เหตุการณ์ใน-นอกโลก VS ภัยธรรมชาติ และupdate พายุสุริยะ

ความเห็นส่วนตัว

ผมเคยเจอในยูทูบ นักวิทย์ฯฝรั่งบางคนให้ความเห็น
ว่า จากสถิติทิศทางของโคโรน่าที่เกิดที่ด้านข้างของ
ดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลกไปหาดวงอาทิตย์มักจะ
ส่งผลรุนแรงต่อโลก พลังงานได้แก่ สนามแม่เหล็ก
สนามไฟฟ้า และรังสีแกรมม่า แทนที่จะเป็นทิศทางที่
ตรงเข้ามาโลก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับวงโครจรของดาวใกล้เคียง
ที่อยู่ในแนวเดียวระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์อีกด้วย
รวมถึงจังหวะพอดีที่โลกมีความอ่อนแอทางสนามแม่เหล็ก
จนทำให้ลมสุริยะและรังสีต่างๆถาโถมทะลุผ่านเข้ามายังชั้น
บรรยากาศของโลกได้ โดยรังสีแกรมม่าเป็นบ่อเกิดหนึ่งใน
การกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ส่วนพลังงานอื่นเป็นบ่อเกิดหนึ่ง
ในการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆได้

การทำนายแผ่นดินไหวสามารถตรวจสอบล่วงหน้าได้โดยวัด
จากความหนาแน่นของสนามพลังงานเหนือพื้นดินขึ้นไป

ปล.ช่วงนี้แถวบ้านผมฝนไม่ตกมาหลายวันแล้ว หญ้าเฉา
ทั้งที่ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนๆแทบทุกวัน ได้กลิ่นฝนก็มี ทั้งที่
บริเวณเขตใกล้เคียงฝนตกเอาๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่บ้านนี้มา 5 ปี
(อยู่กทม.มา 20 กว่าปี) ไม่เคยเจอปรากฏการณ์อย่างนี้มาก่อน

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 9:47 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ มากกว่าปกติ ส่งพลังงานออกมาเป็นมุมกว้างทางทิศตะวันออก ไม่ตรงกับโลก เหตุการณ์ครั้งนี้ยังพบการขยายตัวของจุดดับอย่างฉับพลัน และส่งแสง X-ray ออกมาในระดับ M4 จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้ โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
- ภาพถ่ายที่ผิวดวงอาทิตย์เห็นการขยายตัวของจุดดับ http://spaceweather.com/images2015/05may15/sunspot_anim.gif?PHPSESSID=rq52lnr1okjsolrlrls1ear121
- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานจากดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/iSWACygnetStreamer?timestamp=2038-01-23+00%3A44%3A00&window=-1&cygnetId=261
- วิดิโอการกระจายของพลังงานเป็นมุมกว้างจากดวงอาทิตย์ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ CACTUS CME Details
- ปริมาณจุดดับที่ผิวดวงอาทิตย์ ESA Daily Sun Spot Number

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 9:24 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้าง ทางทิศตะวันออกไม่ตรงกับโลก เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และพบปริมาณรังสี X-ray สูงสุดระดับ C7 จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 6 UT +/-7 ชั่วโมง

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้

- วิดิโอภาพถ่ายที่ผิวดวงอาทิตย์
https://www.youtube.com/watch?v=joYkrZCQF_Q
- ภาพถ่ายมุมกว้างของปฏิกริยาดวงอาทิตย์ มุมมองจากโลก CACTUS CME Details
- ปริมาณจุดดับที่ผิวดวงอาทิตย์ ESA Daily Sun Spot Number
- รังสี X-ray ที่วัดได้จากนอกโลกในช่วงนี้ http://services.swpc.noaa.gov/images/goes-xray-flux.gif
- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานบางส่วนจากดวงอาทิตย์ http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=802404200

