ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    อ่านเรื่องนางฟ้าของป๋ามิงค์แล้วมันใช่เลย เคยคิดสมัยก่อนเหมือนกันว่าถ้าตายไปไม่ขอเกิดเป็นนางฟ้า แต่ขอเกิดเป็นเทวดาดีกว่า จะได้มีฮาเร็มส่วนตัว มีสาวสวยๆคอยพัดวี ป้อนข้าว ป้อนน้ำ 555

    กามราคะไม่เคยปราณีใคร แม้ภูมิเทวดาก็ยังติดสุข พรหมก็ติดว่าง ติดสงบ งั้นขอเกิดเป็นเป็นคนต่อไปแหล่ะ ดีที่สุดเนาะ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตรงนี้เด่วช่วยเล่าให้ฟังนะ
    ที่โล่งๆ เบาๆ นะเป็นแค่ผลที่เกิดเฉยๆ เรื่องปกติ
    แต่หลักการมันก็คือว่า ต่ำแหน่งตาที่สาม มันเป็นจุดเชื่อม
    ที่ค่อนข้างปลอดภัยอย่างหนึ่ง โดยมากการเคลียร์พลังงาน
    ส่วนเกินจึงมักจะให้ผ่านออกต่ำแหน่งนี้เช่นกันเพราะปลอดภัยดี
    เพราะว่ามีการบังคับการเชื่อม
    กระแสกับครูบาร์อาจารย์ข้างบนไปในตัว ให้ไป
    ลองสังเกตุดีๆ(สังเกตุดีๆ)เพิ่มเติมนะ ตอนที่วางวัตถุไว้ตรงต่ำแหน่งตาที่ ๓
    มันจะมีกระแสอีกเส้นหนึ่งขึ้นตรงกระโหลกส่วนหน้าหรือตรงตีน
    ผมหรือตรงที่เลยหน้าฝากไปแบบอัตโนมันติขึ้นไปตรงๆ
    แบบมีความหนาแน่นในตัวถ้าเราไม่สังเกตุตรงนี้จะจับ
    กิริยาตรงนี้ไม่ได้.. และจะมีวงพลังงานของ
    ตาที่ ๓ มันจะขยายหมุนวนขวาได้ถึงคอเราในแนวขนานกับตัวเรา
    ถ้าละเอียดกว่านี้หน่อยจะพบว่าที่ท้องก็มีกระแสบางอย่างหมุนอยู่ในท้องได้

    และวิธีการพวกนี้จะให้ออกข้างบนก็ได้ แต่ว่ามันมีทั้งข้อดีข้อเสีย หากเรา
    ไม่รัดคุมในเรื่องของการดึงพลังงานภายนอกมาใช้ร่วมกับกำลังจิต
    ของเราที่สร้างจากภายใน และเรื่องการถ่ายเทพลังงานออกไป
    มันจะมีผลเสียมากกว่าผลดี
    เป็นเหตุที่มาของการของทางหน้าฝากนั่นแล..:boo:.
    ประมาณนี้...พอเข้าใจเนาะ
     
  3. Ithanka

    Ithanka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +82
    ขอบคุณคร้าฟฟฟ ที่ให้ความกระจ่างครับพี่นพ สงสัย นอกจาก คาโปชิโน่ซักโหล แล้ว ต้องขอให้ พี่นพ เชื่อม ทดสอบการเชื่อมเส้น เอ็นให้หน่อย น่าจะ หลุดไป หลายเส้น -_-' :cool:
     
