ข้อความจากต่างมิติ - รวมการตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์จาก Kryon

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 23 กรกฎาคม 2015.

  1. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    37.ตอบคำถามโดย Kryon เรื่อง: เกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimers)?

    ที่มา:
    Q&A-11-1.html

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออนที่รัก ฉันเพิ่งอ่านคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อร่างกายเนื้อของเราตายไปแล้ว แต่ว่าฉันก็มีคำถามใหม่อีกว่า:

    เกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เรากำลังป่วยเป็นโรคบางโรค เช่น อัลไซเมอร์ เป็นต้น มันจะเกิดอะไรขึ้นกับ “กายแห่งจิตวิญญาณ” (spiritual body)
    ของเราในระหว่างที่เรากำลังสูญเสียความทรงจำอยู่นั้น หรือเมื่อร่างกายเนื้อของเรากลายเป็นอัมพาตไปแล้ว?


    คำตอบ:

    ภายในปีนี้พวกเราได้เน้นยำมาโดยตลอดว่าความจริงแล้วพวกคุณคือ “รูปธรรมชีวิตหลากมิติ” ซึ่งหมายถึงพวกคุณทุก ๆ คนเลยนะ!

    ดังนั้น เมื่อใดก็ตาม ที่สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมนุษย์” (Human consciousness) ได้จากร่างนี้ไปแล้ว
    อาจจะเพราะโรคภัยไข้เจ็บ หรือว่าได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ “ส่วนที่เป็นประกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า” (spark of divinity) ที่อยู่ในตัวของพวกคุณ
    ที่พวกคุณเรียกกันว่า “บุคคลิกภาพ” (th personality) นั้น ก็จะถูกถ่ายโอนไปสู่สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher-Self) ของพวกคุณแทน

    เพราะว่าไม่มีพลังงานชนิดไหนที่จะสามารถถูกทำลายได้ เพราะว่ามันมีแต่จะถูกย้ายที่ หรือถูกทำให้เปลี่ยนรูปแบบไปได้เท่านั้นเอง

    ดังนั้น ชีวิตที่กำลังรอคอยความตายอยู่นั้น ก็เลยยังอยู่ที่นั่นเพื่อ “สอนบทเรียน” ให้กับพวกคุณเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพื่อตัวพวกเขาเองเลย

    เพราะว่าพวกเขาได้เลือกเส้นทางนี้เอาไว้ (ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม) ดังนั้น พวกเขาจึงยังคงอยู่ที่นี่และในสภาพที่ไร้ความตระหนักรู้แบบนี้ เพื่อพวกคุณและคนอื่น ๆ

    แต่สำหรับตัวพวกเขาเองหนะหรือ? พวกเขาไปอยู่ที่โน่นตั้งนานแล้ว.. และก็กำลังเฉลิมฉลองให้กับพวกคุณด้วยความรักอยู่ สำหรับการดูแลและปรนนิบัตของพวกคุณ!

    Kryon
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    38.การเปลี่ยนแปลง DNA

    ที่มา:
    Q&A-2-15.html

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออนที่รัก ผมมีลูกชายอยู่คนหนึ่งที่เพิ่งตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวาน และถึงแม้ว่าผมอยากจะเคารพในการตัดสินใจเลือกของจิตวิญญาณของเขา
    ที่ว่าจะมาป่วยเป็นโรคนี้ ในภพชาตินี้ก็ตาม แต่ว่าในขณะเดียวกันผมก็อยากจะให้เขาหายจากโรคนี้เหลือเกิน เพราะว่าเขาเพิ่งอายุได้ 4 ขวบเท่านั้นเอง

    และพอผมคิดว่าเขาจะต้องฉีดยาไปจนตลอดชีวิตของเขา และเขาจะต้องถูกโรคนี้ควบคุมไปจนตลอดชีวิตของเขาแล้ว ผมก็ทำใจไม่ได้
    เพราะว่าถ้าไม่ดูแลให้ดี ๆ แล้ว โรคนี้ก็จะอาจจะทำให้ถึงกับตาบอดได้ หรือทำให้ไตวายได้, หรือเป็นโรคหัวใจได้ หรือแม้แต่ต้องตัดแขนขาทิ้งด้วยซ้ำไป

    ผมอยากจะให้เขาแข็งแรงและมีสุขภาพดีเหลือเกิน แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้พลังอำนาจเหลือเกิน คำถามของผมก็คือว่า:

    ผมควรจะปฏิบัติตัวต่อลูกชายของผมผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคนี้อย่างไรดี? ผมควรจะแค่ยอมรับมันเฉย ๆ หรือว่าผมควรจะพยายามช่วยให้เขาเยียวยารักษาตัวเขาเองให้หายดี?

    ผมกำลังรู้สึกท้อแท้กับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของโรคนี้ และรวมถึงจุดประสงค์ที่เขาเลือกที่จะป่วยเป็นโรคนี้ในภพชาตินี้มาก

    ขอบคุณที่สละเวลาให้นะครับ

    Bryan


    คำตอบ:

    ในบางนัยยะคุณก็ได้ตอบคำถามของตัวเองไปบ้างแล้ว เพราะว่าคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับหลักการณ์ของมันแล้ว

    ที่ว่า..เด็กคนนั้นเป็นผู้ “เลือก” ที่จะนำสิ่งนี้มาสู่ชีวิตของพวกคุณทั้งสองคนเอง และคุณก็ยังรู้ตัวอีกด้วยว่า คุณไม่มีพลังอำนาจอะไรที่จะไปเปลี่ยนแปลง
    ร่างกายของเขาได้ มีเพียงตัวเขาเองคนเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาได้เลือกเอามาใส่ในชีวิตของเขาได้

    แต่ว่า..ในฐานะของผู้เป็นพ่อ ผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อลูกแล้ว คุณรู้ว่าคุณควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือเขาด้วย ดังนั้น
    คุณจึงรู้สึกท้อแท้และผิดหวังกับการที่ได้พบว่าตัวเองไม่อาจให้ความช่วยเหลืออะไรเขาได้เลย ได้แต่นั่งดูเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    ที่รัก..มันไม่มีอะไรที่ไกลเกินกว่าจะเป็นความจริงได้หรอก และจงจำไว้ว่าการตัดสินใจเลือกด้านจิตวิญญาณของลูกชายของคุณ
    ที่ได้ยินยอมให้โรคนี้เข้ามาสู่ชีวิตของเขานั้น ก็เพื่อตัวพวกคุณทั้ง 2 คน

    ดังนั้น จงเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงมันซะ..โดยการ:

    อันดับแรก คุณจะต้องผ่อนคลายกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ซะก่อน เพราะว่าคุณก็เข้าใจแล้วนี่ว่าภาระกิจเบื้องต้นของคุณคืออะไร เพราะฉะนั้นแล้ว จงทำมันซะ!

    ให้ส่งพลังงานแสงสว่างไปให้เขาทุกวัน ๆ (โดยการจินตนาการถึงแสงสว่างแล้วส่งไปให้เขา พร้อมกับความรัก – ผู้แปล)

    และจงดำเนินชีวิตให้เขาเห็นเป็นแบบอย่างว่ามนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้! จงทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขา และจงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข!

