ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ผ่าน RT

    [​IMG]

    พวกเขากำลังทดสอบเครื่องป้องกัน เพราะพวกเขาพยายามที่จะหยุดการมาถึงของคลื่นกาแลคซี ที่กำลังจะมาถึงเรา ....... <<< ~~~
    คุณจริงๆต้องดูผ่านทั้งหมดของพวกเขาพล่ามอีโมติคอนพริบ
    ~~~>>> guys guys guys, tHey are testing the Shields BECAUSE tHey are TRYING TO STOP THE INCOMING GALACTIC WAVE from reaching Us....... <<<~~~

    you really need to SEE through all tHeir BullShit อีโมติคอน wink

    เครื่องกำบัง! เซิร์นกำลังทดสอบ ตัวนำยิ่งยวดสำหรับเป็นตัวเบี่ยงเบนรังสีในยานอวกาศ ตีพิมพ์วันที่ : 7 สิงหาคม 2015 20:53 (Shields up! CERN testing superconductor for spaceship radiation deflector Published time: 7 Aug, 2015 20:53)

    รังสีอวกาศอาจไม่เป็นปัญหาถ้าเซิร์นจัดการเพื่อสร้างโล่ superconducive
    Space radiation may no longer be a problem, if CERN manages to create a superconducive shield

    องค์การยุโรปเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ (CERN) กำลังจะช่วยสร้างโล่ท่ออวกาศที่อาจทำให้นักสำรวจที่จะเดินทางไปไกลถึงขอบระบบสุริยะของเราและอื่น ๆ โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานจากการสัมผัสกับรังสีพื้นที่อันตราย
    The European Organization for Nuclear Research (CERN) is helping to create a space vessel shield that could allow explorers to travel to the far reaches of our solar system and beyond, without suffering from exposure to harmful space radiation.

    ตั้งแต่ปี 2013 สหภาพยุโรปได้สนับสนุนโครงการเครื่องกำบัง ตัวนำยิ่งยวด เพื่อป้องกันรังสีในอวกาศของยุโรป (SR2S) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสถาบันการศึกษาชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์ซึ่งเซิร์น ที่มีฐานตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้เข้าร่วมในขณะนี้
    Since 2013, the EU has funded the European Space Radiation Superconducting Shield (SR2S) project, a collaboration between leading scientific institutions, which CERN, based in Switzerland, has now joined.

    เซิร์นที่มีชื่อเสียงในการเป็นบ้านเกิดของเวิลด์ไวด์เว็บโฮสติ้งและเครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่ กำลังจัดเตรียมส่วนประกอบซึ่งอาจถูกนำมาใช้ในการเป็นเครื่องป้องกัน สำหรับการทดสอบมัน จะใช้ diboride แมกนีเซียม (MgB2) ตัวนำยิ่งยวดทำลายสถิติที่มีคุณสมบัติถูกค้นพบเพียงสิบสี่ปีที่ผ่านมา
    CERN, famous for being the birthplace of the World Wide Web and hosting the Large Hadron Collider, is providing the material, which may be used in the shield. For its tests, it will be using magnesium diboride (MgB2), a record-breaking superconductor, whose properties were only discovered fourteen years ago.

    "ในกรอบของโครงการที่เราจะทดสอบในหลายๆเดือนที่กำลังจะมาถึง ขดลวดสนามแข่งจะพันด้วยเทปที่เป็นตัวนำยิ่งยวด MgB2 ขดลวดต้นแบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัดปริมาณประสิทธิภาพของเทคโนโลยีป้องกันสัญญาณรบกวนแม่เหล็กยิ่งยวด Bernardo Bordini หัวโครงการได้กล่าวว่า "ความคิดที่จะสร้างสนามแม่เหล็กที่ใช้งานเพื่อป้องกันยานอวกาศจากพลังงานสูงอนุภาคจักรวาล."
    “In the framework of the project, we will test, in the coming months, a racetrack coil wound with an MgB2 superconducting tape. The prototype coil is designed to quantify the effectiveness of the superconducting magnetic shielding technology,” said Bernardo Bordini, the head of the project, in a statement. “The idea is to create an active magnetic field to shield the spacecraft from high-energy cosmic particles.”

    อ่านเพิ่มเติมจาก :‘Star Trek-like shields’: New radiation belt protects Earth from ‘killer electrons’ — RT News

    วัสดุตัวนำยิ่งยวดถูกใช้สำหรับเครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่เพื่อสร้างลำแสงอนุภาคอัลตร้าสดใสที่อุณหภูมิต่ำ สำหรับยานอวกาศ, ขดลวด MgB2 สามารถสร้างเครื่องห่อหุ้มที่จะไม่ได้รับการทะลุผ่านจากอนุภาคจักรวาลที่มีพลังงานสูง คล้ายกับอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก
    The superconducting material was utilized for the Large Hadron Collider, to create ultra-bright particle beams at a low temperature. For the spaceship, the MgB2 coils could create an envelope that would not be penetrated by high energy cosmic-particles, akin to one that exists in the Earth’s atmosphere.

    Bordini กล่าวว่า "ถ้าขดลวดต้นแบบที่เราจะมีการทดสอบการก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จเราจะมีส่วนร่วมในข้อมูลสำคัญที่จะเป็นไปได้ของโล่แม่เหล็กยิ่งยวด"
    “If the prototype coil we will be testing produces successful results, we will have contributed important information to the feasibility of the superconducting magnetic shield,” said Bordini.

    อนุภาครังสีอวกาศที่มาจากดวงอาทิตย์ของเราและวัตถุอื่น ๆ นอกระบบสุริยะที่ก่อความเสียหายในดีเอ็นเอของมนุษย์และอวัยวะที่สะสมในช่วงเวลาที่ก่อให้เกิดเงื่อนไขตั้งแต่มะเร็งจนถึงสมองเสื่อม
    Space radiation particles, which come from our sun, and other objects beyond the solar system, inflict damage on the human DNA and organs, which accumulates over time, causing conditions ranging from cancer to dementia.

    เซิร์นกล่าวว่า "ด้วยเหตุนี้ภารกิจสำรวจดาวอังคารหรือจุดมุ่งหมายอื่น ๆ ที่ห่างไกลจะเป็นไปได้จริงถ้าวิธีการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพถูกค้นพบ"
    “Because of this, exploration missions to Mars or other distant destinations will only become realistically possible if an effective solution is found,” says CERN.

    เซิร์น ซึ่งดำเนินการขึ้นโดยใช้งบประมาณประจำปีประมาณ $ 1,100 ล้านบาทกล่าวว่าแม้ว่าการทดสอบแสดงให้เห็นว่ามันเป็นโล่แม่เหล็ก MgB2 เป็นเสียงนี้ไม่ได้หมายความว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นวิธีการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติภายในปี
    CERN, which operates on an annual budget of about $1,100 million, says that even if its tests show that a MgB2 magnetic shield is sound, this does not mean that it can be adopted as a practical solution within years.

    “There are many more challenges to overcome before a spacecraft shield can be built: various possible magnetic configurations need to be tested and compared and other key enabling technologies need to be developed,” admits CERN.

    ภาพจาก RT

    Shields up! CERN testing superconductor for spaceship radiation deflector — RT News

    ซึ่ง J.Akimitsu และคณะแห่งมหาวิทยาลัย Aoyama-Gakuin ที่โตเกียว ในประเทศ ญี่ปุ่น ได้รายงานในวารสาร Nature ฉบับที่ 410 ประจำวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2544 ได้พบสารประกอบ magnesium diboride (MgB2) เป็นตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิ -234 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่า "สูง" มาก ทั้งๆ ที่ MgB2 เป็นสารประกอบที่มีโครงสร้างง่าย และเป็นสารอนินทรีย์ที่นักเคมีได้พบ และใช้ในการเตรียมธาตุ boron มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 โดยไม่ได้ตระหนักแม้แต่นิดเดียวว่า มันเป็นตัวนำยิ่งยวดได้หากเขาทำให้อุณหภูมิมันลดต่ำถึง -234 องศาเซลเซียส

    การมีโครงสร้างง่ายทำให้วิศวกรสามารถนำมันไปทำเป็นเส้นลวดได้ง่ายกว่าสารประกอบพวกเซรามิกของ Miiller และ Bodnordz ซึ่งเป็นวิศวกรได้คาดคะเนลวดที่ทำด้วย magnesium diboride สามารถนำกระแสไฟฟ้า 1 ล้านแอมแปร์ได้ โดยลวดไม่ร้อนเลย และอุณหภูมิ -234 องศาเซลเซียส ก็เป็นอุณหภูมิที่ระบบทำความเย็นที่วิเศษสามารถทำได้ นั่นหมายความว่า บ้านไฮเทคในอนาคตจะ สามารถใช้ลวดที่ทำจาก MgB2 นำกระแสไฟฟ้าจากโรงงานมาใช้ในบ้านได้

    ณ วันนี้ นักฟิสิกส์ทฤษฎีกำลังสนใจว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ MgB2 เป็นตัวนำยิ่งยวด และนักฟิสิกส์ทดลองก็กำลังสนใจหาวิธีที่จะ ทำให้มันเป็นตัวนำยิ่งยวด และนักฟิสิกส์ทดลองก็กำลังสนใจหาวิธีที่จะทำให้มันเป็นตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิสูงกว่า -234 องศาเซลเซียส


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯจัดซ้อมรบร่วมกับนาโต้ภายใต้ปฏิบัติการ Red Flag ครั้งที่ 4 ในปี 2015 ที่อลาสก้า

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวฝั่งสหรัฐฯบ้างแล้ว สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Russia-Wary NATO Scrambles Fighters, Bombers in Alaska Drill" (นาโต้เฝ้าจับตาดูรัสเซีย ส่งฝูงบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดซ้อมรบในอลาสก้า) รายงานข่าวบอกว่ามีเครื่องบินรบทิ้งระเบิดและเครื่องบินสอดแนม AWACS หลายลำเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบครั้งล่าสุดและใหญ่ที่สุดของกองทัพอากาศกสหรัฐฯประจำแปซิฟิก (US Pacific Air Forces) ในช่วงฤดูร้อนนี้ ภายใต้ปฏิบัติการ "ธงแดง" (Red Flag) ขณะนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ Alaska
    ข้อมูลเบื้องต้นบอกว่าสหรัฐฯได้จัดการซ้อมรบทางอากาศร่วมกับชาติพันธมิตรนาโต้และชาติอื่นๆมาตั้งแต่ปี 1975 ประเทศที่เคยเข้าร่วมด้วยมีดังนี้ Argentinia, Australia, Bahrain, Belgium, Brazil, Canada, Chile, Denmark, Egypt, France, Germany, Greece, Israel, Italy, Japan, Jordan, Korea, Malaysia, NATO, Netherlands, Norway, Portugal, Saudi Arabia, Singapore, Spain, Switzerland, Thailand, Turkey, United Kingdom and Venezuela หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย (แต่ไม่รู้ว่าปีไหน) ปีนี้มีซ้อมรบ Red Flag ที่อลาสก้าแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน
    นาโต้ออกประกาศบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าคำสั่งโดยรวมจะเป็นปฏิบัติการซ้อมรบที่ฐานทัพกองทัพอากาศ Elmendorf Air Force (อยู่ที่เมือง Anchorage ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอลาสก้า)
    ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนเครื่องบินรบของกองทัพที่จะเข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ การซ้อมรบในปีนี้ครอบคลุมปฏิการร่วมกันเช่น การยับยั้งแจ้งเตือนทางอากาศ (/ทหารพลร่ม) การคุ้มกันทางอากาศในสงครามจำลอง กองทัพอากาศสหรัฐฯบอกว่า "การซ้อมรบในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดการพื้นที่ (space management) และปฏิบัติการต่างๆของหน่วยรบ ผ่านการซ้อมรบที่ถ่ายทอดไปยังทุกภาคส่วน" (การซ้อมรบภายใต้ปฏิบัติการ Red Flag ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ระหว่างวันนที่ 17-28 สิงหาคม)
    แล้วบอกทำไมนี่? ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ทั้งฝ่ายนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯเขากำลังฮึ่มๆใส่กันอยู่แถวมหาสมุทรอาร์ติก ขั้วโลกเหนือ ต่างฝ่ายต่างก็หนุนกำลังไปแถวนั้นเพิ่มมากขึ้น รัสเซียก็เสริมทัพเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งหลายทั้งมวลนั้นก็เพื่อครอบครองแหล่งก๊าซธรรมชาติและแหล่งน้ำมันดิบแถวนั้นแหละ ประเทศที่อ้างสิทธิ์ในขั้วโลกเหนือตอนนี้ก็มี รัสเซีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ แคนาดา และสหรัฐฯ
    The Eyes
    09/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ DVIDSHUB

    ----------
    Russia-Wary NATO Scrambles Fighters, Bombers in Alaska Drill / Sputnik International
    Russia Ready to Contest Arctic Region More Actively Than Neighbors / Sputnik International
    Red Flag Air Exercises
    Nellis Air Force Base - Flying Operations
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    รูเบิลไปโลดในจีน รัฐบาลจีนประกาศให้เงินรูเบิลของรัสเซียสามารถใช้ซื้อขายทั่วไปในเมืองจีนตามแนวพรมแดนเหมือนกับเงินหยวนได้ เยส!

    [​IMG]

    -----------
    มาดูข่าวบันเทิงสำหรับแฟนคลับปูตินดีกว่า (ฮึฮือ... แต่อาจจะเป็นข่าวเศร้าสำหรับโปรอเมริกาก็ได้นะ คริๆ อ่ะนิ๊ดดดดนึง) วันที่ 9 สิงหาคม เมื่อต๊ะกี๋นี่เอง สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Going Global: Russian Currency Authorized for Circulation in Chinese City" แปลว่า "โกอินเตอร์: สกุลเงินรัสเซียได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายหมุนเวียนในเมืองจีน" ว้าววววว! ใกล้เข้าไปอีกนิด อ่ะ… ชิดเข้าไปอีกหน่อย
    สื่อรัสเซียเกริ่นนำว่า "ธนาคารกลางของจีน (People’s Bank of China - PBC) ได้อนุญาตอย่างเป็นทางการให้เงินรูเบิล (ชอบชื่อสกุลเงินของรัสเซียจังอ่ะ เบิ้ลได้ คริๆๆ หมายถึงว่าใช้ที่รัสเซียก็ได้ ที่จีนก็ได้ หมายถึงอย่างนั้นจริงๆรึมิน? อึ้ม! จริ๊งงงง) สามารใช้ควบคู่ไปกับเงินหยวนในเมืองตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง สุยเฟินเหอ (Suifenhe ในมณฑลเฮยหลงเจียง - Heilongjiang) ที่มีพรมแดนระหว่างจีนกับรัสเซีย"
    Jin Mei รองเลขาธิการใหญ่ของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคาร PBC ได้ประกาศพิธีเปิดนิทรรศการการค้าในเมืองสุยเฟินเหอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามคำประกาศของ Jin Mei นั้น การตัดสินใจเป็นผลมาจาก "การพัฒนาที่เอื้อเฟื้อมีน้ำใจต่อกัน" ( the benign development) ในการสับเปลี่ยนการดำเนินงานด้านการค้าต่างๆในระดับทวิภาคีจากเงินดอลล่าร์ของสหรัฐไปเป็นเงินหยวนและเงินรูเบิลแทน (ฮิ้ววววว! เสียใจด้วยนะครับ Mr. US dollar)
    เมืองสุยเฟินเหอเป็นศูนกลางการค้าขายในมณฑล Heilongjiang ของจีน มีมูลค่าการส่งออกจาก Heilongjiang ไปยังรัสเซียถึง 80% มีการใช้เงินรูเบิลในการค้าขายเป็นที่แพร่หลายในเมืองนี้อยู่แล้ว ซึ่งรวมทั้งร้านค้า โรงแรม โดยมีเป้าหมายที่ลูกค้าที่เป็นชาวรัสเซีย รายงานข่าวท้องถิ่นกล่าว
    ทางการท้องถิ่นกล่าวว่า การอนุญาตให้สามารถใช้เงินรูเบิลหมุนเวียนได้ (อย่างเป็นทางการ) นี้จะช่วยขยายความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระดับทวิภาคีและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และไม่ถือว่าเป็นเป็นภัยคุกคามต่อเงินเรนมินบิ (renminbi) ซึ่งเป็นสกุลเงินภายในประเทศด้วย
    Jin Mei กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2015 มีการใช้เงินหยวนในการชำระเงินในการค้าขายข้ามพรมแดนระหว่างรัสเซียกับจีนมากกว่าเงินรูเบิล ซึ่งมีมูลค่าถึง $1.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท)
    เมื่อปี 2014 ธนาคารกลางของรัสเซีย ได้ทำข้อตกลงในการสวอประหว่างเงินหยวนมูลค่า 150 billion yuan (ประมาณ $24.5 billion 8.57 แสนล้านบาท) ร่วมกับธนาคาร PBC ของจีน ตามข้อมูลที่ได้จากฝั่งรัสเซียนั้นบอกว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการเปลี่ยนระบบการชำระเงินมาเป็นรูเบิลกับหยวน มันเป็นการสร้างความเป็นไปได้ทางเลือกสำหรับธนาคารของรัสเซียและจีน และลูกค้าของพวกเขาที่สามารถเข้าถึงเงินรูเบิลและเงินหยวนได้
    รัสเซียกับจีนบอกว่าตัวเลขที่กำหนดไว้ข้างต้นนั้นก็กำหนดไว้อย่างนั้นแหละ ถ้ามีมูลค่าการซื้อขายระหว่างสองประเทศมากกว่านี้ก็อาจจะปรับเพิ่มในภายหลังได้ แต่คงไม่ลดแน่นอน เพราะว่าจะไม่เปิดช่องให้ดอลล่าร์ของสหรัฐฯเข้าไปแผ่อิทธิพลได้มากกว่าเดิมอีกต่อไป ส่วนการซื้อขายตามพรมแดนนั้นก็ตามสบายเลยพี่น้อง ยิ่งเยอะยิ่งดี ประมาณนี้หละนะ คราวนี้อเมริกก็ดิ้นสิครับท่าน โอ… หลายเรื่องเลย เดี๋ยวจะทะยอยเล่าให้ฟังเรื่อยๆนะครับ
    The Eyes
    10/08/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Alexandr Demyanchuk