  4. Snow_Princess

    Snow_Princess เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +219
    ขอสงสัยนอกเรื่องนะคะ มีคนเคยบอกว่าถ้าเห็นวิญญาณนี่คือเขามาขอส่วนบุญ หรือมีเคราะห์ ความต่างมันอยู่ตรงไหนคะ จะรู้ได้ไงว่าเขามาขอส่วนบุญ หรือมีเคราะห์ (ส่วนตัวไม่เคยเห็นกับเขาเลย มีแต่แบบแวบๆ ซึ่งไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นวิญญาณหรือคนหรือสิ่งของวิ่งผ่าน เพราะมันแค่หางตา)
    อีกประเด็นหนึ่ง อันนี้ยังข้องใจไม่หายต่อเนื่องจากคราวที่แล้วถามพี่นพไปเรื่องเพื่อนมองเห็นเป็นคนอื่น พี่นพก็อธิบายแล้วว่าเขาแค่เป็นห่วง แต่เรื่องที่บ้านกับที่ทำงานมันยังไม่หายสงสัย เพราะเพื่อนก็ยังได้ยินเสียงเราที่ทำงาน ทั้งๆที่ไม่ได้ไป และเพื่อนอีกคนก็ได้ยินเหมือนเราอยู่บ้านทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ เลยอยากรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมต้องตัวเองค่ะ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    กำลังสติทางธรรมครับที่จะทำให้เราเข้าใจนามธรรมได้
    ปกติทั่วไปเราจะไปเน้นในเรื่องการอยากรู้ว่าสิ่ง
    ที่เห็นคืออะไร ซึ่งเป็นตัวขวางที่ยิ่งใหญ่สำหรับการพัฒนา
    ทางด้านจิตญานและความเข้าใจทางด้านนามธรรมของเรา
    ตลอดจนวัถตุประสงค์ของการที่เราเห็นได้ครับซึ่งเป็นประเด็นหลัก
    อย่างคาดไม่ถึงครับ. จำเอาไว้เลยครับ ถ้าเราอยากจะเข้าใจได้
    ด้วยตัวเราเองในอนาคต ถ้ากิริยาทางด้านนามธรรมต่างๆที่เกิด
    ไม่ว่าจะทางตา หู กาย จิต ตลอด ความฝันต่างๆ ถ้าเราไม่เข้าใจ
    ได้เลย ณ เวลานั้น. ให้นึกเสียว่า มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยในจักรวาลนี้
    และให้ลืมมันไปเลยครับ แล้วมาฝึกเจริญสติเพิ่มขึ้นครับ
    แล้วถ้ากำลังสติเรามากพอ. วันหนึ่งมันจะเกิดเครื่องรู้ขึ้นเองได้
    ทุกๆเรื่อง. ทุกๆสัมผัส ได้เองอัตโนมัติ. ส่วนตัวเรียกเป็น ปิ๊งแว๊บ อย่างหนึ่งคับ
    ไอ้ปิ๊งแว๊บแค่เสี้ยววินาที. บางทีกว่าเราจะพูดที่มันรู้ได้ขึ้นมาพูดได้เป็นสิบ
    นาทีเลยนะครับกว่าจะหมดเรื่องที่เรารู้
    ปล.อย่าสงสัย อย่าอยากรู้ อย่าพยายามค้นหาคำตอบ ถ้ามีใครบอก
    แล้วเรายังไม่วาง มันจะขวางการพัฒนาทางจิตญานเราได้อย่างคาดไม่ถึงครับ
     
  6. Snow_Princess

    Snow_Princess เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +219
    ขอบคุณพี่นพอีกครั้งค่ะ งั้นก็ไม่ต้องสนใจมันแล้ว ส่วนตัวชอบวิตกไปก่อนทางด้านไม่ดีไว้ก่อน เป็นนิสัยเสียอย่างหนึ่ง ส่วนการเจริญสติก็เป็นไปอย่างคืบคลาน เดี๋ยวจะค่อยๆตามพี่ๆเพื่อนๆไปนะคะ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อืม เรื่องเสียงครับ
    นึกออกพอดี เคยเขียนไว้เมื่อ ๓ ถึง ๔ ก่อนลองอ่านดูได้...

    ๑.เสียงที่ได้ยินทางหูด้านซ้ายในระยะใกล้..แต่เสียงไม่ชัด
    เป็นพยางแต่ขาดช่วง ไม่ค่อยมีแรง.เป็นระดับสัมพะเวสี
    ๒.เสียงที่ได้ยินทางหูด้านขวา
    ๒.๑ ในระยะประชิดหูเป็นระดับภูมิ.โอปาติกะ เทวดา..ซึ่งมีเยอะ เช่น กุมารทอง รุกขเทวดา..เจ้าที่ ผีบรรพบุรุษ ฯลฯ
    ๒.๒ ในระยะห่างจากหูประมาณ ๑ เมตร ในระดับเดียวกับหู เป็นภูมิเทวดา
    แต่ว่าเราเคยรู้จักมาก่อนตั้งแต่สมัยยังมีชีวิต ได้ยินเหมือนตอนที่เจ้าของเสียงมีชีวิต.หรือเหมือนเสียงพูดทั่วๆไป
    ๒.๓ ในระยะที่สูงประมาณ ๒ ถึง ๓ เมตร จากหูไม่ว่าจะเฉียงไปทางด้านขวาหน้าหรือเฉียงไปทางด้านขวาหลัง..
    เป็นเสียงอาจารย์ทางภพภูมิ.ที่คอยตาม หรือ คอยสอนเรา..เสียงจะดังฟังชัด.ได้ยินเป็นประโยคแต่แยกเป็นพยางค์ได้
    ๓.เสียงที่ได้ยินมาจาก ต่ำแหน่งใจกลางกระโหลกศรีษะ.
    ในตำแหน่งจุดศูนย์กลางกระโหลก แยกเป็น
    ๓.๑ ระดับเทวดา หรือเทพ.ที่มีฤิทธิ์ เสียงดังมีอำนาจฟังชัดแยกเป็นพยางค์ได้
    ๓.๒ เสียงระดับพรหม เสียงเล็กๆ ฟังดูสุภาพ อ่อนโยน นิ่มๆ.ไม่ดัง แยกเป็นพยางค์ได้
    ๓.๓ เสียงสูงกว่าระดับพรหม. เสียงไพเราะ นุ่มๆ นิ่มๆ ไม่ดัง.พูดเป็นประโยคทีเดียวจบ แต่เราฟังจะได้ยินเป็นแค่พยางค์เดียว..

