ลูกเห็บก้อนละ 50 ก.ก. ตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวง (16:17-21)

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_9.htmlที่มา http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_9.html

 

"ดูก่อน อานนท์ เหตุปัจจัย..ที่ทำให้ปรากฏการไหวแห่งแผ่นดินอันใหญ่หลวง มีอยู่แปดประการ
เมื่อใด
ตถาคตได้..ตรัสรู้ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เมื่อนั้น
แผ่นดินย่อมหวั่นไหว ย่อมสั่นสะเทือน ย่อมสั่นสะท้าน
อานนท์
นี้เป็นเหตุคำรบห้า แห่งการปรากฎไหวของแผ่นดิน อันใหญ่หลวง"
(kiss) (kiss) (kiss)
นี่คือ เหตุปัจจัย ภัยจากธาตุทั้งหลายที่มนุษย์กล่าวถึง ในกึ่งพุทธกาล เฉกเช่นปัจจุบันนี้ แต่แท้จริงแล้ว..มิใช่ภัย..


เหตุต่างๆคือ..การปรับตัวของธาตุต่างๆ จากพลังจิตตานุภาพ อันบริสุทธิ์ ของพุทธองค์ ที่แทรกเข้าถึง..ทุกอณูธาตุ..ทั่วมหาจักรวาล


เนื่องจาก..จิตแห่งนิพพาน นั้นคือ..ความว่าง พลังงานอนันต์ อันเป็น หนึ่งเดียว ผืนเดียว ทั่วจักรวาล..เป็นที่ตั้งอยู่ สัมผัสอยู่..ของทุกอณู..ทุกสรรพสิ่ง

เมื่อเกิด..จิตนิพพานดวงใหม่ เข้าไปเสริม ความว่างเดิม จิตนิพพานเดิม จึงเป็นการเสริม..พลังงานอนันต์..เข้าไปในระบบ จึงเกิดการปรับสมดุลใหม่ในทุกๆอณูธาตุ นั่นเอง เอวัง

<!-- / message --><!-- sig -->

 

ถึงคุณ k_isara ที่ว่าอิสานเหนือนี่แถวไหนเหรอคะ
ดิฉันอยู่แถวขอนแก่น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
ถ้าเกิดเรื่องจริงจะไปได้หรือไม่ เพราะญาติพี่น้อง
แถวนี้เยอะ แต่ก็ขอข้อมูลไว้ก่อน ถ้าวาสนามี
คงได้ไปสมทบนะคะ

ช่วงนี้รู้สึกว่าอากาศทางนี้หนาวจริงๆ
สมัยเด็กๆก็หนาวอย่างนี้ แต่พอโตขึ้น
ก็ไม่ค่อยจะได้เจออากาศหนาวอีกเลย
แต่ช่วงนี้กลับหนาวขึ้นมาอีก รู้สึกว่า
มันไม่ค่อยปกติ
ก็ได้แต่คอยฟังข่าวและเตรียมตัวนะคะ

 

เหตุแห่งแผ่นดินไหว ๘ ประการ

พอพระพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร แผ่นดินก็ไหว พระอานนท์แปลกใจทูลถามว่า ทำไมแผ่นดินถึงไหว พระพุทธเจ้าตรัสว่าแผ่นดินไหวด้วยสาเหตุ ๘ ประการด้วยกัน

ประการที่ ๑ : เกิดจากลมกำเริบ คือใต้โลกของเรานี้เป็นหินเดือด ๆ พอเดือดมาก ๆ ไอร้อนมารวมตัวกันเกิดเป็นความดันสูง พอความดันได้ที่ก็ผลักพื้นโลกข้างบนให้โยกคลอนได้ เขาใช้คำว่า ลมกำเริบ

ประการที่ ๒ : เกิดจากผู้มีฤทธิ์บันดาล ผู้ได้ฤทธิ์ได้อภิญญาบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างไรก็ได้

ประการที่ ๓ : พระโพธิสัตว์ในชาติที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตเข้าสู่ครรภ์พุทธมารดา

ประการที่ ๔ : พระโพธิสัตว์ประสูติ

ประการที่ ๕ : พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้

ประการที่ ๖ : พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมธรรมเทศนา

ประการที่ ๗ : พระพุทธเจ้าทรงปลงสังขาร

ประการที่ ๘ : พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน


ที่มา กระโถนข้างธรรมาสน์
http://www.grathonbook.net/book/37.2.html

 

