ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts



ว้าววว! เกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้? ราคาน้ำมันพึ่งขึ้นสูงมากอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว มีใครกำลังเล่นตลกในตลาดน้ำมันโลกอยู่หรือเปล่า? ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ดิ่งลงมาตลอดเลย WTI ของสหรัฐฯ ขึ้นไปที่ $45.25/บาร์เรล BRENT ของอังกฤษขึ้นไปที่ $47.74/บาร์เรล
--------------
BBC NEWS | Business | Market Data | Commodities | LIFFE Ice Euro Exchange ICEEUR | West Texas Intermediate Crude Oil Future WBS

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก.พาณิชย์ของสหรัฐฯออกมาประตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในไตรมาสที่2 ว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 3.7% จากที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกว่า 2.3% ก็เลยทำให้ราคาหุ้นและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นตามไปด้วย แต่นักวิเคราะห์ทั่วไปมองว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในครั้งนี้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น แนวโน้มในอนาคตอาจจะดิ่งลงอย่างเดิมก็ได้ ส่วนทางเวเนซูเอล่าหนึ่งในสมาชิกโอเปกที่มีรายได้จากการขายน้ำมันเป็นหลัก เรียกร้องให้สมาชิกโอเปกรีบประชุมด่วนกับรัสเซีย เพราะเวเนซูเอล่าบอกว่าโอเปกฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่ยังไม่มีการประชุมใดๆเกิดขึ้น
http://www.nytimes.com/2015/08/28/business/economy/us-economy-q2-gdp-first-revision.html?_r=0

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
บทเรียนหนึ่งในผลเสียของการให้เงินอุดหนุนสินค้าเกษตรจากภาครัฐเกินพอดีจนทำให้เกิดการบิดเบือนราคาสินค้าในตลาด: จีนสั่งแบนไก่กระทง(/ไก่เนื้อ)สหรัฐฯเนื่องจากราคาไก่อเมริกาต่ำเกินจริงเพราะได้รับการ subsidize จากรัฐบาล



-----------
วันนี้ลองตะเวนอ่านข่าวต่างประเทศจากสื่อฯต่างประเทศพบว่ามีหลายข่าวที่น่าสนใจข่าวแรกที่เกี่ยวกับประเทศไทยก็ตือเรื่องแรงงานทาสในอุตสาหกรรมการประมง งานนี้ RT news เอาข่าวมาจาก The New York Times ของสหรัฐฯซึ่งต้องการเล่นเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย NYT ของสหรัฐฯลงเนื้อหาเยอะมาก ทั้งหน้าเพจยกให้เรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยย่อบอกว่า กำลังมีการต่อต้านอาหารแมวย่อห้อ Nestle ของสหรัฐฯที่รับซื้อปลาที่ได้จากการใช้แรงงานทาสในการจับปลาในทะเลระหว่างน่่านน้ำไทยกับอินโดนีเซีย ลองอ่านดูแล้วก็เหนื่อยใจกับเรื่องพวกนี้จริงๆ ยังไม่เห็นข่าวว่าทาง ก.ต่างประเทศหรือพาณิชย์ของไทยออกมาพูดถึงกรณีนี้เลย ไม่ได้คิดจะซ้ำเติมแต่บอกให้รู้ว่าตอนนี้เขาหันมาเล่นงานไทยเรื่องการประมงและเรื่องแรงงานทาสอีกแล้วนะ ต่อไปถ้าไม่รีบแก้ไขหรืออธิบายให้ชัดเจนว่าความจริงมันเป็นยังไงกันแน่ ก็อาจจะได้เจอมาตรการกีดกันสินค้าการประมงอีก ไม่เดือดร้อนเฉพาะคน สัตว์เลี้ยงอย่างแมวก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย
มีกรณีหนึ่งเกี่ยวกับการตอบโต้ทางสื่อฯระหว่างฝั่งสหรัฐฯกับฝั่งรัสเซีย เมื่อเร็วๆนี้รายงานจากนิตยสาร Forbes ของสหรัฐฯออกมาเผยแพร่ข่าวที่มีการแชร์ไปทั่วโลกว่าทหารรัสเซียเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญเสียหรือสงครามในยูเครน โดยไม่อ้างแหล่งที่มาของข่าวว่าได้ข่าวนี้มาจากไหน เพราะทำให้รัสเซียเสียหาย ทางรัสเซียก็ส่งสำนักข่าว RT ของตนเองตามจิกเรื่องนี้ให้รู้ความจริงว่าที่ว่ามานั้นจริงหรือ กว่าจะตามตัวนักข่าวที่เขียนรายงานเรื่องนั้นได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน และเมื่อตามตัวพบแล้วทางนักข่าวของ Forbes อ้างหน้าตาเฉยว่าจริงๆแล้วไม่ได้เขียนแบบนั้น รายงานในคอมพิวเตอร์ถูกแฮ็กมีการเบี่ยนแปลงข้อความ เป็นไงเล่าลูกเล่นของสื่อฯจอมบิดเบือนทั้งหลาย แต่ก็มีสำนักข่าวกระแสหลักในตะวันตกหลายสำนักออกมาบอกว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงเป็นการกุข่าวขึ้นมา นี่คือการใช้สื่อฯเพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศตนเองเมื่อถูกสื่อฯต่างประเทศเต้าข่าวขึ้นมาโจมตีรัสเซีย สื่อฯรัสเซียจะไม่ยอมให้ต่างชาติฉวยโอกาสแบบนั้นบ่อนทำลายชื่อเสียงของประเทศตนเองได้ หันมาดูสื่อฯไทยบ้าง มีกี่รายที่กล้าที่จะทำอย่างนั้นได้บ้่าง
กลับเข้ามาสู่ข่าวหลักที่อยากจะพูดให้วันนี้บ้างนะครับ... เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.58) สำนักข่าว Global Times ของจีน พาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "China to extend duties on US chicken imports" (จีนขยายการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไก่จากสหรัฐฯ) ถ้าสหรัฐฯอ่านแต่พาดหัวข่าวอาจจะหลงยิ้มว่าหวานหละ งานนี้จีนจะนำเข้าไก่จากสหรัฐฯแล้ว ฮ่าๆๆ โปรอเมริกาอย่าลืมอ่านเนื้อข่าวให้ดีก่อนนะ แล้วยิ้มค้างน้ำลายยืดแน่ๆ
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOC) ได้ประกาศว่า "จีนจะดำเนินการด้านภาษีต่อต้านการซับซีไดซ์ (anti-subsidy/ต่อต้านการให้เงินอุดหนุน) เกี่ยวกับไก่กระทงปีขาวของสหรัฐฯ (US white-feathered broiler chickens) ในขณะที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบรอบใหม่" (งานนี้จีนยังไม่ฟันธงลงไปซะทีเดียวว่าจะใช้มาตราการทางภาษีกับสินค้าสัตว์ปีกของสหรัฐฯอีกนานเท่าไร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับท่าทีของจักรวรรดิเฮเกด้วย ถ้ายังมีพฤติกรรมก้าวร้าวและหาเรื่องจีนอยู่ต่อไป จีนก็จะงัดไม้นี้มาใช้อีก)
รายงานข่าวของจีนบอกว่า จีนได้เริ่มเรียกเก็บภาษีต่างๆต่อต้านการซับซีไดซ์เนื้อไก่ที่นำเข้าจากสหรัฐฯในเดือนกันยายน 2010 โดยให้อ้างว่า สินค้า (ของสหรัฐฯ) ได้รับเงินอุดหนุนและเข้ากันไม่ได้กับตลาดในประเทศจีนโดยมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่เป็นธรรม (หมายความว่าอย่างไร สมมุติว่าราคาเนื้อไก่ในตลาดจีนอยู่ที่ 90 บาท/กก. ราคาต้นทุนในสหรัฐฯอาจจะอยู่ที่ 50 บาท/กก. แต่ราคาส่งออกไก่กระทงของสหรัฐฯที่ส่งเข้าไปในจีนอาจจะต่ำกว่าราคาในท้องตลาดจีน เช่นอาจจะอยู่ที่ 60-70 บาท/กก. ส่วนต่างระหว่างราคาต้นทุนกับราคาส่งออกนี้อาจจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ เพื่อเอาไปชดเชยให้กับเกษตรกรชาวอเมริกันที่เลี้ยงไก่และส่งออกไปยังจีน เพื่อตีตลาดในจีนเนื่องจากมีราคาถูกกว่าสินค้าท้องถิ่น ทำให้เกษตรกรชาวจีนผู้เลี้ยงไก่ได้รับผลกระทบไปด้วย จีนก็รู้ทันเล่ห์ของสหรัฐฯจึงสั่งเพิ่มภาษีนำเข้าไก่สหรัฐฯซะเลย รัฐบาลสหรัฐฯจะรับภาระอุดหนุนเพื่อบิดเบือนราคาที่แท้จริงในตลาดต่อไป ก็เป็นเรื่องของสหรัฐฯ แต่พอมาถึงจีนแล้วราคาจะไม่ต่ำกว่าราคาสินค้าในตลาดจีนแน่ ใครซวยหละงานนี้? ก็จักรวรรดิเฮเกนะสิครับท่าน)
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า มาตรการลงโทษเป็นเวลา 5 ปีกำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ และสมาคมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ของจีน (China Animal Agriculture Association - CAAA) ซึ่งกล่าวว่าการสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวจะทำร้ายอุตสาหกรรมในประเทศ จึงเรียกร้องให้ MOC ขยายมาตรการทางภาษีออไปในเดือนมิถุนายน (หมายถึงเขาเรียกร้องตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา)
ทางกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่าข้อเรียกร้องของ CAAA สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบ และจะได้รับการตรวจสอบถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ในการขยายมาตรการทางภาษีจากวันที่ 30 ส.ค.58 ถึงวันที่ 29 ส.ค.59 (ยึดเวลาออกไปอีก 1 ปี พอใกล้จะหมดก็ค่อยต่อเวลาออกไปอีกเรื่อยๆ ถ้าจักรวรรดิเฮเกยังขยันหาเรื่องจีนอยู่เรื่อยๆแบบนี้)
MOC ของจีนกล่าวว่า "ในช่วงระยะเวลานี้ มาตรการทางภาษีต่อต้านการให้เงินอุดหนุนสินค้าไก่กระทงปีกขาวของสหรัฐฯจะยังคงมีผลบังคับต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งขนาดและอัตราต่างๆ" การตัดสินใจว่าจะสิ้นสุด anti-subsidy duties หรือไม่จะมีการประกาศหลังจากที่ MOC ของจีนได้มีการตรวจสอบแล้ว (ลูกเล่นนี้คล้ายๆกับมาตรการต่อต้านการแซงชั่นที่รัสเซียใช้แซงชั่นกลับไปยังอียูและสหรัฐฯเลย)
ข้อพิพาดเรื่องไก่เนื้อ -- ไก่ที่ถูกนำไปชำแหละมีน้ำหนักอยู่ในช่วงอายุประมาณ 13 สัปดาห์ (3 เดือนกับ 1 สัปดาห์ ปีหนึ่งก็เลี้ยงได้ 3 ชุด) -- ถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ซึ่งเป็นที่มาของความตึงเครียดความสัมพันธ์ทางการค้าในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกของทั้งสองประเทศ
การค้าและการส่งออก-นำเข้าระหว่างประเทศเขาก็เล่นกันอย่างนี้แหละ... ไม่ใช่ว่าการให้เงินอุดหนุนสินค้าการเกษตรจากภาครัฐจะมีผลดีต่อเกษตรกรและการส่งออกเสมอไป ถ้าทำจนเกินพอดี ส่งผลกระทบต่อราคาที่แท้จริงในตลาด ก็อาจจะถูกประเทศปลายทางที่นำเข้าสินค้าการเกษตรจากบางประเทศใช้มาตรการทางด้านภาษีกดดันให้ราคาสินค้านำเข้ามีต้นทุนสูงขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ประชานิยมแบบอ้างว่าเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้และมีกำไรมากขึ้นรัฐก็ต้องให้เงินอุดหนุนมากๆ ถ้าไม่มีเงินมาอุดหนุนแล้วจะทำอย่างไร อ้าว… ก็ไปกู้ต่างประเทศมาอุดหนุนต่อสิ แล้วไม่กลัวว่าวันหนึ่งไทยจะเป็นอย่างกรีซที่เกิดปัญหาวิกฤตหนี้สินบ้างหรือ พวกโลกสวยเห็นแก่ได้ก็อาจจะบอกว่า นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ยังมาไม่ถึง วันนี้ขอรวยทางลัดเอาไว้ก่อน กรรม!
The Eyes
29/08/2558

ภาพจาก © Samrang Pring / Reuters

----------
China to extend duties on US chicken imports - Global Times
Cat lovers accuse Nestle of selling ‘slave-labored’ pet food, want refund — RT News
http://www.nytimes.com/2015/07/27/world/outlaw-ocean-thailand-fishing-sea-slaves-pets.html?_r=1
Welcome to DIT :

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
อุ๊แม่เจ้า! สหรัฐฯก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกันวุ่ย... สมาชิกกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลสหรัฐฯถูกพิพากษาจำคุกข้อวางแผนโจมตีร้ายแรง



