คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ประสบการณ์พระพุทโธน้อยและของอธิษฐาน

ยินดีด้วยครับพี่สิทธิ ^^

ด้วยความยินดีครับ

 

วันนี้ไปวัดสัมพันธ์วงศ์ พิพิธภัณฑ์คุณแม่บุญเรือนยังไม่เปิด เนื่องจากยังเก็บงานไม่เสร็จ

พระพุทโธ ย้อนยุค เนื้อมงคลมหาลาภ




พระพุทโธ ย้อนยุค เนื้อโสฬสผสมปูนเสก




ขากลับกราบพระบรมสารีริกธาตุที่วัดไตรมิตร

 

มาร่วมแสดงความยินดีกับท่านผู้โชคดีทุกๆท่านครับ
พร้อมกับขออนุโมทนาบุญกับคุณเชษฐ์ ด้วยนะครับ

 

กราบคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ที่เคารพยิ่ง
สวัสดีครับลูกหลานและศานุศิษย์คุณแม่ฯทุกท่าน​

เริ่มต้นทำงานกันวันแรกแล้วหลังจากที่หยุดพักผ่อนไปสองวัน ทุกท่านคงได้มีโอกาสได้ไปทำบุญในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาหรือได้เดินทางไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆกับครอบครัวอย่างมีความสุข กลับมาทำงานกันใหม่ขอให้ทุกท่านมีแรงกายแรงใจที่ดีที่จะทำงาน ดำเนินชีวิตและแก้ไขปัญหาต่างๆที่จะเข้ามาหา ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม มอบพรให้มีความสุข ไร้ทุกข์ ค้าขายให้มากมีลูกค้ามากมีกำไร เดินทางไปทางใดปลอดภัยทุกสถาน งานราชการให้ราบรื่นสดใส จะอาชีพใดใดให้มั่งคั่งมั่งมีด้วยเงินทอง ให้ไหลกองมานองเนืองไม่ขาดสาย ให้มีแต่ความสุขสบายทุกท่านเทอญ

 

ขอบคุณพี่เชษฐ์ครับผมที่ให้ความกระจ่าง

 

ยินดีครับ ^^

 

ของขวัญน่าจะจัดส่งให้ทุกท่านได้ภายในอาทิตย์นี้ครับ จัดส่งเรียบร้อยวันไหนจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับท่านใดที่ยังไม่ได้ส่งชื่อ ที่อยู่เพื่อจัดส่ง รบกวนรีบดำเนินการนะครับจะได้จัดส่งได้เร็วขึ้นเนื่องจากต้องรอให้ครบทุกท่านก่อนแล้วอธิษฐานบอกกล่างคุณแม่ฯท่านอีกครั้งครับ

 

ขอบคุณพี่เชษฐ์มากนะครับที่จัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้และทำให้สมาชิกหลาย ๆ คน(รวมผมด้วย)ได้รับของอธิษฐานและรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อย่างมากครับ

 

ยินดีครับ ได้รับแล้วเก็บบูชารักษาไว้ดีดีนะครับ ถึงจะไม่มากด้วยราคาแต่ก็มาด้วยคุณค่าและหาของแท้ๆไม่ได้ง่ายๆแน่นอนครับ

 

ผมจะเก็บรักษาอย่างดีแน่นอนครับ

 

ราคาไม่สำคัญเท่าพุทธคุณที่มีและความเอื้อเฟื้อที่คุณเชษฐ์มีครับ ศิลาน้ำเป็นของที่ลูกศิษฐย์คุณแม่ห่วงแหน คนที่ได้อาจจะพลาดทำแห้งไปบ้างแต่ไม่ต้องสงสัยครับ พุทธคุณไม่เสื่อม ตามที่คุณเชษฐ์ถามย่าน้อยมาครับ. ผมขอเล่าความรู้สึกน่ะครับ หลังที่ปลอยแห้งครั้งที่แล้ว. แล้วอ่านเจอว่าศิลาน้ำห้ามแห้ง. จึงเกิดความรู้สึกว่าพุทธคุณจะเสื่อม แต่หลังจากอ่านเพิ่มพบว่า เพราะเราคิดเช่นนั้นจึงทำให้พุทธคุณในศิลาน้ำลดถอยลง. หลังขอขมาแล้ว ลองดื่มน้ำอธิษฐานอีกครั้ง พบว่าสุขภาพดีขึ้นกว่าครั้งที่สองอย่างเห็นได้ชัด. ย้ำชัดตามข้อมูลที่คุณเชษฐ์หามาให้ลูกหลานคุณแม่ฟังกันครับ