ประชาชนนับแสนตกค้างในพื้นที่หิมะตกหนักทางใต้ของจีน​

​

ปักกิ่ง 18 ก.พ. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ประชาชนเกือบ 180,000 คนตกค้างอยู่ในพื้นที่แถบมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากหิมะกลับมาตกหนักและอุณหภูมิเย็นจัดอีกครั้ง กีดขวางเส้นทางเดินรถและไฟฟ้าดับ

ถนนต่างๆ นับเป็นระยะทางกว่า 14,000 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ยานพาหนะติดขัดนับ 20,000 คัน สำนักงานขนส่งท้องถิ่นระดมกำลังปรับพื้นผิวจราจรเพื่อให้การเดินรถกลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด แต่ยังมีอุปสรรคจากสภาพอากาศหนาวจัด ขาดแคลนเงินและอุปกรณ์ มณฑลยูนนานเพิ่งฟื้นตัวจากอากาศหนาวจัด และหิมะตกหนักอย่างที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เช่นเดียวกับอีกหลายพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้และภาคใต้ของจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน และทำให้ประชาชนนับล้านไม่มีไฟฟ้าใช้ช่วงที่ผ่านมา .- สำนักข่าวไทย

2008-02-17 15:00:00

มีผู้เสียชีวิต 2 คน จากหิมะถล่มในอะแลสกา​

​

รัฐอะแลสกา 16 ก.พ. - เจ้าหน้าที่กองกำลังรัฐอะแลสกาของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า มีคนขับรถแล่นบนหิมะ 2 คน เสียชีวิตเนื่องจากหิมะถล่ม และถูกฝังอยู่ในกองหิมะนาน 45 นาที ทางใต้ของเมืองแองเคอเรจ วานนี้

เจ้าหน้าที่ระบุว่า พื้นที่เกิดเหตุที่อยู่ห่างไกลด้านหลังภูเขา เป็นอุปสรรคในการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประสบเหตุ ในระยะ 2 วันที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีหิมะที่ตกใหม่วัดได้ 11 นิ้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดอันตรายจากหิมะถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ในพื้นที่ทางตอนใต้-ตอนกลางของรัฐอะแลสกา พร้อมเตือนให้ผู้ที่เดินทางไปพักผ่อนเดินทางเป็นกลุ่ม จัดเตรียมเสบียง และขับขี่อย่างปลอดภัย รวมทั้งตระหนักถึงอันตรายจากหิมะ

นับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2550 ในพื้นที่ทางตะวันตก มีผู้เสียชีวิตจากหิมะถล่มแล้วอย่างน้อย 32 คน สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุด เป็นผู้เสียชีวิต 2 รายแรกในรัฐอะแลสกา สำหรับฤดูหนาวปีนี้. - สำนักข่าวไทย

2008-02-16 16:09:38

หลายพื้นที่ของกรีซ เผชิญพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนัก​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

กรีซ 17 ก.พ. - หลายพื้นที่ของกรีซกำลังเผชิญกับพายุหิมะที่พัดถล่มอย่างหนัก และอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่าลบ 15 องศาเซลเซียส

พายุหิมะพัดถล่มหลายพื้นที่ตลอดช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทำให้หมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาด ถนนหลายสายกลายเป็นอัมพาต สายการบินต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบิน หิมะที่ปกคลุมทั่วพื้นที่รวมถึงในกรุงเอเธนส์ มองเห็นเป็นสีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา

นอกจากพายุหิมะแล้ว ประชาชนชาวกรีกในบางพื้นที่ยังต้องเผชิญกับกระแสลมที่พัดอย่างรุนแรง ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่า ลบ 15 องศาเซลเซียส ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า สภาพอากาศจะแปรปรวนไปจนถึงวันอังคาร ถนนหนทางว่างเปล่า ส่วนในตัวเมืองแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง เนื่องจากประชาชนเลือกอยู่แต่ภายในบ้าน

เจ้าหน้าที่ต้องประกาศปิดเส้นทางสายสำคัญและทางหลวง พร้อมประกาศห้ามรถบรรทุกหนักและรถยนต์สัญจรไปมา ภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า .- สำนักข่าวไทย