    ----------
    Going Global: Russian Currency Authorized for Circulation in Chinese City / Sputnik International
    Ruble to circulate in China-Russia border city - Xinhua | English.news.cn
    China approves usage of ruble instead of US dollar for border city — RT Business
    Newscontent
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    กองทัพยูเครนโวยวายสหรัฐฯวางยาส่งมอบรถฮัมวี่ใช้ยางรถยนเก่าเสื่อมคุณภาพไม่มีอะไหล่เปลี่ยนในยูเครน

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารถฮัมวี่ HMMWV (Humvee) ที่ใช้เป็นพาหนะทางทหารของกองทัพสหรัฐฯได้กลายเป็นปัญหาของกองทัพยูเครน เนื่องจากยานพาหนะดังกล่าวใส่ล้อยางเก่า ดอกยางสึกหลอหมดแล้ว (ฮ่าๆๆ) เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาอย่างมากกับกองทัพยูเครน เนื่องจากว่ายากที่จะหายางรถยนภายในยูเครนมาเปลี่ยนแทน
    Oleg Movchan จากกองทัพ APU ของยูเครนเขียนไว้ในเฟซบุคของเขาว่า "นี่คือผลลัพธ์ของการเช่ายืม (the lend-lease) ตามที่คาดไว้ ไม่มีล้ออะไหล่ ยางก็เก่า วิ่งไปได้เพียงระยะทางสั้นๆยางรถยนต์ก็แตก ปัญหาก็มีอยู่ว่าจะหายางรถยนต์แบบเดียวกันนี้ได้จากที่ไหน?" (อู่ไหน? คริๆ อ่านแล้วขำกับกองทัพยูเครนที่จำใจใช้ของมือสองย้อมแมวจากสหรัฐฯ ของเขาดีจริงๆ ขอบอก ฮี่ๆๆ)
    เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสื่อฯยูเครนต่างก็พากันประโคมข่าวปัญหาหลักของรถฮัมวี่ในยูเครนก็คือขาดแคลนอะไหล่ กองทัพยูเครนยังบอกอีกว่า เป็นเพราะว่าคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลที่ต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ใส้กรองอุดตันอย่างรวดเร็วด้วย (นึกว่ามีแต่ยาง เป็นที่เครื่องยนต์ด้วย)
    เอาแล้วไง! ออกลายซะแหละ... เมื่อต้นปีนี้ปธน.โปโรเชนโก้แถลงข่าวอย่างหน้าบานว่า งานนี้ไม่ต้องกลัวกองทัพ NAF ของฝั่ง DPR/LPR โปรรัสเซียในยูเครนตะวันออกอีกต่อไป เพราะว่าโอบาม่าอุตส่าห์จัดหารถฮัมวี่ (มือสอง สาม สี่ ห้า… ฮ่าๆๆ) มาให้ใช้ ไม่ต่ำกว่า 100 คัน ต่อมาก็มีข่าวว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเครนได้มอบรถปิ๊กอัพฟอร์ดเรนเจอร์ 4x 4 ให้จำนวนหนึ่ง เนื่องจากฮัมวี่ราคามแพงเกินไป เอาฟอร์ดไปใช้ก่อนก็แล้วกัน ล็อตแรกที่สหรัฐฯส่งฮัมวี่ไปให้นั้นก็ดูดีอยู่หรอก แต่ล็อตหลังๆนี้ กองทัพยูเครนเริ่มบ่นอุบแล้ว โปโรเชนโก้ก็ไม่กล้าขึ้นขี่ออกแถลงข่าวโชว์นักข่าวเหมือนล็อตแรกอีกเลย (คริๆ)
    พึ่งมารู้ตอนนี้เองว่า ที่ส่งไปให้นั้น ไม่ใช่ให้ฟรีนะครับ... ให้เช่า ให้ยืม แต่ราคาขออุบไว้เป็นความลับภายใน มิหนำซ้ำยังเจอวางยาด้วยใส่ล้อยางหมดอายุมาให้ใช้ด้วย สงสัยเก็บมาจากสงครามอิรัค อัฟกานิสถาน หรือที่ใช้งานอย่างสมบุกสมบันมาแล้วแหงๆ ยางระเบิดก็วิ่งไม่ได้ เพราะยางอะไหล่ก็ไม่มีมาให้ ต้องสั่งนำเข้าจากสหรัฐฯอีกต่างหาก โธ่เอ๋ย... ลูกพี่ทำไมถึงทำกะลูกน้องได้ถึงขนาดนี้นะ... อ้าวแล้วโปรอเมริกาที่เชียร์ให้ใช้ของอเมริกากันนักหนาจะว่าอย่างไรบ้างหละนี่ คริๆ
    ถ้าโปโรเชนโก้ไม่สามารถหายางอะไหล่ได้ ก็น่าจะชะเง้อคอไปถามจากฝั่งรัสเซียก็ได้นะ เขามีอยู่หลายรุ่นน่าจะเข้ากันได้ หรือจะใช้ฮัมวี่เวอร์ชั่นสเปนอย่าง URO VAMTAC ก็ได้ ของเฮียสีก็มี เหมือนกับฮัมวี่อเมริกาเดี๊ยเลย ฮ่าๆๆ แต่ที่เจ๋งกว่านี่ต้อง VPK-3927 Volk หรือ GAZ Tigr หรือ ZiL Punisher (730 horsepower V8) ของรัสเซียนี่
    The Eyes
    10/08/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Gleb Garanich

    ----------
    Ukrainian Military Complains of US Humvee Vehicles Delivery / Sputnik International
    10 American Humvees welcomed in Ukraine by Poroshenko (VIDEO) — RT News
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    เยเมน: อุแม่เจ้า! สหรัฐกับซาอุดิฯส่งฮ.Apache ไปเป็นของขวัญให้กลุ่มฮูติฟรีๆ คริๆ เยส!...

    [​IMG]

    ------------
    โพสต์ก่อนหน้านี้ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในเยเมนไปบ้างแล้ว ซึ่งเป็นข่าวที่ฝั่งรัสเซียเก็บมาจากสื่อฯฝั่งซาอุดิฯ สหรัฐฯ และตะวันตกเป็นส่วนมาก จึงทำให้ดูเหมือนว่ากลุ่มกบฎฮูติกำลังจะเดี้ยงแล้ว นั่นคือข่าวที่สื่อฯกระแสหลักของตะวันตกโปรซาอุดิฯ ได้นำเสนอไป โดยจะเน้นรายงานความคืบหน้าในการรุกของกองกำลังผสมอาหรับฝั่งซาอุดิฯเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยเสนอข่าวความสูญเสียจากฝั่งซาอุดิฯ ทำให้มีความรู้สึกว่ามันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้สิ
    วันนี้จึงลองตระเวนหาข่าวจากฝั่งเยเมน (โปรเยเมน โปรฮูติ หรือกลางๆ) และจากฝึ่งอิหร่านดูบ้าง ว่ามีข่าวไหนบ้างที่สื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯ ตะวันตก และซาอุดิฯไม่นำเสนอ หรือนำเสนอแต่ไม่ค่อยลงรายละเอียด ก็เจออยู่หลายข่าวนะครับ น่าสนใจด้วยกันทั้งนั้นเลย
    ข่าวแรกจากสำนักข่าว kashmirobserver.net, iran-daily.com, presstv.ir, sabanews.net บอกว่าเยเมน (ฮูติ) ยิงเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์อาปาเช่ (อะแพชี้ - Apache - เมดอินยูเอสเอ คริๆ) ร่วง รายงานข่าวจากกรุง Sanaa ประเทศเยเมนบอกว่า เฮลิค็อปเตอร์ Apache ติดตั้งอาวุธปืนกลหลายชนิดซึ่งออกปฏิบัติการโดยกองกำลังซาอุดิอารเบีย ลงจอดในเยเมนโดยฝีมือของกองกำลังป้องกันอากาศเยเมนทางตะวันตกของเยเมน อ้างรายงานข่าวท้องถิ่น (ครังนี้ฮูติเลือกที่จะไม่ทำลายฮ.ของซาอุดิฯ แต่จับเป็นพร้อมนักบิน)
    สื่อฯเยเมนรายงานเมื่อวันพุธที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า กองกำลังป้องกันอากาศของเยเมน ได้สอยเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์ด้วยขีนปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศที่อำเภอ Harad ทางตะวันตกของจังหวัด Hajjah (อยู่ไม่ไกลจากชายแดนซาอุดิฯ และหมู่เกาะ Farasan Island Marine Sanctuary ในทะเลแดง ตรงข้ามกับประเทศ Eritrea)
    ส่วนฝั่งซาอุดิฯรีบออกมาแก้ข่าวฝ่านเว็บไซต์ akhbaar24.com ของตนเองว่า ซาอุดิฯขอยืนยันว่าได้สูญเสียฮ. Apache ไปจริง โดยบอกแต่เพียงว่าฮ.ของตนเองลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากขัดข้องทางเทคนิค ใกล้ชายแดน al-Tawal ระหว่างเยเมนกับซาอุดิอาระเบีย (ฮูติรู้สึกเซ็งกับการเสนอข่าวของสื่อฯซาอุดิฯ ก็เลยโพสต์ภาพกลุ่มนักรบฮูติยืนแอ็คท่าถ่ายรูปคู่กับฮ. Apache ของซาอุดิฯมาให้ดูซะเลย เพื่อเป็นการขอบคุณทางซาอุดิฯและสหรัฐฯที่ส่งเฮลิค็อปเตอร์จู่โจมพร้อมอาวุธมาให้ใช้ฟรีๆ คริๆๆ เดี๋ยวเรียกช่างจากอิหร่านมาดูให้ว่าเสียหายตรงไหนบ้าง หรือไม่ก็ขายต่อให้อิหร่านซะเลย แหล่ม)
    เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมากลุ่มฮูติก็สามารถสอยเครื่องบินรบ F-16 ของซาอุดิได้หนึ่งลำทางตอนเหนือของกรุงซานา ที่บินเข้าไปหวังโจมตีเยเมนจนเคยชิน
    ข่าวที่สอง วันที่ 6 ส.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดภายในมัสยิสที่เมือง Abha จังหวัด Asir ของซาอุดิอาระเบียใกล้กับชายแดนเยเมน รายงานข่าวบอกว่ามัสยิสดังกล่าวถูกใช้เป็นที่พักและฐานบัญชาการของกองทัพซาอุดิฯ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ทหาร/ตำรวจของซาอุดิฯ?) เสียชีวิตจำนวน 17 นาย และบาดเจ็บอย่างน้อย 25 นาย สื่อท้องถิ่นสันนิษฐานว่าเป็นระเบิดพลีชีพ
    ส่วนสำนักข่าวของอิหร่านอ้างข่าวจาก AFP ของตะวันตกบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระเบิดพลีชีพของผู้ก่อการร้าย เกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของหน่วย Special Weapons and Tactics (SWAT) ของซาอุดิฯ (อ้าว! หน่วยสวาทไปต้องสำนักงานใหญ่อยู่ภายในมัสยิตด้วยรึ?)
    ข่าวที่สาม รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาหัวกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า (Al-Qaeda leader) ถูกสังหารที่เมือง Aden ตอนนั้นกำลังมีการสู้รบกันระหว่างกองกำลังฝ่ายฮูติกลับโปรฮาดี้ อัลเคด้าอยู่ฝั่งฮาดี้กับซาอุดิฯ
    ข่าวที่สี่ ซึ่งเป็นข่าวเชิงลึกจากสื่อฝั่งจีน (Global Times) รายงานสถานการณ์ในเยเมนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมาว่ากรณีที่ทหาร UAE (สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์) เสียชีวิตไป 3-5 รายแถวเมือง Aden ในเยเมนนั้น แทนที่จริงแล้วโดนทุ่นระเบิดบกหรือบางครั้งเรียกว่าระเบิดกับดักจากฝ่ายฮูติที่วางเอาไว้ ขณะถอยทัพออกจากเมือง Aden ต่างหาก (เขาเรียกว่าถอยอย่างมีเชิง ลับ ลวง พราง) แต่สื่อฯตะวันตะจะนำเสนอข่าวในลักษณะที่ว่ามีประชาชนจำนวนมากเสียชีวิต เนื่องจากกลับเข้าไปยังเมือง Aden และเมืองอื่นๆ เพราะโดนกับระเบิดที่ฝ่ายฮูติวางเอาไว้หลังจากถอนกำลังออกไปแล้ว และฝ่ายโปรซาอุดิฯเข้าไปยึดแทน
    รายงานข่าวบอกว่างานนี้กองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯได้ส่งรถถัง (ของสหรัฐฯ) จำนวน 20 คน และรถหุ้มเกาะจาก UAE ที่ซื้อมาจากสหรัฐฯเข้าไปในเยเมนประมาณ 170 คัน พร้อมกองทัพภาคพื้นดินราว 3,000 นาย
    เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาสำนักข่าว Gulf News Yemen อ้างจากสำนักข่าว AP, AFP ของตะวันตกว่า ในขณะเดียวกันก็มีรายงานว่ากองกำลัง National Guardซาอุดิฯที่ประจำการอยู่ที่เมือง Najran ทางตะวันตกเฉียงใต้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง จากการยิงปืนใหญ่ถล่มข้ามพรมแดนไปจากฝั่งเยเมนโดยฝีมือของฮูติ ซาอุดิฯรายงานข่าวว่ามียอดผู้เสียชีวิตจากการยิงปืนใหญ่ถล่มไปยังฝั่งซาอุดิฯแล้วมากกว่า 50 รายนับตั้งแต่ซาอุดิฯเริ่มปฏิบัติการถล่มเยเมนเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ผูเสียชีวิตส่วนมากจะเป็นทหารฝั่งซาอุดิฯ ส่วนในเยเมนนั้นสหประชาชาติบอกว่ามียอดผู้เสียชีวิตไปแล้วราว 4,000 คนส่วนมากเป็นพลเมือง (แต่สหรัฐฯก็ยังสนับสนุนให้ซาอุดิฯทำสงครามถล่มเยเมนโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเมื่อไร) ส่วนรถหุ้มเกาะที่ยูเออีนำเข้าไปในเยเมนนั้นโดนกับดักระเบิดที่วางไว้โดยกลุ่มฮูติก่อนถอนทัพพังไปหลายคัน
    วันที่ 10 ส.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศของอิหร่าน (Iran-Daily) รายงานว่ามีทหารของซาอุดิฯเสียชีวิตหลายสิบรายเนื่องจากกองทัพเยเมน (ฮูติ) ยิงปืนใหญ่ (ที่ยึดมาได้จากกองทัพซาอุดิฯตามแนวชายแดนก่อนหน้านี้) ยิงถล่มที่เมือง Najran อ้างรายงานข่าวจากฝั่งเยเมน
    แล้วสหรัฐฯทำอย่างไรหละที่นี้? เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาสำนักข่าวข่าวต่างประเทศรายจากกรุงซานาว่านาย Peter Maurer ประธานคณะกรรมการกาชาดสากล ( International Committee of the Red Cross - ICRC) ได้ขอเข้าพบและเจรจากับ Mohammed Al-Houthi ผู้นำสูงสุดของคณะปฏิวัติเยเมน (Head of the Supreme Revolutionary Committee) เพื่อพูดถึงความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวเยเมน โดยร้องขอไม่ให้ทางฮูติปิดพรมแดน อ้างว่าจะได้ส่งความช่วยเหลือไปให้เยเมนได้
    ทางหัวหน้าคณะปฏิวัติเยเมนก็บอกว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือก ICRC เสมอและยินดีให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วยโดยกล่าวเพิ่มเติมว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเยเมนตอนนี้แย่มากๆ เนื่องจากการโจมตีของผู้รุกราน
    Al-Houthi หัวหน้าคณะปฏิบัติเยเมนกล่าวว่า "เป้าหมายการโจมตี (จากฝ่ายผู้รุกราน) ก็คือ ท่าเรือ สนามบิน โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ และทรัพย์สินต่างๆของรัฐบาลภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายเสถียรภาพของประเทศ"
    ฝ่ายประธาน ICRC บอกว่าในกรณีนั้นตนเข้ามาในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น เป็นคนฉายแสงสว่างเข้าไปที่สถานการณ์ในเยเมน (เพื่อให้ฝ่ายผู้รุกรานรู้ว่ากลุ่มฮูติซ่อนอะไรไว้ตรงไหนบ้าง? และไม่ได้มาเพื่อหยุดสงคราม ถ้ามีสงครามผมก็จะมีงานให้ทำอีกเยอะ เช่นระดมทุนอ้างว่าเพื่อช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามและเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มันทำให้ประธาน ICRC อย่างผมดูเท่ห์ในฐานะนักบุญที่ชอบหากินกับสงครามแบบนี้ ท่านผู้นำสูงสุดฯเห็นด้วยไหมครับ? งานนี้จักรวรรดิเฮเกมอบให้ผมมาดูแลเป็นพิเศษเลยนะ ท่านอย่าพึ่งยอมแพ้และหยุดสงครามกันเลยนะ มิฉะนั้นแล้วประธาน ICRC อย่างผมคงต้องไปนั่งตบยุงแน่ๆ คริๆ อันนี้เสริมให้ครับ)
    ป.ล. ส่วนภาพสุดท้ายเก็บมาจากสื่อฯฝั่งเยเมนบอกว่า เป็นภาพผู้ชายชราอายุ 140 ปี มีเขางอกออกมาบริเวณหน้าผากทั้งสองข้างในเยเมน ว้าวววว
    The Eyes
    11/08/2558