    จงพูดให้เขาฟังบ่อย ๆ ว่ามนุษย์สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายเนื้อของตัวเองได้อย่างไรบ้าง และบอกเขาว่าสักวันหนึ่งเขาก็จะสามารถทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน
    ถ้าเขาต้องการ

    จงปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความมีพลังอำนาจลงไปให้กับเขา ด้วยคำพูดที่ชาญฉลาดของผู้เป็นพ่อแม่ที่เคารพและรักเขามากอย่างสุดหัวใจ

    อย่าแสดงความกลัว หรือความวิตกกังวล หรือความรู้สึกด้านลบใด ๆ ให้เขาเห็น ให้แสดงออกแต่สิ่งที่จะทำให้เขามีกำลังใจขึ้นมาเท่านั้น

    แล้วจากนั้น Bryan ที่รัก ในขณะที่คุณไม่ได้คาดหวังอะไรเลย หรือแม้แต่หลังจากที่คุณตายไปแล้วเสียด้วยซ้ำ เด็กชายคนนี้ก็จะจดจำความเบิกบาน
    และคำพูดดี ๆ ของพ่อของเขาได้

    แล้วจากนั้นเขาก็อาจจะมองไปรอบ ๆ แล้วถามคำถามต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาว่า “ผมสามารถเปลี่ยนแปลง DNA ของผมได้จริง ๆ เหรอครับ?”

    นั่นแหละที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเยียวยารักษาหละ ซึ่งมันสามารถที่จะ..แล้วก็จะ..ไปกำจัดความไม่สมดุลทางชีวภาพให้ออกไปจากเซลในร่างกายของเขาได้
    เพราะเรื่องแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นแล้ว! มันเป็นไปได้จริง ๆ และหลาย ๆ คนก็กำลังทำมันอยู่

    โดยการดูแลตัวคุณเอง และโดยการดูแลจิตสำนึกของตัวคุณเอง ก็เท่ากับว่าคุณกำลังแสดงแสงสว่างให้เขาเห็นอยู่ ซึ่งเขาอาจจะพยายามทำตามบ้างในภายหลัง
    นี่แหละคือปาฏิหาริย์ของชีวิตของผู้ที่รู้แจ้งแล้วหละ

    และแสงสว่างที่คุณแสดงออกมาในวันนี้นั้น ก็จะไม่มีวันสูญหายไปไหนเลย เพราะว่ามันจะถูกเก็บเอาไว้ในคลังสินค้าที่เป็นนิรันดร์ และมันก็จะอยู่กับลูก ๆ ของคุณ
    ไปจนตลอดชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว จงเริ่มเก็บสะสมแสงสว่างได้แล้ว!

    Kryon
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2015
  3. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    39.บริเวณที่หนาวเย็นกว่าของโลกคือบริเวณที่เอื้ออำนวยต่อการรู้แจ้งมากกว่าจริงหรือไม่?

    ที่มา:
    Q&A-2-15.html

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออนที่รัก คุณเคยพูดเอาไว้สั้นๆในหนังสือบางเล่มของคุณว่า ส่วนของโลกที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นมากกว่า
    คือบริเวณที่เอื้ออำนวยต่อการรู้แจ้งของพวกเรามากกว่า ดังนั้นคุณจะกรุณาอธิบายได้ไหมว่าที่ไหนและทำไมบริเวณเหล่านั้น
    ถึงสามารถส่งผลกระทบต่อการเลื่อนระดับขึ้นของจิตสำนึกของพวกเราได้?
    ขอบคุณมากคะ – คริสตี้.


    คำตอบ:

    ตอนนี้มีหลายคนแล้วที่เข้าใจเรื่องนี้ แต่ที่พวกคุณจะต้องประหลาดใจก็คือพวกคุณจะต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิเลย!

    เพราะว่าสิ่งที่พวกเราเคยพูดถึงเอาไว้เมื่อ 12 ปีที่แล้วนั้น พวกเราหมายถึงเฉพาะและเจาะจงลงไปที่โครงข่ายพลังงานแม่เหล็กโลก
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโครงข่ายพลังงานของดาวเคราะห์โลกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะว่ายิ่งเข้าไปใกล้ขั้วโลกมากขึ้นเท่าไหร่
    พลังงานก็จะเอื้ออำนวยต่อการเนรมิตรมากขึ้นเท่านั้นด้วย

    เพราะว่าจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของผู้คนบนโลกจะมีความหยาบและทื่อทึบมากที่สุดเมื่ออยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร

    ดังจะเห็นได้ว่าเมืองที่รู้แจ้งแล้วส่วนใหญ่ของพวกคุณบนโลกใบนี้ มักจะอยู่บนจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของแผ่นดินใหญ่ และในขณะเดียวกันปัญหาที่สลับซับซ้อนมากที่สุด
    ของพวกคุณก็มักจะเกิดขึ้นบริเวณเส้นศูนย์สูตรซะเป็นส่วนใหญ่

    แต่จนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่เคยมีมนุษย์คนไหนลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่าทำไม หรือทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงๆจังๆเลย

    มันเกี่ยวข้องกับ “ความสมดุล” ไม่ใช่เรื่องของความยุติธรรม และทุกๆคนที่ไปเกิดในบริเวณเหล่านั้นก็ได้เลือกเอาไว้แล้วอย่างตั้งอกตั้งใจตั้งแต่ก่อนถือกำเนิดว่าจะไปเกิดที่นั่น

    Kryon
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2015
  4. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    40.การติดต่อสื่อสารกับเหล่าเทพผู้นำทาง (guides) ของเรา

    ที่มา:
    q&a-print.html

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่อง “เทพผู้นำทาง” (guide) นี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? เพราะว่าพวกเราไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
    ดังนั้น แล้วอะไรคือหลักฐานข้อพิสูจน์หละ?


    คำตอบ:

    ก็อย่างที่นักดาราศาสตร์ผู้โด่งดังคนหนึ่งของพวกคุณเคยเขียนเอาไว้นั่นแหละว่า “พ่อของคุณรักคุณไหม๊? ถ้าคำตอบคือ..ใช่..รักมากเลย งั้นก็พิสูจน์สิ”

    บางครั้งข้อพิสูจน์ของเรื่องที่จับต้องไม่ได้แบบนี้ มันก็อยู่ในการกระทำและพลังงานรอบๆตัวพวกคุณเองนั่นแหละ
    ซึ่งมันไม่สามารถมองเห็นได้ในระบบ 4 มิติของพวกคุณ ที่พวกคุณกำลังเดินไปรอบๆอยู่นั้น
    (ระบบ 4 มิติ ก็คือมิติที่ 3 ที่มีความกว้าง, ยาว, สูง และ กาลเวลา – ผู้แปล)

    และมันก็เป็นกรณีเดียวกันกับเรื่องของ “ความรัก” ที่น่าทึ่งนั่นแหละ เพราะว่าเมื่อพวกคุณตกหลุมรักใครซักคนเข้า พวกคุณก็จะสามารถรู้สึกถึงมันได้
    และรู้ว่ามันมีอยู่จริงๆ จนแทบจะสามารถใช้มีดตัดเจ้าพลังงานความรักนั้นออกเป็นชิ้นๆได้เลยทีเดียว!

    มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก และมันก็มีอยู่จริงมากๆซะด้วย แต่ว่าพวกคุณก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้ ..มันมีอยู่จริง..แต่ว่าไม่สามารถมองเห็นได้

    ด้วยเหตุนี้ เจ้าพลังงานที่พวกเราเรียกกันว่า “น้ำซุปแห่งเทพผู้นำทาง” (the guide soup) นี้ จึงเริ่มที่จะมาเคาะประตูบ้านของพวกคุณแล้ว
    เพื่อประกาศให้พวกคุณรู้ว่าพวกเขามีอยู่จริงๆ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ คล้ายๆกับความรักนั่นแหละ

    เอาหละ..นี่คือข้อพิสูจน์ในโลก 4 มิติของพวกคุณนะ: มีพวกคุณจำนวนเท่าไหร่แล้ว ที่กำลังมองเห็นเลข 11:11 หรือ 12:12 หรือ 4:44 อยู่บนหน้าปัดนาฬิกา
    หรือบนสัญลักษณ์ต่างๆอยู่?