2008-02-17 17:05:58

ออสเตรเลียปิดเหมืองรับมือไซโคลนนอกชายฝั่งตะวันตก ​

​

ซิดนีย์ 17 ก.พ. - เหมืองแร่และแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทางชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียต้องพักงานชั่วคราว เพื่อรับมือพายุไซโคลนเขตร้อนที่เริ่มทวีกำลังรุนแรงขึ้น

บรรดาผู้ประกอบการเหมืองแร่ในเขตพิลบารา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางเหนือราว 1,900 กิโลเมตรทยอยประกาศพักงานชั่วคราวและขนย้ายพนักงานออกจากพื้นที่เพื่อรับมือกับผลกระทบจากพายุไซโคลนนิโคลัส โดยมีรายงานด้วยว่าบริษัทขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งตะวันตกได้ประกาศพักงานไปแล้วก่อนหน้านี้เนื่องจากผลกระทบของพายุที่ก่อตัวในทะเลติมอร์

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียรายงานว่า พายุไซโคลนเขตร้อนนิโคลัสกำลังมีศูนย์กลางอยู่ทางเหนือของเมืองคาร์ราธาราว 320 กิโลเมตร และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4 จากระดับ 3 ในขณะนี้ และคาดว่าชายฝั่งเขตพิลบาราจะได้รับผลกระทบจากไซโคลนกำลังแรงในวันพรุ่งนี้ หรือช่วงเช้าของวันถัดไป ทั้งอาจยังผลให้เกิดลมแรงในพื้นที่ทางตะวันออกและภาคใต้

อีกด้านหนี่งมีรายงานว่า ระดับน้ำในเมืองแมคเคย์ในรัฐควีนส์แลนด์ทางตอนเหนือ ซึ่งประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเริ่มลดระดับลงแล้ว หลังเกิดฝนตกหนักวัดได้ 23.6 นิ้ว เมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) อย่างไรก็ดี ทางการยังไม่ยกเลิกประกาศเตือนภัยน้ำท่วม เนื่องจากคาดว่าจะมีฝนตกหนักตามแนวชายฝั่งในช่วงบ่ายวันนี้.- สำนักข่าวไทย

2008-02-17 10:38:39

เกิดแผ่นดินไหวตามแนวชายแดนโบลิเวีย-ชิลี​

​

ซานติอาโก 17 กพ.

 

*** ดาวน้อย ****

ดาวสามดวงเหลืองสุกสดใส เรียงตัวเกือบเป็นเส้นตรง
ดาวอีกดวงทำท่ามาต่อแถว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัญญาณเตือนกรรม ****

สรรพภัยทั้งปวงหลังกึ่งพุทธกาล...ทั่วโลก
เริ่มเตือนมนุษย์แต่ละท้องถิ่น
ให้ตั้งใจทำความดี อย่างจริงจัง
ทำสัญญาใจ ให้เกิดขึ้นจริง

...สัจจะ....
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** โลกกับน้ำ ****

ที่ผ่านมา...ฝนตกลงทะเล น้ำแข็งไหลลงทะเล
แต่ปริมาณฝนตก และหิมะตกลงมาไม่พอ
น้ำที่เหลืออยู่ในโลกก็น้อย เหลือเป็นโซเดียม ทำให้น้ำระเหยตัวไวขึ้น
เช่น ทะเลแถวตะวันออกกลาง จะมีโปรแตสเซียมมาก
การเผาผลาญจึงมาก น้ำจึงระเหยมากขึ้น

การดึงน้ำมาจากทางช้างเผือก
มาชดเชย ๑๖ ส่วน จะทำให้ปริมาณน้ำในโลกเพิ่มมากขึ้น
โลกจะสมบูรณ์ขึ้น จะเกิดแผ่นดินใหม่เป็นปะการังจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้เวลาด้วย

บริเวณบางปู บางปิ้ง และอีกมากแถวชายทะเล...เป็นแผ่นดินเกิดใหม่
เมื่อปริมาณน้ำมากขึ้น ก็จะต้องกลับคืนสู่สภาพเดิม

ริมแม่น้ำโขง...จะท่วม แม่น้ำต่างๆ จะมีน้ำสูงขึ้น

เทือกเขาแถบหิมาลัย ....จะเทลงสู่ด้านแม่น้ำโขง
จากจีนมาสู่ไทย สู่เวียดนาม

ประเทศญี่ปุ่น...จะจมจากกระแสน้ำ
เนื่องจากข้างล่างเป็นโคลนเลน

ประเทศไทย....ตั้งอยู่บนภูมิศาสตร์ที่เป็นสันเขา จึงปลอดภัย

เมื่อน้ำมากขึ้น แม่น้ำโขงจะสามารถรองรับน้ำได้

ที่เชียงของ...น้ำจากแม่น้ำโขง จะท่วมเชียงของ
เกิดน้ำวน เป็นแอ่งขนาดใหญ่
หินก้อนใหญ่ๆ จะหลุดออก กลิ้งหมุนกร่อนเป็นทรายในที่สุดบริเวณจังหวัดตาก