    ภาพจาก Daily Latest Breaking News from Kashmir, Jammu, India, Pakistan Newspaper :: Kashmir Observer

    ----------
    Mosque Explosion in Saudi Arabian Abha: Several Killed, Dozens Injured / Sputnik International
    Yemen downs Saudi Apache copter
    Yemeni forces kill dozens of Saudi soldiers
    Suicide bombing at Saudi mosque kills 17: Saudi state TV
    Yemen Shoots Down Saudi Apache | Kashmir Observer
    PressTV-‘Yemen forces down Saudi Apache copter’
    Saba Net - Yemen news agency
    Saba Net - Yemen news agency
    Saba Net - Yemen news agency
    https://www.rt.com/news/311965-uae-troops-yemen-coalition/
    Yemeni troops take last rebel-held army base in south | GulfNews.com
     Yemen Times
    Yemen’s loyalists recapture southern provincial capital - Global Times
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    ฮิ้วววว! อังกฤษโวยวายสเปนไล่ล่าอาชญากรหลบหนีเข้าไปใน Gibraltar ซ้ำซากซึ่งเป็นเขตแดนของอังฤษบนแผ่นดินสเปน
    ------------
    จัดข่าวบันเทิงให้ผู้อ่านอีกซักข่าวนะครับ... เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่าก.ต่างประเทศของสหราชอาณาจักรออกมาประณามสเปน ที่รุกล้ำน่านน้ำของตนอย่างผิดกฎหมายใกล้กับอาณาเขต Gibraltar ต่างแดนของอังกฤษ มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ? (บ่อยครับท่าน)
    ในแถลงการณ์นาย Hugo Swire รมว.ต่างประเทศและกิจการเครือจักรภพของอังกฤษบอกว่า เรือของสเปนได้เข้าไปในน่านน้ำ Gibraltar บ่อยครั้งโดยไม่ได้แจ้งให้ทางการของอังกฤษรับทราบ
    Hugo Swire เน้นย้ำว่า "อังกฤษเข้าใจดีว่าสเปนกำลังไล่ล่าเรือที่อาจจะไปก่ออาชญากรรมมา อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้โดยเด็ดขาด และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับทะเลในการที่จะเข้ามายังน่านน้ำของเราโดยไม่แจ้งให้เราทราบ" (ว้าวววว เป็นไงเล่า มาตรการปกป้องโจรของอังกฤษ มันทำให้อังกฤษเสียหน้ามาก ที่ถูกจับได้ว่า Gibraltar คือซ่องโจรอีกแห่งหนึ่งของอังกฤษนี่เองหรือเปล่า? คริๆ พวกอาชญากรเข้าไปก่อเหตุในสเปนแล้วถูกไล่ล่าหนีเข้าไปในดินแดนอาณานิคมของอังกฤษอังกฤษกลับโดดออกมาปกป้องโจรซะงั้น นี่ขนาดตามมาติดๆพี่แกยังแถได้ขนาดนี้เลยนะ ถ้าแจ้งให้ทราบก่อน อังกฤษจะออกแถลงข่าวว่าอย่างไรบ้างหละนี่? อาจจะบอกว่า ไม่มี! จงโจรที่ไหนกัน สเปนเอาอะไรมากล่าวหาพลเมืองของ Gibraltar มีแต่เรือนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวทั้งนั้น)
    Gibraltar เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น มีเนื้อที่ราว 6 ตารางกิโลเมตรตั้งอยู่ส่วนยอดทางใต้ของคราบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula) ยังเป็นจุดสำคัญของความขัดแย้งทางการทูตระหว่างอังกฤษกับสเปนเรื่อยมา ที่ Gibraltar นี้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30,000 คน ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์บอกว่ากองทัพ Anglo-Dutch ได้เข้ายึดเมือง Gibraltar มาจากสเปนในปี 1704 ในช่วงสงครามสืบราชบัลลังของสเปน (War of the Spanish Succession) ซึ่งผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นราชวงศ์ฮับส์บูร์ก (House of Habsburg/Habsburg Monarchy) ในนามของ Archduke Charles of Austria ในสมัยนั้น ได้ยกดินแทนดังกล่าวให้กับราชบัลลังก์สเปน ด้วยกองกำลังพันธมิตร เพื่อที่ขึ้นครองราชเป็นกษัตริย์สเปน กองทัพพันธมิตรยุโรปในสมัยนั้นได้ขับไล่ชนพื้นสเปนที่อาศัยอยู่ในเขตดังกล่าวออกไป แล้วเข้ายึดพื้นที่แทน
    ในปี 1713 แผนการรณรงค์ตั้งกษัตริย์ใหม่ของสเปนจากฝั่งพันธมิตรที่นำโดยฝ่ายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของ Habsburg ได้เกิดการสะดุด อังกฤษจึงถือโอกาสร่างสนธิสัญญา Treaty of Utrecht ขึ้นมา และจากการเจรจาต่อรองแบ่งเค้กกัน สุดท้ายแล้วตาอยู่อย่างอังกฤษก็ได้เมือง Gibraltar ไปครองอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันในการสงบศึก (หมายความว่าถ้าอยากยุติสงครามก็ต้องยกดินแดนแห่งนี้ให้อังกฤษ ไม่อย่างนั้นสงครามก็จะไม่มีวันสิ้นสุด) กษัตริย์ของสเปนหลายพระองค์พยายามที่ทวงเมือง Gibraltar คืนจากอังกฤษหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ
    ในปี 1727 กองทัพสเปนจำนวน 12,000 - 25,000 นายเข้าปิดล้อมเมือง Gibraltar ซึ่งมีทหารอังกฤษประจำการอยู่เพียง 1,500 ในตอนเริ่มต้นและต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 แต่สเปนก็ไม่สามารถรุกและยึดเมือง Gibraltar คืนมาจากอังกฤษได้
    ระหว่างปี 1779 - 1783 สเปนยังไม่รามือ ยังไงซะดินแดนของสเปนก็ต้องเอากลับมาเป็นของสเปนให้จงได้ จึงยกทัพเข้าปิดล้อมเมือง Gibraltar อีกครั้งซึ่งมีชื่อการทำศึกในครั้งนี้ว่า "Great Siege of Gibraltar" ในครั้งนี้สเปนกับฝรั่งเศสร่วมมือกัน แต่ก็สู้กับฝ่ายของอังกฤษไม่ได้
    ต่อมาในปี 1967 มีการเรียกร้องทวงเมือง Gibraltar คืนจากอังกฤษอีก อังกฤษก็บอกว่างั้นทำประชามติกันไหมคราวนี้ไม่ต้องทำสงครามสู้รบกันแล้ว เพราะได้ขับคนสเปนส่วนมากออกไปตั้งนานแล้ว ส่วนพวกที่มาอยู่ใหม่ก็เป็นคนต่างถิ่นและเป็นพวกโปรอังกฤษ ผลการทำประชามติก็ปรากฏว่าอังกฤษชนะ ในปี 2002 สเปนขอให้ทำประชามติอีกครั้งผลก็ออกมาเหมือนเดิม อังกฤษบอกว่ามีความชอบธรรมที่จะปกครองดินแดนแห่งนี้ และประกาศว่าดินแดนแห่งนี้เป็นหนึ่งในดินแดนของอังกฤษที่อยู่ในต่างประเทศ
    ในปี 2006 มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมากึ่งปกครองตนเองของเมือง Gibraltar โดยให้สิทธิ์ในการบริหารกิจการภายในด้วยตนเองได้ แต่ด้านการทหารและนโยบายต่างประเทศต้องให้อังกฤษเป็นผู้กำหนดให้ อังฤษตั้งฐานทัพเรือของตนเองอยู่ในเมือง Gibraltar มีสนามบินนานาชาติด้วย เศรษฐกิจหลักของที่นี่คือการท่องเที่ยว การพนันออนไลน์ บริการด้านการเงิน และการขนส่งทางเรือ สังเกตได้ว่าอังกฤษต้องการฐานที่มั่นตรงนี้มาก จะไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือได้แน่ เพราะเอาไว้กันการรุกรานจากพวกยุโรปด้วยกันเอง และจากตะวันออกกลางด้วย ฝั่งตรงกันข้ามกับเมือง Gibraltar ผ่านช่องแคบ Gibraltar นั้นก็คือราชอาณาจักรโมร็อคโคและอัลจีเรีย ใครจะเข้าจะออกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังมหาสมุทรแอ็ตแลนด์ติกเหนือทางทะเลก็ต้องผ่านช่องแคบนี้ทั้งนั้น ไม่มีทางหลบสายตาของอังกฤษไปได้ จุดยุทธศาสตร์ดีขนาดนี้มีหรือที่อังกฤษจะยอมคืนให้สเปนได้ง่ายๆ
    The Eyes
    10/08/2558
    ----------
    UK Lashes Out at Spain Over 'Repeated Incursions' Into Gibraltar / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/wiki/Gibraltar
    https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Siege_of_Gibraltar
    https://en.wikipedia.org/wiki/Thirteenth_Siege_of_Gibraltar
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    Awkward…! เก้อ อึ้ง ทึ่ง โป๊ะ!… สหรัฐฯเคยรับรองภูมิภาคดอนบาสส์ให้มีสถานะเป็นเอกราชตั้งนานแล้ว

    [​IMG]

    ------------
    อุ๊แม่เจ้า!... มีเรื่องอย่างนี้ด้วยรึ? ฮี่ๆๆ มีเรื่องจักรวรรดิเฮเก้หน้าแตกมาเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่งนะครับ เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "That Awkward Moment: Obama Officially Recognizes Donbass Independence" แปลว่า "เงิบหละสิทีนี้: โอบาม่ารับรองสถานะรัฐเอกราชของภูมิภาคอย่างเป็นทางการ" (อยากรู้ไหม? ต้องอ่าน คริๆ)
    ก่อนหน้านี้สหรัฐฯและยูเครนออกมากล่าวหาว่าฝ่ายโปรรัสเซียที่ต้องการแยกดินแดนปกครองตนเองในแคว้นโดนเน็ทส์กและลูฮานส์ก ซึ่งเรียกรวมกันว่า "ภูมิภาคดอนบาสส์" (Donbass Region) เป็นพวกกบฎและไม่เห็นด้วยที่ DPR/LPR จะประกาศเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองออกจากรัฐบาลกลางของยูเครนจึงนำไปสู่การสู้รบทำสงครามกลางเมืองขึ้นมา ซึ่งยังซัดกันมาเป็นระยะๆ จนถึงทุกวันนี้
    ฝ่ายรัสเซียที่เชียร์และหนุนฝ่าย DPR/LPR จึงไปค้นหาเอกสารเก่าเกี่ยวกับกฎหมายของสหรัฐฯในอดีตสมัยโซเวียต และแล้วก็แจ๊คพ็อตสิครับพี่น้อง กลายเป็นว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการ (officially recognized)
    เกี่ยวสถานะของเขตแดนที่เรียกว่า "Donbass" ในปัจจุบันนี้ว่าเป็นสาธารณรัฐอิสระ (independent republics) ตั้งแต่ปี 1959 โน่นแล้ว เมื่อครั้งที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนของสหรัฐฯได้ผ่านกฎหมาย Captive Nations Week Resolution
    กางลงมติดังกล่าวรับรู้กันในนามว่า "Public Law 86-90" ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมปี 1959 จากนั้นก็มีการออกซ้ำกันมาอีกทุกปีเป็นระยะเวลา 56 ปี ดังนั้นการรับรองการประกาศเอกราของภูมิภาคดอน (Don region) ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือ สาธารณรัฐประชาชนโดเน็ทส์ก (Donetsk People's Republic - DPR) และสาธารณรัฐประชาชนลูฮานส์ก (Lugansk People's Republic - LPR) จากสหภาพโซเวียต
    ข้อความตามการลงมติของสหรัฐฯกล่าวว่า "โดยที่นโยบายการแผ่อำนาจของคอมมิวนิสต์รัสเซียออกไปนั้น โดยผ่านการรุกรานทั้งทางตรงและทางอ้อม ในการปราบปรามเอกราชแห่งชาติของโปแลนด์ ฮังการี ยูเครน เซ็กโกสโลวาเกีย... คอสแซ็กเกีย (Cossackia)"
    สื่อฯรัสเซียกล่าวอีกว่า "น่าขัน (Amusingly) ที่รัฐบาลสหรัฐฯได้ยอมรับยูเครนและ Cossackia (ภูมิภาคที่ประกอบด้วย Donbass และ Zaporozhye - ซาโปโรเซีย/ภาษารัสเซีย Запоро́жье ออกเสียงเป็น "ซะปาโรซี") ว่าเป็นประเทศที่แยกออกต่างหากและประชาชนที่แยกออกมาแล้ว ตามกฎหมายการลงมติของสหรัฐฯ ทั้งสองประเทศจึงมีสิทธิ์ที่จะคงอยู่"
    รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า "คราวนี้ เนื่องจากการลงมติ (ในสภาทั้งสองแห่งของสหรัฐฯ) เป็นกฎหมายในสมัยปัจจุบันของสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องรับรอง Cossackia ซึ่งปัจจุบันนี้ประกอบด้วย DPR, LPR และภูมิภาค Zaporozhye ของยูเครนในฐานะเป็นรัฐเอกราชด้วย" (ซวยแล้วไหมหละสหรัฐฯ เชือกผูกคอตัวเองแท้ๆ ตอนนั้นอยากจะทำลายโซเวียตให้ได้จึงพากันออกกฎหมายรับรองกลุ่มแยกดินแดนเหล่านั้น คราวนี้เขาอยากจะแยกจริงๆ กลับไม่ให้เขาแยกซะงั้น)
    สื่อรัสเซียเหน็บจักรวรรดิเฮเกอีกว่า "หลายอย่างกลายเป็นเรื่องตลกมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบาม่า ผู้ซึ่งยังไม่ได้เกิดด้วยซ้ำไป (โอบาม่าเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ปี 1961) เมื่อมีการผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว การลงมติรับรองอย่างเป็นทางการในปี 1959 และยังคงสืบต่อประเพณีของอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ในการประกาศสัปดาห์ประชาชาติเชลย (Captive Nations Week) ทุกๆปีในการออกคำประกาศของประธานาธิบดีในเดือนกรกฎาคม"
    "ดังนั้น ครั้งนี้ ข้าพเจ้า นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ขอประกาศ ณ วันที่ 19 ถึง 25 กรกฎาคม 2015 ให้เป็นสัปดาห์ประชาชาติเชลย (Captive Nations Week) ด้วยประการฉะนี้ ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวสหรัฐอเมริกายืนยันความสัมพันธ์ที่ลึกซื้งของพวกเราต่อรัฐบาลต่างๆและประชาชนทั้งหมดที่มุ่งมั่นเพื่อเสรีภาพ ศักดิ์ศรี และโอกาสเพื่อทุกๆคน"
    เอิ่มมมม… ฝั่งรัสเซียและ DPR/LPR รวมทั้งชาวคอสแซ็กต่างๆถามมาว่าก่อนที่ท่านโอบาม่าจะออกคำประกาศ Captive Nations Week ประจำปี 2015 นี้ ท่านได้อ่านคำประกาศของอดีตปธน.สหรัฐฯในปี 1959 แล้วหรือยังครับท่าน?
    The Eyes
    10/08/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Gennady Dubovoy

