ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัสเซียประกาศพร้อมที่จะน็อคเอาท์ระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯที่มีอยู่ทั่วโลก, เครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลธ์ของสหรัฐฯไม่สามารถหลบซ่อนจากระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของรัสเซียได้

    [​IMG]

    ------------
    มาดูข่าวมันส์ๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางกองทัพของรัสเซียและสหรัฐฯ อีกซัก 2 ข่าวบ้าง เมื่อจักรวรรดิเฮเกพยายามยั่วยุให้หมีขาวเกิดอาการหงุดหงิด ดูซิว่าพี่หมีขาวจะตอบโต้อย่างไรบ้าง เมื่อวันที่ 22 ก.ค.58 ที่ผ่าน สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Russia Will Knock Out US Missile Shield Installations If Attacked – General" ฮี่ๆๆ นั่นเป็นคำพูดของอดีตนายพลคุมนิวเคลียร์ในกองทัพรัสเซีย
    รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ค.58 ที่ผ่านมา Viktor Yesin อดีตผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธยุทธศาสตร์ (นิวเคลียร์) ของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียว่า "หาก (รัสเซีย) ถูกโจมตี รัสเซียก็จะโจมตีตอบโต้กลับไปยังที่ตั้งการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของโลกอย่างสาสม ไม่ว่าที่ตั้งทางทหารที่ใช้สำหรับป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯจะอยู่ในมุมไหนของโลก จะกลายเป็นเป้าหมายหลักในการตอบโต้หมด ในกรณีที่มีการรุกรานทางกองทัพต่อประเทศนี้" (เป็นไงเล่าอเมริกา นี่รัสเซียส่งระดับอดีตผบ.กองกำลังนิวเคลียร์ออกมาเตือนก่อนแล้วนะ แม้จะไม่เป็นทางการก็เหมือนส่งสัญญาณบางอย่างให้สหรัฐฯรู้ว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัวให้มากดีกว่า เดี๋ยวหมีขาวจะหมดความอดทนซะก่อน)
    ความตึงเครียดนี้ระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียเกิดขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯพยายามที่จะเข้าไปติดตั้งขีปนาวุธของตนในกลุ่มประเทศพันธมิตรยุโรปเมื่อเร็วๆนี้ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากอิหร่าน (และเกาหลีเหนือ) นั่นคือข้ออ้างของสหรัฐฯ ทางกรุงวอชิงตันยืนยันว่าระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปไม่ได้มุ่งเป้าหมายไปที่รัสเซีย แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันโดยกฎหมายใดๆต่อกรุงมอสโคว์ว่าระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯในยุโรปจะไม่ได้มุ่งมาเพื่อยับยั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย
    อีกซักข่าวนะครับ... เมื่อต้นเดือนก.ค.58 ที่ผ่านมา Sputnik news พาดหัวข่าวอีกเรื่องหนึ่งว่า "US ‘Stealth’ Bombers Can’t Hide From Russian Anti-Aircraft Missiles" (อ่ะนี่... ไม่ได้ขู่นะ ของจริง) ตามรายงานข่าวอ้างคำพูดของพลตรี Sergei Babakov ของรัสเซียว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งรเบิดล่องหนรุ่น Northdrop B-2 Spirit Stealth หรือ Lockheed F-117 Nighthawk ของสหรัฐฯก็จะไม่สามารถลอดพ้นจากการไม่ถูกตรวจจับจากระบบขีปนาวุธของรัสเซียไปได้
    พลตรี Sergei Babakov กล่าวว่า "เครื่องบินเสตลธ์ของอเมริกานั้นเป็นแค่ของโชว์ต่อสาธารณชนเท่านั้น (a publicity stunt) แม้กระทั่ง R-118 (ระบบป้องกันภัยทางอากาศ?) ของพวกเราก็ยังสามารถตรวจจับ F-117 [Nighthawks] ของสหรัฐฯได้เลย So… ดังนั้นจึงยังไม่มีใครที่มีหมวกล่องหนจริงๆ"
    Babakov กล่าวต่ออีกว่าการทดลองอย่างเป็นทางการในการขยายพิสัยการยิงขีปนาวุธระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 Triumf ที่มีความก้าวหน้ามากกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย
    S-400 Triumf (SA-21 Growler) ถือว่าเป็นระบบขีปนาวุปต่อต้านอากาศยานของรัสเซียล้ำยุค (next-generation) สามารถบรรจุขีปนาวุธชนิดต่างๆได้ถึง 3 ชนิดที่มีศักยภาพในการทำลายเป้าหมายตั้งแต่ระยะพิสัยใกล้-ถึง-ไกลสุด (short-to-extremely long range)
    รายงานข่าวบอกว่าปัจจุบันนี้รัสเซียกำลังดำเนินการโปรแกรมติดตั้งอายุธรุ่นใหม่ภายให้งบประมาณ $325-billion (ประมาณ 11 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ในการปรับปรุงอาวุธทางกองทัพให้ทันสมัยภายในปี 2020
    สหรัฐฯอาจจะบอกว่ารัสเซียขี้โม้... อ่ะๆๆ ลองดูก่อนไหมหละ? ถ้าร่วงลงมาก็อย่าโวยวายรัสเซียหละ คริๆ
    The Eyes
    26/07/2558
    ----------
    Russia Will Knock Out US Missile Shield Installations If Attacked – General / Sputnik International
    US Missile Defense in Europe 'Directed Against' Russia's Iskander System / Sputnik International
    US ‘Stealth’ Bombers Can’t Hide From Russian Anti-Aircraft Missiles / Sputnik International
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อังกฤษเหยียบคันเร่งทำประชามติ Brexit กลางปีหน้า สก็อตแลนด์บอกว่างั้นการทำประชามติประกาศเอกราชอีกครั้งเห็นจะเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ มันส์…

    [​IMG]