----------
วันที่ 29 ส.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า "สมาชิกกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลสหรัฐฯถูกตัดสินลงโทษในข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อใช้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง"
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ (DOJ) แถลงข่าวว่าสมาชิกกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลจำนวน 3 คนประกอบด้วย Brian Cannon, Terry Peace, และ Cory Williamson (ชาวอเมริกันทั้งหมด) ถูกตัดสินลงโทษจำคุกคนละ 12 ปี เนื่องจากวางแผนใช้วัตถุระเบิดชนิดประกอบเองเพื่อต่อต้านรัฐบาลมีเป้าหมายในรัฐจอร์เจียของประเทศสหรัฐฯ ผู้ต้องหาทั้งสามคนยังถูกดำเนินคดีในข้อหาปลุกระดมกลุ่มติดอาวุธต่างๆในรัฐอื่นเพื่อให้ลุกขึ้นในปฏิวัติต่อต้านรัฐบาล (อัยย๊ะ! แสดงว่าที่ข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปฏิวัติ หรือแบ่งแยกประเทศภายในสหรัฐฯก็มีส่วนเป็นจริงสินี่? ทำเป็นปิดข่าวในประเทศของตนเองอย่างดีเชียวนะ)
John Horn อัยการสหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์ว่า "ในคดีนี้ อุดมการณ์ต่อต้านรัฐบาล และวาทกรรมที่ก่อให้เกิดสู่ขบวนการหัวรุนแรงอันตราย และนำจำเลยเหล่านี้ติดอาวุธให้กับตัวเอง และเดินทางไปพบกันเพื่อไปรับระเบิดไปป์บอมบ์และวัตถุระเบิดอื่นๆที่เตรียมการไว้เพื่อการโจมตี"
DOJ ของสหรัฐฯกล่าวว่า "จำเลยทั้ง 3 คนนี้มีส่วนร่วมในการสนทนาในห้องแช็ทออนไลน์ ที่ซึ่งพวกเขาได้มีการวางแผนเอาไว้เพื่อโจมตีสถานที่สำคัญของรัฐบาล โดยใช้ pipe-bombs สมาชิกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเหล่านี้ยังได้พูดถึงเป้าหมายของพวกเขาให้ถอดถอนเจ้าหน้าที่รัฐบาลโดยใช้กำลังซึ่งพวกเขาเชื่อว่าทำหน้าที่เกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ"
สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ได้ทำการติดตามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห้องแช็ทของกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2014 สามารถจับกุมได้ 3 คนและรับสารภาพตามข้อกล่าวหาในเดือนพฤษภาคม 2015 จากการศึกษาโดยอิสระหลายแหล่งพบว่าสมาชิกของของกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงขวาจัดมีเพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐฯ
เมื่อเดือนมิถุนายน 2015 องค์กรที่อ้างตัวเองว่าเป็นพวก Think Tank ตั้งองค์หนึ่งขึ้นมาภายใต้ชื่อ "New America Foundation" (มูลนิธิอเมริกาใหม่ หรือ มูลนิธิรัฐอเมริกาใหม่ ฟังดูคล้ายชื่อที่ปรากฎบนป้ายไวนิลขนาดใหญ่ของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มในประเทศไทยที่เขียนเอาไว้ไว่า "รัฐไทยใหม่" เลยไหม? ต่อจากนั้นนักการเมืองบางคนขึ้นเวทีนปชั่วว่า "คนไทยมีอาวุธ10ล้านกระบอกอย่าดูถูกพลังปชช" โมเดลเดียวกันเลยหรือเปล่า? ตอนนี้หนีตายไปอยู่ต่างประเทศ น่าจะเป็นประเทศจักรวรรดิเฮเก สงสัยอยู่ว่าได้ไปรวมกลุ่มกับกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลที่นั่นด้วยหรือเปล่า?) องค์กรหรือมูลนิธิ New America Foundation นี้ได้ออกแถลงการณ์ทางเอกสารว่า พวกหัวรุนแรงฝ่ายขวารับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพลเมืองชาวสหรัฐฯจำนวน 48 ราย ตั้งแต่ปลายปี 2001 ในขณะที่พวก jihadists ฆ่าผู้ถือสัญชาติอเมริกันจำนวน 26 รายในช่วงเวลาเดียวกัน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ในปี 2014 กระทรวงมหาดไทย (US Department of Homeland Security) ของสหรัฐฯได้ออกรายงานฉบับหนึ่ง ซึ่งต่อมารั่วไหลออกไปสู่สาธารณชน มีการคาดการณ์ว่าจะมีการก่อเหตุรุนแรงต่อต้านรัฐบาลในปีที่จะถึงนี้ (จากนั้นเราได้ยินข่าวรัฐบาลสหรัฐฯจัดซ้อมรบในหลายรัฐภายในประเทศภายใต้ปฏิบัติการ Jade Helm 15 ประชาชนบางรัฐออกมาบอกว่านั่นเป็นการทดลองใช้กฎอัยการศึก และเมื่อปฏิบัติการนี้เริ่มขึ้นทางกองทัพสหรัฐฯก็ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวด้วย)
และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีกลุ่มติดอาวุธปรากฎตัวขึ้นมาภายใต้ชื่อ "Oath Keepers" แบกปืนไรเฟิลลาดตระเวนไปทั่วเมืองเฟอร์กูสัน อ้างว่าเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ ตำรวจเฟอร์กูสันไม่กล้าแตะต้องพวกนี้ เคยเข้าไปอ่านเว็บไซต์บางแห่งที่มีการสัมภาษณ์สมาชิกขององค์กรนี้ ออกแนวต่อต้านรัฐบาลกลางโดยเฉพาะรัฐบาลโอบาม่าอย่างเห็นได้ชัดเจน และสนับสนุนพรรครีพับลิกัน (เคยลงข่าวให้อ่านแล้วเมื่อวันที่ 12 ส.ค.58 ที่ผ่านมา ดูในลิ้งค์สุดท้าย)
The Eyes
30/08/2558

ภาพจาก © AP Photo/ Brennan Linsley

----------
Three US Anti-Gov't Militia Members Sentenced for Plotting Deadly Attacks
Oath Keepers and the Age of Treason | Mother Jones
Who are the Oath Keepers, and why has the armed group returned to Ferguson? - The Washington Post
https://www.facebook.com/fisont/posts/1708250392728427

 

อาทิต์หน้าก็เข้าเดือนกันยายน 2558 และวันที่ 28 กันยายน 2558 นี้ก็จะเกิดปรากฏการณ์ เทแทรด... (Tetrad) พระจันทร์สีเลือด เป็นปรากฎการณจันทรุปราคาเต็มดวงติดต่อกัน 4 ครั้ง และครั้งนีเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 4 และจะเป็นการเปิดขึ้นของตราดวงที่ 5 ครับ ตามข้อมูลของคุณ Gill P. Broussard

ตราประทับดวงที่ห้า
6:9 เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่ห้านั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็นดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา เป็นวิญญาณของคนทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเพราะคำพยานที่เขายึดถือนั้น
6:10 เขาเหล่านั้นร้องเสียงดังว่า "โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้บริสุทธิ์และสัตย์จริง อีกนานเท่าใดพระองค์จึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองให้เลือดของเราต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก"
6:11 แล้วพระองค์ทรงประทานเสื้อสีขาวแก่คนเหล่านั้นทุกคน และทรงกำชับเขาให้หยุดพักต่อไปอีกหน่อย จนกว่าเพื่อนผู้รับใช้ของเขา และพวกพี่น้องของเขาจะถูกฆ่าเหมือนกับเขานั้นจะครบจำนวน


ซึ่งถ้าเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ก็จะทำให้ดวงจันทร์กลายเป็นสีเลือด ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ แต่มีบุคคลบางกลุ่มเชื่อว่าปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ บอกให้เราทราบถึงการสำแดงของพระผู้เป็นเจ้า พระธรรมปฐมกาล 1:14 บอกว่า "พระเจ้าตรัสว่า จงให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศ ... เพื่อใช้เป็นหมายสำคัญและที่กำหนดฤดู ..."

และะจากข้อมูลของคุณ Gill P. Broussard นักวิจัยอิสระ ได้คาดการณ์ว่าจะเกิดเหุการณ์ที่ได้เกิดมาตั้งแต่อดีต จะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ่ตามการมาปรากฎของ ดาวเคราะห์ X ซึ่งเราได้ทราบกันมาเช่น น้ำท่วมโลกโนอา โมสส ผู้ปลดปล่อยยิวจากอียิปต์ เป็นต้น เขาได้คาดการณ์ตามพระคัมภีร์ และกาารคำนวณทางวิทยาศาสตร์

และได้คาการณ์โดยดูความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ เป็น 3 ช่วง และช่วงที่น่าจะเกิดมากที่สุดคือช่วง ค.ศ. 2013-2016 ครับ และมีความเป็นไปได้ปานกลางว่าจะเกิดในช่วงปี 2017-2021 และเป็นไปได้น้อยในปี 2022-2030 ซึ่งเรื่องแบบนี้เราต้องคอยดูกันเองครับ และจาก โฮเชยา 4:6ประ‌ชา‍กร​ของ​เรา​ถูก​ทำ‍ลาย​เพราะ​ขาด​ความ​รู้ เพราะ​เจ้า​เอง​ปฏิ‌เสธ​ความ​รู้ เรา​ก็​ปฏิ‌เสธ​เจ้า​ไม่‍ให้​เป็น​ปุ‌โร‌หิต​ของ​เรา เพราะ​เจ้า​ลืม​ธรรม‍บัญญัติ​แห่ง​พระ‍เจ้า​ของ​เจ้า เรา​เอง​ก็​จะ​ลืม​พงศ์‍พันธุ์​ของ​เจ้า​ด้วย และโฮเชยา 4:7พวก‍เขา​ทวี​มาก‍ขึ้น​เท่า‍ใด ก็​ทำ​บาป​ต่อ​เรา​มาก​ขึ้น​เท่า‍นั้น เรา​จะ​ให้​ศักดิ์‍ศรี​ของ​เขา​กลาย​เป็น​ความ​อับอาย

และในวันที่ 26 มีนาคม 2559 จะเป็นการเปิดขึ้นของตราผนึกที่ 6 และ 7 ครับ

ตราประทับดวงที่หก
6:12 เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้ว ดูเถิด ข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โต ดวงอาทิตย์ก็กลายเป็นมืดดำดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ และดวงจันทร์ก็กลายเป็นสีเลือด
6:13 และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดิน เหมือนต้นมะเดื่ออันหวั่นไหวด้วยลมกล้าจนทำให้ผลหล่นลงไม่ทันสุก
6:14 ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม
6:15 แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลก พวกคนใหญ่คนโต เศรษฐี นายทหารใหญ่ ผู้มีอำนาจ และทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระ ก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา
6:16 พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า "จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น
6:17 เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว และผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า"


ตระกูลได้รับการประทับตรา
7:1 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์สี่องค์ยืนอยู่ที่มุมทั้งสี่ของแผ่นดินโลก ห้ามลมในแผ่นดินโลกทั้งสี่ทิศไว้ เพื่อไม่ให้ลมพัดบนบก ในทะเล หรือที่ต้นไม้ใดๆ
7:2 แล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งปรากฏขึ้นมาจากทิศตะวันออก ถือดวงตราของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และท่านได้ร้องประกาศด้วยเสียงอันดังแก่ทูตสวรรค์ทั้งสี่ ผู้ได้รับมอบอำนาจให้ทำอันตรายแก่แผ่นดินและทะเลนั้น
7:3 ว่า "จงอย่าทำอันตรายแผ่นดิน ทะเลหรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราไว้ที่หน้าผากผู้รับใช้ทั้งหลายของพระเจ้าของเราเสียก่อน"
7:4 และข้าพเจ้าได้ยินจำนวนของผู้ที่ได้การประทับตรา คือผู้ที่ได้การประทับตรานั้น ก็มาจากทุกตระกูลในชนชาติอิสราเอลได้แสนสี่หมื่นสี่พันคน
7:5 ผู้ที่มาจากตระกูลยูดาห์ได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลรูเบนได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลกาดได้การประทับตราหมื่นสองพันคน
7:6 ผู้ที่มาจากตระกูลอาเชอร์ได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลนัฟทาลีได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลมนัสเสห์ได้การประทับตราหมื่นสองพันคน
7:7 ผู้ที่มาจากตระกูลสิเมโอนได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลเลวีได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลอิสสาคาร์ได้การประทับตราหมื่นสองพันคน
7:8 ผู้ที่มาจากตระกูลเศบูลุนได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลโยเซฟได้การประทับตราหมื่นสองพันคน ผู้ที่มาจากตระกูลเบนยามินได้การประทับตราหมื่นสองพันคน




















ข้อมูล และภาพจาก https://www.dropbox.com/sh/kjmatulk33t38u9/AABKec86-s24s1ns6NRXBanVa

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

เจริญหละ! เงินกู้ IMF $1.8 พันล้านช่วยเหลือยูเครนไปอยู่ในบัญชีของเจ้าพ่อชาวยูเครนในธนาคารแห่งหนึ่งในเกาะไซปรัส