มี ๓ แม่น้ำที่จะรับน้ำจากปากน้ำโขง
อีกทางมี สาระวิน สะโตง น้ำจะเข้าสู่สาระวิน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เตือนมานานแล้ว ****

ต่างประเทศ....เตือนกรรมด้วยสรรพภัยย่อยๆ
ประเทศไทย...เตือนกรรมด้วยคนดีก่อน
จึงเห็นเงียบๆ ดูปลอดภัย
แต่เมื่อกรรมมา จะจบเร็ว
มาเร็วไปเร็ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ดึงเอาไว้ไม่ไหวแล้ว.......​

ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ​

mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_974734", true); </SCRIPT> สมาชิก

สรุปว่า ตอนนี้โครงการของอาจารย์กัญจีรา ท่านกำลังหาสถานที่ 4 แห่งที่จะสร้างอาคารประดิษฐานพระจตุรทิศ ที่ต่างๆในแต่ละภาค โดยใช้แบบปรียนันท์ของเราครับ ได้จัดแบบไปหนึ่งชุดให้อาจารย์ไปทำราคาก่อสร้างแล้ว
แต่ของอาจารย์ไม่มีห้องหลบภัยใต้ดิน จะเหลือเพียงเนินดินสูงหนึ่งเมตรและมี 2 ชั้นเท่านั้นครับ​

จากนั้นก็ไปพูดคุยกันต่อที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆ ทางเข้าอุทัยฯ..พูดเรื่อง การทำสมาธิ วิธี scan ร่างกายเพิ่อตรวจรักษา พลังจักรวาล ประวัติความเป็นมาของอาจารย์ และเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองในภาพรวมครับอาจารย์ย้ำว่า..​

ช่วงปี-สองปีนี้คือการเปลื่ยนสู่ยุคใหม่ อาจารย์แจ้งมาว่าไม่เกิน 18 มีนาคม 2551 จะมีเรื่องระทึกขวัญให้เห็นกันอีกรอบ......​

แต่ยังไม่ได้เช็ครายละเอียด...คงต้องปล่อยให้เกิดดึงเอาไว้ไม่ไหวแล้ว พระสยามเทวาธิราชท่านก็กลับไปแล้ว ในหลวงก็กลับมาประทับที่กรุงเทพฯ นายกคนล่าสุดก็เคยทำพิธีโองการแช่งน้ำมาแล้ว งานนี้ทุกอย่างก็มาประจวบเหมาะ ท่านบอกพวกเราให้เตรียมตัวกันไว้ดีๆ อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของอาจารย์ครับยังต้องคอยดูเหตุการณ์กันต่อไป....​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=114207&page=2
<!-- / message --><!-- sig -->​

 

โมทนาสำหรับสหายธรรมทุกท่านนะคะที่มาช่วยกันตอบเพื่อเป็นธรรมทาน...
ก้อยขอโทษทุกท่านด้วยนะคะที่ไม่ค่อยได้เข้ามาเลย ทั้งที่เป็นคนตั้
งกระทู้เองแท้ๆ...วันหลังจะมาเยี่ยมและมาตอบบ่อยๆค่า

 

พระเมษโปดกกับผู้อาวุโสทั้ง 24 ท่าน​

​

มีคำทำนายทั้งจากศาสนาคริสต์ และตำนานพระศรีอาริย์ ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ จนอาจจะสรุปได้เลยว่า เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์เดียวกันอย่างแน่นอนดังนี้ครับ

ตำนานพระศรีอาริย์ในกึ่งพุทธกาล​

​

ในตำนานมันดาเลของพม่านั้นกล่าวว่า พระราชวังของพระศรีอาริย์ธรรมิกราชนั้นจะมีประตู 80 ประตู จะมีฝูงเทวดาและยักษ์รักษาแน่นขนัด จะเข้าออกได้แต่มนุษย์ที่มีศีลธรรมอันดีงามเท่านั้น ปราสาทราชวังนั้นจะสว่างรุ่งโรจน์ด้วยแสงแก้วมณีโชติ กลางคืนจะกลับกลายเป็นกลางวัน จะผิดกันก็แต่ว่า ความสว่างของแสงแก้วนั้นจะเย็นตาเย็นกาย ไม่ร้อนระอุเหมือนแสงอาทิตย์ในเวลากลางวันอย่างธรรมดา​