    ๔.เสียงที่ได้ยินจากศูนย์กลางกะโหลก.แต่เยื้องมาทางด้านขวานิดหน่อย.
    ไม่กลางพอดีเป็นลักษณะ.กิริยาข้างเคียง.ของหูทิพย์ จะได้ยินเสียงพูดกันธรรมดา.จากสถานที่ห่างไกล เป็นเสียงที่อยู่บนโลก แต่คำนวณหาที่มาของต้นเสียงไม่ได้..


    และข้อ ๕ .เสียงดังในกระโหลก ว่าวี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    เป็นเสียงลากยาว.เหมือนคลื่นเสียง ครั้งเดียวลากยาวววววววววววววววว
    มีเอกลักษณ์ที่เด่นคือ..เส้นเสียงจะเป็นเส้นตรง
    สามารถทะลุหูได้ทั้งสองข้าง.คล้ายๆเหมือนเราเอาไม้บรรทัดมา
    ทิ่มให้ทะลุหูขวาไปทางหูซ้าย..ลักษณะเส้นเสียงจะเป็นอย่างนี้.
    .ปกติถ้าได้ยินอย่างนี้ .จะมีอาการร่วมกับ.จิตเหวี่ยง
    (เหมือนเราจับปลายเชือกแล้วหมุนเชือก)
    ถึงจะเป็นการติดต่อสื่อสาร และจะติตต่อได้.
    อาการจิตเหวี่ยงจะต้องหายและจิตต้องนิ่งก่อน

    ๖.ถ้าติดต่อได้..เสียงที่ยิน.ถ้าในกรณีที่ลืมตาเสียงจะขึ้นมาจากฐานของจิต.
    คือตรงกลางลิ้นปี่..ต่ำแหน่งนี้ยังรวมในกรณีที่ได้รับคำสอนจากอาจารย์ทางภพภูมิในกรณีที่ยังลืมตาด้วย


    ลองอ่านดูก่อนครับ..ถ้านอกเหนือจากนี้..ให้ลองไปปรึกษาแพทย์ครับ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เรื่อง ผีอำ
    คือ ตอนช่วงที่โดนผีอำ..ปฏิกิริยาร่างกายเราจะอยู่ในช่วงที่จิตเป็นทิพย์พอดี.
    หรือที่เรียกว่าอุปจารสมาธิหรือบางคนเรียกว่า ครึ่งหลับครึ่งตื่น..
    ลักษณะของอาการช่วงนี้..จิตกับร่างกายจะแยกกันชั่วคราวแต่ไม่
    ได้แยกกันอย่างเด็ดขาดเหมือนการเข้าฌาน ๔ เพราะฉนั้นแม้ว่าแยกกัน..
    แต่ว่าจิตจะยังมีการเชื่อมโยงร่างกายไว้เล็กน้อย.
    แต่ประสาทสัมผัสจะไม่สามารถถึงขั้นที่จะบังคับร่างกายให้เคลื่อนไหวตามที่คิดได้.
    ที่นี้การที่เราเห็นวิญญาน
    พอเราเห็นในอารมย์นี้.
    ซึ่งความจริงถ้าเราไม่กลัว.
    ถ้าสังเกตุร่างกายก็จะขยับไม่ได้อยู่แล้ว..และเรายังค้างอยู่ในอารมย์นี้อยู่นั้น.
    จิตเราจะสามารถสื่อหรือติดต่อกับวิญญานและจิตช่วงอารมย์นี้ก็ทำได้เป็นปกติ..
    เลยเป็นเหตุให้ขยับไม่ได้นั้นเอง..



