ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำเนียบปธน.อัฟกันแถลงยืนยันผู้นำสูงสุดตอลิบานเสียชีวิตแล้ว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2558 02:06 น.

    [​IMG]

    @นายมุลลาห์ โอมาร์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตอลิบาน

    รอยเตอร์ - ทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถานแถลงยืนยันเมื่อวันพุธ(29ก.ค.) ว่านายมุลลาห์ โอมาร์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตอลิบาน ที่อยู่เบื้องหลังการขยายเหตุความไม่สงบต่อต้านรัฐบาลคาบูล เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ 2 ปีก่อน พร้อมเรียกร้องพวกติดอาวุธทุกกลุ่มคว้าโอกาสเดินหน้ากระบวนการเจรจาสันติภาพ

    คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมสันติภาพรอบ 2 ที่กำหนดการยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นวันพฤหัสบดี(30ก.ค.)หรือหลังจากนั้น และข่าวคราวเกี่ยวกับชะตากรรมของนายโอมาร์ ซึ่งเป็นผู้นำที่ลึกลับยากแก่การทำความเข้าใจผู้นี้ อาจจะยิ่งสร้างความแตกแยกภายในกลุ่มตอลิบาน ทั้งในประเด็นที่ว่าควรดำเนินการเจรจากับรัฐบาลอัฟกันต่อไปหรือไม่ และเรื่องที่ว่าใครควรจะขึ้นมาแทนที่โอมาร์

    นายโอมาร์ ไม่ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะนับตั้งแต่หลบหนีเมื่อคราวที่ตอลิบานถูกพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯโค่นอำนาจในปี 2001 และมีข่าวลือวนเวียนในหมู่นักรบมานานหลายปีว่าเขาอาจเสียชีวิตหรือไม่ก็กลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งระบุว่าไม่สามารถติดต่อกับพวกโฆษกของกลุ่มนี้ตามช่องทางที่เคยใช้อยู่ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

    "จากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ รัฐบาลยืนยันว่านายมุลลาห์ โอมาร์ ผู้นำของตอลิบานเสียชีวิตในปากีสถาน เมื่อเดือนเมษายน 2013" ทำเนียบประธานาธิบดีบอกในถ้อยแถลงสั้นๆ โดยไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงถึงที่มาของข้อมูลดังกล่าว "รัฐบาลอัฟกานิสถานมีความเชื่อจากเหตุผลต่างนานาๆว่าตอนนี้หนทางสำหรับการเจรจาสันติภาพอัฟกันเปิดออกมากกว่าแต่ก่อน เพราะฉะนั้นจึงเรียกร้องฝ่ายต่อต้านติดอาวุธทุกกลุ่มคว้าโอกาสนี้และเข้าร่วมกระบวนการสันติภาพ"

    ด้านเอริค ชูลต์ซ โฆษกทำเนียบขาวบอกในวันพุธ(29ก.ค.) บอกว่าทราบข่าวคราวการเสียชีวิตของนายโอมาร์แล้ว และก็เชื่อว่ารายงานดังกล่าว "มีความน่าเชื่อถือ" พร้อมบอกว่าประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯกำลังตรวจสอบเรื่องนี้

    คำแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกัน มีขึ้นขณะที่กำลังเตรียมการนัดเจรจาสันติภาพรอบใหม่ระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานและตอลิลาน ซึ่งเดิมทีวางแผนไว้เป็นวันพฤหัสบดี(30ก.ค.)และวันศุกร์(31ก.ค.) นี้ แต่ไม่ยืนยันสถานที่นัดหมาย

    มีพลเรือนและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเสียชีวิตในเหตุความรุนแรงหลายพันคนในแต่ละปี ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆนับตั้งแต่นาโต้กองกำลังส่วนใหญ่ออกมาจากอัฟกานิสถานในช่วงสิ้นปี 2014

    ทั้งนี้การเสียชีวิตของนายโอมาร์ ดูเหมือนจะเป็นกระพือการต่อสู้แย่งชิงกันภายในเพื่อขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มแทนเขาหนักหน่วงขึ้น หลังจากเดิมทีตอลิบานก็มีความแตกแยกระหว่างบุคคลระดับอาวุโสอยู่ก่อนแล้ว โดยฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้เจรจากับคาบูลเพื่อยุติสงครามยาวนาน 13 ปี ส่วนอีกฝั่งก็ต้องการเดินหน้าสู้รบเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ

    ผู้บัญชาการระดับอาวุโสของตอลิบานอัฟกันรายหนึ่งซึ่งประจำการอยู่ในปากีสถาน ชาติเพื่อนบ้าน บอกว่านายโอมาร์ ตายด้วยสาเหตุทางธรรมชาติ แต่ไม่ได้ระบุว่าเขาเสียชีวิตเมื่อไหร่ "เรากำลังอยู่บนทางแยก และคงต้องใช้เวลาสำหรับคลี่คลายประเด็นผู้นำ" พร้อมบอกต่อว่ากลุ่มก๊กหนึ่งภายในตอลิบานต้องการเห็นลูกชายคนหนึ่งของโอมาร์เข้ารับช่วงต่อ ส่วนอีกฝ่ายสนับสนุนนายอัคตอร์ โมฮัมหมัด มันซูร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่หนุนหลังการเจรจาสันติภาพ

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ปธน.เวนาซุเอลา” ยอมเดินทางเข้าสหรัฐฯ ร้องบัน คีมุน “จัดการข้อพิพาทกับกายอานา” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 20:23 น.

    [​IMG]

    เอพี/รอยเตอร์ – ในวันอังคาร(28)ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร เข้าพบเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ บัน คีมุน เพื่อร้องขอความช่วยเหลือในการหาข้อสรุปปัญหาเขตแดนพิพาทระหว่างเวเนซุเอลาและกายอานา

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโล ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเห็นสหรัฐฯเป็นปรปักษ์ เดินทางไปพบกับเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ บัน คีมุน ในนิวยอร์ก เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ โดยมาดูโรได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(29)ว่า เขาได้ปรึกษากับบันถึงช่องทางที่องค์การสหประชาชาติจะสามารถเข้ามาจัดการในปัญหาเขตแดนพิพาทระหว่างเวเนซุเอลา และกายอานา ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน แต่มีขนาดเล็กกว่าwfh

    จากการรายงานพบว่า กายอานาเคยเป็นอดีตเมืองขึ้นของอังกฤษ และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เป็นประเทศขนาดเล็กที่มีประชากรเพียง 740,000 คน อาศัยในประเทศซึ่งตั้งอยู่บริเวณไหล่ทวีปอเมริกาใต้ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ

    ทั้งนี้ดินแดนพิพาทของทั้งสองประเทศที่ต่างอ้างกรรมสิทธิ์นั้น เพิ่งมีการค้นพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ขึ้นที่นั่นอยู่บริเวณตะวันตกของแม่น้ำ Essequibo ซึ่งคิดเป็นเนื้อที่ถึง 2 ใน 3 ของกายอานา ซึ่งมีประชาชนชาวกายอานาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมาเป็นเวลานาน และมีการทำเหมืองแร่ที่นั่น ในขณะที่ทางเวเนซุเอลากลับวาดแผนที่ของตน โดยระบุบริเวณดินแดนขัดแย้งนี้ว่า เป็นเขต “reclamation zone” หรือเขตอ้างสิทธิ์

    และมาดูโร ผู้นำซ้ายจัดจากทวีปอเมริกาใต้ ยังระบุว่า การพบปะระหว่างเขาและบันนั้นสัมฤทธิผล และเผยต่อว่าบันตกลงพร้อมที่จะส่งคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติเพื่อเป็นตัวกลางไปยังประเทศคู่เจรจาทั้งสองเพื่อไกล่เกลี่ย

    นอกจากนี้ผู้นำเวเนซุเอลายังได้ตั้งความหวังว่าจะมีโอกาสพบกับประธานาธิบดีกายอานา เดวิด เอ กรันเจอร์ (David A. Granger)

    ซึ่งในแถลงการณ์ของบัน คีมุน ชี้ว่า ทางองค์การสหประชาชาติพร้อมที่จะเจรจากับประเทศทั้งสองเพื่อให้เดินหน้าไปได้”

    อย่างไรก็ตาม ในอดีตจนถึงทุกวันนี้ เวเนซุเอลาประกาศอ้างสิทธิเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของกายอานา รวมไปถึงบริเวณนอกชายฝั่งที่บริษัทน้ำมันเอ็กซอล โมบิลประกาศค้นพบแหล่งน้ำมันดิบแหล่งใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และทำให้ข้อพิพาทกลับมาปะทุอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

    และทำให้ในเวลาต่อมาไม่นานหลังจากนั้น มาดูโรได้ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี สร้างแนวเขตแดนป้องกันภัยเวเนซุเอลาขึ้น ซึ่งจะทำให้กายอานาจะไม่มีช่องทางที่จะเดินทางออกมหาสมุทรได้

    ซึ่งกายอานาได้ออกมาโจมตีการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า “เป็นการละเมิดฏฏหมายระหว่างประเทศอย่างเลวร้าย”

    และเป็นการตอบโต้กับการอ้างสิทธิ์ของเวเนซุเอลา กรันเจอร์ประกาศว่า ประเทศของเขาจะหาข้อยุติพื้นที่พิพาทกับศาลระหว่างประเทศ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำตุรกีเยือนจีนท่ามกลางข้อพิพาทผู้อพยพชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 23:27 น.

    [​IMG]

    @ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน(ซ้าย) ให้การต้อนรับประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี(ขวา) ที่ศาลามหาประชาคมของกรุงปักกิ่ง โดยผู้นำทั้งสองได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ก่อนเข้าไปยังอาคารเพื่อพูดคุยหารือกันในวันพุธ(29ก.ค.)

    เอเอฟพี - ประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกีพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อหารือในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ(29ก.ค.) ท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับผู้อพยพชาวอุยกูร์ หนึ่งวันหลังจากอังการาได้รับการหนุนหลังจากนาโต้ในการต่อสู้กับพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส)

    อังการากำลังขยายปฏิบัติการข้าพรมแดนต่อต้านกลุ่มไอเอสในซีเรีย และกำลังโจมตีฐานที่มั่นต่างๆของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน ทางภาคเหนือของอิรัก ตอบโต้กรณีที่เกิดเหตุโจมตีนองเลือดหลายระลอกในแผ่นดินตุรกีในระยะหลัง

    นายสี ได้ให้การต้อนรับนายเออร์โดกัน ที่ศาลามหาประชาคมของกรุงปักกิ่ง โดยผู้นำทั้งสองได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ก่อนเข้าไปยังอาคารเพื่อพูดคุยหารือกัน "ณ ปัจจุบัน เรากำลังเคลื่อนไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ที่จะนำความพึงพอใจมาสู่ความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของเราเพิ่มเติม" นายเออร์โดกันบอกกับนายสี


    ส่วนทางประธานาธิบดีจีน ย้ำว่าการเดินทางเยือนจีนถึง 3 ครั้งของนายเออร์โดแกน ทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและตุรกี "เราสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานว่า จีนและตุรกีควรสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นหลักๆ และกระชับความสัมพันธ์ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น"

    เมื่อปี 2013 ตุรกีเข้าสู่การพูดคุยกับรัฐวิสาหกิจของจีนแห่งหนึ่งเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายระบบต่อต้านขีปนาวุธมูลค่ากว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งก่อความสงสัยในหมู่สมาชิกอื่นๆของนาโต้ อย่างไรก็ตามแม้ข้อตกลงขั้นท้ายสุดจะมีอุปสรรค แต่เออร์โดกันบอกว่าอังการายินดีที่จะรับข้อเสนอของปักกิ่งเพื่อบรรลุข้อตกลง และการเดินทางเนือนจีนคราวนี้ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของสองประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

    ตุรกีเป็นหนึ่งในสมาชิกนาโต้ และเมื่อวันอังคาร(28ก.ค.) ที่ประชุมฉุกเฉินของพันธมิตรดังกล่าวสนับสนุนอย่างแข็งขันในความพยายามต่อสู้กับก่อการร้ายของอังการา แม้บางประเทศแสดงความกังวลว่าการโจมตีถล่มนักรบชาวเคิร์ดอาจกัดเซาะการเจรจาสันติภาพกับกบฏกลุ่มนี้ ที่ก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับญิฮัดไอเอสเช่นกัน

    การเดินทางเยือนครั้งนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอังการาและปักกิ่ง เกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ของจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับตุรกีและพูดภาษาเติร์ก

