ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ : มีความพยายามที่จะทำลายการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์/ยุคแห่งชัยชนะได้มาถึงแล้ว Category: News & Event Published on Sunday, 26 July 2015 18:02 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอนได้ชี้ในพิธีสำเร็จการศึกษาของบรรดาลูกหลานชะฮีด ถึงความพยายามของไซออนิสต์และบางประเทศในอ่าวเปอร์เซียที่จะทำให้การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านประสบความล้มเหลว พร้อมกับกล่าวว่า : เราได้มาถึงช่วงเวลาแห่งชัยชนะแล้ว

    สำนักข่าว Mehr รายงงานโดยอ้างจากโทรทัศน์ Al-Manar ว่า ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ได้กล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาของบรรดาลูกหลานชะฮีด (ผู้สละชีพในทางของพระเจ้า) ว่า : วันนี้ลูกหลานของบรรดาชะฮีดจำนวนมากได้อยู่ในแนวหน้าของกองกำลังต้านทาน (มุกอวะมะฮ์)

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้กล่าวยกย่องครอบครัวของบรรดาชะฮีดพร้อมกับย้ำว่า : หากไม่มีบรรดาชะฮีดเหล่านี้ วันนี้เลบานอนก็จะไม่ได้รับความปลอดภัย ความมั่นคงและความสงบสุข

    เขาชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงของอิหร่านกับตะวันตก โดยกล่าวว่า : ความกังวลของภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ ก็คืออิหร่านภายหลังจากการบรรลุข้อตกลงและบทบาทของฮิซบุลลอฮ์

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ชี้ถึงกรณีที่รัฐบาลอเมริกากล่าวหาฮิซบุลลอฮ์ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย พร้อมกับกล่าวว่า : สิ่งนี้เป็นความภาคภูมิใจที่ใหญ่หลวงสำหรับเราที่เราได้ถูกตำหนิประณามโดยอเมริกา วอชิงตันจงรู้เถิดว่า ทั้งก่อนและหลังการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน (อเมริกา) นั้นคือซาตานตัวใหญ่

    เขาชี้ถึงการสนับสนุนทางการเงินและจิตวิญญาณของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านที่มีต่อฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน โดยกล่าวว่า : ฮิซบุลลอฮ์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านวัตถุและจิตวิญญาณจากสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอนชี้ให้เห็นว่า อเมริกาและอิสราเอลมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อบรรดานักเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจในเลบานอน พร้อมกับกล่าวว่า : เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเลบานอนที่จะต้องทำการปกป้องเศรษฐกิจของประเทศจากผลกระทบต่างๆ จากการคว่ำบาตรของอเมริกา

    อีกส่วนหนึ่งจากคำพูดของซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ข้อกล่าวหาบางประการที่มีต่อกองกำลังฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน โดยกล่าวว่า : บางเว็บไซต์ข่าวของอิสราเอลกำลังดำเนินภารกิจเฉพาะอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการการตั้งข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงต่อลูกหลานของฮิซบุลลอฮ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำลายชื่อเสียงของพวกเขา

    เขากล่าวเสริมว่า : ชาวไซออนิสต์กำลังหาทางที่จะ "ลอบสังหารจิตวิญญาณ" (การทำลายเกียรติ) ของแกนต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) และการแสดงการโต้ตอบพวกเขาในหนทางนี้จำเป็นต้องอาศัยความอดทนและการต่อสู้ (ญิฮาด)

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ชี้ถึงความพยายามของบางฝ่ายที่จะบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน โดยกล่าวว่า : บุคคลเหล่านี้ได้ดำเนินการดังกล่าวโดยมีเป้าหมายที่จะแสดงให้เห็นว่าชัยชนะต่างๆ ที่เด่นชัดของฮิซบุลลอฮ์ในอัลกอละมูน อัลกุซ็อยร์และอิรซาลนั้นไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด

    เขาเสริมว่า : คนกลุ่มนี้เนื่องจากมีความบาดหมางและความเป็นศัตรูต่อฮิซบุลลอฮ์อยู่ในหัวใจของพวกเขา พวกเขาจึงปฏิเสธแม้แต่ข้อเท็จจริงที่ชาวโลกทั้งมวลและศัตรูต่างก็ยอมรับมัน

    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ยังได้ชี้ถึงความพยายามของบางประเทศที่จะกีดขวางการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านกับตะวันตก โดยกล่าวว่า : อิสราเอลและบางประเทศในอ่าวเปอร์เซียมีความพยายามที่จะกีดขวางไม่ให้การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ดำเนินไปถึงจุดสูงสุดที่ควรจะเป็นของมัน


    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ย้ำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของฮิซบุลลอฮ์กับพันธมิตร หมายถึงอิหร่านและซีเรีย โดยกล่าวว่า : ความสัมพันธ์นี้จะดำเนินไปด้วยความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และความพยายามต่างๆ ที่จะสร้างความระแวงสงสัยในเรื่องนี้จะไม่บรรลุผล

    เขาได้กล่าวว่า : ความพยายามทั้งมวลที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ เพื่อที่จะทำลายภาพลักษณ์ของฮิซบุลลอฮ์นั้นได้ประสบกับความล้มเหลวแล้ว และหลังจากนี้ต่อไปก็จะเป็นเช่นนี้

    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ได้ชี้ถึงคำพูดของท่านอายะตุลลอฮ์คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านในคุฏบะฮ์ในนมาซอีดิลฟิฏรี่ โดยกล่าวว่า : อิมามคอเมเนอีได้อธิบายย้ำจุดยืนของอิหร่านที่มีต่ออเมริกาและต่อกลุ่มต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) ทั้งหลายอีกครั้งหนึ่งในถ้อยแถลงต่างๆ ของท่าน และเราก็ได้เห็นแล้วว่าฮิซบุลลอฮ์นั้นมีสถานะที่เป็นพิเศษ ณ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้กล่าวตรงไปยังบรรดาผู้สนับสนุนการก่อการร้ายในภูมิภาคว่า : วันนี้การก่อการร้ายได้หันหน้ามายังพวกท่านแล้ว พวกท่านกำลังจะได้รับผลตอบแทนจากการสนับสนุนต่างๆ ที่พวกท่านมีต่อกลุ่มตักฟีรีย์ทั้งหลาย

    เขากล่าวเสริมว่า : บรรดาศัตรูจงรู้เถิดว่า ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหรือการลอบสังหารบรรดาแกนนำของกองกำลังต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) หรือการลอบสังหารจิตวิญญาณ (ทำลายเกียรติ) ของกองกำลังต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) นั้น ก็ไม่อาจทำให้ฮิซบุลลอฮ์หยุดการดำเนินต่างๆ ในเส้นทางของตนได้เลย


    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ได้ชี้ถึงบทบาทของรัฐบาลแองการา (ตุรกี) ในการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์ "ดาอิช" (ISIS) โดยกล่าวว่า : ไม่เป็นที่สงสัยใดๆ เลยว่าตุรกีนั้นได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกลุ่มตักฟีรีย์ โดยการเปิดพรมแดนต่างๆ ของตนให้แก่กลุ่มตักฟีรีย์ "ดาอิช" (ISIS) เพื่อให้เข้าสู่ซีเรีย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ทางการเงินแก่พวกเขา ในขณะที่อะห์มัด ดาวูด อูฆลู (รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี) กำลังพูดถึงภัยคุกคามของกลุ่มดาอิช (ISIS)

    เขากล่าวต่ออีกว่า : บรรดาประเทศที่ส่งพวกป่าเถื่อนเข้าไปยังซีเรียเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของบัชชาร อัลอะซัดนั้น วันนี้พวกเขากำลังจะได้รับผลตอบแทนจากการดำเนินการของตนเองแล้ว

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้ชี้ถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงและการเมืองของเลบานอน และกล่าวว่า : การรักษาเสถียรภาพของดุลอำนาจของ "กองทัพประชาชนและกองกำลังต้านทาน" จะช่วยรักษาเลบานอนจากอันตรายทั้งมวลได้

    เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ยังได้ย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความเข้าใจและการบรรลุข้อตกลงระหว่างกลุ่มทั้งหลายในเลบานอนในกิจการต่างๆ ของประเทศ พร้อมกับกล่าวว่า : หากความเข้าใจต่อกันในระหว่างกลุ่มต่างๆ ของเลบานอนไม่บังเกิดขึ้นแล้ว เมื่อนั้นเอกภาพและความสามัคคีก็จะไม่เกิดขึ้น และประเทศก็จะถูกทำลาย

    เขาได้อธิบายว่า การเจรจาเป็นวิธีเดียวที่จะแก้บางปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ในเลบานอน พร้อมกับกล่าวว่า : การข่มขู่นายกรัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งนั้นจะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในประเทศได้เลย

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า : ช่วงเวลาของความพ่ายแพ้นั้นหมดลงแล้ว และบัดนี้เรากำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการบรรลุสู่ชัยชนะต่างๆ ที่มีคุณค่า

    ที่มา : mehrnews

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ : มีความพยายามที่จะทำลายการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์/ยุคแห่งชัยชนะ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองกำลังของซาอุดีอาระเบีย เข้าสู่ดินแดนเยเมน Category: News & Event Published on Saturday, 25 July 2015 12:06 Written by Islamicstudiesth Team. Hits:

    [​IMG]

    สื่อตะวันตกได้รายงานเกี่ยวกับการเข้าสู่ดินแดนเยเมนของทหารซาอุดีอาระเบียโดยมีเป้าหมายที่เปิดสนามบินเอเดน

    สำนักข่าว Mehr รายงานโดยอ้างจากรอยเตอร์ว่า : เนื่องจากความสำคัญของเมืองเอเดนในเยเมน ซาอุดีอาระเบียจึงส่งกองกำลังทหารของตนเข้ามาในประเทศนี้ เพิ่อเปิดสนามบินของเมืองเอเดน

    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดการต่อสู้ที่หนักหน่วงในเมืองเอเดนระหว่างประชาชนผู้ปฏิวัติของเยเมนกับกองกำลังที่จงรักภักดีต่อมันซูร ฮาดี ประธานาธิบดีผู้หลี้ภัยของเยเมนและบรรดาเครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบียก็ได้ทำการทิ้งระเบิดเมืองเอเดนเพื่อเป้าหมายในการช่วยเหลือกองกำลังที่สนับสนุนมันซูร ฮาดี

    เหตุผลที่ซาอุดิอาระเบียยืนกรานที่จะเข้าควบคุมสนามบินเอเดนนั้น ก็เนื่องจากว่าหากปราศจากการครอบครองสนามบินแห่งนี้แล้วโอกาสที่จะปฏิบัติการทางภาคพื้นดินโดยทหารของซาอุดิอาระเบียก็จะเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

    ที่มา : mehrnews

    กองกำลังของซาอุดีอาระเบีย เข้าสู่ดินแดนเยเมน
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวมุสลิมหลายพันคนชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตซาอุฯ ในกรุงวอชิงตัน + ภาพ
    Category: News & Event Published on Saturday, 25 July 2015 21:56 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวตัสนีมในกรุงวอชิงตันรายงานว่า : เมื่อวานนี้ (วันศุกร์ 24/7/58) ชาวมุสลิมที่พำนักอยู่ในภาคเหนือและภาคกลางของอเมริกาจำนวนหลายพันคนได้ไปชุมนุมกันที่สนามวอเตอร์เกทในกรุงวอชิงตัน และได้ตะโกนประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาอุดิอาระเบียที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายของของรัฐบาลนี้

    ผู้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงนี้ได้ชูแผ่นป้ายที่เขียนสโลแกนต่างๆ ด้วยข้อความว่า "ลัทธิวะฮ์ฮาบีก็เหมือนกับกลุ่มดาอิช (ISIS) ที่กำลังทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของชาวมุสลิมและชาวคริสต์" ,"อย่าทำลายอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์" พร้อมกับเดินขบวนจากสนามวอเตอร์เกทในกรุงวอชิงตันไปยังสถานทูตซาอุดิอาระเบีย

    นอกจากนี้ผู้ชุมนุมประท้วงยังได้ตะโกนสโลแกนในระหว่างเส้นทางการชุมนุมประท้วงของตนในการต่อต้านบรรดาผู้นำของซาอุดีอาระเบียว่า "ผู้ก่อการร้าย ผู้ก่อการร้าย"

    หลังจากที่ขบวนของผู้ชุมนุมประท้วงนี้ได้ไปถึงบริเวณด้านหน้าของสถานทูตซาอุฯ ในกรุงวอชิงตันแล้ว ฮุจญะตุลอิสลามเชคอับดุลญาลีล อิมามของมัสยิดญะอ์ฟะรีย์ในแมรี่แลนด์ ได้ทำการปราศรัยเป็นคนแรก เขาได้กล่าวในคำปราศรัยส่วนหนึ่งของตนว่า : "บรรดาวีรบุรุษและผู้เป็นตำนานของอิสลามและบรรดาอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้ถูกฝังร่างลงในสุสานบะกีอ์ (ในนครมะดีนะฮ์) เราไม่สมควรที่จะภาคภูมิใจต่อวีรบุรุษและผู้เป็นตำนานของตนกระนั้นหรือ? และเราไม่สมควรที่จะให้ความเคารพให้เกียรติต่อพวกเขากระนั้นหรือ? พวกเขาเหล่านั้นได้เสียสละชีวิตของพวกเขาเพื่อเรา เราไม่สมควรที่จะให้เคารพต่อพวกเขากระนั้นหรือ?