    -----------
    ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย... ใกล้อะไรครับแอ็ดมิน? ใกล้จะได้เห็นวันที่อียูจะแตกคอกันมากขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายแล้วก็ เพล๊งงงง!.... ไงครับ อยากเห็นวันนั้นเร็วๆจังเลย Oopz! ขออภัยครับอินไปนิดนึง คริๆ มาเล่าข่าวต่อดีกว่าครับ
    เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซีย (อันนี้ต้องย้ำบ่อยๆ เราชอบปูติน ฮี่ๆๆ) รายงานว่า "นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรได้ตัดสินใจที่จะใส่เกียร์เร่งความเร็วการทำประชามติเกี่ยวกับสถานะของการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปในเดือนมิถุนายนปี 2016 เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับกรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากกรุงลอนดอนอยากให้มีการปฏิรูปสหภาพยุโรปใหม่ - สำนักข่าว The Independent อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา"
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม (ปีนี้) นายคาเมรอนได้สัญญาว่าจะจัดให้มีการทำประชามติว่าสหราชอาณาจักรควรจะอยู่ในสหภาพยุโรป 28 ประเทศอีกต่อไปหรือไม่ก่อนสิ้นปี 2017 โดยนายเดวิด คาเมรอน ยืนยันว่ากรุงลอนดอนควรจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แม้ว่าในแง่ของการกลับมาเจรจาต่อรองใหม่
    แหล่งข่าวอาวุโสในรัฐบาลอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าว The Independent ของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ว่า "นายกฯคาเมรอนจะประกาศวันที่ (สำหรับการทำประชามติ) ในเดือนมิถุนายน 2016 ในการกล่าวสุนทรพจน์ ณ ที่ประชุมพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ที่เมือง Manchester เดือนตุลาคมนี้"
    ตามรายงานข่าว นายกฯอังกฤษคำนวนว่ากรุงบรัสเซลส์จะอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายอียูมากขึ้นและทำงานเพื่อผลประโยชน์ของแรงงานต่างชาติในอียูที่มาจากนอกสหราชอาณาจักรหลังการเจรจาเงินช่วยเหลือกรีซ ซึ่งภาวะความเป็นผู้นำยุโรปได้แสดงให้เห็นว่าพร้อมที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการออกจากอียู (นี่เป็นการขู่อียูชัดๆ เดี๋ยวก็บอกว่าจะออก เดี๋ยวก็บอกว่าจะไม่ออก แต่ที่แน่ๆก็คือถ้ากรุงบรัสเซลส์ไม่ยอมรับเงื่อนไขหรือข้อเรียกร้องบางอย่างจากอังกฤษ อังกฤษก็จะใช้ไม้ตายคือทำประชามติออกจากอียูซะเลย)
    รายงานข่าวบอกว่าการต่อต้านอียูได้เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งตามด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า สวัสดิการของประเทศได้รับความเดือดร้อนจากการไหลทะลักเข้ามาของแรงงานข้ามชาติจากประเทศสมาชิกของอียูที่มีความร่ำรวยน้อยลง
    เมื่ออังกฤษยกเรื่องขอแยกตัวออกจากอียูมาขู่ ดูซิว่าทางอียูจะตอบโต้อังกฤษอย่างไรบ้าง? ในวันเดียวกันนี้ Sputnik news พาดหัวข่าวอีกเรื่องหนึ่งว่า "Another Referendum for Scottish Independence 'Inevitable'" แปลว่า "การทำประชามติอีกหนเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของชาวสก๊อตแลนต์เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้" นั่นไง... นี่แหละทีเด็ดอีกอันหนึ่งของฝั่งโปร-อียูหละ นาย Alex Salmond อดีตรัฐมนตรีคนที่หนึ่งแห่งสก็อตแลนด์ (Former Scottish First Minister ประจำสหราชอาณาจักร) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "การทำประชามติแยกเป็นเอกราชครั้งที่สองเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"
    Salmond สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรจากพรรค Scottish National Party (SNP) ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า "ผมคิดว่าการทำประชามติประกาศอิสรภาพ/เอกราช (independence referendum) ครั้งที่สองเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่า คำถามไม่ใช่สิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ (เพราะว่า) มันเป็นเรื่องของเวลา (เท่านั้น)"
    มีอะไรเป็นเครื่องยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของฝั่งสก็อตแลนด์ในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการทำประชามติของอังกฤษหรือเกี่ยวข้องกับอียูด้วย? เคยลงข่าวนี้ให้อ่านนานแล้วว่าสก็อตแลนด์เป็นโปร-อียู ผลการทำประชามติเมื่อเดือนกันยายนปี 2014 ปรากฎว่า 55 เปอร์เซนต์ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงได้ปฏิเสธการแยกตัวของสก็อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร และกลายเป็นรัฐเอกราชในเวลานั้น (ตอนนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าอียูอยู่ข้างอังกฤษก็ได้ จึงไม่มีการสนับสนุนฝั่งสก็อตแลนด์มากนัก)
    และตามรายงานข่าวบอกว่า "ประเด็นที่สองที่ทำให้สก็อตแลนด์เดินหน้าทำประชามติแยกดินแดนในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกถาวรของสหภาพยุโรป หากว่าประเทศนี้ถูกลากออกไปในการออกเสียงลงคะแนนของประชาชนในอังกฤษ นั่นอาจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสถานการณ์นั้น" โดยอ้างคำพูดของ Salmond
    Salmond เน้นย้ำว่า "ประเด็นที่สามซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่จากเรื่องของการขาดงบประมาณและกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการ แทนที่เราจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด เรากำลังได้รับการรัดเข็มขัดอย่างสูงสุด" รายงานข่าวบอกว่า พรรค SNP ซี่งแพ้การทำประชามติแบ่งแยกประเทศในครั้งแรก (เมื่อปี 2014) อาจจะเสนอให้มีการทำประชามติแบ่งแยกประเทศอีกครั้งในปี 2016 (เช่นกัน)
    The Eyes
    27/07/2558
    ----------
    Cameron to Fast-Track Brexit Referendum to June 2016 – Reports / Sputnik International
    http://www.independent.co.uk/…/eu-referendum-david-cameron-…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    มีคนส่งมาให้อ่าน คิดว่าข้อใดตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุดเวลานี้?
    คำพูดกินใจของปราชญ์จีน...
    ๑. ซุนวู -
    "ชมคนด้วยวาจา...มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ ทำร้ายคนด้วยวาจา...สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ..."
    ๒. ฮั่วหลัวเกิง -
    "คนอื่นช่วยเรา...เราจะจำไว้ชั่วชีวิต เราช่วยคนอื่น...จงอย่าจำใส่ใจ"
    ๓. ปันกู้ -
    "น้ำใสสะอาดเกินไป...ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา คนที่เข้มงวดเกินไป...ย่อมไร้ซึ่งบริวาร"
    ๔. หลี่ต้าเจา -
    "ความไม่พอใจ...ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ห่อเหี่ยว ยอมจำนนต่ออุปสรรค"
    ๕. ปาจิน -
    "ในชีวิตของเรา...มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่างดวงหนึ่ง ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม..."
    ๖. หยางว่านหลี่ -
    "ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ..."
    ๗. หูหลินอี้ -
    "สุขสบายเกินไป...เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน จิตใจก็พลอยขลาดกลัว"
    ๘. ซุนซือเหมี่ยว -
    "พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว"
    ๙. ลู่ซู -
    "คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป...เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!"
    ๑๐. ฟังเสี้ยวหยู -
    "ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี...ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ...ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ...!"
    ๑๑. จางจื้อซิน -
    "ต้องกล้าที่จะมองความจริง...แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ"
    ๑๒. ซุนยาง -
    "ความอิจฉา...เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ ความระแวงสงสัย...เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก ความรัก...ถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้"
    ๑๓. เจิงจิ้นเสียนเหวิน -
    "ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น...มาตำหนิตัวเอง ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง...ให้อภัยผู้อื่น"
    ๑๔. ก่วนจ้ง -
    "ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย...ย่อมยากจน ขยันและประหยัด...ย่อมร่ำรวย"
    ๑๕. ขงเบ้ง -
    "สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น..."
    ๑๖. หลี่ปุ๊เหว่ย -
    "ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น...จักต้องเอาชนะตัวเองให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะว่าคนอื่น...ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น...ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน"
    ๑๗. เล่าจื้อ -
    "ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด...ผู้ที่รู้จักตัวเองเป็นคนมีสติ"
    ๑๘. ขงจื้อ -
    "สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ...จงอย่าทำกับคนอื่น"
    ๑๙. ซือหม่าเชียน -
    "คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้...คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้!!"
    ๒๐. ซือหม่าเชียน -
    "คนเราหนีไม่พ้นความตาย...แต่ความหมายการตายนั้น ไม่เหมือนกัน...บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา...บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก..."
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "จูเลียส ซีซาร์ : เมื่อความมั่นใจทนงในตนก้าวเกินขอบเขตมาอยู่ผิดตำแหน่ง กลายเป็นความหยิ่งยโสดื้อรั้นก็พาชีวิตสู่จุดจบ"
    ... คำว่า "กษัตริย์" ในภาษาเยอรมันเรียกว่า "ไกเซอร์" Kaiser ส่วนคำว่า "ผู้ปกครองสูงสุด" ในภาษารัสเซีย เรียกว่า "ซาร์" Czar , คำว่า "ชาห์" ของอิหร่าน ล้วนมาจากคำละติน ว่า "ซีซาร์" Caesar ที่มาจากชื่อของผู้นำจักรวรรดิโรมันผู้นี้ "จูเลียส ซีซาร์"
    ... เขามีชีวิตอยู่ระหว่าง 101 - 44 ก่อนคริศตกาล เขาเป็นทั้งนักรบที่กล้าหาญ นักบริหารที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ในการคาดเดาสถานการณ์อย่างแม่นยำ นักเขียนที่เก่ง นักปราศรัยชั้นเลิศที่มีพลังงานในการชักจูงใจผู้คนได้ดี ทะเยอทะยานมั่นใจในตัวเอง เป็นนักเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
    ... แต่นั้นเป็นช่วงที่เขากำลังอยู่ในเส้นทางที่ไต่เต้าไปสู่ความจุดสูงสุดในชีวิต
    ... วันหนึ่งเขาบังเอิญ ไปเห็นรูปปั้นครึ่งตัวของ "อเล็กซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย" จึงเกิดการเปรียบเทียบกันกันตนเองและรำพันว่า ตนมีอายุเท่ากัน อเล็กซานเดอร์เมื่อตอนสิ้นพระชนม์ ด้วยวัย 32 ปีที่ตอนนั้นอเล็กซานเดอร์ได้พิชิตโลกมาแล้ว ขณะทีตนยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เขาสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ จึงได้เข้าสู่สนามการเมืองของโรม ที่บันไดสำคัญคือ "การเป็นทหารขุนศึก" ในสงครามไปตีเมืองต่างๆ
    ... แต่ "จุดดี" ที่คือความมั่นใจทะเยอทะยานทนงตนของเขาที่เป็นสิ่งผลักดันให้มาสู่ความฝันจนสำเร็จ เมื่อมันเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่บนจุดสูงสุดของชีวิตมันกลับเปลี่ยนรูปเป็น "จุดอ่อน" คือความหยิ่งยโสดื้อรั้นประมาทของเขา ที่นำทางไปสู่จุดจบในทันที
    ... ผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนย่อมมีศัตรู ในโลกนี้มีคนอีกหลายคนที่ทนเห็นความสำเร็จของผู้อื่นไม่ได้ "จูเลียส ซีซาร์" เป็นคน ๆ หนึ่งที่ถูกอิจฉาริษยา เขาเองก็รู้ตัวดี แต่เขาจำเป็นต้องทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นเสียบ้าง คนที่คิดปองร้ายเขา คือนักโทษคนหนึ่งที่ซีซาร์เองเป็นผู้ออกคำสั่งให้ไว้ชีวิต จูเลียสไม่เคยคิดเลยว่า คน ๆ นี้จะเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ เขาผู้นั้นมีชื่อว่า "มาร์คุส จูนิอุส บรูตุส" ซึ่งเขารับเป็นลูกเลี้ยงในเวลาต่อมา
    ... "การลอบฆ่า" เป็นไปอย่างง่ายดาย ซีซาร์เองไม่เคยได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย จึงไม่มีการระวังตัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในวันที่ 14 มีนาคมก่อนคริสต์ศักราช 44 ปี ซึ่งเป็นวันก่อนวันเกิดเหตุร้ายเพียงหนึ่งวัน ก็ได้มีสัญญาณหลายอย่างที่แสดงว่า โลกเรากำลังจะต้องสูญเสียผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่ง พายุพัดแรงจัด มีดาวหางขึ้นในท้องฟ้าคัลเฟอร์เนีย ภรรยาของจูเลียสนึกสังหรณ์ใจจนถึงกับกราบขอร้องอ้อนวอนมิให้สามีเธอเดินทางไปประชุมสภาเซเนทในวันรุ่งขึ้น
    ... แต่ "จูเลียสกลับหัวเราะเยาะ" ราวกับเห็นเป็นเรื่องขบขันเสียเต็มประดา จูเลียสดื้อรั้นที่จะไปประชุมในวันนั้นให้ได้ เมื่อเขาเดินผ่านห้องโถง รูปปั้นตัวเขาเองก็หล่นลงมาแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นอกจากนั้นระหว่างทาง มีชายคนหนึ่งแอบส่งจดหมายให้เขาฉบับหนึ่งขอร้องให้เขาอ่านก่อนที่จะเข้าประชุม แต่จูเลียสเพียงแต่กำไว้ในมือโดยไม่ทันได้อ่าน ถ้าเพียงแต่เขาจะได้มีโอกาสอ่านจดหมายฉบับนั้น ประวัติศาสตร์โรมันก็คงจะเปลี่ยนไปอีกเป็นคนละรูป เพราะในจดหมายฉบับนั้นมีรายชื่อของผู้ที่คิดวางแผนจะเอาชีวิตเขาทั้งหมด รวมทั้งแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการนั้นด้วย
    ... 11.00 น. เช้าวันที่ 15 มีนาคม ก่อนคริสต์ศักราช 44 ปี ขณะที่จูเลียส ซีซาร์กำลังยืนอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการประชุมในสภาเซเนท แคสซิอุส มาร์คุส จูนิอุส บรูตุส ลูกเลี้ยงของเขา หนึ่งในจำนวนผู้วางแผนทรยศก็ได้ปักดาบคู่มือทะลุผ่านลำคอ ซีซาร์ยกมือขึ้นรับ แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาล้มลงขาดใจตายจมกองเลือดอยู่ ณ ที่นั่นเอง
    ... "ความมั่นใจดื้อรั้นในตัวเอง" จึงเหมือนดาบสองคม ที่ทั้งสร้างมิตร สร้างความสำเรํจและสร้างศัตรูและสร้างสุสานจุดจบให้กับชีวิตของเราได้
    .
    https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์ : เครื่องมือใส่ร้ายป้ายสีศัตรูทางการเมืองของอเมริกา"
    .
    ... องค์การนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1978 ใน ปลาย "สมัยสงครามเย็น" โดยมีจุดประสงค์เพื่อจับตาตรวจสอบและประจานออกสื่ออดีต "โซเวียตรัสเซีย" ต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะประเทศลูกน้องบริวารตัวเอง ประเทศเป็นกลางหรือแม้แต่เพื่อสั่นครอนประเทศบริวารของโซเวียตรัสเซียเอง
    ... ใครคือผู้บริจาครายใหญ่?
    ... "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์" เป็นองค์การพัฒนาเอกชนที่อยู่ได้โดยการรับบริจาคจากทั่วโลก โดย 75% มาจากอเมริกาเหนือ รายใหญ่คือ "อเมริกา" ส่วนอีก 25%มาจากยุโรปตะวันตก และอีกแค่ 1% มาจากประเทศที่เหลือทั่วโลก
    ... ดังนั้นจึงเกิดการต่อต้านจากหลายประเทศว่าองค์การนี้เป็นแค่ "สื่อ" หรือเครื่องมือหนึ่งของอเมริกาและประเทศตะวันตกในการโจมตีและกดดันบีบประเทศต่างๆเพื่อให้ปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อสอดรับกับผลประโยชน์ของ "อเมริกา" เสียเอง
    ... โดยเคยมีผู้ทรงคุณวุฒิของโนเบลสองท่านอย่าง Adolfo Pérez Esquivel และ Mairead Maguire และกลุ่มของนักวิชาการทั่วโลกกว่า 100 คน เคยออกมาเขียนหนังสือร้องเรียนถึงองค์การนี้ว่า รัฐบาล"อเมริกา" มีอิทธิพลเหนือ "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์" มากเกินไป ใกล้ชิดกันเกินไป โดยมีการล็อคเป้าประเทศที่ต้องการโจมตีชัดเจนอย่างเช่น เวเนซุเอล่า
    ... หรือแม้แต่การเอาที่ปรึกษาพิเศษของประธานาธิบดีอเมริกาในสมัยนั้นอย่าง บิล คลินตัน อย่างนาย Tom Malinowski.( ที่เป็นคนเขียนคลิปสุนทรพจน์ให้นาง Madeleine Albright รมว. ต่างประเทศในขณะนั้นด้วย ) มาเป็นกรรมการของ "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์" เสียเอง ...
    ... หรือแม้แต่อดีต ซีไอเอเก่าของอเมริกา Miguel Díaz ก็ยังได้มีการนั่งเป็นกรรมการในองค์การนี้ ระหว่างปี 2003 ถึง 2011 ที่ทำให้คณะนักวิขาการดังกล่าวได้ออกมาเรียกร้องว่าให้กีดกันคนเหล่านี้ออกจากการเป็นกรรมการองค์กรเพราะจะถูกมองว่าเป็นแค่องค์การเครื่องมือของ "อเมริกา" แค่นั้นเอง
    ... ยิ่งกว่านั้น Marc Garlasco อดีตนักวิเคราะห์อาวุโสของเพนตากอนก็ออกมาจากกระทรวงกลาโหมของอเมริกาเพื่อมาเป็น "ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร" ให้กับองค์การนี้ จนตอนหลังถูกต่อต้านว่าเป็นคนในของอเมริกา แถมยังมีความนิยมชมชอบในทหารนาซีของเยอรมันอย่างมาก จนถูกถอดออกไป จึงได้ไปทำงานให้กับองค์กรย่อยของสหประชาชาติแทน ... https://en.wikipedia.org/wiki/Marc_Garlasco
    ... "อคติและความลำเอียง"
    ... "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์" โดนโจมตีในหลายประเด็น เช่นเรื่อง อคติและความลำเอียง แม้แต่นายRobert L. Bernstein อดีตประธานขององค์การนี้ตั้งแต่ 1978 - 1998 และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งยังบอกเองว่า มีอคติในการเสนอรายงานเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องข้อมูลการวิจัยไม่ถูกต้องชัดเจน พยานในการให้ข้อมูลก็เชื่อถือไม่ได้ ไม่มีการกรองหรือตรวจทานข้อมูลให้ดี ลำเอียงเข้าข้างบางกลุ่ม บางประเทศอย่างชัดเจน
    ... นอกจากนั้นแล้ว ยังถูกวิจารณ์เรื่องว่ามีอคติกับประเทศในกลุ่ม "ลาตินอเมริกา" มากเกินไป ซึ่งรู้กันดีว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่ต่อต้านจักรวรรดิอเมริกามาตลอดเป็นร้อยปี หรือแม้แต่ประเทศในอาฟริกาอย่างเอธิโอเปีย ก็ออกมากล่าวว่า มีการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดจากองค์การนี้ ในข่าวที่เกี่ยวกับ Eritrea และ เอธิโอเปีย อีกทั้งมีอคติกับกรณีความขัดแย้งระหว่างอาหรับกับอิสราเอล ที่โดนกล่าวหาว่าเข้าข้างทั้งอาหรับ และ อิสราเอล แล้วแต่กรณี
    ... "ถูกกล่าวหาว่า ข้อมูลการค้นคว้าอ่อนไม่ถูกต้อง" ... Allegations of poor research and inaccuracy
    ... "ฮิวแมนไร้ท์วอทช์" โดนโจมตีจากนิตยสาร "ไทม์" ของอเมริกาเองว่าขาดบุคลาการที่จะไปหาข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องชัดเจน ไทม์กล่าวว่าองค์การนี้ ได้มีการขียนวิจัยทับของเดิมที่มีการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการระเบิดที่ "กาซ่า" ของปาเลสไตน์ใรปี 2006 ที่มีการกล่าวว่า "อิสราเอล" คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบจากการระเบิดครั้งนั้น แต่ก็ถูก องค์การนี้เปลี่ยนเนื้อหา เขียนทับด้วยเนื้อหาใหม่ในทีสุด เพื่อปกป้องอิสราเอล
    ... โดยองค์การนี้จะเป็นฝาแฝดกับ "องค์การนิรโทษกรรมสากล" หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ( Amnesty International หรือ Amnesty หรือ AI) ที่ก็ถูกกล่าวหาไม่ต่างกัน
    ... แล้วอย่างนี้ คนไทยเรายังจะเชื่อถือองค์การนี้กันอยู่อีกหรือ ? เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาคือ "เครืองมือ" และองค์กรย่อยของมหาอำนาจในการปั่นป่วนประเทศที่ไม่ยอมตามเขาแค่นั้นเอง
    .
    http://www.democracynow.org/…/Criticism_of_Human_Rights_Wat…
    https://en.wikipedia.org/wi…/Criticism_of_Human_Rights_Watch
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    26 ก.ค. เรือสินค้าสหรัฐฯแล่นทดสอบ “คลองสุเอซใหม่ของอียิปต์” เป็นครั้งแรกท่ามกลางฮ.บินลาดตระเวน เรือรบกองทัพอียิปต์แล่นประกบ