    มีพวกคุณจำนวนเท่าไหร่แล้ว ที่มักจะถูกดึงดูดให้หันไปมองดูหน้าจอดิจิตอลของอุปกรณ์ไฟฟ้า ในเวลาที่มีตัวเลขพวกนี้ปรากฎขึ้นมาพอดิบพอดี?

    พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่า มันช่างเป็นความบังเอิญอะไรขนาดนี้? แล้วมันจะต้องปรากฎขึ้นมาแบบนี้อีกซักกี่ครั้งกัน พวกคุณถึงจะเชื่อว่ามันมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหนะ?!!

    ที่รักทั้งหลาย คราวหน้าถ้าพวกคุณเห็นมันอีก ให้แสดงความยินดีกับมัน! เพราะว่านี่คือคำทักทายจากเหล่าเทพผู้นำทางของพวกคุณ
    ที่กำลังร้องทักว่า “Hello” อยู่ มันเป็นพลังงานของเหล่าเทพผู้นำทางของพวกคุณ ที่กำลังร้องบอกพวกคุณว่า “พวกเราอยู่นี่!”

    ดังนั้น ครั้งต่อไปถ้ามันเกิดขึ้นอีก ฉันอยากจะให้พวกคุณพูดออกมาดังๆจริงๆเลยว่า “ฉันก็รักพวกคุณเหมือนกัน”

    แล้วจากนั้น ทวยเทพที่รักทั้งหลาย พวกคุณก็จะเริ่มติดต่อสื่อสารกันแบบหลากมิติทั้งสองทางได้ ซึ่งมันจะยอดเยี่ยมมากอย่างที่พวกคุณไม่เคยคาดคิดมาก่อน
    เพราะว่ามันจะเป็นการติดต่อสื่อสารแบบมีสมาธิทั้ง 100% เต็ม โดยที่ดวงตาของพวกคุณยังเปิดกว้างอยู่ ไม่ต้องหลับตา
    และเป็นไปในขณะที่พวกคุณยังตื่นอยู่ และยังเดินไปเดินมาอยู่

    หรือว่าพวกเราควรจะใช้วิธีการอื่นดี?

    KRYON
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2015
  5. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    41.แรงแม่เหล็กของบริเวณที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร

    ที่มา:
    kryon-Q&A 2nd Quarter2005

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออนที่รัก คุณจะกรุณาแสดงความคิดเห็นแบบกว้างๆเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ไหม
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ฉันอยากจะขอ comment แบบเป็นการเฉพาะเจาะจงมากเป็นพิเศษซักหน่อย?

    เพราะว่าฉันอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กของบริเวณที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรให้มากกว่านี้ คุณจะกรุณาแนะนำอะไรหน่อยได้ไหม?


    คำตอบ:

    มันอาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นการ “ไม่ยุติธรรมเลย” สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณแถบนี้ แต่ว่าคุณสมบัติต่างๆของโครงข่ายแม่เหล็กโลก ณ.บริเวณ
    เส้นศูนย์สูตรนี้ก็ยังมีคุณสมบัติบางประการที่เหมือนกับของบริเวณขั้วโลกอยู่

    ในหลายๆสถานที่ที่อยู่ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรนี้ มันจะมีความแรงของโครงข่ายแม่เหล็กโลกอยู่น้อยมากๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าพวกคุณกำลังนั่งอยู่ในบริเวณ
    ที่เป็นกลางระหว่างขั้วบวกและขั้วลบของมันอยู่ และดังนั้นมันจึงมักจะทำให้สถานที่เหล่านี้กลายเป็นสถานที่ๆยากลำบากต่อการอยู่อาศัย
    และก็ยังทำให้เกิดสภาวะจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่คงเส้นคงวาอยู่อย่างนั้น จนยากมากๆที่จะบรรลุอะไรได้อีกด้วย

    มันทำให้เกิดรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ พอๆกับที่ทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวลของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณแถบนี้มากกว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณอื่นๆของโลก

    ซึ่งถ้าพวกคุณสงสัยในเรื่องนี้หละก็ ก็ลองมองหาดูซิว่าบริเวณไหนบ้างในโลกใบนี้ ที่มีคนยากคนจนอยู่มากที่สุด และก็เป็นสถานที่ๆไร้เสถียรภาพในการดำรงชีวิต
    อยู่มากที่สุดด้วย แล้วพวกคุณก็จะพบว่ามันก็คือสถานที่ๆอยู่ตรงบริเวณเส้นศูนย์สูตร หรือที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับเส้นศูนย์สูตรนั่นเอง

    ในปี 1989 มีคนเคยถามครายออนว่า “ที่ไหนบนโลก คือที่ๆดีที่สุดสำหรับการดำรงชีวิตอยู่?” ซึ่งพวกเราก็ได้ตอบไปว่า “ให้ย้ายไปอยู่ในที่ๆหนาวเย็น”
    ดังนั้น ตอนนี้พวกคุณอาจจะรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไม?

    Kryon
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    42.โหราศาสตร์ – ในทางวิทยาศาสตร์แล้วมันทำงานอย่างไร

    ที่มา:
    kryon-Q&A 2nd Quarter2005

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม:

    ครายออนที่รัก พวกเราได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์กันมานานพอสมควรแล้ว และพวกเราก็รู้ว่าดวงดาวต่างๆในระบบสุริยะนี้คือผู้ที่ช่วยสร้างและสนับสนุน
    ให้เกิดรอยประทับด้านบุคลิกภาพของพวกเราแต่ละคนขึ้นมาด้วย เพราะว่าดวงดาวต่างๆและการโคจรของพวกมันจะไปส่งผลกระทบต่อลักษณะเฉพาะ,
    อารมณ์ความรู้สึก และความคิดของพวกเรา

    ดังนั้น พวกเราจึงอยากจะรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วกลไกการทำงานของมันเป็นอย่างไร และในเชิงวิทยาศาสตร์แล้วระบบๆนี้มันทำงานอย่างไร?

    และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเราอยากจะรู้ว่าพวกเราจะสามารถใช้ศาสตร์โบราณศาสตร์นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในยุคพลังงานใหม่นี้ได้อย่างไร?

    และมันก็ดูเหมือนว่า มันจะคือพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณ หรือคือเรื่องของกรรมอย่างหนึ่งด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรารู้แจ้งแล้วและทำให้กรรม
    หรือพันธะสัญญาอันนี้กลายเป็นโมฆะไปแล้ว? มันหมายความว่าอิทธิพลจากดวงดาวต่างๆจะเลิกส่งผลกระทบต่อเราใช่หรือไม่?