    วิญญานส่วนมากไม่ได้มาอำ.
    ..แต่มาขอให้ช่วยอุทิศส่วนกุศลให้เพราะเค้าสามารถ
    มองเห็นและทราบได้ว่าใครพอมีบุญที่จะช่วยเหลือเค้าได้.
    จากการที่เค้ามองเห็นสีของจิตของบุคคลนั้นๆ..
    แต่ก็ต้องวัดดวงว่าคนนั้นจะอุทิศส่วนกุศลให้หรือว่าจะสวดมนต์ไล่
    ถ้าทำอย่างหลังเค้าก็เจ๊บปวด
    จึงเป็นเหตุต้องทำอะไรซักอย่าง
    เพื่อให้เราหยุดสวด..จริงๆไม่มีเจตนา หรือไม่ก็ต้องรีบหายไป
    ..ส่วนที่เรารู้สึกหนักเพราะอารมย์ช่วงที่กายเราแยกกับจิตช่วงอุปจารสมาธินั่น
    เราก็จะมีส่วนที่เป็นการละเอียดของเราแต่เรามองไม่เห็นตอนนั้น
    .ส่วนทางวิญญานก็เป็นกายละเอียด.
    จึงเปรียบได้ว่ามีน้ำหนักหรือมวลในระดับเดียวกัน
    .เวลาเค้ามาทับเราเลยรู้สึกหนักๆ
    และรู้สึกชาหลังจากอยู่ในสภาวะปกติแล้วเพราะผลต่อเนื่องในช่วงที่มวลละเอียดมีน้ำหนักเท่ากัน
    เหมือนตอนเรามีร่างกายปกติ..ถ้าผีไม่ใช่ระดับที่สูงกว่านี้
    หรือกลุ่มที่อยู่่นานๆ.แล้วมีกำลังจิตพอสมควร.กลุ่มหลังนี้ใช้คาถาจะไม่เป็นผลครับ
     
  9. Snow_Princess

    Snow_Princess เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +219
    พี่นพค่ะ หนูไม่เคยได้ยินเสียงใครเลย มีแต่หูแว่วแบบเรียกชื่อนานๆครั้ง
    คนที่ได้ยินคือเพื่อนค่ะ เขาได้ยินเสียงหนู (สงสัยเขาคงคิดถึงหนูตอนหนูไม่อยู่ใช่ไหมค่ะ อิอิ) (smile)
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ไม่รู้นะต้องไปถามเพื่อนดู ๕๕๕
     
  11. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ช่วงนั้นทางบ้านเกิดวิกฤตทางการเงิน ต้องใช้เงินด่วน คุณพ่อประกาศขายที่ แต่ก็ขายไม่ได้สักที วันหนึ่งนั่งอยู่บนบ้านตอนกลางวัน มีเสียงผู้ชาย ดังจากทางด้านซ้าย สูงจากศรีษะประมาณ ๑ เมตร บอกว่า " นุ่งขาวห่มขาว ถือศีล ๘ ไปธุดงค์ในป่า "

    เราก็นั่งคิดว่า นุ่งขาวห่มขาว ถือศีล ๘ นั้นทำได้ แต่ธุดงค์ในป่านี่สิ เครียดเลย ก็ใครจะกล้าเข้าป่าคนเดียว แถมเราเป็นผู้หญิงอีก จะทำอย่างไรดี

    โทร.ปรึกษา อ.ที่ฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม อ.บอกว่า ก็ธุดงค์ที่วัดท่าซุงไง ของปี ๕๔ ทางวัดเลื่อนมาเป็นเดือนกุมภา ๕๕ เนื่องจากน้ำท่วมวัด (ปกติจัดเดือนธันวาของทุกปี)


    ในช่วงธุดงค์ เลยไปบนหลวงพ่อขนมจีน กับหลวงพ่อสีวลี ขอให้ขายที่ได้ พอกลับจากธุดงค์ได้เพียง ๑ สัปดาห์กว่าเท่านั้น ก็มีคนมาซื้อที่แบบง่ายดาย ซื้อขายที่ราคา เจ็ดล้านเก้าแสนบาท คนซื้อเดินดูที่และรวมเวลาตกลงซื้อขายใช้เวลาไม่ถึง ๑๐ นาที อย่างกะตกลงซื้อผักซื้อปลาในตลาดเลยค่ะ