------------
นักข่าวที่ทำการตรวจสอบรายงานว่าได้ตรวจพบว่าเงินกู้ IMF ซึ่งตั้งใจมอบให้ประเทศยูเครนได้ไปโผล่ในบัญชีในธนาคารแห่งหนึ่งในไซปรัสอย่างลึกลับซึ่งควบคุมโดยผู้มีอิทธิพชาวยูเครนอื้อฉาวชื่อ Ihor Kolomoyskyi
หนังสือพิมพ์ Deutsche Wirtshafts Nachrichten [DWN] ของเยอรมันนีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า "เงินช่วยเหลือจำนวนมหาศาล (บางส่วน) ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปล่อยกู้ให้กับยูเครนเมื่อปี 2014 จำนวน 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯถูกค้นพบว่าอยู่ในบัญชีในธนาคารแห่งหนึ่งใน Cyprus ซึ่งควบคุมโดยเจ้าพ่อ Ihor Kolomoyskyi ชาวยูเครนที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศ"
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ในเดือนเมษายนปีที่แล้ว มีการเบิกจ่ายเงินจำนวน $3.2 พันล้่านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.13 แสนล้านบาท) ไปในทันที และ 5 เดือนต่อมาก็มีการเบิกจ่ายไปอีกก้อนจำนวน $4.5 billion (ประมาณ 1.59 แสนล้านบาท) ที่ธนาคารกลางของยูเครนเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
DWN รายงานว่า "เงินจำนวนนี้ควรจะถูกนำไปใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของธนาคารที่กำลังได้รับความเดือดร้อนของประเทศ แต่เงินจำนวน $1.8 billion (ประมาณ 6.39 หมื่นล้านบาท) กลับหายลงไปในหลุมมืด (ซะงั้น)"
รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่านาย Ihor Kolomoyskyi เป็นอดีตผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk ซึ่งเป็นหนึ่งในนักธุรกิจชาวยูเครนที่ร่ำรวยที่สุด ด้วยอาณาจักรทางธุรกิจซึ่งรวมถึงหุ้นใน (บริษัทที่เกี่ยวกับ) พลังงาน สื่อฯ การบิน วัตถุเคมี และอุตสาหกรรมโลหะด้วย ที่ศูนย์กลางความร่ำรวยของนาย Kolomoyskyi ก็คือธนาคาร PrivatBank ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของยูเครน ซึ่งคุมเงินจำนวนมหาศาล - 40% - จากเงินช่วยเหลือ (เงินกู้ IMF) ที่ได้รับการจัดสรรเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบธนาคาร (ปัดโธ่ นึกว่าจะเอาไปช่วยประชาชน ที่แท้ก็เอาไปอุ้มพวกนายทุนนายธนาคารและพวกมหาเศรษฐีด้วยกัน แต่คนใช้หนี้ก็คือประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศตามเคย)
ในทางทฤษฎีนั้น IMF จะสงวนการควบคุมโดยตรงในการเบิกจ่ายเงินกองทุน (แต่) ในความเป็นจริงแล้ว ดูเหมือนว่าธนาคารเหล่านั้นจะเลือกผู้ตรวจสอบบัญชีเอง
สำนักข่าว DWN ของเยมรมันกล่าวเพิ่มเติมว่า "ในเดือนมกราคม 2015 IMF รายงานว่าอัตราส่วนของสภาพคล่อง (ทางการเงิน) ของระบบธนาคารในยูเครนได้ลดลงมาอยู่ที่ 13.8% จากเดิม 15.9% เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2014 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 แม้ว่าสถาบันการเงิน PrivatBank ได้รับการช่วยเหลือจากการล้มละลาย และได้รับเงินกู้จำนวน 62 ล้านยูโร เป็นเวลา 2 ปีจากธนาคารกลาง แล้วเงินกู้หลายพันล้านเหรียญจาก IMF มันหายไปไหน?"
กรณีอื้อฉาวในครั้งนี้ที่ดำเนินการโดย PrivatBank ของนาย Kolomoysky ได้รับการเปิดเผยโดยกลุ่ม Nashi Groshi ที่แปลว่า "เงินของพวกเรา" ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการคอรัปชั่นในยูเครน จากการตรวจสอบของกลุ่ม Nashi Groshi พบว่า สถาบันการเงิน PrivatBank ได้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทของยูเครน 42 แห่งซึ่งเป็นเจ้าของโดยบริษัทต่างชาติจำนวน 54 แห่งตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน สหรัฐฯ และไซปรัส บริษัทเหล่านี้นำเงินกู้ออกไปจากธนาคาร PrivatBank จำนวน $1.8 billion (ประมาณ 6.39 หมื่นล้านบาท)
บริษัทหลายแห่งของยูเครนได้มีออร์เดอร์สั่งซื้อสินค้าเพื่อการลงทุนจากบริษัทต่างชาติจำนวน 6 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในเกาะ Virgin Islands ของอังกฤษและทะเลแคริบเบียน จากนั้นก็โอนเงินเข้าไปยังสาขาของธนาคาร PrivatBank ใน Cyprus ทำราวกับว่าชำระค่าสินค้า
แล้วไงต่อ? ทีเด็ดมันอยู่ตรงนี้... รายงานข่าวบอกว่า อย่างไรก็ตาม ซัพพลายเออร์ต่างประเทศไม่เคยจัดส่งสินค้าต่างๆที่ถูกนำมา (อ้าง) ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคาร PrivatBank นั้นเลย และบริษัททั้ง 42 แห่ง (ของยูเครน) ก็เข้ามาดำเนินการทางกฎหมายต่อศาลในเมือง Dnipropetrovsk (เขตอิทธิพลของนาย Kolomoyskyi) เพื่อเรียกร้องการชำระเงินค่าสินค้าที่ตนเองผลิตและการระงับเงินกู้จากธนาคาร PrivatBank (มันยังไงกันหละนี่?)
การพิจารณาคดีของศาลเหมือนกันทั้งหมดทั้ง 42 บริษัท นั่นก็คือให้บริษัทต่างชาติ (foreign suppliers) ชำระเงินคืน แต่สัญญาสินเชื่อที่ทำกับธนาคาร PrivatBank ก็ยังอยู่เหมือนเดิม
นักข่าว Lesya Ivanovna จาก Nashi Groshi กล่าวว่า "โดยพื้นฐานแล้วนี่เป็นการโอนเงินจำนวน $1.8 billion ออกไปต่างประเทศ โดยความช่วยเหลือของสัญญาปลอม (fake contracts) (และเป็นการ) การไซฟ่อน (siphoning/ถ่ายโอนทรัพย์แบบผิดกฎหมาย) สินทรัพย์ต่างๆและการละเมิดกฎหมายที่มีอยู่ (ในปัจจุบัน)"
ในเดือนมีนาคม Kolomoyskyi ถูกปลดออกจากตำแหน่งผูว่าการจักหวัด Dnipropetrovsk หลังจากที่มีการต่อสู้กันทางอำนาจกับปธน. เปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน มีการดำเนินคดีในขณะช่วงที่ Kolomoyskyi เป็นผู้ว่าฯในภูมิภาคตะวันออกกลางของยูเครน (East-Central Ukraine)
Ivanovna กล่าวว่า "เรื่องราวทั้งหมดนี้กับคดีในศาลเป็นเพียงความจำเป็นที่ทำให้ดูเหมือนว่าธนาคารเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการทุจริต โดยทางการแล้ว มันดูเหมือนว่าธนาคารมีสินค้า แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่เคยจัดส่ง (สินค้าให้กัน) เลย" (กรรม!)
ตรงนี้ขอสรุปย่อๆนะครับ... รายงานข่าวบอกว่านาย Kolomoyskyi เคยถูกทางการสหรัฐฯห้ามไม่ให้เข้าประเทศมาก่อนเนื่องจากต้องสงสัยว่ามีความเกี่ยวโยงกับอาชญากรรมจัดตั้งระหว่างประเทศ แต่ปัจจุบันบันนี้เขาหลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐฯเมื่อต้นปีนี้
ยูเครนได้รับอนุญาตให้รับเงินช่วยเหลือบรรเทาหนี้อีก $3.6 billion จากเจ้าหนี้ รัสเซียแม้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกของสถาบัน (การเงิน) ที่ปล่อยกู้ให้ยูเครนก็ได้ออกมาปฏิเสธที่จะปล่อยกู้ให้ยูเครน (รอบใหม่) เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจจะมีการเล็ดลอดออกไปและกรณีอื่นๆที่มีการรับสินบนกันอย่างแพร่หลาย
ว้าวววว! เขาทำกันเป็นขบวนการข้ามชาติขนาดนั้นเลยอ่ะ นี่เรียกว่าโกงข้ามชาติกันเลยนะนี่ พออ่านข่าวนี้แล้วทำให้นึกถึงคดี G to G เก๊ โกงขายข้าวกับจีนในรัฐบาลที่ผ่านมาเลยแฮะ มีแต่กระดาษเอกสาร แต่ไม่มีการส่งออกจริง นี่แหละนักการเมือง (บางคน บางกลุ่ม)
The Eyes
30/08/2558

ภาพจาก © Sputnik/ Mikhail Markiv

----------
$1.8 bln IMF Ukraine Bailout Funds Discovered in Kolomoyskyi's Cyprus Kitty

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

เยอรมันอพยพประชาชนราว 10,000 คนออกจากเมือง พบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่2หนักเกือบ 1 ตัน



--------------
วันนี้ (30 ส.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกันอพยพพยาบาลและผู้สูงอายุจากบ้านพักผู้สูงวัยหลังเกษียณจำนวนประมาณ 10,000 คน (บางสำนักข่าวบอกว่าราว 20,000 คน) ออกจากเมือง Koblenz ทางตะวันตกของเยอรมัน หลังพบระเบิดขนาดใหญ่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่กำลังปลดชนวนระเบิด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงท้องถิ่นกล่าว
รายงานข่าวบอกว่าพบลูกระเบิดดังกล่าวมีน้ำหนัก 2,200 ปอนด์ (997.90 กก.) ในสถานที่ก่อสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จะถูกถอดชนวนในตอนกลางวัน รายงานข่าวยังบอกอีกว่า มีการพบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเยอรมันบ่อยครั้ง มีการอพยพประกรของเมือง Koblenz เกือบครึ่ง ราว 45,000 คน เมื่อเดือนธันวาคม 2011 เมื่อมีการพบลูกระเบิดอังกฤษในแม่น้ำท้องถิ่น
The Eyes
30/08/2558

ภาพจาก© AFP 2015/ THOMAS FREY GERMANY OUT

-------------
10,000 Evacuated as West German City Prepares to Defuse WWII Bomb

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
รมว.มหาดไทยอังกฤษเรียกร้องให้ปิดพรมแดนไม่ต้อนรับผู้อพยพว่างงานจากอียู ฮิ้ววววว!



--------------
วันนี้ (30 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "UK Interior Minister Urges to Close Border to Jobless Migrants From EU" (เอาเข้าปะ... เยอรมันบอกให้รับผู้อพยพ ฝรั่งเศสปล่อยเข้าอังกฤษ ส่วนอังกฤษบอกว่าปิดชายแดนไปเลย เอาตามสะดวกก็แล้วกันนะอียู ไม่ต้องเอื้อเฟื้อมาที่ประเทศไทยนะ แต่ถ้าจะให้ดีน่าจะส่งไปให้โอบาม่าบ้างก็ดีนะ ฮ่าๆๆ)
รายงานข่าวกล่าวว่า นาง Theresa May รมว.มหาดไทยของอังกฤษกล่าวว่า "เฉพาะผู้อพยพที่โชคดีเท่านั้นที่จะได้งานทำในสหราชอาณาจักรและยินดีต้อนรับให้อยู่อาศัยได้" (อ้าวผู้อพยพจะรออะไรกันอยู่เล่า รีบพากันไปเสี่ยงโชคโดยด่วนเลย ได้ไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คริๆ)
รมว.มหาดไทยอังกฤษกล่าวเมื่อวันเสาร์นี้ว่า "ผู้อพยพควรจะมีงานที่รออยู่แล้วในสหราชอาณาจักร เพื่อให้ได้รับการอนุญาตให้อยู่อาศัยในอังกฤษได้ ถ้าเราต้องการที่จะควบคุมการอพยพ และลดจำนวนลงให้ได้ในหลักหมื่น พวกเราจะต้องทำการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่" (ยิ่งใหญ่อย่างไรหรือที่รัฐมนตรี?)
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยข้อมูลว่า มีผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยอยู่ในอังกฤษระยะยาวทั้งสิ้นจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถึง 330,000 คน
รมว.มหาดไทยอังกฤษกล่าวว่า "เมื่อถูกวางไว้ในตำแหน่งที่สูงในตอนแรก การเคลื่อนไหวโดยเสรีหมายถึงมีอิสระที่จะย้ายการทำงาน ไม่ใช่เสรีภาพที่ข้ามชายแดนเพื่อเข้าไปหางานทำหรือเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์" (ก็รู้อย่างนี้แล้วอียูจะมากระแดะบีบให้ไทยรับพวกผู้อพยพชาวโรฮิงญาไว้ทำแป๊ะอะไรหละครับ?) นาง Theresa May ยังได้เย้ยหยันอีกว่า "ระบบการอพยพโยกย้่ายถิ่นฐานในยุโรปพังไปแล้ว เนื่องจากขาดการควบคุมชายแดน การไหลบ่าเข้ามาเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน (ของยุโรป)"
รัฐบาลอังกฤษมีความเห็นที่ขัดแย้งกันกับหลักการของกรุงบรัสเซลส์เหนือหลักการที่สำคัญของอียูเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐาน (ของผู้อพยพ) โดยอิสระ
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ให้สัญญาว่าจะจัดทำประชามติทั่วประเทศเพื่อให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปภายในสิ้นปี 2017 และได้เสนอให้มีการปฏิรูปเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพต่ออียู
ก็ถ้าอังกฤษอยากจะเอาตัวรอด ในภาวะที่อียูทั้งหมดกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เยอรมันกับฝรั่งเศสก็บอกว่า ดี… งั้นเอาผู้อพยพไปเยอะๆเลย ฝรั่งเศสจะหารถบรรทุกขนไปส่งให้ แถมเปิดอุโมงยูโรข้ามจากฝรั่งเศสไปยังอังกฤษให้ด้วยเลย อังกฤษจะเปิดหรือปิดอุโมงรถไฟความเร็วสูงหรือไม่นั้นก็แล้วแต่อังกฤษละกัน ตอนนี้ทางฮังการีก็สร้างรั้วตามแนวชายแดนกั้นไม่ให้ผู้อพยพต่างถิ่นไหลทะลักเข้าไปในประเทศของตนจากเซอร์เบียเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกมหาอำนาจจะออกมาขู่อย่างไรก็ไม่สน เพราะฮังการีบอกว่านี่เป็นอธิปไตยของฮังการี
ส่วนแก๊งค้ามนุษย์ก็เปลี่ยนรูปแบบการค้ามนุษย์จากเดินเท้าข้ามชายแดนไปเป็นใส่ในรถห้องเย็น จนเกิดปัญหาผู้อพยพขาดอากาศหายใจตายในรถไปกว่า 70 คนทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ตอนนี้ทางการบอกว่าสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วบางส่วน ฮึ่ม… และจะให้เทียร์ไหนกับอียูดีหละนี่?
The Eyes
30/08/2558

ภาพจาก © AFP 2015/ CSABA SEGESVARI

-------------
UK Interior Minister Urges to Close Border to Jobless Migrants From EU
Hungary Completes Building Anti-Immigration Fence on Serbian Border
Decomposing Bodies Top Vienna Agenda as Migrant Crisis Continues
Seven Suspects Arrested in Austrian Migrant Truck Tragedy
59 men, 8 women & 4 children among 71 migrants found dead in Austria truck - police — RT News

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
อุ๊ยโย๋!... สเปนหนึ่งในชาติสมาชิกนาโต้ให้เรือดำน้ำของรัสเซียเข้าเทียบท่าที่ซิวต้าได้ แต่ปฏิเสธสำหรับนาโต้ ฮิ้วววว!