    คำตอบ:

    ถึงแม้ว่าพวกเราจะเคยอธิบายเรื่องนี้ให้พวกคุณฟังไปแล้ว ในการสื่อสารเมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม แต่พวกเราก็จะสรุปสั้นๆให้พวกคุณฟังอีกครั้งหนึ่งว่า
    โหราศาสตร์ทำงานอย่างไร

    ดวงอาทิตย์คือจุดศูนย์กลางในการหมุนของระบบสุริยะนี้ และก็เป็นจุดศูนย์กลางของพลังงานที่จะทำให้พวกคุณมีชีวิตอยู่ได้ด้วย มันมีกลไกทางกายภาพ
    ในการส่งข้อมูลข่าวสารจากดวงอาทิตย์ไปสู่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆในระบบสุริยะแห่งนี้อยู่อย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า “ลมสุริยะ” (solar wind)

    ซึ่งกระแสพลังงานที่เรียกว่าลมสิริยะนี้ จะนำพารูปแบบของพลังงานหลากมิติที่ดวงอาทิตย์มีอยู่ในขณะนั้นๆไปด้วย แล้วก็จะนำไปส่งให้กับอะไรก็ตามที่อยู่
    ภายในขอบเขตสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่าเฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere)

    ลมสุริยะนี้มันจะมีอยู่ในเฮลิโอสเฟียร์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันจะมีบางระลอกที่จะเข้มข้นรุนแรงมากกว่าเพื่อนเท่านั้นเอง

    และถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณจะสามารถมองเห็นแล้วว่า ลมสุริยะนี้คือผู้นำส่งพลังงานของระบบสุริยะนี้ก็ตาม แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นได้ว่า
    ในขณะที่มันพวยพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์นั้น มันได้นำพาเอารูปแบบของพลังงานหลากมิติติดตัวไปด้วย เพื่อไปแจกจ่ายให้กับดาวเคราะห์ทั้งหลายในระบบสุริยะแห่งนี้

    รูปแบบของพลังงานเหล่านี้ คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของดวงอาทิตย์ ที่มันถูกดาวเคราะห์ทั้งหลายในระบบฯดึงและดูดอยู่ตลอดเวลา
    ด้วยแรงโน้มถ่วงและแรงแม่เหล็ก (พลังงานทั้งสองชนิดนี้คือพลังงานหลากมิติ)

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้รูปแบบพลังงานของดวงอาทิตย์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามไปด้วย ตามแรงกระทำของแรงโน้มถ่วงและแรงแม่เหล็ก
    ที่ดาวเคราะห์ทั้งหลายในระบบฯกระทำต่อมัน

    และเมื่อใดก็ตามที่ลมสุริยะ ซึ่งหอบเอารูปแบบพลังงานของดวงอาทิตย์มาด้วยนี้ เดินทางมาถึงโลกแล้ว มันก็จะถ่ายโอนรูปแบบของพลังงานดังกล่าวนี้ไปให้กับ
    “โครงข่ายพลังงานแม่เหล็กโลก” (the Magnetic Grid) ในทันที

    โครงข่ายพลังงานแม่เหล็กโลก เป็นโครงข่ายพลังงานที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง และก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
    ดังนั้น เมื่อมันได้รับรูปแบบพลังงานมาจากลมสุริยะแล้ว มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานตามไปด้วยในทันที

    ส่วนเส้นพลังงานของโครงข่ายพลังงานแม่เหล็กโลกนั้น พวกมันก็จะรับเอาพลังงานมา แล้วก็จะทำให้รูปแบบของพลังงานเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
    เพราะว่าเส้นพลังงานเหล่านี้ไม่ได้มีความสม่ำเสมอกันทั้งหมด ดังนั้น ในแต่ละจุดของโลกที่เส้นพลังงานเหล่านี้อยู่ จึงจะได้รับผลกระทบมากน้อยไม่เท่ากัน

    ส่วน DNA ของมนุษย์นั้น ก็จะมีความไวต่อพลังงานแม่เหล็กอยู่แล้ว เพราะว่ามันก็มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กชนิดหนึ่งด้วยเหมือนกัน

    ดังนั้น ในตอนแรกเกิด ซึ่งเป็นตอนที่ทารกแยกตัวออกมาจากมารดาเป็นครั้งแรกนั้น มันก็จะมีสัญญาณอย่างหนึ่ง ที่ถูกส่งไปให้กับสมองของทารกผู้นั้น
    แล้วบอกว่า “บัดนี้ระบบของคุณจะทำงานด้วยตัวมันเองแล้ว ไม่ต้องอาศัยระบบของแม่อีกต่อไปแล้ว”

    ดังนั้น นับตั้งแต่วินาทีที่ทารกเริ่มหายใจเองเป็นครั้งแรก และแยกตัวออกมาเป็นชีวิตใหม่อีกชีวิตหนึ่งนั้น DNA ของเด็กทารกผู้นั้นก็จะรับเอารูปแบบ
    ของพลังงานจากโครงข่ายพลังงานแม่เหล็กโลกเข้ามาในทันที แล้วทารกผู้นั้นก็จะมีสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “คุณลักษณะทางโหราศาสตร์” (astrological attributes)
    ของช่วงเวลาตกฟากของตัวเองอยู่ทั้งหมดโดยปริยาย

    รูปแบบของพลังงานในแต่ละสถานที่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ก็จะคือ “พลังงานพื้นฐาน” บวกเข้ากับ หรือลบออกไป โดย “พลังงานของสนามแม่เหล็กโลกในสถานที่นั้นๆ”
    ซึ่งไม่เหมือนกัน ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโหราศาสตร์ระดับโลกจึงจำเป็นจะต้องนำเอาสถานที่เกิดมาพิจารณาด้วย และนี่แหละคือหลักการของ
    “แผนที่เดินดาว” หรือ Astrocartography หละ

    วิชาโหราศาสตร์ คือศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ และมันก็สามารถพิสูจน์ถึงความถูกต้องของมันเองได้ด้วย นอกจากนี้แล้ว
    “โหราศาสตร์สามัญ” (generic astrology) ก็ยังสามารถที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อมนุษยชาติได้อีกด้วย

    เช่น วัฎจักรของระบบสตรีเพศ (วัฏจักรของดวงจันทร์ – ผู้แปล) เมื่อพระจันทร์เต็มดวง จะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อพฤติกรรมของมนุษย์ได้ เป็นต้น

    ดังนั้น พวกคุณจึงไม่สามารถที่จะแยกตัวเองออกมาจากโหราศาสตร์ได้ และใครก็ตามที่ไม่เชื่อในเรื่องโหราศาสตร์นี้ ก็ควรที่จะต้องไม่เชื่อในเรื่องการหายใจด้วย
    เพราะว่ามันก็มีอิทธิพลต่อชีวิตของพวกคุณมากพอๆกัน

    พลังงานใหม่ของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ กำลังเชื้อเชิญให้พวกคุณเปลี่ยนแปลง DNA ของตัวเองอยู่ และนี่ก็คือคำสอนของครายออนด้วย

    เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณเปลี่ยนแปลง DNA ของตัวเองแล้ว ก็เท่ากับว่าพวกคุณได้ไปจัดการกับแก่นแท้ของรูปแบบของพลังงานที่พวกคุณเกิดมาพร้อมกับมันด้วย
    และเพราะฉะนั้น พวกคุณจึงสามารถที่จะจัดการกับคุณลักษณะบางประการที่เป็นพิมพ์เขียวทางโหราศาสตร์ของตัวเองได้ด้วย และก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงพวกมันได้อย่างแท้จริงอีกด้วย
    หรือแม้กระทั่งสามารถทำให้พวกมันเป็นโมฆะไปได้ด้วยซ้ำไป

    เรื่องนี้พวกเราเคยบอกพวกคุณไปหมดแล้ว ตั้งแต่ปี 1989 ว่า..คุรุทั้งหลายของโลกใบนี้ได้ทำเช่นนี้กันไปแล้วทั้งนั้น (เปลี่ยนแปลง DNA ของตัวเอง – ผู้แปล)
    และในตอนนี้ก็กำลังจะถึงตาพวกคุณบ้างแล้ว ที่จะมีความสามารถเหมือนกับคุรุเหล่านั้นบ้าง