    ปล.เสียงท่านชัดเจน ทุ้มนุ่มนวลปานกลางและสุภาพค่ะ แต่ดังจากทางซ้ายไม่ใช่ขวามือ จัดเป็นประเภทใดคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2015
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ดีใจด้วยที่ขายได้ง่ายดาย กรณีที่
    คุณทอง เจออย่างนี้ ถือว่ามีน้อยมากนะครับ
    ที่จะได้ยินทางซ้ายแล้วเสียงอย่างนั้นคือเป็นภพภูมิที่อยู่มานานมากๆ
    อยู่ความสูงเดียวกับเรานี่หละครับ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ
    อยู่เพราะไปฟังแล้วไปรับปากไว้เกี่ยวกับเรื่อง
    การทำทานบางอย่างเลยติดพันธะสัญญาที่ผูกดวงจิตไว้แม้ปัจจุบันนี้ครับ
    คล้ายๆยังต้องรอใครบางคนอยู่ด้วยความกังวลนั้นหละครับ
    ส่วนเรื่องอะไรไม่ทราบ ถามป๋ามิงค์ดู
    หรือ ต้องลองถามเอาเองครับ๕๕๕

    ปล.เส้นผมบังภูเขาได้ครับ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เด่วอีกซักพัก จะนำรูปพระอาทิตย์ทรงกลด วันนี้หละครับ..
    เด่วขอรวบรวมก่อนนะครับ..วันนี้เป็นวัน
    พุทธาพิเศษ พระมหาเจดีย์ พุทธเมตตาหลวง
    มวลสารที่ทุกท่านส่งมาให้ ไม่ว่าสืบเนื่องจากหลวงปู่ดู่
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตาต่างๆ หลวงปู่ต่างๆ ครูบาร์อาจารย์ต่างๆ
    ที่มีชื่อทั้งหลาย หรือแม้กระทั้งมวลสารที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ
    ระดับประเทศที่ทุกคนเปรียบเสมือนบิดา

    ส่วนของข้าพเจ้าเป็นของสืบเนื่องจากพระอาจารย์
    ในดงที่สอนวิชาเดินธาตุ วิชาทอง รวมทั้งการเขียนยันต์กลางอากาศให้ข้าพเจ้า
    และแม้กระทั้งของหาได้ยากต่างๆ ที่ทุกท่านได้เสียสละกันส่งให้ข้าพเจ้าฯลฯ
    เพื่อใช้ต่อยอดบารมีและใช้ผสมเพื่อเป็นเครื่องสืบเนื่องพุทธศาสนานั้น
    บัดนี้ได้นำไปผสมแล้วก่อนหน้านี้และนำเข้าพิธีไปเรียบร้อยแล้วครับ...
    วันนี้ มีปาฏิหารย์อย่างหนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้านอนอยู่ได้ยิน
    เสียงเรียก จากท่าน ช้างเอราวัณ ชัดเจนขณะที่อยู่ในห้องที่บ้าน
    ...เพื่อส่งสัญญานให้ทราบ

    ถึงเวลาเริ่มพิธี..ข้าพเจ้าจึงทราบได้ทันทีว่า
    จะปรากฏพระอาทิตย์ทรงกลด...
    ส่วนใครจะเชื่ออย่างไร จะคิดอย่างไร จะกล่าวหาอย่างไร
    เกี่ยวการกระทำในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะครับ...
    สำหรับข้าพเจ้า ไม่ว่าเราจะทำดีหรือไม่ดีอะไรก็ตาม
    มีตัวเราที่รู้ตัวเราเองดี กับอีกอย่างมี ฟ้าที่รู้ มีฟ้าเป็นพยานคับ..
    เพราะอย่างไรเราก็อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันครับ.ดังนั้นความลับจึงไม่มีในโลกนี้

    ปล.ไม่ต้องห่วงนะคับ ใครที่ส่งมวลสารมาร่วม
    ถ้ามีอะไรไม่ดีติดมา ส่วนตัวเคลียร์ให้หมดแล้ว..
    ไว้มีโอกาสจะพาต่อยอดบารมีอีกอย่างในอนาคต
    คือการนำพระเครื่องวัตถุมงคลบางส่วนของท่านเพื่อนำไป
    ถวายเป็นทุนสำหรับสร้างพระพุทธรูปอีกต่อไป
    ซึ่งข้าพเจ้าที่มีตอนนี้ ประมาณ ๒๐๐ กว่าองค์ที่เตรียมไว้...
    เด่วรอสัญญานจากข้างบนก่อนแล้วจะมาบอกอีกที...
    ไม่ต้องห่วงอะไรนะครับ..พันธมิตรทางภพภูมิส่วนตัวมีเยอะครับ
    ..
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เชิญพิจารณาดูได้ครับ...
    ปล.ผิวดำลงอีกเล็กน้อย..๕๕๕...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ค่า