    จีน กล่าวโทษพวกแบ่งแยกดินแดนอิสลามิสต์ต่อเหตุความรุนแรงต่างๆในมณฑลซินเจียง ถิ่นฐานของชาวอุยกูร์ ขณะที่ตุรกีแสดงความกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของปักกิ่งต่อชนกลุ่มน้อยดังกล่าว โดยในส่วนของ เออร์โดกัน เคยถึงขั้นกล่าวหาจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดินแดนดังกล่าวมาแล้วในปี 2009

    ทั้งสองประเทศโต้เถียงกันอย่างเปิดเผยอีกครั้งในปีนี้ เกี่ยวกับชะตากรรมของชาวอุยกูร์ที่หลบหนีจากจีนเข้าไปในไทย โดย ตุรกี เสนอมอบที่พักพิงแก่พวกเขา แต่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ไทยตัดสินใจเนรเทศชาวอุยกูร์ราว 100 คนกลับไปยังจีน แม้ก่อนหน้านี้ได้ส่งผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์มากกว่า 170 คนไปตุรกี ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนก็ตาม

    ในขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับผู้อพยพคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เหล่านักเคลื่อนไหวบุกโจมตีสถานกงสุลไทยในอิสตันบูลและเผาธงชาติจีน ด้านนอกสถานกงสุลปักกิ่งในเมืองเดียวกัน กระตุ้นให้จีนออกมาประณามอย่างรุนแรง

    บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์แห่งรัฐ ไชนา เดลี ฉบับวันพุธ(29ก.ค.) ระบุว่าประเด็นชาวอุยกูร์ หากไม่ได้รับการใส่ใจก็อาจเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย และทำให้ความร่วมมือหยุดชะงัก" ขณะที่สื่อมวลชนจีนมักอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อเชื่อมโยงชาวอุยกูร์กับความรุนแรงจากฝีมือญิฮัดในตะวันออกกลาง โดยไม่ได้นำเสนอหลักฐานใดๆ

    ทั้งนี้ เหวิน เต้า คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส สื่อมวลชนแห่รัฐจีน กล่าวหาเหล่าคณะทูตของตุรกี มอบความช่วยเหลือลักลอบพาพวกก่อการร้ายอุยกูร์จากซินเจียงไปยังตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามนายเออร์โดแกน บอกกับนายสี ระหว่างการหารือว่าตุรกีก็เป็นเหยื่อของก่อการร้ายเช่นกัน

    การส่งเสริมการส่งออกของตุรกีมายังจีน น่าจะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสูงสุดของการเดินทางเยือนจีนคราวนี้ของนายเออร์โดแกน โดยเฉพาะการที่อังการา ขาดดุลการค้าอย่างมหาศาลกับเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกอย่างปักกิ่ง

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085992
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะโดนฟ้องเรียกเงิน 60 ล้าน ฐานเป็นตัวการทำชายชราวัย 102 ฆ่าตัวตาย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 18:40 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางกฏหมายครั้งใหม่ในวันพุธ (29 ก.ค.) จากครอบครัวของชายชราวัย 102 ปี ผู้ฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกเศร้าเสียใจที่ต้องลาจากบ้านของเขา

    ฟูมิโอะ โอคุโบะ คือผู้ที่มีอายุมากที่สุดของหมู่บ้านอิตาเตะ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ประมาณ 40 กิโลเมตร

    มีรายงานว่าเขาได้ปลิดชีพตัวเองด้วยการแขวนคอ หลังจากรัฐบาลสั่งชาวบ้านในละแวกนั้นหนีภัยในเดือนเมษายน 2011 เพราะเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิสร้างความเสียหายให้กับเตาปฏิกรณ์

    ลูกสะใภ้ของโอคุโบะบอกว่า ครอบครัวของชายชราผู้นี้ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) เป็นจำนวน 60 ล้านเยน

    "ฉันอยากให้พวกเขาได้ตระหนักถึงความหนักหนาของสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ชายผู้ใช้ชีวิตมายาวนานถึง 102 ปี ได้เลือกที่จะปลิดชีพตัวเอง เราต้องการให้พวกเขารู้ถึงความเจ็บปวด ที่พวกเราในฐานะครอบครัวของเขาต้องประสบ เราจะใช้โอกาสนี้ในการพูดถึงความรู้สึกของพวกเรา" เธอกล่าวในงานแถลงข่าวที่ฟุกุชิมะ

    อิตาเตะ คือหนึ่งในพื้นที่ซึ่งรัฐบาลประกาศห้ามเข้า เนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบระยะยาวจากสารกัมมันตภาพรังสี

    คลื่นยักษ์สึนามิในครั้งนั้น ที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 บริเวณนอกชายฝั่ง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ได้สร้างความเสียหายให้กับระบบไฟฟ้าของโรงงาน ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์หลอมละลาย เพราะระบบทำความเย็นล้มเหลว

    ผู้คนหลายหมื่นต้องอพยพทิ้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ซึ่งพวกเขาคงจะไม่กลับไปยังที่ดินของบรรพบุรุษอีกแล้ว เนื่องจากเกรงภัยกัมมันตรังสี

    ขณะที่แผ่นดินไหวและสึนามิได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 18,000 ราย ไม่มีใครที่ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการเลยว่าตายเพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภัยปรมาณูในตอนนั้น



     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics & Clips : 2 ปีผ่านไปเพิ่งมีเวลาตอบ!! คำร้องกว่า 167,000 รายชื่อ อ้อนโอบามา "อภัยโทษ สโนว์เดน" ถูกปฎิเสธ อ้าง “ต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 19:00 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – หลังจาก 2 ปีผ่านไปของการร่วมลงรายชื่อของประชาชนสหรัฐฯจำนวนไม่ต่ำกว่า 167,000 คนยื่นร้องต่อรัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี บารัค โอบามาผ่านเว็บไซต์ทำเนียบขาว “We the People” ขอให้อภัยโทษในความผิดทั้งหมดแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ผู้ซึ่งกระชากหน้ากากสหรัฐฯและการแอบลักลอบสอดแนมในระดับมหกรรมโลก เพื่อให้สโนว์เดน ซึ่งทำการลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย สามารถเดินทางกลับประเทศได้อย่างไม่ต้องได้รับโทษ

    RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้(28)ว่า ล่าสุดหลังจากมีการร่วมลงชื่อจำนวนสูงกว่า 167,000 คนจากฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2013 จากการริเริ่มของชาวโรเชสเตอร์ (Rochester) คนหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก ไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยชื่อผู้อยู่เบื้องหลังการป้อนข้อมูลโครงการสอดแนมลับ “ปริซึม” ของสำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯ NSA ให้กับหนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ เพื่อร้องขอต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ผ่านเว็บไซต์ทำเนียบขาว “We the People” ให้สั่งการอภัยโทษในความผิดทั้งหมดตามกฎหมายสหรัฐฯแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เพื่อที่จะให้ชายผู้นี้ ที่เป็นเสมือนผู้กล้าปกป้องประชาชนอเมริกันจากการละเมิดสิทธิเสรีภาพตากฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯในสายตาคนบางส่วน เพื่อทำให้สามารถเดินทางกลับเข้ามาในอเมริกาได้โดยไม่ต้องรับการลงโทษตามกฎหมาย

    หนึ่งในผู้ร่วมลงนามสนับสนุนการอภัยโทษเขียนว่า “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเป็นวีรบุรุษ และสมควรที่จะต้องให้ฮีโรของชาติได้รับอิสรภาพ และเสรีภาพจากความผิดทั้งมวงที่เกิดขึ้นด้วยการอภัยโทษต่อข้อกล่าวหาที่มีทั้งหมดในเรื่องการเปิดเผยความลับโครงการสอดแนม NSA”

    สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ลิซา โมนาโค (Lisa Monaco)ที่ปรึกษาด้านกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯและความมั่นคง และต่อต้านการก่อการร้าย ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เป็นตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐฯ “ตอบปฎิเสธ” หนังสือขออภัยโทษผ่านคลิปบนเว็บไซต์ทำเนียบขาว

    ในแถลงการณ์ของโมนาโค เธอได้อ้างว่า ในขณะที่ตลอดมาสโนว์เดนได้อ้างว่ากระทำลงไปเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาวอเมริกัน แต่ในทางกลับกันชายผู้นี้กลับไม่ประพฤติตัวอย่างเหมาะสมด้วยการเปิดเผยความลับของทางราชการ

    “แทนที่สโนว์เดนจะเลือกวิธีอย่างสร้างสรรคโดยการทำเรื่องร้องเรียนไปตามขั้นตอนตามปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงาน NSA ผู้นี้กลับตัดสินใจที่เป็นอันตรายต่ออเมริกา โดยการ “ขโมยและเปิดเผยข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯ” ซึ่งผลของการกระทำของสโนว์เดนทำให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงประเทศ และประชาชนสหรัฐฯที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องประเทศนี้ไว้” โมนาโคกล่าวแถลงตอบคำร้องขออภัยโทษ

    และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประเทศและต่อต้านก่อการร้ายให้กับโอบามายังกล่าวต่อไปว่า “และหากสโนว์เดนเชื่อมั่นว่า การกระทำของเขาใกล้เคียงกับ ” อารยะขัดขืน” หรือ civil disobedience แล้ว เขาควรกระทำเหมือนเฉกเช่นในสิ่งที่คนอื่นๆที่กระทำอาระขัดขืนต่อผู้ปกครองของคนเหล่านั้น ด้วยการ ท้าทายผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมาด้วยการแสดงความคิดเห็น การประท้วงอย่างสร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดคือ “การยอมรับผลกรรมต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป” ซึ่งสโนว์เดนสมควรที่จะเดินทางกลับมาสหรัฐฯ และเผชิญหน้าต่อคณะลูกขุน ไม่ใช่ทำตัวเป็นอีแอบหลบอยู่เบื้องหลังการปกป้องของรัฐต่างชาติ และในเวลาเดี๋ยวนี้ สโนว์เดนกำลังวิ่งหนีจากผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้”

    RT รายงานเพิ่มเติมว่า ในเดือนมีนาคม สโนว์เดนเปิดเผยว่า เขาได้ติดต่อกับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อต่อรองขอประบวนการไต่สวนอย่างเป็นธรรม เพื่อที่จะทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเดินทางกลับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล NSA ผู้นี้ยืนยันว่า จะยังไม่เดินทางกลับสหรัฐฯในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะในขณะนั้นรัฐบาลสหรัฐฯไม่ตกลงทำตามข้อเสนอ

    อย่างไรก็ตาม ช่องทางที่สโนว์เดนจะเดินทางกลับสู่แผ่นดินเกิดด้วยวิธีได้รับการอภัยโทษนั้น ได้รับการสนับสนุนจากทั้งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อีริก โฮลเดอร์ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ ผู้อื้อฉาวจากคดีลักลอบดักฟังวอเตอร์เกต

    โดยคาร์เตอร์ได้ให้สัมภาษณ์ในเดือนมีนาคม 2014 ว่า ช่องทางการอภัยโทษสมควรที่จะอยู่บนโต๊ะเจรจาสำหรับสโนว์เดนที่หากเดินทางกลับเข้ามายังสหรัฐฯ และต้องได้รับการพิพากษาในคดีการเผยแพร่ความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เขาไม่ได้ทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในอันตราย เหมือนกับที่ข้อมูลตามที่ประธานาธิบดีโอบามาได้รับ

    และคาร์เตอร์ยังกล่าวต่อว่า “หากสโนว์เดนถูกตัดสินโทษผิดจริง และได้รับโทษขั้นประหารชีวิต ถ้าเป็นผมคงจะพิจารณาข้อเสนอการอภัยโทษ เพราะเมื่อพิจารณาจากคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครสามารถได้รับการอภัยโทษ หากปราศจากการขึ้นศาลไต่สวนความผิดและตัดสิน”



    In Pics & Clips : 2
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รบ.รัสเซียเดินหน้ากว้านซื้อทองคำเพิ่ม เดือนที่แล้วฟาดไปอีก “25 ตัน” นักวิเคราะห์ชี้ ปูตินเตรียมรับมือ “เหตุการณ์ไม่คาดฝัน” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 17:09 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการรัสเซียยังคงเดินหน้ากว้านซื้อทองคำในตลาดโลกมาถือครองเป็นทุนสำรองเพิ่มเติม โดยข้อมูลล่าสุดชี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลแดนหมีขาวภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทำการซื้อทองคำในตลาดโลกมากักตุนอีก 800,000 ออนซ์ หรือคิดเป็นกว่า “25 ตัน” ด้านนักวิเคราะห์คาด รัสเซียยังจะกว้านซื้อทองคำไปครอบครองอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รองรับหากเกิด “เหตุการณ์ไม่คาดฝัน”