    ----------
    That Awkward Moment: Obama Officially Recognizes Donbass Independence / Sputnik International
    http://www.gpo.gov/fdsys/pkg/STATUTE-73/pdf/STATUTE-73-Pg212.pdf
    https://en.wikipedia.org/wiki/Captive_Nations
    https://en.wikipedia.org/wiki/Zaporizhia
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    เยเมนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองหลวง กองกำลังพันธมิตรอาหรับโปรปธน.ฮาดี้นำโดยซาอุดิฯบุกหนักภาคพื้นดิน

    [​IMG]

    ------------
    มาติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในเยเมนบ้างนะครับ เพราะเริ่มมีความเคลื่อนไหวตรึงเคลียดขื้นมาอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่ากลุ่มฮูติที่ยึดอำนาจการปกครองประเทศเยเมนแบบไม่เบ็ดเสร็จอยู่ในปัจจุบันนี้เนื่องจากยึดพื้นที่บางส่วนของเยเมนเอาไว้ได้เท่านั้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉิน (state emergency ) ในกรุงซานา (Sanaa) เมืองหลวงของเยเมน อ้างรายงานข่าวท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
    สำนักข่าว Al Arabiya ของซาอุดิิฯ รายงานว่ามีการประกาศภาวะฉุกเฉินไม่นานหลังหลังเที่ยงคืน ในขณะที่กลุ่มฮูติได้ต่อสู้ยันกับกองกำลังโปรรัฐบาล (หมายถึงกองกำลังของปธน.ฮาดี้โปรซาอุดิฯกับอเมริกา) Abdullah Subaihi ผู้บัญชาการระดับสูงกองทัพเยเมนกล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาคาดว่ากองกำลังของฝ่ายรัฐบาลฮาดี้จะสามารถเข้ายึดกรุงซานาคืนมาได้ภายในสองสัปดาห์
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฝ่ายผู้สนับสนุนปธน. Abd Rabbuh Mansur Hadi ที่ลี้ภัยไปอยู่ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศปลดปล่อยจังหวัด Abyan ทางตอนใต้หลังจากที่เมืองหลวง Zinjibar ถูกกลุ่มฮูติเข้ายึดไว้ก่อนหน้านี้ สื่อฯซาอุดิฯอ้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเยเมนและนักรบฝ่ายโปรรัฐบาล (โปรฮาดี้) ซึ่งกล่าวว่า มีนักรบฝ่ายพันธมิตรเสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายในการยิงต่อสู้กันจากฝ่ายเดียวกัน (friendly fire กรรม!) ระหว่างการเข้าปลดปล่อยเมือง Zinjibar (ซึ่งอยู่ใกล้กับเมือง Aden เมือง Aden นี้ฮาดี้ตั้งขึ้นให้เป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของเยเมนหลังจากที่กรุงซานาถูกกลุ่มฮูติยึดไป)
    กองกำลังโปรฮาดี้ได้เข้ายึดเมือง Aden ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยึดจังหวัด Lahij ได้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ และรายงานข่าวบอกว่ากองกำลังของโปรฮาดี้ยังสามารถเข้ายึด Ad Dali ได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วย (รุกคืบเข้าไปใกล้กรุงซานามากขึ้นทุกทีแล้ว จะรอดไหมหนอฮูติเอ๋ย?)
    กองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ (Saudi-led coalition) ได้เปิดการโจมตีทางอากาศในเป้าหมายของกลุ่มฮูติในเยเมนตามคำร้องขอของฮาดี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนตัวของนายฮาดี้เองนั้นหลี้ภัยไปอยู่ที่เมือง Aden ก่อนที่จะหนีตายไปอยู่ที่กรุงริยาดห์ในเดือนเดียวกันเนื่องจากถูกกลุ่มฮูติไล่ล่าเอาชีวิตอย่างหนัก จากนั้นฮาดี้ก็ขอให้ซาอุดิฯด้วยความรู้เห็นเป็นใจของสหรัฐฯให้ส่งเครื่องบินรบไปถล่มประเทศของตนเองให้ราบเป็นหน้ากอง เพียงเพราะต้องการจะอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองต่อไป โดยไม่สนใจว่าประเทศจะพินาศเท่าไรก็ช่างมัน เหมือนกับโปโรเชนโก้ของยูเครนไม่มีผิด
    เมื่อวันที่ 1 ส.ค.58 ที่ผ่านมารายงานข่าวบอกว่า กองกำลังโปรฮาดี้จำนวน 2,000 นายแบ่งออกเป็นสองหน่วยซึ่งเป็นกำลังภาคพื้นดิน และเครื่องบินรบของกองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯ เข้าโจมตีกลุ่มฮูติเพื่อปลดปล่อยเมือง Taiz และเมือง Marib ก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
    วันที่ 4 ส.ค.58 สำนข่าวต่างประเทศรายงานว่ากองกำลังโปรฮาดี้ที่มีซาอุดิฯหนุนหลังจำนวน 2,800 นายพร้อมด้วยรถถังและพาหนะขนอาวุธประจำกายมุ่งหน้าไล่ยึดพื้นที่ในการควบคุมของกลุ่มฮูติคืน โดยมีเครื่องบินรบของพันธมิตรอาหรับโจมตีทางอากาศเพื่อเป็นการเปิดทางให้ รายงานข่าวบอกว่ารถถังเหล่านั้นปฏิบัติการโดยกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (UAE) และกองกำลังจู่โจมป้องกันประธานาธิบดี (ไม่ใช่ป้องกันหรือปกป้องประชาชนนะ มีไว้เพื่อปกป้องปธน.เท่านั้น)
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ส.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากองกำลังโปรฮาดี้ได้รุกคืบเข้าไปในเมือง Zinjibar และมีทหารของ UAE เสียชีวิต 3 นายในปฏิบัติการต่อต้านฮูติ (แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นฝีมือของฮูติหรือว่าซัดกันเองอย่างบอกว่า friendly fire ก่อนหน้านี้)
    วันที่ 1 ส.ค.58 รายงานข่าวบอกว่า กรุงวอชิงตันได้ตัดสินใจสนับสนุน (ขาย) กระสุนปืนมูลค่า $500 สหรัฐฯให้กรุงริยาดห์ เพื่อนำไปเสริมคลังแสงสำหรับใช้ในปฏิบัติการถล่มเยเมน
    วันที่ 5 ส.ค.58 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กองกำลังโปรรัฐบาล (ฮาดี้) จำนวนหลายพันคนได้รับการฝึกฝีมือให้โดยซาอุดิและสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์
    เอ… ทำไมอิหร่านเงียบจัง ทำไมปล่อยให้ลูกน้องโดนรังแกอยู่ได้? มันแปลกอยู่นา หรือว่าสหรัฐฯกำลังจ้องจับผิดฝ่าฝืนข้อห้ามไม่ให้สนับสนุนอาวุธให้กลุ่มฮูติ เพราะตอนนี้ทั้งอิสราเอลและพรรครีพับลิกันขู่ว่าจะคว่ำข้อตกลงเจรจาสันติภาพนิวเคลียร์และอาจจะกลับมาแซงชั่นอิหร่านอีกรอบก็ได้? ตอนนี้อิหร่านช่วยสองด้านคือเยเมนและซีเรีย ส่วนรัสเซียก็เป็นแบ็คทางการทูตและการเมืองรวมทั้งเศรษฐกิจให้อีกทีหนึ่ง
    The Eyes
    10/08/2558

    ภาพจาก © Hani Mohammed

    ----------
    Houthi Rebels Declare State of Emergency in Yemeni Capital / Sputnik International
    Yemeni Forces Plan to Retake Sanaa From Houthis Within Two Weeks / Sputnik International
    Yemen Gov't Forces Announce Recapture of Another Province From Houthis / Sputnik International
    US Arms Sales to Saudi Arabia Contributing to Conflict in Yemen / Sputnik International
    US to Sell Saudi Arabia $500Mln in Munitions to Continue Yemen Campaign / Sputnik International
    Houthis Suffer Losses as Saudi-Backed Fighters Continue Yemen Offensive / Sputnik International
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    อเมริกากลัวน้อยหน้าเยเมน ประกาศภาวะฉุกเฉินที่เฟอร์กูสันบ้าง เมื่อตอนเที่ยงวันจันทร์ที่ผ่านมา ฮิ้ววววว!

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อเสียงปืนแตกที่เฟอร์กูสันอีกครั้ง... ก็เคอร์ฟิวสิพี่น้อง เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "State of Emergency Declared Amidst Ferguson Protests" (ประกาศภาวะฉุกเฉินระหว่างการประท้วงที่เฟอร์กูสัน) ส่วน RT news พาดหัวข่าวว่า "State of emergency declared in St. Louis county; activists arrested at federal courthouse" (ประกาศภาวะฉุกเฉินในเซ้นต์หลุยคันทรี จับกุมนักกิจกรรมหน้าที่ทำการศาล) ว้าว! เอาอีกรอบแล้วรึอเมริกา
    รายงานข่าวจาก Sputnik บอกว่าเมื่อมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อตอนกลางวันของวันจันร์ที่ผ่านมา เมืองเฟอร์กูสันก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้งในตอนกลางคืนหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงชายผิวสีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อคืนวันอาทิตย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงได้รวมตัวกันระหว่างช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อการเสียชีวิตของ Michael Brown เด็ดหนุ่มผิวดำที่ไม่มีอาวุธเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา
    ตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้กับนาย Michael Brown ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ Darren Wilson ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 สิงคหาคม 2014 และเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนขบวนการ Black Lives Matter ซึ่งตื่นตัวกับความโหดร้ายของตัวรวจ (สหรัฐฯ) เมื่อคืนวันอาทิตย์ มีการยิงกันสนั่นทั่วเมือง
    ฝ่ายตำรวจกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนว่ามีการยิงกันระหว่างฝ่ายตรงข้ามที่ใจกลางเมืองเฟอร์กูสัน เมื่อมีชายคนหนึ่งเปิดฉากยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ (plainclothes officer) 4 นาย รายงานข่าวชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างที่มีการไล่ล่าติดตามตัวเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงด้วย
    มีการเปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุในเวลาต่อมาว่าชื่อ Tyrone Harris อายุ 18 ปี (ผิวสี) ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วน Jon Belmar หัวหน้าตำรวจเมือง St. Louis County เน้นย้ำว่า "พวกมือปืนเป็นอาชญากร พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ประท้วง" (ใช่ Darren Wilson ก็คงจะอยู่ในกรณีนี้ด้วยสิ?)
    Jon Belmar กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า "มีกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆอยู่ข้างนอกนั่น ซึ่งจงใจจะทำให้ผู้คนเข้าใจว่าพวกเราไม่สันติมีชัยเหนือกว่า" (จริงดิ?)
    Loretta Lynch อัยการสูงสุดของสหรัฐฯได้ออกมาประณามเหตุการณ์คืนวันอาทิตย์ว่า "การใช้ความรุนแรงได้เกิดขึ้นในสังคม ในขณะเดียวกันพวกเจ้าหน้าที่ก็หาหนทางปกกันความรุนแรง ในวิถีทางที่เป็นอันตราย" (Loretta Lynch เป็นผู้หญิงผิวสี ส่วน Jon Belmar เป็นคนผิวขาว ฮ่าๆๆ ก็ว่ากันป๊ะ)
    Kayla Reed แกนนำองค์กรเพื่อการต่อสู้ของคนผิวดำ (Organization for Black Struggle) กล่าวในแถลงการณ์ว่า "หลังจากหนึ่งปีที่ีมีการประท้วงและการพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับความรับผิดชอบของตำรวจ ก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบที่ไม่มีกล้องวีดีโอติดตัว (body cameras) และบัตรประจำตัวที่เหมาะสมเข้ามาในการจัดชุมนุมประท้วง ปล่อยให้พวกเราอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ซึ่งเป็นปัญหาอย่างเห็นได้ชัด"
    ในตอนกลางวันของวันอาทิตย์นั้นกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนได้ไปรวมตัวกันอย่างสันติเพื่อแสดงการรำลึก ณ สถานที่เสียชีวิตของ Michael Brown การให้บริการจัดขึ้นโดยโบสถ์แห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น กลุ่มแกนนำได้เน้นย้ำว่า ในวันจันทร์จะเป็นเหมือนเดิม เป็นวันที่เต็มไปด้วยสันติของการทำอารยะขัดขืนโดยประชาชน (civil disobedience) ซึ่งมุ่งความสนใจไปที่ความมีอคติทางเชื้อชาติ (เหยียดผิว) ในระบบยุติธรรมทางอาญาของสหรัฐฯ (นี่ขนาดคนอเมริกันแท้ๆ ก็ยังบอกว่าระบบยุติธรรมของสหรัฐฯไม่ได้มีความยุติธรรมแท้จริงเลย)
    พอตกกลางคืน ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกไปจากกลุ่มผู้ประท้วง และทำลายร้านค้าธุรกิจตามถนน West Florissant Avenue (พวกสร้างสถานการณ์เริ่มทำงาน) ตำรวจเมืองเฟอร์กูสันก็ออกปฏิบัติ จัดแถวเรียงหน้ากระดานหน้าร้านค้า เสริมชุดปราบจลาจลมาเต็มที่ ตำรวจออกคำสั่งให้กลุ่มผู้ประท้วงออกไปจากถนน (เพราะนี่เป็นถนนของตำรวจ ไม่ใช่ของประชาชน Oopz! อันนี้แอ็ดมินพูดเองนะครับ คริๆ)
    กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านั้นก็พากันเคลียร์พื้นที่และออกไปจากถนนตามคำสั่งของตำรวจ (ปล่อยให้ตำรวจยึดถนนแทนรถยนต์ คริๆ) ตำรวจก็รีบลงประจำการในท้องถนนแทน (เห็นมะ! ว่าแล้ว เขาแค่แย่งถนนกันแค่นั้นเอง ตำรวจสหรัฐฯจะหวงถนนมาก เมื่อเห็นประชาชนไปยืนอยู่บนท้องถนน พวกตำรวจก็ออกอาการทนไม่ได้ทันที จะต้องสวมชุดปราบจลาจลไปแย่งยืนบนท้องถนนแทนประชาชนทันที ฮี่ๆๆ) เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มจัดแถวขบวนเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ประท้วง ในขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงก็เริ่มขยับเข้าหาแถวของตำรวจ
    นักกิจกรรมบางคนมองว่า นี่เป็นตัวอย่างการยั่วยุของตำรวจอีกแบบหนึ่ง ซึ่งได้ขยายความตึงเครียดออกไประหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว Amy Hunter ผู้อำนวนการองค์กรยุติธรรมการไม่เหยียดผิวแห่ง YWCA กล่าวกับสำนักข่าว New York Times ว่า "พวกเราได้เรียนรู้ว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเราทำแบบนี้ (พบว่า) มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น"
    รายงานข่าวบอกว่าโดยทั่วไปแล้วนั้นพบว่า ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของเมืองเฟอร์กูสันได้มุ่งเป้าไปที่ชนกลุ่มน้อยอย่าไม่เป็นธรรม ได้มีการตรวจสอบโดยกระทรวงยุติธรรม (ของสหรัฐฯ) หลังจากการเสียชีวิตของ Michael Brown ซึ่งพบว่ามีการเหยียดผิวสีอย่างเป็นระบบ (systemic racism ) ในเมืองนี้ จึงกล่าวได้ว่าตำรวจได้สร้าง "สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ" (toxic environment) ขึ้นมา รายงานฉบับนี้ยังได้รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆจำนวนมากที่มีการใช้กองกำลังตำรวจ (สหรัฐฯ) จำนวนมากเกินไปต่อคนผิวดำที่ไม่มีอาวุธ
    ป.ล. ในลิ้งค์สุดท้าย RT news ลงคลิปเหตุการวุ่นวายในเฟอร์กูสันให้ดู ทั้งพลุไฟและแก๊สน้ำตาปลิวว่อนกลางถนน โชคดีนะโอบาม่า
    The Eyes
    11/08/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Jeff Roberson