    [​IMG]

    เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) เรือสินค้าต่างชาติจำนวน 3 ลำจากสหรัฐฯ เดนมาร์ก และบาเรนห์ ทดสอบแล่นผ่านคลองสุเอซขุดใหม่ใหม่ของอียิปต์ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาทั้งทางอากาศที่มีเฮลิคอปเตอร์บินวนลาดตระเวน รวมไปถึงเรือรบกองทัพอียิปต์วิ่งตามประกบ หวั่นถูกกลุ่มก่อการร้าย IS ข้ามจากคาบสมุทรไซนายเข้ามาโจมตี

    [​IMG]

    สื่อรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(25 ก.ค.)โครงการระยะเวลานาน 11 เดือนที่ทางกองทัพอียิปต์ได้เริ่มการก่อสร้างมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ยาวขนานไปกับคลองสุเอซสายแรกที่ขุดเมื่อ 145 ปีมาแล้ว เริ่มเปิดทำการทดสอบในวันเสาร์(25ก.ค.)

    [​IMG]

    และเป็นที่รู้กันว่า โปรเจกต์ใหม่นี้ถือเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของประธานาธิบดีอียิปต์อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ที่เขาหวังว่าจะสามารถเพิ่มช่องทางการค้าระหว่างเอเชียและยุโรปให้รวดเร็วยิ่งขึ้นแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในคลองสุเอซเส้นเดิม โดยมีคาดว่าจะกำหนดที่จะมีการเปิดใช้คลองขุดใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 สิงหาคมนี้

    รอยเตอร์รายงานต่อว่า ซิซีมีความปรารถนาที่จะให้การก่อสร้างใหม่นี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวอียิปต์ และรวมไปถึงแก้ปัญหาอัตราว่างงานของประเทศที่สูงถึง 2 หลัก

    อย่างไรก็ตามคลองสุเอซเส้นเดิมนั้นถือได้ว่าเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งสินค้าทางน้ำเชื่อมระหว่างทวีป และยังเป็นแหล่งทำรายได้ให้กับแดนอัยคุปต์ที่ในขณะนี้กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเมืองระส่ำระสายตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา และทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เคยนำรายได้เข้าสู่ประเทศต้องหดหาย รวมไปถึงนักลงทุนต่างชาติหอบเงินหนีไม่เข้ามาลงทุนในอียิปต์อีกเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์

    สำนักข่าวมีนาของอียิปต์รายงานว่า เมื่อวานนี้(25 ก.ค.)เรือคาราวานสินค้าจำนวน 3 ลำได้วิ่งทดสอบแล่นผ่านคลองเส้นขุดใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรือสินค้าสัญชาติสหรัฐฯวิ่งมายังท่าเรืออียิปต์หลังเดินทางออกมาจากซาอุดีอาะเบีย และส่วนเรือสินค้าสัญชาติเดนมาร์กล่องมาจากสิงคโปร์เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังสหรัฐฯ ส่วนลำสุดท้ายเป็นเรือสินค้าสัญชาติบาห์เรนที่ได้เดินทางออกจากซาอุดีอาระเบียเพื่อตรงไปยังอิตาลี

    รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า การทดสอบเดินเรือผ่านคลองสุเอซสายใหม่นี้มีขึ้นท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยหนาแน่นเนื่องมาจากปัญหาภัยก่อการร้าย IS ภายใต้ชื่อกลุ่มจังหวัดไซนายที่มีฐานปฎิบัติการบนคาบสมุทรไซนายซึ่งมีพรมแดนติดต่อคลองเดินเรือสำคัญเส้นนี้

    โดยทางกลุ่มจังหวัดไซนายที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มก่อการร้าย IS ได้สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอียิปต์ไปหลายร้อยนายที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2013

    สำนักข่าวอียิปต์รายงานต่อว่า ในช่วงเวลาการทดสอบ มีการปรากฏภาพเฮลิคอปเตอร์บินวนลาดตระเวนเหนือเส้นทางคลองขุดใหม่ รวมไปถึงมีเรือกองทัพอียิปต์วิ่งประกบคุ้มกันเรือสินค้าต่างชาติที่ค่อยๆล่องผ่านคลองสายใหม่

    ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ สื่ออังกฤษได้วิจารณ์ถึงเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลอียิปต์ขยายคลองสุเอซในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า “ในท้ายที่สุดเชื่อได้ว่าอียิปต์จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลจากโปรเจกต์ขุดคลองสุเอซเส้นใหม่ที่เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนและทะเลแดง”

    สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า เส้นทางเดินเรือสุเอซสายใหม่นั้นเป็นเส้นทางที่จะสามารถทำให้เรือสินค้าประเทศต่างๆสามารถเดินทางผ่านได้จากทั้งทางเหนือและทางใต้ได้เวลาเดียวกัน เชื่อมต่อเส้นทางจากเอเชียไปยุโรปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาอ้อมทวีปแอฟริกา

    และสื่ออังกฤษรายงานต่ออีกว่า นอกจากนี้คลองสุเอซที่ถูกขุดใหม่นี้คาดว่าจะเป็นเส้นทางการค้าเพื่อประโยชน์สำหรับชนเผ่าอารเบีย และชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในเปอร์เซียตะวันออกของทะเลแดง

