ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    อัพเดทสถานการณ์ระเบิดที่เทียนจิน: จีนเด็ดขาด รวดเร็ว ทันใจ สั่งปิดบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจอมปล่อยข่าวลือ
    -----------
    ไปติดตามสถานการณ์ระเบิดที่คลังสินค้าในเทียนจินประเทศจีนต่อบ้างนะครับ รายงานล่าสุดจากสื่อฯจีนบอกว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 85 ราย พบร่างเจ้าหน้าที่ดับเพลิง (เสียชีวิตแล้ว) ที่เข้าไปช่วยดับไฟในตอนแรกซึ่งได้รับการยืนยันว่าสูญหายก่อนหน้านี้ อีกหนึ่งราย
    รายงานข่าวจากสำนักข่าว People's Daily Online กรุงปักกิ่งบอกว่าสำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน (Cyberspace Administration of China - CAC) สั่งปิดบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียกว่า 360 บัญชี เนื่องจากเผยแพร่ข่าวลือ (spreading rumors) หลังจากเกิดเหตุระเบิดครั้งรุนแรงในเทียนจินสัปดาห์นี้ ตามประกาศของ CAC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
    รายงานข่าวบอกว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิด บางบัญชีผู้ใช้งานในเว็บบล็อกเกอร์ขนาดเล็กอย่าง Sina Weibo และ WeChat ที่ให้บริการแอ็พลิเคชั่นการส่งข้อความสนทนากัน ได้โพสต์ข่าวลือข่าวลวงเช่นว่า "แก๊สพิษพัดกระจายไปทั่วกรุงปักกิ่ง" (toxic gas blown to Beijing), "มีการปล้นห้างสรรพสินค้าและตลาด" (malls and markets looted), "ไม่มีใครรอดชีวิตภายในรัศมี 1 กิโลเมตรจากสถานที่เกิดเหตุระเบิด" (no one survived within one kilometers of the blast site) (บ้าชัดๆ โพสต์สนุก โพสต์เอามัน บ้างก็หวังให้สังคมแตกตื่น คนแบบนี้มีอยู่ไม่น้อยในสังคมต่างๆ)
    CAC กล่าวว่านอกจากนี้แล้วบางแอ็คเคาท์ยังได้เปิดบัญชีปลอมอ้างตัวว่าเป็นญาติของเหยื่อ โดยพยายามที่จะโกงเงินผ่านการระดดทุนการกุศลหลวงลวง
    CAC รายงานว่า บาง big Vs หรือเพจยอมนิยม (star bloggers) บางแห่งได้โพสต์คอมเมนท์ที่ "ขาดความรับผิดชอบ" (irresponsible) เกี่ยวกับการระเบิด บล็อกเกอร์ยอดนิยมบางคนได้ทำให้แฟนคลับผู้ติดตามของตนเกิดความกังวลใจ โดยการเปรียบเทียบเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้กับระเบิดที่ลงเมืองฮิโรชิมากับนางาซากิในญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่2
    หน่วยงาน CAC ของจีนได้สั่งให้บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย shut down บัญชีผู้ใช้งานที่เป็นผู้ปล่อยข่าวลือมากว่า 160 บัญชีโดยถาวร และระงับ (ชั่วคราว?) มากกว่า 200 บัญชี
    ต้องอย่างนี้ ไม่งั้นสังคมปั่นป่วนแน่ ไหนจะตลาดหุ้น ไหนจะจลาจล โจรกรรม และความวุ่นวายต่างๆที่จะตามมีอีก หากไม่มีการยับยั้งผู้ปล่อยข่าวลือข่าวลวงแบบนี้อย่างจริงจัง ไม่ต้องรอให้มีใครไปฟ้องร้องหรือร้องเรียนก่อนถึงยอมลุกจากเก้าอี้ไปเอาผิด เจ้าหน้ารัฐก็สามารถดำเนินการได้ทันที จะมาอ้างเรื่องเสรีภาพในการเสนอข่าว (ลือ) บ้าๆบอๆ ที่ไม่มีหลักฐานใดๆพิสูจน์ได้ แล้วก็ไม่รับผิดชอบถึงผลที่ตามมา โดยหวังเพียงทำเรตติ้งให้กับตัวเองไม่ได้เด็ดขาด
    ตอนนี้จีนกำลังส่งเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุเคมีลงตรวจสอบพื้นที่ เนื่องจากคาดว่าหนึ่งในสาเหตุของการระเบิดนั้นมากจากวัตถุเคมีที่เป็นอันตรายซึ่งบริษัทโลจิสติกเจ้าของคลังสินค้าให้บริการรับส่งเก็บไว้ในคลังสินค้าของตน (โดยหละหลวมจากการขนส่งที่ต้นทาง? รายงานเบื้องต้นบอกว่าจุดที่เกิดไฟไหม้ครั้งแรกนั้นเกิดที่ตู้คอนเทนเนอร์ก่อน จากนั้นถึงมีการระเบิดครั้งใหญ่)
    The Eyes
    15/08/2558
    ----------
    Social media accounts closed for Tianjin blast rumormongering - People's Daily Online
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    เกิดเหตุไฟไหม้ที่เทียนจินอีกครั้ง
    -------------
    รายงานข่าวล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว (14.40 น. วันนี้) บอกว่า เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่คลังสินค้าในเทียนจินอีก ผู้สื่อฯข่าวของซินหัวในสถานที่รายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้ง มีกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า คลังสินค้าเป็นของบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้เก็บวัตถุเคมีที่เป็นอันตราย
    ก็แสดงว่า มันเกิดจากวัตถุเคมีจริงๆ ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่ในสถานที่ราว 800 กว่านาย มีตู้เคนเทนเนอร์อยู่ในที่นั้นเยอะมาก
    The Eyes
    15/08/2558
    --------------

    รายงานข่าวเพิ่มเติมว่าหลังเกิดการระเบิดรอบใหม่ ทางการจีนได้มีการอพยพผู้คนที่ได้ตั้งที่พักชั่วคราวก่อนหน้านี้ออกจากพื้นที่ (ใกล้เคียง) เกรงว่าจะได้รับมลพิษจากสารเคมีในอากาศ (ไม่ได้บอกไว้ว่าอพยพออกห่างจากที่เกิดเหตุกี่กิโลเมตร) สื่อฯจีนรายงานว่า โซเดียม ไซยาไนด์ (Sodium cyanide) ที่อยู่ในคลังสินค้าอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดในครั้งนี้

    ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโซเดียมไซยาไนด์...สารชนิดนี้สัมผัสกับกรดเช่น คาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้เกิดกรดไฮโดรไซยานิกเช่นกัน ซึ่งกรดที่ได้จัดเป็นสารไวไฟเมื่อสัมผัสกับอากาศอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ หากเกิดเพลิงไหม้โดยมีสารโซเดียมไซยาไนด์เป็นส่วนประกอบ โปรดจำไว้ว่าให้ใช้ผงเบส หรือโฟม ในการดับเพลิงเท่านั้น ห้ามใช้น้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ในการดับเพลิง เนื่องจากโซเดียมไซยาไนด์เมื่อโดนความชื้นและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะให้ก๊าซไฮโดรเจนไซยาไนด์ และนอกจากนี้พบว่าโซเดียมไซยาไนด์มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดีหากใช้น้ำในการดับเพลิงเมื่อน้ำไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ, ดิน หรือ ซึมลงสู่น้ำแหล่งน้ำจะก่อให้เกิดความปนเปื้อนสารไซยาไนด์ในแหล่งน้ำและก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม....

    Displaying items by tag: โซเดียมไซยาไนด์

    https://www.facebook.com/XinhuaNewsAgency
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การจับกุมมากขึ้นเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากธนาคารชาติตะวันตกขนาดใหญ่ขณะนี้ขโมยเงินผู้ฝากเงิน ' เขียนโดย benjamin 12 สิงหาคท 2015( More arrests needed as Western megabanks are now stealing depositors’ money
    Posted by benjaminAugust 12, 2015 )


    เจพี มอร์แกน และธนาคารชาติตะวันตกขนาดใหญ่ได้เริ่มขโมยเงินผู้ฝากเงินสอดคล้องกับการที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียและเศรษฐีชาวอเมริกันซึ่งได้กล่าวว่าเงินทุนของตัวเองถูกขโมย ( JP Morgan and other Western mega-banks have already begun stealing depositors’ money, according to sources at the Asian Development Bank and an American millionaire who reported his own funds were stolen. )


    แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการพัฒนาได้บอกว่า ผู้ที่มีเงินฝาก $ 4,000,000 กับ JP Morgan ซึ่งติดต่อกับเขาได้บอกว่าธนาคารได้ปฏิเสธที่จะให้เขาถอนเงินของเขา และได้มีข้อเสนอทดแทนกับเขาคือ "คำค้ำประกันจากธนาคาร 365 วัน. bank guarantee " ในอีกนัยหนึ่ง ธนาคารจะไม่คืนเงินของเขาให้เขา แต่เสนอจะบอกให้ธนาคารอื่นทราบว่าเขามีเงิน หลายๆ ธนาคารชาติตะวันตกขนาดใหญ่ ในขณะนี้พยายามรักษาตัวเองจากการตกอยู่ในสถานะล้มละลาย โดยการเสนอ "การค้ำประกัน" แหล่งข่าวกล่าว ( The development bank source said a man who had $4 million on deposit with JP Morgan contacted him to say the bank had refused to allow him to withdraw his money. Instead the man was offered a “365 day bank guarantee.” In other words, the bank would not give him his money but offered to tell other banks that he had money. Many of the largest Western banks are now keeping themselves from going bankrupt by offering “guarantees” to each other, the source said.)


    เศรษฐีชาวอเมริกันที่อยู่ในรัฐวอชิงตัน กล่าวว่าเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ของเขาได้ถูกขโมยโดยสิ้นเชิง (The American millionaire, based in Washington State, said more than $100 million of his money had also been stolen outright.)

    นักการเงินชาวญี่ปุ่นได้ผู้เขียนบทความนี้ว่าธนาคารซิตี้แบงก์ได้ขโมยมากกว่า $ 10 ล้านเงินของเขาที่เขาฝากไว้ที่สาขาของพวกเขาในกรุงโตเกียว คนคุ้นเคยเพศหญิงชาวญี่ปุ่นได้บอกว่า เธอได้ถูกขโมยเงิน $ 50,000 จากบัญชีของเธอที่สาขาของธนาคารที่ชาวอเมริกันเป็นเจ้าของในกรุงโตเกียว
    A Japanese financier also told this writer that Citibank had stolen more than $10 million of his money he deposited at their branch in Tokyo. A Japanese female acquaintance said she had too had $50,000 stolen from her account at the branch of an American owned bank in Tokyo. The banks were not available for comment at the time of this writing but it is clear from this anecdotal and also from public evidence (like derivatives holdings and market manipulation) that most Western mega-banks are no longer functioning properly.

    The US military and agencies are on the case and criminal investigations are ongoing, according to Pentagon sources.


    แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากเพนตากอนกล่าวว่าเพนตากอนไม่สามารถที่จะล้มละลาย บริษัท " สหรัฐอเมริกา " และฟื้นฟู สาธารณรัฐแห่งสหรัฐอเมริกา เพราะการโต้ตอบจากประเทศจีน จีนได้กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการธนาคารแห่งชาติกรุงวอชิงตัน ดีซี เป็น บริษัท ย่อมประกาศล้มละลายทั้งหมด ของพวกเขามากกว่า $ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจะกลายเป็นไร้ค่า ถ้าเป็นกรณีที่จีนจะหยุดการสนับสนุนการค้าในระดับสากลด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ และทำให้หยุดการอุดหนุนทุกกิจกรรมทางทหารของสหรัฐที่อยู่นอกทวีปยุโรปสหรัฐอเมริกา
    However, the Pentagon sources say the Pentagon has been unable to bankrupt the UNITED STATES OF AMERICA Corporation and restore the Republic of the United States of America because of objections from the Chinese. The Chinese are saying that if the Federal Reserve Board Washington DC subsidiary declared bankruptcy, all of their over $3 trillion in hard earned US dollars would become worthless. If that was the case the Chinese would stop supporting the internationally traded US dollar and thus stop subsidizing all US military activities outside of the continental United States.

    What all this means is that some sort of transition will have to be, and is being, aranged.

    In the meantime, pressure from the military rank and files, especially from the Colonels, means that the leadership of US Joint Chiefs of Staff will

    Weekly geo-political news and analysis

    https://youtu.be/rUmJSBNtx7A
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    สหรัฐฯปิดเทอร์มินอล4 สนามบินนานาชาติออนทาริโอรัฐแคลิฟอร์เนีย อพยพผู้คนออกทั้งหมด วันเดียวกับที่เกิดเหตุระเบิดในจีน นั่นไง!

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อวันที่ 12 ส.ค.58 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่เกิดเหตุระเบิดใหญ่ที่เทียนจินประเทศจีน รายงานข่าวจากสำนักข่าว Sputnik news และ ABC6, ABC7 บอกว่า ทางการสหรัฐฯได้สั่งให้มีการอพยพผู้คนออกจากอาคารรองรับผู้โดยสารที่4 (Terminal 4) ที่สนามบินนานาชาติออนทาริโอ (Ontario International Airport) เมืองลอสแองเจอลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นการชั่วคราว
    มันเกิดอะไรขึ้น? รายงานข่าวจาก ABC6 บอกว่าตำรวจออนทาริโอกล่าวว่าได้ตรวจพบวัตถุระเบิดชนิดขว้าง (grenade) ในระหว่างขั้นตอนการสกรีน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำออกไปจากพื้นที่สนามบินเพื่อทำลาย ตำรวจสนามบินได้อพยพผู้คนออกจาก Terminal 4 ก่อนเวลา 6.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ต่อมาทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ให้ผู้โดยสารกลับเข้าไปภายในอาคารได้ในเวลา 6.30 น.และการทำงานของสนามบินก็กลับเข้าสู่ภาวะปรกติ ยังไม่มีการเปิดเผยถึงผู้โดยสารที่เกี่ยวข้องกับลูกระเบิดในครั้งนี้ในทันที (รายงานข่าวจาก ABC6 ณ เวลา 11:17AM)
    ต่อมาในเวลา 01:03PM (บ่ายโมง) วันเดียวกันนี้ สำนักข่าว ABC7 ก็มีรายงานว่าพาดหัวอีกฉบับว่า "Ontario International Airport terminal temporarily evacuated after fake grenade found in carry-on bag" แปลว่า "อาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติออนทาริโออพยพผู้โดยสารชั่วคราว หลังพบลูกระเบิดขว้างปลอม (fake grenade) ในกระเป๋าสะพาย" แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยว่าผู้โดยสารที่พกพาระเบิดปลอมไปในครั้งนี้เป็นใคร
    น่าสนใจ... ไหนขอไปเช็กข่าวจาก cnn กับ bbc ดูซิว่าจะลงข่าวนี้ให้บ้างหรือไม่? No, sir! รอยเตอร์สก็ไม่มี ฮ่าๆๆ อ้อ… พึ่งนึกขึ้นได้ครับ แคลิฟอร์เนียก็เป็นหนึ่งใน 7 รัฐที่กองทัพสหรัฐฯประกาศใช้เป็นสถานที่ซ้อมรบภายในประเทศภายใต้ปฏิบัติการ Jade Helm 15 ด้วยนะ เพราะมีกระแสข่าวระแคะระคายลอยมาตามสื่อฯต่างๆทั้งโซเชียลมีเดียด้วยว่า รัฐพวกนี้ถูกหมายหัวเอาไว้เนื่องจากมีความคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนหรือแยกการปกครองเป็นอิสระจากรัฐบาลกลางประมาณนี้แหละ โดยเฉพาะรัฐเท็กซัสนี่ค่อนข้างชัดเจน เพราะต้องการเอาทองคำของตัวเองออกมาจากรัฐบาลกลางแล้วเอามาเก็บไว้ที่รัฐของตนเองด้วย ส่วนยูท่าก็ไม่แพ้เท็กซัสเช่นกัน ดังนั้นทั้งสองรัฐนี้จึงถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ของศัตรู ในการซ้อมรบในครั้งนี้ ส่วนแคลิฟอร์เนียนั้นมีบางพื้นที่เท่านั้นที่ถูกกำหนดให้เป็นศัตรู
    แล้วมันเกี่ยวกับข่าวนี้ยังไงรึ? นั่นสิ... ใครตอบได้บ้าง พอจีนบอกว่าสาเหตุของการเกิดระเบิดใหญ่ที่เทียนจินน่าจะมาจากสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์ บางคนก็บอกว่าไม่เชื่อ ต้องเป็นก่อการร้ายหรืออะไรซักอย่างแน่ๆ แล้วที่ทางการสหรัฐฯบอกว่าสิ่งที่พบนั้นคือระเบิดปลอม จะเชื่อหรือไม่หละ? นั่นนะสิ? ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    15/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ bryce

    ----------
    Terminal of California’s Ontario International Airport Evacuated / Sputnik International
    http://6abc.com/news/calif-airport-briefly-evacuated-due-to-grenade-in-carry-on/924077/
    Ontario International Airport terminal temporarily evacuated after fake grenade found in carry-on bag | abc7.com
    ​Jade Helm 15: What you need to know about 7-state Pentagon super-drill — RT USA
    https://en.wikipedia.org/wiki/Jade_Helm_15_conspiracy_theories
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2015
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    สื่อฯเยอรมันแฉ... ชาติสมาชิกนาโต้เอี่ยวค้าน้ำมันเถื่อนกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส

    [​IMG]