    ----------
    State of Emergency Declared Amidst Ferguson Protests / Sputnik International
    State of emergency declared in St. Louis county; activists arrested at federal courthouse — RT USA
    Man shot in Ferguson identified as black 18yo Tyrone Harris, 'friend of Michael Brown' — RT USA
    Protests, arrests continue following Mike Brown's death anniversary — RT USA
    Michael Brown commemoration in Ferguson ends in violence — RT In motion
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    ซาอุดิฯนำรถถังและรถหุ่มเกาะบุกทางใต้เยเมน ส่วนฮูติก็ยิงจรวดถล่มทางใต้ของซาอุดิฯเช่นกัน ไม่มีใครยอมใครหละงานนี้

    [​IMG]

    ------------
    มาอัพเดทสถานการณ์ในเยเมนและซาอุดิอาระเบียต่อซักหน่อยนะครับ วันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่ากองกำลังโปรฮาดี้ที่มีซาอุดิฯและชาติพันธมิตรอาหรับร่วมด้วยโดยมีพี่เบิ้มอย่างสหรัฐฯคอยสนับสนุนด้านอาวุธและทางเทคนิคต่างๆให้ มุ่งหน้าขึ้นสู่เหนือหวังยึดกรุงซานาให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังจากที่ยึดฐานที่มั่นเก่าในเมือง Aden ได้แล้ว คาดว่าจะไล่ยึดฐานที่มั่นต่างๆในกรุงซานาให้ได้ ด้วยทหารชุดใหม่ราว 3,000 คนที่ไปฝึกมาจากซาอุดิฯและสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ พร้อมด้วยรถถัง 20 คัน รถหุ้มเกาะอีก 170 คน และมีเครื่องบินรบจากซาอุดิฯคอยโจมตีทางอากาศเปิดทางให้ ตอนนี้รายงานข่าวบอกว่ากองกำลังโปรฮาดี้และกำลังกำลังผสมพันธมิตรอาหรับสามารถเข้ายึดจังหวัด Ibb ทางระหว่างกรุงซานาและเมือง Aden ได้แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
    ส่วนท่าทีของกลุ่มฮูติเหมือนจะไม่สะทกสะท้านอะไร ก็ออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ข่าวบอกว่ามีผลบังคับใช้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นหลังเที่ยงคืน แสดงว่าฝ่ายฮูติกำลังเตรียมการอะไรบางอย่างเอาไว้ต้อนรับกองกำลังซาอุดิฯอยู่ในกรุงซานาหรือเปล่า? สื่อฯรัสเซียเหมือนนกรู้นะ ไม่ค่อยนำเสนอข่าวการโจมตีจากฝั่งฮูติเลย เน้นแต่ข่าวความเสียหายของฝ่ายพลเมืองเยเมนที่เกิดขึ้นจากการโจมตีทางอากาศจากฝ่ายซาอุดิฯเท่านั้น ส่วนสื่อฯตะวันตกก็เน้นประโคมข่าวว่ากองกำลังโปรฮาดี้รุกคืบได้เท่านั้นเท่านี้แล้ว แต่ไม่ค่อยเน้นข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝ่ายซาอุดิฯและฝ่ายโปรฮาดี้เลย มันยังไงๆอยู่นะนี่่
    เขาจะยังไงกันก็ไม่รู้หละคอยดูต่อไปดีกว่าว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่ หันไปดูข่าวจากฝั่งอิหร่านอีกซะข่ายนะครับ เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.58) สำนักข่าว PressTV ของอิหร่านพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Yemeni forces kill dozens of Saudi soldiers" (กองกำลังเยเมนสังหารทหารซาอุดิฯหลายสิบคน) นั่นไง... เจอจนได้สินะซาอุดิฯจ๋า
    รายงานข่าวบอกว่ามีทหารซาอุดิอาระเบียเสียชีวิตหลายสิบคน หลังจากที่กองทัพของเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเหล่านักรบ (ผู้กล้า) จากคณะกรรมการที่มีชื้อเสียง (สื่อฯอิหร่านเขาหมายถึงคณะประวัติของเยเมนที่นำโดยผู้นำชนเผ่าฮูติ ซึ่งควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเยเมนบางส่วนอยู่ในขณะนีี้) ได้เปิดฉากโจมตีค่ายทหารของซาอุดิอาระเบียทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Najran
    สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม al-Masirah ภาคภาษาหรับรายงานว่า "ทหารซาอุดิหลายนายได้เสียชีวิตลงเมื่อกองทัพเยเมนได้ระดมยิงปืนครก (a barrage of mortar shells) ถล่มฐานทัพ Quwwah ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนเยเมน"
    ส่วนกองทัพของเยเมนอีกหน่วยหนึ่งพร้อมด้วยเหล่านักรบพันธมิตร (ฮูติ) ก็ได้เครื่องยิงจรวดแกรด BM-21 (เวอร์ชั่นอิหร่าน?) ถล่มฐานทัพ al-Mo’tan ของซาอุดิฯทางตะวันตกเฉียงใต้ในจังหวัด Jizan (เมืองนี้อยู่ติดกับทะเลแดงเลย) ส่งผลให้มีเปลวไฟและกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่มีรายงานความเสียหายและบาดเจ็บล้มตาย (casualties) ทันที (ฟังให้ดีนะครับ "ไม่มีรายงาน" ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสียหายหรือการเสียชีวิตใดๆเกิดขึ้นจากฝั่งซาอุดิฯนะ อาจจะไม่หรืออาจจะมีแต่ซาอุดิฯไม่บอกก็ได้ แต่ดูสีหน้าของกองกำลังเยเมนที่ยิงจรวดถล่มซาอุดิฯในครั้งนี้สิ ซิวๆ สบายๆ ยิ้มใส่กล้องอีกตะหาก จัดไป อิหร่านฝากของขวัญไปให้ แต่เอ... คราวนี้ไม่เห็นสื่อฯฝั่งตะวันตกออกมาคุยเหมือนครั้งก่อนน้อยเลยว่า โอ้… ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเรามีจรวจขีปนาวุธแพททริอ็อตของอเมริกาอยู่ในซาอุดิฯ จึงทำให้การลดความสูญเสียได้ เงียบกริ๊บเลยนะคราวนี้ ฮี่ๆๆ)
    รายงานข่าวยังบอกอีกว่า มีจรวดหลายลูกแลนดิ้งลงที่ค่ายทหาร al-Jalah ของซาอุดิฯอีกแห่งหนึ่งในจังหวัด Jizan ด้วย แม้ว่าจะไม่มีรายงานความสูญเสียที่อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าที่แน่ๆ ฝั่งเยเมนบอกการโจมตีแบบนี้ทำให้ฝั่งซาอุดิฯได้รับความเสียหายไปไม่น้อยเลย (พอเช็กข่าวย้อมหลังเฉพาะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่ากองทัพเยเมนเน้นโจมตีค่ายทหารของซาอุดิฯใกล้พรมแดนทางตอนเหนือของเยเมนเป็นหลัก โดนบ่อยซะด้วย ฮื่มมมมม…. งานนี้ฮูติคงจะปล่อยให้กองกำลังโปรฮาดี้เล่นสนุกในทางตอนใต้ไปก่อน ส่วนกองทัพเยเมนฝ่ายที่เป็นพันธมิตรกับฮูติการเจาะยางซาอุดิฯทางตอนเหนือของเยเมนแทน)
    ต่อนะครับ... รายงานข่าวบอกอีกว่า ส่วนในที่อื่นๆภายในซาอุดิฯ พาหนะทางทหาร 2 คันถูก (ซุ่ม) ทำลายด้วยเครื่องยิงกระสุนปืนใหญ่ (projectile) ซึ่งยิงโดยทหารเยเมนและนักรบของคณะกรรมการที่มีชื่อเสียง (popular committees' fighters - กลุ่มนักรบฮูติ) ในการโจมตีฐาน al-Jihad (ของพวกอัลเคด้า) มีรายงานบอกอีกว่า กองทัพเยเมนได้เข้ายึดแคมป์ทหาร al-Dhaba ในจังหวัด Dhahran Asir ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดิอาระเบียได้แล้ว (ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จังหวัด Asir อยู่ระหว่างจังหวัด Jizan และจังหวัด Najran ว้าว... 3 จังหวัดที่อยู่ติดกับพรมแดนเยเมนนี้โดนถล่มหนักเลยแฮะ มิน่าหละซาอุดิฯถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ยอมลดลาวาศอกซักดี เพราะพี่แกเสียหน้านี่เอง เอาหละถึงเสีย Aden ไปแต่ถ้าได้ 3 จังหวัดของซาอุดิฯมาก็คุ้มวะ คริๆติดทะเลแดงอีกตะหาก แหล่มเลย)
    สื่อฯอิหร่านยังรายงานต่ออีกว่า ทหารในกองทัพของเยเมนและนักรบฮูติ (สื่ออิหร่านจะไม่ค่อยใช้คำว่า "ฮูติ" นะ แต่จะใช้คำว่า "popular committees fighters" หรือ "fighters from popular committees" แทน) ได้ระดมยิงปืนครกใส่ค่ายทหาร บีบให้กองทัพของซาอุดิฯหนีออกไป จากนั้นก็ทำการเข้าควบคุมฐานที่มั่นทางทหารเต็มรูปแบบ ในขณะเดียวกันกองทัพเยเมนก็ต่อสู้ยันกับกองกำลังโปรฮาดี้ที่จังหวัด Taiz ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยเมน ขับกองกำลังฝ่ายโปรฮาดี้ออกไปจากอำเภอ Mashra'a และ Hadnan
    จบข่าว... ตกลงซาอุดิจะแลก 3 จังหวัดกับพื้นที่ทางตอนใต้ของเยเมนว่างั้นเถอะ... จะดีเหรอ? บ่อน้ำมันบางแห่งของซาอุดิฯก็อยู่ในพื้น 3 จังหวัดนั้นด้วยนะ คิดให้ดีนะซาอุดิฯ
    The Eyes
    11/08/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Hani Mohammed

    ----------
    Anti-Houthi Coalition Closes in on Yemeni Capital Sanaa / Sputnik International
    http://presstv.ir/Detail/2015/08/10/424141/-Yemen-Najran-Saudi-Arabia-Houthi
    http://www.almanar.com.lb/english/adetails.php?fromval=1&cid&frid&eid=219558
    Yemeni Forces Launch Barrages of Rockets on Saudi Military Base in Dhahran Asir - AhlulBayt News Agency - ABNA - Shia News
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    เครื่องปกป้องคุ้มครองรุ่น "AK-47" จากรัสเซีย ขลังนักแล หลวงพ่อปลุกเสกมาเองกับมือ เพี้ยงงงงง! แคล้วคลาดปลอดภัย นะลูกนะ

    ส่วนเว็บนี้เขาจะรวมภาพบาทหลวงประพรมน้ำมนต์ให้กับกองทัพต่างๆและสถานที่ต่างๆในรัสเซียครับ ก็เป็นความเชื่อของเขาอ่ะ

    ภาพจาก EpicPew - Epic Church. Epic Life.

    25 Pictures That Prove Orthodox Priests Will Bless ANYTHING - EpicPew
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    สาเหตุน้ำมันขึ้นรอบที่สองในเดือนนี้

    [​IMG]

    ----------
    วันก่อนพึ่งจะลุ้นให้ราคาน้ำมันดิ่งลงใกล้จะแตะ 42 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลแล้วเชียว พอแวะเข้าไปดูกราฟราคาน้ำดิบทั่วโลก กลับพบว่าชี้โด่งขึ้นมาอีกครั้งแล้ว เกิดอะไรขึ้น? ขนาดสหรัฐฯประกาศเพิ่มแซงชั่นบริษัทน้ำมันและแก๊สของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ยังไม่ขึ้นเลย สงครามในเยเมนมีความตึงเครียดมากขึ้น ก็ยังไม่ขึ้น สหรัฐฯเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มไอซิสและตุรกีถล่มชาวเคิร์ดตั้งหลายรอบก็ไม่ขึ้น ก็เลยลองค้นหาข่าวเพิ่มเติมจากสื่อฯหลายสำนัก โป๊ะเชะ! ไปเจอคำตอบจากสื่อฯจีนวันนี้นี่เอง จีนบอกว่าที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ก็เพราะจีนนี่แหละ จริงดิ? (อ๊ะๆ! อ่านให้จบก่อนนะครับ)
    วันนี้ (11 ส.ค.58) สำนักข่าว People's Daily Online ของจีนอ้างสำนักข่าว Xinhua โดยพาดหัวข่าวว่า "Global oil prices rise on back of record high import by China" (ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมีสาเหตุมาจากจีนเพิ่มปริมาณนำเข้ามากขึ้น) ส่วน Xinhua พาดหัวข่าวว่า "Oil prices rise amid more China imports" (ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นระหว่างจีนนำเข้ามากขึ้น) อ้อ… อย่างนี้นี่เอง คราวนี้มาอ่านเนื้อข่าวบ้างนะ
    รายงานข่าวบอกว่าจีนนำเข้าน้ำมันดิบในปริมาณ 30.71 ล้านตันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 29 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบปีนี้ จากการเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยศุลกากรของจีน ข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าของจีนพบว่า มีการนำเข้าน้ำมันสูงกว่าสินค้าอย่างอื่น ซึ่งได้หนุนให้ตลาดน้ำมันดิบให้ดีขึ้น
    ราคาน้ำมันดิบได้รับการสนับสนุนจากตลาดทุน หุ้นของสหรัฐฯมีการซื้อขายในระดับสูงเมื่อวันจันทร์นี้ ซึ่งฟื้นตัวจากการซบเซาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    เงินดอลล่าสหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆในวันจันทร์หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 4 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้ รายงานข่าวบอกว่า การที่เงินดอนล่าร์อ่อนค่าลงทำให้ราคาน้ำมันดิบที่อิงดอลล่าร์ถูกลงตามไปด้วย และยิ่งดึงดูดผู้ซื้อให้หันไปถือสกุลเงินอื่นๆแทนเพิ่มมากขึ้น (ก็เงินหยวนไงครับ)
    (เมื่อเช้านี้ธนาคารกลางของจีนประกาศปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเทียบกับดอลล่าสหรัฐฯครั้งใหม่ เป็น USD 1/ RMB 6.2298 จากวันจันทร์อยู่ที่ USD 1/ RMB 6.1162 รายงานข่าวบอกว่าส่งผลให้ค่าเงินหยวนของจีนตกลงไป 1.4% มาอยู่ที่ 6.2980 ต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ณ เวลา 11:12 am ตามเวลาเซี่ยงไฮ้)
    ส่วนอีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับกระแสความนิยมในเงินหยวนของจีนในปัจจุบันนี้ก็คือที่แอฟริกาใต้ สำนักข่าว People's Daily Online ของจีนรายงานว่า การใช้สกุลเงิน RMB ของจีนในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น 33% เมื่อปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นเป็น 191% ในสองปีที่ผ่านมาก รายงานจาก Worldwide Interbank Financial Telecommunications (SWIFT)
    เมื่อเดือนมิถุนายน 2015 หนึ่งในสามของการชำระเงินระหว่างแอฟริกาใต้กับจีนแผ่นดินใหญ่ แอฟริกาใต้กับฮ่องกง ใช้สกุลเงินหยวนของจีน นอกจากนี้แล้วธนาคารกลางของเคนย่าพึ่งจะเปิดสาขาใหม่ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์เคลียริ่งเงินหยวนของจีนในเมือง Nairobi เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเดือนเดียวกันนี้ธนาคารกลางของจีนก็ได้กำหนดให้สาขาของธนาคารกลางในเมือง Johannesburg เป็นธนาคารเคลียริ่งเงินหยวนขึ้นมาเป็นแห่งแรกในแอฟริกาด้วย
    นาย Munir Ahmed CEO ของธนาคารแห่งขาติของแคนยากล่าวว่าขณะนี้เงินหยวน (RMB) ของจีนได้กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก รัฐบาลและธนาคารแห่งชาติบางประเทศในแอฟริกาได้ซื้อพันธบัตร RMB ไว้เป็นทุนสำรองแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จาก 24 ประเทศที่ประกาศว่าได้ถือเงินหยวนของจีนไว้ มี 6 ประเทศจากแอฟริกาคือ Nigeria, South Africa, Kenya, Ghana, Angola, and Tanzania (หยวนไปโลดหละงานนี้ ดอลล่าร์สหรัฐฯก็แก่ชราไปตามกาลเวลา)
    The Eyes
    11/08/2558


    ภาพจาก BBC - Homepage

    ----------
    Global oil prices rise on back of record high import by China - People's Daily Online
    Oil prices rise amid more China imports - Xinhua | English.news.cn
    Oil prices rise amid more China imports - Global Times
    http://en.people.cn/n/2015/0811/c98649-8934309.html
    http://en.people.cn/n/2015/0810/c90000-8933827.html
    BBC NEWS | Business | Market Data | Commodities | LIFFE Ice Euro Exchange ICEEUR | West Texas Intermediate Crude Oil Future WBS
    Yuan falls sharply as China improves exchange rate formation system - Xinhua | English.news.cn
    China's yuan weakens most in two decades after central bank reform - People's Daily Online
    http://en.people.cn/n/2015/0811/c90000-8934466.html
    Yuan weakening is not devaluation: central bank economist - Global Times
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )
    ชาวอเมริกันคิดว่าประเทศสหรัฐฯกำลังเดินผิดทาง, ชิคาโก้เตรียมปลดครูและลูกจ้างเกือบ 1,500 ตำแหน่ง (กรรม!)