พิษณุเทพบุตร จะไปนำเอาผลมะม่วงกาซอ (ผลไม้โรทันตี) จากสวรรค์มาถวายพระศรีอาริย์ธรรมิกราช เมื่อเสวยแล้วรูปร่างก็กลับกลายเป็นหนุ่มเหมือนอายุ 20 เศษ จะมีพระมหาเถระ 24 รูป เดินทางมาจากทิศต่างๆ เพื่อชมบารมีพระศรีอาริย์ธรรมิกราช พระศรีอาริย์ธรรมิกราชจึงเอามะม่วงกาซอ (มะม่วงลอกคราบ) เข้าถวายพระผู้เฒ่าทั้ง 24 รูป พระผู้เฒ่าทั้งหมดเมื่อฉันแล้วก็ง่วงนอน และหลับไปด้วยความสบาย ครั้นตื่นขึ้นแล้วผิวพรรณก็กลับกลายเป็นหนุ่มไปหมดทั้ง 24 รูป รู้สึกว่ากระกระเปร่าแข็งแรงขึ้นอย่างผิดธรรมดา​

พระศรีอาริย์จึงเอาเมล็ดมะม่วงลอกคราบนั้นปลูกลงในดินริมปราสาท ก็พลันงอกงามเป็นต้นเป็นลำและแตกกิ่งก้านสาขาขึ้นในทันที ประกอบด้วยช่อและดอกออกผลเต็มไปหมด โดยไม่ต้องรอเวลาหรือฤดูกาลใดๆ เลย ฝูงมนุษย์ก็จะไหลมาเทมาเพื่อบริโภคมะม่วงลอกคราบอันวิเศษนั้น ครั้นแล้วคนแก่ก็จะกลายเป็นหนุ่ม คนที่มีผิวพรรณไม่งามก็จะงาม คนอ่อนแอก็จะแข็งแรงไปทั่วทุกรูปทุกนาม โลกจะถึงความเป็นสวรรค์ทั้งในด้านผิวพรรณและโภคทรัพย์ ฯลฯ และจะมีต้นไม้กาลปพฤกษ์ทิพย์ถึง 1,600 ต้น (โรงทาน) ทั่วทั้งโลก​

อนึ่ง พระมหานครอันบรมสุข จะได้ถูกก่อสร้างตึกรามขึ้น 36,000,000 หลัง จะเป็นที่อยู่ของพลเมืองที่เป็นสัมมาทิฏฐิทั้งสิ้น และว่าในยุคนั้น จะมีผู้หญิงมากผู้ชายน้อย เพราะผู้ชายไปตายในกองทัพถึง 3 ใน 4 ส่วน ผลสุดท้ายผู้ชายคนเดียวจะมีภรรยา 9 คน 10 คน ผู้หญิงจึงหาสามีที่โสดๆไม่ได้ง่ายนัก จริงเท็จอยู่กับตำรา (แจ้งอยู่ในใบลาน 3-4 ผูก)​

ที่มา หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ​

คำทำนายจากพระธรรมวิวรณ์​

​

• ล้อมรอบมีที่นั่งอีก 24 ที่นั่ง มีผู้อาวุโส 24 คน นั่งอยู่ทุกคนนุ่งห่มขาว และมีมงกุฎทองคำบนศีรษะ
• นุ่งห่มขาวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ดำเนินชีวิตที่มีชัยชนะ
• มงกุฎทองคำเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับบำเหน็จ
• ผู้อาวุโส 24 คน ถวายคำสรรเสริญพระเกียรติและฤทธิ์เดช
• น่าสังเกตที่ผู้อาวุโสให้เหตุผล ที่ถวายนมัสการพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวงและควบคุมสิ่งที่ทรงสร้างให้ดำรงอยู่ตามชอบพระทัยของพระองค์
• ทุกครั้งที่ได้ยินคำสรรเสริญพระเจ้า อาวุโสทั้ง 24 ก็ทรุดตัวลงถวายบังคมนมัสการ และถอดมงกุฎของตนออกวางตรงหน้าพระที่นั่ง และร้องว่าพระเจ้าที่สมควรได้รับคำสรรเสริญ
• ในวิวรณ์เต็มไปด้วยเพลงแห่งการสรรเสริญพระเจ้า (ดูในบทสรรเสริญ)
• น่าสังเกตที่ว่า ในช่วงที่ยอห์นเขียนวิวรณ์นั้น กำลังอยู่ในช่วงของการกดขี่ข่มเหงแต่ท่านกลับสามารถสรรเสริญพระเจ้า