    ------------
    ความจริงค่อยๆ ปรากฎขึ้นมาทีละนิด ก่อนหน้านี้สื่อฯรัสเซียก็พูด แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อ วันนี้สื่อฯเยอรมันซึ่งเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกนาโต้ด้วยกันออกมาแฉซะเลย เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "NATO Members Involved in ISIL’s Oil-Smuggling Activities - German Media" โดยอ้างรายงานข่าวจากสำนักข่าว DWN ของเยอรมันนีซึ่งรายงานในเบื้องต้นว่า "เครือข่ายผู้ก่อการร้ายได้รับการสนับสนุนด้านการเงินผ่านการขายน้ำมันเถื่อน (illegal oil sales) และทำกำไรได้ประมาณวันละ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ก็ประมาณ 105 ร้อยล้านบาท/วัน หรือ 3,150 พันล้านบาท/เดือน หรือ 37,800 ล้านบาท/ปี) สมาชิกนาโต้หลายประเทศซึ่งรวมทั้งตุรกี สหรัฐฯ อังกฤษ อะลุ่มอล่วย (รู้เห็นเป็นใจ/tolerate) ในกิจกรรมลักลอบค้าน้ำมัน (oil smuggling activities) ของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ด้วย" (ว้าววว! เอาแล้วไงตะวันตกแฉกันเองแล้ว เพจนี้ก็เคยบอกแต่แรกแล้วว่ามันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ล้วนๆ ผู้ก่อการร้ายหุ่นเชิดที่ยกขึ้นมานั้นเป็นแค่หมากตาหนึ่งเท่านั้น จุดประสงค์หลักก็คือน้ำมันดิบราคาถูกตะหากเล่า)
    รายงานข่าวจาก DWN บอกว่า "พันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯและอังกฤษแอบให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสอย่างลับๆ รัฐบาลท้องถิ่นของชาวเคิร์ด (Kurdistan Regional Government) ทางตอนเหนือของอิรัค และหน่วยข่าวกรองในกองทัพตุรกี ได้สนับสนุนกิจกรรมลักลอบค้าน้ำมันของพวกไอซิส และสนับสนุนด้านอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย"
    การลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนเป็นแหล่งเงินทุนหลักของขบวนการผู้ก่อการร้ายไอซิส กลุ่มผู้ก่อการร้ายควบคุมการผลิตน้ำมันในซีเรียถึง 60% และแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในอิรัคอีก 7 แห่ง (ฮ่าๆๆ เป็นไงครับ เดาดูซิว่าไอซิสเอาน้ำมันไปขายให้ใคร ใครรับซื้อสัปทานน้ำมันจากพวกไอซิส ใครเข้าไปก่อสงครามในตะวันออกกลางอ้างว่าเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้ายไอซิส ใครที่ต้องการจะโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของซีเรีย แล้วฮุบกิจการน้ำมันของซีเรียแทน? เมื่อวันก่อนก.ต่างประเทศของรัสเซียออกมากล่าวว่าถ้ารัฐบาลของอาซาดในซีเรียถูกโค่นล้ม ซีเรียก็จะตกเป็นของไอซิสทั้งหมด เดาดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น จักรวรรดิเฮเกก็จะบอกว่ากบฎสายกลางเข้าควบคุมและบริหารซีเรียได้แล้วนะสิ จากนั้นก็มาแบ่งเค้กกัน ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ปลุกผีไอซิสขึ้นมาก่อเหตุเรื่อยๆ หรือให้ก่อเหตุเป็นพักๆ เพื่อที่จะหาข้ออ้างให้คงกองกำลังของตนเองในย่านนั้นไว้ และหาทางผลาญงบประมาณการทำสงครามและค้าอาวุธสงครามต่อไปได้เรื่อยๆ นะสิครับ)
    รายงานข่าวบอกว่า พวกไอซิส (หุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเก) ได้มีวางแผนที่จะเพิ่มยอดการผลิตเป็น 45,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเครือข่ายเจ้าหน้าที่คอรัปชั่นในรัฐบาลชาวเคิร์ดและตุรกี ด้วยความช่วยเหลือจากเคิร์ดและตุรกี องค์กร์ผู้ก่อการร้ายสามารถทำกำไรได้ราย 3 ล้านเหรียญต่อวัน (ตรงนี้เริ่มแปลกๆหละ ตรงไหนรึครับแอ็ดมิน? ตรงที่ว่าเคิร์ดมีเอ่ียวด้วยนี่ เดี๋ยวจะหาข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกลุ่มชาติพันธ์ชาวเคิร์ดกับกองทัพเยอรมันมาเพิ่มเติมให้ในตอนท้ายนะครับ จะได้อ่านเกมออกว่าเขากำลังเล่นเกมอะไรกันอยู่)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งตุรกีและรัฐบาลเคิร์ด ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนกับพวกไอซิส (อื่ม! แล้วใครเกี่ยวข้องหละครับ? แล้วแหล่งขุดเจาะน้ำมัน และโรงกลั่นน้ำมันที่พวกไอซิสยึดได้นั้นหละ เขาเอาไปขายให้ใคร? เคิร์ดกับตุรกีอาจจะบอกว่าทำไปถึงไม่ไปถามจักรวรรดิเฮเกกับอียู และอิสราเอลหละ? ฮ่าๆๆ หรืออาจจะตีความไปว่า ที่เคิร์ดกับตุรกีออกมาปฏิเสธนั้นก็ถูกต้องแล่้วนี่ เพราะเขาก็พูดชัดแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อน แต่เขาอาจจะมองว่าน้ำมันที่ซื้อขายกับพวกไอซิสนั้นไม่ใช่น้ำมันเถื่อนในสายตาของพวกเขา มันไม่ใช่ของเถื่อน เพราะไอซิสยึดมาแล้วก็เป็นของไอซิส เขาก็เพียงแต่ซื้อมาจากไอซิสเท่านั้นเอง จะบอกว่าเถื่อนได้อย่างไร แม้ว่าคนอื่นจะบอกว่าเถื่อนก็ตาม ฮ่าๆๆ) รัฐบาลทั้งสองแห่งได้กล่าวว่าได้มีมีมาตรการตอบโต้เพื่อหยุดขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเหล่านี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษ (ตุรกีจะกล้าหือกับสหรัฐฯและอังกฤษหรือ? ก็ต้องพูดอย่างนั้นเพื่อรักษาหน้าพี่ใหญ่ มิฉะนั้นไอซิสอาจจะบุกเข้าไปถล่มอิสตันบูลมากกว่านี้หากไม่ยอมเป็นเด็กดีของจักรวรรดิเฮเก)
    นักข่าว Nafeez Ahmed รายงานกับ สำนักข่าว MiddleEastEye กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการทุจริตอย่างกว้างขวางในวงการการเมือง ในทางปฏิบัติแล้วได้นำความพยายามเหล่านี้ไปสู่ความล้มเหลว
    ผู้สื่อข่าว Nafeez Ahmed อ้างถึงแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่จากตุรกี เคิร์ด และอิรัค (ว่า) แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผย (มามุกนี้อีกหละ) จากพรรครัฐบาลของอิรัค (พรรค Islamic Dawa) ยืนยันกับผู้สื่อฯข่าวว่า "สมาชิกของรัฐบาลท้องถิ่นของชาวเคิร์ดมีส่วนรู้เห็นกับการขายน้ำมันของพวกไอซิสในตลาดมืด"
    ตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ (อิรัค) บอกว่าตุรกีก็มีส่วนรู้เห็น (เอี่ยว) กับการค้าขายน้ำมันของพวกไอซิสในตลาดมืดเช่นกัน โดยมีสหรัฐฯจับตาดูกิจกรรมเหล่านี้อยู่อย่างเงียบๆ (ครั้นจะบอกว่าสหรัฐฯก็มีเอี่ยวด้วย ก็ไม่กล้า เดี๋ยวหายนะจะเกิดขึ้นกับอิรัคอีกหลายละลอก แต่เลี่ยงที่จะใช้คำว่าจับตาดู ดูมานานเท่าไรแล้วครับท่าน? ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไรนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อิรัคแง้มให้แล้วนะ และก็ไม่ได้กล่าวหาจักรวรรดิเฮเกด้วย แค่บอกว่าจักรวรรดิเฮเกก็รู้ แต่จะยังไงนั้นอันนี้ไม่ขอพูดให้ไปหาข้อมูลกันเอาเองถ้าอยากรู้มากกว่านี้ คริๆ เขาก็เล่นกันแบบนี้แหละครับ)
    เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "อเมริการู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ Erdogan และ Obama มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน Erdogan (ปธน.ตุรกี) ได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการโดยพื้นฐาน และสหรัฐฯก็เห็นด้วยกับสิ่งนั้น" (เขาหมายถึงเรื่องน้ำมัน?)
    สำนักข่าว DWN รายงานต่ออีกว่า แม้กระทั้่งอังกฤษเองก็ยังมีรายงานข่าวมีความร่วมมือกันในธุรกิจของชาวอิสลามิสต์ บริษัทน้ำมัน Genel Energy ของ Anglo-Turkish (อังกฤษกับตุรกี) มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มนักการเมืองในรัฐสภาของอังกฤษ ซึ่งตามรายงานข่าวบอกว่าได้รับออร์เดอร์ให้จัดหาโรงกลั่นให้กับกลุ่มบริษัทด้านพลังงาน Group Nokan ของชาวเคิร์ด ซึ่งต้องสงสัยว่าให้การสนับสนุนการขายน้ำมันเถื่อนของพวกไอซิสให้ตุรกี
    + วิเคราะห์จุดประสงค์หลักหรือเจตนาแฝงจากข่าวนี้ของสื่อฯเยอรมัน หรือคนที่ต้องการใช้สื่อฯเยอรมันเป็นเครื่องมือ
    --------------
    อย่างที่เกริ่นไว้ในช่วงกลางของข่าวว่า "มันแปลกๆ" แปลกยังไงหนะหรือ? เมื่อวันก่อนอ่านเจอข่าวหนึ่งเกี่ยวกับไอซิส ซึ่งในตอนหนึ่งของข่าวได้พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเยอรมันนีกับเคิร์ดด้วย (แต่ไม่ได้เล่าให้ฟัง) พอมาเจอข่าวนี้อีก จึงลองค้นดูข่าวย้อนหลังบ้างก็โป๊ะเชะ!.... วันที่ 11 ธันวาคม 2557 สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษพาดหัวข่าวว่า "Germany plans to send troops to Iraq to train Kurdish fighters" แปลว่า "เยอรมันนีมีแผนจะส่งกองทัพไปอิรัคเพื่อฝึกอาวุธให้กับนักรบชาวเคิร์ด" (อัยย๊ะ!) รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า "การดำเนินการในครั้งนี้ก็เพื่อให้ความช่วยเหลือในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส ซึ่งอาจจะเป็นการละเมิดนโยบายด้านทหารที่รัฐบาลเยอรมันได้ปฏิบัติตามมาตั้งแต่ปี 1945" (กฎมีไว้แหก เมื่อเขียนได้ก็ลบ แล้วเขียนใหม่ก็ได้ ใช่ไหมครับป้าแมร์ฯ ขนาดหน่วยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของเยอรมันยังไปตั้งจรวดแพทริออตอยู่ในชายแดนตุรกีใกล้กับซีเรียเลย ณ ปัจจุบันนี้)
    วันที่ 17 ธันวาคม 2557 สำนักข่าว The Wall Street Journal ของสหรัฐฯพาดหัวข่าวว่า "Germany Plans to Send Troops to Train Kurdish Fighters" แปลว่า "เยอรมันนีวางแผนจะส่งกองทัพเพื่อช่วยฝึกอาวุธให้กับนักรบชาวเคิร์ด" ก็ลงข่าวเดียวกันกับของสื่อฯอังกฤษก่อนหน้านี้
    วันที่ 25 กันยายน 2557 สำนักข่าว DW ของเยอรมันพาดหัวข่าวว่า "German weapons delivery heads to Iraqi Kurdistan" (เยอรมันนีจัดส่งอาวุธไปให้ชาวเคิร์ดในอิรัค) แล้วก็มีภาพเครื่องบินลำแรกของเยอรมันที่ขนอาวุธไปให้กองกำลัง Peshmerga ชาวเคิร์ดในอิรัคเดินทางออกจากเยอรมัน รายงานข่าวบอกว่าอาวุธที่ขนไปเหล่านี้เพื่อใช้ในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธผู้ก่อการร้ายไอซิส
    วันที่ 17 ธันวาคม 2557 DW รายงานอีกว่า "German cabinet agrees to send troops to train Iraqi Kurds" แปลว่า "คณะรัฐมนตรีของเยอรมัน ตกลงในการส่งกองทัพไปฝึก (การใช้อาวุธ) ให้กับกองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัค" รายงานข่าวบอกว่า กองทัพ Bundeswehr ของเยอรมันได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 100 นายไปทางตอนเหนือขงออิรัค ทหารเหล่านี้จะไม่เข้าร่วมในการต่อสู้ แต่จะฝึกกองกำลังชาวเคิร์ดให้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส
    วันที่ 12 มีนาคม 2558 DW พาดหัวข่าวว่า "German army training Peshmerga fighters to fight 'IS'" (กองทัพเยอรมันกำลังฝึกให้กับนักรบ Peshmerga (เคิร์ด) เพื่อต่อสู้กับไอซิส)
    และเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2558 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียก็พูดในช่วงกลางของข่าวหนึ่งว่า "…เยอรมันนีซึ่งได้ให้การสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ดด้วยอาวุธและการฝึกซ้อมการใช้อาวุธตั้งแต่เดือนกันยายน (ปีที่แล้ว) คาดว่ากลุ่มอเมริกกันที่มีฐานอยู่ในกรุงแบกแดดและผู้เชี่ยวชาญชาวอิรัค จะเข้าตรวจสอบการโจมตี (ด้วยอาวุธเคมี) ที่เชื่อว่าพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสเป็นผู้กระทำ" (ข่าวนี้พูดเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีในซีเรียและอิรัคจโดยฝ่ายไอซิส ซึ่งก่อนหน้านั้นสื่อฯตะวันตกพากันออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลของอัสซาดเป็นผู้กระทำ แต่ทางอัสซาดปฏิเสธ และต่อมารายงานข่าวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบอกว่า ทางการของเคิร์ดในอิรัคกล่าวว่ามีหลักฐานที่สนับสนุนโดยผลของการวิเคราะห์ที่จัดขึ้นในห้องทดลองอิสระในยุโรปว่า พวกไอซิสใช้แก๊สคลอรีน (chlorine gas) เป็นอาวุธเคมีในการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายทางตอนเหนือในอิรัคเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อ้าว… กลายเป็นว่าฝ่ายที่ใช้อาวุธเคมีกลับเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายซะงั้น การกล่าวหาซีเรียว่าใช้อาวุธเคมีก็เลยไม่ค่อยมีน้ำหนัก ก็ชาวเคิร์ดมีหลักฐานอ่ะ เมื่อไอซิสใช้อาวุธเคมีกับนักรบชาวเคิร์ดในอิรัคได้ จะแปลกอะไรหากจะนำไปใช้ในซีเรียบ้าง?)
    กลับมาที่เรื่องน้ำมันเถื่อนกันต่อนะครับ... ก็เมื่อเยอรัมนอยู่ฝั่งเคิร์ด โดยสรุปจากการให้การสนับสนุนด้านอาวุธและการฝึกซ้อมการใช้อาวุธให้กับนักรบชาวเคิร์ด แน่นอนว่างานนี้ไม่ฟรีอยู่แล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้เปิดเผยค่าใช้จ่ายเท่านั้นเอง แต่ทำไมสื่อฯบางสำนักของเยอรมันถึงพยายามลงข่าวที่เป็นลบกับชาวเคิร์ดหละ? มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า? เริ่มขัดผลประโยชน์กันเจรจาผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรือเปล่า? หรือว่านักข่าวต้องการจะหาเรืื่องถล่มชาวเคิร์ด ในขณะเดียวกันก็ดิสเครดิตตุรกีไปด้วย เคิร์ดต่อสู้กับไอซิสและตุรกี เมื่อ1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเครื่องบินรบของสหรัฐฯก็เปิดฉากโจมตีทางอากาศตามชายแดนของซีเรียกับอิรัค อ้างว่าเพื่อถล่มไอซิส ส่วนเครื่องบินรบของตุรกีก็แยกไปโจมตีทางอากาศใส่ชาวเคิร์ดทั้งในตุรกีและในอิรัค สหรัฐฯก็เฉยๆ ถ้าสหรัฐฯต้องการจะใช้สนามบินของตุรกีเพื่อเป็นข้ออ้างในการถล่มไอซิส แต่เป้าจริงคือซีเรีย ก็ใช้ไป แต่อย่าโวยวายถ้าตุรกีจะถล่มเคิร์ดบ้าง ฮ่าๆๆ มันก็เป็นอย่างนี้แล
    รายงานลอยมาตามลมบอกว่า พวกนักรบชาวเคิร์ดแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีสาวๆเข้าไปร่วมฝึกในกองทัพเป็นนักรบหญิงเป็นจำนวนมาก ต่อสู้กับไอซิส ปิดกั้นเส้นทางลำเลียงอาวุธ สะเบียง น้ำมัน และอื่นๆของพวกไอซิสทางตอนเหนือของอิรัคระหว่างอิรัค-ซีเรีย-ตุรกี ทำให้ไอซิสหุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเกไม่สามารถบุกเข้าไปในซีเรียได้ ดังนั้นจึงต้องใช้เครื่องบินรบในการเปิดทางให้ลูกน้อง แล้วเยอรมันเกี่ยวอะไรกับชาวเคิร์ดหละ? ก็ในเยอรมันนีก็มีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และที่สำคัญ พื้นที่ในการควบคุมของชาวเคิร์ดก็มีบ่อน้ำมันและท่อแก๊สรวมอยู่ด้วย ใครได้เคิร์ดก็เหมือนได้ทองคำก้อนโต สหรัฐฯยึดอิรัค แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่เขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดในอิรัคได้ จะแปลกอะไรที่เยอรมันจะเดินเกมอย่างสหรัฐฯบ้าง ยังไงซะก็เอาอาวุธไปแลกกับน้ำมันราคาถูกได้สบาย พอมาถึงตรงนี้ก็พอที่จะเข้าใจได้บ้างว่าหนึ่งในเหตุผลที่กองทัพเยอรมันเข้าไปติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานในตุรกีก็อาจจะเกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวกับชาวเคิร์ดด้วยก็ได้
    The Eyes
    16/08/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ Tauseef MUSTAFA

    ----------
    NATO Members Involved in ISIL’s Oil-Smuggling Activities - German Media / Sputnik International
    ISIL Used Chemical Weapons Against Kurds in Iraq / Sputnik International
    Germany plans to send troops to Iraq to train Kurdish fighters - Telegraph
    Germany Plans to Send Troops to Train Kurdish Fighters - WSJ
    Bundestag approves mission to train peshmerga fighters in Iraq | News | DW.COM | 29.01.2015
    German weapons delivery heads to Iraqi Kurdistan | News | DW.COM | 25.09.2014
    German cabinet agrees to send troops to train Iraqi Kurds | Germany | DW.COM | 17.12.2014
    German army training Peshmerga fighters to fight ′IS′ | Germany | DW.COM | 12.03.2015
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    เอิ่ม…มันเกิดอะไรขึ้นที่อเมริกาครับพี่น้อง? สารเคมีรั่วไหลในเมือง Vigo County city, Terre Haute ทางตะวันตรัฐอินเดียนา