    รายงานข่าวล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ ( 29 ก.ค.) ระบุว่า การกว้านซื้อทองคำไปถือครองเพิ่มเติมของรัฐบาลรัสเซียอีกถึง 25 ตันในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ในเวลานี้ รัสเซียมีทองคำสำรองอยู่ในความครอบครองแล้วมากกว่า “41 ล้านออนซ์” หรือคิดเป็น “1,275 ตัน” ส่งผลให้รัสเซียเป็นประเทศที่ถือครองทองคำเอาไว้มากเป็นอันดับที่ 6 ของโลกในเวลานี้ รองจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และสาธารณรัฐประชาชนจีน

    อย่างไรก็ดี หากนับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา รัสเซียจะถือเป็นประเทศที่มีการกว้านซื้อทองคำเพิ่มเติมสูงที่สุดของโลก โดยในปีที่แล้วเพียงปีเดียว รัฐบาลมอสโกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้กว้านซื้อทองคำมาเก็บไว้เพิ่มเติมมากกว่า 173 ตันแล้ว ตามข้อมูลที่ยืนยันโดยสภาทองคำโลก (World Gold Council) ซึ่งระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว รัฐบาลรัสเซียจะซื้อทองคำไปถือครองเพิ่มเติม “เดือนละ 20 ตันเป็นอย่างน้อย”

    ข้อมูลระบุว่า ทองคำจำนวนมหาศาลดังกล่าวที่รัฐบาลรัสเซียมีเก็บไว้ในครอบครองนั้น มีสัดส่วนเพียงแค่ 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อเทียบกับทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมดของรัสเซีย ที่มีเก็บไว้ทั้งในรูปของเงินสด เงินตราต่างประเทศ พันธบัตร และอื่นๆ

    ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2007 เป็นต้นมา ทางการรัสเซียมีแต่กว้านซื้อทองคำไปสะสมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และแทบไม่เคยนำทองคำในครอบครองออกขายเลย ยกเว้นในปี 2012 ที่รัสเซียมีการขายทองคำปริมาณน้อยรวม 2 ครั้ง

    ด้านเลโอนิด เบร์ชิดสกี คอลัมนิสต์ชื่อดังแห่ง “บลูมเบิร์ก” ซึ่งเคยเป็นบรรณาธิการของนิตยสารฟอร์บส์ เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในรัสเซียให้ความเห็นว่า รัฐบาลมอสโกในยุคของปูตินยังคงให้ความเชื่อมั่นกับการถือครองทองคำในฐานะของการเป็น “สินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์”และสินทรัพย์เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

    เบร์ชิดสกี เผยว่ารัฐบาลรัสเซียน่าจะยังคงเดินหน้ากว้านซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มเติมต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปีนับจากนี้ หลังเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า การมีทองคำสำรองในความครอบครองเป็นจำนวนมาก สามารถช่วยลดทอนผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯและโลกตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

    “ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทองคำสำรองมีบทบาทอย่างสำคัญ ที่ช่วยให้รัสเซียไม่ได้รับผลกระทบมากนักเมื่อถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร จากผลพวงของวิกฤตการเมืองในยูเครนในช่วงที่ผ่านมา และคงไม่ผิดนัก หากเราจะได้เห็นรัสเซียเดินหน้าเพิ่มการถือครองทองคำต่อไป อย่างน้อยก็ในช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และลดทอนผลกระทบหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในเวทีโลก ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสงครามหรือหายนะทางธรรมชาติครั้งเลวร้าย” เลโอนิด เบร์ชิดสกีกล่าว

    ทั้งนี้ นอกจากยุทธศาสตร์การถือครองทองคำเพิ่มเติมของรัสเซียแล้ว รายงานข่าวซึ่งอ้างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ในปัจจุบัน รัสเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสัดส่วนของหนี้สินภาครัฐที่ต่ำเตี้ยที่สุดในโลก กล่าวคือ รัสเซียมีหนี้สินภาครัฐไม่ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ในขณะที่สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนหนี้ภาครัฐสูงถึง 101 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และอังกฤษมีหนี้สินภาครัฐอยู่ที่ระดับ 82 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในเวลานี้

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085875
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดน้ำท่วมฉับพลันในรัฐทางตะวันตกของอินเดีย มีคนตายแล้ว 26 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 17:05 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ทางการอินเดียระบุในวันพุธ (29 ก.ค.) ว่าน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากฝนตกหนัก ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 รายในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในรัฐทางตะวันตกของประเทศ

    ฝนและลมแรงได้ทำให้กระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสารถูกตัดขาดทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐคุชราต ทำให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าชาวบ้านในพื้นที่แถบนั้นจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    "หมู่บ้านกว่า 2,000 แห่งทางเหนือของรัฐคุชราตได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เราขาดการติดต่อกับหมู่บ้านเหล่านั้น ไม่มีข้อมูลข่าวสารอะไรถูกส่งออกมาจากแถบนั้นเลย" เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมดูแลสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐดังกล่าวบอกเอเอฟพี

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่า ทีมกู้ภัยได้ถูกส่งไปยังบริเวณที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหลายจุด อย่างเช่นในเขตบานัสกันตา มีผู้เสียชีวิต 8 รายจากเหตุร้ายที่เกี่ยวข้องกับฝน อาทิ การเสียชีวิตเพราะจมน้ำ

    มีผู้เสียชีวิต 4 รายที่เขตคุธ จากการพังลงมาของบ้านหลายหลัง กับอีก 8 รายในเขตอื่นๆ ส่วนที่เมืองอัมห์ดาบาดมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ขณะที่ผู้คนกว่า 1,000 รายต้องย้ายไปอยู่ที่สูงเพื่อหนีน้ำ

    หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของอิเดียได้พยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในรัฐคุชราตต่อไปอีก 48 ชั่วโมง

    เมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายในรัฐที่ติดชายฝั่งแห่งนี้ ช่วงที่มรสุมพัดผ่านทั่วประเทศอินเดีย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085872
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้อพยพ 1,500 คนพยายามบุกอุโมงค์รถไฟข้ามช่องแคบอังกฤษ-ตำรวจพบดับ 1 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 15:10 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – คลื่นผู้อพยพราว 1,500 คนที่ต้องการใช้อุโมงค์ข้ามช่องแคบไปยังอังกฤษ พยายามบุกเข้าไปในสถานีของยูโรทันเนิลที่เมืองท่ากาเลส์ (Calais) ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ล่าสุดตำรวจฝรั่งเศสพบผู้เสียชีวิต 1 ราย

    โฆษกบริษัทยูโรทันเนิลซึ่งเป็นผู้บริหารรถไฟข้ามช่องแคบอังกฤษ แถลงว่า “พนักงานของเราไปพบผู้เสียชีวิตรายหนึ่งเมื่อช่วงเช้า และทางหน่วยดับเพลิงก็ยืนยันว่าเขาเสียชีวิตแน่”

    ตำรวจเมืองน้ำหอม ระบุว่า ผู้ตายเป็นชายชาวซูดาน อายุระหว่าง 25-30 ปี และคาดว่าคงจะถูกรถบรรทุกที่ลงจากเรือเฟอร์รีข้ามช่องแคบอังกฤษพุ่งชน

    ยอดตายล่าสุดทำให้จำนวนผู้อพยพที่เอาชีวิตมาทิ้งบริเวณสถานีรถไฟข้ามช่องแคบอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็น 9 ราย ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา

    “เหตุวุ่นวายทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และจนถึง 6.00 น. ตำรวจยังมีภารกิจที่ต้องทำมากมาย” แหล่งข่าวตำรวจให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า ยังคงมีผู้อพยพปักหลักอยู่รอบๆ อุโมงค์ข้ามช่องแคบประมาณ 500-1,000 คน เพื่อรอโอกาสที่จะข้ามทะเลไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในเมืองผู้ดี

    ก่อนเกิดเหตุล่าสุดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็มีกลุ่มผู้อพยพประมาณ 2,000 คนได้พยายามฝ่าเข้าไปในสถานียูโรทันเนิลเมื่อวานนี้ (28) ซึ่งถือเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลา 1 เดือนครึ่ง

    ทางการฝรั่งเศสได้สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ท่าเรือในเมืองกาเลส์ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ทำให้ผู้อพยพซึ่งแต่เดิมใช้วิธีแอบติดรถบรรทุกหรือขึ้นเรือเฟอร์รีเพื่อข้ามไปยังอังกฤษ ต้องหันมาพึ่งอุโมงค์รถไฟข้ามช่องแคบแทน

    นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนสิงคโปร์วันนี้(29) ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงผู้อพยพที่พยายามหลบหนีเข้าอังกฤษผ่านอุโมงค์รถไฟที่เชื่อมกับเมืองท่ากาเลส์ของฝรั่งเศส

    “เรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก” คาเมรอน กล่าวต่อสื่อมวลชนที่สิงคโปร์ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลอังกฤษได้ประสานความร่วมมือกับทางการฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งคลี่คลายปัญหานี้ และ “จะทำทุกวิถีทาง” รวมถึงจัดสรรงบประมาณสร้างรั้วกั้นรอบๆ บริเวณอุโมงค์รถไฟ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

    ด้าน ยูโรทันเนิล ก็ได้เรียกร้องเงินจำนวน 9.7 ล้านยูโรจากรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อชดเชยที่กลุ่มผู้อพยพทำให้การเดินรถไฟต้องหยุดชะงัก และบริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085775
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รมต.เมืองผู้ดีร้องมะกันซื้อ “อาวุธอังกฤษ” เพิ่ม โอดขาดดุลการค้า โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 14:31 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กรกฎาคม 2558 14:33 น.)

    [​IMG]
    @ฟิลลิป ดันน์ รัฐมนตรีฝ่ายจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ

    รอยเตอร์ – รัฐมนตรีฝ่ายจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมอังกฤษเรียกร้องเมื่อวานนี้ (28) ให้สหรัฐฯซื้ออาวุธของอังกฤษมากกว่านี้ โดยระบุว่า กระแสการไหลเวียนทางการค้าเป็นไปในทิศทางเดียวมากเกินไป

    ความคิดเห็นดังกล่าวของ ฟิลลิป ดันน์ ถือเป็นการสะกิดแบบออกสื่อโดยหนึ่งในพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ถึงเรื่องความไม่สมดุลทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ

    “การค้าขายบ่อยครั้งดูเหมือนจะไปในทิศทางเดียวเสียส่วนใหญ่” ดันน์ บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างการเยือนสหรัฐฯครั้งแรกของเขานับตั้งแต่รัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับเลือกตั้งเข้ามาเมื่อต้นปีนี้ เขาอธิบายว่า “ง่ายๆ ก็คือว่า เราซื้อจากคุณมากกว่าคุณซื้อจากเรา”

    ดันน์ กล่าวว่า เขาได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาคุยในการพบปะกับ แฟรงค์ เคนดอลล์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งดูแลการจัดซื้อของสหรัฐฯ และบอกกับเขาว่า มีสิ่งที่สามารถทำได้มากกว่านี้ในการเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่สัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ

    ดันน์ ยังได้พบกับ โรเบิร์ต เวิร์ค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อหารือเรื่องความพยายามร่วมไม้ร่วมมือต่างๆ ระหว่างสหรัฐฯกับอังกฤษ รวมถึง การร่วมกันพัฒนาเครื่องบินขับไล่ F-35

    อังกฤษเป็นผู้ส่งออกอาวุธอันดับ 6 ของโลกระหว่างปี 2010-2014 โดย 12 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกของเหล่านั้นมีสหรัฐฯเป็นลูกค้า ทั้งนี้อ้างจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสต็อกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute)

    รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อปี 2014 เผยให้เห็นว่า ทางกระทรวงฯ ได้อนุมัติการขายยุทธภัณฑ์และบริการทางทหารของสหรัฐฯมูลค่ากว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับอังกฤษ

    ดันน์ ยินดีกับข่าวที่ว่ากองบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจในเร็วๆ นี้ว่าจะประกาศว่า กองบินแรกของเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ของบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน พร้อมสำหรับการสู้รบแล้วหรือไม่

    อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศหุ้นส่วน 9 แห่งที่ร่วมทุนพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ดังกล่าว และคาดว่าจะมีส่วนสร้างเครื่องบินแต่ละลำประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์

    ดันน์ กล่าวว่า เขาไม่ได้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อแผนการจัดซื้อเครื่องบินเอฟ-35 ของอังกฤษ ก่อนการทบทวนยุทธศาสตร์ที่จะแล้วเสร็จในปี 2020

    เขากล่าวว่า อังกฤษคาดว่าจะเริ่มการทดสอบเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 บนเรือบรรทุกเครื่องบินในปี 2018 และเริ่มการใช้เชิงปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป

    ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า เวิร์ค และ ดันน์ ยังได้หารือเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาเมื่อเร็วๆ นี้ของอังกฤษที่จะตอบสนองเป้าหมายขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จะให้ชาติสมาชิกใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศคิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีสำหรับ 5 ปีข้างหน้า

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “วิษณุ” รับ พ.ร.บ.ค้ามนุษย์เสร็จแล้ว จ่อมีแผนกคดีพิเศษ ชม อธ.อัยการฯ สวนมะกัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 15:41 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กรกฎาคม 2558 16:38 น.)