    เขาได้กล่าวเสริมต่อไปอีกว่า พวกท่านลองพิจารณาดูคิงส์อับดุลลอฮ์ อดีตกษัตริย์ของซาอุดิอาราเบียที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ซึ่งชาวซาอุฯ ได้มารวมตัว ณ หลุมศพของเขาและวิงวอนขอดุอาอ์ให้แก่เขา แล้วเราไม่ควรที่จะวิงวอนขอดุอาอ์ให้แก่บรรดามหาบุรุษและอิมามของพวกเรากระนั้นหรือ? ในกรณีนี้ดูเหมือนว่าการวิงวอนขอดุอาอ์ให้แก่บรรดาผู้นำของประเทศซาอุฯ ไม่มีปัญหา แต่การขอดุอาอ์ให้กับลูกหลานของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และการอ่านฟาติหะฮ์ให้แก่ท่านเหล่านั้นกลับมีปัญหากระนั้นหรือ? เรามารวมตัวกันที่นี่เพื่อจะบอกให้โลกรู้ว่า ถ้าหากจะแกะรอยหาผู้ก่อการร้ายแล้วจำเป็นต้องค้นหาในราชวงศ์ซะอูด ต้นตอและรากเง้าของการก่อการร้ายในตะวันออกกลาง ในอิรักและซีเรียนั้นก็คือ ราชวงศ์ซะอูด

    หนึ่งในผู้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ซึ่งเดินทางจากชิคาโกมายังกรุงวอชิงตันดีในการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวต่างประเทศของตัสนีมได้กล่าวว่า : เรามาที่นี่เพื่อที่จะทำให้โลกได้รับรู้ถึงอาชญากรรมต่างๆ ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียและเราต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชนอเมริกันได้เข้าใจในประเด็นนี้ที่ว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียนั้นนอกจากจะไม่ได้เป็นตัวแทนของอิสลามแล้วยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) และอยู่เบื้องหลังความรุนแรง และความสุดโต่งอีกด้วย พวกเขาใช้อิสลามเป็นตัวประกันและยึดครองอนุสรณ์สถานต่างๆ ของอิสลามไว้ในมืออย่างไร้ความชอบธรรม และจากกรณีที่รัฐบาลซาอุฯ ผู้เป็นอาชญากรนี้ไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับกลิ่นไอของอิสลามที่เที่ยงแท้ พวกเขาจึงได้หันมาทำลายอนุสรณ์สถาน และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของอิสลามเหล่านี้ กล่าวคือ การกระทำเดียวกันกับกลุ่มดาอิช (ISIS) ที่กำลังทำลายอนุสรณ์สถานต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ในประเทศอิรักและซีเรียขณะนี้ ดังนั้นพวกท่านจงตัดสินดูเอาเอง

    ที่มา : tasnimnews

    ชาวมุสลิมหลายพันคนชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตซาอุฯ ในกรุงวอชิงตัน + ภาพ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯ ลำพูนสั่งจับตา รง.โละคนงาน สาวฉันทนาครวญได้แต่ภาวนาให้ ศก.ฟื้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2558 07:34 น. (แก้ไขล่าสุด 28 กรกฎาคม 2558 10:00 น.)

    [​IMG]

    ลำพูน - ผู้ว่าฯ เมืองเจ้าแม่จามเทวีสั่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลเยียวยา พร้อมจับตาโรงงานในนิคมภาคเหนือฯ ทยอยเลิกจ้าง-ลดวันทำงาน หนีเศรษฐกิจทรุด ออเดอร์หายแล้วถึง 4 ราย ขณะที่สาวฉันทนาครวญหนักยังหาทางออกไม่เจอ จบ ปวช.มาทำงานไม่ถึงปีโดนเลิกจ้าง ได้แต่ภาวนาให้เศรษฐกิจฟื้น

    นายณรงค์อ่อน สะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตนกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเยียวยาแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือลดเวลาการทำงาน ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 75 ต้องให้ทั่วถึง หลังมีโรงงานในนิคมฯ ลำพูนบางแห่งเลิกจ้างคนงาน

    ซึ่งภาพรวมโรงงานทั้งหมดกว่า 1,400 แห่งมีการจ้างคนงานกว่า 6 หมื่นคน เลิกจ้างเพียง 4 แห่ง ถือว่ายังน้อย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเลิกจ้างยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ก็ได้เฝ้าติดตามตลอด

    ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวในระยะที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในนิคมฯ ลำพูน 4 แห่งทยอยเลิกจ้างพนักงาน บางส่วนขอใช้กฎหมายตามมาตรา 75 คุ้มครอง ให้พนักงานหยุดงานอยู่บ้าน โดยจ่ายค่าจ้าง 75% บางแห่งลดวันทำงานจากเดิม 6 วันเหลือ 3 วัน บางแห่งให้พนักงานสมัครใจลาออกเอง บางแห่งเตรียมย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน

    ซึ่งบริษัท โฮย่า กลาสดิสต์ (ประเทศไทย) ซึ่งผลิตกล้อง และฮาร์ดดิสก์ ของกลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่น มีพนักงานรวม 4,400 คน เริ่มใช้มาตรา 75 ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.-31 ก.ค. 58 ให้พนักงานฝ่ายผลิตหยุดงาน 400 คน โดยจ่ายค่าจ้าง 75%, บริษัท ทีเอสพีที, บริษัท เคอีซี และบริษัทลำพูนซิงเดนเก้นท์ เป็นต้น ส่วนโรงงานอื่นๆ ยังคงปกติ

    ด้านนางสาวชุลีพร แก้วมา อายุ 21 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดเชียงราย หนึ่งในพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง กล่าวว่า ตนเรียนจบในระดับ ปวช.จากบ้านเกิด มาทำงานเป็นสาวโรงงานได้ยังไม่ถึงปีก็มาถูกเลิกจ้างอีก ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไหนจะค่าผ่อนรถ ค่ากิน ค่าเช่าหอพัก ไหนจะต้องส่งให้ครอบครัวที่บ้านอีก ก็ได้แต่ภาวนาให้เศรษฐกิจกลับมาดีเร็วๆ ฝากถึงผู้บริหารบ้านเมืองด้วยพวกตนกำลังจะแย่



     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Newsmania

    [​IMG]

    กรุงปักกิ่งติดตั้งตู้ให้อาหารสุนัขและแมวจรจัด เพียงแค่ใส่ขวดพลาสติกลงไปในตู้ก็จะมีอาหารไหลออกมา ได้บุญ ได้รักษ์โลกในคราวเดียวกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    เตือนแอนดรอยด์มีช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เจาะผ่านเอ็มเอ็มเอส
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/07/28 10:23 AM

    ซานฟรานซิสโก 28 ก.ค.- บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า แอนดรอยด์ ระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดในโลกมีข้อบกพร่องที่เปิดช่องให้นักเจาะระบบหรือแฮกเกอร์เจาะผ่านข้อความมัลติมีเดีย (เอ็มเอ็มเอส) ได้

    ซิมเพอเรียมโมบายล์ซีเคียวริตีเตือนในบล็อกว่า เพียงแค่มีหมายเลขโทรศัพท์ของเป้าหมาย แฮกเกอร์ก็สามารถเข้ารหัสระยะไกลผ่านไฟล์สื่อพิเศษที่ส่งผ่านเอ็มเอ็มเอส แล้วลบเอ็มเอ็มเอสนั้นเองโดยที่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ทันได้เปิดดูแต่จะได้รับเพียงข้อความแจ้งเตือนเท่านั้น ช่องโหว่หลักอยู่ที่รหัส Stagefright เป็นกลไกในแอนดรอยด์ที่ดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอแนบมากับเอ็มเอ็มเอสโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอดูคลิป เปิดช่องให้แฮกเกอร์ซ่อนรหัสประสงค์ร้ายมากับไฟล์วิดีโอแล้วเจาะระบบผ่านการควบคุมระยะไกลแม้เจ้าของโทรศัพท์ไม่ได้เปิดดูไฟล์นั้นเลยก็ตาม

    ซิมเพอเรียมระบุว่า Stagefright เป็นข้อบกพร่องเลวร้ายที่สุดของแอนดรอยด์เท่าที่พบจนถึงขณะนี้ และเป็นอันตรายมากเพราะเปิดช่องให้แฮกเกอร์ทำงานโดยไม่ต้องหลอกล่อให้เหยื่อทำอะไรเลย รหัสประสงค์ร้ายจะเข้ายึดสมาร์ทโฟนและขโมยข้อมูลทั้งหมดโดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว กลไกนี้มีอยู่ในสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ราวร้อยละ 95 หรือประมาณ 950 ล้านครื่อง กูเกิล ซึ่งเป็นเจ้าของแอนดรอยด์ได้ดำเนินการอุดช่องโหว่แล้วภายใน 48 ชั่วโมง แต่ปัญหาอยู่ที่การอัพเดทเครื่องเพราะเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหรือผู้ให้บริการ ไม่ใช่กูเกิล.-สำนักข่าวไทย

    http://www.tnamcot.com/content/244678
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บีบีซีไทย - BBC Thai
    ผู้นำซีเรียยอมรับประเทศกำลังขาดแคลนทหาร หลังทำสงครามเข้าปีที่ 5

    [​IMG]

    นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียกล่าวว่ากองทัพซีเรียมีกำลังพลไม่พอในการปกป้องดูแลประเทศทั้งประเทศ ทำให้ต้องละทิ้งพื้นที่บางแห่ง เพื่อจะได้ไปควบคุมพื้นที่ส่วนอื่นในประเทศที่สำคัญกว่า ในการออกอากาศสดทางโทรทัศน์ ผู้นำซีเรียบอกว่าซีเรียมีกองทัพที่มีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้กำลังขาดแคลนกำลังพลในการสู้รบกับกลุ่มกบฏที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธจากนอกประเทศ ผู้สื่อข่าวบอกว่าผู้นำซีเรียหมายถึงซาอุดีอาระเบีย ตุรกีและกาตาร์

    ผู้นำซีเรียยังบอกด้วยว่า มั่นใจว่าจะสามารถปกป้องดูแลเมืองสำคัญในประเทศไว้ได้ พร้อมยืนยันว่าจะสู้ต่อไป โดยในขณะนี้ไม่มีแผนที่จะเจรจากับกลุ่มกบฏ เขาบอกว่า “คำว่าแพ้ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของกองทัพซีเรีย” และกองทัพซีเรียจะยืนหยัดต่อสู้ จนกว่าจะชนะ

    เมื่อวันเสาร์ผู้นำซีเรียได้ออกนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่เลี่ยงหรือหลบหนีการเป็นทหาร และเมื่อต้นเดือนนี้กองทัพซีเรียเริ่มเกณฑ์ทหารอีกรอบ กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียชี้ว่ามีผู้หนีหรือเลี่ยงการเป็นทหารในซีเรียราว 70,000 คน

    สงครามกลางเมืองในซีเรียระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายกบฏ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว และขณะนี้รัฐบาลไม่ได้ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศไว้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าสงครามนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 230,000 ราย และมีผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝันที่เป็นจริง รถเข็นขายอาหารพลังงานแสงอาทิตย์ เตรียมให้บริการทั่วเมืองนิวยอร์ก โดย Energy Saving วันที่ 14 พฤษภาคม 2558

    [​IMG]

    อีกความพยายามหนึ่งของสภาเทศบาลเมืองนิวยอร์กที่ต้องการลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมจากพลังงานที่ใช้ในการทำอาหาร ให้มาเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะอาด เพิ่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนเมืองและสร้างอาชีพให้ผู้พิการ

    [​IMG]

    “MOVE Systems” โครงการรถเข็นขายอาหารพลังงานแสงอาทิตย์ เตรียมให้บริการทั่วเมืองนิวยอร์กจำนวน 500 คันด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้ขายอาหารข้างถนนรอบเมือง ให้เปลี่ยนการใช้พลังงานจากโพรเพนเพื่อการทำอาหารไปเป็นพลังงานที่สะอาดจากแสงอาทิตย์

    ทั้งนี้ในปัจจุบัน รถเข็นขายอาหารทั่วเมืองนิวยอร์กกว่า 8,000 คันนั้นใช้พลังงานจากโพรเพนในการทำอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดการเผ้าไหม้ที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ทางสภาเทศบาลนิวยอร์ก จึงได้นำเอารถเข็นลูกผสมรุ่น “MRV100” มาติดตั้งเข้ากับพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมแบตเตอรี่ไว้ชาร์จ รวมเข้ากับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดและตัวเชื่อมเข้ากับเชื้อเพลิงทางเลือก

    โดยโครงการ”MOVE Systems” มีจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนรถเข็นที่ทำอาหารด้วยถังโพรเพนมาเป็นรถเข็นระบบพลังงานไฮบริดของทางสภาเทศบาล เนื่องจากรถเข็นรุ่นนี้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ถึงร้อยละ 60 และลดหมอกควันที่ก่อให้เกิดมลพิษได้ร้อยละ 95 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเปรียบได้กับการลดการใช้รถยนต์บนท้องถนนได้ประมาณ 200 คัน และนอกจากจะเป็นโครงการเพื่อการสนับสุนผู้ประกอบการขายอาหารข้างถนน รถเข็นพลังงานสะอาดจำนวน 100 คันจะถูกสงวนไว้ให้กับทหารผ่านศึกที่พิการและผู้พิการได้นำไปประกอบอาชีพ

    ที่มาและภาพประกอบ Inhabitat | Design For a Better World!
    แปลและเรียบเรียงบทความโดย Copyright Energy Saving Media


    ----------------------------------------------------------
    ข้อตกลงการเผยแพร่เนื้อหา:
    บทความทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Energy Saving (นอกจากมีการระบุไว้) อนุญาตให้เผยแพร่ในกรณีที่ระบุ URL ชัดเจนว่ามาจากEnergy Saving Media เท่านั้น ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า และห้ามดัดแปลงแก้ไขใดๆ หากพบการละเมิดจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ในขั้นตอนต่อไป

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ไพศาล"โวย โอนที่ดินร.ฟ.ท.ขัดพระราชประสงค์ร.5 ซัดแหลก "มักกะสัน"เหลือ7หมื่นล.ได้ไง วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14:47:45 น.