5:11-14 เหล่าทูตสวรรค์ร้องสรรเสริญพระเมษโปดกว่า สมควรกับสิทธิอำนาจ เกียรติยศ พระสิริ และอื่นๆ และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงทั้งในสวรรค์ ในแผ่นดินโลก ให้แผ่นดินและในมหาสมุทรก็ถวายสรรเสริญพระองค์

ต้นไม้แห่งชีวิต ออกผล 12 ชนิด และออกทุกเดือน นี่เป็นภาพของความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี ที่สวนเอเดนพระเจ้าได้ทรงประทานต้นไม้แห่งชีวิตให้มนุษย์แล้ว แต่มนุษย์เลือกกินต้นไม้ที่ต้องห้าม ผลคือถูกห้ามกินผลจากต้นไม้แห่งชีวิต และขับจากสวนเอเดน ต้นไม้แห่งชีวิตนี้ได้ถูกกล่าวถึงอีก เป็นพระสัญญาต่อคริสตจักรที่มีชัยชนะว่า จะได้กินผลจากต้นไม้แห่งชีวิตที่อยู่ในอุทยานสวรรค์ของพระเจ้า (2:7) และพระธรรมวิวรณ์บทที่ 21

- 22 พระเจ้าก็ได้ทรงสำแดงนิมิตของท้องฟ้าใหม่แผ่นดินโลกใหม่ ซึ่งเป็นอุทยานสวรรค์ และมีต้นไม้แห่งชีวิตตามที่ได้ทรงสัญญาไว้แล้ว (22: 14, 22:19)
​

- ได้มีการย้ำถึงความสำคัญของพระเมษโปดก ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์

กำแพงนครนั้นมีฐานศิลาสิบสองฐาน และที่ฐานศิลานั้นจารึกชื่ออัครทูตสิบสองคนของพระเมษโปดก (21:14)

ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในนครนั้นเลยเพราะพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกทรงเป็นพระวิหารในนครนั้น (21:22)

นครนั้นไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นดวงประทีปของนครนั้น (21:23)

ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้าและที่นั่งของพระเมษโปดก (22:1)

จะไม่มีสิ่งใดถูกสาปแช่งอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้งอยู่ที่นั่น และบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าจะนมัสการพระองค์ (22:3)


ที่มา http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_5.html

 

สวัสดีคะ ดิฉันอ่านข่าวของจีน พายุหิมะระลอกใหม่กำลังจะมาอีกแล้ว เดี๋ยวนี้ท้องฟ้ากรุงเทพฯไม่ค่อยสวยเลย มีหมอกควันอยู่แทบทั้งวันเลยนะคะ แย่จัง

 

ผมว่าน่าจะเป็นการเปลี่ยนจากยุคมืดไปยุคแห่งแสงสว่างมากกว่านะครับ เพราะคนที่รอดต้องเป็นคนที่มีศีลธรรมในระดับที่ไม่ธรรมดาครับ ^-^

 

- นอกจากปลายักษ์ตัวที่สองแล้ว ยังมีตัวที่สามปิดท้าย
- สิงห์โตที่เป็นเจ้าป่ายังมีอีกสองตัวหมอบอยู่ (สัตว์แห่งสงคราม)
- ถึงคุณ LAZAZA สถานที่ที่ว่านี้อยู่ในจังหวัดเลย เป็นวัดอยู่บนภูเขามีชื่ออยู่ในพุทธประวัติ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมายและเจ้าที่ก็แรง ผมจึงไม่ขอบอกชื่อวัดไว้ก่อน เพราะว่าหากคนที่ไม่มีใจบริสุทธิ์จะอยู่ได้ไม่นาน
- ทุกปีผมจะไปทอดกฐินกับคณะที่วัดนี้ หากคุณสนใจในปีนี้ ก็ไปทำบุญด้วยกัน และผมจะแจ้งวันเวลาให้ทราบอีกทีในภายหลัง
- ไม่ทราบว่าปัจจุบันคุณอยู่ที่ขอนแก่นหรือว่ากรุงเทพฯ หากอยู่กรุงเทพฯก็จะติดต่อกันได้สะดวก ผมอยู่แถวดอนเมือง