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้มีรายงานข่าวด่วนจากสำนักข่าว RT news และ Sputnik news ของรัสเซีย โดย RT พาดหัวข่าวว่า "‘We can smell & taste acid’: Chemical spill reported in west Indiana" (พวกเราสามารถได้กลิ่นและมีรสเป็นกรด: รายงานข่าวบอกว่ามีสารเคมีรั่วไหลในอินเดียน่าตะวันตก) ส่วน Sputnik พาดหัวข่าวว่า "Chemical Spill in Small West Indiana's Town" (สารเคมีรั่วไหลในเมืองเล็กๆทางตะวันตกของอินเดียน่า)
    รายงานข่าวบอกว่า ผู้อยู่อาศัยหลายคนในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐอินเดียน่าของสหรัฐฯได้อพยพ (ออกจากพื้นที่) เนื่องจากการรั่วไหลของสารเคมี (chemical spill) รายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่น
    อุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานเคมีในเมือง Terre Haute, Vigo County รัฐอินเดียน่า ซึ่งมีประชากรราว 60,000 คน รายงานข่าวบอกว่า พยานซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยในพื้นที่บอกว่า รู้สึกว่าเหมือนมีสารเคมีกำลังเผาปอดและลำคอของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาต้องใช้เสื้อผ้าของตัวเองทำหน้ากาก (ปิดจมูก)
    ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการสูญเสีย แต่มีการนำผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลท้องถิ่น สื่อฯท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันการรั่วไหลของสารเคมีที่เกิดขึ้น รายงานเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า มีการรั่วไหลของกรดซัลฟูริก (sulfuric acid) ในพื้นที่ ในขณะที่พนักงานดับเพลิงให้สำภาษณ์กับ สำนักข่าวช่อง News 10 ท้องถิ่นว่า อันที่จริงแล้วสารเคมีนั้นเป็นกรดซัลเฟอร์ไดอ็อกไซด์ (sulfur dioxide) ทางการของเมืองได้ประกาศให้ประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และไม่ให้ออกจากบ้านของพวกเขา หากชาวบ้านอยู่ใกล้กับสถานที่รั่วไหล (ของสารเคมี)
    เมื่อวานซืนนี้ก็พึ่งมีรายงานข่าวไปหยกๆว่า …เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเคมีที่เมือง Conroe เท็กซัส วันนี้เอาอีกรัฐแล้วหรือสหรัฐฯ?
    The Eyes
    16/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Barbara Ann Spengler

    ----------
    Chemical Spill in Small West Indiana's Town / Sputnik International
    ‘We can smell & taste acid’: Chemical spill confirmed in western Indiana — RT USA
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การคาดการณ์แบบจำลองซอฟแวร์ ที่เกี่ยวกับ ดาวเคราะห์ 7X ผลงานของคุณ Gill P. Broussard นักวิจัยอิสระ อันนี้พอมีเหตุผลน่าเชื่อบ้าง แต่ คลื่นจักรวาล ที่จะมาถึงปลายเดือนกันยายนนี้ ผมยังงง ครับ มาได้ไง ผมรู้แต่ว่า จากแผนภาพ วันที่ 28 กันยายน 2015 จะเกิดพระจันทร์สีเลือดครั้งสุดท้าย ซึ่งผลึดที่ 5 ตามพระคัมภีร์จะเปิดออกมา แค่นั้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพจาก https://www.dropbox.com/sh/kjmatulk33t38u9/AADHpFSQx6e0tPWBuNczsoJEa/P-7X Charts?dl=0
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพแบบนี้ คนถ่ายรู้ดีที่สุดว่าเกี่ยวกับเลนส์หรือเปล่าครับ เพราะเขาเป็นผู้มองเห็นด้วยตาเปล่า แล้วจึงใช้กล้องถ่าย แต่ถ้าของจริง ก็รอไม่นาน...

    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    มองดาวเคราะห์ X / การมาของ Nibiru ! อยู่เหนือ ซีแอตเทิล, วอชิงตัน.!
    fyi ~~~>>> this pic of Nibiru was shared with me.....
    Look Planet X / Nibiru Cometh! Live Over Seattle, Wash.! (Aug.12th,2015! OMG.

    https://www.youtube.com/watch?v=rppFzvNSiBs&feature=share
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    อุ๊แม่เจ้า!... จีนอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชนให้กับสหรัฐฯ ฮู่ๆๆ

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้สำนักข่าวซินหัวของจีนพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "China, U.S. hold 19th human rights dialogue" (จีน สหรัฐฯจัดประชุมเจรจาเรื่องสิทธิมนุษยชนร่วมกันครั้งที่ 19) น่าสนใจที่จีนกล้าพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนกับสหรัฐฯ ทั้งๆที่ถูกตราหน้าว่าเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ เรื่องสิทธิมนุษยชนไม่ต้องพูดถึง (แต่สหรัฐฯก็ไม่รังเกียจที่จะค้าขายทำมาหากินกับจีนนะ ฮ่าๆๆ) มาซิว่างานนี้จีนจะรับมือกับจักรวรรดิเฮเกอันธพาลโลกตัวจริงอย่างไรบ้าง
    รายงานข่าวบอกว่า จีนกับสหรัฐฯได้จัดการประชุมเสวนาเรื่องสิทธิมนุษยชนในการประชุม "19th Human Rights Dialogue" ร่วมกันขึ้นในกรุงวอชิงตัน (ลุยไปถึงถิ่นเขาเลยหรือนี่ นายแน่มาก) เพื่อถกสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในทั้งสองประเทศ และแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกัน ในลักษณะที่ตรงไปตรงมาและอย่างมืออาชีพ (in a candid and professional manner) คณะผู้แทนจากจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ว้าว! ไม่ต้องอ้อมค้อม เยิ่นเย้อ ตีสำนวนโวหาร ให้มากเรื่อง มาซัดปากกันตรงๆ เลยดีกว่า อ้าวปรกติมีแต่สหรัฐฯกับลูกกระเป๋งทั้งหลายเที่ยวชี้นิ้วเรื่องสิทธิมนุษยชนกับประเทศนั้นประเทศนี้ไม่ใช่รึ? สหรัฐฯน่าจะเป็นต้นแบบการละเมิด Oopz… การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนสิ แล้วจีนพูดมาอย่างนี้ ก็แสดงว่า มันมีบางอย่างที่ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกับที่สหรัฐฯนำเสนอ เกิดขึ้นอยู่ในแผ่นดินของสหรัฐฯอยู่นะสิ จีนถึงได้มั่นใจและใช้คำว่า "เพื่อถกสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในทั้งสองประเทศ" น่าสนใจใช่ไหมครับ?)
    ทั้งสองฝ่าย (จีนกับสหรัฐฯ) ได้แลกเปลี่ยนมุมมองในเชิงลึกในลักษณะที่ตรงไปตรงมาและเป็นมืออาชีพ ในการพัฒนาด้านใหม่ๆเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในทั้งสองประเทศ มุมมองทางด้านกฎหมายและแนวความคิดเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความร่วมมือหลายแง่มุม (multifaceted cooperation) ในบรรยากาศสิทธิมนุษยชน สิทธิและพันธกรณีของเสรีภาพในการพูด เสรีภาพทางด้านศาสนา การต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ การต่อต้านการก่อการร้าย และการต่อสู้กับขบวนการคลั่งไคล้ความรุนแรง และเรื่องอื่นๆ
    [คณะผู้แทนของ] ทั้งสองประเทศได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า การเสวนาได้ช่วยเสริมสร้างความเข้าในร่วมกันในประเด็นสิทธิมนุษยชนของแต่ละฝ่าย (ทำไมงานนี้อเมริกาเข้าใจจีนง่ายจัง? เหมือนกับ "ครับเฮีย ครับ สหรัฐฯจะทำตามที่เฮียสีแนะนำทุกอย่างเลยครับ" ฮ่าๆๆ นั่นคือต่อหน้า พอหันหลังให้เท่านั้นแหละ...)
    หมัดแรก: ทีเด็ดมันอยู่จากนี้ต่อไปนะครับ... คณะผู้แทนจากจีนกล่าวว่า "จีนและสหรัฐนควรจะใช้มุมมองที่ครอบคลุมและมีเป้าหมาย (/เป็นรูปธรรม) ด้านสิทธิมนุษยชนของแต่ละประเทศ และยอมรับความแตกต่างของพวกเขาในวิถีทางที่สร้างสรรค์ ผ่านการเจรจาและความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมการพัฒนารูปแบบใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจทั้งสองประเทศ" (นั่นไง จีนออกหมัดแล้วไง นึกถึงคำพูดลุงตู่ขึ้นมาทันทีเลย พูดว่าไงนะ "ตัดเสื้อ กลัดกระดุม..." อะไรนี่แหละ ฮ่าๆๆ ความหมายของจีนก็คือคุณต้องยอมรับในความแตกต่างที่มีอยู่บนโลกนี้ ไม่ใช่เที่ยวไปบังคับให้คนอื่นเขาเป็นอย่างคุณ คิดอย่างคุณ ทำอย่างคุณ คุณจะตัดเสื้อไซด์เดียวไปให้ทุกคนใส่ทั้งโลกได้อย่างไร? แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าประชาธิปไตยแล้ว อันนี้แอ็ดมินพูดแทนคณะผู้แทนจีนนะครับ ฮ่าๆๆ)
    หมัดสอง: ระหว่างการสนทนากันนั้น ฝ่ายจีนก็ได้ชี้ไปที่ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น การเหยียดผิว (racial discrimination), การใช้กำลัง (ความรุนแรง) ที่มากเกินไปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (excessive use of force by police), (จักรวรรดิเฮเกบอกว่า นึกแล้วว่าจีนต้องมามุกนี้ เซ็งดิ เจอจีนพูดแทงใจดำเข้าให้) และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ผ่านกิจกรรมการเฝ้าระวังขนาดใหญ่ (โอ้อันนี้ใหม่ นึกว่าจีนจะไม่รู้หละสิว่าอเมริกาเที่ยวสอดแนมถ้ำมองชาวบ้านเขาไปทั่วโลก เป็นข่าวอื้อฉาวมานักต่อนัก โดนแฮ็กเกอร์โปรรัสเซียแฉมาก็เยอะ ผู้นำเยอรมันและญี่ปุ่นมหามิตรของอเมริกาแท้ๆ ก็ยังไม่เว้น เจอหมัดนี้เข้าให้ จักรวรรดิเฮเกถึงกับเซไล่จับดาวลูกไก่กันเลยหละ คริๆ)
    การเจรจากันมีเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสจากหน่วยงานรัฐบาลจำนวนมากเข้าร่วมหลายสิบคน ซึ่งรวมทั้งหน่วยงานการบังคับใช้กฎหมายด้วย (ว้า… เสียดายอ่ะ สื่อฯจีนลงให้อ่านน้อยจัง ก็เลยอดอ่านตอนที่เขาแลกหมัดกันไปมาหนะ แต่สื่อฯจีนก็เอาแต่เนื้อๆ มาฝาก มีน้ำพอขลุกขลิกนิดหน่อย กำลังดี ส่วนแอ็ดมินก็เติมเครื่องปรุงให้ แซบถูกใจแฟนเพจนิ คริๆ)
    งานนี้นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯและท่านทูต Cui Tiankai เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ก็ได้เข้าร่วมในที่ประชุมด้วย และได้ร่วมในพิธีเปิดการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาด้วย
    จบข่าว... อ้อ ก่อนหน้านี้จีนได้ออกสมุดปกขาวว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ และทั่วโลกโดยฝีมือของสหรัฐฯด้วยนะ เคยลงข่าวให้อ่านกันแล้ว นั่นก็มันส์หยดติ๋งๆๆ เลยหละครับ
    The Eyes
    16/08/2558

    ภาพจาก news.xinhuanet

    ----------
    China, U.S. hold 19th human rights dialogue - Xinhua | English.news.cn
    China, US hold 19th human rights dialogue - Global Times
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    นีโอนาซีลูกน้องสหรัฐฯจัดออกค่ายภาคฤดูร้อนให้กับเด็กนักเรียน-และเยาวชนชาวยูเครน ดูกิจกรรมที่เขาสอนเด็กสมัยนี้ในยูเครน กรรม! มาโมเดลกันเลยกับที่พวกไอซิสสอนเด็กใช้อาวุธในตะวันออกกลาง คงไม่ต้องบอกนะว่าลูกพี่ใหญ่เป็นใครถึงได้เป็นแบบที่เห็นนี้
    ภาพจาก © vk.com/tabir.azovec
    --------------
    Neo-Nazi summer camp: Ukrainian kids taught to shoot AKs by Azov battalion members (PHOTOS) — RT News
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    อีกแล้วเหรอ?... เครื่องบินโดยสารอินโดนีเซียพร้อมลูกเรือและผู้โดยสาร 54 คนหายสาบสูญทางตอนเหนือของจังหวัดปาปัว

    [​IMG]

    ------------
    รายงานข่าวด่วนล่าสุดจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งบอกว่า เครื่องบินโดยสารของบริษัท Trigana Air Service เที่ยวบินที่ TGN267 ขาดการติดต่อการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาสระหว่างเดินทางออกจากสนามบิน Sentani Airport ไปยังสนามบิน Oksibil ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนิวกีเนีย (New Guinea) ทั้งสองแห่ง องค์กรค้นหาและกู้ภัย (Search and Rescue (SAR) Agency) รายงานผ่านทวีตเตอร์
    มีประชาชนจำนวน 54 คน (ผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ 44 คน เด็ก 5 คน และลูกเรือพร้อมกับกัปตันอีก 6 คน) อยู่ในเที่ยวบินนี้ ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศขาดการติดต่อกับเครื่องบินเวลา 2.55 p.m. (บ่าย 2 โมง 55 นาที) ตามเวลาท้องถิ่น (7:55 GMT) ตามรายงานของ SAR ขณะนี้กำลังมีการค้นหาเครื่องบิน ลำดังกล่าว
    ในขณะเดียวกัน แหล่งข่าวคนหนึ่งจากภายในสายการบินของจังหวัดปาปัว (Papua) กล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียว่า เครื่องบินลำดังกล่าวได้ประสบเหตุตกลงเนื่องจากชนเข้ากับภูเขา ทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด (นึกถึงสายการบินของเยอรมันนีที่ดิ่งชนภูเขาที่ฝรั่งเศสขึ้นมาทันทีเลยนะนี่)
    รายงานข่าวบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางการอินโดเนียเซียสัญญาว่าจะทบทวนกองกำลังทางอากาศของประเทศอีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เครื่องบินของกองทัพประสบอุบัติเหตุ
    ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เครื่องบินขนส่งของกองทัพ รุ่น Hercules C-130B ประสบอุบัติเหตุในเขตที่อยู่อาศัยของประชาชนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Medan ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด North Sumatra ของอินโดนีเซียเพียง 2 นาทีหลังจากขึ้นบิน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 100 คน
    รายงานข่าวจาก RT news เมื่อวันที่ 11 ก.ค.58 บอกว่าอดีตนักบินสองคนจากสายการบินของอินโดนีเซียถูกตรวจพบว่าได้รับอิทธิพลความรุนแรงโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสมาก่อนหลังจากพวกเขาแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อกลุ่ม jihadist ทางออนไลน์ในขณะที่ยังคงดำเนินการบินการบิน (เป็นนักบิน) ให้กับผู้โดยสาร รายงานจากตำรวจออสเตรเลีย
    รายงานจากเว็บไซต์ของ Intercept บอกว่า Ridwan Agustin ทำงานให้กับสายการบิน Air Asia อินโดนีเซีย และ Tommy Hendratno เพื่อนของเขา มาจากสายการบิน Premiair ตกอยู่ภายใต้เสน่ห์ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส ในกลางปี 2557 (ว้าว!)
    รายงานข่าวยังบอกอีกว่าในเดือน ธันวาคม 2557 เครื่องบินของสายการบิน AirAsia เที่ยวบินที่ QZ8501 บินจากท่าอากาศยาน Surabaya บนเกาะ Java อินโดนีเซียมุ่งหน้าไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ขาดการติดต่อการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศ และประสบอุบัติเหตุในทะเล Java Sea เสียชีวิตชีวิตยกลำ จำนวน 162 คน
    เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว RT news ของรัสเซียลงข่าวเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพิมพ์เขียวทางการทัพภายใต้ยุทธศาสตร์ "East of Suez" สำหรับเกมสงครามในมาเลเซีย ช่วงที่นายเดวิด คาเมรอน นายกฯอังกฤษเดินทางไปเยี่ยมมาเลเซียแล้วมีคนไทยบางคนประมาณว่าน้อยใจที่นายกฯอังกฤษไม่แวะเมืองไทยแต่บินตรงไปที่มาเลเซีย สื่อฯรัสเซียบอกว่าเขาไปคุยกันเรื่องกองทัพ เรื่องอาวุธ การซ้อมรบร่วมกัน เขาจะขายอาวุธให้กัน และเล่นเกมสงครามร่วมกันกับมาเลเซียในปีหน้า (เขาจะกลับไปยึดมาเลเซียอีกรอบตะหาก เพื่อแข่งหรือหนุนกันกับยุทธศาสตร์ปักหมุดในเอเซีย (pivot to Asia) ของสหรัฐฯ) ในตอนท้ายของข่าวบอกว่า อังกฤษมีระบบดาวเทียมที่ทันสมัยมากชื่อ Skynet 5A ออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยทางด้านการคมนาคมให้กับพันธมิตรของอังกฤษ (มันจะจับตาและสอดแนมพันธมิตรสิไม่ว่า)
    รายงานข่าวบอกว่าบริษัท Airbus Defence and Space ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธ (ในกลุ่ม Airbus Group) ได้เปิดปฏิบัติการดาวเทียมต่างๆให้กับกลาโหมของอังกฤษ (UK Ministry of Defence - MoD) ซึ่งประกาศว่าการดำเนินการในรัศมี 67,000 กิโลเมตรตามที่ได้วางแผนเอาไว้กำลังเป็นไปด้วยดี
    ทางอังกฤษบอกว่า ดาวเทียม (หลายดวง) ภายใต้โครงการ Skynet 5A จะจับตาเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยให้กับพันธมิตรอื่นๆ: Five Eyes ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา
    Colin Paynter ประธานบริษัท Airbus Space and Defence กล่าวในแถลงการณ์ว่า "Skynet 5A ประกอบด้วยกลุ่มดาวเทียมที่ทรงพลังที่สุดในโลก สามารหยุดและป้องกันขีปนาวุธนิวเคลียร์ (nuclear hardened) เป็นดาวเทียม X-band ทางกองทัพและดาวเทียมระบบ UHF"
    อังกฤษคุยต่อไปว่า "ด้วยการดำเนินการ Skynet 5A นี้ อังกฤษจะขยายความพร้อมในการให้บริการ MILSATCOM รักษาความปลอดภัยในระดับพรีเมี่ยมให้กับชาติพันธมิตรในภูมิภาคที่ต้องการการบริการสื่อฯสารที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีความปลอดภัย (อย่างหลังนี้ต้องถามเขาว่าปลอดภัยสำหรับใคร? สำหรับผู้ให้บริการหรือสำหรับผู้ใช้บริการ?) เพื่อเสริมระบบที่มีอยู่ของพวกเขา"
    ดีเลย… งั้นอังกฤษช่วยตอบหน่อยซิว่าเครื่องโดยสารของอินโดนีเซียหายไปที่ไหน และเที่ยวบินที่ MH370 ของมาเลเซียหายไปได้อย่างไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน? ถ้าบอกว่าดาวเทียมของคุณเจ๋งและหยุดหัวรบนิวเคลียร์ได้ขนาดนั้น
    The Eyes
    16/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Tejo Damai Santoso
    ----------
    Indonesian Passenger Plane Missing in Papua Region / Sputnik International
    Indonesian plane carrying 54 people crashes into mountain in Papua, found by villagers, transport official says - ABC News (Australian Broadcasting Corporation)
    Indonesian plane with 54 on board crashes in Papua region - officials — RT News
    Britain reestablishes military footprint ‘East of Suez’ for Malaysia war games — RT UK
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    กระสุนปืนกับพระคำภีร์: โบสถ์อลาบาม่าเปิดคอร์สสอนยิงปืนให้กับศาสนิกชน