    [​IMG]

    วันที่ 27 ก.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกรรมการผู้ช่วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นถึง
    แผนการนำที่ดินมักกะสันจำนวน 497 ไร่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไปให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังเช่านำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยเบื้องต้น ราคาประเมินที่ดิน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวกำหนดมูลหนี้ จะอยู่ระหว่าง 6-7 หมื่นล้านบาท

    ทั้งนี้ แผนดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่สะสมมานานของ ร.ฟ.ท. โดยปัจจุบันภาระหนี้สินของ ร.ฟ.ท. มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท

    นายไพศาล ระบุว่า ต้องขอความเป็นธรรมให้การรถไฟ การรถไฟได้รับพระราชทานที่ดินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เพื่อให้นำมาใช้ในกิจการของรถไฟส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อใช้เชิงพาณิชย์ จะได้มีรายได้มาบำรุงรถไฟเพื่อทำให้ค่าโดยสารรถไฟถูกลง ราษฎรจะได้ใช้บริการรถไฟด้วยราคาถูก

    ดังนั้น การที่จะเอาที่ดินการรถไฟแปลงมักกะสัน 497 ไร่ ไปโอนให้หน่วยงานอื่นจึงไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์และพระราชประสงค์ ในการพระราชทานที่ดินให้กับการรถไฟ

    คนไทยจึงต้องช่วยกันพิทักษ์รักษาพระราชมรดกชิ้นนี้ให้เป็นของการรถไฟไว้ตลอดไปและการรถไฟก็สามารถนำที่ดินแปลงนี้ออกบริหารจัดการแสวงหาประโยชน์ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์เองก็ได้เรื่องอะไรต้องไปโอนให้กับหน่วยงานอื่น

    และถ้าบริหารจัดการเป็นด้วยความสัตย์สุจริตรถไฟสามารถหาประโยชน์จากที่ดินแปลงนี้ไม่น้อยกว่า3แสนล้านบาทโดยที่ยังเป็นเจ้าของที่ดินด้วย

    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่น้อง ในยุครัฐบาลนักการเมือง ยังตั้งราคาที่ดินรถไฟที่มักกะสัน 497 ไร่ถึง 1 แสนล้านบาท มาตอนนี้ ราคาแกว่งขึ้นลง ยิ่งกว่าราคาหุ้นในตลาด

    ตอนแรกตั้งราคา 7 หมื่นล้านบาท ต่อมาเห็นประชาชนนิ่งเฉยก็ตีราคาลดเหลือ 5 หมื่นล้านบาท เห็นประชาชนนิ่งอีกก็กดราคาเหลือ 3 หมื่นล้านบาท จึงถูกโวยวายว่าทำอะไรกัน จึงปรับราคาขึ้นไปเป็น 5 หมื่นล้านบาท ต่อมา นายกฯตู่สั่งให้ตีราคาใหม่ ตอนนี้ก็ขยับราคาไปที่ 7 หมื่นล้านบาท

    ราคาเช่าที่ดินรถไฟพหลโยธิน 34 ไร่ 30 ปี รถไฟยังได้ 30,000 ล้านบาท ที่มักกะสันราคาสูงกว่าเยอะ ทำไมเนื้อที่ 497 ไร่ 99 ปี จึงเหลือเพียง 70,000 ล้าน

    มันเกิดอะไรขึ้น ! ทำไมต้องโอนที่รถไฟไปให้ไอ้โม่งที่ไหนเช่าแบบนี้ เราทั้งผองต้องร่วมใจกันรักษาพระราชมรดกพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 นี้ไว้ให้กับการรถไฟตลอดไปครับ

    พี่น้องสามารถเข้าใจแผนการ โอนที่ดินรถไฟได้ดีขึ้น ถ้าหากได้ทราบและเข้าใจกระบวนการหาประโยชน์กับ "ศูนย์ราชการ" อย่าคิดว่าศูนย์ราชการเป็นของหลวงนะครับ ศูนย์ราชการบริหารจัดการโดยกองทุน ซึ่งหลวงถือหุ้นข้างน้อย นักธุรกิจการเมืองถือหุ้นข้างมาก ได้สิทธิประโยชน์ในการใช้ที่ดินหลวงเกือบจะฟรีๆ ได้สิทธิประโยชน์ในการกำหนดให้ส่วนราชการ ต้องมาเช่าใช้พื้นที่

    ลงทุนโดยกองทุน 2 หมื่นล้านบาท แต่ได้ประโยชน์จากค่าเช่าจากรัฐบาลถึง 9 หมื่นล้านบาท นักธุรกิจนักการเมืองถึงรวยกันเปรม แต่รัฐบาลจะต้องแบกรายจ่ายถึง 9 หมื่นล้านบาท ของดีอย่างนี้ทำไมไม่ทำเอง ทำไมจึงไปทำเป็นกองทุนแบบนี้เพื่อประโยชน์ ให้กับใคร

    สังเกตสิครับว่า จะโอนที่รถไฟ ให้กระทรวงการคลังอ้างว่าชำระหนี้ แต่ทำไมมากำหนดวิธีบริหารจัดการเสียตั้งแต่ตอนนี้

    นี่มิไม่ใช่กระบวนการมัดมือชกรัฐบาลแบบม้วนเดียวจบดอกหรือประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยศูนย์ราชการนะครับ

    คำนวณเล่นๆก็ได้ลงทุนศูนย์ราชการ2 หมื่นล้านเอาค่าเช่าจากรัฐบาล 9 หมื่นล้าน มาถึงที่รถไฟ 497 ไร่ จะให้ราคา 7 หมื่นล้าน ค่าเช่าเท่าไหร่ละครับ มันจะไม่ถึง 5-7แสนล้านดอกหรือ
    ต้องช่วยกันแล้วล่ะครับงานนี้

    "ไพศาล"โวย โอนที่ดินร.ฟ.ท.ขัดพระราชประสงค์ร.5 ซัดแหลก "มักกะสัน"เหลือ7หมื่นล.ได้ไง : มติชนออนไ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บีบีซีไทย - BBC Thai

    [​IMG]

    สหรัฐฯคงไทยไว้ที่อันดับต่ำสุดในความพยายามแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ อยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 ต่อเนื่องสองปีซ้อน แม้จะพยายามแต่ยังไม่มากพอ ที่สำคัญการจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่สงสัยว่ามีเอี่ยวยังถือว่าน้อยไป
    รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2557 ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯที่ออกมาวันจันทร์ที่ 27 กค. ไม่ได้ปรับสถานะของไทยให้ดีขึ้นจากปีที่แล้วแต่อย่างใด ไทยยังคงมีชื่อในบัญชีกลุ่มที่ 3 ซึ่งมีความหมายว่า การดูแลปัญหาของไทยในเรื่องการค้ามนุษย์อยู่ในกลุ่มประเทศที่รั้งท้าย
    บัญชีกลุ่มที่ 3 ตามรายงานของสหรัฐหมายถึง “ประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐอเมริกาและไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหา”
    รายงานระบุปัญหาของไทยในฐานะที่เป็น “ต้นทาง ปลายทาง และเป็นทางผ่านสำหรับการค้าผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กเพื่อการบังคับใช้แรงงานและการบังคับค้าประเวณี “ มีเหยื่อจากเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆที่เข้ามาหางานทำ รายงานระบุว่า แรงงานต่างด้าว ชนกลุ่มน้อยและคนไร้่สัญชาติเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่สุดในการที่จะตกเป็นเหยื่อของการลักลอบค้ามนุษย์ ขณะที่เหยื่อชาวไทยมักตกเป็นเหยื่อของการค้าเพื่อประเวณี
    ในรายงานยาวเหยียดที่สามารถอ่านได้จากเวบไซต์ของสถานทูตสหรัฐนั้น ได้ระบุรายละเอียดจากข้อมูลหลายแหล่งกล่าวถึงปัญหาการบังคับใช้แรงงานและความเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ และการที่แรงงานจำนวนมากถูกปฏิบัติต่ออย่างทารุณ ที่สำคัญคือระบุรายละเอียดของความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะในกรณีของโรฮิงญา รายงานระบุถึงความพยายามของไทยที่ดีขึ้นบ้างเช่นในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล แต่ว่าเมื่อเทียบกับระดับของปัญหายังถือว่าไม่มากพอ การทุจริตในทุกระดับเป็นอุปสรรค
    “รัฐบาลทำงานล้มเหลวอย่างเป็นระบบทั้งในการสืบสวน ดำเนินคดีและพิพากษาเจ้าของเรือประมงและไต้ก๋งที่บังคับใช้แรงงานจากแรงงานอพยพ หรือเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมเหล่านี้ รัฐบาลได้พิพากษานายหน้าจัดหาแรงงานเพียง 2 รายว่ากระทำผิดฐานอำนวยความสะดวกในการบังคับใช้แรงงานในเรือประมง รัฐบาลแสดงความพยายามไม่เพียงพอในการหาเหยื่อการค้ามนุษย์จากบรรดาแรงงานอพยพที่ยังคงมีความเสี่ยงถูกลงโทษฐานละเมิดกฎหมายเข้าเมือง” เป็นข้อความส่วนหนึ่งของรายงาน
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน รัฐบาลไทยได้สอบสวนและดำเนินคดีคนจำนวนมากถึง 72 คน ในจำนวนนี้รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ 15 คนในฐานะที่ต้องสงสัยว่าพัวพันการค้ามนุษย์ แต่รอยเตอร์รายงานว่า ความพยายามของไทยยังไม่เร็วพอที่จะถูกนับรวมเข้าไปในการจัดทำรายงานประจำปีซึ่งใช้ข้อมูลแค่เดือนมี.ค.เท่านั้น ในขณะที่การดำเนินมาตรการใหม่ของไทยเกิดขึ้นเดือน พ.ค.และมิ.ย.
    รอยเตอร์รายงานว่าการที่ไทยไม่ได้สอบสวนและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่น่าสงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับปัญหานี้เป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้สถานะของไทยยังอยู่ที่เดิม ความพยายามในการสอบสวนและลงโทษของปีที่แล้ว มีน้อยยิ่งกว่าในปีก่อนหน้านั้น รอยเตอร์อ้างพล.ต.อ.เอก อังสนันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันอาทิตย์ว่า การติดตามเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย หลักฐานที่ได้จะต้องแน่นหนามากๆจึงจะทำได้ รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า การปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยที่ผ่านมา เจอปัญหาจากภายใน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานด้านนี้ยอมรับเองว่า ในแวดวงเจ้าหน้าที่ด้วยกันมีความเฉื่อยเนือยในเรื่องของการเก็บหลักฐาน และสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นแม้ว่ารัฐบาลคสช.ประกาศจะเอาจริงกับปัญหาการค้ามนุษย์และหลังจากที่สหรัฐฯลดอันดับความพยายามของไทยปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการจับกุมผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 72 คนแต่ยังมีเสียงเตือนว่า เครือข่ายลักลอบค้ามนุษย์ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บีบีซีไทย - BBC Thai

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีไต้หวันหนักใจ ความสัมพันธ์กับจีนไม่คืบหน้า
    ผู้นำสองฝ่ายไม่ได้พบกันแม้ว่าไต้หวันบอกว่าจะพยายามแล้วก็ตาม นอกจากนั้นการจำลองการซ้อมรบของจีนหลังสุดยังทำให้ไต้หวันสะดุ้ง เพราะภาพอาคารที่ใช้คล้ายกับทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน
    แคร์รี เกรซี บรรณาธิการฝ่ายกิจการจีนของบีบีซี ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ประธานาธิบดีหม่า อิง จิ่วของไต้หวันเมื่อไม่กี่วันก่อน และได้รับทราบถึงความไม่สบายใจของเขาเกี่ยวกับท่าทีของจีนต่อไต้หวัน
    จีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตนและขู่ว่าหากไต้หวันใช้กำลังทหารแยกตัวออกเป็นเอกราชเมื่อใดจีนก็จะตอบโต้ทันที
    “จีนแผ่นดินใหญ่อยู่ห่างจากไต้หวันแค่ 100 ไมล์ทะเล (185 ก.ม.) สำหรับเรามันจึงมีทั้งความเสี่ยงและโอกาส ผู้นำไต้หวันทุกคนจึงพยายามลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาส ผมเองก็ทำอย่างนั้นมาเจ็ดปีแล้ว” นายหม่าบอก
    ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาจีนพลิกโฉมตัวเองกลายเป็นมหาอำนาจโลกทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการค้ากับไต้หวันก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันสินค้าส่งออกปริมาณสองในห้าส่วนของไต้หวันมุ่งไปที่จีน ขณะเดียวกันเมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวไต้หวันถึงเกือบ 4,000,000 คน
    แต่ในความรู้สึกของประธานาธิบดีหม่า ความก้าวหน้าทางการเมืองของจีนยังเอาแน่อะไรไม่ได้ มีอาการขึ้นๆลงๆ และจีนยังมีการคุกคามนักสิทธิมนุษยชน ในขณะที่ไต้หวันเคารพหลักการเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม
    เขาบอกว่าตลอดช่วงสองสมัยที่เขานั่งอยู่ในตำแหน่ง เขาได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีน แต่ไม่มีผู้นำจีนคนไหนยอมพบปะหารือกับเขาเป็นการส่วนตัวแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะในช่วงสองปีก่อนจะถึงการประชุมสุดยอดเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเขาหวังอีกว่าจะมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับผู้นำจีน เพราะการพูดคุยระหว่างผู้นำน่าจะเป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้คุย ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาเชื่อว่าคนทางฝั่งจีนที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้มีอยู่คนเดียวคือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
    ในด้านกลาโหม นายหม่าบอกว่าจีนทุ่มงบด้านนี้ถึงปีละเกือบ 20% ของงบประมาณแผ่นดิน จึงเป็นเรื่องยากที่ไต้หวันจะไปแข่งกับจีนได้
    “ดังนั้น ในการป้องกันตนเองเราจึงยึดหลักว่าเราน่าจะสร้างบรรยากาศที่แต่ละฝ่ายไม่อยากเปลี่ยนดุลความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่แต่ฝ่ายเดียวหรือโดยวิธีที่ไม่สันติ เพราะกลัวว่าฝ่ายตนอาจจะต้องชดใช้การกระทำอันนั้น” เขาบอก
    อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีคลิปวิดีโอแสดงการซ้อมรบของทหารกองทัพปลดแอกประชาชนจีนเผยแพร่ออกมาคลิปหนึ่ง เป็นการซ้อมโจมตีอาคารกลางเมืองหลังหนึ่ง ซึ่งดูคล้ายการจำลองอาคารทำเนียบประธานาธิบดีในไต้หวัน เรื่องนี้ทำให้คนในรัฐบาลของนายหม่าไม่พอใจมาก ตัวเขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
    “แน่นอน เราต้องเตรียมรับมือกับความขัดแย้งระหว่างไต้หวันกับจีนไว้ให้พร้อม แต่ยุทธศาสตร์ด้านการทหารของเราเป็นยุทธศาสตร์เพื่อสันติ ไม่ใช่การใช้กำลัง” เขาบอก
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บีบีซีไทย - BBC Thai