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 11-12 พฤษภาคม เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตกด้านเดียวกับโลก (https://youtu.be/KXG5taznE6s) นอกจากนั้นยังพบปริมาณจุดดับขยายตัวอย่างฉับพลันสูงสุดในรอบกว่า 10 สัปดาห์ ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ C2 จากการคำนวณพบว่าพลังงานบางส่วนจะเดินทางมาถึงวงโคจรของโลกในวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 0 +/- 7 ชั่วโมง (http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSyste...mp=2038-01-23+00:44:00&window=-1&cygnetId=261)

และในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ยังเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้งคือ มีการเรียงตัวระหว่าง ดาวเสาร์ โลก และ ดาวอังคาร

สำหรับบนโลกนั้น พบว่ามีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากกว่าปกติ เช่นในวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 7:05 UT เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ที่ประเทศเนปาล Earthquake - Magnitude 7.3 - NEPAL - 2015 May 12, 07:05:19 UTC

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในอวกาศช่วงนี้ โปรดติดตามสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 พฤษภาคมครับ

ปล. เน็ตที่บ้านเสีย เลยไม่ได้มารายงานข่าวสาร ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ในระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ โลก และดาวเสาร์ เป็นเส้นตรง โดยเฉพาะในวันที่ 27 พฤษภาคม จะมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ โลก ดาวพุธ และ ดาวเสาร์ เป็นเส้นตรงโดยประมาณ และระหว่าง โลก ดาวพุธ และ ดาวอังคาร

ในเรื่องของปฏิกริยาดวงอาทิตย์ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา พบว่ามีปฏิกริยามากกว่าปกติในวันที่ 15-16 พฤษภาคม โดยส่งพลังงานออกมาเข้าสู่วงโคจร 3 วันต่อมาคือในระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม และยังเป็นช่วงที่ปริมาณจุดดับเปลี่ยนทิศทางจากลดลงมาเพิ่งขึ้นเล็กน้อยในวันที่ 16 ESA Daily Sun Spot Number สำหรับการเปลี่ยนแปลงบนโลกในช่วงนี้พบว่าเป็นช่วงที่มาพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นมากกว่าปกติในสหรัฐอเมริกา และในช่วง 2 วันทีผ่านพบว่าอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากกว่าปกติ โดยในวันที่ 19 เกิดพายุสนามแม่เหล็กระดับ 6 เวลา 0 UT และแผ่นดินไหวขนาด 6.5 เวลา 15:25 UT บริเวณขั้วโลกใต้ http://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=442826 และ ในวันที่ 20 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 เวลา 0:30 UT บริเวณเกาะตองกา Latest Earthquakes in the world ในขณะที่ประเทศไทยพบแผ่นดินไหวมากกว่าปกติเช่นกัน

ทุกท่านที่สนใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาว กับปฏิกริยาดวงอาทิตย์และความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลก โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม ครับ

 

ก้องภพ อยู่เย็น

เพิ่มเติมข้อมูลเชิงลึกสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างพลังงานนอกโลกกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกโดยเฉพาะเรื่องปรากฏการณ์พลังงานใต้โลก เช่นแผ่นดินไหว หรือ ภูเขาไฟระเบิด ถ้าทุกท่านได้สังเกตเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องจะพบว่า แผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่าปกติจะเกิดขึ้นในเวลาช่วงที่ปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์มีการแกว่งตัวอย่างฉับพลันมากกว่าปกติทั้งขาขึ้นและขาลง โดยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มักจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 1-4 วันหลังจากดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงเป็นพิเศษ ซึ่งในช่วงเวลานั้นดวงอาทิตย์จะมีการปะทุเกิดขึ้นเป็นสิ่งบอกเหตุให้เราได้ทราบล่วงหน้าได้ (ตามรูปที่แนบมาสำหรับข้อมูลแผ่นดินไหวขนาดเกิน 7.3) ส่วนการหน่วงเวลาที่เกิตแผ่นดินไหวในระหว่าง 1-4 วันนั้น บ่งบอกว่าคลื่นพลังงานที่โลกเชื่อมต่อกับดวงอาทิตย์มีอยู่สองรูปแบบหลักตามที่ผมได้ศึกษามา รูปแบบหนึ่งนั้นเป็นคลื่น longitude ในอวกาศเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง (http://www.musada.net/Papers/Paper9.pdf) และอีกรูปแบบหนึ่งเป็นคลื่น longitude ในพลาสม่าซึ่งจะใช้เวลาช้ากว่าคือประมาณ 2-4 วันในการส่งผ่านพลังงาน โดยคลื่นทั้งสองแบบนี้ตรวจจับได้จากการปรากฏการณ์แผ่นดินไหวบนโลกโดยตรง