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ (17 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Bullets and the Bible: Alabama Church Opens Gun Range" (แปลตามชื่อโพสต์ข้างบน) อ่านดูแล้วก็เกิดความสงสัยว่า อื้ย! จริงดิ? สื่อฯรัสเซียมั่วข่าวหรือเปล่า? ใส่ร้ายสหรัฐฯผู้รักสันติหรือเปล่า? ก็ลองค้นหาข่าวเดียวกันนี้จากที่อื่นดูบ้าง ไปเจอที่ Fox News ของสหรัฐฯเลยหละ เขาพาดหัวข่าวว่า "Alabama church opens gun range behind sanctuary" (โบสถ์อลาบาม่่าเปิดสนามยิงปืนด้านหนังสถานที่ศักดิ์) และสำนักข่าว WIAT News 42 ก็ออกข่าวทางโทรทัศน์ด้วย ว้าววว! ของจริงนิ? ที่อเมริกาเขามีหลวงพี่สิงปืนไว หลวงพ่อสิงปืนแม่นด้วยแฮะ
    Fox News โปรยหัวข่าวว่า... "Praise the Lord . . . and pass the ammunition." (สรรเสริญพระเจ้า... และส่งลูกกระสุนให้) อูยส์ แรงอ่ะ ส่วนรายงานข่าวจาก WIAT บอกว่า "An Alabama church has opened a gun range behind its sanctuary as an extension of its fellowship" (โบสถ์รัฐอลาบาม่าได้เปิดสนามยิงปืนข้างหลังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของตน ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มสาวก) ส่วนสื่อฯรัสเซียเกริ่นนำว่า "เคยต้องการที่จะเป่าบางคนที่อยู่รอบๆในนามของพระผู้เป็นเจ้าบ้างไหม? คุณสามารถทำอย่างนั้นได้ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐอลาบาม่า ซึ่งได้เปิดสนามยิงปืนขึ้นมาแล้ว" (Ever wanted to fire off some rounds in the name of the lord? You can do so at a church in Alabama, which has opened a gun range.) อันนี้เหน็บแรงกว่าสำนักข่าว WIAT ของสหรัฐฯซะอีก
    รายงรานข่าวบอกว่าบริเวณด้านหลังของโบสถ์ Rocky Mount United Methodist Church ในเมือง Jemison รัฐอลาบาม่า เป็นที่ตั้งของสถานที่ยิงปืน ซึ่งสมาชิกของโบสถ์แห่งนี้ใช้ฝึกซ้อมการเป็นนักแม่นปืนให้กับบรรดาผู้สวดมนต์ บาทหลวง (Pastor) Phillip Guin กล่าวว่า "แนวความคิดการจัดสนามยิงปืนผุดออกมาจากความต้องการที่จะสอนเจ้าของปืนที่เป็นสานุศิษย์บางคนของตนเกี่ยวกับความปลอดภัยในอาวุธปืน"
    บาทหลวง Guin ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว WIAT ว่า "เรามีสมาชิกอยู่หลายร้อยคน เช่น เหล่าผู้หญิงสูงอายุบางคน และบางคนที่ยังไม่มีอายุมากซึ่งได้ซื้อปืนมา แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ปืนเหล่านั้นอย่างไร" (ก็เลยเป็นหน้าที่ของท่านบาทหลวงซะงั้น?)
    เนื่องจากสมาชิกจำนวนมากของโบสถ์แห่งนี้เป็นพวกนักล่าสัตว์และเป็นคนที่ชื่นชอบปืน (hunters and gun enthusiasts) ปาสเตอร์ Guin จึงได้ตัดสินใจก่อตั้งสมาคมนักล่าและปืนแห่งร็อกกี้เมาท์ขึ้นมา (Rocky Mount Hunt and Gun Club)
    ปาสเตอร์ Guin กล่าวว่า "นี่เป็นโอกาส (อันดี) ที่จะยื่นมือออกไปในนามของพระเยซูคริสต์ ในการจัดตั้งสิ่งที่ไม่ซ้ำแบบใคร (/ฉีกแนว/มีเอกลักษณ์พิเศษ) อย่างสิ้นเชิง (ขอกลืนน้ำลายซักเฮือกใหญ่ก่อนนะครับ...) (This is an opportunity to reach out in the name of Jesus Christ in a setting that is completely unique.) แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่แปลกในมาตรฐานของประชาชนบางคน (ก็ตาม) แต่ใครหละที่จะกล่าวว่าโบสถ์ (ศาสนา) ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ที่นี่?" (ไม่รู้สิครับหลวง เอาตามที่หลวงพ่อเห็นสมควรนั่นแหละครับ หลวงพ่อจะสอนเด็กอเมริกันให้ยิงปืนอย่างพวก Azov นีโอนาซีฝึกเด็กในค่ายเยาวชนภาคฤดูร้อนที่ยูเครนเมื่อเร็วๆนี้ด้วยไหมครับ? เจริญหละครับอเมริกายุคโอบาม่าเป็นประธานาธิบดี)
    รายงานข่าวบอกว่าสนามยิงปืนแห่งนี้ยังถูกใช้เจ้าหน้าที่บางคนในกรมตำรวจเจมิสัน (Jemison Police Department) ซึ่งรวมทั้งรองหัวหน้า Marc McMinn ซึ่งฝึกและสอนหลักสูตรความปลอดภัยให้สมาชิกและสาธารณชนในที่นี้ด้วย
    ปาสเตอร์ Guin กล่าวว่า "จริงๆแล้วจุดประสงค์ทั้งหมดของสนามยิงปืนแห่งนี้ก็เพื่อนันทนาการและความปลอดภัยเกี่ยวกับปืน ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น มีความรัก แบบคริสเตียน ขณะนี้ พวกเรากำลังมีความสุขอย่างแท้จริงกับวิธีการที่ทุกอย่างปรากฎออกมา พวกเราพบการใช้ (ประโยชน์จาก) 'Grand Canyon' ขนาดเล็กข้างหลังโบสถ์ของพวกเรา และเปลี่ยนมันให้เป็นบางอย่างที่เจ๋งมากๆ (pretty cool)"
    เป็นไงเล่าเสรีภาพสไตล์อเมริกา pretty cool ha? ไม่แปลกใจที่มีเหตุการณ์เยาวชนชาวอเมริกันควงปืนเข้าไปกราดยิงในโบสถ์เมื่อเร็วๆนี้หรอกนะ สงบ สันติ อหิงสา ปัง ปัง ปัง… โปรอเมริกาชอบอ่ะดิ
    The Eyes
    17/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Michael B.

    ----------
    Bullets and the Bible: Alabama Church Opens Gun Range / Sputnik International
    Alabama church opens gun range behind sanctuary | Fox News
    Church opens gun range ministry 'in the name of Jesus Christ'
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การบังคับบุคคลให้สูญหายและการขังเดี่ยว ดูเหมือนเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมกับชาวปาเลสไตน์??

    ดิรอร อบูซีซี ชายคนหนึ่งที่ไม่มีประเทศและไม่มีพรรค ต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลกระทำกับเขา โดยอ้างว่าวิศวกรพลเรือนผู้นี้เป็นผู้คิดค้นโครงการสร้างขีปนาวุธให้กับฮามาส โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ส.ค. 14, 2015

    [​IMG]
    (ภาพ) ดิรอร อบูซีซี วิศวกรชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้คิดค้นโครงการจรวดของฮามาสและฝึกซ้อมนักรบในกาซ่า เข้าร่วมการพิจารณาคดีในเมือง Beersheba ทางใต้ของอิสราเอล เมื่อ 16 มิถุนายน 2011
    ซีแอทเทิล – เดือนที่แล้ว คณะตุลาการอิสราเอลได้พิพากษาจำคุก ดิรอร อบูซีซี วิศวกรพลเรือนวัย 46 ปี เป็นเวลา 21 ปี เนื่องจากช่วยเหลือโครงการจรวดของฮามาส กระบวนการนี้ใช้เวลาสอบสวนถึงสี่ปีนี้เริ่มต้นด้วยการลักพาตัวอบูซีซีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บนรถไฟขบวนหนึ่งที่มุ่งหน้าไปเมืองเคียฟ เมื่อปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 ในยูเครน

    มอสสาด หน่วยงานลับของอิสราเอล และหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนได้ร่วมมือกันจับตัวอบูซีซี หลังจากการสอบสวน เขาถูกส่งขึ้นเครื่องบินไปเข้าคุกในอิสราเอล รายงานข่าวบางแห่งถึงขนาดอ้างว่าเขาถูกให้ยาและให้อยู่ในโลงศพ แล้วถูกขนส่งไปยังอิสราเอลในฐาน “ศพ”

    ตอนที่เรื่องนี้เปิดเผยออกไป การส่งตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายด้วยวิธีพิเศษไปยังสถานที่ทรมานลับของซีไอเอเป็นข่าวใหญ่ ถึงแม้ว่าการลักพาตัวอบูซีซีจะไม่ถูกรายงานในข่าวนั้น แต่มันก็เป็นหนึ่งในการลักพาตัวนอกระบบกฎหมายที่ดำเนินการโดยอิสราเอล แบบเดียวกับที่ย้อนกลับไปถึงสมัยของ Adolf Eichmann ผู้นำนาซีที่ถูกพบว่ายังมีชีวิตอยู่ในอาร์เจนติน่าหลายสิบปีหลังสงครามสิ้นสุดลง มอสสาดทีมใหญ่ที่นำโดย Rafi Eitan ได้ลักพาตัว Eichmann และนำตัวเขาบินมายังอิสราเอลโดย El Al หนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานเมื่อปี 2012 ว่า “เขาถูกนำตัวผ่านออกมาในฐานะพนักงานที่ป่วยคนหนึ่งของสายการบิน แต่งตัวในชุดเครื่องแบบของ El Al และนั่งในชั้นเฟิร์สคลาส”

    ผมเป็นนักข่าวนอกยูเครนคนแรกที่รายงานเรื่องอบูซีซีถูกลักพาตัวโดยระบุชื่อของเขา นักข่าวอิสราเอลไม่สามารถรายงานข่าวนี้ได้เพราะกรณีที่เกี่ยวกับความมั่นคงมักจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบของทหารหรือถูกสั่งห้ามไม่ให้รายงานชื่อของผู้ต้องสงสัย

    เขาถูกตั้งข้อหาคิดค้นโครงการสร้างขีปนาวุธให้ฮามาส หน่วยงานด้านความมั่นคงของอิสราเอล หรือ Shin Bet และการดำเนินคดีได้สร้างเรื่องของอบูซีซีให้เป็นการปฏิบัติงานแบบ West Point(โรงเรียนฝึกสอนทหาร) ฉบับกาซ่า เพื่อสร้างผู้ก่อการร้าย ภายใต้การดูแลของมุฮัมมัด ดีฟ ผู้นำกองพลน้อยก็อซซัม ปีกทางการทหารของฮามาส รายงานข่าวอื่นๆ อ้างว่าเขาเป็นผู้ปฏิบัติการคนสำคัญเกี่ยวกับการจับตัวและคุมขังพลทหาร Gilad Shalit

    ตลอดช่วงเวลาของการดำเนินการทางกฎหมายสี่ปีนี้ Tal Linoy ทนายความของอบูซีซี ที่ผมได้สัมภาษณ์อย่างเจาะลึกเพื่อเขียนบทความนี้กล่าวว่า หลักฐานเดียวที่ถูกนำเสนอก็คือข้ออ้างว่าเป็นคำสารภาพของลูกความของเขา ซึ่งได้มาอย่างผิดกฎหมายและภายใต้การทรมานตามมาตรฐานของ Shabak ที่มักจะใช้เป็นประจำในกรณีเกี่ยวกับความมั่นคงเช่นนี้ รัฐไม่เคยนำเสนอหลักฐานที่เป็นอิสระใดๆ เลย

    ภายใต้กฎหมายความมั่นคงของอิสราเอล ในขั้นตอนเบื้องต้นของคดี รัฐอาจปฏิเสธไม่ให้ทนายฝ่ายจำเลยเข้าถึงหลักฐานได้ ถ้าคิดว่าหลักฐานนั้นมีความอ่อนไหวมากจนการเผยแพร่มันออกไปอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐได้ ถึงแม้ทนายฝ่ายจำเลยจะได้รับอนุญาตทางทฤษฎีในการดูหลักฐานเหล่านั้น แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงจะไม่ถือเป็นเนื้อหา เมื่อมีหลักฐานลับ ผู้พิพากษาจะทบทวนตามลำพัง และทำการตัดสินใจโดยไม่มีการนำเข้ามาจากฝ่ายจำเลย โดยทั่วไปแล้วผู้พิพากษาจะไม่ล้มเลิกการดำเนินคดีและอนุญาตให้เข้าถึงสาระสำคัญของทนายฝ่ายจำเลย

    Linoy ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหลายครั้งเพื่อให้อย่างน้อยมีการสรุปหลักฐานที่ได้มาจากเขา หลังจากที่การดำเนินคดีมีความสับสนทางกฎหมายอย่างมาก ในที่สุดเขาได้เสนอคดีของรัฐในแบบที่ถูกตัดทอน ลดเอกสารต้นฉบับ หรือหลักฐานแรกออกไป เขาบอกกับ MintPress ว่า เขาถูกห้ามไม่ให้เปิดเผยสิ่งที่เขาได้รู้มา ถึงแม้ว่าเขาสามารถจะพูดได้ว่า ข้อหาของลูกความของเขาในฐานะประชาชนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุผลที่แท้จริงในการจับกุมเขาเลย

    ทฤษฎีที่เชื่อถือได้อย่างหนึ่งของคดีนี้ ที่แหล่งข่าวที่มีความรู้หลายคนได้ยืนยันก็คือ ฮามาสพยายามจะแก้แค้นอบูซีซีที่ปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือต่อไป ข่าวรั่วไหลออกมาว่า พวกเขา “จัดเตรียมการ” เพื่อให้มอสสาดรู้ว่าอบูซีซีมีบทบาทสำคัญในการจับและควบคุมตัว Gilad Shalit ทหารของกองกำลัง IDF ในการรุกข้ามชายแดนเข้ามา และถูกฮามาสจับตัวไว้เป็นเวลาห้าปี จนกระทั่งมีการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับอิสราเอล ฮามาสรู้ว่าอิสราเอลจะต้องจับบุคคลสำคัญเช่นนั้น และทำให้ชีวิตของเขาตกยากลำบาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ

    ถ้ามอสสาดถูกฮามาสหลอกให้เชื่อว่า อบูซีซีรู้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับที่อยู่ของ Shalit ก็มีเหตุผลที่มันจะไม่ต้องการให้โลกรู้ถึงความผิดพลาดเช่นนั้น แวดวงด้านความมั่นคงของอิสราเอลอยากที่จะให้โลกมองว่ามันน่าเกรงขามและเป็นสุดยอดในด้านเทคโนโลยีและการปฏิบัติงาน คดีนี้ไม่ได้ทำให้มอสสาดก้าวไปข้างหน้าอย่างดีที่สุดได้ ทางที่ดีที่สุดที่จะปกปิด “งานง่ายๆ” ชิ้นนี้ก็คือ การนำตัวอบูซีซีไปให้ไกลเป็นเวลานานๆ และจัดการไม่ให้มีใครภายในอิสราเอลสามารถบอกเล่าเรื่องจริงได้

    ความชำนาญด้ายวิศวกรรมของอบูซีซีดึงดูดความสนใจของฮามาส

    ดิราร อบูซีซีได้พบกับเวโรนิก้า ภรรยาของเขาในยูเครน ที่ซึ่งเขาได้ปริญญาเอกทางด้านวิศวกรรมการไฟฟ้าจากวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในยูเครนในช่วง 1990s หลังจากเรียนจบ เขาและครอบครัวย้ายไปอยู่จอร์แดนในฐานะผู้ลี้ภัย เขาใช้เวลาสามเดือนไปกับความพยายามทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่นั่น ในปี 1999 เขาเห็นประกาศรับสมัครงานตำแหน่งหนึ่งที่โรงไฟฟ้ากาซ่า เขาสมัคร สัมภาษณ์ และได้รับเข้าทำงานในตำแหน่งนั้น

    เงินเดือนที่เขาได้รับทำให้เขาสามารถดูแลครอบครัวที่กำลังเติบโตขึ้นของเขาได้ (เขาและภรรยามีลูกหกคน) และดูแลพ่อแม่ที่สูงวัยซึ่งอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในจอร์แดน เขาเป็นคนเดียวในครอบครัวที่สามารถช่วยเหลือพ่อแม่ของเขาได้ในสภาพนี้