    จากรายงานพบว่า คลองสุเอซเส้นเดิมเป็นคลองที่มนุษย์สร้างขึ้นในอียิปต์ ระหว่าง Port Said (Būr Sa'īd) ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเมืองสุเอซบนฝั่งทะเลแดง มีความยาว 183 กม. คลองสุเอซเชื่อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้ากับทะเลแดง ผ่านช่องแคบสุเอซ ในอียิปต์ตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 101 ไมล์ เดิมทีมันถูกขุดขึ้นด้วยมือ ปัจจุบัน สามารถรองรับเรือยาว 500 ม. กว้าง 70 ม. ลึก 70 ม. ไม่มีประตูกั้นน้ำเพราะทะเลทั้ง 2 แห่งมีระดับเดียวกัน คลองสุเอซเริ่มสร้างในเดือนเมษายน ปี 1859 แล้วเสร็จในเดิอนพฤศจิกายน ปี 1869 เป็นตัวเชื่อมสำคัญในการค้าระดับโลกเนื่องจากเป็นเส้นทางลัดระหว่างยุโรปและเอเซีย ขจัดการเดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกา

    ที่มา..รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ (อ่านต่อ..http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2015
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    26 ก.ค. 'เครื่องบินเล็ก'ตกกลางชุมชนโตเกียว นักบินตายพร้อมคนบนเครื่องอีก1 ชาวบ้านข้างล่างดับ1 บาดเจ็บอีก 5 คน - สื่อระบุเป็นเครื่องสำหรับฝึกบิน

    [​IMG]

    เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกลงกลางย่านที่อยู่อาศัยในโตเกียว หลังขึ้นจากสนามบินเพียงชั่วอึดใจเมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน ขณะที่เกิดไฟลุกไหม้เครื่องบิน ตลอดจนบ้านเรือนและรถยนต์ที่อยู่ใกล้ๆ ทางด้านสื่อท้องถิ่นระบุเครื่องบินที่ตกเป็นเครื่องสำหรับฝึกบิน

    [​IMG]

    เครื่องบินแบบเครื่องยนต์ใบพัดเดียวลำนี้ ตกลงสู่ย่านที่อยู่อาศัยเขตโชฟุ ทางชานเมืองด้านตะวันตกของโตเกียว เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. (ตรงกับ 9.00 น. ตามเวลาไทย) วันอาทิตย์ หลังทะยานขึ้นจากสนามบินสำหรับเครื่องบินเล็กที่อยู่ห่างออกไปเพียง 500 เมตร

    [​IMG]

    ภาพข่าวจากทีวีเผยให้เห็นซากลำตัวเครื่องบิน นอนแน่นิ่งอยู่บนบ้านที่ถูกไฟเผาผลาญหลังหนึ่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันดับเพลิงและนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีบ้าน 2 หลังและรถยนต์ 2 คันถูกไฟไหม้ แล้วยังมีหลังคาบ้านอีกสองหลังได้รับความเสียหาย จุดที่เครื่องบินตกนี้อยู่ใกล้ๆ โรงเรียน สนามกีฬา และชอปปิ้งพลาซา

    เทรุเอกิ เซกิ โฆษกสำนักงานดับเพลิงกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยนักบินวัย 36 ปี ผู้โดยสาร 1 คนจากทั้งหมด 4 คนบนเครื่องบิน และผู้หญิง 1 คนซึ่งอยู่ในบ้านที่เครื่องบินตกใส่จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้

    นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คนคือผู้โดยสารอีก 3 คนที่เหลือ และประชาชนที่อยู่บนพื้นดินอีก 2 คน และทั้งหมดนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทว่า ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ

    ฮิเดเอกิ โคบายาชิ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครโตเกียวที่บริหารสนามบินโชฟุอยู่ในเวลานี้ บอกว่า เครื่องบินที่ตกเป็นของบริษัทเอกชนที่ใช้สำหรับการฝึกบินและกิจกรรมอื่นๆ แต่ไม่ใช่การขนส่งผู้โดยสาร สอดคล้องกับรายงานของสื่อที่ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ระหว่างการฝึกบิน

    เจ้าหน้าที่ของนิปปอน แอโรเทค เจ้าของเครื่องบิน แถลงขอโทษสำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และระบุว่า กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

    ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แถลงเช่นกันว่ากำลังสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ ภายใต้ข้อสงสัยว่าอาจมีการละเลยไม่ได้ดำเนินการตามมาตรฐานความเป็นมืออาชีพจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

    ขณะเดียวกัน สำนักงานพยากรณ์สภาพอากาศระบุว่า ขณะเกิดเหตุท้องฟ้าโปร่งและมีลมเพียงเล็กน้อยใกล้สนามบิน ส่วนสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเพิ่งผ่านการตรวจสอบประจำปีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ เครื่องบินพีเอ-46 มิราจ ลำนี้ ผลิตโดยไปเปอร์ แอร์คราฟต์ ขณะเกิดอุบัติเหตุกำลังมุ่งหน้าสู่เกาะอิสึ โอชิมะ ที่อยู่ห่างจากทางใต้ของโตเกียว 100 กิโลเมตร สำหรับสนามบินโชฟุนั้นเปิดดำเนินการในปี 1941 เพื่อใช้เป็นฐานบินของกองทัพญี่ปุ่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

    เครื่องบินลำที่ตกนี้เคยประสบอุบัติเหตุครั้งหนึ่งในเดือนตุลาคม 2004 โดยตกลงกลางทุ่งในเมืองซัปโปโร ทางเหนือของประเทศ หลังจากทะยานขึ้น แต่คราวนั้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางการระบุว่าสาเหตุมาจากความผิดพลาดบกพร่องในการทำงานของเครื่องบิน ซึ่งก็ได้รับการซ่อมแซมแก้ไขไปแล้ว

    ที่มา.. เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    26 ก.ค. สื่อนอกประโคมข่าว การบินไทยอาการร่อแร่ต้องปฏิรูปใหญ่ จ่อ “ปลดพนง.นับพัน-เลิกบินไปUSA-ขายเครื่องบินทิ้ง”

    [​IMG]

    สื่อต่างประเทศประโคมข่าว “การบินไทย” อาการร่อแร่ หลังประกาศปลดพนักงานรวดเดียว 1,401 ตำแหน่ง และยังยกเลิกให้บริการในเที่ยวบินสำคัญ ๆ ทั้งเส้นทางสู่นครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ และเส้นทางสู่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี อ้างเหตุผล “ขาดทุนยับจนเกินรับไหว”

    รายงานข่าวล่าสุดซึ่งถูกนำเสนอโดยสำนักข่าวชื่อดังอย่างรอยเตอร์ รวมถึงสื่อออนไลน์ระดับแถวหน้าของมาเลเซีย อย่าง “มาเลย์เมล์ ออนไลน์” ระบุว่า สายการบิน “ไทย แอร์เวย์ส อินเตอร์เนชันแนล” หรือ “การบินไทย” ซึ่งถือเป็นสายการบินแห่งชาติของไทยประกาศแผนลดจำนวนพนักงาน 1,401 ตำแหน่ง

    รายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่า การประกาศลดจำนวนพนักงานดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่สายการบินแห่งชาติของไทยเตรียมนำมาใช้เพื่อ “ตัดลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายภายในองค์กร” ของตนลงให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาซึ่งกำหนดไว้ตามแผน 2 ปี

    อย่างไรก็ดี นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ของการบินไทยยืนยันว่า การลดจำนวนพนักงานดังกล่าวส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของการเกษียณอายุ หรือการให้พนักงาน “ลาออกโดยสมัครใจ” และย้ำว่าองค์กรขนาดใหญ่อย่างการบินไทยที่มีผู้เกี่ยวข้องในฐานะพนักงานไม่ต่ำกว่า 30,000 อัตรา และมีสินทรัพย์ให้ต้องบริหารจัดการมูลค่านับแสนล้านบาท ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาแห่งความท้าทายครั้งสำคัญ

    นอกเหนือจากแผนการลดจำนวนพนักงานในองค์กรแล้ว รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศยังระบุว่า ทางบอร์ดบริหารของการบินไทย ยังมีแผนนำเครื่องบินที่มีอยู่ในฝูงบินของตนออกจำหน่ายให้กับผู้สนใจ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเครื่องบินโดยสาร และลดการแบกรับต้นทุนที่สูงลิ่วทางด้านเชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน

    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าสายการบินแห่งชาติของไทย จะยกเลิกการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกหลายเส้นทางเนื่องจากประสบภาวะ “ขาดทุนย่อยยับ” ในเส้นทางเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงเส้นทางบินไปยังนครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ และเส้นทางสู่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี ที่มีต้นทุนการให้บริการสูงถึง “ปีละ 100 ล้านบาท”

    โดยการยกเลิกให้บริการตามมาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมปีนี้เป็นต้นไป และจะมีผลให้ศักยภาพในการให้บริการของการบินไทยหายไปอีกราว 5 เปอร์เซ็นต์

    รายงานข่าวล่าสุดที่ปรากฏในสื่อต่างประเทศระบุว่า หากมาตรการตัดลดค่าใช้จ่ายดังที่กล่าวมาทั้งหมดของการบินไทยสามารถดำเนินไปตามแผน จะส่งผลให้ศักยภาพในการให้บริการของการบินไทยหายไปไม่น้อยกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ภายในช่วงกลางปีนี้ แต่นั่นก็จะช่วยให้สายการบินแห่งชาติของไทยสามารถตัดลดค่าใช้จ่ายภายในของตนได้สูงถึง 9 พันล้านบาทในปี 2015 นี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูปองค์กร

    อย่างไรก็ดี การประกาศเลิกให้บริการเที่ยวบินไปยังนครลอสแองเจลิสล่าสุด จะส่งผลให้การบินไทยไม่เหลือเที่ยวบินที่ให้บริการในเส้นทางสู่สหรัฐอเมริกาเลยแม้แต่เที่ยวบินเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2008 การบินไทยได้ประกาศเลิกให้บริการเที่ยวบินมายังมหานครนิวยอร์กไปแล้ว โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน คือ การขาดทุน

    รายงานข่าวระบุด้วยว่า การบินไทยเตรียมลดจำนวนเที่ยวบิน (แต่ยังไม่เลิกให้บริการ) ในเส้นทางสู่นครกัลกัตตาของอินเดีย และจะมีการโอนย้ายการให้บริการใน 3เส้นทาง คือ เส้นทางสู่เมืองไฮเดอราบัดของอินเดีย , เมืองฉางซาของจีน และหลวงพระบางของลาว ไปให้กับสายการบินในเครืออย่าง “ไทยสไมล์” ให้เป็นผู้ให้บริการในเส้นทางเหล่านี้แทน

    ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ในปัจจุบัน การบินไทยได้เปิดให้บริการในอีกกว่า 50 เส้นทางทั่วโลก ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ต่างประสบภาวะขาดทุน หรือทำรายได้ต่ำ ซึ่งอาจต้องมีการพิจารณาลด-เลิกให้บริการในอนาคต

    ที่มา.. รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานธนาคารกลางโปแลนด์ยันไม่คิดเข้าร่วม “ยูโรโซน” ชี้ เป็นกลุ่มความร่วมมือที่กำลัง “มอดไหม้” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2558 04:05 น.