    จงมองเข้าไปในชีวิตของตัวเอง แล้วจงกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางออกไปให้หมดเสีย แต่ก็ให้เก็บสิ่งที่เป็นประโยชน์เอาไว้เหมือนเดิม
    นี่แหละคือวิถีของมนุษย์ที่มีความสมดุลอย่างแท้จริงหละ

    แต่ว่า..ถึงแม้ว่าพวกคุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงความไวของตัวเองที่มีต่อคุณสมบัติบางประการด้านโหราศาสตร์ของตัวเองได้ก็ตาม
    แต่ว่าผลกระทบโดยทั่วไปจากการโคจรของดวงจันทร์และดาวเคราะห์ทั้งหลาย ที่มีต่อพวกคุณนั้น ก็ยังจะคงมีอยู่ต่อไปอยู่อีกไม่มากก็น้อย
    เพราะว่าพวกคุณไม่ได้เป็นเกาะกลางทะเลที่แยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยวจากคนอื่นๆนั่นเอง

    ซึ่งผลกระทบโดยทั่วไปที่ว่านี้ก็เช่น การโคจรกลับของดาวเคราะห์ทั้งหลาย และผลกระทบจากวัฏจักรของดวงจันทร์ (ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว) เป็นต้น

    ดังนั้น แม้ว่าพวกคุณอาจจะสามารถนั่งอมยิ้มอยู่ด้วยความสบายใจ แล้วพูดว่า “ตอนนี้ ฉันไม่ได้รับผลกระทบจากการโคจรกลับของดาวเคราะห์อีกต่อไปแล้ว” ก็ตาม
    แต่ในเดียวกันพวกคุณก็ยังจะคงไม่ควรที่จะเซ็นสัญญาใดๆทั้งสิ้น ในระหว่างที่เกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวนี้อยู่เหมือนเดิม เพราะว่าคนอื่นๆทุกๆคนที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
    ยังคงได้รับผลกระทบจากมันอยู่เหมือนเดิม..ลองคิดดูนะ

    Kryon
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2015
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    43). การบำบัดด้วยพลังงาน และการสัมผัสรู้พลังงาน

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    *คำถาม:*

    ครายออนที่รัก กรุณาช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจเกี่ยวกับการบำบัดรักษาของผม และของเพื่อนผมหน่อยได้ไหมครับ?
    คือเพื่อนของผมเธอเป็นนักบำบัดที่เก่งมากๆแต่ว่าเธอไม่มีความเข้าใจในเรื่องของพลังงานเลย
    ส่วนผมมีความเข้าใจในเรื่องพลังงานดี แต่กลับไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกถึงอะไรได้เลยในระหว่างที่ผมกำลังทำการบำบัดรักษาอยู่

    ผมอยากจะเริ่มทำการบำบัดรักษาโดยใช้ Reiki และโดยการนวด แต่ผมก็ยังมีความกังวลใจอยู่
    เพราะว่าผมไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นได้เลย

    เพื่อนของผมคนหนึ่งมีอาการปวดตามกล้ามเนื้อและมีการอักเสบแบบเรื้อรัง
    แล้วก็ยังมีปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆอีกด้วย ที่แม้แต่พวกเราก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้
    ดังนั้น ผมจึงอยากจะถามว่าผมควรที่จะนำคำตอบของคุณไปบอกเธอดีไหม หรือว่าจะให้เธอไปหาคำตอบเอาเองดีครับ

    คุณจะสามารถอธิบายได้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราใช้วิธีการบำบัดแบบวางมือลงไป?
    แล้วมันไปส่งผลกระทบต่อเซลต่างๆในร่างกาย รวมถึงไปส่งผลกระทบต่อกายต่างๆของเรา
    ที่มีระดับพลังงานแตกต่างกันได้อย่างไรบ้าง?

    *คำตอบ:*

    คุณก็ได้ตอบคำถามที่ตัวเองถามไปเรียบร้อยแล้วนี่
    ว่า..”เธอเป็นนักบำบัดที่เก่งมากๆแต่ว่าเธอไม่มีความเข้าใจในเรื่องของพลังงานเลย”

    และในตอนที่คุณเข้าไปนั่งในรถของตัวเองเพื่อที่จะเดินทางไปที่ไหนซักแห่งนั้น
    คุณจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจในเรื่องของระบบเกียร์ไหม๊? หรือว่าคุณก็แค่รู้วิธีการใช้งานมัน
    แล้วก็เริ่มออกเดินทางไปยังที่ๆคุณต้องการจะไปเท่านั้นเอง เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่ามันจะทำให้คุณไปถึงที่นั่นได้?

    ถ้าคุณเอาแต่ขบคิดเรื่องของพลังงานจนทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ใจและอยากจะเลิกล้มความตั้งใจไปแบบนี้หละก็
    ก็สู้อย่าไปคิดถึงมันเลยดีกว่านะ

    เพราะว่ามันคือพลังอำนาจหลากมิติ ที่มอบให้พวกคุณนำเอาไปใช้งาน เพราะฉะนั้นแล้ว จงใช้งานมันเสีย!
    จงนำเอาพวกมันทั้งหมดไปใช้งานด้วยความรักของพระเจ้าที่มีอยู่ในมือของพวกคุณเสีย
    และก็..อย่าพยามยามไปวิเคราะห์พลังอำนาจของเบื้องบนอีกหละ!

    วิธีการบำบัดรักษาของคุณ จริงๆแล้วก็คือการทำให้เกิดความสมดุลขึ้นในตัวของผู้ป่วยอย่างหนึ่งนั่นเอง
    ดังนั้น มันจึงจะมีทั้งคนที่จะหาย และที่จะไม่หายด้วย แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะได้รับการบำบัดรักษา
    ด้วยพลังอำนาจที่คุณเป็นคนส่งออกไปให้เองเหมือนๆกัน และก็ด้วยพลังงานแห่งการบำบัดรักษาเดียวกันนี้ก็ตาม

    เพราะว่ามันเป็นหลักการณ์ที่พวกเราเคยบอกพวกคุณไปแล้วเมื่อหลายปีก่อนว่า
    “ผู้บำบัดรักษา ไม่ได้รักษาผู้ป่วยให้หายแต่อย่างใดเลย
    เพราะว่าพวกเขาเพียงแค่ช่วยทำให้เกิดความสมดุลขึ้นในร่างกายของผู้ป่วยเท่านั้นเอง
    (แล้วหลังจากนั้นร่างกายของผู้ป่วยก็จะเยียวยารักษาตัวมันเอง
    เพราะว่าร่างกายของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้สามารถเยียวรักษาตัวเองได้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรไปขัดขวางมัน – ผู้แปล)

    เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงขึ้นอยู่กับตัวของผู้ป่วยเองแต่ละคน ที่จะเยียวยารักษาตัวเองหลังจากที่พวกคุณ
    ได้ช่วยเคลียร์เส้นทางให้กับพวกเขาแล้ว แต่ว่าคนบางคนก็ไม่พร้อมที่จะหายก็มีนะ

    (อาจจะเป็นเพราะว่า มันเป็นพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณของพวกเขาเองก็ได้
    ที่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะมาป่วยเป็นโรคนั้นๆหรือตายเพราะโรคนั้นๆ เพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างทางจิตวิญญาณ
    อันจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือของคนรอบข้างคนใดคนหนึ่ง เป็นต้น – ผู้แปล)

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงทำเท่าที่ทำได้หนะแหละ และจงเฉลิมฉลองให้กับมัน ไม่ว่าผลลัพท์ของมันจะเป็นยังไงก็ตาม

    (แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้บำบัดทั้งหลาย อยู่ในข้อความสื่อสารชุดหนึ่งของครายออนที่ชื่อว่า
    "Health and Healing - Choosing to Dance" ซึ่งอยู่ในลิงค์ข้างล่างนี้ KRYON -Health and Healing 04)

    Kryon
    .....................................................................
    ที่มา:
    kryon-Q&A 4th Quarter2004
    .........................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2015
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    44).การบำบัดรักษาด้วยพลังแม่เหล็ก

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    *คำถาม:*

    ครายออนที่รัก ฉันรักคุณมากเหลือเกิน! ฉันเรียนแพทย์มา
    และฉันก็อยากจะรู้ว่าคุณจะสามารถบอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้พลังงานแม่เหล็กในการรักษาผู้ป่วยให้กับฉันได้หรือไม่?