    [​IMG]
    การพูดคุยสันติภาพชายแดนใต้ ตอน 1: ความคลุมเครือของบีอาร์เอ็น
    โดย บีบีซีไทย
    อาบูฮาฟิซ อัลฮากีม นั่งลงตรงข้ามเราในห้องทำงานของเขาที่ดูเคร่งขรึมและสมถะ มองไปรอบๆนอกจากรูปของเขากับครอบครัวแล้ว ที่สะดุดตาก็คือรูปจากมัสยิดกรือเซะและมัสยิดตะโละมาเนาะหรือมัสยิดสามร้อยปีเท่านั้นที่เชื่อมโยงเขาเข้ากับสามจังหวัดภาคใต้ ภาพสองภาพนี้เขาบอกว่า เก็บไว้เตือนใจตัวเองถึงที่ที่เขาจากมา
    อาบูฮาฟิซ เป็นชาวปัตตานีโดยกำเนิด เส้นทางชีวิตทำให้เขาลงเอยอยู่ต่างแดน ด้านหนึ่ง เขาก็คือคนธรรมดาสามัญที่ทำมาหากินอย่างสุจริตเพื่อเลี้ยงครอบครัว แต่อีกด้านหนึ่งเขาเป็นสมาชิกกลุ่มบีไอพีพี หนึ่งในกลุ่มผู้เห็นต่างในภาคใต้ แม้จะเป็นกลุ่มเล็กและไม่มีใครพูดถึงศักยภาพของกลุ่มในอันที่จะก่อเหตุ แต่ในช่วงหลังนี้ อาบูฮาฟิซเข้าร่วมงานกับกลุ่มบีอาร์เอ็นและพูโลในการจัดขบวนของกลุ่มผู้เห็นต่างเพื่อจะพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทย เขาเปิดตัวออกสื่อ เขียนบลอคและพูดกับสาธารณะ เงื่อนไขอันหนึ่งที่ทำให้ทำได้ก็เพราะว่าไม่มีหมายจับใดๆติดตัว
    ในภาวะที่บีอาร์เอ็นปิดลับจนยากจะเข้าถึง พูโลแตกออกเป็นหลายกลุ่ม การสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้เห็นต่างและคนในพื้นที่ฝากไว้กับการตีความสัญญาณต่างๆตามความรับรู้ของแต่ละคน ในสภาพเช่นนี้ อาบูฮาฟิซ กลายมาเป็นคนที่ช่วยตอบคำถามสื่อในหลายเรื่องราวที่เกี่ยวกับความพยายามของกลุ่มผู้เห็นต่างในการแสวงหาทางออกทางการเมือง หนึ่งในความเคลื่อนไหวในวันนี้ของพวกเขาก็คือข่าวการก่อตั้งกลุ่มใหม่ มารา ปาตานีเพื่อจะทำหน้าที่พูดคุยกับรัฐบาล คำถามใหญ่ก็คือ นี่คือความเคลือนไหวที่ได้รับไฟเขียวจากบีอาร์เอ็นจริงหรือไม่ เพราะภาพการเข้าร่วมของบีอาร์เอ็นในมารา ปาตานีสวนทางความเห็นของคนไม่น้อยในพื้นที่ที่มองว่า การพูดคุยหนนี้ถูกลดระดับจากรัฐบาลไทยอย่างมากและห่างไกลจากเป้าหมายการต่อสู้จนทำให้ยากจะเห็นได้ว่า นักรบที่เสี่ยงชีวิตก่อเหตุมาเนิ่นนานจะพอใจเพียงแค่นั้น
    หลายคนระบุว่า สิ่งที่แสดงถึงการลดระดับการพูดคุยอย่างสำคัญ คือ การใช้คำว่า พูดคุยเพื่อ “สันติสุข” แทนคำว่า “สันติภาพ” การกำหนดกรอบให้พูดคุยภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีนัยของการจำกัดเป้าหมายการพูดคุยให้เป็นการเคารพเอกภาพในดินแดนไทย เรื่องการแยกสามจังหวัดจึงตกไปโดยอัตโนมัติ
    อาบูฮาฟิซเล่าว่าในช่วงแรกบีอาร์เอ็นไม่อยากสานต่อการพูดคุย เพราะเนื้อหาสำคัญที่ค้างคามาจากการพูดคุยกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็น Dialogue 1 คือการยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็นไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล กลุ่มผู้นำอาวุโสหรือดีพีพีของบีอาร์เอ็นมีมติชัดว่า “เมื่อไม่รับก็ไม่คุย” นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดในหนนี้ ฮัสซัน ตอยิบผู้นำทีมเจรจาคราวที่แล้วจึงไม่เข้าร่วม แต่เขาชี้ว่า ท่าทีอันนี้ไม่ได้ตายตัวเสมอไป
    “มีบางคนบางกลุ่มในบีอาร์เอ็นที่มองว่า ถ้าไม่สานต่อ กระบวนการจะหยุดชะงัก และเรื่องห้าข้อนั้นต้องไปต่อรองบนโต๊ะ ถ้าไม่มีกระบวนการพูดคุยจะเรียกร้องได้อย่างไร แต่ถ้าเปิดโต๊ะพูดคุยก็ยังมีโอกาสที่จะหยิบขึ้นมาพูดใหม่ได้”
    โดยส่วนตัว อาบูฮาฟิซบอกว่า เขายังเชื่อว่าการเข้าร่วมกระบวนการสันติภาพเป็นสิ่งที่ดีกว่าไม่เข้าร่วม “ทหารก็เป็นตัวจริงในโครงสร้างการเมืองของไทย เราหลีกหนีพวกเขาไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาเป็นรัฐบาลหรือคุมอำนาจทางการเมือง ถึงที่สุดแล้วทหารก็ยังเป็นคนที่จะตัดสินเป็นคนสุดท้าย”
    หลังจากผู้ที่มีแนวคิดสองถกเถียงกันอย่างหนัก ไม่เฉพาะในกลุ่มบีอาร์เอ็นแต่กลุ่มอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดกลุ่มที่เห็นว่าควรเข้าร่วมได้ตกลงกันเมื่อ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาจัดตั้งกลุ่มมารา ปาตานี ที่มาจากคำว่า มัจลิส อามานะห์ รักยัต ปาตานี (Majlis Amanah Rakyat Patani) ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็น มัจลิส ซูรอ ปาตานี (Majlis Syura Patani) มีตัวแทน 5 กลุ่มคือบีอาร์เอ็น พูโลสามกลุ่ม และกลุ่มบีไอพีพีเข้าร่วม กลุ่มมารา ปาตานีจะมีกรรมการบริหาร มีกลุ่มที่ทำหน้าที่พูดคุยหรือเจรจา และมีคณะผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยระดมความรู้จากหลากหลายสาขาสนับสนุนการทำงานด้านการพูดคุยในกระบวนการสันติภาพ ความสนใจกลับพุ่งเป้าไปที่ว่า อาแว ยาบะ อดีตผู้ช่วยของฮัสซัน ตอยิบ ที่ร่วมลงนามก่อตั้งกลุ่ม เข้าไปในฐานะเป็นตัวแทนของบีอาร์เอ็นจริงหรือไม่
    แหล่งข่าวหลายคนในพื้นที่เชื่อว่าอาแว ยาบะเป็นสมาชิกบีอาร์เอ็นจริง แต่ถึงที่สุดแล้วสิ่งที่ชัดเจนก็คือ ไม่มี ใครบอกได้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาได้รับไฟเขียวหรือว่ากระทำการตามลำพัง ทุกฝ่ายล้วนตีความตามอัธยาศัย แม้แต่การที่อาแว ยาบะและซัมซุดิน คาน แกนนำของหนึ่งในกลุ่มย่อยพูโล ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมกับฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็ทำให้มีนักการเมืองฝั่งไทยคนหนึ่งฟันธงไปแล้วว่า มารา ปาตานีไม่ได้รับการยอมรับจากบีอาร์เอ็น
    แต่ฮัจยีสะมะแอ ท่าน้ำ อดีตแกนนำพูโลที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวและมีบทบาทในการประสานให้กับการพูดคุยชี้ว่า การที่ไม่มีตัวแทนของบีอาร์เอ็นและพูโลกลุ่มซัมซุดิน คานเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ก็เป็นเพราะ “ฝ่ายขบวนการยังไม่ไว้ใจฝ่ายไทย” อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่ากลุ่มผู้เห็นต่างทั้งหมดจะขานรับการพูดคุยหนนี้แน่นอน หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ปฎิเสธ ทั้งนี้รวมไปถึงกลุ่มบีอาร์เอ็น “เมื่อมีการเสนอให้มีการพูดคุย ตามหลักอิสลาม เราปฎิเสธไม่ได้”
    อีกหลายคนเชื่อด้วยว่าแม้แต่กลุ่มซัมซุดดิน คานเองก็จะเข้าร่วม อาบูฮาฟิซระบุว่า ข้อกริ่งเกรงของซัมซุดินที่ไม่อยากเห็นการพูดคุยหนใหม่กลายเป็นการสานต่อจาก Dialogue 1 เนื่องจากมีบางเรื่องที่เขาไม่เห็นด้วย ประเด็นนี้ก็ได้รับการสะสางชัดเจนแล้วว่าการพูดคุยรอบใหม่นี้คือการเริ่มต้นใหม่ ขณะที่ฮัจยีสะมะแอเชื่อว่า ประเด็นความไม่ชัดเจนการส่งตัวแทนของบีอาร์เอ็นเข้าร่วมนั้น เป็นปัญหาภายในของบีอาร์เอ็น เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย “หากผมทำได้ ผมจะเสนอบีอาร์เอ็นให้เขาสามัคคีกัน แต่เขาจะฟังผมหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
    ทั้งอาบูฮาฟิซและฮัจยีสะมะแอต่างก็เชื่อว่า บีอาร์เอ็นกำลังทดลองเส้นทางใหม่นี้ พวกเขาล้วนเห็นว่า บีอาร์เอ็นไม่จำเป็นต้องมีมติชัดเจน เพราะหากได้ผลกลุ่มก็คงพร้อมจะมีท่าทีที่เป็นทางการมากขึ้น หากไม่ได้ผลบีอาร์เอ็นก็ไม่เสียอะไร อาบูฮาฟิซบอกว่า เขายังเฝ้าจับตาทุกวันในกรณีที่อาจมีการส่งสัญญาณจากกลุ่มผู้นำอาวุโสของบีอาร์เอ็นว่าไม่เห็นด้วยกับการพูดคุย แต่จนถึงขณะนี้ทุกอย่างยังเดินหน้า แหล่งข่าวอีกหลายคนในพื้นที่ก็เห็นตรงกันว่า ความไม่ชัดเจน ณ เวลานี้สะท้อนภาพความไม่มั่นใจของบีอาร์เอ็นต่อกระบวนการของรัฐบาลขณะที่พวกเขาเองก็ไม่อยากทิ้งโอกาสนี้เสียทีเดียว การเข้าร่วมแบบคลุมเครือจึงอาจเป็นทางออกอย่างหนึ่งก็เป็นได้