    ขอบพระคุณท่านพี่ ที่ช่วยให้ เราได้ร่วมทำบุญ ค่า

    โอ้โห ภาพ นี้ใหญ่โตชัดกว่าในเฟสบุ๊ค ดูขลัง มากค่ะ
     
  16. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    กราบโมทนาและกราบขอบพระคุณพี่นพด้วยเช่นกันค่ะ ที่ให้โอกาสพวกเราร่วมบุญในครั้งนี้และเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง

    แล้วงวดหน้าจะส่งมวลสารพิเศษให้พี่เอาไปเล่นแร่แปรเป็นธาตุดินที่พุงเพิ่มนะคะ หุหุ

    โมทนาทุกท่านอีกครั้งด้วยจ้า
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ส่วนการต่อยอด น่าจะอีกซักพักใหญ่ๆครับ
    ต่อยอดนะไม่ใช่แก้กรรม ๕๕๕..บุญเราทำ กรรมเราไม่สร้าง ทุกอย่างเป็น
    เพียงกิริยาและอย่าไปยึดมั่นถือมั่น.. ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพทั้งหลายท่านสอน
    ละเว้นจากการทำบาปทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม รู้จักรักษาจิตใจให้ขาวรอบ
    การไปยึดโน้นยึดนี้พวกยึดๆทั้งหลาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม อารมย์ใดก็ตาม
    รูปใดๆก็ตาม และ ไม่ว่าจะในอดีต หรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง มันเป็นตัวขวาง
    จิตใจเราทั้งนั้นครับ..เล่าให้ฟังเฉยๆครับ..ไม่ใช่ว่าตัวเองจะพ้นนะครับที่พูดเนี่ย
    เป็นไปได้สร้างต้นทุนไว้..ถึงเวลาใครจะช่วย จะทำอะไรมันก็ง่าย.
    สุดท้ายก็ต้องไม่ลืมว่าต้องปล่อยวางทั้งหมดอยู่ดี..
    และจะพาต่อยอดจากพระเครื่องเปลี่ยนเป็นสร้างพระธานองค์ใหญ่..
    น่าจะหลังจากเสร็จภาระทางสมมุติส่วนตัวช่วงนี้ไปก่อนเน้อ...
    อีกหลายเดือนอยู่....
    ปล.ช่วงนี้ก็ คุยฮาๆ ขำๆ ตามปถุชนคนช่างสงสัย
    ให้อ่านเล่น งงกันเล่นไปพลางๆก่อนคับ
     
  18. ละอองทราย

    ละอองทราย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +51
    [SIZE="5"]สวัสดีค่ะทุกๆท่าน
    ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ
    เพิ่งสมัครเป็นสมาชิก และเข้ามาศึกษาในห้องนี้ไม่นานค่ะ

    ต้องขอขอบคุณคุณนพกานต์มากนะคะ
    ที่กรุณาแนะนำให้รู้จักกระทู้นี้
    ตามอ่านมาเรื่อยๆ ยังไม่ละเอียดครบทุกหน้าค่ะ
    เพราะงานทางโลกรุมเร้ามากจริงๆ
    แต่ตั้งใจว่าจะค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจให้ครบทุกหน้าค่ะ

    ขอบคุณทุกๆท่านที่มาแชร์ประสบการณ์
    รวมทั้งท่านอีกหลายท่าน ที่เป็นผู้ชี้แนะแนวทางในกระทู้นี้
    โดยเฉพาะคุณนพกานต์
    ที่กรุณาเข้าไปตอบข้อคำถามหลายประเด็นในกระทู้แรกของชีวิตค่ะ