------------
เอาหละเว๋ยยยย ชักจะเริ่มหนุกขึ้นมาบ้างแล้วสินี่... เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "'It's Crazy': Spain's Decision to Host Russian Sub Causes Outrage in UK" แปลว่า "บ้าชัดๆ: สเปนตัดสินใจให้เรือดำน้ำรัสเซียเข้าจอดได้ก่อให้เกิดความโกรธเกรี้ยวรุนแรงขึ้นมาในอังกฤษ" (งานนี้สื่อฯรัสเซียพาดหัวข่าวได้เจ็บและแรงมากๆ ทั้งเย้ยหยันและกระทำชำเราอังกฤษผ่านสื่อฯเห็นๆ)
สื่อฯรัสเซียโปรยหัวข่าวนำไปว่า "ยุทโธปกรณ์ระดับแนวหน้าของรัสเซียแทบจะไม่เคยทำให้ใครๆไม่แยแสโดยไม่คำนึงถึงบริบท ดังนั้นถึงวาระที่สเปนจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจเมื่อกรุงมาดริดอนุญาตให้เรือดำน้ำ Novorossiysk ของรัสเซียเข้าเทียบท่าได้ที่เขตซิวต้า (Ceuta) เป็นเวลาสามวันเพื่อเติมเชื้อเพลิงและเสบียง นั่นคือความสนใจที่ไม่พึงปรารถนา (จากใครหนอ? ฮ่าๆๆ)" (Ceuta คือที่ไหน? จะเฉยให้ฟังในตอนท้ายนะขอรับท่านผู้อ่านทั้งหลาย)
รายงานข่าวบอกว่า การเคลื่อนไหว (จากฝั่งรัสเซีย) ในครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้เป็นการละเมิดกฎหมายหรือข้อตกลงระหว่างประเทศแต่อย่างใด (ชัดนะจักรวรรดิเฮเก) แต่ในการรักษาประเพณีที่ดีที่สุดของการสร้างภาพในแง่ลบและการเป็นภัยคุกคามทุกๆการเคลื่อนไหวของฝั่งรัสเซีย (ไม่ว่าจะจริงหรือจินตนาการขึ้นมา) บางคนก็ออกมากล่าวหาอย่างเห็นได้ชัดว่าสเปนไม่มีอะไรที่จะต้องละทิ้งมาตรการที่เข้มงวดที่ตะวันตกกำหนดขึ้นมาต่อ (ต้าน) รัสเซีย หักหลังยูเครน และหันไปหลับนอนกับศัตรู (ฮ่าๆๆ เอากะสื่อฯรัสเซียสิงานนี้ ช่างจิกกัด เหน็บแนมได้เจ็บลึกจริงๆ นั่นคือบางมุมมองที่สื่อฯรัสเซียพูดแทนตะกวันตก แต่ตะวันตกถามเจ้าบ้านอย่างสเปนแล้วหรือว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องถูกบีบให้ยกสนามบินให้จักรวรรดิเฮเกและถูกอังกฤษยึดพื้นที่บางส่วนไปครอบครองหนะ)
สื่อฯรัสเซียตั้งคำถามว่า การตัดสินใจดังกล่าวก่อให้เกิดความโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงขึ้นมาในสหราชอาณาจักร ทำไม? Ceuta คือเมืองที่อยู่ติดกับชายแดนของราชอาณาจักโมร็อกโก (Morocco) ตั้งอยู่ห่างจากเขต Gibraltar เพียง 20 ไมล์ซึ่งเป็นอาณาเขตนอกประเทศของอังกฤษที่แย่งมาจากสเปน (เพราะว่า Gibraltar เป็นดินแดนที่อยู่ติดกับแผ่นดินใหญ่ของสเปน แต่อังกฤษถือโอกาสยกทัพมาชิงเอาในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางการเมืองภายในของสเปน สเปนเคยยกทัพไปตีเอาคืนหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จซักที เรื่องนี้เคยเล่าให้ฟังแล้วเมื่อเร็วๆนี้เอง แฟนเพจเก่าคงพอจะจำได้ ถ้าลืมก็สามารถกลับไปอ่านซ้ำอีกรอบได้ที่ https://www.facebook.com/fisont/posts/1707440769476056) นอกจากนี้แล้วกรุงมาดริดมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยๆในการใช้ท่าทีที่ไม่ประนีประนอมหรือสิ่งที่บางคนชอบเรียกว่า "the Rock" (น่าจะหมายถึงประเภทตาต่อตาฟันต่อฟันหนะ เรื่องนี้เกี่ยวกับอังกฤษโดยตรง เพระว่าพึ่งจะมีคดีเกี่ยวกับเมือง Gibraltar ระหว่างสเปนกับอังกฤษเมื่อเร็วนี้เอง)
นักอนุรักษ์นิยมชาวอังกฤษคนหนึ่งออกมาอ้างถึงการตัดสินใจของสเปนในครั้งนี้ว่าเป็นการยั่วยุ (provocation) ซึ่งหมายถึงการระรานเมือง Gibraltar ส.ส.Andrew Rosindell กลุ่ม Tory ของอังกฤษกล่าวหากรุงมาดริดว่า [ได้เพิ่ม] ยั่วยุที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนชาวเมือง Gibraltar (คำถามก็มีอยู่ว่าอันตรายจากใคร? จากผู้ที่กล่าวคำนี้ออกมาหรือเปล่า? นิสัยอย่างหนึ่งของพวกตะวันตกเห็นแก่ได้ก็คือชอบพูดความจริงข้างเดียวพูดแต่สิ่งที่ตนเองจะได้ผลประโยชน์โดยไม่ใส่ใจความจริงอีกด้านหนึ่ง ถ้ายึดตามมาตรฐานของนาย Andrew Rosindell แล้ว ถ้าอย่างนั้นกรณีหมู่เกาะ Falkland Islands หรือที่ชาวอาร์เจติน่าเรียกชื่อว่า Islas Malvinas ควรจะเรียกว่าอะไร? นาย Andrew บอกว่ากรณีนี้เป็นการยั่วยุที่เป็นอันตรายต่อประชาชนชาว Gibraltar ที่อังกฤษยึดครองมาจากสเปน แต่พออาร์เจนติน่าเรียกร้องสิทธิ์เหนือหมู่เกาะ Falkland/Malvinas คืนจากอังกฤษ อังกฤษก็ยกทัพเข้าไปเสริมแล้วการกระทำเช่นนี้อังกฤษก็คงจะบอกว่าเป็นการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนชาว Falkland/Malvinas สินะ? แล้วไม่คิดหรือว่าการกระทำของอังกฤษก็เป็นภัยคุกคามต่ออาร์เจนติน่าเช่นกัน?)
กลับมาที่เรื่องเรือดำน้ำต่อนะครับ... เรือ Novorossiysk เป็นหนึ่งในโครงการสร้างเรือดำน้ำรุ่น Project 636 Varshavyanka ถือว่าเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำที่เงียบที่สุดในโลก (เป็นเรือดำน้ำใช้พลังงานดีเซล-ไฟฟ้า) นาโต้อ้างถึงเรือดำน้ำรุ่น Kilo-class ที่มีการปรับปรุงแล้่วว่า "black hole" เรือดำน้ำกิโลของรัสสเซียถูกออกแบบมาให้มีปฏิบัติการต่อต้านเรือรบและเรือดำน้ำในน่านชายฝั่ง
Luke Coffey ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเชื่อว่าสหรัฐฯสหรัฐฯจะไม่ตื่นเต้นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว (ประชดประชันจักรวรรดิเฮเก) สำนักข่าว The Independent อ้างคำพูดของ Luke Coffey ว่า "ที่นี่พากเรามีสมาชิกนาโต้กระตือรือร้นเป็นเจ้าบ้านให้เรือรบชั้นสูงของรัสเซียเข้าเทียบท่าได้ในขณะที่กำลังมุ่งหน้าสู่ทะเลดำ มันบ้าบอชัดๆ และเรื่องนี้จะต้องทำให้กรุงวอชิงตันเลิกคิ้วมองได้แน่ๆ"
Luke Coffey กล่าวต่ออีกว่า "จะมีเสียงเอะอะโวยวายมาจากกรุงวอชิงตัน (There will be a huge outcry in Washington) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความเจ้าเล่ห์เพทุบาย (hypocrisy) ในกฎของสเปนซึ่งหมายความว่าเรือของสหรัฐฯและนาโต้ไม่สามารถเข้าเทียบท่าในสเปนได้หากเรือลำนั้นๆมาจากเขต Gibraltar (ของอังกฤษ) มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระบ้าบอคอแตกชัดๆ (ridiculous ต้องแปลให้มันส์ๆหน่อยถึงจะได้อารมณ์ร่วมไปด้วย คริๆ) ที่สเปนพูดออกมาว่าพวกเขาชอบที่จะให้เรือของรัสเซียเข้าไปยังหนึ่งในท่าเรือของพวกเขามากกว่าเรือของนาโต้ที่ไปเยือนเมือง Gibraltar" กรุงมาริดไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว (ฮี่ๆๆ… ปล่อยให้อังกฤษโวยวายต่อไป นี่แหละเขาเรียกว่าเกลือจิ้มเกลือ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ขืนสเปนยังหงอยต่อไป มีหวังวันหนึ่งคงจะถูกจักรวรรดิเฮเกกับอังกฤษกินรวบหมดประเทศแน่ๆ เพื่อเอาตัวรอดจากเหล่านักล่าทั้งหลาย (สเปนก็เคยเป็นหนึ่งในนักล่าเช่นกันแต่วันนี้หมดสภาพแล้ว) ก็ต้องหันไปคบกับรัสเซีย ตามที่โบราณพูดเอาไว้ว่าศัตรูของศัตรูคือมิตรของเรา)
แล้วเมือง Ceuta นี้มันอยู่ตรงไหน? ดูภาพที่ 3-4 ประกอบ Ceuta อยู่ตรงข้ามกับ Gibraltar ของอังกฤษผ่านช่องแคบ Gibraltar อังกฤษยึดช่องแหลม Gibraltar หวังจะยึดครองช่องแคบ Gibraltar สเปนก็ไม่หมูในอวยจะให้ใครมากินได้ง่ายๆนะ งั้นสเปนก็ไปยึดพื้นที่ในฝั่งตรงกันข้ามที่อยู่ในประเทศโมร็อกโกเอาไว้ซะเลย ที่โมร็อกโกหรือดินแดนที่มีชายแดนติดกับโมร็อกโกแต่อยู่นอกแผ่นดินใหญ่ของสเปนนี้ สเปนยังมีดินแดนอีกแห่งหนึ่งอยู่ในครอบครองของตนเองคือที่ Melilla ก็มีข่าวว่าเมื่อเร็วๆนี้โมร็อกโกได้ออกมาเรียกร้องดินแดนทั้งสองแห่งนี้กลับคืนมาจากสเปนเช่นกัน ใครนะที่อยู่เบื้องหลังของการออกมาเรียกร้องในครั้งนี้? ถ้าโมร็อกโกได้ดินแดนทั้งสองแห่งนี้กลับคืนมาแล้วจะยกให้ใครเช่าต่อดีหรือว่าจะถูกใครเข้าไปยึดแทนอีกหรือเปล่า?
มีอีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องเรือดำน้ำและโมร็อกโกเช่นกัน เมื่อวันที่ 22 ส.ค.58 ที่ผ่านมา Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Morocco to Buy Russian Amur-1650 Superquiet Submarine" (ราชอาณาจักรโมร็อกโกซื้อเรือดำน้ำรุ่นสุดยอดเงียบ Amur-1650 - project 677E จากรัสเซีย) เรือดำน้ำลำนี้ถือว่าเป็นเรือดำน้ำลำแรกของประเทศโมร็อกโกที่มีพรมแดนอยู่ติดกับทะเล และเป็นหนึ่งในประเทศแอฟริกาด้วย รายงานข่าวบอกว่าทั้งสองประเทศคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว จะมีการลงนามกันอย่างเป็นทางการโดยกษัตริย์ของจะเสด็จเยือนรัสเซียในปลายปีนี้ รายงานข่าวเบื้องต้นบอกว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจจะอยู่ที่ €300 ล้านยูโร ($342 เหรียญสหรัฐฯ ก็ประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท ถ้าคิดราคาต่อลำแล้วก็ใกล้เคียงกับเรือดำน้ำที่ทร.ไทยจะซื้อจากจีนนะ) รายงานข่าวยังบอกอีกว่า ทางมาเลเซียก็มีความสนใจในเรือดำน้ำ Amur-1650 ของรัสเซียเช่นกัน (บางคนบอกว่า อย่าไปซื้อเลยเรือดำน้ำหนะ ไม่รู้จะเอาไปสู้หรือรบกับใคร ไม่เห็นมีสงครามซะหน่อย ไปถามโมร็อกโกกับมาเลเซียสิครับรวมทั้งเวียตนามด้วยว่าเขาซื้อทำไม? บางคนบอกว่าทีกัมพูชาไม่เห็นมีเลยเราจะไปซื้อมาทำไม? งั้นก็รอให้ประเทศเพื่อนบ้านเรามีกันหมดทุกประเทศก่อนละกันซึ่งรวมทั้งพี่น้องประเทศลาวด้วย ถ้าลาวยังไม่มีเรือดำน้ำ เราก็ยัังไม่ต้องมี ดีปะ?)
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © Sputnik/ Vitaliy Ankov

----------
'It's Crazy': Spain's Decision to Host Russian Sub Causes Outrage in UK
Morocco to Buy Russian Amur-1650 Superquiet Submarine
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Soviet_and_Russian_submarine_classes
Gibraltar tensions: Spain accused of provocation after letting Russian sub dock at Ceuta | UK | News | Daily Express
https://en.wikipedia.org/wiki/Ceuta

 