    บีบีซีไทย - BBC Thai
    การพูดคุยสันติภาพชายแดนใต้ ตอน 2: กลุ่มเห็นต่างจัดขบวน เน้นจังหวะก้าวที่ “ระมัดระวัง”
    โดย บีบีซีไทย
    ตัวแทน “มารา ปาตานี” ระบุกระบวนการเริ่มขึ้นแล้วในขั้นแรกด้วยมาตรการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ยืนยันขอให้รัฐบาลจัดให้การพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติ เผยจะยังไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องใดๆ เพื่อให้ก้าวเดินอย่างช้าๆไม่ผิดพลาดเหมือนหนก่อนหน้า
    อาบูฮาฟิซ อัลฮากีม จากกลุ่มบีไอพีพีซึ่งทำหน้าที่เป็นโฆษกชั่วคราวให้กับกลุ่มมารา ปาตานี เล่าว่า
    การที่การพูดคุยกันระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้เห็นต่างกับทีมพูดคุยฝ่ายรัฐบาลในรอบใหม่จะดำเนินการแตกต่างไปจากหนก่อน และระมัดระวังกว่าเดิมก็เพราะมีการสรุปบทเรียนจากหนแรกที่พูดคุยกับทีมงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ “เช่นการจัดแถลงข่าวบ่อยๆ สร้างความคาดหวังให้กับบรรดาผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่ายจนกลายเป็นแรงกดดันต่อทีมพูดคุย” เขาว่า
    ในช่วงต้นจึงจะดำเนินการกันอย่างเงียบๆ ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และจะยังไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องใดๆ ต่อกันเนื่องจากยังไม่ไว้ใจกัน เขาชี้ว่าอันที่จริงแล้ว มีการพบปะกันไปแล้ว 2 ครั้งกับทีมฝ่ายไทย แต่เป็นการแนะนำตัวทำความรู้จักกันมากกว่าอย่างอื่น
    อาบูฮาฟิซเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายไทยได้เสนอให้ช่วงเดือนถือศีลอดที่เพิ่งผ่านไปเป็นช่วงลดการปฏิบัติการด้านการทหาร ซึ่งทางฝ่ายบีอาร์เอ็นเห็นว่าเร็วเกินไป และยังไม่มีกระบวนการใดๆที่เป็นทางการพอที่จะทำให้ตกลงอะไรกันได้ เพราะการจะหยุดยิงจะต้องมีการเตรียมตัว “บทเรียนสอนให้พวกรู้ว่า ถ้าไม่มีความพร้อมจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีเหมือนที่เคยเกิดมาแล้วในช่วงการพูดคุยครั้งที่แล้ว” ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า การพบปะหนถัดไปจะมีขึ้นหลังเดือนถือศีลอด ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะเป็นต้นหรือกลางเดือนส.ค.
    แต่สิ่งสำคัญในอันดับแรกนั้น เขาย้ำว่าทางกลุ่มมารา ปาตานีเสนอให้รัฐบาลทำให้เรื่องการพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งแม้ทางทีมไทยจะบอกว่า ขณะนี้ก็ได้รับความสำคัญมากแล้วก็ตาม แต่ทางกลุ่มผู้เห็นต่างยังอยากเห็นฝ่ายไทยดำเนินการออกมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร ได้รับการรับรองจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงหลายหนขาดความต่อเนื่อง
    ในการจัดกระบวนของฝ่ายกลุ่มผู้เห็นต่างเอง กลุ่มผู้เห็นต่าง 6 กลุ่มคือบีอาร์เอ็น พูโลที่ประกอบด้วยกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม บีไอพีพี และจีเอ็มไอพี จะเข้าร่วมการพูดคุยกับทีมงานของรัฐบาลผ่านกลุ่มมารา ปาตานี ซึ่งจัดทีมพูดคุยไว้แล้วและจะนำโดยตัวแทนจากบีอาร์เอ็น คือมะสุกรี ฮารี ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของทีมเจรจาชุดเดิม มารา ปาตานีเองก็มีโครงสร้างทำงานที่ประกอบไปด้วย คณะกรรมการบริหารที่นำโดยอาแว ยาบะ มีทีมพูดคุย และมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่สนับสนุนในเรื่องของข้อมูลตลอดจนองค์ความรู้ต่างๆที่จำเป็นต่อการสานต่อกระบวนการสันติภาพ ในส่วนที่สามนี้สามารถเปิดรับคนจากในส่วนของภาคประชาสังคมให้เข้าร่วมเพื่อนำเสนอความเห็นหรือความต้องการของฝ่ายประชาชนเพื่อส่งผ่านไปยังทีมพูดคุยได้
    เขาชี้ว่าหลังจากที่สองฝ่ายเริ่มไว้วางใจกันมากพอจึงจะมาตกลงกันว่าจะพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง เขาคาดว่าการพูดคุยในระยะต้นอาจจะใช้เวลา 2-3 ปี และในระหว่างนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในการเมืองไทย เช่นมีการเลือกตั้งหรือได้รัฐบาลใหม่ ก็เชื่อว่ากระบวนการจะไม่สะดุด เพราะมีการปูพื้นฐานแล้ว และกระบวนการทำงานร่วมกันจะเริ่มอยู่ตัวมากขึ้น และหากรัฐบาลผลักดันให้เรื่องการพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ก็เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนจะทำได้มากขึ้น การจัดพูดคุยเพื่อถกเถียงกันในเรื่องทางออกทางการเมืองสำหรับปัญหาในพื้นที่จะทำได้มากขึ้น
    ทางด้านฮัจยีสะมะแอ ท่าน้ำ อดีตแกนนำกลุ่มพูโลซึ่งเพิ่งได้รับการปล่อยตัว เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ขณะนี้ตนได้รับการเสนอให้ไปช่วยประสานงานการพูดคุย เนื่องจากรู้จักกับคนที่เกี่ยวข้องในหลายกลุ่มที่กำลังจะพูดคุยกับรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญขณะนี้คือรอให้ทางการไทยรับรองเรื่องนี้ก่อนจึงจะสามารถทำได้ ฮัจยีสะมะแอระบุว่า ขณะนี้สภาซูรอ ซึ่งก็คือกลุ่มมารา ปาตานี ได้เสนอมายังรัฐบาลขอให้ดำเนินการสองเรื่องในการทำให้เกิดกระบวนการพูดคุย เรื่องแรกคือการกำหนดให้การพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องที่สองคือขอให้รับรองความปลอดภัยไม่จับกุมบรรดาแกนนำที่เข้าร่วมการพูดคุย
    นอกจากนั้นเขาเปิดเผยด้วยว่า จะเสนอให้มีตัวแทนจากภาคประชาสังคมเข้าร่วมพูดคุย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นตัวแทนของฝ่ายประชาชนในพื้นที่ บอกเล่าสิ่งที่เป็นที่ต้องการของประชาชนให้กับผู้ที่ร่วมพูดคุย
    ส่วนนายนัจมุดดีน อูมา อดีตสส.นราธิวาสให้ความเห็นว่า เรื่องของการพูดคุยนั้นควรจะให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม และตนเคยเสนอให้รัฐบาลใช้วิธีเลือกด้วยการคัดตัวแทนจากประชาชนผ่านการสมัคร และเสนอให้มาเลเซียเชิญนักรบทุกกลุ่มพูดคุยเพื่อหาตัวแทน ในส่วนของรัฐบาลเชื่อว่าสิ่งที่ตัวแทนพูดคุยของฝ่ายรัฐควรดำเนินการคือปรึกษาหารือกับคนในพื้นที่ นอกจากนั้นควรจะดึงให้นักการเมืองเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือให้มากขึ้น เพราะคนเหล่านี้เข้าใจและยังสามารถกุมสภาพปัญหาในพื้นที่ได้
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤติตุรกี หลัง ISIS ก่อเหตุครั้งแรกในประเทศ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ค. 27, 2015

    [​IMG]

    เหตุปะทุที่เกิดขึ้นในตุรกี ซึ่งน่าจะเป็นครั้งหนักหน่วงที่สุดระหว่างกองทัพตุรกีกับไอซิสส เกิดขึ้นไม่กี่วันตามหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองซูรุคของตุรกี คร่าชีวิตชาวบ้าน 32 ศพเมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) ซึ่งตุรกีกล่าวว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
    ในอดีต ตุรกีถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับพวกหัวรุนแรงไอซิส ในความหวังว่าจะใช้ประโยชน์พวกเขาโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย แต่อังการาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าวอย่างแข็งกร้าวความไม่สงบก่อความกังวลอย่างแรงกล้าว่าตอนนี้การสู้รบระหว่างนักรบไอซิสและเคิร์ดในซีเรีย กำลังทะลักเข้าสู่ดินแดนของตุรกีโดยเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะนี้บ่งชี้ว่า ตุรกีกำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากไอซิส อย่างหนัก ซึ่งตามข่าวที่สื่อต่างๆนำเสนอ มีดังนี้
    เครื่องบินรบตุรกีโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอซิสในซีเรีย
    รายงานระบุว่า เครื่องบินรบตุรกีโจมตีเป้าหมายยังที่มั่นกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส ทางภาคเหนือของซีเรีย
    หลังจากสองสัปดาห์ที่ทหารตุรกี วางมาตรการเข้มงวดตามแนวชายแดนซีเรีย ล่าสุด ตุรกีเริ่มปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายยังที่มั่นกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส ทางภาคเหนือของซีเรีย
    การโจมตีครั้งนี้นอกจากเป็นการโจมตีทางอากาศแล้ว ยังส่งรถถังจากกองพันทหารราบยานเกราะที่ 5 ของตุรกีก็ยิงถล่มเป้าหมายต่างๆ ของกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย
    ทางรัฐบาลตุรกี เผยข่าวการโจมตีดังกล่าวว่า เครื่องบินรบ 4 ลำบินขึ้นจากฐานทัพดิยาร์บากีร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีและใช้ขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายไอซิสหลายแห่งในหมู่บ้านฮาวาร์ของซีเรีย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของจังหวัดคิลิสในตุรกี
    แถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ทหารบุกโจมตี หลังจากที่ทหารตุรกีนายหนึ่งเสียชีวิตในคีรีส เมืองชายแดนของตุรกี จากลูกกระสุนที่ถูกยิงมาจากพื้นที่หนึ่งในซีเรียซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอซิส

    ตำรวจตุรกีบุกค้นแหล่งไอซิส จับกุมผู้ต้องสงสัยสมาชิกกลุ่มไอซิส 251 คน
    ภายหลังเหตุรุนแรงหลายระลอกในตุรกี ตำรวจเริ่มกวาดล้างและบุกจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่ม ไอซิสและกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด (พีเคเค)
    สำนักข่าวอนาโตเลียของทางการตุรกีรายงานว่า ตำรวจบุกจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) และกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด ภายหลังเหตุรุนแรงหลายระลอกในตุรกี ตำรวจพร้อมกำลังหนุนด้วยเฮลิคอปเตอร์บุกเข้าตรวจค้นตามเขตต่างๆในนครอิสตันบูลเพื่อค้นหาสมาชิกกลุ่มไอซิส กลุ่มพรรคแรงงานเคิร์ดิสถาน (พีเคเค) และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ (วันศุกร์ ที่ 24 กรกฎาคม)
    ด้านสำนักข่าวโดกันรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจราว 5,000 คน บุกตรวจตามเขต 26 แห่งในกรุงอิสตันบูล
    สำนักนายกรัฐมนตรีตุรกีเผยว่า การปฏิบัติการบุกค้นครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย มากถึง 251 คน จาก 15 เขต ของอิสตันบูล
    การปฏิบัติการบุกตรวจค้นดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 คนในเมืองทางชายแดนซีเรีย โดยกล่าวโทษว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไอเอส
    ตุรกีร่วมมือกับอเมริกาในการปราบไอซิส
    ในการนี้เจ้าหน้าที่ทางทหารระดับสูงของอเมริกา เผยว่า อังการา ก็ให้ไฟเขียวกองกำลังอเมริกาใช้ฐานทัพอากาศอินเคอร์ลิค ในภารกิจกำราบไอซิสในซีเรีย
    หนังสือพิมพ์ วอลสตรีด เจอร์นัล ฉบับวันพฤหัสบดี ที่ 23 รายงาน โดยอ้างจากเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอเมริกาว่า สำนักข่าวท้องถิ่นของตุรกี รายงานว่า ข้อตกลงระหว่างตุรกีกับอเมริกา ที่ได้อนุญาตให้อเมริกสใช้ฐานทัพในการโจมตีกลุ่มก่อการร้านไอซิสนั้น มีขึ้นเมื่อวันพุธที่ 22 ที่ผ่านมา
    ทางทำเนียบขาว เปิดเผยว่า โอบามา ประธานาธิบดีอเมริกา ได้ต่อสายตรงคุยโทรศัพท์กับ รอญับ ตอยยิบ อุรดุฆอน ของตุรกี กรณีความร่วมมือของทั้งสองประเทศในการปราบกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
    จนถึงตอนนี้ ตุรกียังไม่มีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบในปฏิบัติการของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังให้ความช่วยเหลือชาวเคิร์ดสู้รบกับไอซิส
    รัฐบาลตุรกีประกาศแนวรั้วเพื่อความมั่นคงยาว 800 กิโลเมตร กั้นชายแดนซีเรีย หวั่นถูก “นักรบไอเอส” โจมตีซ้ำ
    บูเลนต์ อารินซ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร (21 ก.ค.) ว่ารัฐบาลมีการหารือถึงการบูรณาการระบบต่างๆเพื่อรับประกันความปลอดภัยตามแนวชายแดนติดกับซีเรียขณะที่สื่อมวลชนตุรกีรายงานในวันพุธ (22 ก.ค.) ในมาตรการต่างๆ ที่จะถูกนำมาใช้ ในนั้นรวมถึงการส่งเรือบินขึ้นสู่ท้องฟ้าในความสูงหลายร้อยเมตรเพื่อสังเกตการณ์ตามแนวชายแดน และสร้างกำแพงคอนกรีตกั้นพรมแดนรัฐบาลตุรกีประกาศแนวรั้วเพื่อความมั่นคงยาว 800 กิโลเมตร กั้นชายแดนซีเรีย หวั่นถูก “นักรบไอเอส” โจมตีซ้ำ
    รัฐบาลตุรกีประกาศแผนสร้างแนวรั้วเพื่อความมั่นคงความยาว 500 ไมล์ (ราว 804.6 กิโลเมตร) กั้นพรมแดนด้านที่ติดต่อกับซีเรีย หวังป้องกันดินแดนและพลเมืองเติร์ก จากการตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรง หลังเพิ่งเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่เมืองชายแดนอย่าง “ซูรูค” เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 32 รายเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
    บูเลนต์ อารินซ์ รองนายกรัฐมนตรีตุรกี ออกมาแถลงถึงเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองผ่านทางสำนักข่าวอนาโดลู ซึ่งอยู่ในความควบคุมของรัฐในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีตุรกีที่กรุงอังการาโดยรองนายกรัฐมนตรีตุรกีระบุว่า การสร้างแนวรั้วซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ด้านความมั่นคงอันทันสมัย ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลตุรกี จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้พวก “ผู้ก่อการร้าย” ได้มีโอกาสเข้ามาก่อเหตุโจมตีในแผ่นดินตุรกีได้อีกแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลตุรกีเปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการสร้างแนวรั้วกั้นพรมแดนด้านที่ติดต่อกับซีเรียแล้ว ทางการตุรกีจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ด้านความมั่นคงอื่นๆ ตลอดแนวความยาวของรั้วดังกล่าว ซึ่งรวมถึงระบบตรวจการณ์ด้วย “โดรน” หรืออากาศยานไร้นักบินตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้ มีรายงานว่า นักรบชาวต่างชาติจำนวนหลายพันราย ได้เดินทางเข้าร่วมกับกลุ่มไอซิสในซีเรีย ผ่านทางชายแดนของตุรกีตลอดหลายปีที่ผ่านมา และถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การประกาศแผนสร้างแนวรั้วกั้นชายแดนตุรกี-ซีเรียในครั้งนี้
    PressTV-حمله جنگنده‌های ترکیه به اهدافی در خاک سوریه Syria آمریکا از پایگاه ترکیه علیه داعش استفاده می کند
    PressTV-عملیات وسیع ضد تروریستی پلیس ترکیه
    วิกฤติตุรกี หลัง ISIS ก่อเหตุครั้งแรกในประเทศ | abnewstoday
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิจารณ์ข้อมูลร้อยละ 60 วัยรุ่นซาอุฯฝักใฝ่ ISIS โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ค. 27, 2015

    [​IMG]