    [​IMG]

    ----------
    วันนี้มีข่าวดีสองข่าวมาฝากโปรอเมริกา (ไม่รู้ว่าจะทำใจได้หรือเปล่านะ คริๆ เยส!) ระหว่างที่ตระเวนอ่านข่าวจากทั้งฝั่งจีนและรัสเซียอยู่นั้น ก็ไปสดุดข่าวเกี่ยวกับจักรวรรดเฮเก จึงหยิบมาฝาก
    ข่าวแรกเลยนะ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว People's Daily Online ของจีนพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Nearly 70% of Americans think the country is on the wrong path" แปลว่า "ชาวอเมริกันเกือบ 70% คิดว่าประเทศกำลังอยู่บนหนทางที่ผิดพลาด (เดินผิดทาง)" ว้าววว! ทำไมเป็นอย่างนั้นหละนั่นหนะ โอบาม่าจะว่าอย่างไรบ้างหละนี่?
    เอ่อ… งานนี้สื่อฯจีนเขาไม่ได้ปั้นข่าวเต้าข่าวขึ้นมาเองหรอกนะครับ เขาไปเอาข่าวมาจากสำนักโพลแห่งหนึ่งชื่อ Rasmussen Reports ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Asbury Park, New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกานั่นแหละ อเมริกันของแท้เลยหละ ซึ่งต้นฉบับตั้งชื่อบทความว่า "Right Direction or Wrong Track 29% Say U.S. Heading in Right Direction" (ถูกหรือผิดทาง 29% บอกว่าสหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง) (ฮ่าๆๆ 29% เองอ่ะ สื่อฯจีนแสบกว่า ตอกย้ำเลยว่า ตัวเลขที่ตรงกันข้ามชี้ชัดว่า อีก 71% ไม่เห็นด้วยกับ 29% นะครับ หมายความว่าไง? ก็หมายความว่าเสียงส่วนใหญ่บอกว่าอเมริกากำลังไปผิดทางนะสิครับ เฮ้อ… ยอมรับความจริงเหอะนะคุณโอบาม่า)
    รายงานข่าวจากจีนสรุปให้ฟังสั้นๆว่า... มีเพียง 28 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกเสียงเท่านั้นที่คิดว่าตอนนี้ประเทศสหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ถูกต้อง (right direction) ส่วนอีก 66% ในปัจจุบันนี้เชื่อว่าประเทศสหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าลงสู่ลู่ทางที่ผิด (wrong track) ตามรายงานการสำรวจทางโทรศัพท์ทั่วประเทศของสำนักสำรวจวิจัย Rasmussen Reports เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา
    นักวิจัยพิจารณาว่า การมองโลกในแง่ร้าย (pessimism) อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินพิจารณาคดีของศาลฎีกาของสหรัฐฯเกี่ยวกับนโยบาย Obamacare และการแต่งงานของกลุ่มคนรักร่วมเพศ (อ้่าว พอเขามีความคิดเห็นต่างจากรัฐบาลจักรวรรดิเฮเก้ ก็บอกว่าเขาเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายซะงั้น ไม่ยอมรับเสียงส่วนมาก ประชาธิปไตยแบบไหนของอเมริกาอีกหละนี่?)
    การสำรวจยังกว่าอีกว่า เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ 30% หรือมากกว่าผู้โหวต (เสียงส่วนมากในครั้งนี้) เชื่อว่าประเทศกำลังมุ่งไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง (แม้สหรัฐฯจะพยายามชี้ให้เห็นว่านี่ตัวเลขในอดีตบอกว่ามีชาวอเมริกาที่คิดว่าประเทศกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้องสูงกว่าตัวเลขปัจจุบันตั้ง 1-2% เชียวนะ เพื่อกลบความน่าอับอายในผลการสำรวจรอบใหม่ของตนเองที่ตัวเลขลดลง ดูซิว่าสำนักสำรวจแห่งนี้จะแถยังไงต่อไปอีก) ผู้โหวตเสียงส่วนมากจากทุกวัยมีความเห็นพร้อมต้องกันว่า ประเทศกำลังมุ่งหน้าสู่ทิศทางที่ผิด แต่ผู้ออกเสียงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ค่อนข้างจะเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายน้อยกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่านี้ (ผู้สูงอายุ) (ยังพยายามหาข้อมูลมาปรอบใจตัวเองอยู่อีก โดยบอกว่าคนแก่ชาวอเมริกันเป็นพวกมองโลกในแง่ร้าย ในขณะที่ชาวอเมริกันวัยกลางคนมองโลกในแง่ร้ายน้อยกว่าคนสูงวัยว่างั้นเถอะ แสดงว่าในวันข้างหน้าพอพวกนี้มีอายุมากขึ้นก็จะกลายเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายหละสิ? อันนี้สื่อฯจีนไม่ได้พูดนะ บริษัทสำรวจของอเมริกาพูดเอง ไปด่ากันเองละกัน ฮ่าๆๆ)
    รายงานข่าวจากจีนสรุปให้ฟังอีกว่า ในบรรดาผู้ออกเสียง (ในการสำรวจในครั้งนี้) มีผู้ที่ไม่พอใจ (ไม่ให้คะแนน disapprove) ผลงานของนายโอบาม่าคิดเป็น 85% หรือมากกว่านั้นคิดว่าประเทศกำลังมุ่งหน้าไปสู่ทิศทางที่ไม่ถูกต้อง (85% or more think the country is heading in the wrong direction) (ตะลึงทึงโป๊ะ! โปรอเมริกาบอกว่าเซ็งสำนักโพลแห่งนี้่อ่ะ! เผาเลยไหมพี่น้อง ฮ่าๆๆ)
    ยังมีอีกนะครับ ใจร่มๆนะโปรอเมริกานะ... ข่าวนี้เด็ดกว่าอีกนะ (กัดฟันอ่านต่อให้จบก่อนแล้วค่อยเอาหัวโขกกำแพงนะครับ คริๆ) เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Chicago’s Cash-Strapped School System Fires Nearly 1,500 Teachers, Staff" แปลว่า "ระบบการศึกษาของชิคาโก้ขาดแคลนเงิน (ถังแตก) ปลดครูและลูกจ้างเกือบ 1,500 อัตรา" (อุ๊แม่เจ้าาาาา! อย่างนี้ต้องฉลอง มันสวนทางกับข่าวที่รัฐบาลของสหรัฐฯพยายามสร้างภาพมาตลอดว่าเศรษฐกิจของตัวเองดี อัตราการว่างงานไม่เพิ่มขึ้น อยู่ในระดับต่ำ ต่ำแป๊ะอะไรเล่า! ปลดครูสอนหนังสือเด็กนี่นะ เจริญหละอเมริกา) เดี๋ยวโปรอเมริกาก็จะแถไปอีกว่า ฮื้ยยยย อย่าไปเชื่อสื่อฯรัสเซียมาก เต้าข่าวใส่ร้ายอเมริกามากกว่ามั๊ง อึ่ม!ก็ว่ากันป๊ะ... แต่รอยเตอร์สพาดหัวข่าวว่า "Chicago public schools to lay off 1,500 teachers and staff" (ชัดยิ่งกว่าสื่อฯรัสเซียซะอีกอ่ะ ว่าไงหละทีนี้? คริๆ เลย์อ็อฟครูโรงเรียนรัฐด้วยนะพี่น้อง)
    รายงานข่าวจากฝั่งรัสเซียกล่าวว่า "Rahm Emanuel ผู้ว่าฯเมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ (Illinois) อดีตเสนาธิการ (Chief of Staff) ของปธน.บารัค โอบาม่า ได้อนุมัติการปลดครูและพนักงานจากโรงเรียนของรัฐในเมืองชิคาโก้เกือบ 1,500 อัตรา ตามรายงานข่าว (จากสื่อฯต่างประเทศของสหรัฐฯ)"
    รายงานข่าวบอกว่า การปลด (firings) (ครูและลูกจ้างในโรงเรียน) ในครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยออกมาเมื่อระบบโรงการของรัฐในเมืองชิคาโก้ประกาศงบประมาณจำนวน $5.7 billion (เกือบ 2 แสนล้านบาท) ที่เป็นข้อถกเถียงกันในปีงบประมาณ 2016 เมื่อวันจันทร์นี้ว่า ได้รวมการตัดทรัพยากรออกไปจำนวน $200 million (ประมาณ 7 พันล้านบาท) รวมถึงการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่และการขาดดุลจำนวน $1.1 billion (ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท) (อะไรกัน เงินแค่ 7 พันกว่าล้านบาท รัฐบาลกลางของสหรัฐฯไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเมืองชิคาโก้ของตนเองได้เลยหรือ? น่าสงสารเยาวชนอนาคตของชาติชาวอเมริกันจริงๆ รัฐบาลจักรวรรดิเฮเก้มีเงินไปก่อสงครามต่างถิ่น และพัฒนาเครื่องบินรบ F-35 ตั้งมากมาย แต่ไม่มีเงินสนับสนุนระบบการศึกษาให้กับเยาวชนของตัวเองซะงั้น ถึงกับปลดครูกันเลยหรือ? อีกหน่อยก็คงจะเสนอให้ยุบโรงเรียนและให้ซื้อรถตู้แทนเหมือนใครบางคนหละสินะ คริๆ อ่ะนิดนึง)
    การขาดดุลได้ขยายตัวออกไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มสูงขึ้น (soaring costs of entitlements) และมีการขาดดุลงบประมาณถึง 1.1 พันล้านเหรียญเป็นประวัติการณ์ ซึ่งได้รับแรงหนุนโดยการจ่ายเงินบำนาญที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (เมื่อนักการเมืองอยากได้คะแนนเสียงเยอะๆก็สัญญาว่าจะเพิ่มเงินบำนาญและสวัสดิการให้ประชาชนมากๆ และกับการรีดภาษีมากๆเช่นกัน แต่เงินที่ได้มารัฐบาลกลางก็เอาไปก่อสงครามต่างถิ่นและใช้ในโครงการสนับสนุนให้เกิดการแตกแยกในประเทศต่างๆผ่านโปรแกรมและองค์กร ngo ต่างๆ อัดฉีดเงินบำนาญให้มากๆในตอนแรก สุดท้ายเงินไม่พอจ่ายก็เกิดการขาดดุล ทำไงหละที่นี้ ก็ปลดพนักงานและลูกจ้างของรัฐสิครับท่าน แหล่มเลยประชานิยมของจักรวรรดิเฮเก)
    ต่อนะครับ... ในบรรดาบุคคลที่จะถูกโละทั้งหมดนั้น มีครูอยู่ 479 อัตรา และลูกจ้างแรงงานทั่วไปอีก 1,012 อัตรา ที่จะถูกปลด จากจำนวนทั้งหมด 41,500 (กรรม!)
    แต่รายงานข่าวยังพูดปลอบใจบรรดาคุณครูและลูกจ้างเหล่านั้นอีกว่า "อย่างไรก็ตามครูหลายคนที่ถูกไล่ออก อาจจะได้รับว่าจ้างให้กลับเข้าไปทำงานในตำแหน่งอื่นในระบบโรงเรียน (ของสหรัฐฯ) เพื่อเติมเต็มในตำแหน่งที่ว่างอยู่จำนวน 1,450 อัตรา" (เออ… แล้วจะปลดทำไมหละนี่? อ้อ… เขาไม่ได้ต้องการครูเพิ่ม แต่เขาต้องการคนตัดหญ้าและภารโรงเพิ่มไงครับ เขาไม่ต้องการครูประจำ เพราะรัฐต้องจ่ายสวัสดิการเป็นจำนวนมากให้ ซึ่งตอนนี้รัฐถังแตกไม่มีเงินกจ่าย ต้องปลดครูและลูกจ้างประจำออก แล้วให้เป็นครูชั่วคราวและลูกจ้างชั่วคราวแทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและสวัสดิการอื่นๆที่พอจะลดได้ โปรอเมริกาชอบหละสิ?)
    รายงานข่าวกล่าวต่ออีกว่า "คาดว่าสภานิติบัญญัติของรัฐอิลลินอยส์จะอนุมัติให้มีการตัดงบประมาณจากภาระการจ่ายเงินบำนาญลงประมาณ $500 million (ประมาณ 1.75 หมื่นล้านบาท) แต่ว่าหากรัฐอิลลินนอยส์ไม่ตัด ชิคาโก้อาจจะปลดครูและลูกจ้างในโรงเรียนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก"
    เมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 บอร์ดการศึกษาของชิคาโก้ (Chicago Board of Education) ประกาศวว่าจะออกพันธบัตรมูลค่า $1.16 billion ครั้งใหม่ (ประมาณ 4.06 หมื่นล้านบาท) เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับโรงเรียนของรัฐในชิคาโก้
    ระบบการศึกษา (โรงเรียน) ยังได้เรียกร้องให้ครูทั้งหมดในระบบยอมรับการตัดค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ 7% (ฝ่ายนักการเมืองเรียกร้องให้ครูไม่รับเงินบำนาญหรือเงินชดเชยอื่นๆจากส่วนกลางประมาณ 7% ฮ่าๆๆ) มาฟังดูนะว่าทางพวกคุณครูชาวอเมริกันในชิคาโก้เขาจะว่าอย่างไรบ้าง รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า สหภาพครูในเมืองชิคาโก้ได้ออกมา "ปฏิเสธ!" (rejected) ข้อเรียกร้องและนโยบายดังกล่าว และขู่ว่าจะสไตรค์เต็มรูปแบบ (threatened a full-scale strike) หากยังมีความพยายามที่จะดำเนินมาตรการดังกล่าวอยู่อีก (เอาเลย… หนับหนุนเด็มที่ คุณครูชิคาโก้ลุย!... สู้เข้าไป อย่าได้ถอย.... มวลชนคอย เอาใจช่วยอยู่... คริๆ)
    The Eyes
    12/08/2558

    ภาพจาก © Flickr/ Michael Linden

    ----------
    http://en.people.cn/n/2015/0810/c90777-8933500.html
    Chicago’s Cash-Strapped School System Fires Nearly 1,500 Teachers, Staff / Sputnik International
    Right Direction or Wrong Track - Rasmussen Reports™
    Chicago public schools to lay off 1,500 teachers and staff | Reuters
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    คลิกเพื่อชมคลิป https://www.youtube.com/watch?v=gYerF_51wOw
    https://www.youtube.com/watch?v=IDlAsY4oTUM
    https://www.youtube.com/watch?v=84udsqqJr30

    รวมคลิปเยนเมนบุกซาอุดิอาระเบีย
    ---------------
    ของจริง... ฮูติเตือนซาอุดิอาระเบียตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าแหย่เยเมนก็ไม่ฟัง สุดท้ายกองทัพเยเมนและกลุ่มโสร่งฮูติก็บุกเข้าไปในซาอุดิฯจนได้ กองทัพซาอุดิฯ ที่ควบรถถัง M60 Patton ซื้อมาจากสหรัฐฯ กำลังเมามันกับการยิงปืนใหญ่รถถังถล่มเยเมนอยู่นั้น กลุ่มฮูติก็ใช้ยุทธศาสตร์โจมตีแบบกองโจรยิงหลอกด้านหน้า แอบตีตลบหลังด้วย RPG และขีปนาวุธทำลายรถถัง ATGM จากนักรบฮูติเข้าไปเต็มๆ เล่นเอาทหารซาอุดิฯโกยแน็บไม่เป็นท่า ส่วนอีกคลิปก็นักรบฮูติบุกฐานที่มั่นทางทหารของกองทัพซาอุดิฯ ลอบเข้าไปวางระเบิดถล่มป้อมค่ายของซาอุดิฯดูไม่จืด ตอนนี้ยึดไปแล้วหลายแห่งแล้ว กำลังรุกคืบเข้าไปในซาอุดิฯเรื่อยๆ เยเมนหลอกให้กองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ บุกตอนใต้ของเยเมน ในขณะเดียวกันเยเมนก็บุกขึ้นเหนือ (ตอนใต้ของซาอุดิฯเช่นกัน) นั่งดูคลิปกลยุทธ์ของพวกนักรบโสร่งซะเพลินเลย ข่าวแบบนี้ไม่มีในสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกนะครับ แต่เยเมนเชิญนักข่าวลงพื้นที่ของจริงเลย เกาะติดทุกช็อต ยังกะดูหนังสงครามยังไงยังงั้น แต่นี่คือของจริง
    The Eyes
    12/08/2558
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    หน่วยงานที่เข้าถึงสถานที่เกิดเหตุ 9/11 ในสหรัฐฯต่างก็เป็นโรคมะเร็งเกือบ 4,000 คน