 

วันนี้ 16.45น. คุณพ่อต้นได้โอนเงินจากตู้เอ ที เอ็ม ธ.กรุงเทพ เข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์เลขที่ ๐๒๖-๒-๙๕๗๙๖-๒ ชื่อบัญชีสุธาทิพ ภมรประวัติ จำนวน 500 บาทแล้วครับ

เพื่ออนุโมทนาบุญร่วมสร้างพระอุปคุตครับ

 

ขอบคุณคุณ k_isara นะคะ ปัจจุบันดิฉันอยู่ขอนแก่นค่ะ
ต้องบอกว่าปัจจุบันได้แต่เตรียมพร้อมอยู่เงียบๆ
เพราะไม่รู้จะอธิบายให้คนรอบข้างเข้าใจได้อย่างไร
แต่ขอบคุณมากนะคะที่บอก ถ้าบุญถึงคงได้ไปล่ะค่ะ

ตัวเองไม่กลัวตาย แต่ห่วงคนอื่นมากกว่า
ถ้าเจ้าที่แรง ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่าจะอยู่ได้รึปล่าว
เพราะคงไม่ได้ไปคนเดียว ญาติพี่น้องเยอะเหมือนกัน
อาจจะได้ตั้งป้อมอยู่แถวๆนี้แทน แต่ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

ถ้าคุณจะทอดกฐินดิฉันอยากถวายผ้าไตรจีวรด้วยนะคะ
ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะที่แจ้งให้ทราบ

 

ขอนแก่นเป็นเขตที่น่าจะปลอดภัยครับ เพราะภาคอีสานเป็นที่่ราบสูงและมีพระอริยเจ้าเยอะ ใกล้ๆก็ หลวงพ่อบุญเพ็ง กัปปโก เจ้าอาวาส วัดป่าวิเวกธรรม จังหวัดขอนแก่น



หลวงพ่อบุญเพ็ง กปฺปโก ท่านเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้ทรงไตรสิกขา
สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
องค์หลวงพ่อท่านได้ศึกษาธรรมะกับ หลวงปู่ตื้อ อจลธฺมโม และหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
ท่านเป็นพระนักเทศน์อบรมจิตภาวนาดังที่ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณ
เรียกว่า "นักเทศน์สมภารใหญ่ แห่งจังหวัดขอนแก่น"

 

ผมว่าเขตอิสานนี่ปลอดภัยที่สุดแล้วครับ

 

ส่วนตัวเห็นด้วยที่ว่าจังหวัดทางภาคอีสานจะปลอดภัย มันเป็นความเชื่อส่วนตัวลึก ๆ นะครับ โดยเฉพาะขอนแก่นกับอุดร เชื่อว่าปลอดภัยมาก ๆ ครับ สำหรับประเด็นเรื่องจังหวัดขอนแก่นถ้าไปดูเรื่องเล่าความฝันของผมในตอนต้นของกระทู้"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน ในฝันบอกถึงขนาดว่าตอนนี้อยู่ในท้องที่อำเภอกระนวน จ.ขอนแก่น ขนาดเป็นที่ราบสูง น้ำนี่ยังท่วมถนนสายหลักเลยครับ ขนาดนั้นทีเดียว ลองกลับไปดูที่ผมเล่าไว้ล่ะกันนะครับที่http://palungjit.org/showthread.php?t=79471 ก๊อปมาให้ดูด้วยครับ

ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง เมื่อเช้าวันที่ 7 พค.2550 เวลาประมาณ03.50น. ผมฝันว่า

"ตัวเองกำลังยืนอยู่บนสะพานลอยเชื่อมระหว่างอาคาร (ไม่แน่ใจว่าเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือมหาวิทยาลัย) ตอนนั้นคิดว่าสะพานก็สูงเราก็เจ็บเข่าจะลงได้อย่างไร ระหว่างนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวทำให้สะพานลอยเอียงเทไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม ผมตัดสินใจวิ่งและกระโดดไปยังอาคารนั้น โชคดีที่รอด พร้อมกับช่วยฉุดผู้หญิงอีกสองคนขึ้นมาจากสะพานได้ จากนั้นสะพานก็หล่นลงพื้นเบื้องล่าง ไม่เห็นผู้เสียชีวิต แต่รู้สึกได้ว่าคงตายกันมาก