Adepto Perfectus = dutchsinse



25 สิงหาคม 2558 - เตือนภัยเยลโลว์สโตน - ผู้ชาย + สุนัขถูกทำให้พองทั้งเป็นใน น้ำพุร้อน เมือง Challis, Idaho - สถานที่ที่มีการเกิดกลุ่มแผ่นดินไหว ปรกติ "ตกลง" สำหรับมนุษย์ที่จะว่ายน้ำในน้ำพุเหล่านี้ ... เมือง Challis, Idaho ยังเป็นจุดที่ USGS ได้ติดตั้งอุปกรณ์ใหม่หลังจากที่เกิดกลุ่มแผ่นดินไหวู่ขนาดใหญ่ขึ้น!
นี้เป็นเหมือนหนังเรื่อง Dante's peak ธรณีไฟนรกถล่มโลก (ก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด หนองน้ำที่ปรกติ มนุษย์สามารถลงไปเล่นได้ จู่เกิดความร้อนพุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน จนคนลงไปเล่นโดนต้มสุก) - และถ้าคุณสามารถจำได้ - ไม่มีใครสนใจที่จะฟังคำเตือนของ ดร. แฮร์รี่ ดัลตัน (เพียร์ซบรอสแน) ตัวละครเอกในหนัง เรื่อง Dante's peak สุดท้ายภูเขาไฟก็ถล่ม เล๊ตุ้มเป๊ ครับ
8/25/2015 — Yellowstone Alert — Man + Dogs burned alive in Challis Idaho hot springs — Earthquake Swarm Location | Dutchsinse
8/25/2015 — Yellowstone Alert — Man + Dogs burned alive in Challis Idaho hot springs — Earthquake Swarm Location
Normally "ok" for humans to swim in these springs... Challis Idaho is also the spot where the USGS installed new equipment after the huge swarm of earthquakes!
This is like the movie Dante's peak -- and if you can remember -- NO ONE would listen to Dr. Harry Dalton (pierce brosnan).
8/25/2015 — Yellowstone Alert — Man + Dogs burned alive in Challis Idaho hot springs — Earthquake Swarm Location | Dutchsinse

เตือนภัย เยลโล่สโตน สรุปน่ะครับ คนถูกลวกสุก + หมาถูกฆ่า ใน น้ำพุร้อน Idaho ตามความคิดของผมเป็นเรื่องปรกติครับ เพราะห้องแม็กม่าของเยลโล่สโตนมีขนาดใหญ่มาก และจากการตรวจสอบแม็กม่าก็เต็มห้องแล้ว และมีส่วนบนสุดของห้องไม่ห่างจากส่วนพื้นดินมากนัก บางทีพื้นดินส่วนนั้นอาจถูกหลอมละลายลงไปมากความร้อนก็เลยเพิ่มขึ้น จนทำให้คนโดนลวก แต่หมาตายครับ

8/26/2015 -- Yellowstone Alert -- Man burned + Dogs killed in Idaho Hot Springs @ EQ Swarm spot

https://www.youtube.com/watch?v=bXvrJ-BTdi0

 

ผมว่าพวกเราควรเชื่อถือแนวคิด โลกสวยกันต่อไป จะได้อยู่กันอย่างมีความสุข เอาไว้เกิดมหาภัยพิบัติมาจ่อหน้าแล้ว ค่อยคิดได้ว่ามันมีจริง เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง ป้องกันยังไงเราก็ตายอยู่ดี อาจตายช้าหน่อย คิดว่าเป็นแค่ข่าวขำๆ ก็พอน่ะครับ อย่าไปตื่นกลัวอะไร

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

เครื่องบินอเมริกันค่าใช้จ่ายซุปเปอร์แพง(สุดขีด) : F-22 ในยุโรปด้วยราคา 44,000 เหรียญ / ชั่วโมงการบิน



---------------
Sputnik รายงานว่า การโต้ตอบภัยคุกคามจากรัสเซียที่ไม่ได้ปรากฏอยู่จริงต่อยุโรป ดูเหมือนเงินจะไม่เป็นปัญหาต่อสหรัฐฯในการนำไปใช้งานในยุโรป
เอ..แล้วค่าใช้จ่ายตัวเลขน่ารักน่าชังใครจะรับไปดี ..ยุโรปไงครับ ฮ่า
เครื่องบินรบขับไล่รุ่นที่ 5 แบบสเตลท์ ของบ.ล็อคฮีด มาร์ติน ค่าใช้จ่ายโครงการ 6.67 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 2.39 ล้านล้านบาท สร้างออกมาแค่ 195 ลำ แต่ประจำการ 2005แค่ 187 ลำ...สงสัยหมดงบ F-35 ก็งบบานไม่หยุด (F-22) ราคาลำละ 150 ล้านเหรียญ หรือ 5,378 ล้านบาท แต่สำนักข่าว N-TV ของเยอรมัน เผยว่าหากรวมค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม F-22 จะราคาสูงถึง 350 ล้านเหรียญ หรือลำละ 12,550 ล้านบาท ราคานี้ซื้อเรือดำน้ำพร้อมอาวุธแถมมีเงินทอนได้เลยนะครับ ซึ่งสื่อได้ตั้งข้อสังเกตุเอาไว้ว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงการบินสูงถึง 44,000 เหรียญ แค่ชั่วโมงละ 1.57 ล้านบาทเอง ..เอิ้ก ค่าใช้จ่ายบินรบของไทย Jas-39 Grippen 90,000 บาท F-16 130,000 บาท/ชั่วโมงบิน
เมื่อเร็วๆนี้วอชิงตันได้ส่ง F-22 เพื่อทำการฝึกซ้อมรบทางอากาศขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามเย็น Sputnik ยังแถมให้ว่า การใช้งานมาพร้อมกับเสน่ห์ที่น่ารังเกียจ (charm offensive) ขนาดใหญ่บนสื่อสังคมจนถึงกลางเดือนกันยายน สื่อรัสเซียนี่ก็แสบไม่เบา การใช้งาน F-22 เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญ ที่เป็นความคิดริเริ่มเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับยุโรป แน่ใจ? ซึ่งสหรัฐฯดำเนินการตอบโต้ต่อสงครามกลางเมืองในยูเครน โดยที่ตะวันตกกล่าวหารัสเซีย ..ใครกันแน่เริ่มก่อน อาการแบบนี้เรียกว่าพวกขี้แพ้ชวนตี (ผมเติมไปเองครับ 55) โปรแกรมนี้ให้ทุนเพื่อการฝึกซ้อมทางทหารให้มากขึ้น, การใช้งานอุปกรณ์เครื่องมือทางการทหารและการหมุนเวียนของกองกำลังสหรัฐฯในยุโรป
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและนาโต้ต่างอ้างว่า กิจกรรมเหล่านี้เป็นการป้องกันในฐานะฝ่ายตั้งรับอย่างบริสุทธิ์ใจช่างไร้เดียงสา (purely) เป็นปกติวิสัยของพวกเขา ฮ่าๆๆๆ เอ๊า..ว่าเข้าไปนั้น
แต่มอสโคว์ยังคงเฝ้าจับตาวอชิงตันและบรัสเซลส์ (ฐานบัญขาการนาโต) ที่วางกล้ามเพิ่มขึ้น (หมายถึงเพิ่มกำลังทางทหาร) อย่างไม่ไว้วางใจ เครมลินได้พูดซ้ำๆถึงเรื่องความกังวลที่เพิ่มขึ้น ในการที่นาโตขยายกำลังทหารอย่างอหังการในยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้กับพรมแดนของรัสเซีย ในขณะที่มอสโกได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมกระบวนการสันติภาพ ที่มุ่งนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาทางการทูตกับสงครามกลางเมืองยูเครน ที่ถูกจุดประกายโดยการรัฐประหาร ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ
ป.ล. ภาพเปรียบเทียบ F-22 Raptor VS PAK FA T-50
ขอบคุณผู้แปล: Noraseth Tuntasiri
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © Flickr/ Airman Magazine

---------------
US' Super Costly Affair: F-22s in Europe Worth $44,000 per Flight Hour

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

จักรวรรดิเฮเกโมนีเสพติดการแซงชั่น: สหรัฐฯเตรียมแซงชั่นบริษัทจีนอ้างหาผลประโยชน์จากโจรไซเบอร์



-------------
เล่นกับไฟระวังไฟจะลามไปไหม้ตัวเองนะจักรวรรดิเฮเกเอ๋ย... วันนี้ (31 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า ฝ่ายบริหารของปธน.บารัค โอบามา ยังไม่ตัดสินใจว่าจะแซงชั่นบริษัทสัญชาติจีนหลายแห่งและรายบุคคลที่ได้รับผลประโยชน์จากการเจาะฐานข้อมูลของสหรัฐฯโดยแฮ็กเกอร์ชาวจีนหรือไม่ แต่คาดว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์ The Washington Post ของสหรัฐฯรายงานโดยอ้่างแหล่งข่าวจากรัฐบาลในวันจันทร์นี้ (อันนี้เรียกได้ว่า ออกมาขู่จีนก่อน เตรียมต้อนรับปธน.สี จิ้นผิงที่กำลังจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯในเร็วๆนี้ เล่นมุกการละเมิดสิทธิ์มนุษยชนกับจีน ก็โดนจีนสวนกลับให้หันไปดูในบ้านตัวเองกับการเที่ยวก่อสงครามในต่างแดนมาแล้ว คราวนี้ยังด้านมาเล่นมุกนี้ซ้ำอีก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็พึ่งจะโดนจีนตบกลับไปหยกๆ ว่าไปแอบสอดแนม ดักฟังผู้นำประเทศต่างๆไม่เว้นแม้แต่พันธมิตรของตนเอง ก็โดนกันทั่วหน้าทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ล่าสุดที่ฉาวโฉ่ก็เป็นญี่ปุ่นนี่แหละ ทั้งผู้นำและบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นถูกแฮ็กเกอร์แฉว่าถูกจักรวรรดิเฮเกล้วงลึกมาแล้วแทบทั้งนั้น แต่พี่แกก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คงจะเพราะมั่นใจว่าไม่มีใครกล้าแซงชั่นสหรัฐฯยกเว้นรัสเซีย ฮ่าๆ)
หนังสือพิมพ์ The Washington Post ของสหรัฐฯรายงานว่า คาดว่ามาตรการแซงชั่นในครั้งนี้จัดขึ้นก่อนที่ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯเป็นครั้งแรก แม้ว่าแหล่งข่าวบางแห่งจะเสนอว่าอาจจะมีการเลื่อน (การแซงชั่น) ออกไปหลายวันหลังการเยือนสหรัฐฯเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง (การที่รัฐบาลสหรัฐฯออกมาปล่อยข่าวผ่านสื่อฯในลักษณะนี้ คงจะคิดว่าเพื่อชิงข้อได้เปรียบในการเจรจาต่อรองกัน หากจีนไม่ยอมทำตามที่สหรัฐฯต้องการ สหรัฐฯก็ขู่ว่างั้นจะแซงชั่นจีนแบบที่ทำกับรัสเซียและประเทศอื่นๆมาแล้วบ้างนะ ตามส.ด.ของพวกเฮเกโมนีนั่นแหละ)
หนังสือพิมพ์ The Washington Post อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูง (ของสหรัฐฯ) ว่า "ตามที่ประธานาธิบดีได้กล่าวไว้ว่าเมื่อลงนามในคำสั่งให้มีการใช้มาตรการแซงชั่นทางเศรษฐกิจต่อผู้กระทำในโลกไซเบอร์ที่เป็นอันตราย ฝ่ายบริหารกำลังมองหากลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อเผชิญหน้ากับเหล่าผู้กระทำดังกล่าว ยุทธศาสตร์นั้นรวมถึงข้อตกลงทางการทูต เครื่องมือที่เกี่ยวกับนโยบายทางการค้า กลไกการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ และการออกมาตรการแซงชั่นต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีนัยสำคัญ เกี่ยวกับไซเบอร์ที่เป็นอันตราย"
รายงานข่าวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาบอกว่า หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) ได้บรรยายโดยสรุปจากรายงานในปี 2014 โดยกล่าวหาจีนว่า แฮ็กเกอร์จีนได้ (เจาะ) เข้าถึงอีเมล์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและการค้าในรัฐบาลของนายโอบามา อย่างน้อยก็ตั้งแต่เดือนเมษายน 2010 เป็นต้นมา
ตัวเองเจาะข้อมูลคนอื่นได้ โดยอ้างเรื่องความมั่นคงของประเทศตัวเอง แต่พอถูกคนอื่นกระทำกลับบ้างโดยกลยุทธ์ในลักษะเดียวกันกลับโวยวาย และชี้นิ้วไปที่คนอื่นว่ากระทำไม่ถูกต้อง ต้องให้จักรวรรดิเฮเกทำได้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น จะเอาอะไรเป็นมาตรฐานกับพวกเหลี่ยมจัดเหล่านี้หละ เล่นเกมแซงชั่นกับรัสเซียไปหลายรอบ เศรษฐกิจประเทศของตัวเองกำลังจะพังพินาศ และยังดึงให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวมแย่ตามไปด้วยยังไม่สำนึกอีก คิดจะขยายความรุนแรงทั้งทางการทูตและเศรษฐกิจไปที่จีนอีก อยากจะดึงจีนเข้าไปร่วมเกมแซงชั่นมหาประลัยด้วยอีกประเทศหนึ่งว่างั้นเถอะ นี่พวกนักการเมืองจักรวรรดิเฮเกเขาอยากจะเป็นเศรษฐกิจของประเทศตัวเองพังเร็วขึ้นใช่ไหมนี่? เดี๋ยวเฮียสีจัดให้ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวการออกมาตอบโต้จากฝ่ายจีนเกี่ยวกับกรณีนี้
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © Flickr/ Dennis Skley

----------
US Preparing Sanctions Against Chinese Companies Benefiting From Cybertheft

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
อียูทะเลาะกันเองปัญหาผู้อพยพซะแหละ: รมว.ต่างประเทศฝรั่งเศสจวกยุโรปตะวันออกที่ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัย (กระทบชิ่งไปอังกฤษก็บอกเหอะ ทำเป็นตำหนิยุโรปตะวันออก)