    [​IMG]

    รองนายกฯ เผย พ.ร.บ.ป้องกันค้ามนุษย์เสร็จพร้อมเข้าสภาแล้ว รอพิจารณาด่วนขนาดออกเป็น พ.ร.ก.เลยหรือไม่ ประสาน สนง.ศาลยุติธรรมเปิดแผนกคดีชำนัญพิเศษให้คดีเร็วขึ้น เล็งแก้คดีเข้าข่ายให้ฟ้องค้ามนุษย์ เลิกใช้เป็นคำกลางรวมคดีอื่น ทำให้คดีรัดกุม ยันครอบคลุมทุกประเภท ติงข้าราชการเกียร์ว่างช่วงการเมืองเปลี่ยนบ่อย ชมอธิบดีอัยการต่างประเทศสวนมะกัน ยกคะแนนเต็ม

    วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ว่า กฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง คือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2542 ซึ่งได้ปรับปรุงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็มีข้อสังเกตของสหรัฐอเมริกาเข้ามา ทำให้รู้ว่าต้องแก้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.การประมง ที่ขณะนี้เสร็จสิ้นพร้อมนำเข้าสภาแล้ว แต่กำลังพิจารณาว่ามีความเร่งด่วน อาจต้องออกเป็นพระราชกำหนด แต่ต้องแน่ใจว่ามีความรอบคอบแล้ว ขณะนี้รอเพียงนโยบายว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่เขาวิจารณ์ว่าการดำเนินคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์มีความล่าช้า ได้มีการประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อแก้ปัญหา วันที่ 10 ส.ค.นี้ ศาลจะมีการเปิดแผนกคดีชำนัญพิเศษขึ้นในศาลอาญา 3 แผนก คือ คดีค้ามนุษย์ ยาเสพติด และคดีทุจริต ทำให้การพิจารณาเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ขั้นตอนศาลได้เร็วขึ้น

    นายวิษณุกล่าวต่อว่า ที่เขาเข้าใจว่าคดีค้ามนุษย์ส่วนใหญ่ศาลยกฟ้องนั้น จากการดูข้อมูลพบว่า คำว่า “ค้ามนุษย์” ในกฎหมายไทยเป็นคำกลางๆ ที่มีหลายข้อหามาร่วมในนั้น ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี การเอาคนเป็นทาส สื่อลามกอนาจาร คดีแรงงาน คดีกดขี่ข่มเหงด้วยประการอื่น เวลาฟ้องอาจฟ้องรวมหลายข้อหา แม้ศาลไม่ได้ตัดสินลงโทษเรื่องค้ามนุษย์ แต่ลงโทษเรื่องการค้าประเวณี คนที่ไปอธิบายให้ฝรั่งฟังก็บอกว่าศาลยกฟ้องเรื่องค้ามนุษย์ ตรงนี้จะมีการแก้ไขว่าต่อไปอะไรที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ให้ฟ้องว่าค้ามนุษย์จะได้ชัดเจน ได้ให้ทั้งตำรวจ อัยการ ศาล ไปดูว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ผลที่ได้จะทำให้การทำคดีมีความรัดกุมมาแต่ต้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาการแบ่งผู้ที่ถูกจับกุมมาว่าจะเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหาย แม้จะมีลักษณะใกล้เคียงกันแต่ปฏิบัติก่อนหน้านี้ต่างกัน รวมถึงการกระทำอื่นๆ ที่เป็นลักษณะการข่มเหง ที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยนั้น หลายหน่วยงานมีความเห็นไม่ตรงกัน ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นั้น รวมๆแล้วมีประมาณ 4-5 ฉบับ ในนั้นมีกฎหมาย วิธีการพิจารณาความอาญา อยู่ด้วย ตรงนี้จะมีการปรับให้คดีบางประเภทจบในชั้นอุทธรณ์ โดยร่างไว้แล้วว่าเมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วให้ไปศาลอุทธรณ์ แต่ถ้าจะฎีกาต้องยื่นคำร้องซึ่งศาลมีอำนาจพิจารณาว่าสมควรรับหรือไม่ จากที่ก่อนหน้านี้ศาลจำเป็นต้องรับ โดยจะนำเข้าสภาได้ในเร็วๆ นี้ เมื่อถามว่าจะคลอบคลุมคดีว่ากี่ประเภท นายวิษณุกล่าวว่า ทุกประเภท

    เมื่อถามว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพิจารณาว่าจะคว่ำบาตรไทยหรือไม่ใน 90 วัน การปรับปรุงกฎหมายจะเสร็จทันหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า การปรับปรุงกฎหมายต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังลังเลอยู่เพียงว่าจะออกอย่างไรเท่านั้น และปัญหาต่างๆ มีมายาวนานแต่เราไปละเลย อาจเป็นเพราะการเมืองไทยเปลี่ยนบ่อยไม่มีความต่อเนื่อง เมื่อการเมืองเปลี่ยน ข้าราชการมีหน้าที่ต้องทำ จะปล่อยเกียร์ว่างสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ตนตำหนิตรงนี้ด้วย ถ้าเป็นข้าราชการพันแท้ตัวเองรับทราบปัญหาต้องแก้ไม่ต้องให้ใครมาไล่บี้ และในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เล่าให้ฟังถึงเรื่องผลประเมินดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่าต้องพยายามแก้ไขกันไปและทำความเข้าใจกับเขา และขณะนี้มีศูนย์ข้อมูลเรื่องการค้ามนุษย์ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่จะมีข้อมูลเมื่อหน่วยงานต่างๆ ส่งมาให้ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครส่งมาให้ ดังนั้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องส่งข้อมูลมาที่ศูนย์ดังกล่าว

    เมื่อถามต่อว่า ผลประเมินดังกล่าวเป็นธรรมกับเราหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมอยู่ทางรัฐบาล อย่าเอาผมไปตอบโต้อะไร อธิบดีวันชัย (นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ) พูดดีแล้ว เท่มาก พูดถูกหมด คะแนนเต็มเอบวก”



     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาเลย์รุดส่งทีมตรวจสอบซากปริศนาบนเกาะมหาสมุทรอินเดีย หลังลือเป็นMH370 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2558 05:40 น.

    เอเอฟพีASTVผู้จัดการ - มาเลเซียรุดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปดำเนินการตรวจสอบซากเครื่องบินปริศนาที่ถูกซัดเกยตื้นเกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ท่ามกลางข่าวลือว่ามันอาจเป็นชิ้นส่วนเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนมีนาคมปี 2014 กระทรวงคมนาคมแดนเสือเหลืองเผยในวันพุธ(29ก.ค.)

    เศษซากความยาว 2 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นชิ้นส่วนปีก ถูกพบโดยผู้คนที่กำลังทำความสะอาดชายหาดในวันพุธ(29ก.ค.) กระพือข่าวลือว่ามันอาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินที่สูญหายไปนานปีกว่า ท่ามกลางคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ที่เชื่อว่ามันน่าจะเคยอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน เนื่องจากมีเปลือกหอยติดอยู่

    [​IMG]
    @ซากเครื่องบินปริศนาถูกซัดเกยตื้นเกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ถูกพบในวันพุธ(29ก.ค.)

    นายเหลียว เตียง ไหล รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวในนิวยอร์กว่า "ไม่ว่าเศษซากใดที่พบ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเสียก่อน แล้วเราถึงจะสามารถยืนยันเพิ่มเติมได้ว่ามันเป็นของเที่ยวบิน MH370 หรือไม่" เขากล่าวพร้อมเผยว่า "ดังนั้นเราจึงส่งทีมไปตรวจสอบเรื่องนี้ และเราหวังว่าจะสามารถระบุเอกลักษณ์ของมันเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

    เจ้าหน้าที่ขนส่งทางอากาศของฝรั่งเศสได้ดำเนินการตรวจสอบหาที่มาที่ไปของซากดังกล่าวแล้ว โดยที่ ซาเวียร์ ไทเทลมาน ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านการบิน ให้ความเห็นว่าไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เศษซากดังกล่าวจะเป็นของเที่ยวบิน MH370 ซึ่งสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อกว่าหนึ่งปีก่อน

    จนถึงตอนนี้ยังไม่พบเศษซากใดๆของ MH370 ที่กลายเป็นหนึ่งในเหตุลี้ลับทางการบินครั้งพิศวงที่สุด แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มาเลเซียประกาศอย่างเป็นทางการว่าการหายสาบสูญเที่ยวบิน MH370 เป็นอุบัติเหตุและผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คนเสียชีวิตทั้งหมด

    เครื่องบินเที่ยวจากกัวลัมลัมเปอร์ ลำนี้สูญหายไปในยามค่ำคืนเหนือทะเลจีนใต้ หลังวกกลับจากที่ต้องบินขึ้นเหนือเพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกรุงปักกิ่ง ขณะที่ ไทเทลมาน ตั้งข้อสังเกตว่าภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่น เผยให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อระหว่างชิ้นส่วนปีกโบอิ้ง 777 กับเศษซากที่พบ ทั้งนี้โบอิ้ง 777 เป็นรุ่นเดียวกับเครื่องบินที่สูญหาย

    นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตหมายเลข BB670 บนเศษซากดังกล่าวว่า "รหัสนี้ไม่ใช่หมายเลขทะเบียนเครื่องบินหรือหมายเลขสินค้า แต่ชัดเจนว่าหมายเลขอ้างอิงนี้จะช่วยให้ระบุเอกลักษณ์ของมันได้อย่างรวดเร็ว และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะได้คำตอบที่แน่ชัด"

    ปฏิบัติการค้นหาที่นำโดยออสเตรเลีย สอดส่องไปทั่วครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตรของพื้นทะเล โดยราว 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ค้นหาอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสรุปผ่านการวิเคราะห์สัญญาณจาก MH370 ที่ตรวจจับได้โดยดาวเทียมลูกหนึ่ง ทว่าจนถึงปัจจุบันการค้นหากลับไม่พบอะไรเลยยกเว้นตู้คอนเทนเนอร์ของเรือขนส่งสินค้าและซากเรือเก่าๆเท่านั้น

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000086025

    InPics & Clips : พบซากเครื่องบินปริศนาบนเกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ลือเป็นMH370!! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2558 03:30 น.

    @ ซากเครื่องบินปริศนาถูกซัดเกยตื้นเกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ถูกพบในวันพุธ(29ก.ค.)