 

กราบคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ที่เคารพยิ่ง
สวัสดีครับลูกหลานและศานุศิษย์คุณแม่ฯทุกท่าน​

วันที่สองของการทำงานของสัปดาห์แล้ว ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการทำงานนะครับ อุปสรรคปัญหาต่างๆอาจจะมีเข้ามาบ้างให้ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายที่เข้ามาให้เราได้ฝึกใช้ความรู้ ทักษะต่างๆที่เรียนและสะสมมาอีกทั้งยังได้พัฒนาสมองของเราไปในตัวไม่ให้หยุดนิ่งพร้อมทั้งสั่งสมประสบการณ์ให้มากขึ้น หากรู้สึกท้อแท้ขอให้ท่านนึกถึงคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ไว้ เพราะท่านเผชิญอุปสรรคปัญหาต่างๆมาอย่างมากมายเพื่ออนุเคราะห์ลูกหลานของท่านแต่ท่านก็อดทนและผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆเหล่านั้นมาได้ เราซึ่งเป็นลูกหลานและศานุศิษย์ควรถือเป็นแบบอย่างและตั้งมั่นในการทำดี ประพฤติดีอย่าให้เสียทีที่มีแบบอย่างที่ดีแต่ไม่ได้ทำตามนะครับ

 

รูปอธิษฐานคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ตัวหนังสือสองแถว

รูปอธิษฐานฯตัวหนังสือสองแถว พรายปรอทเต็มรูป สมบูรณ์มากอีกรูปครับ เพิ่งได้มาเพิ่ม นำมาให้ชมกันเพื่อศึกษาสภาพรูปเก่าแท้ วันหน้าเผื่อพบเจอจะได้เช่าบูชามาได้ถูกต้องครับ

<a href="http://www.mx7.com/view2/yBikCqEMkaVfrWBM" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/d2c/E4wwoy.jpg" /></a>
<a href="http://www.mx7.com/view2/yBikBIHpKYXkW3LW" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/4cc/I2nQwl.jpg" /></a>
<a href="http://www.mx7.com/view2/yBikB0K3bOSROs9j" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e59/c9Jwxn.jpg" /></a>​

 

เมื่อวันเสาร์ ที่ 12 กันยายน 2558 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปกราบสรีระสังขาร
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ มาครับ นำบุญมาฝากลูกหลานและศิษยานุศิษย์คุณแม่ฯทุกท่านด้วย ขอความสุขสวัสดี มั่งมีด้วยเงินทอง โชคลาภโภคทรัพย์ จงบังเกิดแก่ทุกท่านเทอญ

​

 

ก่อนจะถึงวันลุ้นโชคในวันพรุ่งนี้ วันนี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับถุงเหนี่ยวทรัพย์ที่ได้รับฟังมาจากคำบอกเล่าของยายน้อยมาลงให้อ่านกันครับ รอสักครู่นะครับขอเรียบเรียงก่อน อ่านแล้วจะได้เหนี่ยวทรัพย์มาให้ลูกหลานและศิษยานุศิษย์คุณแม่ฯทุกท่านในวันพรุ่งนี้

 

เรื่องจริงจากคำบอกเล่าของคุณยายน้อย
เกี่ยวกับ ถุงเหนี่ยวทรัพย์ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

​

เรื่องราวนี้เรียบเรียงขึ้นจากคำบอกเล่าของคุณยายน้อย ซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกท่านหนึ่งที่ทันคุณแม่ฯและมีโอกาสร่วมงานบุญสำคัญกับคุณแม่ฯท่านครับ ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่วิจารณญาณ ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด เนื้อหาที่ลงนี้เป็นเรื่องจริงที่ได้รับฟังมาโดยไม่มีการเติมแต่งเรื่องราวใดใด

"ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ่มกริ่ม" ใครที่เป็นลูกศิษย์คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในของอธิษฐานของคุณแม่ฯที่ได้เมตตาอธิษฐานให้ลูกศิษย์ได้นำไปบูชาเพื่อเรียกเงินทองโภคทรัพย์นานาให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เรื่องราวของถุงเหนี่ยวทรัพย์ที่หลายท่านเคยได้ยินได้ฟังได้อ่านมาก็อาจจะแตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูล และผู้ให้ข้อมูล ซึ่งทางผู้เขียนได้นำเนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะถุงเหนี่ยวทรัพย์มาลงให้ทุกท่านได้อ่านได้ศึกษากันแล้วในกระทู้ตั้งแต่ต้นเพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบรับรู้ว่าถุงเหนี่ยวทรัพย์ของคุณแม่ฯมีลักษณะใดบ้าง วันนี้จะเป็นการนำเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาของถุงเหนี่ยวทรัพย์รุ่นที่วงการยอมรับว่าเป็นรุ่นแรก(ท่าผา)มาลงให้ทุกท่านได้อ่านกันเพื่อเพิ่มเติมเป็นความรู้ไว้ต่อไปครับ ถุงเหนี่ยวทรัพย์(ท่าผา) เป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์ที่ทุกท่านคงได้รับรู้กันดีแล้วว่าเป็นที่ยอมรับของวงการพระเครื่องว่าเป็นถุงชุดแรกของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แต่หากจะกล่าวให้ถูกต้องตามคำบอกเล่าของคุณยายน้อยนั้น ถุงเหนี่ยวทรัพย์(ท่าผา) คือถุงเหนี่ยวทรัพย์รุ่นที่สอง ต่อจากรุ่นที่คุณแม่ฯอธิษฐานให้ในงานสอยดาวก่อนจะมีการสร้างถุงเหนี่ยวทรัพย์(ท่าผา)ขึ้น เริ่มแรกคุณแม่ฯดำริให้มีการจัดสร้างถงุผ้าขนาดเล็กขึ้นมา หลากหลายขนาด หลายสี รูปแบบการเย็บมีทั้งการเย็บด้วยเครื่อง(จักร)และเย็บด้วยมือ (ส่วนใหญ่จะเป็นการเย็บมือ)เป็นถุงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบ้าง จัตุรัสบ้าง ขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ปากถุงมีเชือกร้อยไว้ส่วนใหญ่จะเป็นเชือกสีขาว จะมีแตกต่างกันไปบ้างที่ใช้ ไหม ด้ายหรือเชือกสีอื่นๆ แล้วคุณแม่ฯท่านก็ทำการอธิษฐานให้ แล้วนำของอธิษฐานต่างๆใส่ไว้ในถุงแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเหรียญอธิษฐาน แบงค์อธิษฐาน ฯลฯ นำไปแขวนไว้ให้ลูกศิษย์ร่วมสอยดาวหรือสอยกัลปพฤกษ์ โดยเงินที่ได้จากการสอยดาวนี้ก็ได้นำไปทำบุญกันในโอกาสสำคัญ ลูกศิษย์คนใดมีเงินมากหน่อยก็สอยไปทีละหลายใบ คือได้ร่วมทำบุญและได้รับของวิเศษไปในตัวถึงสองอย่าง ถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดสอยดาวนี้ก็มีจำนวนหนึ่งเท่านั้น ผู้ใดจัดทำขึ้นไม่เป็นที่รับรู้แน่ชัด เพราะเมื่อถึงวันงานก็เห็นถุงเหนี่ยวทรัพย์เหล่านี้แขวนไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว (ถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดสอยดาวนี้จึงนับว่าเป็นถุงชุดแรกของคุณแม่ฯท่านครับ) ด้วยจำนวนลูกศิษย์ที่มากมายและต้องการร่วมบุญกับคุณแม่ฯด้วยก็ทำให้ถุงสอยดาวหมดลงในเวลาไม่นาน แต่ก็ยังไม่เป็นที่เพียงพอต่อความต้องการของเหล่าลูกศิษย์อีกหลายคนและก็มีอีกหลายคนที่ไม่มีทรัพย์พอที่จะร่วมสอยดาวได้ก็ได้แต่มองและรอโอกาสที่จะได้รับเมตตาจากคุณแม่ฯ เมื่อคุณแม่ฯเห็นเช่นนั้นจึงได้มีการดำริขึ้นมาว่าจะจัดสร้างถุงเหนี่ยวทรัพย์ขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้(ยายน้อยจำไม่ได้แน่ว่าคุณแม่ฯสั่งทำหรือมีลูกศิษย์สร้างมาถวาย)ให้จัดสร้างขึ้นจำนวนหนึ่งแล้วจะนำไปทำการอธิษฐานที่พระพุทธบาทสระบุรีก่อนแล้วค่อยแจกจ่ายให้ผู้ที่ไปร่วมทำบุญในโอกาสนี้และคณะบุญที่วัดท่าผา จ.ราชบุรีด้วย จำนวนการสร้างไม่เป็นที่ยืนยันชัดเจนว่าจำนวนเท่าใด แต่มีการคาดการณ์ไว้ว่าไม่น่าจะมากนัก(ตามที่ได้อ่านข้อมูลจากแหล่งอื่นมาบอกว่าประมาณ 200 ใบ) เนื้อผ้ามีด้วยกัน 2 แบบ คือเนื้อผ้าละเอียดและเนื้อผ้าแบบหยาบ เย็บด้วยจักรเรียบร้อยสวยงาม เชือกปากถุงสีขาว ตัวสีถุงจากที่ได้พบเห็นและอ่านเจอจากประวัติฯมี เขียว ขาว แดง ชมพู สี่สีนี้เป็นที่แน่นอน แจกจ่ายไปครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งได้ถวายเจ้าอาวาสวัดท่าผาไว้ จำนวนที่แจกจ่ายจริงโดยคุณแม่ฯจึงมีประมาณ 100 ใบ ลูกศิษย์ที่รู้ค่าก็เก็บรักษาบูชาไว้อย่างดี คนที่ไม่สนใจ ไม่รู้ค่าก็ไม่ดูแลรักษา ทำให้ถึงปัจจุบันถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดท่าผาเหลือให้พบเห็นน้อยมาก ด้วยลักษณะการเย็บที่เป็นแบบเดียวกัน เนื้อผ้าที่เป็นชุดเดียวกัน ทำให้มีจุดสังเกตได้ง่ายว่าใบใดเป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดท่าผาเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของการยอมรับของวงการพระเครื่องพระบูชาว่า ถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดท่าผานี้เป็นชุดที่วงการยอมรับให้เป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์รุ่นแรก ซึ่งหากให้ถูกต้องจะต้องบอกว่าเป็นถุงชุดแรกที่มีการทำอย่างเป็นแบบแผน แยกแยะได้ง่ายว่าเป็นชุดนี้โดยเฉพาะ จำนวนที่พบเจอได้น้อยประกอบกับความต้องการครอบครองบูชาของบรรดาลูกศิษย์ใหม่ๆทำให้ราคาเช่าบูชาถุงเหนี่ยวทรัพย์ชุดท่าผานี้สูงมากเลยทีเดียว หลังจากชุดท่าผาแล้วยังมีการจัดทำถุงเหนี่ยวทรัพย์ขึ้นอีกหลายวาระโอกาส แต่จะเป็นลักษณะการทำแบบถุงสอยดาวในครั้งแรก ไม่มีแบบแผน หลากหลายรูปแบบ หลากหลายเนื้อผ้า หลากหลายสีสันตามความต้องการของลูกศิษย์ที่จัดทำกันขึ้น ก่อนการทำการอธิษฐานทุกคนจะต้องเย็บถุงเหนี่ยวทรัพย์ขึ้นแล้วนำมาให้คุณแม่ฯท่านพิจารณาก่อนว่าสวยงาม เรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเรียบร้อยดีแล้วก็จะให้นำมากองรวมกันไว้ ใบไหนที่ไม่เรียบร้อยก็นำไปแก้ไขจนเป็นที่พอใจของคุณแม่ฯแล้วจึงนำมารวมกับใบก่อนหน้า เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณแม่ฯจึงทำการอธิษฐานให้ด้วยการอธิษฐานเช่นการอธิษฐานของต่างๆ ด้วยฤทธิ์แห่งฌานสมาบัติที่คุณแม่ฯท่านมี คุณยายน้อยบอกว่าการอธิษฐานท่านจะทำง่ายมากไม่มีพิธีรีตรองอะไรมาก คุณแม่ฯท่านจะชี้นิ้วไปทางถุงเหนี่ยวทรัพย์เหล่านั้นพร้อมกับพูดอธิษฐานตามแบบฉบับไม่นานเป็นอันเสร็จพิธี ถุงเหนี่ยวทรัพย์เหล่านั้นก็เป็นอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยฤทธิ์ที่คุณแม่ฯอธิษฐานในทันที อธิษฐานเสร็จลูกศิษย์ก็ต่างมาหยิบถุงเหนี่ยวทรัพย์นั้นไปต่างคนต่างหยิบจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับใบที่ตัวเองเย็บขึ้นเท่าไหร่จึงเป็นที่มาของการปักชื่อไว้ที่ถุงและจัดเป็นชุดอย่างเรียบร้อยในการอธิษฐานครั้งต่อมาเพื่อจะได้ไม่หยิบกันมั่วและได้ของที่ตัวเองตั้งใจทำขึ้นเองไปบูชา ถุงเหนี่ยวทรัพย์ฯนี้มีการทำขึ้นอีกหลายโอกาส และมีจำนวนพอควรในแต่ละครั้งทำให้ถุงแบบที่ไม่ใช่ชุดท่าผาจึงมีให้เห็นตามบ้านลูกศิษย์ที่เห็นค่าและเก็บรักษาไว้มากกว่าชุดท่าผา แต่ไม่ว่าจะแบบใดก็ตามถุงเหนี่ยวทรัพย์เหล่านี้ก็ต่างได้รับการอธิษฐานจากคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อย่างแน่นอนและมีพุทธคุณไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด หากจะแตกต่างกันไปก็คงเพราะค่านิยมของลูกศิษย์รุ่นหลังอย่างเราๆที่มีการจัดแบ่งกันออกไปอย่างชัดเจนและบางคนก็ไม่ยอมรับถุงแบบอื่นนอกจากชุดท่าผา ซึ่งความจริงแล้วเป็นเช่นไรหลายคนที่มีข้อมูลก็คงจะรู้ดี และจากคำบอกเล่าของคุณยายน้อยเกี่ยวกับถุงเหนี่ยวทรัพย์นี้ ได้บอกว่า คุณแม่ฯท่านได้บอกไว้ว่าถุงที่ดีของท่านจริงๆนั้นคือ "ถุงสอยดาว" ซึ่งเป็นชุดที่ท่านตั้งใจให้สร้างขึ้นในครั้งแรกนั่นเองครับ และยังมีการย้ำอีกนิดว่า ดีที่สุดคือ "ถุงเขียว" และจากคำบอกกล่าวนี้ของคุณแม่ฯท่านน่าจะเป็นที่มาของการรับรู้ว่าถ้าเอ่ยถึงถุงเหนี่ยวทรัพย์ของคุณแม่ฯแล้วจะต้องเป็น "ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์" สืบต่อกันมาถึงทุกวันนี้ แต่ไม่ว่าสีใดผมมั่นใจว่าหากเป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์ที่ผ่านการอธิษฐานจากคุณแม่ฯท่านแล้วนั้นพุทธคุณไม่แตกต่างกันอย่างแน่นอนครับ

บทความนี้นำมาลงเพื่อเผยแพร่ความรู้อีกแง่มุมหนึ่งตามจริงที่ได้รับทราบจากลูกศิษย์คุณแม่ฯท่าน หวังว่าเนื้อหาที่เรียบเรียงมาลงให้ทุกท่านได้อ่านกันนี้จะเพิ่มพูนความรู้ให้ลูกหลานและศิษยานุศิษย์คุณแม่ฯในปัจจุบันอย่างมากนะครับ