    การออกมาพูดของอดีตสมาชิกสภาชูรอซาอุดิอาระเบีย ที่กล่าวว่า ร้อยละ 60 ของ เยาวชนซาอุดิอาระเบีย มีแนวคิดไอซิสนั้น ถือเป็นการแสดงทัศนะที่สร้างความไม่พอใจแก่ชาวซาอุฯเป็นอย่างมาก โดยบางกลุ่มเรียกร้องให้พิพากษาลงโทษอดีตสมาชิกสภาดังกล่าว
    อัลอาลัม – คำพูดของ “คอลิล อับดุลลอฮ์ คอลิล” ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลอาราบีย่า นั้น มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ มีทั้งที่เห็นด้วยและคัดค้าน และบรรดานักกิจกรรมเคลื่อนไหวของซาอุฯ ถือว่าคำพูดของอดีตสมาชิกสภา คล้ายกับคำพูดของ นูรี อัลมาลีกี กรณีที่ซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้คัดค้านจึงเรียกร้องให้พิพากษาอดีตสมาชิกสภาดังกล่าว
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม นูรี อัลมาลีกี รองประธานาธิบดีอิรัก ออกมาตำหนิรัฐบาลซาอุดิอาระเบียอย่างรุนแรง และถือว่าซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศแห่งต้นเหตุของการก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงตักฟีรี พร้อมกับเรียกร้องให้ซาอุอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า ซาอุฯ ไร้ความสามารถและล้มเหลวในการปราบปรามกลุ่มตักฟีรี
    คอลิล อับดุลลอฮ์ คอลิล กล่าวว่า ร้อยละ 60 ของเยาวชนซาอุดิอาระเบีย มีแนวคิดของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และพร้อมปฏิบัติการทุกเมื่อ เมื่อถึงเวลา
    มุฮัมมัด อัลฮะฎียฟ์ นักกิจกรรมความเคลื่อนไหวของมหาลัยแห่งหนึ่งในซาอุฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยา ต่อคำพูดของ คอลิล ว่า เราทั้งหมดล้วนเป็นไอซิส และเราเป็นชาติเดียวในโลก เนื่อง จากการโฆษณาของสำนักข่าวอัลอาราบีย่า ทำให้เรามีแนวโน้มจะถูกโจมตี
    ศอและห์ อัลฮะนากี นักข่าว ในซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า จากคำพูดดังกล่าว ในวันนี้ เรามีสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในประเทศจำนวน 7 ล้านคน และในครอบครัวหนึ่งที่มีบุตรชายห้าคน สามคนในนั้นจะเป็นสมาชิกของไอซิส ภัยอันตรายของคำพูดอันนี้ คือ เรากำลังส่งสาส์นให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ว่า สมาชิกนับล้านคนเหล่านี้ พร้อมที่จะเข้าร่วมสมทบกับไอซิสทุกเมื่อ
    อบู ชัลลาค์ อัลลัยบราลี นักข่าวทวิตเตอร์ในซาอุฯ เขียนว่า เรามีความหวาดกังวลว่า เมื่อผู้ใดที่ไว้หนวดเครายาว จะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกไอซิส แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เยาวชนซาอุฯ ร้อยละ 60 ได้รับแนวคิดไอซิสไปแล้ว
    ประเด็นที่เยาวชนซาอุฯ เข้าร่วมสมาชิกไอซิส กำลังเป็นกระแสที่มีการถกเถียงในแวดวงซาอุอยู่ในขณะนี้ ระหว่างกลุ่มอิสลามนิยมกับกลุ่มเสรีนิยมในซาอุ
    กลุ่มเสรีนิยมในประเทศเชื่อว่า ความคิดและอุดมการณ์ของสลาฟี ตักฟีรี และหลักคำสอนของกลุ่มนี้เป็นเหตุให้เยาวชนหนุ่มสาวในประเทศเข้าร่วมกับกลุ่มไอซิสในการปฏิบัติการในภูมิภาค
    ขณะที่กลุ่มผู้คัดค้านบางคน กล่าวว่า แม้แต่ประเทศตูนิเซีย ที่เป็นประเทศแซกคูลาร์ ก็ยังมีเยาวชนในประเทศจำนวนมากที่เข้าร่วมกับไอซิส
    ตามรายงานบางสำนักข่าว ระบุว่า สถิติที่มีการนำเสนอนั้น ร้อยละ 44 ของกลุ่มไอซิสที่ถูกสังหารนั้น เป็นชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นยอดจำนวนมากที่สุดพอสมควรที่เยาวชนซาอุฯเข้าร่วมกลุ่มไอซิสในอิรักและซีเรีย
    หนังสือพิมพ์ อัลฮะยาต ซาอุฯ รายงาน ร้อยละ 60 ของมือระเบิดพลีชีพของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เป็นชาวซาอุฯ ซึ่งกลุ่มดังสมาชิกดังกล่าวเสมือนเป็นไม้ผืนสำหรับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
    มุฮัมมัด อัลฮัดลา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองในตะวันออกกลาง ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ อัลฮะยาต ว่า ท้ายสุดแล้วกลุ่มก่อการร้ายไอซิส จะใช้เยาวชนซาอุฯในการเป็นมือระเบิดพลีชีพ และจะไม่มอบหมายหน้าที่ระดับสูงให้แก่ชาวซาอุ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถกล่าวได้ว่า เยาวชนซาอุฯ คือไม้ผืนสำหรับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสนั้นเอง
    60 درصد جوانان عربستان تفکر داعشی دارند
    วิจารณ์ข้อมูลร้อยละ 60 วัยรุ่นซาอุฯฝักใฝ่ ISIS | abnewstoday
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    บริษัท Mitsubishi Motors ของญี่ปุ่นประกาศปิดโรงงานเลิกผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ย้ายมาเปิดที่ไทยและเพื่อนบ้านเราแทน

    [​IMG]

    -------------
    ข่าวดีอีกข่าวสำหรับคนไทยหัวใจรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ และประชาชน แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นข่าวร้ายสำหรับโปร-อเมริกาทั้งหลายนะครับ คริๆ คืออย่างนี้ครับ วันนี้ลองตระเวนข่าวจากฝั่งจีนบ้างในส่วนที่เกี่ยวกับประเทศไทยนี่แหละ ก็มีอยู่หลายข่าวนะ แต่หยิบมาให้อ่านซัก 2 ข่าวก่อน (โพสต์ละข่าว) ข่าวแรกสำนักข่าว People's Daily Online พาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 27 ก.ค.58 ว่า "Japanese automaker Mitsubishi Motors to end US production" เห็นแล้วทำให้ต่อมความสะใจทำงานเกินร้อยเลยอ่ะ ถ้าไม่ได้เล่าข่าวนี้ให้แฟนเพจฟังนี่คงจะเสียดายแย่แน่ๆเลย
    ตามรายงานข่าวบอกว่าบริษัท Mitsubishi Motors ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กำลังวางแผนยกเลิกการผลิตเฉพาะโรงงานที่อยู่ในสหรัฐฯเท่านั้น โปรดฟังอีกครั้ง "…ยกเลิกการผลิตเฉพาะโรงงานที่อยู่ในสหรัฐฯเท่านั้น!" ฮี่ๆๆ… มีต่ออีกนะ และจะขายโรงงานที่อยู่ใน central Illinois (พื้นที่ส่วนหนึ่งในรัฐอิลลินอยของสหรัฐฯ) ซึ่งมีพนักงานอยู่มากว่า 1,200 คน (Mitsubishi Motors confirmed Friday that it plans to stop production at its only US factory and sell the plant in central Illinois that has more than 1,200 workers.) ชัดมะ!... หมายความว่าไงครับ? ก็หมายความว่าจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นในอเมริกา ไม่ต่ำกว่า 1,200 คนนะสิครับ และอาจจะเป็นโดมิโนไปยังธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วยก็ได้ นี่ขนาดญี่ปุ่นเป็นมหามิตรของสหรัฐฯก็ยังทำกันได้ลงคอขนาดนี้เลยนะนี่
    รายงานข่าวบอกว่าหลังจากที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นได้พิจารณาถึงระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกแล้วจึงได้ตัดสินใจว่า มีความจำที่จะต้องยกเลิกการผลิต (end production) ที่โรงงานดังกล่าวและหาผู้ซื้อ (โรงงาน) ตามคำแถลงข่าวของนาย Dan Irvin โฆษกของบริษัทประจำอเมริกาเหนือ การแถลงการดังกล่าวปรากฎออกมาหลังจากที่สื่อฯญี่ปุ่นรายงานว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายหนึี่งของญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการผลิตในสหรัฐฯโดยหันไปให้ความสนใจที่ตลาดในเอเซียแทน (ฮี่ๆๆ)
    ยอดการผลิตรายปีที่โรงงานแห่งนี้ซึ่งผลิตรถยนต์ประเภท Outlander SUV ได้ลดลงถึง 64,000 คนจากที่มากกว่า 200,000 ต่อปีในปี 2002 และเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทขายรถยนต์ได้เพียง 82,000 คันเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า 1% ของตลาดทั้งหมด (จะอยู่ต่อไปได้อย่างไรหละครับ ก็อเมริกันเขาชาตินิยมสุดๆ เขาไม่ค่อยนิยมรถญี่ปุ่นอ่ะ แม้จะเรียกให้ญี่ปุ่นไปลงทุนในประเทศเขา แต่เขาบอกกับประชาชนของเขาว่าของอเมริกันดีกว่า เพื่อกระตุ้นให้คนในประเทศเขาใช้ของๆพวกเขา ญี่ปุ่นก็หอบเงินไปลงทุน แล้วก็เจ๊งเพราะขายไม่ออกนะสิ)
    หนังสือพิมพ์ Nikkei ด้านธุรกิจของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัท Mitsubishi อาจจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายแรกที่จะยกเลิกการผลิตทั้งในสหรัฐฯและในยุโรป (ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้นนะ มียุโรปด้วย ซวยหนักเข้าไปอีกแล้วเศรษฐกิจอียู ต่อไปนี้สำคัญนะ อย่าลืมขีดเส้นได้ไว้ด้วยหละครับ) บริษัท Mitsubishi ได้สร้างโรงงานในประเทศไทย โปรดฟังอีกครั้ง "บริษัท Mitsubishi ได้สร้างโรงงานในประเทศไทย" อันนี้สำหรับโปรอเมริกา "The company (Mitsubishi) has built a plant in Thailand" (ฮี่ๆ ได้ยินป๊ะ? คริๆ) และได้ซื้อโรงงานแห่งหนึ่งของ Ford (ของสหรัฐฯ) ในประเทศฟิลิปปินส์ และกำลังก่อสร้างอีกแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย
    คราวนี้มาดูปฏิกิริยาจากฝั่งสหรัฐฯบ้าง นาย Bill Brady วุฒิสมาชิกรัฐอิลินอยของสหรัฐฯกล่าวว่า "เรากำลังจะทำทุกอย่างที่เราสามารถทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าบริษัท Mitsubishi ไม่มีความต้องการโรงงานดังกล่าวอีกต่อไป (อันนั้นเป็นภาษาการเมืองสไตล์สหรัฐฯ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ประชาชนที่เป็นพนักงานมีความสบายใจขึ้นมาตรงไหนเลย ความหมายที่ชัดเจนที่ต้องการจะสื่อก็คือว่า ญี่ปุ่นจะขายโรงงานทิ้งและจะยกเลิกการผลิตแน่ๆ เตรียมตัวตกงานและหางานใหม่กันได้แล้ว!) แต่ว่าโรงงานแห่งนี้ก็มีประสิทธิภาพมาก ถือว่าเป็นแรงงานระดับโลก และเป็นเคลือข่าวของซับพลายเออร์ที่ไม่เป็นสองรองใคร (นั่นแหละคือสไตล์การหาผู้ซื้อรายใหม่ของเขาหละ)"
    Bill Brady พูดปลอบใจคนงานชาวอเมริกันที่กำลังจะตกงานไม่ต่ำกว่า 1,200 คนในโรงงานแห่งนี้ว่า เขาและเจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังดำเนินการวางแผนหาผู้ผลิตรายใหม่เข้าไปซื้อโรงงานแห่งนี้ (ก็แสดงว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครรับซื้อนะสิ จะซื้อช้าหรือเร็วนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับญี่ปุ่น เพราะได้ตัดสินใจปิดโรงงานยกเลิกการผลิตไปแล้ว และย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยแทน หมายความว่าไง? ก็หมายความว่าที่ประเทศไทยก็จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ และที่สหรัฐฯก็จะมีการตกงานเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้เช่นกันนะสิครับท่าน ฮ่าๆๆ)
    พอเขาทำอะไรญี่ปุ่นในกรณีนี้ไม่ได้ เขาก็หาเรื่องเล่นงานไทยด้วยข้อหาการค้ามนุษย์ สารพัดข้ออ้างที่เขาจะนำมากดดันเรา ตราบใดที่ไทยยังไม่ยอมให้เขาจูงจมูก ไม่ยอมทำตามใจเขา เขาก็จะหาเรื่องอยู่อย่างนี้ร่ำไป ถ้าบอกว่าอเมริกาอยากได้สนามบินภูเก็ต งั้นไทยยกให้เลย เออ… แบบนี้รับรองได้เลยว่าไทยไม่มีทางได้เทียร์ 3 แน่นอน คนไทยยอมไหมหละ? ฝันไปเหอะ แต่โปร-อเมริกานี่คงจะเห็นด้วยกับจักรวรรดิเฮเกนะ
    The Eyes
    28/07/2558
    ----------
    Japanese automaker Mitsubishi Motors to end US production - People's Daily Online
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวจีนแห่ซื้อทอง หลังราคาทองตกและหุ้นดิ่ง เรื่องโดย Nation TV วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 12:55 น.