ในทางตรงกันข้าม สำหรับคลื่นสนามแม่เหล็กที่ปัจจุบันนิยมใช้ตรวจจับนั้น จะเน้นการตรวจจับคลื่นพลังงานแบบ transverse ซึ่งเป็นผลข้างเคียงอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นได้พร้อมกับคลื่น longitude ใช้เป็นลางบอกเหตุของแสงออร์โรร่าในปัจจุบัน ไม่สามารถใช้บอกเหตุแผ่นดินไหวได้ทุกกรณีและไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เพราะคลื่น longitude ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวนั้น มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ electrostatic oscillation ที่มีการแกว่งตัวของสนามไฟฟ้าเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องมีสนามแม่เหล็กมาเกี่ยวข้องเสมอไป

ส่วนการตรวจจับคลื่นพลังงานประเภทนี้นั้นต้องใช้อุปกรณ์วัดพลังงานไฟฟ้าคลื่นความถี่ต่ำ โดยผู้ที่พยายามสร้างอุปกรณ์นี้สำเร็จใช้องค์ความรู้จากเทคโนโลยี Tesla โดยเครื่องมือที่สร้างขึ้นตรวจจับแผ่นดินไหวได้ก่อนภายใน 48 ชั่วโมง ท่านผู้ใดที่ในใจสามารถศึกษาผลงานของเขาได้จากเวปข้างล่างนี้ครับ
Transverse & Longitudinal Electric Waves and Tesla's Longitudinal Electricity - Eric P. Dollard - Official Homepage

https://www.indiegogo.com/projects/eric-dollard-tesla-seismic-warning-system-2-0#/story

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ในวันที่ 27 พฤษภาคม เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยพบว่าเป็นช่วงที่ปริมาณจุดดับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ในขณะที่ปริมาณ X-ray มีค่าสูงสุดในระดับ C1 และเป็นช่วงที่มีแนวสนามแม่เหล็กเปิดมีทิศทางมายังโลก ซึ่งส่งผลให้เกิดลมสุริยะความเร็วสูงมายังโลก จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 30 พฤษภาคม เวลาประมาณ 6 UT +/- 10 ชั่วโมง

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับกับเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ดังกล่าวโปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 มิถุนายนครับ

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกตินั้นที่ผมกล่าวมานั้น ทำไมไม่ได้วัดโดยค่า X-ray ในความเข้าใจของตำราเรียนทั่วไปนั้นจะ"สมมติ" ว่า X-ray บ่งบอกถึงพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากภายในดวงอาทิตย์ แต่เชิงสัจธรรมแล้ว ธรรมชาติไม่มีนอก ไม่มีใน สมมติฐานที่ใช้กันอยู่จึงเป็นสมมติฐานครึ่งใบเท่านั้น การใช้ X-ray มาวัดความรุนแรงของผลกระทบต่อโลกจึงถูกต้องเพียง 50%