    *คำตอบ:*

    ให้คุณมองหาสนามแม่เหล็กพวกที่มีขนาดเล็กมากๆที่ถูกสร้างขึ้นมา
    ซึ่งจะต้องเป็นสนามแม่เหล็กแบบ active เท่านั้นนะ ไม่ใช่แบบ passive
    นั่นก็หมายความว่ามันจะต้องไม่ใช่แม่เหล็กแบบสถิต (static manet – เช่น แท่งแม่เหล็ก เป็นต้น – ผู้แปล)
    แต่ให้คุณมองหาสิ่งที่พวกเราจะเรียกว่า "แม่เหล็กที่ถูกออกแบบมา” (designer magnetics) แทน

    ซึ่งนี่แหละที่จะเป็นสนามแม่เหล็กที่ดีเลิศได้หละ และมันก็จะต้องเกี่ยวข้องกับ
    การนำเอาสนามแม่เหล็กมากกว่า 1 สนามมาตัดกันด้วยเสมอ
    ซึ่งมันก็จะก่อให้เกิดสิ่งที่พวกเราเรียกว่า "ค่าศูนย์เหนี่ยวนำ” (inductance nulls) ขึ้นมา
    และสิ่งที่ซุ่มซ่อนอยู่ภายในค่าศูนย์เหล่านี้แหละ
    ก็คือความลับของ “การติดต่อสื่อสารกับเซลในร่างกาย” ของพวกคุณหละ

    (คือถ้าเราสามารถติดต่อสื่อสารกับเซลในร่างกายของเราได้ทุกครั้งที่ต้องการโดยอาศัยสนามแม่เหล็กที่ว่านี้จริงๆ
    เราก็จะสามารถป้อนคำสั่งเพื่อสั่งการให้มันเป็นไปแบบไหนก็ได้ด้วยตามที่เราต้องการ
    แม้แต่การสั่งให้มันบำบัดรักษาตัวเอง หรือย้อนกลับไปสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวก็ด้วย
    อย่างที่ครายออนก็กล่าวเอาไว้ในข้อความชุด "The Temple of Rejuvenation" - ผู้แปล)

    เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณก็จะต้องทำการศึกษาและทดลองดูกันเอาเอง
    และก็จะต้องใช้สัญชาตญาณหยั่งรู้ร่วมด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    พวกคุณจะต้องทดลองใช้สิ่งที่ยังไม่มีใครเคยคิดถึงมาก่อนเลย
    เพราะว่าพวกมันคือเครื่องมือที่จะใช้วัดค่าของสิ่งที่จนกระทั่งบัดนี้ยังอยู่นอกเหนือขอบเขตที่จะวัดค่าได้อยู่เลย

    พวกคุณมองเห็นความเป็นหลากมิติที่อยู่ภายในระบบ 4 มิติ (กว้าง, ยาว, สูง และ กาลเวลา – ผู้แปล) นี้ได้ไหม๊?
    ใช่แล้วคุณมีความเข้าใจแล้วว่าแรงโน้มถ่วงและแรงแม่เหล็กสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง
    แล้วแรงแม่เหล็กที่ล้ำหน้ายิ่งกว่านั้นอีกหละ มันจะสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง?
    เรื่องนี้มันยังจะต้องได้รับการพัฒนาต่อไปอยู่อีกมาก และพวกคุณก็ใกล้จะค้นพบมันแล้ว

    คำใบ้: อย่าไปแยกวิชาฟิสิกส์ออกจากวิชาชีววิทยา หรือวิชาเคมีอีก
    เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้วพวกคุณก็จำเป็นจะต้องรวมพวกมันทั้งหมดเข้าด้วยกันอยู่ดี
    เพื่อให้เกิดพลังอำนาจแห่งการบำบัดรักษาแบบปาฏิหาริย์ที่พวกคุณกำลังเสาะแสวงหากันอยู่นี้ได้

    Kryon
    ……………………....................................
    ที่มา:
    Q&A-11-1.html
    ....................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2015
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    45). ที่นอนพลังแม่เหล็กบำบัด (Magnetic mattresses)

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    *คำถาม:*

    ครายออนที่รัก ฉันเพิ่งได้รับเครื่องกรองน้ำพลังแม่เหล็กมาอันหนึ่ง
    ซึ่งมันใช้แท่งแม่เหล็กหลายๆแท่งช่วยในกระบวนการกรองน้ำด้วย โดยการติดแท่งแม่เหล็กไว้ที่ท่อน้ำของตัวเครื่อง
    เขาโฆษณาว่าระบบกรองน้ำระบบนี้ จะไปสร้างน้ำที่เรียกว่า “น้ำไพ” (Pi water)
    หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “น้ำที่มีชีวิต” (Living water) ขึ้นมาได้

    (หมายเหตุ: น้ำไพ หรือ Pi water คือน้ำที่นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Dr. Yamashita ตั้งชื่อขึ้นมา
    เพราะว่าเขาบอกว่ามันเป็นน้ำชนิดเดียวกันกับที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด
    เขาสร้างมันขึ้นมาโดยการเติมเกลือ Ferric Ferrous (Fe2Fe3) ลงไปในน้ำปะปาปริมาณเล็กน้อย
    ซึ่งมันก็จะมีคุณสมบัติในการกำจัดคลอรีนในน้ำออกไปได้อย่างรวดเร็ว และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย

    เขาค้นพบว่ามันมีประโยชน์ในการเร่งการเจริญเติบโตของพืชให้เร็วขึ้นกว่าปกติได้
    ที่มา: HomePure - ผู้แปล)

    คำถามก็คือว่า ฉันควรจะใช้เครื่องกรองน้ำชนิดนี้ด้วยความระมัดระวังไหม๊ เพราะว่ามันมีการใช้ประโยชน์จากแม่เหล็กด้วย?

    และก็..พวกที่นอน หรือว่าเก้าอี้พลังแม่เหล็กบำบัดหละ พวกมันเป็นยังไงบ้าง?