-------------
เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศ (Sputnik news) รายงานว่า Laurent Fabius รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสออกกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องฉาวโฉ่ (scandalous) ที่ประเทศสมาชิกของอียูโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปตะวันออกที่ไม่ยอมรับผู้ลี้ภัย" (ฮ่าๆๆ... ซัดกันเข้าไป ชอบ โรฮิงแย้ช่อง 2.5+0.5 อย่าลืมไปทำข่าวด้วยนะครับ ทำไมต้อง 2.5+0.5 หละครับท่านแอ็ดมิน? ก็สังเกตจากการนำเสนอข่าวของเขาหนะ บางครั้งก็ดูเหมือนว่าจะเกินเลยความพอดีไป บางครั้งก็ขาดๆหายๆ อ่ะ… ฮี่ๆๆ)
รายงานข่าวบอกว่า ปัจจุบันนี้สหภาพยุโรปกำลังต่อสู้กับวิกฤษผู้ลี้ภัย (ผู้อพยพ) อย่างหนัก เนื่องจากมีผู้อพยพจำนวนเป็นแสนคนพยายามเดินทางเข้าไปในประเทศสมาชิกอียูในหลายเส้นทาง รวมทั้งอิตาลี กรีซ ตุรกี และกลุ่มประเทศบัลข่าน (Balkan states) ด่้วย
คาดการณ์จากองค์กรรักษาชายแดนรอบนอกของอียู Frontex แสดงให้เห็นว่า มีผู้อพยพมากกว่า 340,000 คนถูกกักไว้ตามแนวชายแดนด้านนอกของกลุ่มประเทศสมาชิกอียูระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม 2015 มากว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2014 ถึง 3 เท่า (โชคดีนะอียู รับเลี้ยงไว้ให้ดีๆนะ ถ้าขาดคนช่วยดูแลก็ของแรงนังโรฮิงแย้ไปช่วยก็ได้)
รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสกล่าวในรายการวิทยุ Europe 1 radio ของฝรั่งเศสว่า "เกี่ยวกับผู้คนเหล่านั้นที่กำลังถูกไล่ล่าให้ออกนอกประเทศของพวกเขา (โดยฝีมือใคร? ใครไปก่อสงครามในประเทศเขาจนพวกเขาต้องพากันหนีตายออกนอกประเทศในวันนี้?) พวกเราจะต้องต้อนรับพวกเขาสิ (ฮ่าๆๆ เหม็นขี้ฟันอ่ะ แล้วฝรั่งเศสปล่อยให้ผู้อพยพข้ามไปยังอังกฤษทำไมรึ? ทำไมฝรั่งเศสถึงไม่รับไว้ทั้งหมดเลย?) ทุกประเทศจะต้องตอบสนองต่อเรื่องนี้ ฝรั่งเศส เยอรมันนี และประเทศอื่นๆ (ไม่กล้าเอ่ยชื่ออังกฤษอ่ะดิ) แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือมีบางประเทศที่ไม่ยอมรับโควต้า [ผู้อพยพ] ผมพบว่านั่นเป็นเรื่องที่น่าอับอาย" (ว้าววว! ด่าประเทศตัวเองหรือเปล่าอ่ะ? สุดจะฮากับนักการเมืองตะวันตกจริงๆ)
Laurent Fabius ยังแหลต่อไปอีกว่า "โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐในยุโรปตะวันออก พวกเขาหยาบกระด้างมาก (extremely harsh) ฮังการีเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป ซึ่งมีคุณค่า และพวกเราไม่เคารพคุณค่าเหล่านั้นด้วยการสร้างรั้วขึ้นมากั้น ฮังการีไม่ให้ความเคารพต่อคุณค่า (การค้ามนุษย์?) ของอียู" รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาประเทศฮังการีพึ่งจะสร้างรั้วต่อต้านผู้อพยพตามแนวชายแดนทางตอนใต้ของประเทศระหว่างเซอร์เบียเสร็จ
วันนี้ (31 ส.ค.58) สำนักข่าว Xinhua ของจีนพาดหัวข่าวว่า "มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 140,000 อพยพเข้าไปในฮังการีในปี 2015" (โอ้ป๊ะจ้าว! ฝรั่งเศสสนใจจะรับไปดูแลบ้างไหม?)
เอ๊ะ… จำได้ว่าก่อนหน้านี้ก็ฝรั่งเศสหรืออังกฤษนี่ไม่ใช่หรือที่เสนอให้มีการทำรั้วกั้นทางรถไฟลอดอุโมงจากฝรั่งเศสไปยังอังกฤษไม่ให้ผู้อพยพเข้าไปเข้าใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางไปยังอังกฤษได้ และมีการใช้ทั้งทหารและตำรวจในการสกัดกั้นด้วย ส่วนรัฐมนตรีของอังกฤษบางรายก็เอารถทัวร์ไปต้อนรับนำไปพักไว้ตามโรงแรมต่างๆเป็นจุดๆไปในอังกฤษ แถมให้เงินช่วยเหลือรายวันอีกตะหาก การที่ฮังการีทำรั้วกั้นไม่ให้ผู้อพยพทะลักเข้าไปในประเทศของตนเองหรือใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยังยุโรปคงจะกระทบกับรายได้และงบประมาณที่อ้างว่าให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของนักการเมืองเหล่านั้นสิท่า ถึงได้ออกมาโวยวายยุโรปตะวันออก เพราะไปขัดขวางเส้นทางทำมาหากินของขบวนการค้ามนุษย์ในยุโรปนี่เองหรือเปล่า?
และในวันเดียวกันนี้ สำนักข่าว RT news ของรัสเซียก็พาดหัวข่าวว่า "No entry? Sweden’s far-right calls for vote on immigration, French want to shut borders" แปลว่า ห้ามเข้า? พรรคฝ่ายขวาของสวีเดนเรียกร้องให้มีการโหวตเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ ฝรั่งเศสต้องการให้มีการปิดชายแดน" (ฮ่าๆๆ... จะเอายังไงกับฝรั่งเศสดีนี่ครับ?)
รายงานข่าวบอกว่า Marine Le Pen จากพรรค National Front ฝ่ายขวาของฝรั่งเศส (เธอเป็นว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่าง ปธน.ของฝรั่งเศสสมัยต่อไปด้วยนะ) ประกาศว่า "ปัญหาผู้อพยพควรจะยุติลงได้แล้ว ขอเรียกร้องให้มีการปิดชายแดนของประเทศ (ฝรั่งเศส) ซะ" ในขณะเดียวกันพรรคดิโมแครทฝ่ายขวาของสวีเดนก็ออกมากล่าวว่า ควรจะทำประชามติเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อปีที่ผ่านมา สวีเดนได้รับผู้อพยพจำนวน 80,000 คน ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการรับรองจำนวนมากที่สุดของผู้อพยพในอียู เมื่อเทียบกับจำนวนของประชากรของสวีเดน นโยบายที่เป็นมิตรเกี่ยวกับผู้อพยพของสวีเดนที่มีมาช้านาน ทำให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของผู้ขอลี้ภัยทั้งหลาย (พอรับไปเยอะๆ ก็เริ่มจุกสิครับคราวนี้ ครั้นจะออกมาคัดค้านหรือปฏิเสธว่าไม่รับอีกแล้ว หรือรับไม่ไหวแล้ว ก็กลัวจะเสียหน้า ก็ต้องอ้างประชาชน ด้วยการทำประชามติ)
ส่วนอีกข่าวหนึ่งในวันเดียวกันนี้ Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "EU to Launch Naval Operation Against Human Traffickers in Autumn" แปลว่า "อียูเริ่มปฏิบัติการทางทะเลต่อต้านการค้ามนุษย์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง" (อัยย๊ะ! นี่ไง Human Traffickers ค้ามนุษย์เห็นๆเลยนี่ จะอียูจะเอาเทียร์ไหนดี? ขอจากก.ต่างประเทศสหรัฐฯได้เลยนะ เรื่องแบบนี้จะโทษแต่ประเทศต้นทางไม่ได้หรอกหากประเทศปลายทางไม่รู้เห็นไปใจด้วย เกรงแต่ว่าจะไปเจอตอเบ้อเร่อเข้าให้ก็จะพับแผนกลับนะสิ)
Bohuslav Sobotka ปธน.ของสาธารณรัฐเช็กกล่าวว่า "ในช่วงฤตูใบไม้ร่วงนี้ประเทศต่างๆในยุโรปกำลังจะเริ่มปฏิบัติการทางทะเลร่วมกันในน่านน้ำสากล ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งมีการจัดการขนถ่ายผู้คนจากประเทศโลกที่สามเข้าไปในยุโรป" (รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศสมีความคิดเห็นต่อกรณีนี้อย่างไรบ้างครับ ส่งเสียงหน่อยสิ?)
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © REUTERS/ Laszlo Balogh

----------
Hungary Completes Building Anti-Immigration Fence on Serbian Border
French FM Slams Eastern Europe for Not Accepting Refugees
No entry? Sweden’s far-right calls for vote on immigration, French want to shut borders — RT News
EU to Launch Naval Operation Against Human Traffickers in Autumn
Over 140,000 refugees enter Hungary in 2015 - Xinhua | English.news.cn
Over 140,000 refugees enter Hungary in 2015 - Global Times

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

ข่าวด่วน! ม็อบยูเครนบุกสภาฯค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญกระจายอำนาจ มือที่มองไม่เห็นปาระเบิดใส่ตำรวจคุมฝูงชนบาดเจ็บระนาว



-------------
เอาแล้วไงยูเครน ประชาธิปไตยที่สหรัฐฯจัดให้ วันนี้มีรายงานข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างนี้ 10 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่หน้าอาคารรัฐสภาของยูเครน ฝูงชนผู้ประท้วงพากันไปรวมตัวกันคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับการกระจายอำนาจรัฐ
Anton Gerashchenko ที่ปรึกษาก.มหาดไทยของยูเครนกล่าวว่า "มีการโยนลูกระเบิดชนิดขว้าง (combat grenade) เข้าใส่เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจชาวยูเครน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจาก National Guard ได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตอยู่ในขีดอันตราย"
รายงานข่าวจาก twitter บอกว่ากลุ่ม Right Sector หัวรุนแรงจู่โจมเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างโหดร้าย มีทั้งท่อนไม้ และการขว้างปาสิ่งของและระเบิดควันใส่กันไปมา สำนักข่าว RIA Novosti และ TASS ของรัสเซียรายงาน ส่วนสำนักข่าว UNIAN ของยูเครนบอกว่ามีการขว้างปาระเบิดควันและก้อนหินใส่กัน ขณะนี้ตำรวจกำลังพยายามหยุดและห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา ทั้งกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจต่างก็ใช้แก๊สน้ำตาปาใส่กัน (ดูในคลิปเอาก็แล้วกันว่าเหตุการณ์ด้านหน้าอาคารรัฐสภาของยูเครนเป็นอย่างไรบ้าง)
ก่อนหน้านี้ทางผู้นำของเยอรมันนีและฝรั่งเศสได้ประชุมร่วมกันกับปธน.โปโรเชนโก้น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของยูเครนนี่แหละ โดยไม่มีปธน.ปูตินเข้าร่วมด้วย ต่อมาหลังจากที่ถูกสื่อฯรัสเซียวิจารณ์ประมาณว่าการประชุมในครั้งนี้หากขาดปูตินร่วมด้วย การแก้ไขปัญหาในยูเครนจะสำเร็จได้หรือ และนายกรัฐมนตรีของเยอรมันก็ออกมาบอกว่า เดี๋ยวจะชี้แจงให้ผู้นำรัสเซียรู้ว่าคุยอะไรกันบ้าง อาจจะเป็นทางโทรศัพท์หรือคุยกันแบบตัวต่อตัวก็ได้ ต่อมาทั้งผู้นำฝรั่งเศสและเยมรมันนีก็มีการโทรศัพท์คุยกัน 3 ฝ่าย ชี้แจงให้ปูตินรับทราบ
และวันนี้ก็มีการประชุมรัฐสภายูเครนเกี่ยวกับการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น ดูเหมือนว่ารัฐบาลยูเครนจะไม่มีทางเลือกเพราะก่อนหน้านี้ทำเป็นเสียงแข็งจะกลับคำว่าจะไม่ยอมกระจายอำนาจให้ DPR/LPR ตามที่ได้ทำข้อตกลงไว้ในการเจรจาที่กรุงมินส์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สุดท้ายก็ต้องกระจายอำนาจอยู่ดีเพราะโปโรเชนโก้ถูกอียูบีบไข่จนหน้าเขียว ส่วนพวก Right Sector หัวรุนแรงลูกน้องจักรวรรดิเฮเกไม่พอใจ ก็ออกมาประท้วงคัดค้านและก่อเหตุดังกล่าวขึ้นมา
อ้อวันนี้มีอีกข่าวหนึ่งว่านาโต้นำโดยสหรัฐฯจัดซ้อมรบร่วมกับกองทัพยูเครนในทเลดำด้วย ฮึ่ม… ส่วนสื่อฯรัสเซียเหมือนจะได้กลิ่นบางอย่างตุๆโชยมาตามลมว่าสงสัยว่างานนี้จักรวรรดิเฮเกจะก่อสงครามในยูเครนขึ้นมาอีกรอบแน่ๆ เพราะว่าทางกองทัพยูเครนเสริมกำลังเข้าไปในแนวหน้าที่มีการขัดแย้งและสู้รบกับกลุ่ม DPR/LPR โปรรัสเซีย เพิ่มมากขึ้น เหตุนี้มั๊งทางอียูถึงได้รีบเข้าไปห้ามศึกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น? ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคดอนบาสส์นั้นก็ถูกโจมตีจากกองทัพฝั่งยูเครนอยู่เป็นระยะ เน้นยิงจรวจหรือปืนใหญ่ถล่มบ้านเรือนประชาชนเป็นหลัก
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © REUTERS/ Valentyn Ogirenko

----------
https://www.youtube.com/watch?v=u6zrTOQPyjQ
Kiev clashes, grenade explosion injure dozens during protests against constitutional law — RT News
Ukrainians protest austerity plans, government seeks more IMF help — RT In motion
Protesters Attempt to Break Into Ukraine's Parliament, Clash With Police
TASS: World - Putin, Merkel, Hollande discuss further functioning of Normandy format