    เอเอฟพี - พบซากเครื่องบินปริศนาถูกซัดเกยตื้นเกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ในวันพุธ(29ก.ค.) กระพือข่าวลือว่ามันอาจเป็นชิ้นส่วนเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนมีนาคมปี 2014

    เศษซากความยาว 2 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นชิ้นส่วนปีก ถูกพบโดยผู้คนที่กำลังทำความสะอาดชายหาด "มันมีเปลือกหอยติดอยู่ ดังนั้นบางคนจึงเชื่อว่ามันน่าจะเคยอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน" ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอก

    เจ้าหน้าที่ขนส่งทางอากาศของฝรั่งเศส ได้เปิดการสืบสวนเพื่อค้นหาที่มาที่ไปของซากดังกล่าวแล้ว โดยที่ ซาเวียร์ ไทเทลมาน ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านการบิน ให้ความเห็นว่าไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เศษซากดังกล่าวจะเป็นของเที่ยวบิน MH370 ซึ่งสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อกว่าหนึ่งปีก่อน

    จนถึงตอนนี้ยังไม่พบเศษซากใดๆของ MH370 ที่กลายเป็นหนึ่งในเหตุลี้ลับทางการบินครั้งพิศวงที่สุด แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มาเลเซียประกาศอย่างเป็นทางการว่าการหายสาบสูญเที่ยวบิน MH370 เป็นอุบัติเหตุและผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คนเสียชีวิตทั้งหมด

    เครื่องบินเที่ยวจากกัวลัมลัมเปอร์ ลำนี้สูญหายไปในยามค่ำคืนเหนือทะเลจีนใต้ หลังวกกลับจากที่ต้องบินขึ้นเหนือเพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกรุงปักกิ่ง ขณะที่ ไทเทลมาน ตั้งข้อสังเกตว่าภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่น เผยให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อระหว่างชิ้นส่วนปีกโบอิ้ง 777 กับเศษซากที่พบ ทั้งนี้โบอิ้ง 777 เป็นรุ่นเดียวกับเครื่องบินที่สูญหาย

    นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตหมายเลข BB670 บนเศษซากดังกล่าวว่า "รหัสนี้ไม่ใช่หมายเลขทะเบียนเครื่องบินหรือหมายเลขสินค้า แต่ชัดเจนว่าหมายเลขอ้างอิงนี้จะช่วยให้ระบุตัวตนของมันได้อย่างรวดเร็ว และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะได้คำตอบที่แน่ชัด"

    ด้านโบอิ้งระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขายังคงสนับสนุนปฏิบัติการสืบสวน MH370 และค้นหาเครื่องบินลำดังกล่าว "เรายังเดินหน้าแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและการวิเคราะห์ร่วมกับอุตสาหกรรมการบินโลกทั้งมวล เป้าหมายที่ยังคงอยู่ของเรา ไม่ใช่แค่การค้นหาเครื่องบิน แต่ยังรวมถึงการสรุปที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้" บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯระบุ

    ปฏิบัติการค้นหาที่นำโดยออสเตรเลีย สอดส่องไปทั่วครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตรของพื้นทะเล โดยราว 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ค้นหาอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสรุปผ่านการวิเคราะห์สัญญาณจาก MH370 ที่ตรวจจับได้โดยดาวเทียมลูกหนึ่ง

    อย่างไรก็ตามการค้นหาของเรือ 4 ลำที่โยงสายเคเบิลยาว 10 กิโลเมตร ติดกับระบบโซนาร์สแกนท้องทะเล กลับไม่พบอะไรเลยยกเว้นตู้คอนเทนเนอร์ของเรือขนส่งสินค้าและซากเรือเก่าๆเท่านั้น

    เหล่าญาติที่โกรธกริ้ววิพากษ์วิจารณ์แนวทางการรับมือวิกฤตเครื่องบินสูญหายของมาเลเซีย และมีคำถามว่าทำไมถึงเลือกพุ่งเป้าค้นหาไปที่ทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย

    นอกจากปฏิบัติการค้นหาดังกล่าวที่พิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ การคาดเดาเกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินก็ยังเป็นเป้าสนใจในลำดับต้นๆ ในความเป็นไปได้ทั้งปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง จี้เครื่องบิน แผนก่อการร้าย หรือไม่ก็อาจเป็นฝีมือของนักบิน อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานใดมาพิสูจน์ข้อสันนิษฐานเหล่านี้

    ด้วยปราศจากข้อมูลที่หนักแน่นจึงกระพือให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานา มีทั้งออกหนังสือ จัดทำสารคดีและโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนทางออนไลน์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ต่างๆนานาเหล่านั้น ในนั้นรวมถึงข้อสันนิษฐานที่ว่าเครื่องบินลำนี้ถูกยึดใช้เป็นระเบิดบินได้มุ่งหน้าสู่สถาบันทางทหารของสหรัฐฯบนเกาะดิเอโก การ์เซีย และถูกอเมริกายิงตก แต่ทางวอชิงตันปฏิเสธคำกล่าวอ้าหงนี้

    ส่วน เจฟฟ์ ไวส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของสหรัฐฯ สันนิษฐานเมื่อช่วงต้นปีว่า เที่ยวบิน MH370 ถูกควบคุมไปยังฐานทัพแห่งหนึ่งของรัสเซียในคาซัคสถาน ในความพยายามของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่หวังข่มขู่ตะวันตก ระหว่างวิกฤตยูเครน หรือไม่ก็ต้องการเข้าถึงผู้โดยสารคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งของที่ผู้โดยสารรายนั้นถือครองอยู่



    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000086016
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    กำลังจัดฉากให้ดูเนียนๆ
    เป็นที่รู้กันว่าMH370ที่หายเป็นปฏิบัติการทางทหาร เครื่องบินโดนไฮแจ๊คแล้วหายไป ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ ถ้าเป็นอุบัติเหตุต้องพบซากหลังจากเครื่องตกไม่นานตั้งแต่วันที่8 มีนาคม 2014...นี้ปาเข้าจะปีครึ่งแล้ว ชิ้นส่วนเพิ่งจะโผล่บนเกาะในมหาสมุทรอินเดีย ทั้งๆที่เครื่องบินมีกำหนดบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปปักกิ่ง ชิ้นส่วนอาจจะเป็นของจริงก็ได้ เอามาร่อนทีหลัง อยากรู้ความจริงต้องอดทน ไม่รีบด่วนสรุป เวลาเป็นตัวกำหนด
    อ่านข่าวดู:
    มาเลย์รุดส่งทีมตรวจสอบซากปริศนาบนเกาะมหาสมุทรอินเดีย หลังลือเป็นMH370
    เอเอฟพีASTVผู้จัดการ - มาเลเซียรุดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปดำเนินการตรวจสอบซากเครื่องบินปริศนาที่ถูกซัดเกยตื้นเกาะเรอูว์นียงของฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ท่ามกลางข่าวลือว่ามันอาจเป็นชิ้นส่วนเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเดือนมีนาคมปี 2014 กระทรวงคมนาคมแดนเสือเหลืองเผยในวันพุธ(29ก.ค.)
    เศษซากความยาว 2 เมตร ซึ่งน่าจะเป็นชิ้นส่วนปีก ถูกพบโดยผู้คนที่กำลังทำความสะอาดชายหาดในวันพุธ(29ก.ค.) กระพือข่าวลือว่ามันอาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินที่สูญหายไปนานปีกว่า ท่ามกลางคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ที่เชื่อว่ามันน่าจะเคยอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน เนื่องจากมีเปลือกหอยติดอยู่
    นายเหลียว เตียง ไหล รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวในนิวยอร์กว่า "ไม่ว่าเศษซากใดที่พบ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเสียก่อน แล้วเราถึงจะสามารถยืนยันเพิ่มเติมได้ว่ามันเป็นของเที่ยวบิน MH370 หรือไม่" เขากล่าวพร้อมเผยว่า "ดังนั้นเราจึงส่งทีมไปตรวจสอบเรื่องนี้ และเราหวังว่าจะสามารถระบุเอกลักษณ์ของมันเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
    เจ้าหน้าที่ขนส่งทางอากาศของฝรั่งเศสได้ดำเนินการตรวจสอบหาที่มาที่ไปของซากดังกล่าวแล้ว โดยที่ ซาเวียร์ ไทเทลมาน ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านการบิน ให้ความเห็นว่าไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เศษซากดังกล่าวจะเป็นของเที่ยวบิน MH370 ซึ่งสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อกว่าหนึ่งปีก่อน
    จนถึงตอนนี้ยังไม่พบเศษซากใดๆของ MH370 ที่กลายเป็นหนึ่งในเหตุลี้ลับทางการบินครั้งพิศวงที่สุด แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มาเลเซียประกาศอย่างเป็นทางการว่าการหายสาบสูญเที่ยวบิน MH370 เป็นอุบัติเหตุและผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คนเสียชีวิตทั้งหมด
    เครื่องบินเที่ยวจากกัวลัมลัมเปอร์ ลำนี้สูญหายไปในยามค่ำคืนเหนือทะเลจีนใต้ หลังวกกลับจากที่ต้องบินขึ้นเหนือเพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกรุงปักกิ่ง ขณะที่ ไทเทลมาน ตั้งข้อสังเกตว่าภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่น เผยให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อระหว่างชิ้นส่วนปีกโบอิ้ง 777 กับเศษซากที่พบ ทั้งนี้โบอิ้ง 777 เป็นรุ่นเดียวกับเครื่องบินที่สูญหาย
    นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตหมายเลข BB670 บนเศษซากดังกล่าวว่า "รหัสนี้ไม่ใช่หมายเลขทะเบียนเครื่องบินหรือหมายเลขสินค้า แต่ชัดเจนว่าหมายเลขอ้างอิงนี้จะช่วยให้ระบุเอกลักษณ์ของมันได้อย่างรวดเร็ว และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะได้คำตอบที่แน่ชัด"
    ปฏิบัติการค้นหาที่นำโดยออสเตรเลีย สอดส่องไปทั่วครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตรของพื้นทะเล โดยราว 60 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ค้นหาอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งสรุปผ่านการวิเคราะห์สัญญาณจาก MH370 ที่ตรวจจับได้โดยดาวเทียมลูกหนึ่ง ทว่าจนถึงปัจจุบันการค้นหากลับไม่พบอะไรเลยยกเว้นตู้คอนเทนเนอร์ของเรือขนส่งสินค้าและซากเรือเก่าๆเท่านั้น
    30/7/2015
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    สหรัฐยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน แล้วขายอาวุธให้ซาอุฯทันที
    โอบามาตกลงยกเลิกแซงชั่นอิหร่านในข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่ทันไร สหรัฐเตรียมขายขีปนาวุธPatriot 600ลูก มูลค่า $5,400ล้านให้ซาอุฯทันที
    นายแน่มาก
    ขีปนาวุธPatriotเป็นระบบป้องกัน ผลิตโดยLockheed Martin สามารถยิงไปทำลายขีปนาวุธที่ยิงเข้ามาโดยฝ่ายศัตรู
    ซาอุฯซีดขึ้นมาทันที หลังจากที่ประเทศมหาอำนาจโลกได้ตกลงการเจรจาการจำกัดการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านได้ อันจะนำไปสู่การยกเลิกการแซงชั่นอิหร่าน
    เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า
    ซาอุฯเกรงว่าการยกเลิกการแซงชั่นจะทำให้อิหร่านแข็งแกร่งขึ้น ทั้งการเมืองในประชาคมโลก เศรษฐกิจ การเงินและการทหาร อันจะทำไปสู่การเผชิญหน้าที่เลี่ยงกันไม่ได้่ระหว่างซาอุฯและอิหร่านเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง
    พูดกันง่ายๆ รอวันดวลปืนกัน
    ซาอุกำลังถล่มเยเมนทางตอนใต้ของประเทศอยู่ แต่ยังปิดเกมไม่ได้ และต้องเผชิญหน้่ากับอิหร่านทางตะวันออก
    ซาอุฯจำต้องเร่งเสริมกองทัพด้วยการซื้ออาวุธจากสหรัฐและโลกตะวันตกเพิ่ม รวมทั้งรีบไปเจรจาเอาใจรัสเซียว่าอย่าหนุนอิหร่านมากนัก
    โอบามาทิ้งไพ่ตาย ด้วยแผนการเลิกแซงชั่นคิวบา และอิหร่านพร้อมๆกัน ทั้่งๆที่เป็นคู่รักคู่แค้นมานานหลาย 10ปี
    ที่ต้องเลิกแซงชั่นคิวบา เพราะว่ากลัวขีปนาวุปของคิวบาที่รัสเซียเอาไปติดตั้งดูเล่นๆ เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐและนาโต้ติดตั้งขีปนาวุปจ่อคอหอยมอสโคว
    ที่ต้องเลิกแซงชั่นอิหร่านเพื่อที่จะดึงอิหร่านออกจากรัสเซียและจีน โดยหวังว่าจะกลับเข้าไปฮุบบ่อน้ำมันอิหร่านและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งระบบการเงินของอิหร่านทีหลัง พร้อมกับนำเสนอสิ่งที่สหรัฐถนัดใช้คือ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเสรีภาพของการแสดงออก แล้วยุให้มีการเดินขบวนล้มรัฐบาลไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม
    อิสราเอลก็หวั่นไปกับเขาด้วย เพราะว่าอิหร่านที่แข็งแกร่งขึ้นจะกลายเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งที่น่าเกรงขราม นายกอิสราเอล นายเบนจามิน เนธันยาฮูขู่ว่า ถ้าอิสราเอลรู้ว่า อิหร่านเล่นไม่ซื่อเรื่องนิวเคลียร์ จะส่งกองทัพอากาศไปถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    ความจริงเรื่องเจรจานิวเคลียร์อิหร่านเป็นเรื่องหลอกเด็ก หลอกกันไปหลอกกันมา สหรัฐต้องแซงชั่นให้อิหร่านเจ้ง จะได้ง่ายในการเปลี่ยนแปลงการปกครองเพื่อเอารัฐบาลที่นิยมตะวันตกและพร้อมที่จะยกบ่อน้ำมันให้โดยแลกกับเศษเงินดอลล่าร์ ส่วนอิหร่านยืดเวลาการทำสงครามออกนานที่สุดเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางกองทัพ อาวุธนิวเคลียร์ ทั้งรัสเซียและจีนประเคนให้เรียบร้อยแล้ว หลายร้อยลูกไม่จำเป็นต้องพัฒนาอะไรให้เสียเวลามาก
    นอกจากซาอุฯที่เริ่มรู้สึกปอดแหกแล้ว อิสราเอลรู้สึกอนาคตมืดมนเหมือนกัน แต่ทุกคนก็ทราบกันดี แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้คือ อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นกระบุงเหมือนกัน เพราะว่าดีดนิ้วสั่งที สหรัฐก็ต้องรีบเอามาส่งให้
    เจอเกมเล่นไพ่สองหน้าของสหรัฐอย่างนี้ ซาอุฯออกตัวไม่เป็น เพราะว่าผิดพลาดมากที่หลงโจมตีเยเมนแล้ว ทำให้มีโอกาสโดนเอาคืน และทำให้ต้องพึ่งพาสหรัฐมากยิ่งขึ้นเพื่อความอยู่รอด ดอลล่าร์กระดาษที่ได้มาจากการสูบน้ำมันเท่าใดต้องเอาไปซื้ออาวุธจากสหรัฐเพื่อป้องกันตัวเอง
    ทั้งรัสเซียและจีนฝ่ายหนึ่ง และสหรัฐกับยุโรปอีิกฝ่ายหนึ่งรอดูหนังสงครามระหว่างอิหร่านและซาอุฯ โดยมีอิสราเอลเป็นโจ๊กเกอร์ ตะวันออกกลางจะตายมากแค่ไหนหรือเละเป็นโจ๊กแค่ไหนยิ่งดีเท่านั้น เพราะว่าน้ำมันใต้ดินไม่เน่าไม่เหม็น ดีเสียอีกไม่มีใครมาอ้างประวัติศาสตร์เพื่ออ้างกรรมสิทธิ์บ่อน้ำมัน
    เรื่องทางโลกของโลภ โกรธ หลงก็มีแค่นี้เอง
    thanong
    30/7/2015
    https://www.rt.com/usa/311111-saudi-arabia-patriot-missiles/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    หยวนก้าวข้ามด่านสำคัญ
    แม้ว่าตลาดหุ้นจีนจะป่วนมากในเวลานี้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเงินหยวนจะหยุดการเดินหน้าแบบทะลุทะลวงเพื่อที่จะเป็นเงินสกุลหลักของโลก
    ล่าสุด ทางLondon Metal Exchange ซึ่งเป็นตลาดรองค้าโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีมูลค่าเทรดสูงถึง$15ล้านล้านเมื่อปีที่แล้ว ได้ยอมรับเงินหยวนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับแบงค์ โบรกเกอร์หรือเทรดเดอร์ในการเทรดโลหะ
    เงินหยวนกลายเป็นเงินที่London Metal Exchangeรับให้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเคียงคู่กับดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์และเยน
    จีนกำลังเปิดเสรีการเงินเพื่อให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก โดยหนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือจะให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆสามารถมาถือพันธบัตรรัฐบาลจีนมากยิ่งขึ้น เมื่อใดที่พันธบัตรรัฐบาลจีนกลายเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในระบบแบงค์ เหมือนกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เมื่อนั้นเงินหยวนจะเป็นเงินสกุลหลักของโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
    thanong
    29/7/2015
    China’s Yuan Pushes Deeper Into Global Financial System - WSJ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    หัวไม่ส่าย ห่างจะกระดิกได้อย่างไร นี้แค่หนังตัวอย่าง