    เขาทำงานได้ดี เขาพบว่าเขาสามารถจัดรูปแบบเทคโนโลยีแสงอาทิตย์ของโรงไฟฟ้านี้ได้ เพื่อที่เขาจะสามารถใช้ระบบของอียิปต์ได้ แทนที่จะใช้สายไฟฟ้าของอิสราเอล สิ่งนี้จะทำให้ฝ่ายบริหารพลังงานของกาซ่าประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า 200 ล้านดอลล่าร์ต่อปี แต่มันทำให้เขาเป็นที่รักเพียงน้อยนิดในสายตาของอิสราเอล ที่อยากจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างในกาซ่าต้องพึ่งพาอิสราเอล

    ในบรรดาข้อหาที่ Shabak ยกขึ้นมาให้แก่วิศวกรผู้นี้ก็คือ เขาเรียนที่โครงการวิศวกรรมทางทหารแห่งหนึ่งในยูเครนขณะเรียนปริญญาเอก อิสราเอลอ้างว่า ในช่วงนี้เองที่เขาทำงานให้ฮามาสด้วยการเรียนรู้ทักษะที่จะเป็นประโยชน์กับขบวนการอิสลาม

    ก่อนถึงปี 2000 อบูซีซีไม่เคยไปกาซ่าเลยในชีวิตของเขา ช่วงปี 1990s เขาเดินทางโดยตรงจากจอร์แดน ที่ที่เขาใช้ชีวิต ไปยังยูเครนเพื่อเรียนปริญญาเอก เมื่อเขาเรียนจบ เขาไม่ได้เดินทางไปกาซ่าโดยตรง แต่เขากลับมาที่บ้านของเขาในจอร์แดน เรื่องนี้เป็นข้อพิสูจน์อีกข้อหนึ่งว่ากาซ่าเป็นจุดหมายปลายทางในการประกอบอาชีพแห่งหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่สถานที่ในอุดมการณ์

    เมื่อกล่าวถึงข้ออ้างเรื่องความชำนาญพิเศษด้านเทคโนโลยีขีปนาวุธ ใครก็ตามที่มีพื้นฐานด้านวิศวกรรมจะสามารถยืนยันได้ว่า วิทยาการด้านจรวด (เช่น วิศวกรรมการบิน) แทบจะไม่มีอะไรคาบเกี่ยวกันเลยกับวิศวกรรมการไฟฟ้า ดังนั้นแนวคิดที่ว่าอบูซีซีสามารถจะเป็นผู้คิดค้นที่อยู่เบื้องหลังโครงการจรวดทั้งหมดของฮามาสนั้นจึงเป็นเรื่องที่ห่างไกล
    กล่าวกันว่า มันเป็นธรรมชาติของขบวนการอย่างฮามาส ที่ต้องการจะพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธของตน จะต้องหันไปหาใครก็ตามที่มีความรู้ความชำนาญด้านเทคโนโลยีใดๆ ที่สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ มันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ว่าฮามาสจะดึงตัวอบูซีซีมาทำงานด้วย การใช้ชีวิตภายใต้การปกครองของฮามาสในกาซ่า ชาวบ้านมีทางเลือกน้อยนอกจากต้องปฏิบัติตามคำสั่ง Linoy บอกกับ MintPress ว่า ระหว่างช่วงที่อบูซีซีไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับฮามาสนั้น ตัวแทนของฮามาสขู่เขาว่า “คนที่มีลูกๆ เหมือนคุณควรจะกลัวแทนพวกเขา”

    การต้านทานของอบูซีซียังหนักแน่น Linoy บอกว่า ระหว่างปี 2000 ที่เขาไปถึงกาซ่า จนถึงปี 2010 ลูกความของเขาพยายามจะหนีออกจากกาซ่าไม่น้อยกว่าสี่ครั้ง ครั้งแรกในปี 2006 หลังจากที่ฮามาสก่อการจลาจลที่ส่งผลให้มันได้ควบคุมดินแดนแห่งนี้ ความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นทำให้อบูซีซีคิดว่าเขาและครอบครัวคงจะไม่มีอนาคตที่นั่น

    เขาขอวีซ่าหลายต่อหลายครั้งและยื่นคำร้องต่อรัฐบาลต่างๆ และตัวแทนสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือในการอพยพ เขาได้ติดต่อกับชาวอิสราเอล ชาวจอร์แดน (เขาเกิดในค่ายผู้ลี้ภัยในจอร์แดน) คณะบริหารปาเลสไตน์ และสหประชาชาติ ครั้งหนึ่ง เขาได้ไปทำฮัจญ์ที่ซาอุดิอารเบีย ด้วยหวังว่าเขาจะสามารถอยู่ที่นั่นได้กับพี่ชายของเขาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แต่ซาอุดี้ฯ ได้ส่งตัวเขากลับบ้าน ในที่สุดเขาก็ได้หนังสือเดินทางจากคณะปกครองปาเลสไตน์ ด้วยความช่วยเหลือจากนักข่าวและเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระที่เขาได้รู้จักผ่านการทำงานที่โรงไฟฟ้าแห่งนั้น

    หลังจากความพยายามครั้งที่สาม เขาถูกจับกุมและคุมขังโดยฮามาสเป็นเวลาหกวัน พวกเขากล่าวหาว่าเขาเป็นสายลับของอิสราเอล โดยอ้างว่าเขาพยายามที่จะให้ได้รับความช่วยเหลือจากอิสราเอลเพื่อออกจากกาซ่า Linoy กล่าวว่า อบูซีซีบอกเขาว่าเขาถูกฮามาสทรมานระหว่างการกักขัง แต่ช่วงนั้นเองที่เขาได้รับเอกสารการเดินทางจากคณะปกครองปาเลสไตน์ และผู้คุมของเขาก็ได้รู้ว่าไม่สามารถขัดขวางเขาจากการเดินทางได้

    สองสัปดาห์หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว เขาพยายามหนีออกจากกาซ่าเป็นครั้งที่สี่ เขาหนีไปยังอียิปต์ แล้วเดินทางต่อไปยังจอร์แดน ที่ที่พ่อของเขาอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (ทั้งคู่เป็นคนไร้รัฐ)

    หน่วยข่าวกรองจอร์แดนสมรู้ร่วมคิดกับมอสสาดในการควบคุมตัวอบูซีซี

    เมื่อเขาไปถึงกรุงอัมมาน ดิรอร อบูซีซีถูกจับกุมโดยหน่วยสืบราชการลับของจอร์แดน ที่สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับการแจ้งเตือนถึงการมาปรากฏตัวของอบูซีซีโดยมอสสาด เมื่อพิจารณาถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดยิ่งระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดนแล้ว ก็มีความเนไปได้ที่จอร์แดนจะเตือนมอสสาดให้รู้ถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของกาซ่า แต่ในฐานะรัฐอาหรับแถวหน้า จอร์แดนจะไม่ส่งมอบอบูซีซีให้กับอิสราเอลโดยตรง เนื่องจากกลัวว่าจะถูกมองว่าให้ความร่วมมือกับ “รัฐยิว” มากเกินไป นั่นจึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้จอร์แดนอนุญาตให้เขาบินไปยูเครน


    แต่เมื่อเขาได้ขึ้นเครื่องไปยังกรุงเคียฟ เขาถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของจอร์แดนที่ต้องการให้แน่ใจว่าเขาไปถึงที่นั่น ยูเซฟ พี่ชายของอบูซีซี บอกกับ MintPress
    หนึ่งในเรื่องแรกๆ ที่ดิรอร อบูซีซีทำเมื่อไปถึงก็คือ การยื่นคำร้องต่อฝ่ายบริหารยูเครนเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งเขาได้สถานะนั้นเนื่องจากแต่งงานกับพลเมืองยูเครน สิ่งหนึ่งในความโหดร้ายหลายอย่างในคดีของเขาก็คือ แม้ยูเครนจะให้สถานะนั้นแก่เขาแล้ว แต่ต่อมาหน่วยงานด้านความมั่นคงของยูเครนก็ได้หักหลังเขาให้กับมอสสาด และเขาถูกจำคุกในอิสราเอล

    หลังจากยื่นคำร้องขอลี้ภัย อบูซีซีก็วางแผนที่จะไปหาพี่ชายของเขา ที่เป็นนักบัญชีอาศัยอยู่ในเบลเยียม ผู้ซึ่งไม่ได้พบกันมาเป็นเวลา 15 ปี การขึ้นรถไฟขบวนนั้นน่าจะสิ้นสุดลงด้วยการได้พบกับพี่ชาย แต่เมื่อรถไฟไปถึง ดิรอรไม่ได้อยู่บนรถขบวนนั้น ดังนั้น การหายตัวไปอย่างลึกลับของเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น และไปปรากฏตัวอีกครั้งสิบวันต่อมาในคุกแห่งหนึ่งของอิสราเอล

    ข่าวเล็กๆ บนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของยูเครนที่รายงานการหายตัวไปของชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งที่นั่น สะดุดความสนใจของแหล่งข่าวชาวอิสราเอลคนหนึ่งผู้ซึ่งได้ช่วยผมติดตามร่องรอยดิรอร อบูซีซี มาถึงอิสราเอล ด้วยความช่วยเหลือของ HaMoked องค์กรอิสระเพื่อสิทธิมนุษยชนของอิสราเอล แม้จะมีคำสั่งให้ปิดข่าวและการตรวจสอบทางทหาร แต่แหล่งข่าวของผมก็สามารถยืนยันชื่อของนักโทษคนนั้นและให้รายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นั่นทำให้ผมสามารถรายงานข่าวการถูกลักพาตัวเขาโดยอิสราเอลได้เป็นครั้งแรก

    อบูซีซีถูกลงโทษด้วยการขังเดี่ยวสองปีครึ่ง

    ดิรอร อบูซีซี ถูกสอบสวนโดย Shabak เป็นเวลาสิบวันหลังจากที่เขามาถึงอิสราเอล เขาไม่มีทนาย ครอบครัวของเขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ภรรยาของเขาบินจากกาซ่าไปยูเครนเพื่อพยายามค้นหาเขา

    หลังจากนั้น เขาถูกส่งไปอยู่ในเรือนจำทั่วไป สัปดาห์ต่อมาเขาถูกย้ายไปยังคุกขังเดี่ยว ซึ่งเขาต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสองปีครึ่ง เมื่อทนายความของเขา Tal Linoy คัดค้านมาตรการเข้มงวดนี้หลายครั้ง เขาได้รับคำตอบว่าสิ่งนี้มีความจำเป็นเพราะลูกความของเขาเป็นอันตรายร้ายแรงต่อรัฐ Linoy ได้ถามผู้คุมของเขาว่า “ถ้าอบูซีซีเป็นวิศวกรทางด้านจรวดอย่างที่คุณอ้าง เขาจะสามารถทำอันตรายอิสราเอลได้อย่างไรด้วยการนั่งอยู่ในห้องขัง? เขาจะสอนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ให้รู้จักวิธีสร้างขีปนาวุธก็อซซัมที่ดีขึ้นอย่างนั้นหรือ?”

    Shabak สั่งให้ขยายเวลาการขังเดี่ยวของเขาไปอีกหกเดือนเป็นเวลาสี่ครั้ง ผู้พิพากษาเห็นด้วยทั้งสี่ครั้ง ในที่สุด อบูซีซีต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติส่วนตัวและความกดดันอย่างหนัก ถ้าอบูซีซีไม่ทำอะไรสักอย่างเขาอาจจะไม่ได้พบผู้ต้องขังคนอื่นๆ หรือได้รับการเยี่ยมจากครอบครัวอีกเลย เขาจึงใช้วิธีการที่นักโทษชาวปาเลสไตน์คนอื่นๆ ใช้เพื่อประท้วงการปฏิบัติต่อพวกเขา นั่นก็คือ เขาเริ่มอดอาหารประท้วง

    เป็นเวลา 12 วันที่เขาไม่ยอมรับประทานอาหาร ต้องรู้ไว้ว่า นี่คือผู้ชายที่มีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมาก มีทั้งโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ปัญหาการไหลเวียนโลหิต โรคโลหิตจาง โรคหอบหืด เจ็บหลังรุนแรง และโรคนิ่ว ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างย่ำแย่จากเจ้าหน้าที่เรือนจำ ระหว่างการจำคุก เขาน้ำหนักลดไปหนึ่งในสาม เมื่อถึงวันที่สิบสอง อิสราเอลเข้าใจว่าเขาจริงจังและจึงได้ยอมผ่อนปรน อบูซีซีถูกย้ายจากคุกขังเดี่ยวกลับไปยังเรือนจำทั่วไป

    แต่ Shabak มีกลเม็ดอีกมาก มันได้ย้ายอบูซีซีจาก Beersheba ที่ห่างจากสำนักงานทนายความของเขาในเทลอาวีฟ 90 นาทีไปยัง Mizpeh Ramon เรือนจำไกลสุดทางภาคใต้ในอิสราเอล ที่ต้องใช้เวลาขับรถจากเทลอาวีฟสามชั่วโมง ตอนนี้ แทนที่จะได้ประชุมสัปดาห์ละหลายครั้ง Linoy ทำได้เพียงครั้งเดียว มันเป็นอีกวิธีหนึ่งในการละเมิดสิทธิการรับคำปรึกษาของนักโทษ และทำความขัดข้องให้กับนักโทษ ครอบครัวของเขา และทนายความของเขา

    [​IMG]
    @(ภาพ) มาเรีย อบูซีซี หยุดที่หน้ารูปพ่อของเธอ ดิรอร อบูซีซี ระหว่างการชุมนุมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาจากคุกของอิสราเอล หน้าสำนักงานใหญ่ UNRWA ในกาซ่าซิตี้ เมื่อ 22 มีนาคม 2011 กลุ่มสิทธิมนุษยชนปาเลสไตน์กลุ่มหนึ่งเปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับอบูซีซี ที่หายตัวไปจากรถไฟขบวนหนึ่งของยูเครน และปรากฏตัวอีกครั้งในเรือนจำอิสราเอล โดยกล่าวว่า เขาถูกสายลับอิสราเอลพาตัวไปจากตู้นอนของเขา สวมฮู้ดและใส่กุญแจมือ ถูกบังคับขึ้นเครื่องบินและนำตัวไปยังอิสราเอล

    หน่วยงานด้านความมั่นคงแสดงความเผด็จการในอีกวิธีหนึ่งที่สำคัญ คือแทนที่จะได้พบกับทนายความของเขาแบบเผชิญหน้าเหมือนนักโทษคนอื่นๆ พวกเขากลับใช้กระจกกั้นแยกทั้งสองคน ซึ่งหมายความว่า Linoy ไม่อาจจะร่วมพิจารณาเอกสารทางกฎหมายกับลูกความของเขาได้อย่างแท้จริง เมื่อไม่สามารถได้เห็นหรือศึกษาเอกสารเช่นนั้น อบูซีซีก็ไม่อาจที่จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพในการทำการแก้ต่างตามกฎหมาย

    เพื่อความรอบคอบของกระบวนการทางกฎหมาย ผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ต่างไม่ได้รับอนุญาตให้กล่าวถึง “ยูเครน” เนื่องจากเกรงว่ามันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ต่างประเทศของอิสราเอล (แม้ว่าคดีนี้จะถูกรายงานออกไปอย่างกว้างขวางทั้งที่นั่นและรอบโลก) และจำเลยไม่สามารถกล่าวถึงสายลับที่ลักพาตัวเขามาด้วยการเอ่ยชื่อ และไม่สามารถบรรยายลักษณะของพวกเขาด้วย นี่ไม่ใช่การพิจารณาคดีที่เป็นอิสระ แต่เป็นการถูกควบคุมตัวด้วยความเต็มใจโดยฝ่ายความมั่นคง

    ยิ่งกว่านั้น รัฐนี้ยังปฏิเสธไม่ให้สมาชิกครอบครัวคนใดเข้าเยี่ยมอบูซีซี เขาไม่ได้พบกับภรรยาของเขาหรือลูกๆ ทั้งหกคนมาเป็นเวลามากกว่าสี่ปีแล้ว เมื่อ Linoy เสนอที่จะพาลูกๆ ของลูกความของเขามาเยี่ยมที่เรือนจำโดยลำพัง เจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธ เขากล่าวตลิดตลกกับ MintPress ว่า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเชื่อว่าเขาจะสอนวิธีทำจรวดให้กับลูกๆ ของเขา เจ้าหน้าที่ปฏิเสธท่าทีทางด้านมนุษยธรรมทุกอย่างในแบบเดียวกัน เขาจะได้รับการเยี่ยมจากทนายของเขาและสภากาชาดระหว่างประเทศเท่านั้น

    ไม่มีการต่อรอง

    เป็นเวลาหลายปี ที่การดำเนินคดีได้แขวนการต่อรองคำรับสารภาพเอาไว้ให้ดิรอร อบูซีซี ว่า จะให้เขายอมรับผิดและยอมรับการตัดสินโทษ 20-25 ปี เป็นเวลาหลายปีที่เขาปฏิเสธข้อเสนอนั้น ทั้งที่นักโทษคดีความมั่นคงน้อยคนนักที่จะอดทนได้นานขนาดนั้น แต่แล้ว ในที่สุด ไม่มีใครเข้าสู่การพิจารณาคดีในศาล เพราะไม่มีใครชนะในการพิจารณาคดีเรื่องเหล่านี้ ไพ่ถูกจัดไว้แล้ว รัฐเป็นฝ่ายชนะเสมอ

    นักโทษที่ถูกกล่าวต้องพบกับตัวเลือกว่าจะยอมรับข้อตกลงให้รับสารภาพโดยติดคุกไม่กี่ปี หรือว่าจะเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาลและต้องติดคุกหลายสิบปีหรือตลอดชีวิต นั่นคือในกรณีที่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะพิจารณาคดีพวกเขา พวกเขาไม่ต้องทำก็ได้ พวกเขาสามารถเก็บนักโทษไว้ในคุกนานเท่าที่พวกเขาต้องการโดยไม่มีการพิจารณาคดี อบูซีซีอยู่ในคุกมาสี่ปี และไม่เคยได้รับการพิจารณาคดี