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

ยุโรปอาจจะประสบกับความสูญเสียอย่างหนักหากจีนเปิดสงครามสกุลเงิน



--------------
เอาหละสิ... วันนี้สำนักข่าว DWN ของเยอรมันรายงานข่าว "สงครามการเงินทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝรั่งเศสและอิตาลี สินค้าส่งออกราคาถูกของจีน อาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่ออุตสาหกรรมต่างๆที่ 'ผอมโซ' (emaciated industries) ในประเทศเหล่านี้ และจากนั้นก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเสถียรภาพของยูโรโซน (เงินยูโร)" (ว้าวววว! นี่สื่อฯยุโรปพูดเองนะครับ ไม่ใช่รัสเซียหรือจีนพูดนะ)
รายงานข่าวบอกว่า การส่งออกของจีนได้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก (great importance) ไม่ใช่เฉพาะสำหรับประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนที่เหลือทั่วโลกด้วย (ฮึ่ม! ไม่รู้ว่าพวกนักการเมืองและคอลัมนิสต์โปรอเมริกา ที่ชอบออกมาเขียนบทความต่อต้านจีนกับรัสเซียอยู่บ่อยๆ จะได้อ่านข่าวนี้หรือเปล่านะ?)
หนังสือพิมพ์ของเยอรมันกล่าวว่า "ในช่วงที่ 15 ปีที่ผ่านมา จีนได้กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก การผงาดขึ้นมาของจีนมีอิทธิพลอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมของต่างๆของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป และนำไปสู่การทำลายอุตสาหกรรม (de-industrialization) บางส่วนของเศรษฐกิจ (ในประเทศ) เหล่านี้ ส่วนแบ่งในการส่งออกทั่วโลกทั้งหมดของประเทศเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก และทั้งหลายทั้งมวลนี้ ได้ถดถอยในดีกรีที่หลากหลาย" (ฮึ่ม พอค้าขายสู้จีนไม่ได้ก็บอกว่าจีนไปทำลายอุตสาหกรรมของพวกมหาอำนาจเก่าซะงั้น)
อ่านต่อไหม?... เกรงว่าโปรอเมริกากับโปรตะวันตกจะรับไม่ได้อ่ะ … หายาดม ยาหม่องมาเตรียมไว้นะครับ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆอ่านค่อยๆทำความเข้าใจ ถ้ารีบเร่งอ่านให้จบ อาจจะประสบกับภาวะหัวใจล้มเหลวเพราะยอมรับความไม่ได้ ก็ได้… นี่แอ็ดมินแนะนำด้วยความหวังดีนะนี่ คริๆๆ
รายงานข่าวบอกว่า จวบจนประมาณปี 2003 ส่วนแบ่ง (ทางการตลาด) ของกลุ่มประเทศยุโรปในการส่งออกทั่วโลกมีปริมาณอยู่ราว 1 ใน 3 ปัจจุบันนี้ มันร่วงลงมาอยู่แค่ 24% ซึ่งส่งผลกระทบต่อฝรั่งเศสและอิตาลีมากที่ซู๊ดดดด DWN รายงาน
ดูเหมือนว่าแนวโน้มเหล่านี้กำลังขยายออกไปตลอดปี 2015 เนื่องจากการปรับลดค่าเงินหยวน ซึ่งจะทำให้สินค้าส่งออกของจีนมีราคาถูกลงและน่าดึงดูดมากขึ้น อย่างก็ตามในขณะเดียวกัน การชะลอตัวของการเติบโต (ด้านเศรษฐกิจ) อย่างต่อเนื่องของจีนก็จะอาจจะกระจายไปประเทศต่างๆด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (ไม่มากหรอก เพราะว่าจีนกับรัสเซียเน้นพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเหล่านี้มากกว่าในประเทศมหาอำนาจที่พัฒนาแล้ว เพราะจีนกับรัสเซียมองว่ากลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เหล่านี้คือกองหนุนสำคัญของเศรษฐกิจและการเมืองของจีนกับรัสเซีย ที่จะต่อกรกับพวกอำนาจเก่าอย่างสหรัฐฯและยุโรปได้ ดังนั้นจีนกับรัสเซียจึงเน้นการสร้างเมกาโปรเจคในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นหลัก)
Monica DeBolle กรรมการผู้จัดการสถาบัน Institute for Economic Policy Studies ของบราซิลให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียว่า "หากจีนไม่สามารถออกจากสถานการณ์ที่ตกต่ำในปัจจุบันของตนเอง ประเทศที่เสี่ยงเช่น บราซิล รัสเซีย ตุรกีอาจจะล้มลงไปในวิกฤตการณ์ที่รุนแรงได้" (ฮึ่ม! คงจะหลังอียูกับสหรัฐฯหละครับ ถ้าจีนล้มก็ล้มทั้งโลกหละ จีนรู้ว่าถ้าปล่อยให้เศรษฐกิจบูมเกินไปสุดท้ายก็จะกลายเป็นฟองสบู่ จึงปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลง แต่อีกไม่กี่ปีหลังจากที่โครงการเมกาโปรเจคในภูมิภาคต่างๆสำเร็จแล้ว เส้นทางสายไหมของจีนก็จะฉลุยเลยหละ)
The Eyes
31/08/2558

ภาพจาก © REUTERS/ Tyrone Siu

----------------
Europe May Suffer Significant Losses if China Launches Currency War

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
·
ซวยแล้วไหมหละสหรัฐฯกับซาอุดิฯเอ๋ย



-------------
เมื่อประมาณวันที่ 20 กว่าเดือนสิงหาคมนี้ กองทัพเยเมนใช้อาวุธรุ่นคนปู่สมัยโซเวียตทำลายรถถัง Abrams M1 main battle tank เมดอินยูเอสเอที่ขายให้กองทัพซาอุดิอาระเบียเละเป็นโจ๊ก อาวุธที่เยเมนใช้ในครั้งนี้ก็คือ 9K111 Fagot ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ที่ผลิตขึ้นมาในยุคโซเวียต (1970) น้ำหนัก 2.5 กก. ระยะหวังผล 70-2,500 เมตร ติดตั้งหัวรบแบบ High Explosive Anti-Tank (HEAT) สามารถเจาะเกราะได้ถึง 600 มม. (หนา 60 เซ็นติเมตร หรือ 2 ฟุต) อัยย๊ะ! ฝันร้ายของซาอุดิฯ ยูเออี และสหรัฐฯชัดๆเลยนิ ข่าวนี้ Sputnik ของรัสเซียพึ่งจะเปิดเผยมาเมื่อวานนี้เอง เพราะสงสัยว่าเยเมนใช้อาวุธอะไรถึงทำลายรถถังชื่อดังของสหรัฐฯให้เป็นจุลได้ขนาดนั้น พอสืบไปสืบมาก็ถึงได้รู้ว่า อ้อ… มันคือ Fagot ของโซเวียตนี่เอง คริๆ
The Eyes
01/09/2558

ภาพจาก © AP Photo/ Hadi Mizban

------------
https://www.youtube.com/watch?v=a2GR-g9777k
Old Soviet Missile Makes Easy Work of US M1 Abrams Tank (VIDEO)

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
ฟลุ๊คอะไรอย่างนี้... บริษัท Eni ของอิตาลีพึ่งสำรวจพบบ่อก๊าซธรรมชาติและบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของอียิปต์



------------
ว้าววว! ควงกันรวยเลยอ่ะ บุญหล่นทับอีตาลีที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอยู่พอดี ส่วนอียิปต์ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีน้ำมันในชาติอาหรับหน้าใหม่ขึ้นมาทันที ตอนนี้ปธน.ซิซีของอียิปต์ดูจะมีสง่าราศรีมากกกก
รายงานข่าวเมื่อวันที่ 30 ส.ค.58 ที่ผ่านมาบอกว่า บริษัท Eni (Eni S.p.A. หรือ Ente Nazionale Idrocarburi S.p.A.) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของอิตาลีได้ประกาศในเว็บไซต์ว่า บริษัทฯได้พบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดซุปเปอร์ยักษ์ (supergiant) ที่เขต Zohr Prospect ในน้ำลึกของอียิปต์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอ้างว่าแหล่งก๊าซแห่งนี้อาจจะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้
บริษัท Eni กล่าวต่ออีกว่า "นี่เป็นวันที่สำคัญวันหนึ่งสำหรับบริษัท และสำหรับอิตาลีและอียิปต์เช่นกัน เนื่องจากแหล่งพลังงานแห่งนี้จะเติมพลังงานให้กับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของอิตาลีและ จะสามารถรับประกันได้ว่าก๊าซธรรมชาติของอียิปต์เพียงพอต่อความต้องการได้หลายสิบปี"
รายงานข่าวบอกว่าแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งของอียิปต์ประมาณ 80 ไมล์ (129 กม.) ลึกลงไปจากพื้นผิวประมาณ 1,450 เมตร จากแถลงการณ์ของ Eni บอกว่า แหล่งก๊าซที่ค้นพบในครั้งนี้ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอาจจะมีก๊าซสำรองอยู่ถึง 30 ล้านล้านคิวบิกฟุต (ประมาณ 849,000 ล้านคิวบิกเมตร หรือ 5.5 พันลานบาร์เรลเมื่อเทียบกับน้ำมัน)
นอกจากนี้แล้วยังได้สำรวจพบแหล่งน้ำมันที่จะมีการขยายการสำรวจออกไปอีกด้วย คาดว่าจะมีถึง 40 ล้านล้านคิวบิกฟุต (1.1 ล้านล้านคิวบิกเมตร) Claudio Descalzi ประธานผู้บริหารของ Eni กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษ และบริษัทฯคาดว่าจะมีการค้นพบมากกว่านี้อีกด้วย คาดว่าจะมีการขุดเจาะในปี 2016 และจะสามารถผลิตได้ที่ 65-80 ล้านคิวบิคเมตรต่อวัน
วันที่ 31 ส.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Egypt to Suspend Gas Import After Eni Gas Discovery" (อียิปต์ระงับการน้ำเข้าก๊าซหลังจาก Eni ค้นพบก๊าซ) ซวยแล้ว... ซวยใครหละคราวนี้? Sputnik กล่าวโดยย่อว่า ผู้แทนจากกระทรวงปิโตเลียมและทรัพยากรแร่ของอียิปต์กล่าวว่า แหล่งแก๊สที่มีการค้นพบโดยบริษัท Eni ของอิตาลีนั้นจะทำให้อียิปต์สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าแก๊สอย่างน้อยเป็นเวลา 10 ปี และอียิปต์ต้องการจะชะลอการนำเข้าแก๊สจากต่างประเทศเป็นเวลา 3-5 ปี
หลังจากที่มีการค้นพบแก๊สในอียิปต์ สื่อฯอิสราเอลก็ออกมาเสนอแนะว่า การค้นพบในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดของอิสราเอลโดยตรง (ฮี่ๆๆ ชอบ!) ซึ่งได้วางแผนเอาไว้ว่าจะจ่ายแก๊สให้กับอียิปต์จากแหล่งแก๊ส Leviathan ของตนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รายงานข่าวบอกว่าแหล่งแก๊ส Leviathan ของอิสราเอลนั้นมีขนาดเล็กกว่าของอียิปต์ที่พึ่งค้นพบในครั้งนี้
ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวดีหรือว่าจะเป็นข่าวอย่างอื่นสำหรับอียิปต์นะ เพราะว่างานนี้ฝูงอีแร้งและหมาป่าคงจะหันมาจ้องรอส่วนแบ่งแน่ๆ หวังว่าอียิปต์คงจะไม่กลายเป็นซีเรีย2 หรือลิเบีย2 หรืออิรัค2 หรอกนะ จับมือกับปูตินและเฮียสีไว้ให้แน่นๆ แล้วจะรอดพ้นจากหายนะของพวกนักล่าอย่างจักรวรรดิเฮเกได้
The Eyes
01/09/2558

ภาพจาก © Amir Cohen / Reuters

----------
Italy’s Eni discovers ‘largest-ever’ gas field in Mediterranean Sea off Egypt — RT Business
Italy’s Major Oil Group Finds Biggest Gas Field Off Egypt Coast
Egypt to Suspend Gas Import After Eni Gas Discovery

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf

รัสเซียประกาศว่าได้รับเงินชดเชยค่าเบี้ยวต่อเรือบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ Mistral จากฝรั่งเศสจำนวน $1.12 billion เรียบร้อยแล้ว แต่รัสเซียยังไม่อนุญาตให้ฝรั่งเศสขายเรือให้ประเทศไหน ฮ่าๆๆ ฝรั่งเศสโดนเอาคืนบ้างหละ



------------
เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "France's Compensation for Mistral Deal Fail Worth $1.1Bln Already in Moscow" (ฝรั่งเศสยอมจ่ายค่าชดเชยในข้อตกลงต่อเรือ Mistral เป็นจำนวนเงิน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯให้กรุงมอสโคว์เรียบร้อยแล้ว) โดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาล (รัสเซีย)
แหล่งข่าวบอกว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดครอบคลุมการชดเชยค่าเสียหาย ซึ่งรวมถึงการเดินทางและฝึกบุคคลากรด้วย เงินอยู่ในรัสเซียแล้ว ในที่สุดยอดรวมมีมากกว่า 1 พันล้านยูโร ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมารัสเซียได้จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า (ค่าต่อเรือบรรทุกเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์) ไปจำนวน 893 ล้านยูโรสำหรับเรือลำแรก และบางส่วนของเรือลำที่สอง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Stephan Le Foll โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่า "ค่าชดเชยที่ได้จ่ายให้กับรัสเซียเนื่องจากทางฝรั่งเศสยกเลิกสัญญาในการส่งมอบเรือบรรทุกเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์จำนวน 2 ลำจะไม่เกิน 1 พันล้านยูโร" (แต่วันนี้กรุงมอสโคว์บอกว่าได้มากว่า 1 พันล้านยูโรนิดหน่อยนะครับ)
ตอนนี้ฝรั่งเศสกำลังเร่ขายเรือ Mistral ให้ประเทศต่างๆทั่วโลก โดยอ้างว่ามีมากกว่า 28 ประเทศมีความสนใจ เช่น จีน อินเดีย สหรัฐฯ ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี อียิปต์ เป็นต้น ล่าสุดก็มาเลเซีย เพราะรมว.กลาโหมของฝรั่งเศสกำลังจะเดินทางไปเยือนมาเลเซียในเร็วๆนี้ สื่อฯรัสเซียตั้งข้อสังเกตว่าแกจะไปขายเรือ Mistral มั๊ง? แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่าลิขสิทธิ์ยังเป็นของรัสเซียอยู่นะสิครับ ถ้ารัสเซียไม่ไฟเขียวให้ ฝรั่งเศสก็จะไม่สามารถขายเรือทั้งสองลำให้ใครได้เลย และตอนนี้ฝรั่งเศสก็ต้องรับภาระค่าดูแลประมาณเดือนละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯทั้งๆที่จอดเรือไว้เฉยๆก็ยังต้องจ่ายตังค์อีกด้วยอ่ะ กรรม!
บางคนอาจจสงสัยว่าแล้วทำไมรัสเซียถึงยังมีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์ของเรือ Mistral อยู่เพราะเรือ Mistral เป็นของฝรั่งเศสไม่ใช่รึ และรัสเซียก็รับเงินไปแล้วนิ? ก็จริง แต่จริงบางส่วน เรื่องของเรื่องก็คือว่า รัสเซียต่อเรือ Mistral ได้ครึ่งหนึ่งแล้วที่ประเทศรัสเซียเอง ด้วยเทคโนโลยีของรัสเซียจากนั้นค่อยลากไปทำต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้ฝรั่งเศสจึงไม่มีสิทธิ์อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เรือดังกล่าว ถ้าฝรั่งเศสจะไม่ส่งมอบให้รัสเซีย เพราะเชื่อคำยุยงจากจักรวรรดิเฮเกจอมเสี้ยม ฝรั่งเศสจะไม่สามารถขายเรือให้ใครได้เลย จะเก็บเอาไว้ใช้เองก็ไม่ได้ซะด้วยมั๊ง เพราะกองทัพของฝรั่งเศสจะต้องซื้อจากบริษัทต่อเรืออีกทีหนึ่ง ถ้ารัสเซียไม่อนุญาตซะอย่างใครก็เอาไปใช้ไม่ได้ คิดจะเล่นมุกนี้กับปูตินรึ? งั้นก็คือคราวที่ฝรั่งเศสจะต้องเจ็บตัวบ้างหละนะ ส่วนจักรวรรดิเฮเกก็นั่งกระเท้าดูความพินาศของพันธมิตรตัวเองที่เป็นผลมาจากการเสี้ยมของตัวเอง
แล้วทำอย่างไรฝรั่งเศสถึงจะสามารถขายเรือได้หละ? ก็ต้องดูที่อารมณ์ของเฮียปูตินก่อนอ่ะว่าออลลองด์จะทำให้ปูตินอารมณ์ดีได้ขนาดไหน?
The Eyes
01/09/2558