    [​IMG]

    สำนักข่าวอิศรา เผย ปตท.และ PTTGE ยื่นฟ้อง "นิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา" รอง ผจก.ปตท.สผ. ฐานเป็นพนักงานในหน่วยงานรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พบซื้อที่ดินอินโดนีเซียทับซ้อนป่าสงวน ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิเกษตรกรรมได้ ส่วนที่เหลือก็ไม่คุ้ม แถมพบค่านายหน้าแพงผิดปกติถึง 40 % พบ 5 โครงการเสียหายรวม 20,307 ล้าน
    วันนี้ (29 ก.ค.) สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าว "ฟ้องบิ๊ก ปตท.สผ.เรียก 2 หมื่นล.กล่าวหาทุจริตคดีปลูกปาล์ม อินโดฯ" โดยอ้างว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที.กรีน เอ็นเนอร์ยี่ พีทีอี ลิมิเต็ด หรือ PTTGE ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องต่อนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้จัดการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึ่งต่อมาถูกดึงตัวมาเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์ม ในนามของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
    โดยนายนิพิฐ ถูกกล่าวหาว่า เป็นพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ฯ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เนื่องจากมีการซื้อที่ดินเป็นที่ดินทับซ้อนพื้นที่ป่าสงวนเป็นส่วนมาก ทำให้ไม่สามารถขอให้หน่วยงานในประเทศอินโดนีเซียออกเอกสารแสดงสิทธิในการทำเกษตรกรรมได้ ส่วนที่ดินที่เหลือไม่ทับซ้อนป่าสงวนก็เหลืออยู่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน นอกจากนี้ยังมีค่านายหน้าในการจัดซื้อที่ดินที่สูงกว่าผิดปกติถึงร้อยละ 40 เป็นต้น นอกจากนี้ สำนวนคำฟ้องดังกล่าว ตอนหนึ่งยังระบุว่า การจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มในโครงการและการดำเนินโครงการนี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียหาย และสูญเสียเงินในการลงทุน
    โดยโครงการที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงทุนในนามบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ฯ มี 5 โครงการ คือ 1.โครงการ พีที อัซ ซารา แพลนเตชั่น (“PT.Az Zhara”) เข้าลงทุนกับ PT.Az Zhara และบริษัท พีที มิตรา อาเนคา เรเซกิ (“PT.MAR”) ลงทุนปลูกปาล์มในพื้นที่ใหม่บริเวณตอนกลางของเกาะกาลิมันตัน รวม 1.7 แสนเฮกตาร์ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก 1.1 แสนเฮกตาร์ ราคาเฮกตาร์ละ 550 เหรียญสหรัฐ ปตท.เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 55 ส่วนที่สองมีพื้นที่ 6 หมื่นเฮกตาร์ ราคาเฮกตาร์ละ 485 เหรียญสหรัฐ ปตท. ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 95 โดยพบความเสียหาย 1,642,563,599 บาท
    2.โครงการ พีที มาร์ (พอนเทียนัค) หรือ PT.MAR (Pontianak) ลงทุนกับ PT.Az Zhara และ PT.MAR ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเกาะกาลิมันตัน ในบริเวณที่เรียกว่า พอนเทียนัค ประกอบธุรกิจน้ำมันปาล์มในพื้นที่ทั้งหมด 14,000 เฮกตาร์ คิดราคาซื้อหุ้นในพื้นที่ร้อยละ 100 เป็นเงิน 15,500,000 เหรียญสหรัฐ 3.โครงการ พีที มาร์ (บันยัวซิน) หรือ PT.MAR (Banyuasin) ลงทุนในธุรกิจปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มดิบ โดยการซื้อหุ้นบริษัท PT.Surya hutama suwit (“PT.SHS”) ซึ่งประกอบธุรกิจปลูกปาล์มน้ำมันบริเวณที่เรียกว่า บันยัวซิน จำนวนเงินไม่เกิน 21.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีพื้นที่ปลูกที่เมืองปาเลมบัง ทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา ประมาณ 22,000 เฮกตาร์ พบความเสียหาย รวม 5,248,699,946 บาท
    4.โครงการ พีที เฟิร์ส บอร์เนียว แพลนเตชั่น หรือ PT.First Borneo Plantations (“PT.FBP”) ลงทุนกับ PT.FBP ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในเขตกะลิมันตันตะวันตก รวม 108,000 เฮกตาร์ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดได้รับอนุญาตประกอบกิจการปาล์มน้ำมัน พบความเสียหาย 5,290,456,378 บาท และ 5.โครงการ คัลปาตาลู อินเวสต์ตามา หรือ Kalpataru Investama (“KPI”) ลงทุนกับ PT.KPI เพื่อศึกษาการเข้าลงทุนในโครงการแห่งใหม่ มีพื้นที่ประมาณ 80,000 เฮกตาร์ ตั้งอยู่บริเวณเกาะกาลิมันตะวันออก พบความเสียหาย 7,297,508919.64 บาท รวมค่าความเสียหายทั้ง 5 โครงการรวมทั้งค่าบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น 624,850,887 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 20,307,653,844 บาท
    ทั้งนี้ บริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ PTTGE ตั้งขึ้นเพื่อลงทุนพัฒนาสวนปาล์มและโรงงานสกัดปาล์มดิบที่ประเทศอินโดนีเซีย จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ ก.ย. 2550 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 10,860 ล้านบาท รับนโยบายจากปตท.ปลูกปาล์มในอินโดนีเซีย 3.1 ล้านไร่ หรือ 5 แสนเฮกตาร์ เพื่อส่งออกน้ำมันปาล์มไปขายในตลาดโลก ขณะที่การลงทุนธุรกิจดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ฝ่ายบริหารปตท. หยิบยกขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากการดำเนินการพบความผิดปกติ โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อที่ดินจำนวนมากเพื่อปลูกปาล์ม และการสร้างโรงงานสกัดน้ำมัน จนกระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้ และได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง
    ซึ่งทาง พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียของ บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ ให้สัมภาษณ์ 17 ม.ย. ระบุว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และเอกสารจำนวนมากจึงมีความคืบหน้าพอสมควร แต่ ปตท.ส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.สอบเฉพาะ 5 โครงการที่มีการดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ดี ป.ป.ช. ยังเสาะหาพยานหลักฐานก่อนที่จะเริ่มโครงการด้วยว่าเป็นมาอย่างไร เบื้องต้นพบความผิดปกติหลายอย่าง เช่น การดำเนินการตามโครงการไม่เป็นไปตามที่บอร์ด ปตท. อนุมัติ และก่อนริเริ่มโครงการนี้มีข้อผิดปกติหลายส่วนทั้งเรื่องที่ดิน ข้อตกลง หุ้นส่วน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ประเมินว่าสร้างความเสียหายให้รัฐเท่าไหร่ เพราะต้องดูผลประกอบการเทียบกับการลงทุน อีกทั้งยังมีการขายโครงการเพื่อลดภาวะขาดทุนไปหลายโครงการด้วย จึงต้องดูผลลัพธ์จากการขายกับเงินลงทุนที่เสียไปแตกต่างกันอย่างไร ส่วนการไต่สวนอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเพราะมีเอกสารจำนวนมาก แต่ในขณะนี้พบว่ามี 2 โครงการที่สามารถชี้มูลความผิดได้ ซึ่งจะสรุปออกมาก่อน ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็เป็นไปตามที่ ปตท. กล่าวหามา อีกทั้งยังต้องดูเรื่องบอร์ดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่คิดว่าบอร์ดกำลังตัดตอนความรับผิดชอบด้วยการยื่นให้สอบการดำเนินธุรกิจปาล์มของบริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ เพราะ ป.ป.ช. ดูทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องบอร์ด ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี่ ที่เป็นผู้รับผิดโครงการที่ 5 หรือบอร์ดใหญ่ของ ปตท. ว่ามีการดำเนินการอย่างไร
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) เคยกล่าวตอบโต้กรณีฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการพาดพิงถึงการลงทุนของ ปตท. ในธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียว่าไม่โปร่งใส โดยระบุว่า ทำทุกขั้นตอนตามแผน "กระทรวงพลังงาน" ฟุ้ง ปตท.มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่เลือกจดทะเบียน "สิงคโปร์" เพราะเป็นศูนย์กลางการเงินและธุรกิจค้าน้ำมัน (อ่านข่าวทั้งหมด : บิ๊ก "PTTGE" โต้ลงทุนน้ำมันอินโดฯโปร่งใส โกยเงินเข้า ปตท.เพียบ วันที่ 11 มีนาคม 2554)
    29/7/2015

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085867

    บิ๊ก "PTTGE" โต้ลงทุนน้ำมันอินโดฯโปร่งใส โกยเงินเข้า ปตท.เพียบ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 15:19 น.