    [​IMG]
    @มาเร็ค เบลกา ประธานธนาคารกลางโปแลนด์

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มาเร็ค เบลกา ประธานธนาคารกลางโปแลนด์ออกโรงยืนยันในวันอาทิตย์ ( 26 ก.ค.) โดยระบุว่า ประเทศของตนไม่ปรารถนาจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยูโรโซนที่ในเวลานี้มีสมาชิก 19 ประเทศและใช้เงินสกุลยูโรร่วมกัน

    เบลกา ซึ่งควบทั้งตำแหน่งประธานแบงก์ชาติของโปแลนด์ และตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับนายกรัฐมนตรีหญิงเอวา โคปาตช์ระบุว่า โปแลนด์จะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มยูโรโซนไม่ว่าจะในเวลานี้ หรือในอนาคตข้างหน้า เนื่องจากไม่ต้องการเผชิญกับความเสี่ยงใด ๆ ที่จะนำมาซึ่งวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเงิน

    “กลุ่มยูโรโซนเวลานี้มีสภาพที่ไม่ต่างจากองค์กรความร่วมมือ ที่เสี่ยงจะถูกเผาจนมอดไหม้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาติสมาชิกยูโรโซนอย่างกรีซนั้น ทำให้เราเข็ดขยาด และไม่ปรารถนาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิกฤตที่ยังคุกรุ่นนี้” ประธานธนาคารกลางโปแลนด์ กล่าว

    ในอีกด้านหนึ่ง ประธานแบงก์ชาติของโปแลนด์ เตือนว่า เวทีเศรษฐกิจและการเงินของโลกในเวลานี้แทบไม่เหลือทรัพยากรใดๆ สำหรับนำไปใช้ในการรับมือหากเกิดวิกฤตทางการเงินครั้งต่อไป

    มาเร็ค เบลกา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มาก่อน ยังระบุว่า มีความเสี่ยงสูงมากที่กลุ่มยูโรโซนจะติดอยู่ใน “วังวนแห่งความผิดพลาดล้มเหลว” ตราบใดที่บรรดาชาติสมาชิกในกลุ่มยังคงมีจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง พร้อมย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่สมาชิกยูโรโซนจะต้องร่วมกันหาทางออก เพื่อป้องกันมิให้กลุ่มความร่วมมือทางการเงินนี้ต้องเผชิญกับวิกฤตใหม่ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารอิรักยึดมหาวิทยาลัยรอบนอกเมืองรามาดี เตรียมใช้เป็นที่มั่นเข้าจู่โจมไอเอส โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กรกฎาคม 2558 20:00 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กองกำลังของรัฐบาลอิรักได้เข้าควบคุมพื้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) ซึ่งอยู่บริเวณรอบนอกของเมืองรามาดี โดยเป็นการยึดคืนมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถือเป็นที่มั่นสำคัญสำหรับบุกชิงเมืองดังกล่าว

    มหาวิทยาลัยดังกล่าว ได้ถูกยึดกลับคืนมาโดยกองกำลังระดับหัวกะทิของทหารต่อต้านก่อการร้ายของอิรัก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "กองพลน้อยทองคำ"

    "กองพลน้อยทองคำได้ปลดปล่อยมหาวิทยาลัยอันบาร์ ด้วยการหนุนหลังจากกองทัพรวมถึงการสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินของอิรักและแนวร่วมพันธมิตร" พลจัตวา อับเดลาเมียร์ อัล-คาซราจี รองผู้บัญชาการกองกำลังทหารต่อต้านก่อการร้ายในจังหวัดอันบาร์ ระบุ

    "กองกำลังของเราได้ปลดปล่อยมหาวิทยาลัยนี้ได้เมื่อช่วงรุ่งสางวันอาทิตย์ แล้วตอนนี้ก็ได้เข้าควบคุมเต็มรูปแบบแล้ว หลังจากที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดมา 1 สัปดาห์ ธงชาติของอิรักถูกชักขึ้นเหนือมหาวิทยาลัยนี้อีกครั้ง" เขาบอกเอเอฟพี

    คำแถลงระบุว่า กองกำลังพิเศษของอิรักได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับศัตรู ทั้งในด้านกำลังคนและบรรดาข้าวของวัตถุต่างๆ

    ดาลัฟ อัล-คูบายาซี นายกเทศมนตรีเมืองรามาดี ระบุว่า พวกผู้ก่อความไม่สงบที่ยังเหลืออยู่ได้หนีออกไปจากพื้นที่มหาวิทยาลัยแล้ว

    ทั้งนี้ กลุ่มอาคารของมหาวิทยาลัยอันบาร์นั้นตั้งอยู่ใกล้ถนนสายหลักทีล้อมรอบเมืองรามาดีจากทางใต้

    ก่อนหน้านี้ กองกำลังของรัฐบาลอิรักเคยยึดพื้นที่ 2 จุดที่อยู่ทางใต้ของถนนเส้นนั้น กับพื้นที่บางส่วนของมหาวิทยาลัยอันบาร์ ไม่กี่วันหลังจากสูญเสียเมืองรามาดีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม

    แต่ต่อมาพวกเขาก็ต้องถอนกำลัง ช่วงที่กลุ่มไอเอสเดินหน้าโจมตีที่มั่นของฝ่ายรัฐบาลอิรักในฝั่งตะวันออกของเมือง แถมเหล่าผู้บัญชาการยังสั่งรวมพลใหม่ เพื่อจัดวางกำลังเตรียมโต้ตอบทั่วพืนที่จังหวัดอันบาร์

    ตอนนี้รัฐบาลอิรักกำลังเน้นไปที่ความพยายามใช้กำลังทหารเข้ายึดจังหวัดอันบาร์ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงแบกแดด ทอดยาวไปจนถึงชายแดนซีเรีย จอร์แดนและซาอุดีอาระเบีย

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "บิ๊กตู่" เมินปรับครม.ตามแรงกดดัน ลั่น ทหารไม่โง่ รับมีชื่อ "สมคิด" ไม่เกี่ยวนักการเมือง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2558 13:12 น.

    [​IMG]
    @พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(แฟ้มภาพ)

    "ประยุทธ์" ยันไม่ปรับครม.ตามแรงกดดัน ย้ำ ปรับไม่ได้เพราะมีความผิด ย้อนโพล รมว.พณ.ทำอะไรผิดถึงให้ปลด ป้องผลงานดี วอนอย่ากดดันทุกคนเหนื่อย สวนสื่อบอกให้ปรับทหารออก ลั่นทหารไม่โง่ทำงานไม่เกี่ยวฝีมือ แย้มปรับรอบครบปีหรือเร็วกว่า ยันที่ผ่านมางานพัฒนา ชี้ ขายของแบบเดิมๆไปไม่รอด รับมีชื่อ "สมคิด" ร่วมวง โวยไม่ได้ตั้งเรียกความเชื่อมั่น กร้าว นักการเมืองยังไม่เกี่ยว บ่นทักไปทั่วก็จับเป็นข่าว ปัดมีเซฟเฮ้า

    วันนี้ (27ก.ค.) ที่ตึกสินติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การปรับครม.จะไม่ทำตามกระแสกดดัน และไม่มีใครสามารถมากดดันตนได้ จะทำตามวิจารณญาณของตนเอง

    "การปรับครม. จะปรับเมื่อระยะเวลาที่เหมาะสม คือเมื่อทำไประยะหนึ่งแล้วต้องมีระยะต่อไป ที่ต้องต่อเนื่อง ต้องมีปรับบ้าง แต่ไม่ได้ปรับเพราะมีความผิด หรือเพราะสังคมอะไรต่างๆ เราทำงานด้วยหลักการ สังคมอาจจะไม่ทันใจบ้างผมก็รับฟัง" นายกฯ กล่าว

    เมื่อถามว่าผลโพลที่สำรวจออกมาว่าสนับสนุนให้ปรับครม.มีผลในการตัดสินใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "โพลบอกว่าต้องปรับใคร" โดยผู้สื่อข่าวกล่าวว่า "ตามโพลระบุว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ " จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ห๊ะ เขาทำอะไรผิด เพราะว่าเขาเป็นทหารต้องเอาออก หรือไม่มีผลงาน หรืออย่างไร

    ผู้สื่อข่าว กล่าวตอบว่า อาจเป็นเพราะอยู่กระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า ทุกคนไปมองว่าเศรษฐกิจมันแย่ แต่ไม่ฟังว่าแย่เพราะอะไร เมื่อถึงเวลานั้นเศรษฐกิจก็ต้องโดนทั้งหมด ถามว่าวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ไปค้าขายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ก็บินไปประเทศแอฟริกา นั่งไปกว่า 20 ชั่วโมง ยังไม่ได้กลับ รู้กันบ้างหรือไม่ว่าเขาทำงานกันอย่างไร มีใครอยากบินไปแอฟริกาเป็นเวลานานๆหรือไม่ ที่ผ่านมาเขาทำงานไปขายของเพิ่มขึ้นตั้งเท่าไหร่ ทั้งผลไม้ ที่ขายให้กับญี่ปุ่น หรืออะไรต่างๆ ต้องดูตรงนั้น ดูที่งาน ไม่ใช่บอกว่าเขาไม่สนใจ มีแต่คนไทยที่ไม่ให้เกียรติคนของตัวเอง แล้วมาตีกันเอง ให้ที่แย่อยู่แล้วแย่กว่าเดิม

    เมื่อถามต่อว่า จากผลสำรวจพบว่า มี 3 กระทรวงที่ไม่น่าพอใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถามว่า "สำรวจจากใคร กลุ่มไหน อาชีพอะไร ถ้าแตกต่างกันผลสำรวจก็แตกต่างกัน คำตอบก็จะไปเหมือนกัน ต้องถามว่าสำรวจคนทุกกลุ่มหรือไม่ แต่ตนก็รับฟัง ขณะเดียวกันก็รู้ว่าคณะรัฐมนตรีแต่ละคนทำงานกันอย่างไร"

    เมื่อถามย้ำว่าห้วงเวลานี้สมควรที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า "เมื่อใกล้ครบปีก็ต้องดูก่อนว่าสมควรหรือยัง แต่ไม่ใช่ว่าปรับหรือไม่ปรับ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ผมว่าเป็นความรู้สึกมากกว่า" ถามต่อว่า "หากปรับครม. จะปรับเฉพาะทีมเศรษฐกิจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ปรับทักทีมนั่นแหละ ผมจะดูของผมเอง ทำไมต้องเน้นเศรษฐกิจอย่างเดียว" ผู้สื่อข่าวถามว่าจะปรับใหญ่หรือปรับเล็ก นายกฯ กล่าวว่า การปรับครม.ต้องมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียน ดูทุกเหตุผลทั้งสุขภาพ อายุ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทุกคนทำงานมาตลอด และเป็นการทำงานในช่วงที่ยากลำบาก ทุกคนเหนื่อย อย่าไปกดดันกันมากนัก"