    @คุณนพกานต์คะ
    เมื่อคืนเกิดสภาวะนึง ช่วงตีสองหลังจากนั่งทำงานเสร็จ
    จริงๆตั้งใจจะเอนหลังแป๊บเดียว แล้วจะขึ้นไปอาบน้ำสวดมนต์
    แต่ในระหว่างเอนหลัง ก็ตามรู้ลมหายใจ
    อย่างที่คุณนพกานต์สอนให้หมั่นทำในระหว่างวัน
    เพียงแค่แป๊บเดียวขณะจิตเคลิ้มๆ
    ก็มีอาการตัวชาๆ เหมือนกับมีคลื่นกระจายไปทั่วร่าง
    ตัวขยับไม่ได้ เหมือนที่เคยเป็นบ่อยๆ
    ทุกๆครั้งที่ผ่านมา จะต่อต้านและฝืนตื่นเสมอ
    แต่ครั้งนี้ เตรียมใจตั้งรับเป็นอย่างดีแล้ว
    เพราะรู้ว่าเป็นครูบาอาจารย์มาเมตตา
    จึงไม่กลัว และมีสติตามรู้ ว่าจะเกิดอะไรต่อไป
    ปรากฎว่า ปากขยับเหมือนคนแก่พูดค่ะ
    คือเวลาคนแก่พูด ฟันจะกระทบกัน กึกๆๆๆ แบบนั้นน่ะค่ะ
    ส่วนตัวพอจะเดาๆได้ว่าเป็นครูบาอาจารย์ท่านใด
    แต่ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นักค่ะ
    หากท่านใดมีความสามารถชี้แนะยืนยันได้
    จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ
    จากนั้นก็กำหนดจิตขอไปว่า ช่วยปรากฎภาพของท่านให้ได้เห็นอีกครั้งได้มั้ย
    แต่ท่านไม่ปรากฎให้เห็นค่ะ แห่ะแห่ะ
    (ครั้งหนึ่งตอนที่มีสภาวะ แล้วมีอาการพูดแล้วฟันกระทบกันแบบนี้
    ท่านเคยมาปรากฎภาพให้เห็นค่ะ ภาพท่านปรากฎตรงข้างหน้าเลย
    อยู่เหนือศีรษะเราขึ้นไป รูปร่างท่านจะใหญ่ๆ
    ดูแล้วไม่แก่มากแต่ทำไมตอนพูดเหมือนคนแก่มากก็ไม่ทราบนะคะ
    ท่านใส่ชุดขาวเหมือนพราหมณ์ค่ะ)

    มีอาการอย่างนั้นสักพักเดียว กายก็เริ่มกลับมาปกติและลืมตาขึ้นเองโดยอัตโนมัติค่ะ
    พอลุกมาดุนาฬิกา แล้วคำนวณเวลานับตั้งแต่เอนหลัง เกิดสภาวะ และลุกตื่นขึ้นมา
    เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
    [/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2015
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040