    ชาวจีนแห่ซื้อทองคำที่เป็นทางเลือกในการออมที่ปลอดภัยที่สุด ในช่วงที่ราคาทองในตลาดโลกลดต่ำลงบวกกับตลาดหุ้นในจีนมีความผันผวนอย่างมาก และเพิ่งปรับตัวลดลงมากที่สุดในวันเดียวในรอบกว่า 8 ปีเมื่อวาน

    เหล่า ฟง เซียง หนึ่งในร้านจิวเวลรีเก่าแก่ที่สุดของจีน มียอดขายทองคำและทองคำรูปพรรณในช่วง 2 เดือนนี้พุ่งสูงขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยอดขายของร้านสาขาหลักในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อสุดสัปดาห์พุ่งสูงถึง 30%

    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ชาวจีนแห่ซื้อทองในขณะนี้เป็นเพราะราคาทองคำลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี

    ซุน เฟิน ลูกค้าคนหนึ่ง บอกว่า ราคาทองขณะนี้อยู่ที่เกือบ 270 หยวนต่อกรัมหรือราว1,485 บาท ลดลงจาก 300-400 หยวนต่อกรัมช่วงก่อนหน้านี้ ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก แต่ทองยังคงมีค่า เลยเลือกซื้อทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ์เก็บไว้บวกกับตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นลงรุนแรงในช่วงนี้ จึงเลือกซื้อทองดีกว่า

    หลี่ ฟู่อิง ผู้จัดการร้านเหล่า ฟงเซียง บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวคักคักที่สุดและราคาทองตกลง ลูกค้าหลายคนที่สูญเงินไปในตลาดหุ้น จึงหันไปซื้อทองเก็บไว้

    ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จีนมีสำรองทองคำเพิ่มขึ้นเพียง 600 ตันในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันจีนมีสำรองทองคำกว่า 1,600 ตัน ซึ่งคิดเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมดที่มีรวมกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ นักค้าคนหนึ่งบอกว่า ตลาดคาดหวังว่ารัฐบาลจีนจะซื้อทองเก็บสำรองไว้มากกว่านี้

    ขณะเดียวกันนักค้าบอกว่า แนวโน้มราคาทองจะยังตกลงอีกในระยะสั้น และทำให้ยอดขายทองในจีนจะยังคงเพิ่มขึ้นอีกระยะเช่นกัน

    ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตของจีนยังคงปรับตัวลดลงในการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ หลังเมื่อวันจันทร์ดิ่งลงอย่างแรง โดยปิดตลาดลดลงจากเมื่อวันศุกร์กว่า 8% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในวันเดียวในรอบกว่า 8 ปี เมื่อเร็วๆนี้รัฐบาลเพิ่งออกมาตรการพยุงตลาดหุ้นจนทำให้ตลาดหุ้นที่ดิ่งลงตลอดหลายสัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.สามารถปรับตัวมาอยู่ในแดนบวกได้กว่า 2 สัปดาห์


    ชาวจีนแห่ซื้อทอง หลังราคาทองตกและหุ้นดิ่ง - Nation TV
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่งออก มิ.ย.ขยายตัวลดลง 7.87% ติดลบเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และลบมากสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2558 13:32 น. (แก้ไขล่าสุด 27 กรกฎาคม 2558 15:18 น.)

    [​IMG]

    ส่งออก มิ.ย.ลดลง 7.87% ขยายตัวติดลบเป็นเดือนที่ 6 และลบมากสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน เหตุส่งออกรถกระบะทรุดหนัก 48.3% จากการเปลี่ยนรุ่น รวมถึงน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกที่ลดลง ส่วนข้าว อาหารทะเล กุ้ง น้ำตาล ยังลดต่อเนื่อง เผยตลาดสหรัฐฯ กลับมาลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือน คาดส่งออกฟื้นยากหลังเศรษฐกิจคู่ค้าซบเซา หวังบาทอ่อนช่วยปั๊มยอดครึ่งปีหลัง

    นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.2558 ยังคงขยายตัวอยู่ในแดนลบ โดยมีมูลค่า 18,161.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.87% การนำเข้ามีมูลค่า 18,011.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.21% โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ

    ทั้งนี้ การส่งออกเดือน มิ.ย.ที่ลดลง 7.87% นั้น เป็นการขยายตัวติดลบเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันนับจากเดือน ม.ค.2558 และขยายตัวติดลบมากสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน นับจากเดือน ธ.ค.2554 ที่ขยายตัวติดลบ 8.15%

    ส่วนการส่งออกในช่วง 6 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 106,855.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.84% การนำเข้ามีมูลค่า 103,382.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.91% โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 3,472.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

    นาย สมเกียรติ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การส่งออกในเดือน มิ.ย.ลดลง เนื่องจากสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกลดลง 7.7% ซึ่งมีผลจากการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย ลดลงถึง 19.1% จากการลดลงของการส่งออกรถกระบะที่ติดลบ 48.3% เพราะการเปลี่ยนรุ่น แต่รถยนต์นั่งยังโต 0.4% ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ลดลง 13.1%, 24.3% และ 11% ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง รวมถึงทองคำที่กลับมาหดตัวถึง 49.7%

    สำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ก็ลดลง 4.1% จากการลดลงของข้าว 21.1% อาหารทะเลแช่แข็ง ลด 10.5% กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป ลด 22.1% น้ำตาลทราย ลด 12.3% แต่ยางพารา ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ในกลุ่มเกษตรกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 18 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 4.4% เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 24.6%, 20.1% และ 6.3% ตามลำดับ

    ทางด้านตลาดส่งออก พบว่า สหรัฐฯ ลดลง 0.1% กลับมาติดลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือน จากการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง ตลาดญี่ปุ่น ลดลง 4.2% สหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 7.1% จีน ลดลง 0.8% จากการส่งออกลดลงของเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก แต่ตลาด CLMV ยังคงเติบโตสูงถึง 10.8%

    นายสมเกียรติ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกจากนี้ไปยังคงขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก เพราะขณะนี้เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญของไทยยังคงชะลอตัว ทั้งสหรัฐฯ อียู ญี่ปุ่น และจีน ส่งผลให้การนำเข้าลดลง ซึ่งรวมถึงคู่ค้าอื่นๆ ที่เศรษฐกิจชะลอตัว จึงมีการนำเข้าลดลง และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยคู่ค้าที่นำเข้าลดลงจากตัวเลขที่มีในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เช่น รัสเซีย ลด 39.2% ญี่ปุ่น ลด 21.2% จีน ลด 21% สหรัฐฯ ลด 3.9% เป็นต้น

    ส่วนการส่งออกของไทยแม้จะลดลง แต่เมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกอื่นๆ ก็พบว่าส่งออกลดลงน้อยกว่า เช่น รัสเซีย ติดลบ 29.2% ออสเตรเลีย ลบ 21.9% นิวซีแลนด์ ลบ 17.9% หรือคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ ลบ 13.3% และมาเลเซีย ลบ 13.1% โดยมีจีนเพียงประเทศเดียวที่ส่งออกเป็นบวก 0.5%

    นอกจากนี้ ผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงชะลอตัวจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องต่อน้ำมัน เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก ราคาสินค้าเกษตรตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงจะทำให้มูลค่าส่งออกยางพารา และน้ำตาลทรายลดลง

    อย่างไรก็ตาม คาดว่าการที่เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 34.1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะช่วยส่งเสริมให้การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศขายได้มากขึ้น และแข่งขันได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง แต่ก็จะกระทบต่อการนำเข้าสินค้ากลุ่มเครื่องจักรและสินค้าทุน ที่จะมีต้นทุนสูงขึ้น


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดล้ำ โคมไฟพลังงานน้ำเกลือ เติมแก้วเดียวใช้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง ! ข้อมูลจากkapook.com

    [​IMG]

    โคมไฟพลังงานน้ำเกลือ โคมไฟ ทางเลือกใหม่ของชาวฟิลิปปินส์ ที่คิดค้นโดยนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์รายหนึ่ง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับครอบครัวตามเกาะต่าง ๆ หวังลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอัคคีภัย

    เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์ Inhabitat ได้นำเสนอบทความของโคมไฟสุดล้ำที่มีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า SALt หรือ The Sustainable Alternative Lighting ตามวิธีการใช้งาน ซึ่งเป็นโปรเจคท์ที่คิดขึ้นมา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะต่าง ๆ กว่า 7,000 เกาะทั่วฟิลิปปินส์

    ซึ่งวิธีการใช้งานก็ง่ายมากแค่เพียงใช้เกลือ 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 แก้ว หรือน้ำทะเลเพียงแก้วเดียวเทลงไปในโคมไฟ ก็จะมีแสงสว่างปรากฏขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพลังงานไฟฟ้าเหมือนโคมไฟทั่วไป อีกทั้งขั้วแบตเตอรี่ในโคมไฟยังสามารถใช้งานได้นานถึง 1 ปี แถมกระบวนการผลิตยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเพียงน้อยนิด ที่สำคัญสามารถเสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยนะ

    ทางด้านไลพา อัยซา ไมเจนา (Lipa Aisa Mijena) นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เดอ ลาซาล ก็กล่าวเพิ่มเติมว่า โคมไฟ SALt ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินค้า แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมอีกทางหนึ่ง เพราะในตอนนี้พยายามจะช่วยเหลือประชาชนที่อยู่บนเกาะห่างไกล ซึ่งคนเหล่านั้นใช้แสงสว่างจากเทียน, ตะเกียงน้ำมันก๊าด และโคมไฟที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่กันเป็นส่วนใหญ่ อันเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเพลิงไหม้ จนคร่าชีวิตประชาชนไปหลายครอบครัวแล้วนั่นเอง

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก Inhabitat
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก SALt - Sustainable Alternative Lighting

    สุดล้ำ โคมไฟพลังงานน้ำเกลือ เติมแก้วเดียวใช้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง !
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนเตือนบางประเทศอุบัติเหตุเครื่องบินตกและความตึงเครียดทางการเมืองในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหนีห่าง ยกเว้นไทย

    [​IMG]