    [​IMG]
    -----------
    เอาแล้วไงความจริงค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆแล้ว วันนี้ (12 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news อ้างรายงานข่าวจาก New York Post ของสหรัฐฯว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าถึงสถานที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2001 ซึ่ง (รัฐบาลสหรัฐฯอ้างว่า) เกิดจากการก่อการร้ายที่ตึก World Trade Center ในนคร New York City ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งถึง 3,700 คน (มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เครื่องบินของผู้ก่อการร้ายตาลีบันที่นำโดยบินลาเดน บรรทุกระเบิดนิวเคลียร์หรือวัตถุที่มีกัมภาพรังสีสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งไปด้วยหรือไง? นั่นสิ แต่รัฐบาลจักรวรรดิเฮเก้ไม่ได้บอกว่าบนเครื่องบินลำนั้นมีวัตถุลักษณะนั้นอยู่ด้วยนะ)
    รายงานข่าวบอกว่าบรรทาผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งได้รับการรับรองจากรัฐบาลกลางของสหรัฐฯว่ารวมอยู่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกของกรมดับเพลิงนิวยอร์ก (New York Fire Department) (จำนวน 1,100 คน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบสถานที่ Ground Zero (จุดศูนย์กลางของการระเบิดที่ร้ายแรง เช่นจุดศูนย์กลางการระเบิดนิวเคลียร์) (จำนวน 2,134) ผู้ลอดชีวิตเช่นคนงานในเขตเมืองและผู้อยู่อาศัย (จำนวน 467 คน)
    Dr. David Prezant หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของ FDNY กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยมากกว่า 2,100 คนได้ลาออกจากงาน เหตุขาดความสามารถ (disability) เนื่องจากความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับ World Trade Center
    Dr. David Prezant กล่าวในแถลงการณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Post ว่า "สืบเนื่องจากลักษณะทางกายภาพในงานของพวกเขา ความป่วยไข้เหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อสมาชิกของพวกเราและครอบครัวของพวกเขาเป็นอย่างมาก"
    รายงานข่าวบอกอีกว่า "ซึ่งรวมถึงบุคคลที่ดูแลรับผิดชอบจาก FDNY จำนวน 109 คนซึ่งเสียชีวิตจากความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับจุด Ground Zero ด้วย ในจำนวนนั้นมี 44 คนเป็นโรคมะเร็ง"
    โฆษกของ FDNY กล่าวว่า "การวิจัยได้ตรวจพบมะเร็งในไทรอยด์ ลำไส้ ต่อมลูกหมาก ในเม็ดเลือดแพร่หลายอยู่ในกลุ่มสมาชิกของ FDNY ซึ่งเข้าไปทำงานอยู่ ณ จุด Ground Zero มากกว่าคนที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ ณ จุดนั้น" (กรรม!)
    Thomas Riley รองหัวหน้าของ FDNY อายุ 58 ปีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (non-Hodgkin's lymphoma) และมะเร็งเม็ดเลือด (blood cancer) มีเนื้องอกปรากฎขึ้นด้านหลังตาขวาของเขาด้วย เขาบอกกับหนังสือพิมพ์ฯว่า "นั่นมันช็อกเข้าไส้เลยหละ" (That was a shock to the gut)
    ในเหตุการณ์ 9/11 ครั้งนั้น Thomas Riley รีบเร่งออกจากบ้านของเขาบนเกาะ Long Island ไปที่สถานีดับเพลิง Jackson Heights และให้เพื่อนๆนักผจญเพลิงของเขาเข้าไปยังจุด Ground Zero ณ ที่ตรงนั้นบรรดานักดับเพลิงต่างก็พากันขุดหาผู้รอดชีวิตจนกระทั่งถึงตีสาม และกลับเข้าไปอีกทุกๆเช้าตลอดสัปดาห์
    Thomas Riley ผู้ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนในการค้นหาสิ่งที่หลงเหลือในซากปรักหักพังกล่าวว่า "มันเป็นวันที่ยาวนานทุกวัน คุณมีเศษซากเครื่องบินลอยอยู่ในสายตาคุณ คุณต้องล้างตาคุณอย่างต่อเนื่อง" (เขาถูกส่งเข้าไป โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังเผชิญอยู่กับอะไร)
    แน่นอนว่าเป็นธรรมดาของสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกอยู่แล้ว หากมีใครออกมาเรียกร้องหรือทำให้รัฐบาลกลางเสียหน้าเขาจะตบท้ายข่าวในทางดิสเครดิตหรือทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น หรือทำให้สังคมคิดว่ามีบางอย่างอยู่เบื้องหลังของการเคลื่อนไหวของบุคคลบางคนในครั้งนี้
    และแล้ว New York Post ก็ตบท้่ายว่า Thomas Riley ได้ล็อบบี้สภาคองเกรสให้ขยายกองทุนชดเชยเหยื่อในเหตุการณ์ 9/11 ออกไปอีก ซึ่งเสนอให้มีการรักษาทางการแพทย์ สำหรับผู้ที่เข้าอยู่ ณ จุด Ground Zero กองทุนดังกล่าวจะหมดอายุลงในเดือนตุลาคมปี 2016
    จบเลย การนำเสนอข่าวแบบนี้บอกได้ว่าเป็นการชี้นำเพื่อให้สังคมมองว่าคำพูดและการเรียกร้องของ Thomas Riley หรือคนอื่นๆ ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเขากำลังเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง แม้ว่าสมัยก่อนคนเหล่านี้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของชาวอเมริกัน ถึงกับมีการสร้างหนังฮอลลีวูดออกมาหลายเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการเหลียวแลอีกซะแล้ว ก็คงจะใกล้สมัยเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือใกล้วันครบรอบเหตุการณ์ 9/11 ที่จะถึงในเดือนหน้านี้แหละถึงจะมีการพูดถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง แทนที่สังคมจะตั้งคำถามกับ Ground Zero และนิวเคลียร์หรือสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย สื่อฯสหรัฐฯกับทำให้สังคมตั้งคำถามกับเหยื่อว่าต้องการอะไรอีก? ซะงั้น
    The Eyes
    12/08/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Tina Fineberg

    ----------
    Nearly 4 Thousand 9/11 First Responders Have Been Diagnosed With Cancer / Sputnik International
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    เจริญหละอเมริกา... กลุ่มคนขาว (ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ) แบกปืนไรเฟิลลาดตระเวนทั่วเมืองเฟอร์กูสันอ้างปกป้องรัฐธรรมนูญ ตำรวจไม่กล้าจับ ชักจะเริ่มเหมือนนีโอนาซีไรท์เซ็กเตอร์ในยูเครนเข้าไปทุกทีแล้วนะนี่
    -----------
    นี่ถ้าเป็นคนผิวสีทำอย่างนี้บ้างจะเป็นอย่างไรบ้างนะ? เมื่อวานนี้สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Heavily-armed white men patrol Ferguson, ‘ready to confront authorities to defend US Constitution’" (คนขาวติดอาวุธหนักลาดตระเวนเฟอร์กูน บอกว่าพร้อมจะเผชิญหน้ากับทางการเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ) ของ Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Tensions High as 'Oath Keepers' Descend on Ferguson in Full Military Gear" (ความตึงเครียดสูง กลุ่มโอ้ทคีปเปอร์ ลงสู่เฟอร์กูสันในชุดทหารเต็มสูท) ว้าววว เขาจะออกรบกับใครหละนี่ ทำยังกะว่าเฟอร์กูสันเป็นตะวันออกกลางซะอย่างนั้นแหละ ข่าวจาก Spunik ค่อนข้างยาว (ขี้เกียจพิมพ์ ขอไปเล่าข่าวจาก RT แทนละกันนะครับ คริๆ)
    รายงานข่าวบอกว่า กลุ่มติดอาวุธสมาชิก Oath Keepers ควงอาวุธปืนไลเฟิลจู่โจมกึ่งออโต้เมติก และปืนสั้นแต่งชุดในเครื่องแบบฝ่ายบังคับใช้กฎหมายทั้งในอดีตและปัจจุบันและเจ้าหน้าที่ทหาร ได้แฝงเข้าไปในกลุ่มผู้ประท้วงที่เมืองเฟอร์กูสันโดยกล่าวว่า "พวกเราอยู่ข้างพวกคุณ" (ฮึ้ยยยย! จะไว้ใจได้ไหมนี่? หาเรื่องให้คนดำซวยแล้วไหมหละ)
    มีสมาชิกกลุ่ม Oath Keepers อย่างน้อย 4 คนเดินทางมาถึงเมืองเฟอร์กูสันในตอนเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา และเริ่มทำการลาดตระเวนแถวถนน West Florissant Avenue (ซึ่งมีการยิงปะทะกันก่อนหน้านี้) เดิน (ควงอาวุธปืน) ผ่านฝูงชนที่ประท้วง ซึ่งรวมตัวอกันอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวใน "วันอารยะขัดขืนภาคประชาชน" (day of civil disobedience) หลังจากการทำพิธีรำลึกครบรอบการเสียชีวิตของ Michael Brown ชาวแอฟริกันอเมริกันวัย 18 ปีที่ไม่มีอาวุธจากการสังหารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ Darren Wilson
    รายงานข่าวบอกว่ากลุ่ม Oath Keepers แต่งชุดคล้ายทหาร ใส่เสื้อเกราะกันกระสุน และติดอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15 มีการถ่ายคลิปโพสต์ตามอินเตอร์เน็ทว่ากลุ่มติดอาวุธปืน Oath Keepers ที่ถูกจับภาพได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนผิวขาว ซึ่งมีข่าวว่า (allegedly) พวกนี้ได้ทำข้อตกลงกับฝ่ายตำรวจ ว่าจะไม่เดินแตกแถวล้ำเส้นฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย รายงานข่าวจาก The Guardian บอกว่าพวกเขาอ้างว่าอยู่ฝั่งผู้ประท้วง
    John Haltiwanger โพสต์ในทวีตเตอร์ว่า "คนขาวควงไรเฟิลจู่โจมได้อย่างเสรีตามท้องถนนในเมืองเฟอร์สันเมื่อคืนที่ผ่านมา ยินดีต้อนรับสู่อเมริกาในปี 2015" (ฮ่าๆๆ เจ็บจี๊ดดดด) ส่วน Grace Lidia Suarez โพสต์ในทวีตเตอร์เช่นกันว่า "คราวนี้คนขาวติดอาวุธเดินลงสู่เฟอร์กูสัน ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว คุณพอจะนึกภาพที่คนดำติดอาวุธทำในสิ่งเดียวกันนี้ออกบ้างไหม?" (เฮ้อ… อย่างว่าแหละรัฐบาลจักรวรรดิเฮเกหนะอย่างหนาอยู่แล้ว เป็นเรื่องปรกติ เพราะเขาทำมาบ่อยๆในตะวันออกลางและในยูเครน จะเอามาใช้ที่เฟอร์กูสันบ้างจะเป็นไรไป?)
    รายงานข่าวบอกว่า Oath Keepers เป็นองค์กร ngo สมาชิกประกอบด้วยอดีตทหารในกองทัพของสหรัฐฯ และบุคคลากรจากฝ่ายรักษากฎหมาย และยังเป็นพวกทหารกองหนุนหรือฝ่ายสนับสนุนกองทัพด้วย ซึ่งประกาศความประสงค์ของพวกเขาว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ (คนผิวดำหรือประชาชนจะตายเท่าไรไม่ว่า ขอให้รัฐธรรมนูญยังอยู่ก็พอ?) แม้ว่าจะต้องทำอารยะขัดขืนต่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่คำสั่งเหล่านั้นทำลายกฎหมายพื้นฐานของชาวอเมริกกัน (ก็อ้างกันไป จริงๆแล้วก็พวกเดียวกันนั่นแหละ)
    Sam Andrews หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธ Oath Keepers ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT ของรัสเซียว่า "ทำไม่กองกำลัง National Guard ถึงไม่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ St. Louis County ที่นี่ และสนับสนุนหน่วยลาดตระเวนทางด่วน และปกป้องธุรกิจเหล่านี้ สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าการขาดคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่กล่าวมาถือว่าเป็นเรื่องผิดปรกติและเป็นความประมาททางอาชญากรรมอย่างเห็นได้ชัด" (เห็นมะ... พอพูดกับผู้ชุมนุมเขาก็บอกว่าอยู่ข้างผู้ประท้วง พอพูดกับสื่อฯเขาก็พูดอีกอย่าง ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนสนับสนุนการใช้กำลังและความรุนแรงในการปราบปรามซะมากกว่า)
    Sam Andrews กล่าวต่ออีกว่า "พวกเราเป็นครอบครัวประชาชน และคุณรู้อะไรไหม? (นักข่าวรัสเซียคงจะนึกในใจว่า อ้าวถ้าคุณพี่ไม่บอกจะรู้ได้อย่างไรหละคะ? เดี๊ยนเป็นนักข่าวนะคะ ไม่ใช่หมอดูนะ คริๆ) จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นพวกเราจะหยุดเลือกพวกทนายนักการเมืองไปเป็นเจ้าหน้าที่ต่างๆ" (เฮ้อ… เขากำลังจะเสนออะไรกันแน่นี่ แน่ใจนะว่าเขาเข้าใจระบบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯอย่างแท้จริง กรรมหละสิคราวนี้ ดูเหมือนว่าผู้ที่ออกมาประกาศว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯจะไม่ต้องการได้เจ้าหน้าที่ที่มาจากนักกฎหมายนักการเมืองซะงั้น ดูเหมือนว่าสมัยนี้ชาวอเมริกันบางคนจะเริ่มสับสนกับคำว่าประชาธิปไตยและความเสมอภาคแล้วนะ น่าเป็นห่วงอนาคตประชาธิปไตยแต่เปลือกของอเมริกาจริงๆ พับผ่าสิ)
    สมาชิกกลุ่มติดอาวุธ Oath Keepers ยังกล่าวต่ออีกว่า "(ถ้า) คุณเลือกนาย Donald Trump (หรือ) คุณจับนาย Donald Trump เข้าไปนั่งในออฟฟิต เขาจะเปลี่ยนแปลงมันทั้งหมด เขาจะกำจัดตกตลก (clowns) เหล่านี้ (ที่ว่าเป็นตัวตลกหนะเขาหมายถึงใครหรือ? กลุ่มผู้ประท้วงหรือเจ้าหน้าที่?) เขาจะกำจัดผู้คนเหล่านี้ที่ละเมิดสิทธิ์ของพวกเรา (อีกหละหมายถึงใครละเมิดสิทธิ์?) และพวกเราก็จะมีบางคนที่เป็นห่วงชาวอเมริกันจริงๆอีกครั้ง" (คนที่ว่านั้นคือใครหรือ? ดูเหมือนหมอนี่เริ่มจะสับสนแล้วนะว่าตัวเองถูกส่งมาให้อยู่กลุ่มไหนกันแน่ ระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับฝ่ายผู้ประท้วง มึนกับแกเหมือนกัน) สุดท้าย RT news ของรัสเซียก็เลยสรุปให้ว่า ที่แกพูดมานั้นคุณ Sam Andrews เขาแสดงออกถึงการสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯคนต่อไปจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งก็คือนาย Donald Trump นั่นเอง (ฮ่าๆๆ ปัดโธ่เอ๋ย... เอ๊ะทำไมจู่ก็นึกถึงเสธred ขึ้นมาเฉยเลยนะนี่ มาแบบคล้ายๆกันเลยนะนี่)
    สื่อฯรัสเซียยังเจาะลึกไปอีกว่า เมื่อปีที่แล้วระหว่างการประท้วงรอบแร กลุ่ม Oath Keepers ก็ออกลาดตระเวนในเมืองเฟอร์กูสันเช่นกัน และกลุ่มนี้ยังได้แสดงตัวในเดือนพฤศิกายน 2014 ด้วย ในช่วงที่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาปะทุขึ้นที่ St. Louis, Missouri ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันในละแวกนั้น
    The Eyes
    12/08/2558

    ภาพจาก Members of the Oath Keepers walk with their personal weapons on the street during protests in Ferguson, Missouri August 11, 2015. © Lucas Jackson / Reuters