    Tal Linoy ทนายความอบูซีซี กล่าวว่า เกือบตลอดทั้งกระบวนการทางกฎหมาย ผู้พิพากษาไม่มีความเป็นมิตรกับลูกความของเขาเลย ทุกคำตัดสินไม่เป็นผลดีต่อเขา เขาบอกว่า ผู้พิพากษาถือการส่วนตัวว่าอบูซีซีทำให้พวกเขาต้องทำงานพิเศษด้วยการต่อต้านข้อตกลงรับสารภาพที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น มันชัดเจนสำหรับทนายความของเขาแล้วว่า ถึงแม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดในข้อหาที่ถูกตั้งขึ้น แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับสารภาพว่ากระทำความผิด โทษของเขาก็น่าจะยาวนานกว่าสิ่งที่ถูกเสนอมา

    เมื่อในที่สุดอบูซีซียอมรับข้อตกลง Linoy โต้แย้งว่ามันควรจะน้อยกว่า 21 ปี ตามที่รัฐเสนอ Linoy ได้นำตัวศาสตราจารย์ Robert Schmucker หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของโลกด้านเทคโนโลยีขีปณาวุธในการต่อสู้แบบกองโจรของโลกที่สามมาด้วย เพื่อโต้แย้งว่าถ้าหากอบูซีซีให้ความช่วยเหลือใดๆ แก่ฮามาส เขาก็ทำได้อย่างจำกัด

    ในความเห็นแบบผู้เชี่ยวชาญของเขาระบุว่า “คุณภาพความรู้(ของอบูซีซี) ดูเหมือนจะต่ำมาก กิจกรรมที่กล่าวถึงเหล่านี้เป็นมือสมัครเล่นมาก… มันน่าสงสัยว่าความช่วยเหลือของเขาจะมีผลอะไรบ้าง…” ภาพวาดนี้คือภาพที่อบูซีซีวาดให้ทีมสอบสวนของ Shabak ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้าเขาไม่เป็นนักวาดภาพยอดแย่ เขาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับจรวดมากพอๆ กับ Gary Trudeau

    [​IMG]
    @(ภาพ) ภาพวาดจรวดที่อบูซีซี ผู้ถูกอิสราเอลกล่าวหาว่าคิดค้นโครงการจรวดให้ฮามาส วาดให้ทีมสอบสวนของ Shabak
    เขายังได้ยืนยันระหว่าง “การสารภาพ” ของเขาว่า เขาสั่งสม “ความรู้” เกี่ยวกับจรวดจากอินเทอร์เน็ต จากยูทูบ เขาต้องเรียนรู้ด้วยวิธีนั้น เพราะเขาไม่ได้มีความรู้โดยตรงด้วยตัวเอง ขณะที่ Ynet รายงานเมื่อปี 2011 ว่าเขาบอกกับทีมสอบสวนว่า

    “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการระเบิดเลย ผมคำนวณแรงดันและความร้อนโดยใช้กฎของแบร์นูลลี(Bernoulli Principle) ผมดาวน์โหลดสูตรนี้มาจากอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่จากเว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์ใดโดยเฉพาะ ผมสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแล้วก็พบมัน… ผมก๊อปปี้ลงในหน้าโปรแกรม Excel และบันทึกตัวเลข และคำนวณตามสูตรนั้น”

    กฎของแบร์นูลลีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการระเบิด และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ “ความร้อน” เลย มันเกี่ยวข้องกับหลักการบิน มันยังน่าสงสัยอย่างยิ่งอีกด้วยว่า วิศวกรด้านจรวดที่แท้จริงจะใช้โปรแกรม Excel ในการคำนวณระดับการยกสำหรับจรวดหรือไม่

    Linoy ยังได้เตือนความจำคณะผู้พิพากษาด้วยว่า บ้านของครอบครัวอบูซีซีในกาซ่าถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการ Operation Protective Edge สงครามกับกาซ่าเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ภรรยาและลูกหกคนของเขาต้องไร้ที่อยู่อาศัย ทุกวันนี้ พวกเขาต้องย้ายจากบ้านหลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่งเพื่ออาศัยอยู่ชั่วคราวกับครอบครัวที่จะรับพวกเขาไว้ พวกเขาอยู่ได้ด้วยค่าครองชีพที่กระทรวงกิจการนักโทษของคณะปกครองปาเลสไตน์มอบให้แก่นักโทษชาวปาเลสไตน์ทุกคนที่อยู่ในคุกอิสราเอล เขาโต้แย้งว่า เรื่องนี้สมควรที่จะได้รับการพิจารณาจากผู้พิพากษา

    ในบรรดาผู้พิพากษาทั้งสามคน Linoy ระบุว่าคนหนึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษาทหารของ IDF คนที่สองเป็นยิวออร์โธดอกซ์ ซึ่งมักจะบ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีความนิยมทางการเมืองแบบขวาจัด เสียงข้างมากนี้รับรองได้ว่าจะทำให้ฝ่ายความมั่นคงเบาใจได้ คณะผู้พิพากษาปฏิเสธข้อโต้แย้งของ Linoy อบูซีซีจะต้องรับโทษ 21 ปี เขาจะต้องรับโทษเต็มระยะเวลา เพราะจะไม่มีทัณฑ์บนในคดีความมั่นคง

    อบูซีซีจะไม่ได้พบลูกๆ ของเขาจนกว่าพวกเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่และแต่งงานมีลูกๆ ของตัวเองแล้ว และเขาจะต้องรับโทษในเรือนจำแห่งหนึ่งที่ห่างไกลที่สุดของอิสราเอล ห่างไกลหลายชั่วโมงจากครอบครัวของเขาในกาซ่า

    ทนายของเขาเชื่อว่า คดีของเขาจะได้รับความสนใจในแบบแปลกๆ ทั้งจากฮามาสและอิสราเอล จรวดของฮามาสเป็นหนามในฝั่งของอิสราเอลที่ทำให้มีสัญญาณเตือนครั้งใหญ่เมื่อมันถูกปล่อยลงทางภาคใต้ของอิสราเอล การจับกุมผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงการจรวดนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูสามารถกล่าวอ้างได้ว่ามีชัยชนะครั้งใหญ่ต่อภัยอันตรายนี้ แน่นอน การจับกุมชายคนหนึ่ง ที่ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นคนสำคัญ จะไม่เป็นการกำจัดภัยคุกคามนี้ไปได้ แต่ข้อความที่นายกรัฐมนตรีส่งผลประชาชนไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นจริงหรือเที่ยงตรงเสมอไป แค่ทำให้อุ่นใจ อย่างน้อยก็ในระยะสั้นๆ เมื่อถึงเวลาที่ผู้ลงคะแนนเสียงชาวอิสราเอลได้รู้ว่าการจับกุมอบูซีซีไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง เขาก็น่าจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอบูซีซี

    สำหรับฮามาส การจับกุมอบูซีซีเป็นไปตามวัตถุประสงค์เบื้องต้นอย่างหนึ่ง ความจริงเกี่ยวกับโครงการจรวดของมันก็คือ มันน่าสงสาร ศาสตราจารย์ Schmucker กล่าวว่า ฮามาสไม่สามารถสร้างจรวดใดๆ ในกาซ่าที่มีระยะยิงไกลกว่า 8 ไมล์ จรวดที่พวกเขายิงด้วยระยะไกลกว่านั้นต้องถูกลักลอบนำเข้ามาจากที่อื่น หรือกล่าวได้ว่า ฮามาสไม่สามารถสร้างจรวดทันสมัยประเภทที่อิสราเอลอ้างว่าอบูซีซีสร้างขึ้นได้ มันอาจจะประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของขีปณาวุธพิสัยไกลที่ผลิตขึ้นในที่อื่น เช่น อิหร่านเป็นต้น แต่การทำเช่นนี้ไม่จำเป็นจะต้องใช้อบูซีซี เพราะการประกอบเป็นเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการผลิตจากภาพร่าง

    ถึงกระนั้น ฮามาสก็สามารถโต้แย้งการกล่าวอ้างของอิสราเอลได้ว่า มันมีโครงการผลิตจรวดขนาดใหญ่ภายในกาซ่า มันสามารถโต้แย้งได้ว่ากลุ่มต้านทานของปาเลสไตน์กลุ่มนี้มีศักยภาพในการโจมตีใจกลางของอิสราเอลได้ก็เพราะมีวิศวกรที่ชาญฉลาดด้านจรวดที่ทำงานกับฮามาส

    อบูซีซีถูกตัดออกจากการแลกเปลี่ยนนักโทษสองครั้ง

    มีการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่สองครั้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์นับตั้งแต่ดิรอร อบูซีซีถูกจับกุม เขาไม่ถูกรวมอยู่ในทั้งสองครั้งนั้น อิสราเอลอ้างในตอนนั้นว่า เพราะนักโทษที่ถูกพิจารณาคดีความผิดอาญาของพวกเขาแล้วเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับการปล่อยตัว เมื่อภรรยาของอบูซีซีมาที่กระทรวงกิจการนักโทษเพื่อถามว่า ทำไมฮามาสจึงไม่โน้มน้าวให้รวมอบูซีซีเข้าในรายชื่อนักโทษแลกเปลี่ยนด้วย พวกเขาอ้างว่ารายชื่อเหล่านั้นถูกจัดเตรียมโดยอิสราเอล
    หลังจากการแลกเปลี่ยนครั้งแรก ผมติดต่อ Gershon Baskin ผู้เจรจาฝ่ายอิสราเอลที่เข้าเจรจาข้อตกลงกับฮามาส ผมถามว่า เขาจะถามฮามาสแทนอบูซีซีไหม Baskin ไม่เคยตอบ

    อบูซีซีไม่มีสัญชาติ ไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีเพื่อน ไม่มีมิตร เขาไม่ใช่ทั้งฟาตาห์และฮามาส ไม่มีใครสนใจคนที่ไม่ให้ความจงรักภักดี ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเรือนจำ Shabak รับรู้เรื่องนี้ดีและใช้ประโยชน์จากมัน มันรู้ว่ามันสามารถล่วงละเมิดนักโทษเช่นนี้ได้ตามต้องการ และจะไม่มีใครส่งเสียงหรือยื่นมือเข้ามาช่วย

    มีข่าวลือว่าเจ้าหน้าที่เยอรมันกำลังเป็นตัวกลางในการเจรจาเรื่องการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งที่สามกับฮามาส มันจะเป็นการนำร่างของทหาร IDF สองคนที่เสียชีวิตในสงครามเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วกับทหารอิสราเอลที่มีชีวิตอยู่สองคนที่เข้าไปในกาซ่าในช่วงปีที่ผ่านมากลับบ้าน อบูซีซีจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกปล่อยตัว

    สิ่งเดียวที่อาจจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ก็คือการกระจายข่าวออกไป ทำให้เกิดการขุ่นเคืองอิสราเอลในสื่อต่างประเทศจากการปฏิบัติไม่ดีกับผู้ชายคนนี้ ถ้าเนื้อเรื่องถูกบอกเล่าออกไปมากพอ ถ้าภาพลักษณ์ของอิสราเอลถูกทำลายมากพอ มันอาจจะกระตุ้นให้เกิดการยืดหยุ่นได้บ้างและมีการตอบสนองในทางที่ดีขึ้น

    หลังจากอ่านเรื่อง Truthout ฉบับดั้งเดิมของผมเกี่ยวกับคดีนี้ Gabriel Gatehouse ได้นำมันไปสร้างเป็นสารคดี 30 นาทีของ BBC เขาเดินทางไปยูเครน กาซ่า และอิสราเอล และได้สัมภาษณ์บุคคลสำคัญทั้งหมดในคดีนี้ การรายงานข่าวเช่นนั้นมากยิ่งขึ้น อาจจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของอบูซีซีได้

    ———

    Source : Kidnapped Abroad And Solitary Confinement: This Is What Due Process Looks Like For A Palestinian In Israel

    By Richard Silverstein

    แปล กองบก.เอบีนิวส์ทูเดย์


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    การบังคับบุคคลให้สูญหายและการขังเดี่ยว ดูเหมือนเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมกับชาวปาเลสไตน์??
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียไม่ซ่อนมัน ... ทีวีรัสเซียอธิบาย ดาวเคราะห์ X NIBIRU จันทร์ 17 สิงหาคม, 2015 13:18 Kate Ryna Daring Zon Staff ( Russia Don’t Hide It… Russian TV Explains NIBIRU PLANET X Monday, 17 August 2015 13:18 Kate Ryna Daring Zon Staff )
     
    ว้าว ... มันช่างน่ามีชีวิตชีวากับข้อมูลเหล่านี้ในที่สุดซึ่งสำคัญมาก มาจากสื่อตะวันตกที่ได้รับเป็นส่วนเล็ก ๆ ... ...รัสเซียมีความตรงไปตรงมามากขึ้นในเรื่องที่มีผลกระทบต่อคนทั้งโลกนี้ ... ในตะวันตก ผู้ที่รับรู้จะมีการเตรียมความพร้อมที่จะถือเอาเหตุการณ์ Nibiru ไปใช้ประโยชน์กับโลก ... แต่พวกเขาจะไม่ได้และไม่สามารถประสบความสำเร็จ
    Wow… it is refreshing to have this information finally going more mainstream. Coming from the western media has been mostly subliminal… and bits and pieces…. the Russians are much more forthright on this matter that affects the entire world… in the west, those in the know are preparing to use the Nibiru event, to take over the world… but they won’t and cannot succeed.

    [​IMG]
    มนุษย์ได้รับการกระโดดระยะเวลาที่ผ่านขั้นตอนนี้ ... การกำหนดเวลาที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นการคาดการณ์เวลาที่อาจจะเป็นให้ไกลออกไป ... แต่ ลูกบอลไฟ, การบิดเบี้ยวสนามแม่เหล็ก กิจกรรมอาทิตย์ที่ผิดปรกติ แม้กระทั่งฝนสีแดง ฯลฯ ... ทั้งหมดจะดำเนินการต่อ ... ซึ่งสาเหตุมาจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งบ่อยครั้งไม่ถูกยอมรับ ... เราให้เกียรติรัสเซียสำหรับการช่วยให้โลกออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้
    Humans have been jumping timelines through this process… so predicted timings may be off... but the fireballs, the bending magnetosphere, the weird sun activity, even RED RAIN etc… all are continuing... caused from a source, often unacknowledged… we honor the Russians for helping the world out on this matter.


    [​IMG]
    ชมวีดีโอ ครับ

    [​IMG]

    https://www.youtube.com/watch?v=IOmaNg_9oIg

    ทีวีรัสเซียแสดงให้เห็น NIBIRU PLANET X - รัสเซียไม่ได้ซ่อนมัน (สิงหาคม 2015) Russian TV shows NIBIRU PLANET X - RUSSIA DONT HIDE IT (Aug, 2015) โดย USA-UK News

    วิดีโอด้านล่างถูกถ่ายทอดวันที่ 13 สิงหาคม 2015
    The video below was shot on August 13, 2015

    https://youtu.be/rppFzvNSiBs

    Nibiru 8/12/15 โดย Matthew Toal

    Russia Don’t Hide It… Russian TV Explains NIBIRU PLANET X
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont )
    ซาอุดิฯยึดเกาะ Socotra ของเยเมนในอ่าว Aden สร้างฐานทัพเรือของตัวเอง - Fars News Agency รายงาน

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ (17 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news : ซาอุดิอาระเบียก่อสร้างฐานทัพเรือบนเกาะของเยเมนหลังเข้ายึดครอง รางานข่าวเบื้องต้นบอกว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังก่อสร้างฐานทัพเรือขนาดใหญ่บนเกาะ Socotra ของเเยเมน ซึ่งซาอุดิฯได้เข้าไปรุกรานและยึดครองช่วงเกิดความขัดแย้งทางกองทัพระหว่างสองประเทศเมื่อเร็วๆนี้ รายงานข่าวจากสำนักข่าว Fars News Agency ของอิหร่าน
    เว็บไซต์ของ FNA ลงข่าวว่า "ขณะนี้ทางซาอุดิอาระเบียกำลังส่งคนงานจากกลุ่มประเทศเอเซียจำนวนหลายร้อยคนเข้าไปทำงานก่อสร้างฐานทัพเรือของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียบนเกาะ Socotra"
    หมู่เกาะ Socotra อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของเยเมนราว 400 กิโลเมตร ในมหาสมุทรอินเดีย (ทะเลอาระเบียน) และประกอบด้วยเกาะ 4 แห่ง เกาะที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่า "Socotra" (โซโกตร้า) รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 2008
    เป็นไงเล่าการล่าอาณานิคมสมัยปัจจุบันของซาอุดิอารเบีย สหรัฐฯและตะวันตกก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นตามเคย เพราะพึ่งจะขายขีปนาวุธแพรทริออตให้ซาอุดิไปหยกๆ วันข้างหน้าจักรวรรดิเฮเกอาจจะเป็นผู้เข้าไปใช้ฐานทัพเรือแห่งนี้ร่วมหรือแทนกองทัพซาอุดิฯก็ได้ งานนี้ต้องบอกว่าซาอุดิฯ เจ๋งกว่าสหรัฐฯที่พยายามจะเข้ายึดเกาะภูเก็ตโดยอ้างว่าขอใช้สนามบินเพื่อสอดแนมผู้อพยพชาวโรงฮิงญาเมื่อเร็วๆนี้ แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปเพราะทันรู้ทันแผนของจักรวรรดิเฮเก งานนี้ซาอุดิฯ ไม่ต้องใช้อ้ออ้างเรื่องผู้อพยพเลย ส่งกองทัพเข้าไปยึดเห็นๆ ในช่วงที่การเมืองภายในของเยเมนกำลังมีปัญหา ประเทศเกิดสงครามกลางเมือง นักการเมืองและผู้นำของเยเมนไปฝักใฝ่ฝ่ายศัตรูที่ยกทัพเข้าไปรุกรานเยเมน ชักศึกเข้าบ้าน ยกแผ่นดินเกิดของตนให้ต่างชาติ เนื่องจากหมู่เกาะแห่งนี้อยู่ในพื้นที่การควบคุมของกองกำลังโปรฮาดี้ กลุ่มฮูติเข้าไม่ถึง สุดท้ายก็เสร็จซาอุดิฯ
    ส่วนกองทัพเยเมนกับนักรบกลุ่มฮูติก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เดินหน้าถล่มฐานทัพทางตอนใต้ของซาอุดิฯแถวพรมแดนติดกันกับเยเมน ล่าสุดรายงานข่าวจากฝั่งอิหร่าน (ลูกพี่เยเมน) บอกว่า กองกำลังของเยเมนเปิดฉากถล่มฐานที่มั่นทางทหารของกองทัพซาอุดิฯ ในพื้นที่ al-Ramza จังหวัด Jizan (อยู่ติดกับทะเลแดง) ด้วยขีปนาวุป (อะไรไม่ได้บอก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น จรวดแกรด BM-21 เวอร์ชั่นอิหร่านตามที่เคยรายงานให้ทราบก่อนหน้านี้) จำนวน 28 ลูก สังหารทหารซาอุดิฯไปได้ 7 คน ส่วนอีกพื่นที่หนึ่งที่่กลุ่ม Ansarullah ของเยเมนถล่มฐานที่มั่นทางทหารของซาอุดิฯก็คือที่ Dhahran Asir ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนของเยเมนเช่นกัน รายงานข่าวเบื้องต้นบอกว่าฝั่งเยเมนสามารถสังหารทหารซาอุดิฯไปได้หลายนาย ไม่มีรายละเอียดมาก แต่มีคลิปให้ดู (ลิ้งค์ที่ 4 ดูกลยุทธ์การรบของฝั่งนักรบโสร่งแล้วแม้ว่าอาวุธจะด้อยกว่าของฝั่งตรงข้าม แต่ในเรื่องฝีมือและใจนี่บอกได้เลยว่าเหนือกว่าฝั่งตรงข้ามหลายขุมนัก
    The Eyes
    17/08/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ KHALED FAZAA