    -----------
    ตามที่ได้เกริ่นไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้ว่ามีข่าวดีจากสื่อฯจีนจะนำมาเล่าสู่กันฟัง 2 ข่าวซึ่งข่าวแรกได้เล่าไปแล้วเรื่องบริษัท Mitsubishi Motors ของญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิต (ปิดโรงงาน) จากสหรัฐฯมาที่ประเทศไทยและเพื่อนบ้านเรา เท่าที่สังเกตดู พบว่าข่าวนั้นเล่นเอาโปรอเมริกาทนอ่านไม่ไหว ต่างก็พากันออกมาดิ้นพล่านกันใหญ่ เห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ทุกที (มีฟามสุข คริๆ) งั้นเราก็มาต่ออีกซักข่าวดีกว่า ดูซิว่าคราวนี้โปรอเมริกาขี้ข้าจักรวรรดิเฮเกจะว่าอย่างไรบ้าง
    เมื่อวันที่ 27 ก.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว People's Daily Online ของจีนพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Air Crashes and Political Tension in SE Asia Scare away Chinese Tourists" ก็แปลคล้ายๆกับที่ตั้งชื่อเรื่องของโพสต์นี้ข้างต้นนั่นแหละครับ ที่น่าสนใจก็คือในเนื้อข่าวนี้พูดถึงประเทศไทยด้วย เพราะอยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (South-East Asia) หรือที่เรียกเป็นทางการแบบไทยๆว่า "เอเซียอาคเนย์" ด้วยนั่นเอง ขอแปลข่าวให้ฟังก่อนนะครับจากนั้นค่อยเม้าท์กันปิดท้ายสไตล์คุณอายแห่ง "ปอกเปลือก ทรราช" ฮ่าๆๆ
    รายงานข่าวบอกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ลดลงเป็นจำนวนมากจนเห็นได้ชัดในตลาด South-east Asia เนื่องจากอุบัติเหตุทางอากาศ และความตึงเครียดทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์/ภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical tensions) สื่อฯจีนอ้างจาก Todayonline.com หนังสือพิมพ์ของสิงคโปร์
    จีนมีการใช้จ่ายในการเดินทางออกนอกประเทศมากกว่าประเทศอื่นๆ (กระเป๋าหนัก) เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ถึง $165 billion (ประมาณ 5.6 แสนล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว มันเป็นการถอยกลับของโชค (reversal of fortunes) สำหรับประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวขชาวจีนบางประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ภายใต้ความเสี่ยง ซึ่งประเทศเหล่านั้นกำลังเผชิญในขณะที่พวกเขามองมาที่จีนเพื่อความเจริญเติบโต (หมายความว่าบางประเทศที่ต้องการการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศของตนต้องการความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวจีน แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น แล้วจีนจะส่งนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักของตนไปเสี่ยงในประเทศเหล่านั้นทำไม? ว้าว! ไม่ได้ขู่นะ นี่คือการเตือนจากพญามังกรตะหาก)
    แนวโน้มที่ (นักท่องเที่ยวจีน) มีความเป็นกังวลเป็นอย่างยิ่งในประเทศต่างๆเช่น มาเลย์เซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นธนาคารของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะช่วยบูสท์เศรษฐกิจที่ล่าช้าของประเทศเหล่านั้นให้เติบโตขึ้นมาได้
    Will Horton นักวิเคราะห์ประจำศูนย์กลางการบิน ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในฮ่องกงกล่าวว่า "ตลาดเอเซียเหล่านี้ได้กลายเป็นที่รองรับกระแสการไหลออกของชาวจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และได้มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้เป็นที่ยอมรับว่าตลาดจีนจะมีความก้าวหน้าเหนือกว่าประเทศอื่นๆทั้งหมด" (จักรวรรดิเฮเก้และโปรอเมริกาได้ยินหรือเปล่า? คริๆ)
    นักวิเคราะห์กล่าวว่า "สื่อฯจีนและการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมในทางการเมืองสามารถที่จะปิดกระแสการไหลของจราจรได้ในทันที - แต่ส่วนมากแล้วเป็นไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น การให้ความเชื่อมั่นกับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป ย่อมจะสร้างปัญหาเช่นนี้ขึ้นมาโดยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้"
    ไม่รวมประเทศไทย (Excluding Thailand) โปรดฟังอีกครั้ง "Excluding Thailand! ฮี่ๆๆ" ซึ่งได้ประจักษ์พยานแล้วว่ามีการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนตั้งแต่มีการปฏิวัติยึดอำนาจโดยทหารเมื่อปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้ลดลงในสามเดือนแรกของปีนี้ถึง 1.5 ล้านคน จาก 1.9 ล้านคนเมื่อต้นปีนี้ จากผลการวิจัยของศูนย์วิจัย Centre for Aviation
    รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า สัญญาณที่ส่งออกไปนี้ยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการเดินทางของชาวจีนไปในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นประเทศไทย (excluding Thailand) (โปรดฟังอีกครั้ง "นักท่องเที่ยวชาวจีนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นประเทศไทย ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง") ซึ่งลดลงมาที่ 6.2 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว (2014) จาก 6.4 ล้านคนในปี 2013
    ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นกลับได้รับการช่วยเหลือจากค่าเงินอ่อน และส่วนที่เหลือในเอเซียเหนือ (ไซบีเรียและตะวันออกไกลของรัสเซีย) กลายเป็นสถานที่ๆนักท่องเที่ยวชาวจีนยินดีที่จะกระโดดเข้าไป (การท่องเที่ยวในภูมิภาคเหล่านั้น) เติบโตขึ้นถึง 38% เป็น 3.3 ล้านคนในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ (3,300,000 / 38 * 100 = 8,684,210 ว้าววว! ปีที่แล้วมีตั้ง 8.6 ล้านกว่าคนเลยหรือ? แล้วเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนำไปจ่ายในประเทศเหล่านั้นจะเท่าไรหละนี่?)
    Mr Michael Beer นักวิเคราะห์ด้านการบินคนหนึ่งที่ Citigroup ในฮ่องกงกล่าวว่าอุบัติเหตุทางอากาศ (เครื่องบินตก-สูญหาย) เมื่อปีที่แล้วซึ่งเกี่ยวข้องกับเที่ยวบินที่ MH370 และ MH17 ของสายการบิน Malaysia Airlines พร้อมทั้งเที่ยวบินที่ QZ8501 ของ Indonesia AirAsia ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของเหล่านักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าว
    มาเลเซียต้องแบกรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างหนักเกี่ยวกับการสูญเสียของเที่ยวบินที่ MH370 ซึ่งหายไปอย่างลึกลับจากเส้นทางที่จะไปยังกรุงปักกิ่งพร้อมกับชาวจีนจำนวน 152 คนจากผู้โดยสารทั้งหมดจำนวน 239 คนบนเครื่องบินลำดังกล่าว ยิ่งทำให้ชาวจีนไม่ต้องการจะเดินทางไปยังประเทศเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น
    ต้องบอกเลยว่าการที่จีนเดินหมากตานี้ ก็เพื่อส่งสัญญาณบางอย่างไปยังกลุ่มประเทศโปรอเมริกาที่จ้องจะหาเรื่องทะเลาะกับจีนอันสืบเนื่องมาจากข้อพิพาทในทะเลจีนใต้นั่นแหละ และสัญญาณที่ว่าก็คือ "การเตือน" นั่นเอง หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นการขู่ทางการเมืองก็แล้วแต่จะมอง แม้ว่ามาเลเซียจะไม่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ แต่ดูเหมือนว่าจักรวรรดิเฮเกก็พยายามที่จะให้มาเลเซียเข้าไปเกี่ยวข้องหรือบีบให้มาเลเซียทำอะไรซักอย่างที่จะเป็นการต่อต้านจีนในกรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ โดยยกเรื่องการคอรัปชั่นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินใต้โต๊ะจากสหรัฐฯที่นายกฯมาเลเซียกำลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง งานนี้เป็นการแบล็คเมล์เห็นๆ ทั้งๆที่เมื่อปีที่แล้วตอนน้ำท่วมมาเลเซียนายกฯมาเลเซียก็ยังไปตีกอล์ฟกับโอบาม่าอยู่เลย วันนี้แว้งกัดมาเลเซียซะแล้ว ส่วนอินโดนีเซียนั้นล่าสุดก็อยากจะเอี่ยวในเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้กับจีนด้วย ตามคำยุของจักรวรรดิเฮเก
    จีนก็เลยออกมาบอกว่า จะเอาความขัดแย้งซึ่งไม่มีวันที่จะชนะจีนได้ หรือจะเอาเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวจีนอย่างเดิมและเพิ่มมากขึ้นอย่างประเทศอื่นๆซึ่งให้ดูไทยเป็นตัวอย่าง ถ้าอยากจะงัดข้อกับจีนก็ตามใจ จีนไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนแหกตาหรือเรื่องการค้ามนุษย์มาขู่ประเทศอื่นอย่างสหรัฐฯหรืออียูเพื่อกีดกันการค้าจากประเทศอื่นที่ไม่ยอมก้มหัวให้สหรัฐฯและอียูหรอก เว้ากันซื่อๆเลยว่าไม่อยากได้นักท่องเที่ยว (และนักธุรกิจนักลงทุน) ชาวจีนแล้วใช่ไหม? งั้นจีนยกให้ไทยหมดเลยนะ ฮี่ๆๆ
    เข้ามาเลยครับ... ตอนนี้เรามีห้องน้ำสาธารณะข้างคลองเตรียมไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินให้กับเหล่านักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว (มั๊ง?) ต้องถามท่านผู้ว่าฯททท.กับท่านรมว.การท่องเที่ยวฯแล้วหละว่าเตรียมพร้อมไว้หรือยัง? ฮ่าๆๆ กรณีนั้นจะไปโทษเขาซะทั้งหมดก็ไม่ได้นะ ก็คนมันปวดแบบอั้นไม่ไหวแล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนอาจจะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือชาวบ้านแถวนั้นอาจจะไม่ยอมให้เข้าก็ได้ แทนที่จะไปโทษนักท่องเที่ยวฝ่ายเดียว แล้วทำไมถึงไม่มองมาที่ตัวเองว่าเรามีบริการสุขากรณีเร่งด่วนแบบนั้นรองรับพวกเขาไว้พร้อมแล้วหรือ? ถ้ายังไม่พร้อมก็ให้รีบไปทำ เงินงบประมาณก็จะได้ลงไปสู่พื้นที่ในอีกทางหนึ่งด้วย นี่อุตส่าห์ชี้ช่องให้แล้วนะ
    บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วญี่ปุ่นหละ ทำไมนักท่องเที่ยวจีนนิยมไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นทั้งๆที่มีความตึงเครียดกับจีนมากกว่าประเทศอื่นด้วย (ยกเว้นอเมริกา) และญี่ปุ่นก็โปรอเมริกาตัวยงด้วยสิ? จำได้ว่าเมื่อราว 1-2 เดือนก่อนได้ลงข่าวให้อ่านแล้วประมาณว่าจีนจะใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดในระดับประชาชนระหว่างสองประเทศเป็นยาวิเศษในการสมานแผลรอยร้าวในใจแทนการใช้กำลังและการเมืองแบบก้าวร้าว
    กรณีของเวียตนามก็เช่นกันเท่าที่ติดตามและสังเกตจากข่าวของสื่อฯจีนก็พบว่าจีนก็สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปเวียตนามและช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวเวียตนามด้วยนะ อาจจะมีการตอบโต้ทางการเมืองกันบ้างเป็นบางครั้ง ในกรณีที่นักการเมืองเวียตนามโปรอเมริกาออกมาโจมตีจีน แต่โดยภาพรวมแล้วในระดับประชาชนก็ไปมาหาสู่กันดี แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะดำเนินนโยบายต่อต้านจีนตามก้นสหรัฐฯ แต่ในระดับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแล้วภาคประชาชนไม่ได้มีท่าทีอย่างรัฐบาลญี่ปุ่น ตรงกันข้ามชาวญี่ปุ่นเริ่มจะไม่ชอบอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไปรุกรานและกำลังจะกลืนญี่ปุ่นแบบเนียนๆ
    มีนักวิเคราะ์ (ข่าวจาก todayonline.com ของสิงคโปร์ "Why Chinese tourists love Japan") บอกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี และดูเหมือนว่าชาวจีนกระเป๋าหนักจะไม่เคยรู้สึกอิ่มในการเดินทางไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเลย ตามรายงานข่าวบอกว่ามีหลายเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนไหลทะลักเข้าไปในญี่ปุ่น เช่นเป็นเพราะเงินเยนอ่อนค่า กรุงโตเกียวผ่อนคลายความเข้มงวดทางวีซ่า ชาวจีนกระเป๋าหนักชอบช็อปปิ้งของมีคุณภาพและของแท้ในญี่ปุ่น เพราะในจีนมีของปลอมค่อนข้างมาก (อันนี้จีนเขาก็ยอมรับเอง และพึ่งจะจับกุมดำเนินคดีกับบริษัทและบุคคลที่ทำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอ็ปเปิลปลอมขึ้นมา) นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ชอบของใช้ในครัวเรือนจากญี่ปุ่น และชอบที่นั่งไฮเทคในห้องน้ำ (high-tech toilet seats) ของญี่ปุ่น (ไฮเทคอย่างไรหรือ มันสามารถยื่นมือมาช่วยล้าง...ให้หลังจากเสร็จกิจแล้วหรือ? นั่นก็เกินป๊ะ) ที่ว่าไฮเทคนี้เขาบอกว่ามันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบสมบูรณ์ (นั่นแหละที่กลัวอ่ะ กลัวว่าพอบางคนนั่งแล้วอาจจะไม่อยากจะลุกนะสิ) และยังมีความร้อน (น้ำร้อน?) มีแม้กระทั่งลำโพงที่สามารถตั้งเพลงให้เล่นไว้ล่วงหน้าได้ด้วย ว้าววว!
    คำถามย่อยก็คือว่า อ้าวกะแค่โถห้องน้ำไฮเทคแค่นี้จีนทำเองบ้างไม่ได้หรือ? ทำได้ครับ ทำมาแล้วด้วย และจีนก็ทำขายในญี่ปุ่นแล้วก็ส่งกลับมาขายที่จีนด้วย (re-exported to China) แต่นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคเหล่านี้ก็ยังนิยมของญี่ปุ่น เขาบอกว่าบางครั้งมันก็อธิบายยากว่าทำไมชาวจีน (บางกลุ่ม) ถึงนิยมของญี่ปุ่นมากกว่าของจีน เช่นหม้อหุงข้าวของญี่ปุ่นจะได้รับความนิยมมากกว่าของจีนซะอีก ส่วนกรณีของการช็อปปิ้งสินค้าราคาแพงของหรูนั้น นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเพราะว่าจีนเก็บภาษีสินค้าประเภทนี้ภายในประเทศสูงมาก (มันเป็นเทคนิคในการรีดภาษีจากพวกคนรวยโดยเฉพาะเลยหละ ชาวบ้านทั่วไปไม่เดือดร้อน เพราะไม่ต้องใช้ของแบรนด์เนมราคาแพงๆ) แต่พวกนี้จะหันไปช็อปที่ญี่ปุ่นแทนเพราะมีราคาถูกและได้รับยกเว้นภาษีด้วย
    จะเห็นได้ว่าแม้ในทางการเมืองระหว่างประเทศจีนกับญี่ปุ่นจะฮึ่มๆใส่กันเป็นบางครั้งและบ่อยครั้งด้วย แต่ในระดับประชาชนนั้นจีนไม่ได้กีดกันในเรื่องการท่องเที่ยวเลย ยิ่งสนับสนุนด้วย นี่คือการเดิมเกมผูกใจประชาชนชาวญี่ปุ่น เพื่อลดความเกลียดชังและขัดแย้งกันระหว่างประชาชนทั้งสองชาติ วันหนึ่งถ้ามีกระแสประชาชนชาวญี่ปุ่นนิยมจีนขึ้นมาแทนอเมริกาเมื่อไร รัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะต้องคิดหนักในการดำเนินนโยบายต่างประเทศกับจีนก็ได้ และคนที่จะเครียดหนักที่สุดก็จักรวรรดิเฮเกนั่นเอง
    The Eyes
    29/08/2558
    ----------
    Air Crashes and Political Tension in SE Asia Scare away Chinese Tourists - People's Daily Online
    http://www.todayonline.com/…/chinese-tourists-spurn-south-e…
    http://www.todayonline.com/…/chinese-tourists-staying-away-…
    http://www.todayonline.com/…/why-chinese-tourists-love-japan
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การเล่นหุ้น ทำให้คนหมดตัวมาเยอะแล้ว เมื่อ 10 กว่าปีก่อนผมได้พบคนเขียนโปรแกรมทำนายหุ้นก็เลยได้เข้าไปคุยเพื่อขอความรู้ เขาเล่าให้ฟังว่ามีสองผัวเมียทำอาชีพที่ช่วยรักษาคน มีเงินเก็บจากการทำงานมานานหลายปี เอาเงินมาเล่นหุ้นคิดว่าจะได้ผลตอบแทนดีๆ แต่สุกท้ายเงินเก็บนั้นหมดไปกับการเล่นหุ้นน่ะครับ

    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ชาวนาจีนเล่นมาร์จิ้นจนล้มละลายจากตลาดหุ้น
    หยาง เชง ชาวนาจีนจากภาคใต้ของประเทศเป็นตัวอย่างที่คลาสสิคของการเล่นหุ้นจนหมดตัวล้มละลายจากฟองสบู่ตลาดหุ้นที่แตก
    หยางลงทุนในหุ้นด้วยเงินเก็บ$164,000 และเอาเงินของญาติมาเล่นหุ้นด้วยเพราะเชื่อในนโยบายของรัฐบาลจีนว่าจะดูแลและส่งเสริมตลาดหุ้น
    พอหุ้นขึ้น โบรกเก้อร์แนะนำให้หยางเล่นมาร์จิ้น คือกู้เงิน$1,000,000 หรือ4 เท่าของเงินหน้าตักเพื่อลงทุนในหุ้น
    หยางไม่ได้กระจายความเสี่ยงของพอร์ต แต่เก็งกำไรในหุ้นเพียงตัวเดียว คือบริษัทเหมืองแร่
    พอดัชนีตลาดแตะ4,000ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หยางรู้สึกว่าภาวะหุ้นร้อนแรงไปแล้ว แต่เขายังหลงมั่นใจว่า ยังไงก็ตามรัฐบาลจะดูแลตลาดหุ้น ตลาดหุ้นทะยานต่อไปทะลุ5,000ก่อนที่จะแครช
    เหมือนกับแมงเม่าทั้งหลาย หยางกระโดดออกจากตลาดหุ้นไม่ทัน
    พอร์ตของหยางโดนโบรกเก้อร์บังคับขาย ทำให้หยางตอนนี้ติดหนี้โบรกเก้อร์เท่ากับจำนวนเงินที่เขาเอามาลงทุน
    "ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ผมเชื่อมั่นในรัฐบาลเกินไป ผมจะไม่แตะหุ้นอีกเลย ผมได้ทำลายทุกคนในครอบครัว" หยางกล่าวกับCNBC
    thanong
    28/7/2015
    Chinese farmer loses money and hope to stock market
     

แชร์หน้านี้

Loading...