    บิ๊ก "PTTGE" โต้ฝ่ายค้านหลังเจอกระทู้สดพาดพิงลงทุนปาล์มน้ำมันที่อินโดฯ ไม่โปร่งใส ด้านผู้บริหารยันทำทุกขั้นตอนตามแผน "กระทรวงพลังงาน" ฟุ้ง ปตท.มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนสาเหตุที่เลือกจดทะเบียน "สิงคโปร์" เพราะเป็นศูนย์กลางการเงินและธุรกิจค้าน้ำมัน

    วันนี้ (11 มี.ค.) นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการพาดพิงถึงการลงทุนของ ปตท. ในธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียว่าไม่โปร่งใส ซึ่งกรณีได้มีการชี้แจงว่า บริษัท PTTGE ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2550 มีวัตถุประสงค์หลักสำหรับลงทุนในธุรกิจปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทดแทนให้ประเทศ ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนของกระทรวงพลังงาน โดยเข้าลงทุนพัฒนาสวนปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากมีความเหมาะสมทางสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และต้นทุนการผลิตที่ต่ำ นอกจากนี้พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเพาะปลูกปาล์มในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านก็มีจำกัด ต่างจากประเทศอินโดนีเซียที่ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการลงทุนปลูกปาล์มใน ระยะยาวของบริษัทฯ สาเหตุที่เลือกจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมัน ปาล์มเช่นเดียวกับบริษัทปาล์มน้ำมันชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก

    นายนิพิฐ กล่าวต่อว่า จากประเด็นที่มีการนำตัวเลขทุนจดทะเบียนของบริษัทที่ สิงคโปร์ ที่ PTTGE เข้าไปซื้อ มาเปรียบเทียบกับราคาที่ PTTGE ตกลงซื้อนั้น โดยข้อเท็จจริง บริษัทต่างๆ ดังกล่าวมีสวนปาล์มที่ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซียเป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าทุนจดทะเบียนของบริษัทมาก ทั้งนี้ เมื่อ PTTGE ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทชั้นสิงคโปร์แล้ว ก็จะส่งผลให้ PTTGE เป็นเจ้าของสวนปาล์มและทรัพย์สินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศอินโดนีเซียทางอ้อม จากรายงานการประเมินราคาโดยบริษัทประเมินสินทรัพย์ชั้นนำของโลก พบว่าสินทรัพย์ของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียมีราคาที่สอดคล้องกับราคาเข้าซื้อจริงของบริษัท โครงการที่บริษัท PTTGE เข้าลงทุนในธุรกิจสวนปาล์มนั้นมีที่ปรึกษาด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีขั้นตอนการศึกษาอย่างละเอียดก่อนการพิจารณาเข้าลงทุน

    ดังนั้น PTTGE ขอยืนยันว่า ไม่ได้ซื้อของแพงอย่างที่กล่าวอ้าง เนื่องจากราคาที่ PTTGE เข้าซื้อนั้นมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดในช่วงนั้น อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเนื่องด้วยการบริโภคน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นในอัตราสูง เพราะสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ ทำให้ธุรกิจปลูกปาล์มน้ำมันได้รับผลตอบแทนดีมาก เป็นผลให้ราคาสวนปาล์มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินที่ PTTGE ลงทุนไปมีมูลค่าสูง ขึ้นอย่างมาก

    นายนิพิฐ กล่าวยืนยันว่า การใช้เงินลงทุนของ ปตท ผ่าน PTTGE เพื่อลงทุนในธุรกิจปาล์มน้ำมัน มีการดำเนินการไปอย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การลงทุนของกลุ่ม ปตท และสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการลงทุนโครงการปลูกปาล์มของ PTTGE ก็ได้สร้างมูลค่าและผลตอบแทนให้กับ ปตท เป็นจำนวนมาก
    http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000031780
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2015
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

    [​IMG]

    ดาวเสาร์วิกลคติเพื่อที่จะเดินปกติ ณ ราศีพิจิก
    ๒๘ กค. - ๘ สค. ๒๕๕๘
    ดาวเสาร์ดาวประธานฝ่ายบาปพระเคราะห์ (ฝ่ายร้าย) ได้โคจรแปรวิถีจักรพักร (ถอยหลัง) ในราศีพิจิกมาตั่งแต่กลางเดือน มีค. ๒๕๕๘ โดยดาวเสาร์จะโคจรวิกลคติเพื่อที่จะเดินในวิถีจักรปกติในช่วงปลายเดือน กค. ถึงต้นเดือน สค. ๒๕๕๘ นี้
    ในขณะที่ดาวเสาร์โคจรวิกคตินี้ ดาวพฤหัสบดีที่โคจรอยู่ที่ราศีสิงห์ก็มาอยู่ในตำแหน่งที่ดาวเสาร์ส่งกระแสมาถึงพอดี "โดยดาวทั้งสองจะทำมุมร้าย ๙๐ องศาต่อกันในวันที่ ๓ สค. ๒๕๕๘" นี้ ซึ่งเสมือนว่าดาวเสาร์กุมกันกับดาวพฤหัสบดีจากเกณฑ์การส่งแสงของดาวเสาร์
    ทั้งดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่มีความสำคัญจากศักดิ์และสิทธิ์ของการเป็นประธานของฝ่ายดีและร้าย โดยเมื่อใดก็ตามที่ดาวทั้งสองโคจรมาส่งกระแสถึงกัน "ความวุ่นวายในโลกก็จะบังเกิดเสมอ"
    admin เคยเขียนบทความเรื่องการปะทะกันของดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีไว้หลายตอนเมื่อนานมาแล้ว โดยได้เผยแพร่ในคอลัมน์ "พูดจาภาษาโหร" ของท่านอ.ไพศาล พืชมงคล ซึ่งท่านที่สนใจสามารถไปสืบค้นมาศึกษาดูได้
    ดังนั้นในช่วงระยะเวลาที่ดาวเสาร์วิกลคติและทำมุมร้ายกับดาวพฤหัสบดีนี้ ผู้ที่มีลัคนา, ดาว, จุดศูนย์กลางภพตามดวง “ภวจักร”,ราหูสารัมภ์ ที่ราศีพิจิกและราศีสิงห์ ประมาณ ๔ +/- ๓ องศา ให้พึงระวังอุปัทวันตรายให้มาก
    ผู้ที่มีลัคนา (เน้นย้ำว่าลัคนา ไม่ใช่เดือนเกิดอย่างที่ทำนายกันแบบเหวี่ยงแห) อยู่ที่ "ราศีพิจิก" ให้ระมัดระวังเกี่ยวกับยวดยานพาหนะ การเดินทาง และที่อยู่อาศัยให้มาก มีโอกาสเกิดเหตุเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ถ้าไม่มีดาวฝ่ายดีมาคุ้ม
    ผู้ที่มีลัคนา (เน้นย้ำว่าลัคนา ไม่ใช่เดือนเกิดอย่างที่ทำนายกันแบบเหวี่ยงแห) อยู่ที่ "ราศีสิงห์" แล้วดาวพฤหัสบดีในดวงเดิมเบียฬกับดาวพฤหัสบดีจร (สถิตย์อยู่ราศีกันย์ มังกรและมิน) ให้ระมัดระวังอุปัทวันตรายให้เรื่องบ้านเรือนยวดยานพาหนะให้มากเช่นกัน มีโอกาสเจ็บป่วยไข้ได้ในช่วงระยะเวลานี้
    เหตุการณ์ทั่วๆไปทั่วโลกมีโอกาสเกิดภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรืออุบัติเหตุใหญ่ๆ ได้สูง การเงินการคลัง การศาสนาจะมีความวุ่นวาย พระมหาเถเรอะทั้งหลายจะโผล่หางออกมาให้เห็น ตัวบทกฏหมายจะถูกไม่บังคับใช้อย่างจริงจัง
    เราท่านพึงมีสติและไม่ประมาท หมั่นทำบุญสุนทาน และสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตากันเอาไว้เถิด กุศลผลบุญดังกล่าวจะ ทำให้เหตุหนักเป็นเบา เหตุเบาเป็นไม่มีก็ได้
    admin ดิลก แสงอุทัย
    รูปภาพของ ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fongsanan Chamornchan

    [​IMG]