    ----------
    Saudi Arabia Constructs Naval Base on Yemeni Island After Its Occupation / Sputnik International
    Farsnews
    Farsnews
    Farsnews
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont )

    สหรัฐฯโดนอีกหมัด! รัสเซียสั่งแบนไวน์ด้อยคุณภาพเจือปนสารเคมีเป็นอันตรายของสหรัฐน 3 ชนิด

    [​IMG]

    -----------
    มะ! จักรวรรดิเฮเกอยากเล่นสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซียใช่ไหม? รัสเซียจัดให้ อย่าโวยวายละกัน วันนี้ (17 ส.ค.58) Sputnik news รายงานว่า องค์กรเฝ้าระวังด้านอาหารและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร (Rospotrebnadzor) ของรัสเซียได้สั่งห้ามขายไวน์สามชนิดของสหรัฐฯ เนื่องจากตรวจพบว่าเจือปนด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายมีความเข้มข้นสูงเกินกว่ามาตรฐาน
    รายงานข่าวจากกรุงมอสโคว์บอกว่า องค์กรเฝ้าระวังด้านสุขภาพอนามัยของรัสเซียที่ชื่อ Rospotrebnadzor กล่าวว่า "การสั่งห้าม (ขายไวน์) ดังกล่าวก็เนื่องจากเป็นการละเมิดกฎหมายในด้านการถูกสุขอนามัยและด้านสุขลักษะระบาดวิทยาของประชากร โดยอ้างถึงไวน์แดงแห้ง (dry red wine) ยี่ห้อ Geyser Peak Merlot ซึ่งผลิตโดยบริษัท Geyser Peak Winery ไวน์ขาวหวาน (sweet white wine) ยี่ห้อ Crane Lake Moscato ผลิตโดย Crane Lake Cellars และไวน์ขาวกึ่งหวาน (semi-dry white wine) ยี่ห้อ Gnarly Head Chardonnay ผลิตโดย Delicato Family Vineyards"
    หน่วยงาน Rospotrebnadzor ของรัสเซียออกแถลงการณ์ ในเว็บไซต์ของตนว่า "ชุดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ของอเมริกันตามที่มีการกล่าวถึงซึ่งไม่สอดคล้องกับกฎหมายในปัจจุบันนั้น ได้ถูกนำออกจากการจัดจำหน่าย Rospotrebnadzor จะดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ต่อไป" (รัสเซียบอกว่างานนี้เอาจริง ใครจะขาดทุนมากกว่ากันให้มันรู้ไป)
    Rospotrebnadzor กล่าวต่ออีกว่า "จากการตรวจสอบพบว่ามีความเข้มข้นสูงของสารเคมีพาตาเล็ต (phthalate chemicals) เจือปนอยู่ในไวน์ของบริษัท Gnarly Head Chardonnay และมีกำจัดศัตรูพืชและแมลง (pesticide) ทั้งประเภท phthalate และ bifenazate ระดับสูงอยู่ในไวน์ของทั้งบริษัท Geyser Peak Merlot และบริษัท Crane Lake Moscato ด้วย" (กรรม!)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า สารเคมี Phthalates เหล่านี้ถือว่าเป็นสารที่เป็นอันตรายในกลุ่มแรก (first class of danger) ตามตัวชี้วัดทางพิษวิทยาสุขอนามัยและสารที่มีความเป็นพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆในระบบประสาทส่วนกลางและที่ต่อเนื่องกันและระบบต่อไร้ท่อ (endocrine system) (ภายในร่างกาย) ซึ่งรวมถึงเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง และปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับภาวะการมีบุตรยากในทั้งชายและหญิง (ตอนนี้กลุ่มประเทศบอลติกกำลังประสบกับปัญหาอัตราประชากรลดลงเป็นอย่างมาก มีอัตราการเกิดของประชากรอยู่ในระดับต่ำ ไม่รู้ว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้นิยมทานไวน์ของอเมริกาด้วยหรือเปล่า แต่พักหลังมานี้กลุ่มประเทศเหล่านี้หันไปเป็นโปรอเมริกามากขึ้น)
    เอาหละเหวย!... ในไวน์ของสหรัฐฯมีสารเคมีที่เป็นอันตรายด้วยรึ? ตายหละหว่า แล้วที่ขายกันอยู่ทั่วโลกนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างหละนี่ รู้สึกว่ามาตรฐานของสหรัฐฯกับของรัสเซียจะไม่ตรงกันนะ รัสเซียบอกว่าไวน์ของคุณไม่ได้มาตรฐานเพราะว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภคในระดับสูงเกินมาตรฐานของรัสเซีย แต่สหรัฐฯก็ยังส่งออกไวน์แบบนั้นอยู่ และอาจจะบอกว่านั่นแหละคือมาตรฐานของสหรัฐฯและ ฮึ่ม!
    The Eyes
    17/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Trevor Pittman

    ----------
    Russia Suspends Sale of Three Types of US Wine / Sputnik International
     
  17. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    Nibiru = หนูไม่รู้ <--- แซวเล่น

    หลายปีก่อนฝรั่งเขาว่าจะมาถึงเดือนส.ค.นี้ มาแต่ฝนดาวตก
    ตอนนี้เริ่มขยับไปเดือนต.ค. ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะมาแทนอีกเน่อะ
    ทฤษฎีฝรั่งเขาเยอะเราไล่ตามไม่ทันหรอก ทำนายถูกก็ดังไป
    บางคนทำนายจนแก่ตายไปก็ไม่ถูก ก็ตายแล้วนี้จะแคร์ทำไม

    ถ้าเกิดจริง คนที่เป็นนักวิทย์ที่เชื่อถือได้ ป่านนี้ก็คงออกมาพูด
    แล้วล่ะ แต่นี่ใครก็ไม่รู้ออกมาพูดแบบไม่มีมูลเหตุที่จะสามารถ
    พิสูจน์อะไรได้เลย ถึงแม้ลำพังนาซ่าเราก็ยังไม่เชื่อเลยเพราะ
    บางเรื่องเขาก็ปิดบังประชาชนที่จำยอมเสียภาษีให้เขาทำวิจัย

    ส่วนตัวผมไม่เชื่อ แต่ก็ใช่ว่าจะปิดหูปิดตาไม่สนใจมันอีกต่อไป
    ก็สะสมข้อมูลไปเรื่อย จนกว่าจะมีเหตุให้ระแคะระคายว่าเรื่องนี้
    มีมูล ก็จะเริ่มเชื่อขึ้นมาบ้าง หากถามว่าทำไมไม่เชื่อตั้งแต่แรก
    ยอมรับว่าตอนแรกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน ก็ไม่สนใจป้องกันอยู่ดี

    เพราะส.ค.ที่แล้วว่าจะมาก็ไม่มา คราวนี้ส.ค.นี้ก็จะมาอีกเอาไง
    แน่ ขนาดคำนวณปีผิดเดือนผิด คำนวณวันก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว
    รูปที่ถ่ายได้ก็ไม่รู้จริงมั๊ย ถ้าจริงป่านนี้ก็คงคำนวณวิถีการโคจร
    ได้ไปแล้ว ขนาดบางดาวที่เรามองไม่เห็นยังคำนวณได้เลยอ่ะ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    จับตาตุรกีให้ดีสัญญาณแปลกๆเริ่มขึ้นแล้วครับท่าน... สหรัฐฯถอนขีปนาวุธแพทริออตออกจากตุรกีตามหลังเยอรมันนี

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อเร็วนี้เกิดเหตุการณ์ที่อ้างว่าระบบป้องกันขีนาวุธภาคพื้นสู่อากาศของสหรัฐฯที่ชื่อว่า "Patriot anti-air missiles" ที่กองทัพเยอรมันประจำการอยู่ในตุรกีใกล้พรมแดนซีเรียถูกแฮ็กเกอร์แฮ็กส่งคำสั่งปลอมให้มีการยิงขีปนาวุธโดยไม่ได้ระบุเป้าหมาย (บรรลัยสิครับท่าน!) ต่อมาก็มีข่าวว่าเยอรมันต้องการจะถอนหน่วยขีปนาวุธแพรทริออตของตนออกจากตุรดี อ้างว่าไม่คุ้มค่าใช้จ่าย (ก็ไปเก็บกับตุรกีกับสหรัฐฯสิ)
    วันนี้ก็มีข่าวปรากฏออกมาจากสำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียทั้ง Sputnik news และ RT news โดยอ้างแถลงการณ์จากสถานทูตของสหรัฐฯประจำประเทศตุรดี (เช็คข่าวแล้ว พบว่าเป็นของจริง) ตามรายงานข่าวจาก RT บอกว่า สหรัฐฯได้เดินตามรอยเท้าของเยอรมัน ประกาศว่าจะไม่รับการต่ออายุให้กับระบบป้องกันอากาศแพทริออต (Patriot defense system) ของสหรัฐฯในตุรกีอีกต่อไป หลังจากกำลังจะหมดอายุลงในเดือนตุลาคมนี้ ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยในแถลงการร่วมระหว่างกรุงวอชิงตันกับกรุงอังการา (ดูลิ้งค์อ้างอิงข้างล่าง)
    เว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯในตุรกีกล่าวว่า "ประเทศสหรัฐฯได้แจ้งให้รัฐบาลตุรกีทราบว่าการใช้งานหน่วยป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธแพทริออตของสหรัฐฯซึ่งจะหมดอายุ (การทำสัญญาระหว่างสองประเทศ) ลงในเดือนตุลาคมนี้ จะไม่มีการต่ออายุอีกต่อไป และเป็นการสิ้นสุดสับเปลี่ยนกำลังในปัจจุบัน"
    แถลงการณ์กล่าวต่ออีกว่า "หน่วยฯ (แพทริออต) จะถูกส่งกลับไปยังสหรัฐฯเพื่อทำการอัพเกรท ขีปนาวุธเหล่านั้นจะถูกนำกลับไปยังสหรัฐฯเพื่อทำการปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่ากองกำลังป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ จะยังคงสามารถตอบโต้ภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก (โดยฝีมือใคร?) และปกป้องพันธมิตรและหุ้นส่วน ซึ่งรวมทั้งตุรกีด้วย การติดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯได้มีการตรวจสอบระบบป้องกันขีนปนาวุธทั่วโลก"
    เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาแน่ๆ ก็แสดงว่าจักรวรรดิเฮเกยอมรับแล้วว่าระบบ Patriot ของตัวเองห่วย Oopz!… หมายถึงว่าตกรุ่น ไม่ทันสมัย สู้ของจีนกับรัสเซียไม่ได้แล้ว จึงต้องนำกลับไปอัพเกรทใหม่หละสิ? เอ… แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะนำกลับมาติดตั้งที่ตุรกีอีกหรือไม่ เพียงแต่พูดแบบปรอบใจตุรกีไว้เท่านั้นเองว่าจะปกป้องตุรกี ด้วยการถอนระบบป้องกันภัยทางอากาศออกนี่นะ? ที่ซวยหนักกว่านั้นก็คือ เยอรมันนีกับซาอุดิฯก็พึ่งจะสั่งซื้อแพทริออตตกรุ่นไปจากสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้เอง กรรม! ฮ่าๆๆ ฮิ้วววว เอ… หรือว่าจะถอนอาวุธพวกนี้ไปย้อมแมวขายให้พวกประเทศเศรษฐีิน้ำมันในตะวันออกกลางน้อ? หรือว่าจักรวรรดิเฮเกมีเหตุผลอย่างอื่นที่ไม่อาจจะบอกได้? น่าสนใจนะ
    อ่านข่าวต่อนะครับ รายงานข่าวบอกว่า การตัดสินใจได้เกิดขึ้นหลังจากที่ประเทศเยอรมันซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกนาโต้ประกาศว่าจะถือนระบบป้องกันขีปนาวุธของตนออกจากตุรกี (แพทริออกนี้ก็เป็นขีนปนาวุธระบบหนึ่งที่มีไว้เพื่อป้องกันขีปนาวุธชนิดอื่นและเครื่องบินรบด้วย) โดยก่อนหน้านี้เยอรมันอ้างว่า "ภัยคุกคามเกี่ยวกับขีปนาวุธอยู่ในระดับที่ต่ำ (low ballistic missile threat) และในขณะเดียวกันก็มีค่าใช้จ่ายสูงในปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย" เป็นเหตุผลในการถอนแพทริออตของตนออกจากตุรกี อ้าว! งั้นที่สหรัฐฯกับนาโต้เที่ยวประโคมข่าวว่ารัสเซียก้าวร้าวจะโจมตียุโรปด้วยขีปนาวุธมาโดยตลอดผ่าน propaganda ต่างๆก็ไม่เป็นความจริงนะสิ แล้วจักรวรรดิเฮเกทำอย่างนั้นเพื่ออะไรหละ?
    ก็ต้องเข้าใจว่าเศรษฐกิจของพี่เบิ้มแย่มากๆ และกำลังจะแย่กว่าเดิมด้วย ก็ต้องรีบหารายได้ให้กับประเทศตัวเองด้วยการขายอาวุธที่มีอยู่เต็มคลังแสงนี่แหละ เพื่อจะได้ผลิตรุ่นใหม่ๆออกมา และเพื่อเป็นการขยายกองทัพของตนเข้าสู่ยุโรปตะวันออกให้ได้มากขึ้นเพื่อปิดล้อมรัสเซียด้วย ถ้าไม่บอกว่ารัสเซียจะรุกรานยุโรป แล้วประเทศที่ขี้ตกใจเหล่านั้นจะเชื่อหรือ? ก็ต้องทำให้ดูจริงจังเพื่อให้สมเหตุสมผลหน่อย สุดท้ายประเทศสมาชิกนาโต้ก็เพิ่มงบกลาโหม เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากสหรัฐฯ และเพื่อสั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น จักรวรรดิเฮเกก็นั่งนับเงินสบาย โทษนะปูติน ที่ต้องให้นายรับบทเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลกอีกแล้ว แต่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้วปูตินบอก มุกนี้อาจจะใช้ได้ชั่วคราวเฉพาะกับพวกที่ชอบให้จักรวรรดิเฮเกจูงจมูกกับพวกนักการเมืองที่สมรู้ร่วมคิดกันกับจักรวรรดิเฮเกเท่านั้น แต่พันธมิตรของรัสเซียกับจีนตื่นรู้มากแล้ว
    ตามประวัติศาสตร์เมื่อปี 2012-2013 กล่าวเอาไว้ว่า (นั่นก็เวอร์เกินนะมิน คริๆ) พันธมิตรนาโต้ได้ประจำการระบบป้องกันภัยทางอากาศในตุรกีในปี 2013 หลังจากที่กรุงแองการาร้องขอให้นาโต้ตอบโต้การโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากกองกำลังของประธานาธิบดี Bashar Assad ในซีเรีย Sputnik news รายงานว่า "หลังจากที่กองทัพของซีเรียสอยเครื่องบินรบของตุรกีในเดือนมิถุนายน 2012 และสังหารพลเรือนชาวตุรกีไป 5 คนโดยการยิงจรวดถล่มในเวลาต่อมาในปีนั้น ตุรกีก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังนาโต้" (อุ๊ย! น่าสนใจ... ขอหาข้อมูลก่อนนะครับ เดี๋ยวกลับมา)
    มาแล้วครับขนมจีบซาลาเปา... ม่ายช่าย รายข่าวเบื้องต้นบอกว่าเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2012 กองทัพของซีเรียยิงเครื่องบินสอดแนม (เครื่องบินรบเลยหละ) F-4 Phantom II (RF-4E) ของกองทัพอากาศตุรกีที่บังอาจบินเข้าไปเหนือน่านฟ้าของซีเรียร่วง นักบินดับ กองทัพทั้งสองประเทศร่วมกันค้นหาร่างนักบิน และพบในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลายๆเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างซีเรียกับตุรกีตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในปี 2011 ในซีเรีย CNN ของสหรัฐรายงานว่า ซีเรียไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนก่อนจะยิง F-4 Phantom II ของตุรกี (แต่ CNN ก็ไม่ได้รายงานด้วยว่าเครื่องบินรบของตุรกีได้ขออนุญาตจากซีเรียก่อนจะเข้าไปในซีเรียแล้วหรือไม่ อ่านสื่อฯสหรัฐฯกับตะวันตกนี้ต้องระวังให้ดี ไม่งั้นอาจจะถูกปั่นหัวได้โดยง่าย ถ้าอ่านข่าวนี้จาก CNN ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะมีความรู้สึกว่า เห็นด้วยกับที่เวเนซูเอล่าสั่งให้ตรวจสอบ CNN ของสหรัฐฯในเวเนฯ เพราะผู้สื่อฯข่าวของเขาจะพูดแบบให้ร้ายซีเรียตลอดในกรณีที่ซีเรียยิงเครื่องบินของตุรกีตกในครั้งนี้โดยบอกว่าเป็นความก้าวร้าวของซีเรีย แต่ไม่บอกว่าการกระทำที่รุกรานละเมิดดินแดนน่านฟ้าของผู้อื่นโดยเครื่องบินรบของตุรกีนั้นถูกต้องหรือไม่?)
    รายงานข่าวจากสื่อฯตุรกีบอกว่า "เครื่องบินของตุรกีได้บินเข้าสู่น่านฟ้าอธิปไตยของซีเรียในเวลา 11.42 น. ห่างจากชายฝั่ง 12 ไมล์ (22 กม.) บินห่างจากพื้นดิน 200 ฟุต ณ จุดนี้ เครื่องบินของตุรกีถ้าละเมิดน่านฟ้าของซีเรียไปแล้ว และบินอยู่รอบๆประมาณ 5 นาทีเหนือน่านฟ้าของซีเรีย..." (...The aircraft arrived at 11:42 on the boundary of Syrian sovereign airspace, 12 nmi (22 km) out from the coastline, flying at 200 ft. At this point, the aircraft violated Syrian airspace, and flew around for five minutes within its airspace… - ข้อจากวิกิพีเดีย อ้างอิงจากสื่อฯตุรกี) เห็นอย่างนี้กองทัพป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียจะเก็บไว้ทำไมหละครับ? ทางตุรกีอ้างว่าส่งเครื่องบินสอดแนมลำนี้ออกไปเพื่อทดสอบระบบเรด้าของฝั่งตุรกี ฮึ่ม… ก็ว่ากันไป
    ส่วนที่เหลือจากข่าวใน RT ก็จะพูดถึงเรื่องไอซิส เรื่อง PKK ของชาวเคิร์ด ก็ไม่มีอะไรมากของไม่แปลต่อละกันนะครับ ก็คล้ายๆกับที่เคยเล่ามาให้ฟังเรื่อยๆในโพสต์ก่อนหน้านี้ในหลายๆโพสต์นั่นแหละ อ้อ… สองย่อหน้าสุดท้าย RT อ้างหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ของสหรัฐฯว่า "เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของเพนาตาก้อนได้ตั้งคำถามต่อพันธกรณีของตุรกีที่มีต่อพันธมิตรกองกำลังต่อต้านไอซิส ซึ่งสงสัยว่ากรุงอังการากำลังใช้ตำแหน่งของตนเพื่อขับเคลื่อนต่อต้านชาวเคิร์ดหรือเปล่า?"
    อ้าวซวยหละสิ ถูกจับได้ซะแล้ว เห็นมะ... ตรงกับที่เพจนี้เคยมโนให้ฟังก่อนหน้านี้หรือเปล่าว่าเป้าหมายของตุรกีนั้นก็คือชาวเคิร์ด ไม่ใช่ไอซิส สหรัฐฯและอียูก็รู้ แต่ด้วยสายเลือกของนักล่าอดีตจักรวรรดิโรมันที่ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ยุโรปและจักรวรรดิเฮเกในปัจจุบัน ตุรกีจึงอดใจไว้ไม่ไหวยังไงซะก็ตั้งยึดพื้นที่ในการปกครองของชาวเคิร์ดมาเป็นของตนให้ได้ นักล่ามองตานักล่าด้วยกันย่อมเข้าใจกันได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งคิดอะไรอยู่ เยอรมันรู้ก่อนเลยว่า ตุรกีเริ่มจะออกลายหละ ส่วนจักรวรรดิเฮเกนั้นรู้กันมานานแล้ว ดังนั้นเยอรมันนีจึงหาข้ออ้างขอถอนตัวออกจากเกมนี้ดีกว่า เพราะว่างานนี้รัสเซียหนุนซีเรียเต็มที่ และฝ่ายรัสเซียใช้วิธีทางการทูต ไม่ได้ใช้อาวุธและเครื่องบินรบบินไปถล่มฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตนเหมือนอย่างที่จักรวรรดิเฮเกกับตะวันตกทำอยู่บ่อยๆ ถ้าขืนเยอรมันถอนตัวช้าก็อาจจะถูกมองว่าเป็นผู้รุกรานในที่สุด สู้ไปขายอาวุธและฝึกนักรบให้ชาวเคิร์ดไปลุยกับเติร์กดีกว่า อ้าว… เมื่อเยอรมันก็ไม่เอาด้วย แล้วจักรวรรดิเฮเก้จะอยู่ต่อไปทำไมหละครับ อียูไม่เอาด้วยแล้วนี่
    สุดท้ายสื่อฯสหรัฐฯ ก็อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทางกองทัพของสหรัฐฯว่า "เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ไอซิสเป็นแค่ตะขอเบ็ด (It’s clear that ISIL was a hook) ตุรกีต้องการที่จะเดินหน้าต่อต้าน PKK แต่ตุรกีต้องการเบ็ด" (ฮ่าๆๆ นาโต้เล่นกันเองซะแล้วครับท่าน เดาสิว่าตุรกีจะปะทะคารมกับจักรวรรดิเฮเกอย่างไรบ้าง ถ้าตุรกีมีความกล้าพอนะ ก็อาจจะบอกว่าไอซิสนั้นคือตะขอเบ็ดที่จักรวรรดิเฮเกเอาไว้ต่อต้านซีเรีย หากจักรวรรดิเฮเกต้องการจะได้ซีเรีย จักรวรรดิเฮเกก็ต้องมีไอซิส คริๆ)
    The Eyes
    17/08/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ BULENT KILIC