    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรับครม.ในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นทหารออก แล้วนำเอามืออาชีพมาทำ งานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ทำไม ใครที่เป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมามืออาชีพทำมาตั้งนานแล้ว แล้วได้อะไรขึ้นมาบ้าง ทหารมันโง่นักหรือไง วันนี้ต้องยอมรับว่าทหารเข้ามาต้องเข้ามา ทหารไม่ได้โง่นักหรอก การทำงานที่ผ่านมาเขาก็ทำกันแบบนี้ ข้าราชการเขาก็ทำงาน ไปถามนักการเมืองด้วยว่าทำกันหรือเปล่า วันนี้สั่งงานทุกเม็ด แต่อยู่ที่ข้าราชการทำได้แค่ไหน ไม่ใช่อยู่ที่ใครเข้ามามีฝีมือหรือไม่มีฝีมือ ผมไม่เชื่อตรงนั้น เพราะคิดว่าไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรต่างกัน ใครเข้ามาใหม่ต้องทำแบบนี้ เพียงแต่วันนี้กระแสการตอบรับประชาชนก็เขียนกันเข้าไป ก็เสียกันทุกคน วันหน้าก็เสียกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรดีสักอย่าง วันหน้าก็ต้องเตรียมรับสถานการณ์ ที่มันแย่แล้วกัน"

    เมื่อถามอีกว่า การปรับครม.จะมีความชัดเจนได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวย้อนถามอีกว่า อยากเปลี่ยนใช่หรือไม่ อย่างนั้นก็ไปเลือกตั้งเข้ามาไหม ใครเขาอยากจะมาทำ อยากจะรู้ ไม่มีใครเขาอยากมาหรอก จะชัดเจนเมื่อไหร่ ก็เมื่อครบ 1 ปี นี่หนึ่งปีแล้วหรือยัง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น

    เมื่อถามว่า 1 ปีที่ผ่านมา มองว่าการทำงานพัฒนาไปเยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าพัฒนาไม่เยอะคงไม่เดินหน้ามาขนาดนี้ วันนี้ทุกคนทำงานกัน ที่ผ่านไม่มีใครไปไล่ในเรื่องการทำงานเท่านี้ ทำกันขนาดนี้ยังได้แค่นี้เลย ถามว่าถ้าสถานการณ์เป็นแบบเดิม สิ่งต่างๆที่แก้จะเป็นแบบนี้หรือไม่ จะดีขึ้นหรือไม่ ส่วนเกรดจะดีขึ้นหรือไม่ไม่รู้ แต่ได้ทำ เมื่อก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำเลย นี่คือความแตกต่าง วันนี้ลืมกันไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นมา เอาแต่อยากได้ อยากให้เร็ว ถามว่าเศรษฐกิจไม่ดีเพราะอะไร เพราะบริหารไม่เป็นหรือเพราะขายของไม่ได้ ซึ่งเศรษฐกิจโลกก็เป็นส่วนหนึ่ง อย่าไปโทษเขามาก ต้องโทษตัวเอง ไปโทษคนบริหารเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ว่าเก่งๆ วันนี้ที่แย่เพราะอะไร ทั้งปัจจัยภายนอก ภายใน โรงงานต่างๆ ที่เริ่มล้าสมัย หากินกันมากี่ปี การเมืองเคยมาดูกันหรือไม่ เคยปรับโครงสร้างอะไรให้เข้มแข็งบ้าง หรือดูแต่เฉพาะที่อยากจะดู นี่แหละที่ล้มเหลว ขายของกันแบบเดิมๆจะสู้เขาได้ไหม

    เมื่อถามว่า ที่นายกฯคิดว่าเศรษฐกิจล้มเหลว แล้วมองว่าใครเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คน ใครก็ได้ เมื่อถามว่า มีชื่อนาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคสช.ด้านเศรษฐกิจ นายกฯ กล่าวว่า ก็มี แต่ตนไม่เคยพูดถึง สื่อไปเขียนกันเองทั้งนั้น แล้วนอกจากนี้มีใครคนอื่นอีกหรือไม่ เสนอมาสิ จากนั้น สื่อกล่าวว่า คนที่มีชื่อดังสัดตอนนี้คือ นายสมคิด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อ๋อเหรอ นี่ไปรับทางโน้นเขามาหรือเปล่า ถ้าเปล่าก็เฉยๆ ตนจะตั้งของตนเอง

    ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่จะให้นายสมคิด เข้ามา เพราะต้องการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสียงดังอย่างมีอารมณ์ว่า "เชื่อมั่นผมนี่ เพราะผมเป็นคนทำ ทำไมต้องเชื่อมั่นคนโน้น คนนี้ ผมเป็นหัวหน้า ผมเป็นคนรับผิดชอบ ผมเป็นคนสั่งเขาทำ ถ้าไม่เชื่อมั่นใครเลย แสดงว่าไม่เชื่อผมด้วย และถ้าไม่เชื่อผม ผมก็จะทำแบบนี้"

    เมื่อถามอีกว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะไม่มีข้อจำกัดต้องเป็นคนกลุ่มการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ. กล่าวเสียงขึ้นอีกครั้งว่า "ไม่เกี่ยว ไม่สนใจเรื่องนี้ คนที่เป็นนักการเมืองอย่าเพิ่งเข้ามาตอนนี้ ชัดเจน อย่าไปเขียนกันให้เลอะเทอะ เวลาผมทักทายคนก็ทักทายทั่วไป ไปเขียนกันเป็นเรื่องเป็นราว ว่าจะเอาคนนั้นคนนี้มา จะมารู้ใจผมได้อย่างไร ทุกอย่างผมทำด้วยหลักการ ต้องฟังทั้งหมด ไม่ได้ฟังจากสมองผมคนเดียว คนแนะนำและที่ปรึกษาเยอะไปหมด รัฐมนตรีต้องทำตามที่ผมสั่ง ช้าเร็วว่ามา ถ้าทำช้าต้องหาคนทำเร็วเข้ามา ก็แค่นั้นจะยากอะไร ผมไม่ได้ใช้อารมณ์อธิบายเพียงแต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมนุษย์เขาหน่อย ถามว่าถ้าเข้ามาใหม่ไม่ดีจะไปโทษใครอีก โทษผมสิคราวนี้ เคยมีหลักการดูบ้าง ถ้าทุกอย่างทำมาแล้วผมไม่ต้องมาทำแบบนี้ เศรษฐกิจคงไม่เลวร้ายขนาดนี้"

    เมื่อถามว่า อยากขอร้องให้คนหยุดมองในแง่ร้ายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องขอร้องอะไรทั้งนั้น รักชาติก็ทำเพื่อประเทศชาติกันบ้าง ตนไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง จึงไม่ต้องขอใครทั้งนั้น

    "รวมถึงนักการเมืองที่มาวิพากษ์วิจารณ์ ถามว่ารู้หรือไม่ว่ารัฐบาลทำงานอย่างไร เศรษฐกิจวันนี้เป็นอย่างไร ผมต้องโทษกลับไปบ้าง เพราะผมมารื้อของเก่าจนเจอว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วขณะนี้กำลังแก้ให้ดีขึ้น เราต้องใช้เวลา ไม่ใช่เนรมิตให้ดีได้" นายกฯ กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ มีเซฟเฮ้าหรือไม่ พล.อ. ย้อนถามว่า เซฟเฮ้าบ้าอะไร ไม่มี


    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084739
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ประยุทธ์" รับทราบผลค้ามนุษย์แล้ว รอมะกันแถลง ลั่นทำดีกว่าเดิมไม่คาดหวัง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2558 12:07 น.

    [​IMG]

    นายกฯ เผย รอสหรัฐเผยรายงานค้ามนุษย์ก่อน พูดก่อนไม่ดี ย้ำทำดีกว่าเดิม ไม่คาดหวังผล แจงทำเพื่อรักษาทรัพยากรด้วย จนท.ต้องทำต่อเนื่องไม่งั้นถูกลงโทษ รับวงในรายงานผลแล้ว

    วันนี้ (27ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สหรัฐอเมริกาจะเปิดเผยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปีในวันเดียวกันนี้ว่า ต้องรอฟังเขาแถลงออกมา พูดอะไรก่อนไม่ดี ตนมั่นใจสิ่งที่ทำลงไปว่าดีกว่าเดิม ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่การพิจารณาของเขาต้องยอมรับกติกา ตนไม่ได้คาดหวังว่าผลที่ออกมาจะดีขึ้นหรือไม่ขึ้น แต่คาดหวังสิ่งที่ทำไปให้สำเร็จก่อน ซึ่งต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ตอนนี้ทำทุกอันดีกว่าเดิมมากแต่ขึ้นอยู่ว่าเขาจะเชื่อมั่นหรือไม่ เมื่อถามว่าถ้ายังอยู่ในลำดับเดิมจะมีผลอย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าถ้าออกมาอย่างนั้นก็รับทราบแต่ถือว่ายังไม่ได้ยินอย่างเป็นทางการออกมา ไม่ว่าออกมาอย่างไรก็เป็นตามนั้น อย่างไรเราก็ต้องทำอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อเรื่องนี้อย่างเดียวแต่ทำเพื่อรักษาทรัพยากรของเราด้วย

    “จากนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องถ้าไม่ทำก็ต้องเล่นงานทำอยู่แล้วต้องทำตามหน้าที่ เป็นข้าราชการ ไม่ทำต้องถูกลงโทษ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ทำถามแค่นี้ วันนี้เขาทำกันอยู่ เรือที่ผิดกฎหมายใช้อวนผิดประเภทก็ไม่ได้ออก ต้องทำให้ถูกต้องก่อน ผิดกฎหมายออกไม่ได้ทั้งสิ้น นี้ถือว่าไม่ทำอะไรหรือ เราทำแต่เขาจะเห็นอย่างไรต้องแล้วแต่เขา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    เมื่อถามว่าวงในมีการรายงานให้ทราบผลหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทราบแต่ให้เขาพูดดีกว่า เป็นมารยาทเขาเป็นคนกำหนดกติกาต้องฟังเขาพูด เราพูดในสิ่งที่เราทำ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สพม.ชง กมธ.ยกร่างฯ กำหนดผู้รับตำแหน่งการเมืองโชวย์เสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2558 13:49 น.