    สวัสดีครับ ห้อง ป๋ามิงค์ ห้องนี้ และทุกคนในห้องนี้ยินดีต้อนรับครับ..
    การที่สามารถเห็นตรงหน้าได้เลยนะดีแล้ว...และต่อไปถ้าเห็นอย่างนี้ได้
    อีกก็ถือว่าดี..พูดง่ายๆว่าเห็นภายนอกกาย...
    และก็ให้เราอย่าพึ่งไปสนใจอะไรนะครับ..กิริยาต่างๆที่เกิดนั้นทุกกิริยา
    ที่เล่าให้ฟังมามันฟ้องว่า กำลังสมาธิสะสมกับกำลังสติทางธรรมยังไม่พอ
    ซึ่งถือว่าปกติครับ....
    คืออย่างนี้ พอจิตเราเริ่มทำงานได้หรือเริ่มเข้าสู่สภาวะเป็นทิพย์
    สมมุตว่าเราจะเห็นท่านได้ภายนอกนั้น หรือ ตรงหน้านั้น
    โดยหลักๆก็คือ เห็นท่านลอยเหนือพื้น..โดยปกติ
    แล้วตัวจิตบริเวณลิ้นปี่มันจะนิ่งๆอยู่ภายในร่างกาย..
    แต่มันอาจจะมีกระแสเมตตาหมุนวนขวาเริ่มจากผิวหนังเรา
    ออกไปภายนอกหรือมีกระแสอื่นๆตามท้อง
    ตามเหนือระหว่างคิ้วขยายออกนอกกระโหลกศรีษะ
    หรือกระแสใต้กระโหลกศรีษะหมุนขยายออกกว้าง
    ซึ่งที่เล่ามานี้มันสามารถ
    หมุนร่วมพร้อมกันได้ขึ้นอยู่กับเราจะสังเกตุได้หรือเปล่า..
    เพราะปกติแล้ว เมื่อเราเห็นได้ เราจะไปให้ความสำคัญกับการ
    รักษาระยะเวลาในการเห็นจนอาจจะลืมสังเกตุกิริยาที่เกิดกับ
    ร่างกายลักษณะนี้ครับ..
    หรือแม้กระทั่งกะแสพลังงานตามแนวกระดูกสันหลังที่จะวิ่งขึ้นตรงๆ
    ที่นี้ ของ คุณ ning พอจิตเริ่มเข้าสู่สภาวะเป็นทิพย์นั้น เนื่องจาก
    ตัวจิตมันยังมีกำลังสมาธิไม่พอ มันก็เลยจะเริ่มส่งผลให้รู้สึกถึงผลกระทบ
    ที่จะเกิดจากร่างกายภายนอกก่อน..ที่นี้เมื่อสภาวะความเป็นทิพย์มันยัง
    ค้างอยู่อีกมันก็จะเริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกาย เพราะกำลังสติทางธรรม
    ที่ยังไม่พอที่จะควบคุมตัวจิตไม่ให้เหวี่ยงไปเกาะกับกระแสที่เข้ามาเชื่อมจิต
    (คือกระแสภายนอกนั่นหละ) พอกำลังสติไม่พอ จิตมันเลยเหวี่ยงๆ
    แม้ว่ามันจะมีความเป็นทิพย์ (คือมันจะคล้ายๆมีท่อปะปาแล้วมีคนหมุน
    ท่อปะปาให้หมุนอยู่อย่างนั้น จิตเรามันอยู่ข้างใน ไอ้ท่อปะปาที่หมุนๆ
    นี่หละที่ทำให้จิตเรามันเหวี่ยง)พอนึกภาพออกเนาะ ซึ่งตรงนี้มันจะเป็นไปเอง
    โดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ได้ถูกควบคุมจากระบบประสาทเหมือนๆทั่วๆไป..
    เพราะสภาวะความเป็นทิยพ์ที่เห็นได้นี้ มันจะเลยการควบคุมระบบประสาท
    ที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวตามแต่ใจเราไปแล้ว...เลยเกิดกิริยาที่ฟันกระทบ
    กันเองในลำดับต่อมานั้นเอง...
    และที่บอกว่าให้เฉยๆก็คือ ให้หายใจลึกอย่างที่แนะนำไปก่อนและทำความรู้สึก
    รับรู้ไปอีกซักพักหนึ่ง ก่อนนั่งถ้าเดินจงกลมได้ก่อนจะได้กำลังสมาธิสะสมเพิ่มขึ้น
    อย่าพึ่งรีบร้อนหวังผลนะ ช่วงนี้คือปรับพื้น เรียกว่า ช้าแต่ชัวและปลอดภัยในอนาคต
    ปลอดภัยก็คือเราจะทันกระแสคลื่นอื่นๆภายนอก หรือ ดวงจิตอื่นๆภายนอกที่ส่งกระแส
    มาแหย่เรานั้นเอง คือเราจะมีกำลังสติแยกได้และกำลังสมาธิมากพอที่จะต้านทาน

    และโดยปกตินะ การปรับระบบหายใจและทำความรู้สึกรับรู้อย่างที่บอก
    ต้องประมาณ ๒ สัปดาห์ถึง ๒ เดือนถึงจะชัว
    ถึงจะไม่มีกิริยาแม้ว่าทางกายที่ตัวชาๆและฟันกระทบเกิดขึ้นอีก..
    ระบบหายใจอย่างที่บอก เทียบผลได้กับคนที่หายใจลึกถึงหน้าอก
    ต้องใช้เวลาถึง ๒ ปีถึงจะมีกำลังสติและกำลังสมาธิสะสมอย่างที่แนะนำไป

    ปล.โดยสรุปไม่มีอะไร อยู่ในระหว่างทาง แค่ทำต่อไปอีกซักพัก
    เด่วจะเกิดผลซึ่งจะสามารถสังเกตุกิริยาได้เอง กิริยาต่างๆที่เกิด
    ถ้าไม่สนใจอะไรเลยแล้วฝึกปรับลมหายใจ นั่งสมาธิไปและทำความรู้สึกรับรู้ไปเรื่อยๆ
    เด่วมันจะมีเครื่องย้อนรู้ให้เราเข้าใจได้เองอัตโนมัติอย่างที่ได้เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้
    ทั้งหมดของมันเอง..
     
  20. ละอองทราย

    ละอองทราย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอบคุณมากๆๆ นะคะคุณนพ _/\_
    จะนำคำแนะนำไปปฏิบัติต่อไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...