    *คำตอบ:*

    ฉันขอพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งว่า บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    การใช้ประโยชน์จากแท่งแม่เหล็กเพื่อเปลี่ยนแปลงสสารต่างๆ และเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลในร่างกายนั้น
    เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง พวกคุณเพิ่งจะเริ่มรู้ว่าพวกมันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบต่อสสารต่างๆ
    และส่งผลกระทบต่อระบบชีวภาพต่างๆที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณได้

    แต่มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกคุณควรจะรู้เอาไว้ด้วย
    เพราะว่าถ้าปราศจากความรู้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี้แล้ว
    พวกคุณก็อาจจะไปเปลี่ยนแปลง หรือไป “ส่งสัญญาณ”
    ให้ร่างกายเนื้อของตัวเองทำอะไรบางอย่างขึ้นมาที่พวกคุณไม่ต้องการก็ได้

    ผู้ที่ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งก็หมายรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่พวกคุณใช้นั่งและใช้นอนที่ว่านี้ด้วย
    ล้วนมีความบริสุทธิ์ใจด้วยกันทั้งสิ้น แต่ความบริสุทธิ์ใจของพวกเขา
    ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขามีความรู้อย่างถ่องแท้ในทุกๆรายละเอียดของผลกระทบจากพลังแม่เหล็ก
    ที่มีต่อเซลในร่างกายของพวกคุณโดยอัตโนมัติหรอกนะ

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาของพวกคุณในด้านนี้แบบนี้
    พวกคุณจึงรู้แต่เพียงว่าพลังงานแม่เหล็กสามารถกระตุ้นสิ่งต่างๆได้เท่านั้น
    แต่พวกคุณไม่รู้เลยว่า จริงๆแล้วมันกำลังอะไรเกิดขึ้นอยู่กันแน่ หรือว่ามี DNA ชั้นไหนบ้างที่กำลังได้รับผลกระทบอยู่

    เพราะว่าพวกคุณจะรู้แต่เพียงว่าพวกมันดูเหมือนว่าจะสามารถกระตุ้น
    และช่วยให้สภาพการณ์อะไรบางอย่างดีขึ้นมาได้เท่านั้นเอง
    และพวกคุณก็รู้แต่เพียงว่ามนุษย์โลกคนหนึ่งสามารถที่จะรับรู้ถึงการทำงานของมันได้จริงๆด้วยเท่านั้นเอง

    การกระตุ้นการทำงานของเซลในร่างกายเป็นระยะเวลานานๆหลายชั่วโมงติดต่อกัน
    โดยการใช้แท่งแม่เหล็กแบบ passive นั้น ถือว่าเป็นวิธีการส่งข้อมูลข่าวสาร
    ไปให้กับเซลในร่างกายของตัวเองที่หยาบแบบสุดๆ ซึ่งซักวันหนึ่งพวกคุณก็จะค้นพบว่า
    เซลเหล่านั้นจำเป็นจะต้องได้เห็นแรงพลังเหล่านี้แบบละเอียดประณีตมากเพียงใด
    เพื่อปรับจูนขั้นละเอียดให้แก่พวกมัน และเพื่อปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นมาสู่กิจกรรมการทำงานที่พิเศษอะไรบางอย่าง

    วิธีการปรับสมดุลและปรับจูนให้กับเซลในร่างกายโดยใช้พลังแม่เหล็ก (Magnetic cell balancing and attunement) นั้น
    เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนมากกระบวนการหนึ่ง ที่จำเป็นจะต้องอาศัย “สนามแม่เหล็กที่ถูกออกแบบขึ้นมา” (designer fields)
    ประเภท active หลายๆสนามด้วย ไม่ใช่โดยการใช้พลังงานแม่เหล็กปริมาณมหาศาลจากขั้วแม่เหล็กที่สะเปะสะปะแบบนี้
    เพราะว่าถ้าทำเช่นนี้แล้วก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังโยนคลื่นความถี่ต่ำๆบนแถบสเป็กตรั้มทั้งหมด
    ไปใส่เซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองอยู่ และด้วยวิธีการที่หยาบกระด้างอย่างมากดังว่านี้ด้วย

    ซึ่งมันก็จะคล้ายๆกับการค้นพบพืชสมุนไพรต่างๆเป็นครั้งแรกนั่นแหละ
    ที่พวกคุณก็จะกินพวกมันเข้าไปทั้งหมดพร้อมๆกันเลย และในปริมาณมากๆด้วย
    เพราะคิดและหวังอยู่ว่าหนึ่งในพวกมันที่กินเข้าไปนั้น อาจจะสามารถช่วยพวกคุณได้

    ดังนั้น พวกเราจึงอยากจะขอแนะนำว่า ขอให้พวกคุณเชื่อฟังและให้เกียรติ
    แก่ระบบปรับสมดุลภายในของร่างกายเนื้อของตัวเองด้วย
    และถ้าพวกคุณรู้สึกได้ด้วยสัญชาตญาณว่าระบบฯพลังแม่เหล็กที่พวกคุณกำลังใช้อยู่นั้น
    มันสามารถช่วยพวกคุณได้จริงๆหละก็ ก็จงใช้มันแค่ 50% ของเวลาทั้งหมดก็พอ

    เพราะว่าพลังแม่เหล็กเป็นอะไรที่ทรงพลังอำนาจอย่างมาก!
    ดังนั้น การไปนั่งแช่อยู่ในสนามแม่เหล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นประจำทุกวัน
    เสมือนหนึ่งว่า “เป็นเรื่องปกติ” ไปแล้วนั้น จึงถือว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างมาก

    (ดังนั้น การพกแท่งแม่เหล็ก, หรือแร่-หิน-เหล็กไหลที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก
    หรืออุปกรณ์ใดๆก็ตามที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กติดต่ออยู่ตลอดเวลา
    จึงไม่น่าจะเป็นประโยชน์นะครับ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ ถ้าไม่ถอดมันออกบ้างเลย - ผู้แปล)

    ดังนั้น วิธีการใช้งานระบบฯพลังแม่เหล็กเหล่านี้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณกลับเข้าสู่ความสมดุลใหม่อีกครั้งหนึ่งนั้น
    ก็คือการใช้เวลาเพียงแค่ 50% ของพวกคุณอยู่กับมันเท่านั้น
    แล้วจากนั้น ก็จงปล่อยให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณมีเวลาเพื่อฟื้นฟูตัวมันเอง
    หรือปรับสมดุลให้กับตัวมันเอง ตามความจำเป็นของมันบ้าง

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในกรณีที่พวกคุณได้ส่งสัญญาณที่ไม่ใช่สัญญาณบวกไปให้กับเซลในร่างกายของตัวเองแล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ
    พวกมันก็จะได้มีเวลาเพื่อแก้ไขตัวเอง และเพื่อทำให้ตัวเองกลับเข้าสู่สมดุลใหม่อีกครั้งหนึ่งได้

    แต่ถ้าพวกคุณได้ส่งสัญญาณแห่งการบำบัดรักษาไปให้กับพวกมันแล้ว
    ร่างกายเนื้อของพวกคุณก็จะได้มีเวลาทำกิจกรรมที่มันได้รับคำสั่งมานั้นให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงได้
    และส่งเสริมให้มันดีขึ้นไปอีกต่อไป

    สำหรับคนที่จะพูดว่า “มันช่วยได้จริงๆนะ เพราะว่าผมรู้สึกถึงมันได้”
    ฉันก็จะบอกว่า พวกยากระตุ้นทั้งหลาย ก็สามารถที่จะทำให้พวกคุณได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันนี้ได้เหมือนกัน
    เพราะว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจเลยว่า “พลังแม่เหล็ก มีอานุภาพมากกว่าสารเคมีต่างๆมากมายยิ่งนัก”

    Kryon
    ............................................................................
    ที่มา:
    Q&A-5-15.html
    ............................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2015
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    46). คำถามด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพลังแม่เหล็ก

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    *คำถาม:*

    ครายออนที่รัก ในฐานะนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ผมจึงมีความสนใจในเรื่องที่คุณเคยพูดเอาไว้
    เกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็ก, คลื่นเสียง และสสาร ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้สัญชาตญาณหยั่งรู้ของผม
    ได้บอกกับผมว่าปฏิสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะนำไปผลิตสารเคมีต่างๆขึ้นมาได้
    โดยปราศจากความเสี่ยงขั้นรุนแรง และโดยที่สารตั้งต้นทั้งหลายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ทั้ง 100% เลยทีเดียว

    และผมก็คาดว่า เมื่อใดที่เราหาสภาวะที่เหมาะสมที่จะทำให้เราสามารถ “บอก” กับสารเคมีต่างๆได้ว่า
    เราต้องการให้มันทำอะไรได้แล้ว เราก็น่าที่จะสามารถสร้างสารเคมีต่างๆขึ้นมาได้
    ด้วยการเชื่อมต่ออะตอมหรือกลุ่มอะตอมของพวกมันเข้าด้วยกัน ทีละอะตอมๆ

    ดังนั้น ผมจึงอยากจะรู้ว่าผมคิดถูกหรือเปล่า และคุณมีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมอีกบ้างไหมเกี่ยวกับเรื่องนี้?