ภาพจาก © AP Photo/ David Vincent, File

----------
France's Compensation for Mistral Deal Fail Worth $1.1Bln Already in Moscow
French Parliament Commission to Address Mistral Case on September 16
Paris Obliged to Negotiate Mistral Resale With Moscow

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=nf
จะซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรขนาดนั้น! เกิดเหตุระเบิดขนาดใหญ่ที่โรงงานเคมีแห่งหนึ่งในจังหวัดซานตง ประเทศจีน



------------
เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นที่โรงงานเคมีแห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมใน Lijin, People's Lijin, Dongying City, จังหวัดซานตง (Shandong) เวลา 23.25 วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น อ้างรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ People's Daily ของจีน
การระเบิดครั้งนี้มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งสามารถมองเห็นและได้ยินเสียงจากระยะไกลมากๆ มีโรงงานเคมีแห่งหนึ่งซึ่งเชื่อว่าอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุด้วย ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการสูญเสีย
โรงงานที่เกิดไฟไหม้ (ระเบิด) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่าน (ที่ซานตงนี่แหละ) ผลิต สารเคมี adiponitrile ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดเหลวไม่มีสีและเป็นพิษ จะปล่อยก๊าซพิษเมื่อทำปฏิริยากับไฟ รายงานท้องถิ่นกล่าว
ครั้งแรกที่เทียนจิน ต่อมาก็ที่ซานตง คราวนี้ก็ซ้ำรอยที่ซานตงอีก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ดูคลิปได้จากลิ้งค์สุดท้าย
ส่วนอีกข่าวหนึ่งบอกว่าเกิดเหตุระเบิดที่โรงงานผลิตดอกไม้ไฟแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามบิน Zaragoza ประเทศสเปน มีผู้เสียชีวิต 3 รายบาดเจ็บอีก 4 ราย
The Eyes
01/09/2558

ภาพจาก ARCHIVE PHOTO © Stringer / Reuters

----------
Enormous new factory blast rocks Chinese industrial region - reports — RT News
Explosion at chemical plant in China's Shandong province (PHOTOS, VIDEO) — RT News
https://twitter.com/PDChina/status/638411877270323200
Three Dead, Four Injured After Blast at Zaragoza Fireworks Factory in Spain
https://www.youtube.com/watch?v=gWZPDTRxkLQ

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
สื่อฯจีนตอกกลับสหรัฐฯกรณีปล่อยข่าวผ่านสื่อฯขู่ว่าจะแซงชั่นจีนเรื่องการเจาะข้อมูลในโลกไซเบอร์ มันส์!



------------
ในที่สุดจีนก็ขยับตอบโต้ทันควัน ไม่ยอมให้จักรวรรดิเฮเกโมนีออกมาเห่าหอนให้หนวกหูน่ารำคาญแก่ชาวโลก วันนี้ (1 ก.ย.58) สำนักข่าว Global Times ของจีนลงบความสั้นๆเรื่อง "กรุงวอชิงตันเล่นเกมตกเป็นเหยื่อของการแฮ็กข้อมูลในช่วงเวลาที่สำคัญ" (Washington plays hacking victim game at sensitive time) (ข่าวเก่าเกี่ยวกับกรณีนี้สามารถอ่านย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/fisont/posts/1716493888570744)
สื่อฯจีนขึ้นย่อหน้าแรกเลยว่า... หนังสือพิมพ์ The Washington Post (ของสหรัฐฯ) ได้รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ทำเนียบขาวกำลังเตรียมออกมาตรการแซงชั่นทางเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึงหลายชุด ต่อต้านบริษัทและบุคคลชาวจีนที่ได้รับผลประโยชน์จากการขโมยความลับทางการค้าจากรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยกล่าวอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่นิรนาม (เสกขึ้นมาเอง เพี้ยง!) ซึ่งในรายงานกล่าวว่า "คาดว่าจะมีการตัดสินใจในเร็วๆนี้ บางทีอาจจะภายใน 2 สัปดาห์" (เป็นเรื่องจนได้ เรื่องอะไรที่จีนจะปล่อยให้จอมพันธพาลโลกออกมาเที่ยวกล่าวหาและข่มขู่ประเทศต่างๆได้ตามอำเภอใจไปวันๆ ต้องมีอาการออกมาเตะปากสุนัขบ้างหละงานนี้)
หมัดที่1: ขณะนี้ กำลังอยู่ในช่วงที่ประะธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะเดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันเป็นครั้งแรก การแซงชั่นบริษัทธุรกิจของจีนเพียงเพราะข้อกล่าวหาที่ไม่มีการตรวจสอบ (unverified accusations) เป็นการกระทำที่จงใจและขาดความรับผิดชอบที่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีเปรี้ยวบูด (จีนเตือนพวกที่ขาดความรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองเหมือนเด็กที่ขาดวุฒิภาวะว่างั้นเถอะ)
หมัดที่2: กรุงวอชิงตันได้เจตนาที่จะเต้าข่าวที่สร้างปัญหายุ่งยากต่างๆขึ้นมาในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี เช่น การใช้เรื่องการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ด้วยการส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย และพยายามที่จะทำให้ประชาคมนานาชาติจับตามาที่ประเด็นนี้ นั่นหมายถึงการทับถมความกดดันมาที่จีน เพื่อขับเคลื่อนการต่อรองอย่างหนักกับกรุงปักกิ่งในการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.สีกับปธน.โอบามา ในทางกลับกันลุงแซม (Uncle Sam) ก็อาจจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ในขณะที่กำลังบีบบังคับให้จีนประนีประนอมบางอย่าง (นั่นแหละคือความเจ้าเล่ห์เพทุบายของจักรวรรดิเฮเกหละ คิดว่าจีนจะไม่รู้ทันเกมนี้หละสิ แต่พวกนี้ก็ยังหน้าด้านงัดมุกนี้ออกมาเล่นอยู่อีกนะ)
หมัดที่3: การปฏบัติแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงโหมดความความคิดแบบเฮเกโนนิก (hegemonic ลัทธิอยากเป็นเจ้าโลกแต่เพียงผู้เดียว) ที่สอดคล้องกันของกรุงวอชิงตัน (เอ… เท่าที่สังเกตจากสื่อฯต่างประเทศหลายแห่งพักหลังนี้จะนิยมเรียกสหรัฐฯว่าเป็น hegemony มากขึ้นเรื่อยๆนะ) - พฤติกกรรมเที่ยวตำหนิผู้อื่นอย่างหยาบโลนทีเล่นทีจริง (wantonly blaming others) ในขณะเดียวกันก็สงวนอภิสิทธิ์ของตัวเองเอาไว้ เนื่องจาก (จักรวรรดิเฮเก) เป็นผู้กำหนดกฎในโลกไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการเครือข่าวเฝ้าระวังสอดแนมไปทั่วโลก กรุงวอชิงตันก็มีความเชี่ยวชาญในการเล่นเกมตกเป็นเหยื่อในช่วงเวลาที่หัวเรี่ยวหัวต่อ เกมนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกรุงวอชิงตันแม้แต่น้อย แต่สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กรุงวอชิงตันได้อย่างมหาศาล อย่างน้อยที่สุด ก็ปรากฏออกมาว่าจีนเป็นฝ่ายที่สูญเสียมติมหาชนทั่วโลก (ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก) (พฤติกรรมตัวเองทำชั่วแล้วรีบร้องแรกแหกกระเชอ เอะอะโวยวายโยนอี้ให้คนอื่น บอกว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำมักจะเจอบ่อยๆในกลุ่มโปรอเมริกา เขาคงเรียนมาจากสำนักเดียวกัน)
หมัดที่4: จีนเคยเป็นประเทศที่สุภาพมากๆ (too polite) ต่อกรณีข้อพิพาทต่างๆเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ท และได้ตามใจความหยิ่งจองหอง (arrogance) ของกรุงวอชิงตันมาแล้ว เนื่องจากท่าทีที่อ่อนโยน (mild) ของจีนไม่สามารถเอาชนะการตอบแทน (reciprocation) จากฝ่ายสหรัฐฯได้ กรุงปักกิ่งก็จะเลิกทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวแบบนั้นอีกต่อไป (Beijing should just quit keeping such a low profile) และจะสวนกลับไปยังกรุงวอชิงตันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน/หนามยอกเอาหนามบ่ง (tit for tat) (เยสสสส!)
สื่อฯจีนสั่งสอนจักรวรรดิเฮเก: จีนไม่กลัวการเต้าข่าวปลุกปั่นมติมหาชนของสหรัฐฯ และไม่กลัวว่าสหรัฐฯจะลงมือกับจีน ตลอดหลายปีมานี้ รัฐบาลสหรัฐฯเก่งเรื่องการสร้างมติมหาชนเพื่อสนองเป้าหมายของตนเอง การรักษาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีในทางบวกจะต้องได้รับความเพียรพยายามจากทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คาดว่าความสัมพันธ์ Sino-US จะสามารถแก้ไขปัญหาหลายๆอย่างในความท้าทายทั่วโลกที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ หากทำเนียบขาวจริงจังในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดในศตวรรษที่ 21 นี้ จักรวรรดิเฮเกควรจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ (ไม่รู้ว่าจักรวรรดิเฮเกจะสำนึกบ้างหรือเปล่านะ?)
ข้าวหลามยักษ์ Guam killer: จีนบอกว่าการที่จีนเล่นบทเป็นผู้ดีสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาตลอดนี้เหมือนยิ่งทำให้จักรวรรดิเฮเกอันธพาลโลกย่ามใจมากขึ้นและเที่ยวหาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว งั้นจีนก็จะเปลี่ยนมาเล่นบท "tit for tat" กับจักรวรรดิเฮเกบ้างหละนะ และแล้วเมื่อวันที่ 31 ส.ค.58 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียก็พาดหัวข่าวว่า "จีนเผยโฉมขีปนาวุธฉายา 'นักฆ่าเกาะกวม' ที่ร้ายกาจที่สุดออกมาเป็นครั้งแรก" (China Reveals Deadliest 'Guam Killer' Missile for First Time) รายงานข่าวบอกว่าจีนจะนำขีปนาวุธ Guam Killer นี้เข้าร่วมแสดงในงานพิธีสวนสนาม V-Day ในวันที่ 3 ก.ย.58 ในกรุงปักกิ่งที่จะถึงนี้ด้วย
ขีปนาวุธพิสัยสั้น Dong Feng (DF, East Wind) DF-15B แบบ ballistic (SRBM), และ DF-16 พิสัยกลาง (MRBM), DF-21C MRBM, และขีปนาวุธข้ามทวีป DF-5B (ติดหัวรบนิวเคลียร์) (ICBM), ขีปนาวุธ DF-31 A ICBM, DF-10 cruise missile สำหรับโจมตีภาคพื้นดิน (LACM) และ DF-26 ขีปนาวุธแบบ ballistic พิสัยปานกลาง (IRBM) ซึ่งมีชื่อว่า "Guam killer" จะถูกนำไปร่วมในขบวนพาเหรดด้วย
DF-26C พัฒนาต่อยอดมาจากขีปนาวุธ DF-21 ซึ่งมีฉายาว่า "ผู้ให้บริการนักฆ่า" (carrier killer) DF-26C มีพิสัยทำการอยู่ที่ 3,500 - 4,000 กม. ซึ่งสามารถที่จะส่งไป (ทางอากาศ) ให้กับกองทัพของสหรัฐฯบนเกาะกวมได้สบายๆ ซึ่งเป็นฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ใต้สุดของหมู่เกาะ Mariana Islands ภายในรัศมีของขีปนาวุธจีน (ดูเหมือนว่าจักรวรรดิเฮเกคงอยากจะลองชิมข้าวหลามรสชาติใหม่ของเฮียสีซะกระบอกหละมั๊ง?)
The Eyes
01/09/2558

ภาพจาก © Photo: weibo.com/Ambrosial

----------
Washington plays hacking victim game at sensitive time - Global Times
China Reveals Deadliest 'Guam Killer' Missile for First Time
China previews new ballistic missiles in practices for 3 September parade - IHS Jane's 360
https://www.youtube.com/watch?v=xdOC9XRuN20