    ----------
    US to pull Patriot anti-air missiles from Turkey — RT News
    Good Riddance: US to Withdraw Patriot Missiles From Turkey / Sputnik International
    US Army is Falling Apart and Washington is to Blame - Retired Major General / Sputnik International
    No NATO, No Cry? Germany to Withdraw Patriot Missiles From Turkey Border / Sputnik International
    US Patriot missile battery crews arrive in Turkey — RT News
    Turkey says warplane shot down by Syria | Fox News
    Syrian downing of Turkish plane condemned; NATO to meet - CNN.com
    Turkey goes to Nato over plane it says Syria downed in international airspace | World news | The Guardian
    https://en.wikipedia.org/wiki/June_2012_interception_of_Turkish_aircraft#cite_note-ah-5
    PRESS RELEASES | Ankara, Turkey - Embassy of the United States
    https://www.youtube.com/watch?v=4j5-B7uG7es
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    หนึ่งในต้นแบบผู้นำระดับประเทศที่ยึดแนวทางการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

    [​IMG]

    -----------

    https://www.youtube.com/watch?v=WB7XvtppOfc#t=163

    ลุงหนวดที่เห็นในคลิปนี้ตอนเก็บมันฝรั่งกับผ่าแตงโมนี้ ไม่ใช่ใครหลอกนะครับ ท่านคือนาย Alexander Lukashenko ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศเบลารุส (Belarus) ใช้เวลาช่วงวันหยุดวันอาทิตย์กับครอบครัวพร้อมด้วยลูกชายของเขาทำการเกษตรเก็บเกี่ยวมันฝรั่งที่ปลูกไว้เอง กินเอง เหลือกินก็แจกจ่ายบ้าง ขายบ้าง ติดดินจริงๆ ชอบอ่ะ เจอครั้งแรกตอนมีข่าวเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน ที่มีการจัดการประชุมเจรจาสันติภาพ 4 ฝ่ายที่กรุงมินส์กประเทศเบลารุส เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีปธน. Alexander Lukashenko เป็นเจ้าภาพนั่นแหละครับ คนนี้ซี้ปูตินกับเฮียสีจิ้นผิงเลยหละ
    The Eyes
    17/08/2558


    ภาพจาก © FOTO: PRESIDENT OF THE REPUBLIC OF BELARUS


    Lea más en Presidente bielorruso cosecha papas con su hijo / Sputnik Mundo

    ----------
    https://www.youtube.com/watch?v=WB7XvtppOfc#t=163
    Presidente bielorruso cosecha papas con su hijo / Sputnik Mundo
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    กองทัพสหรัฐฯใกล้แตก! ต้องตำหนิกรุงวอชิงตัน - อดีตนายพลสหรัฐฯกล่าว

    [​IMG]

    -----------
    ว้าวๆๆ!... ชอบข่าวนี้อ่ะ... วันนี้ (17 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "US Army is Falling Apart and Washington is to Blame - Retired Major General" (กองทัพสหรัฐฯกำลังแตกสลาย และกรุงวอชิงตันสมควรถูกตำหนิ - นายพลปลดเกษียณกล่าว) โอมเพี้ยง!!! ขอให้เป็นเช่นนั้นจริงๆเหอะ โลกนี้จะสงบขึ้นเยอะมากๆ อุยส์... เก็บอาการหน่อยครับแอ็ดมิน คริๆ เดี๋ยวโปรอเมริกาก็พากันมาดิ้นหน้าเพจอีกหรอก
    "เป็นครั้งที่ 3 ในยุคหลัง WWII ที่กองทัพสหรัฐฯกำลังจะแตก (เป็นเสี่ยงๆ) และผู้ร้ายคนสำคัญก็ผู้นำที่หูหนวก ทรยศ ไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์อยู่ในกรุงวอชิงตัน" (the main culprit is the "ungrateful, ahistorical and strategically tone-deaf leadership in Washington) พลตรี Robert H. Scales อดีตนายพลในกองทัพสหรัฐฯผู้มีชื่อเสียงเจ้าของคำพูดที่ว่า "เริ่มต้นด้วยการฆ่าพวกรัสเซีย" (start killing Russians) (ในช่วงที่เกิดสงครามในยูเครนตะวันออก อูยส์... งานนี้อเมริกาซัดกันเองชะแล้วครับท่าน ฮ่าๆๆ อดีตนายทหารเลือดร้อนผู้คลั่งไคล้สงครามออกมาด่าผู้นำบางคนที่นั่งอยู่ในกรุงวอชิงตัน งานนี้ไม่เกี่ยวกับเฮียปูตินและอาเฮียสีจิ้นผิงนะครับ จักรวรรดิเฮเกไปเคลียร์กันเองนะ)
    สื่อฯรัสเซียรายงานต่อไปว่า "ในข้อเสนอแนะทางเลือกบางอย่างเมื่อเร็วๆนี้ Robert H. Scales ได้ประณาม (condemned) ฝ่ายบริหารของโอบาม่าที่ปรับลดทหารลง 40,000 อัตรา (อู้อันนี้ชัดเลยอ่ะ แอ็ดมินไม่เกี่ยวนะ แปลตามต้นฉบับอ่ะ อย่าตามมาฟ้องร้องกันนะครับ คริๆ) พร้อมทั้งเป็นอันตรายต่อการติดตั้งอาวุธใหม่และการฝึกอบรมที่เหมาะสมให้กับกองทัพ"
    Robert H. Scales กล่าวว่า "นาย Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า 'กองทัพจะไม่มีเงินมากพอสำหรับการฝึกทหารส่วนมากเหนือระดับหมู่ (squad level) ในปีนี้' ทหารจำเป็นต้องต่อสู้ด้วยอาวุธใหม่ๆ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานี้ กองทัพได้ยกเลิกโปรแกรมขนาดใหญ่ไปแล้วถึง 20 โปรแกรม (ปฏิบัติการ) เลื่อนออกไปอีก 125 โปรแกรม และจัดโครงสร้างใหม่อีก 124 โปรแกรม กองทัพจะไม่หารถถังยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ ปืนใหญ่ และอากาศยานรุ่นใหม่เข้าไปแทนยุคเรแกน อย่างน้อยก็หนึ่งเจนเนอร์ชั่น" (ว้าว! ความจริงถูกเปิดเผยออกมาแล้วครับพี่น้อง ก่อนหน้านี้ทำเป็นขู่ไทยว่า ถ้าประเทศไทยจะยอมเป็นประชาธิปไตยและให้มีการเลือกตั้งซะก่อน จักรวรรดิเฮเกโมนีก็จะไม่ซ้อมเข้าร่วมซ้อมรบภายใต้ปฏิบัติการคอบร้าโกลด์ 2015 ด้วย และจะไม่ให้เงินสนับสนุน ngo ทุนต่างชาติล้มเจ้าหมิ่นสถาบันฯด้วยนะ ปัดโถที่แท้ก็ถังแตกนี่เอง กำลังหาทางลงสวยๆให้ตัวเองว่างั้นเถอะ ทำเป็นอ้างโน่นอ้างนี้ เฮ้อ…)
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า แนวโน้มนี้จะถูกนำไปบังคับใช้อีก หากยังมีการตัดงบประมาณอยู่อย่างนี้ Robert H. Scales เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ Washington Post ในอีกสองปีข้างหน้า ดูเหมือนว่าขนาดของกองทัพสหรัฐฯจะมีการปรับลดลงอีกประมาณ 40,000 นาย (อัยย๊ะ! ในแง่ของเศรษฐกิจและปากท้องหมายความว่าอะไรครับ? ก็หมายความว่าจะมีคนตกงานเพิ่มเป็น 80,000 อัตราในประเทศสหรัฐฯนะสิครับท่าน นึกภาพกราฟการเปรียบเทียบดุลการค้าสหรัฐฯกับจีนและประเทศอื่นๆที่นำมาเล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันนี้ขึ้นมาพอดีเลย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯเสียดุลการค้าติดต่อกันมาหลายปีมาก เขาบริหารเศรษฐกิจและการค้ากันอย่างไรก็ไม่รู้ จนทำให้นักเศรษฐศาสตร์ระดับศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐฯ คิดว่าการขาดดุลการค้าเป็นเรื่องที่ดี และตำหนิเยอรมันที่ได้ดุลการค้ามากกว่าสหรัฐฯ ประมาณว่าบริหารไม่ดี บริหารเศรษฐกิจอย่างไรถึงทำให้เกินดุลการค้าระหว่างประเทศได้ ทำไมถึงไม่ทำให้ขาดดุลการค้าระหว่างประเทศอย่างที่สหรัฐฯทำให้ดูเป็นตัวอย่างมาโดยตลอดนี้ ต้องนำเข้ามากกว่าส่งออกสิถึงจะเป็นอเมริกันสไตล์ กรรม! มิน่าเศรษฐกิจอเมริกาถึงได้เจ๊งอย่างนี้ เรื่องนี้เคยเล่าให้ฟังแล้วนะครับ)
    ท่านนายพลปลดเกษียณเจ้าของคำพูด "เริ่มต้นด้วยการฆ่าชาวรัสเซีย" (ตอนนั้นเขาพูดออกทีวีเลยนะ มีคลิปอยู่ในยูทูปด้วยนะ) คนนี้กล่าวต่ออีกว่า "ความกังวลทั้งหมดเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ณ ตอนนี้กองทัพสหรัฐฯไม่ได้อยู่ในขนาดที่ดีที่สุดอีกแล้ว: จ่าและเจ้าหน้าที่หนุ่มๆออกจากกองทัพ ในขณะที่การฆ่าตัวตาย การล่วงละเมิดในครอบครัว ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอลและยาเสพติดเพิ่มขึ้น" (โอ้ว! นั่นคือความจริงอีกด้านหนึ่งของกองทัพสหรัฐฯ และอดีตทหารจากกองทัพสหรัฐฯในวันนี้ นี่จากปากของนายพลปลดเกษียณจากกองทัพสหรัฐฯเลยนะนี่ สังคมอเมริกาบางมุม ณ วันนี้เป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ? ส่วนดีๆก็มี หนังฮอลลีวูดของเขานำเสนออยู่บ่อยๆ แต่นี่เป็นส่วนที่สังคมโลกทั่วไปส่วนมากไม่ค่อยจะได้ยิน เราจึงนำมาบอกเล่ากันต่อ)
    Robert H. Scales ชี้ให้เห็นอีกว่า "เพื่อให้แน่ใจ ประเทศชาติกำลังลดขนาดของกองทัพของตนเองลงเรื่อยๆ เนื่องจากลดสงครามเบาบางลง ฝ่ายบริการด้านอื่นๆได้รับความทุกข์ยากจากการปรับลดขนาดและการตัดงบประมาณ แต่กองทัพแตก ใครก็ได้ช่วยบอกพวกเราที่เข้ารับหน้าที่ (ในกองทัพ) ด้วยว่าทำไมการให้บริการที่กำลังจะเหือดแห้งและตายทั้งหมดในสงคราม ถึงเป็นฝ่ายที่ได้รับรางวัลน้อยที่สุด" (หมอนี่คงคลั่งสงครามสุดๆ เขาคิดว่าการมีสงครามนั้นคือการทำให้กองทัพมีรายได้ บุคคลากรในกองทัพมีงานทำมีความอยู่ดีกินดี แต่เขาไม่คิดถึงผลที่เกิดขึ้นจากอีกด้านหนึี่งของสงครามเลย แล้วก็โทษคนอื่นๆว่าบรรดาเหล่าทหารที่ปลดประการไปและมีปัญหาต่างๆนั้นมาจากการกระทำของคนอื่น หมายถึงมาจากการตัดงบประมาณ ถ้าไม่ตัดแล้ปัญหาเหล่านั้นจะหายไปหรือไม่?)
    สุดท้าย… รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกนิดหน่อยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพและนัการเมืองเป็นจำนวนมากต่างก็พากันออกมาต่อว่านายโอบาม่าในการปรับลดความเข้มแข็ง (ของกองทัพ) พวกเขาอ้างว่ากองกำลังที่ีมีการลดขนาดลงจะไม่สามารถปกป้องประเทศสหรัฐฯและรับมือกับความท้ายในที่ไหนๆได้ (จริงดิ? ไม่ใช่ไม่สามารถรุกรานผู้อื่นได้อย่างที่เคยทำมาให้อดีตแล้วหรอกรึ? มิน่าจักรวรรดิเฮเกถึงไม่ยอมส่งกองทัพของตัวเองเข้าไปลุยในยุเมนและในซีเรียด้วยตัวเอง โดยในเยเมนเล่นสงครามตัวแทน ส่วนในซีเรียก็เน้นใช้เครื่องบินรบโจมตีทางอากาศแทน ไม่เห็นห้าวเหมือนอย่างในคราวที่บุกอิรัคกับอัฟกานิสถานเลยนิ แต่นิสัยพวกนี้ชอบเล่นขี้โกงหน้าด้านๆ ชอบชกใต้เข็มขัด อย่างในกรณีของเยเมน สหรัฐฯสนับสนุนอาวุธให้ซาอุดิฯได้เต็มที่ในการรุกรานเยเมน แต่ห้ามประเทศไหนสนับสนุนอาวุธให้กับเยเมนเพื่อใช้สู้รบกับซาอุดิฯ ถ้าถูกจับได้ก็จะแซงชั่นประเทศนั้นด้วย)
    The Eyes
    17/08/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ VANO SHLAMOV

    ----------
    US Army is Falling Apart and Washington is to Blame - Retired Major General / Sputnik International
     

แชร์หน้านี้

Loading...