    ----------
    Heavily-armed white men patrol Ferguson, ‘ready to confront authorities to defend US Constitution’ — RT USA
    Tensions High as 'Oath Keepers' Descend on Ferguson in Full Military Gear / Sputnik International
    http://www.theguardian.com/…/oath-keepers-ferguson-automati…
    Oath Keepers and the Age of Treason | Mother Jones
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    บัทึกไว้ สิ่งที่เราได้บอกคุณ ... ? <~~~

    ...... "ในความเป็นจริงโลกของคุณกำลังเคลื่อนที่ผ่านสนามพลังงานที่สำคัญในช่วงปลายเดือนกันยายน 2015 และการเพิ่ม และความแรงที่เพิ่มขึ้นองพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์และพลังงานของจักรวาลอื่น ๆ จะขยายตัวในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึง จนถึงจุดสูงสุดของมันประมาณวันที่ 23-24 กันยายน 2015 เราบอกคุณเพื่อบรรเทาใด ๆ "ความกลัวที่ไม่รู้จัก." ด้านพลังงานของความกลัวที่ทำให้เกิดความต้านทานและทำให้คุณ "ผลักดันกลับ" กับสนามพลังงาน. "
    ###> TAKE NOTE guys, what have I been telling yOu...? <~~~
    ...... " In fact, your planet is moving through a major energy field towards the end of this September 2015. The escalation and heightening of electromagnetic energy from the Sun and other cosmic energies will expand during August to reach their peak around September 23-24, 2015. We tell you to alleviate any “fear of the unknown.” The energy field of fear causes resistance, and makes you “push back” against the energy field."
    September 23-24th Cosmic Gamma Radiation Likely Activating 97% DNA! | Alternative
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ได้แชร์ลิงก์

    เกิดภาวะอากาศ 2 อย่างซ้อนกัน มีพายุ พร้อมอุณหภูมิขึ้นสูง

    ฮ่องกงได้เกิดวันที่ร้อนที่สุดในช่วง 130 ปีที่ผ่านมา ได้รานงานในวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2015 เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 37.8 องศาเซลเซียส(100 ºF) ภายใต้อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "Soudelor" ...
    Hong Kong reports the hottest day in the last 130 years
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    [​IMG]

    กองกำลังโปรฮาดี้เจอกลยุทธ์ลับลวงพรางซุ่มโจมตีแบบกองโจรจากฝ่ายฮูติและพันธมิตรสั่งสอนกลับบ้างแล้ว
    -----------
    ก่อนหน้านี้ได้ลงข่าวเกี่ยวกับกองทัพเยเมนและนักรบฮูติบุกซาอุดิฯมาแล้ว เป็นแบบมนุษย์สู้กับรถถัง ล้อมหน้าล้อมหลังรถถังซาอุดิฯ แล้วก็แจกหัวปลีพร้อมทั้งจรวดทำลายรถถังแบบหาเป้าหมายเอาเอง เล่นเอารถถังกองทัพซาอุดิย่อยยับไปหลายคัน ส่วนทหารเศรษฐีซาอุดิฯ เมื่อเจอกับนักรบโสร่งที่ชำนาญในพื้นที่และเชี่ยวชาญในการรบแบบกองโจรมากกว่า ก็พากันเผ่นแน่บเลยสิคราวนี้ ก็ฮูติเตือนตั้งแต่ตอนซาอุดิฯส่งเปิดสงครามส่งเครื่องบินรบไปถล่มเยเมนตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้วว่าถ้าไม่หยุดรุกรานเยเมนซาอุดิฯจะต้องจ่ายในราคาที่สูงแน่ๆ แต่ก็ไม่ฟังคำเตือน เจอของจริงเข้าให้แล้วไหมหละ
    คราวนี้หันมาดูสถานการณ์ภายในเยเมนบ้างนะครับ... มีอยู่สองข่าวสั้นๆอ่านสบายๆ ข่าวแรกสื่อฯรัสเซีย สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่านาย Mohammed Shaddadi รองโฆษกรัฐสภาและนาย Hussein Mohammed Arab อดีตรมว.มหาไทยของเยเมนได้รับบาดเจ็บจากโจมตีขบวนรถ (motorcade) ทางตอนใต้ของประเทศ แหล่งข่าวท้องถิ่นแจ้งกับ Sputnik news
    รายงานข่าวบอกว่าฝ่ายรักษาความปลอดภัย 5 คนถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บหลายคนจากการโจมตีซึ่งเกิดขึ้นที่เมือง Abyan (ก่อนหน้านี้ทางโปรฮาดี้และซาอุดิฯรวมทั้งสื่อฯตะวันตกออกมาประโคมข่าวว่ากองกำลังโปรฮาดี้ได้ยึดเมือง Abyan ซึ่งอยู่ติดกับเมือง Aden ได้แล้ว อ้าวก็ไหนว่ายึดได้แล้วไง แล้วทำไมถึงมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้หละนี่?)
    แหล่งข่าวบอกว่า "ขบวนรถของ Shaddadi และ Arab ถูกซุ่มโจมตีในขณะที่กำลังเคลื่อนไปยังแนวหน้า ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ นักการเมืองถูกนำตัวไปที่เมือง Aden ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล (พลัดถิ่นของฮาดี้)"
    เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมามีข่าวว่าสำนักข่าว Yemen Voice ว่านาย Mohammed Shaddadi ไม่อยากหายใจอีกต่อไป จึงตัดสินใจเดินทางไปรอปธน.ฮาดี้อยู่ในปรโลกแล้ว (คริๆ) เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว แต่ยังไม่มีการยืนยันข่าวนี้จากฝั่งฮาดี้อย่างเป็นทางการ (เรื่องอะไรจะยืนยันหละ ขืนยอมรับก็เสียหน้าแย่สิ)
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากองกำลังโปรฮาดี้ประกาศว่าจังหวัด Abyan ได้รับการปลดปล่อยจากกลุ่มฮูติแล้ว (ฮึ่ม! นั่นไงปลดปล่อยแบบที่เห็นนี้ไง รู้จักฮูติน้อยไปแล้วสิ)
    ส่วนอีกข่าวหนึ่งจากสำนักข่าว Fars News Agency ของอิหร่านซึ่งพาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า "Tens of Saudi-Backed Mercenaries Killed in Yemen's Taiz Province" (กองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดิฯถูกสังหารหลายสิบคนในจังหวัด Taiz ของเยเมน) (Taiz อยู่ระหว่างกรุงซานาและเมือง Aden แต่อยู่ใกล้กับเมือง Aden มากกว่า)
    โฆษกเผ่า Abu Ali al-Hamdani (Abu Firas al-Hamdani ?) กล่าวว่า "กลุ่มก่อการร้ายหลายสิบคนซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุดิฯ ถูกสังหารระหว่างการต่อสู้ปะทะกันกับนักรบชนเผ่าฮามดาน (Hamdan) ในเยเมน"
    โฆษกของฮามดานกล่าวต่ออีกว่า "กลุ่ม Ansarullah (ฮูติ / Shia Houthi Ansarullah movement) และกองทัพเยเมนได้ส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารไปให้เหล่านักรบฮามดาน ยังไม่มีรายงานเป็นตัวเลขที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสูญเสียของฝ่ายผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้"
    เอาหละสิฮูติมีเพื่อเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเผ่ากันชนแล้วนะนี่ เอาไว้ยันกับกองกำลังโปรฮาดี้โดยเฉพาะ กว่าจะบุกถึงกรุงซานาได้คงไม่ใช่สองสัปดาห์อย่างที่ฝ่ายฮาดี้คุยไว้ก่อนหน้านี้แล้วหละมั๊ง ฝ่ายซาอุดิฯและยูเออีก็ส่งทั้งรถถังและระหุ้มเกราะและฮัมวี่ของสหรัฐฯเข้าไปในเยเมน ส่วนพวกฮูติก็แกล้งทำเป็นถอยทัพ แล้วก็ตีตลบหลัง รวมทั้งซุ่มโจมตีเป็นระยะๆ ยึดพาหนะจากกองกำลังโปรฮาดี้มาได้หลายคันเหมือนกัน เมื่อเร็วๆนี้สำนักข่าว Fars News Agency บอกว่ากลุ่มฮูติสามารถยึดรถฮัมวี่ของฝ่ายตรงข้ามมาได้ราว 11 คัน แหล่มเลย ฮ่าๆๆ หวังว่าคงจะไม่เป็นยางรถมือสองเสื่อมสภาพอย่างที่สหรัฐฯส่งไปให้กรุงเคียฟหรอกนะ
    The Eyes
    12/08/2558

    ภาพจาก © AFP 2015/ MOHAMMED HUWAIS

    ----------
    Two Top Yemeni Officials Wounded in Attack by Insurgents / Sputnik International
    Farsnews
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช ( https://www.facebook.com/fisont?fref=ts )

    อุบ๊ะ! ช่างกล้าแฮะ... ไอร์แลนด์ประกาศจะไม่ส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปให้สหรัฐฯเพราะกลัวการถูกลงโทษที่โหดร้ายและผิดปรกติ

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวันที่ 12 ส.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Ireland Won't Send Suspect to US Over Fears of 'Cruel & Unusual' Punishment" (แปลตามชื่อโพสต์ข้างบนนั่นแหละครับ)
    ไอร์แลนด์ได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายมากกว่าจะส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปให้สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะถูกจำคุกและทางการของไอริชได้กล่าวถึงการลงโทษที่ "โหดร้ายและผิดปรก" (cruel and unusual) เป็นจำนวนมาก (ของจักรวรรดิเฮเกด้วย)
    รายงานข่าวบอกว่านาย Ali Charaf Damache ชาวไอริชวัน 50 ปีมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ Algiers (เมืองหลวงของ Algeria ในแอฟริกาเหนือ อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกฟากหนึ่งของยุโรป) ถูกกล่าวหาว่าใช้ห้องแช็ทออนไลน์เพื่อชักชวนผู้หญิงชาวอเมริกันให้เข้าร่วมขบวนการก่อการร้ายกลุ่มย่อยที่มีปฏิบัติการอยู่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและในยุโรป ถูกจับกุมในปี 2010 ที่เมือง Dublin (เมืองหลวงของไอร์แลนด์) ในข้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
    หลังจากนั้นศาลสูงของไอร์แลนด์ก็ได้ปฏิเสธที่จะทำตามคำเรียกร้องของอัยการสหรัฐฯที่ต้องการให้ส่งตัวนาย Damache เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปรับการไต่สวนพิจารณาคดีที่เมือง Philadelphia (คงจะกลัวว่าถ้าส่งตัวไปก็คงจะถูกทรมานผิดมนุษย์มนาอย่างกรณีอื่นๆที่อื้อฉาวของซีไอเอแน่ๆ)
    หนังสือพิมพ์ Los Angeles Times ของสหรัฐฯรายงานว่า ศาลสูง (ของไอร์แลนด์) กล่าวว่า แม้ว่าผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการตัดสินแล้วแต่ก็ไม่ควรที่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามเงื่อนไขที่รุนแรงในสถานที่คุมขัง supermax ในเมืองฟลอเรนซ์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการขังเดี่ยวตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ให้พบกับครอบครัว (ทีอย่างนี้ไม่เห็นแอมเนสตี้ออกมาเรียกร้องอะไรเลยนะ)
    ศาลไอริชกล่าวต่ออีกว่า "คุกแบบนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนดตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องผู้คนจากการปฏิบัติที่เหมือนกกับไม่ใช่มนุษย์และเป็นความเลวทรามต่ำช้า (inhuman and degrading treatment) และเพื่อเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์" (อัยย๊ะ! ศาลไอริชกล้าสั่งสอนจักรวรรดิเฮเกด้วยอ่ะ มันเป็นกระแสอารยะขัดขืนจากฝั่่งยุโรปที่มีต่อจักรวรรดิเฮเกหรือเปล่านี่?)
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่นาย Demache รับโทษเป็นเวลา 3 ปีในไอร์แลนด์ ศาลไอริชก็ปล่อยตัวเขาให้เป็นอิสระ
    ที่ supermax ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "Alcatraz of the Rockies" (คุกมหาโหดที่สุดดของสหรัฐฯ อยู่บนเกาะ Alcatraz Island ที่อ่าวซานฟานซิโก้ เปิดทำการ 1868 (เป็นคุกของทหารในสมัยนั้น) และโอนเป็นของรัฐบาลในปี 1933-1963 ปัจจุบันนี้เปิดให้สถานที่ท่องเที่ยว ถ้านึกไม่ออกก็หาหนังเรื่อง The Rock ในปี 1996 มาดูก็จะรู้) อาหารจะถูกส่งผ่่านช่องประตู ห้ามญาติหรือครอบครัวเข้าเยี่ยม การสนทนากับผู้อื่นจะถูกจำกัด (เหมือนในหนังฮอลลีวูดเลย)
    รายงานข่าวจาก LA Times บอกว่า สถานที่ดังกล่าวได้รับการยอมรับจากทนายจำเลยว่ามีความรุนแรง เขาใช้ชื่อเสียงที่โด่งดังในด้านความมหาโหดนี้เพื่อกล่อมให้คณะลูกขุนโหวตคัดค้านโทษประหารชีวิต และให้ส่งลูกความไปที่คุก Supermax แทน มีข้อถกเถียงว่า ที่นั่นเลวร้ายยิ่งกว่าการตัดสินลงโทษประหารซะอีก
    ผู้พิพากษา Aileen Donnell ศาลสูงของไอร์แลนด์ซึ่งได้ปล่อยตัวนาย Demache ให้เป็นอิสระมากกว่าจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามที่สหรัฐฯเรียกร้อง กล่าวมี "หลักฐานที่พิสูจน์ได้" (compelling evidence) ว่าคุกโคโลราโด เป็นสถานที่ "ที่ไร้มนุษยธรรม" (inhumane)
    ผู้พิพากษา Aileen Donnelly เขียนไว้ในการตัดสินว่า "ศาลพึงพอใจว่าการเปิดโปงที่ยาวนานในการขังเดี่ยวที่ไม่เต็มใจเป็นการบีบบังคับความสูญเสียด้านสรีรภาพอย่างเห็นได้ชัด เป็นการสร้างความเสียหายให้กับมั่นคงทางจิตใจและบุคลิกภาพ และเป็นกันตรายต่อสมบูรณ์ทางร่างกายของบุคคล"
    นาย Damache ถูกฟ้องร้องในฟิลาเดลเฟียในปี 2011 ในข้อหาวางแผนลอบสังหารนักเขียนการ์ตูนชาวสวีเดนที่วาดภาพล้อเลียนศาสดาของบางศาสนาเป็นรูปสุนัข
    (ในตะวันตกหรือบางประเทศที่เรียกตัวเองว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้านวัตถุ ส่วนด้านจิตใจนั้นยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ เขามองว่าการได้แสดงออกด้วยการล้อเลียนหรือการแสดงออกในลักษณะย่ำยีศาสนาอื่นถือว่าเป็นเรื่องของเสรีภาพในการพูดในการแสดงออกต่อสาธารณชน จนสร้างความไม่พอใจให้กับศาสนิกชนของศาสนาที่ตกเป็นเหยื่อของการล้อเลียน ซึ่งนำมาซึ่งการประท้วงและการก่อเหตุโดยกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งอ้างว่าเพื่อเป็นการแก้แค้น เพื่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนาและกลุ่มชาติพันธ์ บางคนบางกลุ่มก็จะใช้วิธีนี้ยั่วยุอยู่บ่อยครั้ง และเราก็ได้เห็นภาพของการตอบโต้อย่างรุนแรงจากอีกฝ่ายอยู่บ่อยครั้งตามสื่อฯต่างๆเช่นกัน มันน่าเศร้าที่มนุษย์มีประวัติศาสตร์และการพัฒนามากหลายพันปี แต่ก็ยังไม่สามารถเรียนรู้หรือยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นได้ ยังหมกมุ่นอยู่กับการใส่ร้ายเหยียดหยามฝ่ายอื่นอยู่ในลักษณะนั้น ไม่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติ (หมายถึงบางคนบางกลุ่ม) มีความรู้มีเทคโนโลยีมีระบบการสื่อสารที่ทันสมัยแต่ก็ใช้ไปในทางลบ เพียงเป้าหมายทางการเมืองบางอย่าง พวกที่คอยเสี้ยมให้มนุษย์ทะเลาะกันก็จ้องหาโอกาสโดยไม่มีวันหยุด คนที่ไม่หนักแน่นพอก็จะตกเป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้ได้โดยง่าย)
    The Eyes
    13/08/2558

    ภาพจาก © Federal Bureau of Prisons

    ----------
    Ireland Won't Send Suspect to US Over Fears of 'Cruel & Unusual' Punishment / Sputnik International
     

แชร์หน้านี้

Loading...