    *คำตอบ:*

    สมมุติฐานทั้งหมดของคุณถูกต้องดีแล้ว
    แต่ขอให้คุณมองข้ามเรื่องความเป็น 3 มิติที่คุณได้กล่าวถึงไปแล้วนั้นไปเสีย
    (ก็คือเรื่องที่ว่าการนำมันมาต่อเข้าด้วยกันทีละอะตอมๆ – ผู้แปล)
    และสิ่งที่คุณได้กล่าวมานั้นหนะ ตอนนี้ก็กำลังมีคนทำอยู่แล้วหละ

    จริงอยู่ที่คุณจะสามารถสร้างโมเลกุลต่างๆขึ้นมาตามแบบที่คุณต้องการได้
    โดยการนำเอาพวกมันมาเชื่อมต่อกันทีละอะตอมๆ ซึ่งนั่นก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
    แต่ว่าจริงๆแล้วคุณยังสามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยการ “บอก” ให้มันทำในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้ด้วยนะ

    เรื่องนี้มันเป็นวิทยาศาสตร์ชั้นสูง ซึ่งมีแก่นสารทางฟิสิกส์มากมายที่อยู่เบื้องหลังของมันอยู่
    แต่ว่า..มันเป็นฟิสิกส์หลากมิติ ไม่ใช่ฟิสิกส์ของมิติที่ 3 นี้หรอก

    กุญแจสำคัญของมันก็คือการออกแบบเครื่องมือที่จะใช้สร้างโมเลกุลของสารเคมีขึ้นมา
    ซึ่งเครื่องมือที่ว่านี้จะต้องสามารถ “พูดคุย” กับอะตอมของสารเคมีได้
    ด้วยภาษาที่ไม่เพียงแต่มันจะเข้าใจเท่านั้น แต่มันยังจะเชื่อฟังอีกด้วย
    เพราะว่ามันคือวิธีการที่อะตอมทั้งหลายต้องการที่จะทำอยู่แล้ว

    เพราะฉะนั้น ในความเป็นจริงแล้วก็เท่ากับว่าคุณกำลังเลียนแบบพันธะเคมีตามธรรมชาติของมันอยู่
    ไม่ใช่การไปล่อลวงมันให้แสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติจากเดิมไป
    ดังนั้น เมื่อมันเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมันแล้ว มันจึงได้ % yield ครบถ้วนทั้ง 100% เลยทีเดียว
    และก็ยังไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติใดๆขึ้นให้ต้องรับมืออีกด้วย

    Kryon

    *หมายเหตุจากนาย Lee Charroll ผู้รับสาส์น:*

    ตอนนี้มีนักวิทยาศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์คนหนึ่ง ที่ได้พัฒนา software ขึ้นมาเพื่อใช้ร่วมกับกระบวนการทางเลเซอร์
    เพื่อที่จะทำเรื่องนี้โดยเฉพาะแล้ว และเมื่อเขาทำได้สำเร็จแล้ว เขาและ ดร.Todd Ovokaitys
    แห่ง Carlsbad, California ก็ได้ร่วมกันจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้ว

    (ดร.Todd ผู้นี้แหละ คือคนที่ครายออนกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ ว่าเขาเคยเกิดในยุคเลมูเรียมาก่อน
    และก็เคยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลวิหารแห่งความเป็นหนุ่มเป็นสาวมาก่อน
    เพราะฉะนั้นแล้วในอดีตชาติเขาจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ และในภพชาตินี้ครายออนก็บอกเอาไว้ว่า
    เขาจะมาสานต่องานของเขา และงานของเขานี่แหละที่จะเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่ง
    ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างมากมายเลยทีเดียว – ผู้แปล)

    และสถาบันวิจัยที่อยู่ทางใต้ของแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ ก็มีชื่อว่า Gematria
    และการมีอยู่ของเครื่องมือที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไรเลย
    เพราะว่า ดร.Todd มักจะนำมาโชว์ในการเลกเชอร์ของเขาในสถาบันแห่งนั้นอยู่บ่อยๆ

    *หมายเหตุจากผู้แปล:*

    ดร.Todd ได้นำเอาเจ้าเครื่องมือที่ว่านี้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพจำนวนมากมาย
    (laser enhanced nutritional supplements) ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 49 รายการแล้ว
    ส่วนมากแล้วจะเป็นพวกกรดอะมิโนต่างๆ, หน่วยย่อยของสารพันธุกรรม และพวกวิตามินต่างๆ
    ดูรายละเอียดในเวปไซต์ของเขาได้ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ

    Gematria Products | Nutritional supplements & antioxidant formulas

    ส่วนลิงค์ต่อไปนี้ เป็นเอกสารทางวิชาการของเขา ที่ผมลองอ่านดูคร่าวๆแล้วก็จับใจความสรุปได้ว่า
    สินค้าของเขานั้น แตกต่างจากของคนอื่นๆก็ตรงที่ เขาได้ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่เขาค้นพบและจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้วนี้
    มาปรับปรุงโมเลกลุของสารเคมีต่างๆ ให้มันเป็นไปตามที่เขาต้องการ เพื่อให้มันเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้หรือผู้บริโภค

    United States Patent: 6811564

    ตัวอย่างเช่น พวกกรดอะมิโนต่างๆ ในเอกสารชุดนี้บอกว่ากรดอะมิโนชนิดหนึ่งๆมักจะมีขนาดของโมเลกุลไม่สม่ำเสมอกัน
    เพราะว่ามันเป็นธรรมชาติที่จะต้องมีความหลากหลายอยู่แล้ว ดังนั้น เวลาเรารับประทานเข้าไปแล้ว
    มันก็จะต้องใช้เอ็นไซม์เพื่อมาย่อยกรดเหล่านี้เยอะและนานด้วย แต่โชคร้ายที่กรดอะมิโนเหล่านี้มักจะมีอายุสั้น
    คือเมื่อมันถูกรับประทานเข้าไปแล้ว กว่าที่มันจะถูกย่อยและนำเอาไปใช้งานได้จริงๆ
    บางส่วนของมันก็จะทำปฏิกิริยากับสารต่างๆในร่างกายของเราไปจนหมดสภาพไปแล้วก็มี

    ดังนั้น ถ้าเราทำให้โมเลกุลของมันสั้นลง และมีขนาดสม่ำเสมอกันทั้งหมดแล้วหละก็
    มันก็จะย่อยได้ง่ายขึ้น, ใช้เอนไซม์น้อยลง และถูกนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้ทันเวลาจริงๆก่อนที่มันจะถูกทำปฏิกิริยา
    แล้วเปลี่ยนเป็นสารตัวอื่นไปซะก่อน อะไรแบบนั้นหนะครับ – ผู้แปล)

    ……………………..........................................
    ที่มา:
    kryon-Q&A 2nd Quarter2005
    ..........................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2015
  11. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    up :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...