    [​IMG]

    @สพม.ชง กมธ.ยกร่างฯ กำหนดผู้รับตำแหน่งการเมืองโชวย์เสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ (แฟ้มภาพ)

    สภาพัฒนาการเมือง เสนอ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดผู้ดำรงตำแหน่งแสดงรายการเสียภาษีย้อนหลังไม่น้อยกว่า 5 ปี พร้อมใช้เกณฑ์การเสียภาษีในการตรวจสอบทรัพย์สินหนี้สิน เชื่อช่วยแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.ค.) สภาพัฒนาการเมือง โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานฯ ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้มีการนำมาตรการใช้การแสดงรายการภาษีเงินได้เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแ ละเจ้าหน้าที่ของรัฐมาใช้ โดยเห็นว่า ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นถูกจัดเป็นปัญหาสำคัญลำดับต้น ๆที่ต้องดำเนินการแก้ไขในช่วงที่จะมีการปฏิรูปประเทศ รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ก็ได้บัญญัติให้มีการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดผลที่ได้มาซึ่งการมีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริต ประพฤติมิชอบมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่ครอบคลุมเรื่องกลไกที่มีประสิทธิภาพการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งกลไกการกำกับ ควบคุมให้การใช้อำนาจรัฐเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ มาตรการการแสดงรายการภาษีเงินได้จึงเป็นมาตรการที่จะช่วยป้องกัน ปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเสนอ

    1. ให้มีการใช้การแสดงรายการภาษีเงินได้เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบทรัพย์สิน หนี้สินหรือฐานะความเป็นอยู่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีประวัติการเสียภาษีเงินได้ไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน หรือหนี้สิน ฐานะความเป็นอยู่ต้องอธิบายถึงที่มาของความไม่สอดคล้องดังกล่าว โดยรัฐไม่ต้องมีภาระในการพิสูจน์ หากไม่สามารถอธิบายได้ บุคคลดังกล่าวจะต้องถูกประเมินภาษีย้อนหลัง และถูกดำเนินคดีในข้อหาหลีกเลี่ยงภารเสียภาษี

    2.ให้เพิ่มคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ผู้ได้รับการเสนออชื่อเป็นส.ว. รัฐมนตรี ต้องแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลังไม่น้อยกว่า 5 ปี เพราะการเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองเป็นการอาสาเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ผู้ที่เข้ามาจึงต้องแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและการทำหน้าที่พลเมืองดีว่าได้เสียภาษีมาอย่างถูกต้อง โดยประวัติการเสียภาษีดังกล่าวสามารถใช้ในการตรวจสอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้อีกทางหนึ่ง 3 ให้สิทธิประชาชนในการร้องขอข้อมูลรวมทั้งติดตามการตรวจสอบการแสดงรายการภาษีเงินได้ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยตรวจสอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตอีกช่องทางหนึ่ง ดังนั้นจึงขอให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณานำมาตรการดังกล่าวมาบัญญัติไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ และให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี ช่วยผลักดันให้มีการนำมาตรการนี้ไปใช้ให้เกิดขึ้น รวมทั้งให้ภาคประชาสังคม ช่วยผลักดันให้มีการบัญญัติมาตรการดังกล่าวไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้นำมาตรการดังกล่าวไปใช้ให้เกิดผลต่อไป

    ʾ
     
  14. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,064
    ค่าพลัง:
    +52,162
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนกำลังสร้างกล้องโทรทัศน์วิทยุใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อส่องดูปรากฎการณ์ในอวกาศ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ---------
    ไปเที่ยวจีนกันอีกซักรอบนะครับ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งลงข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวและความก้าวหน้าในแวดวงวิทยาศาสตร์และดาราศาตร์ของจีน เห็นว่าน่าตื่นตาตื่นใจดี จึงนำมาฝากแฟนเพจและโปรอเมริกาบ้าง (คริๆ)
    รายงานข่่าว (RT news) บอกว่าจีนกำลังประกอบสิ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "กล้องโทรทัศน์วิทยุ" (ตู้เย็น พัดลม… ฮี่ๆๆ) หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "radio telescope" ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อ้างอิงจากสำนักข่าว Xinhua ของจีน เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ มีรูปร่างเหมือนจานดาวเทียมยักษ์ทั่วไป โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 500 เมตรกินเนื้อที่เท่ากับ 30 สนามฟุตบอลรวมกัน
    สำนักข่าว Xinhua รายงานว่าเจ้าจานรับคลื่นวิทยุจากนอกโลกขนาดยักษ์นี้มีเส้นรอบวงประมาณ 1.6 กม. และต้องใช้เวลาถึง 40 นาทีถึงจะเดินรอบรูรับแสงของกล้องโทรทัศน์รูปทรงกลมี้ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "FAST" ได้ ตั้งอยู่ในส่วนลึกของหุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดกุ้ยโจว (Guizhou Province) โดยสร้่างจากแอ่งรูปจานที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ รายงานข่าวบอกว่าทำเลดังกล่าวมีภูเขาล้อมรอบอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร และตรงกลางเป็นแอ่งจึงเหมาะมากที่จะทำเป็นกล้องโทรทัศน์วิทยุขนาดใหญ่
    การก่อสร้างกล้องโทรทัศน์วิทยุที่มีความเร็วสูงนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2554 (2011) และจะเสร็จสิ้นในปีหน้า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาฝ่ายช่างเทคนิคได้เริ่มทำการติดตั้งแผงรับคลื่นสัญญาณวิทยุรูป 3 เหลี่ยมจำนวน 4,450 แผ่นเข้าไปที่ตัวสะท้อนแสงของกล้องโทรทัศน์วิทยุแล้ว และเพื่อให้เห็นภาพของแผ่นสะท้อนทั้งหมดในจานยักษ์นี้ ผู้เยี่ยมชมจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดเขาที่อยู่ข้างๆโดยรอบถึงจะมองเห็นได้หมด โครงการนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำรวจอวกาศของจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
    Nan Rendong หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ในโครงการ FAST นี้ของจีนได้อธิบายว่ายิ่งจานนี้มีขนาดใหญ่เท่าไร ก็ยิ่งทำให้กล้องเทเลสโคปทรงพลังมากขึ้นไปด้วย นักวิทยาศาสตร์จีนกล่าวว่า "กล้องโทรทัศน์วิทยุนี้ก็เหมือนใบหูขนาดใหญ่ ที่ใช้สำหรับรับฟังข้อความต่างๆที่มีความหมายจากสัญญาณเสียงสีขาว (white noise) ในจักรวาล"
    จานดังกล่าวสามารถปรับรับคลื่นวิทยุจากมุมต่างๆได้ด้วย Zheng Yuanpeng หัวหน้าวิศวกรโครงการแผงรับสัญญาณกล้องโทรทัศน์กล่าวกับสำนักข่าว Xinhua ของจีนว่า "แผงรับสัญญาณนี้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งโดยการเชื่อมต่อเข้ากับสายไฟและหุ่นยนต์แบบขนาน เราสามารถควบคุมตำแหน่งให้มีความแม่นยำได้ถึง 1 มิลเมตรเลยทีเดียว" (ว้าววว!)
    Wu Xiangping ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมดาราศาสตร์จีนกล่าวว่า "เมื่อมีกล้องโทรทัศน์ที่มีความสามารถในการรับคลื่นวิทยุได้ไวมากนี้ พวกเราก็จะสามารถได้รับสัญญาณสื่อสารทางวิทยุที่อ่อนและแม้จะอยู่ไกลออกไปมากได้ ซึ่งจะช่วยให้เราค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดนอกจักรวาลและสำรวจจุดเริ่มต้นของจักรวาลได้"
    รัสเซียก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานข่าวบอกว่านาย Yuri Milner มหาเศรษฐีทางอินเตอร์เน็ทของรัสเซียจะให้เงินสนับสนุนโครงการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยนักวิทยาศาสตร์ Stephen Hawking ผู้โด่งดัง ตามโครงการนี้รายงานข่าวบอกว่าจะมีการใช้กล้องโทรศัทน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกถึงสองตัว ซึ่งตั้งอยู่ที่ West Virginia ประเทศสหรัฐอเมริกา และ New South Wales ประเทศออสเตรเลีย ในการล่ามนุษย์ต่างดาวในครั้งนี้ด้วย

    [​IMG]

    The Eyes
    27/07/2558
    -----------
    Made in China: Assembly of World's Biggest Radio Telescope Gets Underway / Sputnik International
    'Fast' & vast: China building world's largest 500-meter radio telescope — RT News
    Stephen Hawking Supports Search for Aliens Despite Threat of Earth Invasion / Sputnik International
    Stephen Hawking and Yuri Milner Begin $100Mln Search for Alien Life / Sputnik International
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    T Power H20 มอเตอร์ไซค์พลังงานไฮโดรเจน เติมน้ำ 1 ลิตรวิ่งได้ 500 กม.

    <iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/jV8rpumumxo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ----------
    ว้าวววว! อะไรจะขนาดน้านนนน จากจีนแล้วเราก็ซอกแซกไปเที่ยวบราซิลกันต่อนะ บราซิลนี่เป็นหนึ่งในชาติสมาชิกของกลุ่ม BRICS นะครับ มีของแปลกล้ำยุคมาให้ดูกันเล่นๆ ต้องเรียกว่ามอเตอร์ไซค์แห่งอนาคตเลยหละ หมายถึงโดยหลักการการใช้พลังงานทดแทนนะครับ ไม่ใช่รูปทรง เพราะที่เห็นในคลิปนี้เป็นแค่รถต้นแบบ แบบไหน? ก็แบบชาวบ้านทำใช้เองอ่ะ ไม่ง้อนายทุน ไม่ง้อภาครัฐว่าจะสนับสนุนเทคโนโลยีดังกล่าวหรือไม่
    ตามรายงานข่าวบอกว่า อีตาลุง Ricardo Azevedo ชาวบราซิล จากเมือง Sao Paulo ได้ประดิษฐ์ดัดแปลงมอเตอร์ไซค์ฮ่างของแกจากเดิมที่ซดน้ำมันเบนซีนให้เปลี่ยนมาเป็นซดน้ำเปล่าแทน คนก็ดื่มได้ รถก็เติมได้ เติมน้ำเปล่า 1 ลิตร ไม่ว่าจะเป็นน้ำสะอาดหรือน้ำจากคลองทั่วไปก็ใช้ได้ทั้งนั้น สามารถวิ่งได้ 500 กิโลเมตร และที่สำคัญไม่มีไอเสียที่เป็นควันรถคาร์บอนโมน็อกไซด์อีกต่อไป มีแต่ไอน้ำธรรมดาระเหิยออกมาแทน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกตะหาก ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันซักแอะเดียว เทคโนโลยีตัวนี้ใช้คู่กับแบตเตอร์รี่ที่ใช้สำหรับผลิต/กลั่นน้ำให้เป็นไฮโดรเจนจากโมเลกุลน้ำ อ้อเขาตั้งชื่อมอเตอร์ไซค์คันนี้ของเขาว่า "T Power H20"
    น่าสนใจใช่ไหม? ที่บ้านเรามีบ้างหรือยังครับ? ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ฮ่างนะ หมายถึงมอเตอร์ไซค์ไฮโดรเจนแบบเติมน้ำแทนน้ำมันนี่ และต้องวิ่งได้อย่างของเขาด้วยนะ ไม่ใช่พิเรนเติมเข้าไปแล้วสตาร์ทเครื่องไม่ติดแล้วบอกว่าเติมได้เหมือน นั่นก็เกินปะ
    The Eyes
    27/07/2558
    ----------
    http://www.rt.com/…/310724-motorcycle-water-runs-kilometers/
    https://www.youtube.com/watch?v=jV8rpumumxo