    แม่หมอสมัครเล่นตอนที่82 โดยฟองสนาน จามรจันทร์
    นรโสโร อีกรอบปีเกิดของคุณทักษิณ
    วันที่ 26กรกฎาคม 2558 จะครบรอบคล้ายวันเกิด66ย่างเข้า67ปีของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
    ย้อนอดีตกลับไป ขณะที่คุณทักษิณพรั่งพร้อมไปด้วยเงินทองล้นฟ้า ชื่อเสียงเกียรติยศและอำนาจและบารมีเนื่องด้วยเมื่อท่านยุบสภาเพราะเป็นนายกรัฐมนตรีรอบแรกครบสี่ปีแล้ว ครั้นเมื่อเลือกตั้งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548ประชาชนส่วนใหญ่เทคะแนนให้พรรคไทยรักไทยได้เก้าอี้เกินกึ่งหนึ่งของของสภาผู้แทนราษฎรโดยได้ถึง 377 เสียง
    เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแวดวงนักการเมืองที่ผู้เขียนสัมผัสเพราะวิ่งหาข่าวอยู่ต่างคาดหมายว่าคุณทักษิณจะเป็นนายกรัฐมนตรีอีก4-8-หรือ12ปีบ้าง
    แต่ในทางโหรกลับมีแนวโน้มไปอีกทาง เพราะในดวงชะตาของคุณทักษิณขณะนั้นระหว่างรอบวันเกิดที่ 26กรกฎาคม2549-26กรกฎาคม 2550 ต้องฆาฎที่เรียกทางโหรว่า..นรโสโร..เข้าจังๆชนิดไม่มีเกณฑ์ลดโทษทุกข์ให้เป็นผลตามตำราว่าอาจเจ็บไข้ได้ป่วย พลัดพราก ตกจากตำแหน่ง หรือออกจากงาน
    เมื่อหลักโหรชัดเจนเป็นเช่นนี้ผู้เขียนซึ่งยังรับราชการอยู่จึงทำนายเขียนบทความชื่อเรื่อง ..นรโสโรกับดวงชะตาทักษิณ..ใช้นามแฝงว่า..บุญสุรา..ได้เผยแพร่เป็นรายงานพิเศษทางเอ๊กซไซด์ไทยโพสต์เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2549 จนมีคนตามหาเจ้าของนามแฝงกันวุ่นวาย ชนิดที่ถูกก่นวิจารณ์ซึ่งๆหน้าว่ามั่วเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าผู้เขียนที่เดินหาข่าวอยู่เป็นเจ้าของนามแฝง
    และแล้วในที่สุดหลักโหรก็ทำงานและพิสูจน์ผลออกมาชนิดเซียนการเมืองก็ทำได้ไม่ดีเท่าคือพันตำรวจโททักษิณ ถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แบบพลัดที่นาคาที่อยู่ขณะไปราชการที่สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกาจริงๆ
    แล้วอะไรคือฆาฎนรโสโร อธิบายตามหนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ ภาค1ของครูโหรอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรผู้ล่วงลับให้หลักว่า บุคคลที่ลัคนาหรือจุดเกิดสถิตราศีที่มีสัญลักษณ์เป็นคนเช่นราศีกันย์-หญิงสาวเฉกเช่นของคุณทักษิณ ปีใดพระเสาร์เป็นกาลกิณีจรตามหลักทักษาแล้วละก็รอบปีนั้นต้องระวังตัวให้มากเพราะต้องฆาฎจากพระเสาร์ที่เชื่อว่า นรโสโร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพระเสาร์จรมาทับลัคนา หรือตนุลัคน์(ตัวแทนลัคนา) หรือทับพระจันทร์ดวงเดิม(๒) หรือทับตนุจันทร์(เจ้าเรือนที่พระจันทร์สถิต)ด้วยแล้วละก็จะโชคร้ายขนาดหนักมีฝอยคำทำนายว่า
    …ท่านว่าชาตาฆาฎ ต้องอุบาทว์ร้ายนักหนา ทุกข์โศกโรคบีฑา ชีพชีวาอาจวอดวาย หรือไม่บุตรภรรยา ทรัพย์โภคาจะเสียหาย พรากพลัดจัดกระจาย ป่นปี้ร้ายไม่เป็นอัน…
    เมื่อเก้าปีที่แล้วพระเสาร์กาลกิณีจรทับพระพุธดวงเดิม(๔)ตัวแทนลัคนา และพระจันทร์ดวงเดิม(๒)ที่สถิตราศีกรกฎครบตามตำรา ผลคือเจ้าชะตาพลัดพราก ตกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องคดีความเป็นว่าเล่น
    มาคราวนี้ระหว่างรอบวันเกิดที่ 26 กรกฎาคม2558-26กรกฎาคม 2559พระเสาร์จรของคุณทักษินแปรมาเป็นกาลกิณีอีกรอบ กดดันดวงชะตาอย่างหนักให้เรื่องดีก็จะไม่เต็มที่ ส่วนเรื่องร้ายอาจจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
    1.กรอบเรื่องดีคือ พระเสาร์จรราศีพิจิกภพที่สามของดวงชะตาให้คุณส่งเกณฑ์ถึงราศีมังกรซึ่งเป็นภพที่ห้าหรือปุตตะที่พฤหัสบดี(๕)ของเจ้าชะตาสถิตอยู่มาตั้งแต่ประมาณ ปลายพฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมาผลคือเจ้าชะตาได้หลานแฝดจากลูกสาว รวมทั้งโชคจากการเสี่ยง ความรัก การเก็งกำไร การเป็นนายหน้า ติดต่อต่างๆ รถยนต์ บ้าน ที่ดิน เครื่องบิน ยวดยานต่างๆที่อยู่ในสภาพเสียอะไรไปจะได้กลับมา
    อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันเกิดปีนี้เป็นต้นไปเมื่อพระเสาร์กลายเป็นกาลกิณีจรระวังการพลิกผันจากเรื่องเหล่านี้ด้วย
    2.กรอบใหญ่ด้านร้ายจากพระเสาร์กาลกิณีจรวันเกิดปีนี้เป็นต้นไป ถึงพระเสาร์ดวงเดิม(๗)ที่สถิตราศีสิงห์ ระวังกรรมเก่าที่จะเกิดไม่คาดฝันตามโฉลก ..เสาร์ถึงสถิตเสาร์ปะทะกันและกันเอง โทษทุกข์แต่ปางเพรงก็จะก่อจะเกิดมี สิ่งสินระส่ายทรัพย์ ภยทับระทมทวี เกรงอายุชนชี-วพินาศประลัยตู…
    พระเสาร์กาลกิณีจรยังถึงพระศุกร์ดวงเดิม(๖)ที่สถิตราศีสิงห์ เป็นคู่ศัตรูใหญ่ ระวังโรคเก่ากำเริบหรือกรรมเก่าจะมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเงิน ทรัพย์สมบัติ ธุรกิจ ต่างประเทศ โจรภัย คนโกง ระวังการเดินทางใกล้ไกลที่เกี่ยวกับครรลองชีวิตจะเกิดเหตุ..เสาร์ถึงพระเคราะห์ศุกร์ ปะทะทุกข์พยาธิ์เยือน โรคร้ายและหลายเดือนก็จะกลับจะกลายเป็น โจรร้ายเขม้นมองอริปองจะทำเข็ญ อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง…
    3.แต่ส่วนดีจากพระเสาร์กาลกิณีจรคือไม่ถึงจุดตั้งรับสำคัญของดวงชะตาเหมือนรอบที่แล้ว ฉะนั้นทุกข์ภัยจากพระเสาร์กาลกิณีจรจะลดลงกึ่งหนึ่ง
    4.แต่แม้ด้านร้ายจากพระเสาร์กาลกิณีจรจะลดลงก็ตามก็กดดันเจ้าชะตาอยู่ทั้งรอบปีวันเกิด แถมระหว่างนั้นส่วนใหญ่ดวงชะตาโล่งมีที่ให้หลังพิงน้อยเพราะพระราหูจรตัวเบียนบ่อนทับลัคนาเล็งพระราหูดวงเดิม(๘)ที่ราศีมีนเป็นกรรมเก่าอีกคู่ รออยู่(ถึง16มกราคม 2559)
    อีกทั้งตั้งแต่ 11 กรกฎาคม 2558-7สิงหาคม 2559 พฤหัสบดีจรคุ้มครองดวงชะตาได้น้อยเนื่องจากจรเข้าภพวินาศน์ของดวงชะตาเป็นส่วนใหญ่
    สรุปคือครบรอบวันเกิดปีนี้-รอบวันเกิดปีหน้า คุณทักษิณพึงระมัดประหยัดกายอย่างหนักด้วยเรื่องต่างๆที่กล่าวมาแล้ว รวมทั้งภัยจากที่สูงที่อาจจะเกิดช่วงตุลาคมปีนี้โดยประมาณที่จะเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ในชีวิต
    ที้งนี้รวมทั้งบริวารคนรอบข้างทั้งหลาย สิ่งของเครื่องใช้ดำรงชีวิตฯลฯ
    ถ้าให้อ่านลึกลงไปสิ่งที่พอจะค้ำดวงชะตาได้บ้างคือกรรมดีจากโครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรคที่ท่านทำไว้ เพียงแต่จะแรงพอที่จะคานอำนาจกรรมเก่าด้านร้ายหลายประการที่รุมกระหน่ำได้หรือไม่เท่านั้น
    ฟองสนาน จามรจันทร์
    24 กรกฎาคม 2558
    ภาพผลงานในอดีต..ที่เก็บไว้นานจนปลวกเจาะบางส่วน
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้วันที่ 30 กรกฎาคม 255 8 เป็น วันอาสาฬหบูชา
    วันอาสาฬหบูชา
    ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๘

    [​IMG]

    ภาพจาก https://sites.google.com/a/petburi.go.th/vvgr/wan-xasalhbucha

    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้น ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม

    เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้นชมพูทวีปในสมัยโบราณ กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภททั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและ ข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียน ในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือเบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

    ใ จ ค ว า ม สำ คั ญ ข อ ง ป ฐ ม เ ท ศ น า
    ในการแสดงแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ ๒ ประการคือ

    ก. มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลาง ๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด ๒ อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ

    ๑. การหมกหมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่า เป็นการหลงเพลิดเพลินหมกหมุ่นในกามสุข หรือ กามสุขัลลิกานุโยค

    ๒. การสร้างความลำบากแก่ตนดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น การดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค

    ดังนั้นเพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ ๘ ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ ๘ ได้แก่

    ๑. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง
    ๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม
    ๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต
    ๔. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต
    ๕. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต
    ๖. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี
    ๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด
    ๘. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน

    ข. อริยสัจ ๔ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่

    ๑. ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด

    ๒. สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ

    ๓. นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา

    ๔. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห้งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ ประการดังกล่าวข้างต้น
    ผ ล จ า ก ก า ร แ ส ด ง ป ฐ ม เท ศ น า
    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

    ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง อ า ส า ฬ ห บู ช า
    “อาสาฬหบูชา” (อา-สาน-หะ-บู-ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา

    โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ

    ๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
    ๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา
    ๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์
    ๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว
    ๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า

    เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า วันพระสงฆ์ (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)

    พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด

    เรียบเรียงจาก ความรู้เกี่ยวกับวันสำคัญไทย (เสฐียรโกเศศ และ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ,๒๕๔๑ : ๓๙ - ๕๙)

    เนื่อหาจาก
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใจชื้น! ฝนฉ่ำทำน้ำไหลเข้า 2 เขื่อนใหญ่ภาคเหนือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง(ชมคลิป) โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 12:05 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กรกฎาคม 2558 14:24 น.)

    [​IMG]

    ตาก - ฝนตกต่อเนื่องทำให้มีน้ำใหม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของ 2 เขื่อนใหญ่ ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ต่อเนื่อง แต่ยังมีพื้นที่รับน้ำอีกมหาศาล

    วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มวลน้ำจากผืนป่าเหนือเขื่อนภูมิพลเริ่มไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนจำนวนมาก โดยเฉพาะลำห้วยแม่ตื่น ซึ่งรองรับน้ำป่าจากเทือกเขาถนนธงชัยที่มีฝนตกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดวานนี้มีน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลมากถึง 21.48 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 3,959 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29.41% ยังมีพื้นที่รองรับน้ำใหม่ 9,502 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำที่สามารถระบายได้ 159 ล้าน ลบ.ม. หรือ 1.65% โดยระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนวันละ 5 ล้าน ลบ.ม.

    ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำใหม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ 27.16 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำกักเก็บ 3,182 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 33.46% ยังมีพื้นที่รองรับน้ำใหม่ 6,327 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำที่สามารถระบายได้ 332 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 4.99% โดยระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 11 ล้าน ลบ.ม.


    http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085670
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฝ้าระวังเข้ม “แพแม่วางเชียงใหม่” รับมือน้ำป่าหลากซ้ำรอย มี.ค. 58 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2558 08:58 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กรกฎาคม 2558 09:34 น.)

    [​IMG]

    [​IMG]

    เชียงใหม่ - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบนดอยเชียงใหม่ตื่นตัวเตรียมพร้อมรับมือน้ำป่าหลากทะลัก สั่งผู้ประกอบการล่องแพแม่วางราว 30 รายลากแพชิดฝั่ง-รื้อเรือนแพริมน้ำออกหมด และเฝ้าจับตาระดับน้ำจากยอดดอยต่อเนื่อง ป้องกันเหตุซ้ำรอยน้ำป่าทะลักเหมือน มี.ค. 58

    วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกติดต่อกันทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่รอยต่อระหว่างแม่ฮ่องสอน-อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และตาก ทำให้หลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตภูเขาสูงในเชียงใหม่ตื่นตัวหาทางป้องกันเหตุน้ำป่าไหลหลากกันอย่างเต็มที่

    โดยที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด ที่ให้บริการแพริมน้ำ ช้าง ล่องแพ ซึ่งเคยประสบเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าทำลายแพจนพังเสียหายกว่าหลายสิบรายเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการนั่งแพล่องน้ำกันจำนวนมาก

    ล่าสุดนางเกศรินทร์ ตุ่นแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน อ.แม่วาง ได้เข้าตรวจสอบจุดเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากเพื่อวางแนวทางป้องกัน และได้ให้ผู้ประกอบการ เลื่อนแพที่ยื่นริมน้ำเข้าหาฝั่งให้มากที่สุด พร้อมทั้งยึดแพให้แข็งแรง ส่วนด้านแพริมน้ำฝั่งตรงข้ามให้รื้ออกจนหมดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งติดตามระดับน้ำตลอดหากมีน้ำป่าไหลหลากหรือฝนตกหนักพื้นที่บนดอยด้านบน ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะมาแจ้งเตือน-ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงล่องแพในน้ำทันที

    นางเกศรินทร์กล่าวว่า ผู้ประกอบการแพนั่งและล่องแพ รวมไปถึงนั่งช้างท่องธรรมชาติในพื้นที่ดูแล มีประมาณ 30 ราย อบต.เจ้าของพื้นที่ก็ได้วางมาตรการป้องกันเหตุน้ำป่าไหลหลากไว้ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้ติดตามระดับน้ำบนยอดดอยตลอดหากมีน้ำขึ้นสูงจะห้ามไม่ให้ล่องแพ หรือเล่นน้ำทันที เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง

    นอกจากนี้ ได้มีการดำเนินการให้ผู้ประกอบการแพทุกแห่งในพื้นที่เลื่อนแพริมน้ำเข้ามาในฝั่งด้านในให้มากที่สุด พร้อมทั้งทำระบบยึดรัดแพให้มั่นคง ส่วนด้านตรงกันข้ามให้รื้อแพออกจนหมดเพราะเห็นว่าอันตรายในช่วงน้ำหลากนี้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการอย่างดี


     

แชร์หน้านี้

Loading...