จากนั้น ภาพก็ตัดมาที่ ผมกับครอบครัวทานอาหารกลางแจ้ง ใกล้ๆกันมีคนจับกลุ่มคุยกันถือเรื่องดังกล่าว แล้วภาพก็ตัดมาที่ พวกเรากับกลุ่มคนจำนวนหนึ่งกำลังนั่งอยู่กลางลานซึ่งมีอาคารอยู่ใกล้ๆประมาณสองอาคาร ในฝันก็คิดอยู่ว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ทำไมจึงมีคนกล้าที่จะอาศัยบนอาคารดังกล่าวอีก
สักพักก็เกิดแผ่นดินไหวอีก คราวนี้เห็นเศษกระจก เศษอาคาร ร่วงลงมาแต่อาคารไม่ถล่ม ส่วนบริเวณลานที่ผมอยู่ ต้นไม้ใหญ่ก็ล้มลง ต่างคนต่างหลบกันจ้าละหวั่น พร้อมๆ กันนั้นบนท้องฟ้าเกิดพายุและเมฆก่อตัวสีดำคล้ายกับที่เกิดพายุเมื่อเย็นวันที่ เมษายน 2550 แต่ในฝันเกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่ามาก เท่านั้นไม่พอ ผมเห็นน้ำไม่ทราบมาจากไหนไหลบ่าเข้ามาเหมือนซึนามิ เต็มไปหนด พวกเราวิ่งขึ้นบนอาคารที่อยู่บริเวณนั้น มองจากอาคารลงมาน้ำเวิ้งว้างเต็มไปหมด โชคดีที่รอดอีกครั้ง
จากนั้นภาพตัดมาที่ ผมกับผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังอยู่บนยานพาหนะที่ใหญ่แต่เก่าวิ่งไปบนน้ำ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเรือหรือรถโดยสารขนาดใหญ่ที่วิ่งบนถนนที่น้ำท่วม ความรู้สึกขณะนั้นคือรู้สึกว่ามีความอัตคัดมาก ลำบากมาก แต่ละคนนุ่งห่มเสื้อผ้าที่เก่าและไม่ได้ซักกันเลย ความรู้สึกในขณะนั้นบอกว่ากำลังอยู่ในท้องที่อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น (เป็นความฝันที่ละเอียดมาก)

จากนั้นภาพตัดมาที่ อาคารแห่งหนึ่งน่าจะเป็นอาคารสนามบินในต่างจังหวัด ผู้คนวุ่นวายไปหมด ผมก็โทรศัพท์หาเพื่อนคนหนึ่งเพื่อสอบถามและเตือน ปรากฎว่าในฝันเพื่อนไม่เชื่อแถมพูดทำนองเราตื่นตูมเกินเหตุ ช่วงนั้นก็มีเสียงของเด็กหนุ่มสองคน(นั่งตรงพื้นพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ)พูดกับผมว่า นี่แม่กับน้องชายผม พร้อมกับยื่นหนังมือมนุษย์ที่น่าจะลอกจากคนตายส่งให้ผม เป็นนัยว่าเค้าคือผู้สูญเสียและเหตุการณ์ที่เกิดนี้ของจริง แล้วเค้าก็พูดว่า ใครที่ไม่เชื่อก็ต้องปล่อยเค้าไป
ผมก็ถามเค้าว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อใช่มั้ย เค้าทำหน้างง และพยักหน้าสรุปคือใช่ "

จากนั้นผมก็ตื่นทันที ความฝันนี้มีรายละเอียดเยอะมาก ชัดเจน และมีลำดับขั้นตอน ผมก็นึกทบทวนว่าเป็นเพราะเราคิดอะไรมากไปหรือเปล่า ทำไมฝันอย่างนี้ และคิดว่าหากเกิดเหตุจริงจะทำอย่างไร ซึ่งผมก็ได้จดบันทึกไว้สามหน้ากระดาษ(กระดาษโน๊ต)

ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล่าให้ฟังเล่นๆ และขออย่าให้เกิดจริงเลย มันน่ากลัวมากครับและตอนนี้รู้สึกสบายใจแล้วที่ได้เล่าให้คนอื่นฟัง

--------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ปกรณ์ : 08-05-2007 เมื่อ 09:05 AM.