    https://www.youtube.com/watch?v=jV8rpumumxo
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    หุ้นจีนเละ
    วันนี้ (27/7/2015) หุ้นจีนตกเละตุ๊มเป๊ะ8.5% ลงมาปิดที่3,725.56 หลังจากที่ทางการจีนใช้เงินมากเพื่ออุ้มตลาดหุ้น อย่างน้อยไม่ให้หลุด4,000 แต่วันนี้ทานแรงขายไม่ไหว
    นักลงทุนรู้ดีว่าถ้ารัฐบาลเข้ามาซื้อต้องรีบเทขายเพราะว่ายังไม่ลงฟลอร์ ถ้าเมื่อไหร่รัฐบาลขายหุ้นแสดงว่าลงมาถึงพื้นแล้ว ให้รีบเข้าไปซื้อ
    Raymond Dalio ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater Associates แนะว่าให้งดเข้าตลาดหุ้นจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างจะมองตลาดจีนดี
    เขาบอกว่า จีนกำลังเจอพลังลบ4พลังมาบรรจบกัน คือการปรับโครงสร้างหนี้ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ฟองสบู่อสังหาฯ และฟองสบู่หุ้น ทำให้มีโอกาสสูงที่จีดีพีจีนจะตกต่ำ
    ทางการจีนคาดการว่าปีนี้อาจจะยังคงโตได้ที่7% แต่Dalioบอกว่าพลังลบทั้ง4จะทำให้จีดีพีจีนหายไประหว่าง1.80% ถึง4.0%
    ถ้าจีนต้องเจอกับฮาร์ดแลนดิ้งเหมือนที่นายDalioเชื่อ ประเทศไทยคงจะต้องลำบากหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคพึ่งพาจีนมาก
    หุ้นไทยวันนี้ก็ตกประมาณ1.7% ส่วนตัวเลขการส่งออกในเดือนมิถุนายนติดลบ7.87% ใน6เดือนแรกของปี ส่งออกไทยติดลบ4.8%
    อาการน่าเป็นห่วง
    thanong
    27/7/2015
    http://www.businessinsider.com.au/bridgewater-associates-ra…
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    คาเมรอนเมินเมืองไทย
    นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดฉากเยือน 4 ชาติอาเซียนวันนี้ เพื่อถกปัญหาไอเอส-กระชับสัมพันธ์การค้า โดยจะเยือนอินโดเนเซีย สิงคโปร์ เวียดนามและมาเลเซีย...แต่ไม่เยือนไทย เพราะว่าอย่างที่บอกก่อนหน้านี้ ไทยกำลังโดนฝรั่งแซงชั่น
    คืนนี้รอสหรัฐจัดอันดับไทยค้ามนุษย์ 555 มาเป็นชุด
    อ่านข่าวดู
    เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ เริ่มต้นภารกิจเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการในวันนี้(27 ก.ค.) โดยหวังที่จะกระชับสัมพันธ์ด้านการค้ากับกลุ่มประเทศอาเซียนที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตเร็ว อีกทั้งเพื่อขอความร่วมมือในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส)
    ในการเยือนอาเซียน 4 วัน ผู้นำอังกฤษพร้อมด้วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มผู้นำธุรกิจจากแดนผู้ดีประมาณ 30 คนจะบินตรงไปยังอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนที่จะต่อไปยังสิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย
    คาเมรอน จะใช้โอกาสนี้หารือกับประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย เกี่ยวกับการกวาดล้างอิทธิพลของนักรบไอเอสที่ได้บุกยึดดินแดนในอิรักและซีเรียอย่างกว้างขวาง และถือเป็น “ศัตรูร่วม” สำหรับทุกชาติ
    รัฐบาลอังกฤษเกรงว่า พลเมืองวัยรุ่นหลายร้อยคนที่เดินทางไปเข้าร่วมกับไอเอสอิรักและซีเรียอาจกลับมาวางแผนก่อเหตุโจมตีในบ้านเกิดตัวเอง
    อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกและมีมาตรการสกัดกั้นลัทธิหัวรุนแรงมานาน ก็มีพลเมืองถูกไอเอสโน้มน้าวให้เดินทางไปยังตะวันออกกลางแล้วเกือบ 500 คน ในขณะที่แดนเสือเหลืองก็มีพลเมืองมุสลิมไปเข้าร่วมกับไอเอสเช่นกัน
    คาเมรอน กล่าวก่อนจะออกเดินทางจากกรุงลอนดอนว่า ตนจะพูดคุยกับผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับ “ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดที่โลกกำลังเผชิญอยู่”
    “เราจะปราบกลุ่มก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมพวกนี้ได้ก็ต่อเมื่อได้ลงมือทำอะไรบางอย่าง ทั้งในประเทศของเราเอง ในต่างแดน และในโลกอินเทอร์เน็ต รวมถึงผนึกกำลังกับนานาชาติเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วมกลุ่มนี้”
    คาเมรอน ระบุว่า อังกฤษพร้อมที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้าน “งานก่อการร้ายเชิงปฏิบัติ” และเรียนรู้จากอินโดนีเซียและมาเลเซียเช่นกันว่า พวกเขาจัดการปัญหาลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่งและสร้างสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลายได้อย่างไร
    อินโดนีเซียเคยเผชิญเหตุโจมตีจากกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงหลายระลอกในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุระเบิดไนต์คลับบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2002 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 202 คน ทว่าหลังจากนั้น รัฐบาลอิเหนาก็ได้มีมาตรการปราบปรามอย่างเข้มข้น และสามารถทลายเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธจนหมดพิษสงไปได้หลายกลุ่ม
    ภารกิจเยือนอาเซียนครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางออกนอกทวีปยุโรปครั้งแรกของ คาเมรอน ตั้งแต่ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีผู้แทนระดับสูงจากกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ติดตามไปด้วยหลายคน เช่น โรลส์รอยซ์ และผู้ผลิตเครื่องจักรกลก่อสร้างเจซีบี
    คาเมรอน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์เดลีเมล์ว่า “นี่คือภูมิภาคที่กำลังเติบโต และผมตั้งใจว่าอังกฤษจะต้องไขว่คว้าทุกโอกาสที่มี”
    อย่างไรก็ตาม นายกฯ เมืองผู้ดีอาจต้องเผชิญภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อไปถึงมาเลเซีย เนื่องจากช่วงนี้นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก กำลังถูกสังคมซักฟอกจากกระแสข่าวเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโอนไปเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา
    นูรุลอิสซะห์ ส.ส.ฝ่ายค้านและบุตรสาวของอดีตผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบรอฮีม เรียกร้องให้คณะของ คาเมรอน เปิดโอกาสให้กลุ่มฝ่ายค้านมาเลเซียได้เข้าพบด้วย เพราะการหารือกับรัฐบาล นาจิบ ฝ่ายเดียว “จะทำให้อังกฤษถูกมองว่าเพิกเฉยต่อกระแสคลื่นใต้น้ำ และปัญหาที่ประชาชนชาวมาเลเซียกำลังวิตกกังวล” เธอให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
    คาเมรอน จะได้พบปะกับประธานาธิบดี โจโค วิโดโด และเลขาธิการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาในวันนี้(27) ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ในวันอังคาร(28)
    thanong
    27/7/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    Miniseries
    1. วันที่รอคอย: กันยายน 23, 2015
    ในเว๊ปมืด ตอนนี้ไม่มีอะไรจะมันไปกว่าการคาดคะเนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันเริ่มต้นของปีเสียงแตร (Year of Jubilee) ซึ่งจะตรงวันที่23 กันยายน 2015
    วันนั้นจะเป็นเป็นเริ่มต้นของจุดจบของยุคเลยทีเดียว (End Times) หรือว่าไม่มีอะไรในกอไผ่เกิดขึ้น
    ในวันที่23 กันยายน 2015 โป๊ปฟรานซิสมีกำหนดจะเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ ประกอบพิธีมิสซาที่National Schrine of the Immaculate Conception และกล่าวสุนทรพจน์ที่ประชุมร่วมของสภาคอนเกรซ
    น่าจะเป็นวันฤกษ์ดีฟ้าเปิดสำหรับโรมที่จะยึดอเมริกาให้เห็นเป็นขวัญตาเสียที หลังจากที่พวกอเมริกันโปรเตสแต้นท์ (American Protestants) ต้องดิ้นต่อสู้เพื่ออิสรภาพมานานกว่า200ปี แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถจะหลุดจากเงื้อมมือของโรมไปได้
    วันที่ 24 กันยายน 2015 โป๊ปฟรานซิสจะใช้เวลาในนิวยอร์ค
    วันที่25 กันยายน 2015 โป๊ปมีหมายกำหนดการที่จะกล่าวสุนทรพจน์ที่องค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์ค โดยจะเน้นประเด็นการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน การขจัดความยากจน และการพัฒนาที่ยั่งยืน
    วันนั้นจะเป็นวันของโรมที่จะแย่งซีนทั้งหมดที่การประชุมใหญ่ของยูเอ็น โดยที่โป๊ปฟราสซิสจะประกาศทิศทางใหม่ของโลก โดยโรมจะกลายเป็นผู้นำที่จะนำพามนุษย์ไปสู่โลกใหม่ (New World)
    จะมีการประชุมของผู้นำองค์กรศาสนาในเวลาต่อมาที่ยูเอ็น โรมจะเรียกร้องให้ผู้นำศาสนาต่างๆมารวมกัน เพราะว่าศาสนาที่สำคัญของโลกทั้ง3ศาสนาคือจูดาห์ คริสต์และอิสลามมีรากเหง้าของพระเจ้าองค์เดียวกัน (Monotheism)
    เมื่อมีรากเหง้าเดียวกันก็สามารถรวมกันให้เป็นศาสนาโลกศาสนาเดียวได้ ภายใต้ศาสนาจักรของโรม
    วันที่ 26 กันยายน 2015 โป๊ปมีกำหนดไปเยือนเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย จะมีการประชุมพบปะกันของครอบครัวแคทอลิกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย
    เมืองฟิลาเดลเฟียนี้ เป็นที่ประกาศอิสรภาพของผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องการให้ศาสนาคริสต์โปรเตสแตนท์เป็นศาสนาประจำชาติของอเมริกา และให้อเมริกาเป็นดินแดนเสรีที่ปราศจากการกดขี่ทางการเมืองของยุโรปและทางศาสนาจากโรม
    วันที่ 27 กันยายน 2015 จะมีพิธีประกอบมิสซาที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยโป๊ปทรงเป็นประธาน และจะมีผู้เข้าร่วมนับแสนคน
    น่าสนใจว่าวันที่23 กันยายน 2015จะเป็นวันเริ่มต้นของการสิ้นสุดของยุคนี้หรือไม่ตามการคาดคะเนของพวกที่เล่นเว๊ปใต้ดินและนักการศาสนาที่แพร่หลายค่อนข้างมากเวลานี้
    thanong
    27/7/2015
    http://www.popefrancisvisit.com/tentative-schedule-of-pope…/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    Miniseries
    2. วันที่รอคอย: กันยายน 23, 2015
    Benjamín Solari Parravicini (BSP) (เกิดคศ 1898 - เสียชีวิตคศ 1974)เป็นชาวอาร์เจนติน่า เขาเป็นนักวาดรูป และนักปฏิมากรรมชาวอาร์เจนติน่า เขามีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคต มีหลายอย่างที่เขาทำนายแล้ว เหตุการณ์จริงเกิดขึ้นตามมา
    มีคำทำนายอย่างหนึ่งของBSP ที่กำลังเป็นที่รอคอยว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ในปีคศ 1938 เขาได้วาดการ์ตูนและเขียนคำทำนายประกอบเกี่ยวกับโป๊ปว่า:
    "โป๊ปจะออกเดินทางไกลจากวาติกัน และจะมาถึงอเมริกา ในขณะเดียวกันมนุษยชาติจะล้มระเนระนาด"
    The pope will go on journeys far from the vatican and will arrive to America. Meanwhile, the humanity will fall down.
    thanong
    27/7/2015
    http://www.newdawnmagazine.com/…/the-amazing-prophecies-of-…
     

แชร์หน้านี้

Loading...