ในความเป็นจริงอีกครึ่งหนึ่งนั้น X-ray แปรตามความเข้มของพลาสม่าที่อยู่รอบๆ ดวงอาทิตย์ ไม่ได้แปรตามพลังงานจากภายในทั้งหมด เพราะพลังงานที่ทำให้ดวงอาทิตย์ร้อนได้นั้นต้องอาศัยพลังงานจากภายนอกดวงอาทิตย์เสมอ เช่นเดียวกับหลอดไฟจะสว่างได้ ต้องอาศัยไฟฟ้าส่งพลังงานเข้ามาผ่านทางสายไฟ ไม่สามารถสว่างได้ด้วยตัวมันเอง

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ X-ray อยู่ในระดับต่ำ จะบ่งบอกว่าความหนาแน่นของพลาสม่ารอบๆดวงอาทิตย์มีน้อย อุปมาค่า X-ray เหมือนกับใบไม้ที่ปลิวตามกระแสลม โดยพลังงานนั้นอยู่ที่ลม ไม่ได้อยู่ที่ใบไม้ แต่ลมนั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจึงต้องอาศัยใบใม้ที่ปลิว หรือ กายเป็นตัวสัมผัสของลมโดยตรง (ในที่นี้หมายถึงโลกเป็นตัวรับสัมผัส - ผลออกมาในรูปของความแปรปรวนทางธรรมชาติบนโลก) แต่ลมจะแรงได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบไม้ให้เห็นเสมอไป โดยใบไม้จะมีมากในฤดูใบไม้ร่วง แต่ไม่มีมากนักในฤดูใบไม้ผลิ แต่ลมที่แปรปรวนนั้นมีได้ทุกฤดูกาล ไม่เกี่ยวกับใบไม้เสมอไป

โดยเราจะดูความแปรปรวนของลมจากการสังเกตปริมาณจุดดับที่มีการเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงมากกว่าปกติในช่วงเวลาสั้นๆ

สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ไม่ได้อยู่ในตำราเรียน เพราะตำราเรียนปัจจุบันเป็นน้ำครึ่งแก้ว ต้องปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ส่วนที่เหลือนั้นท่านต้องออกมาศึกษาเองนอกตำรา จึงจะเติมเต็มน้ำที่เหลือได้

จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ในกรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นขนาด 7.8 ในวันที่ 30 พฤษภาคม นั้น ( Earthquake - Magnitude 7.8 - BONIN ISLANDS, JAPAN REGION - 2015 May 30, 11:23:03 UTC )

เกิดขึ้นตามรูปแบบที่ทุกท่านได้ทราบล่วงหน้าก่อนหน้านี้ นั้นคือแปรตามปฏิกริยาดวงอาทิตย์ ในเชิงปริมาณจุดดับที่มีการหดตัวอย่างฉับพลัน และปรากฏการณ์ดาวเรียงตัว โดยพบว่าปริมาณจุดดับลดลงต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ในวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาซึ่งจะตรงกับช่วงที่มีปรากฏการณ์ดาวเรียงตัวมากกว่าปกติ โดยในวันที่ 28 นั้นเกิดปฏิกริยาภูเขาไฟระเบิดทีประเทศญี่ปุ่น เป็น Precursor ของเหตุการณ์ในครั้งนี้ นอกจากนั้นแล้วยังพบการก่อตัวของพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงวันเดียวกัน RSOE EDIS - Tropical Storm Information

จากความเข้าใจตรงนี้เองจะทำให้เราเข้าใจถึงวัฐจักรของภัยธรรมชาติได้ไม่ยากนัก และทราบได้ว่าช่วงวันใดบ้างที่ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกมากกว่าปกติครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

วันที่ 1 มิถุนายน เวลา 15:48 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้าง รังสี X-ray ออกมาในระดับ C1 ในวันที่ 2 มิถุนายน ในขณะที่ปริมาณจุดดับอยู่ในช่วงขาขึ้น จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางเข้ามาในวงโคจรของโลกในวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 18 UT +/- 10 ชั่วโมง

ถ้าทุกท่านที่ได้ศึกษาเหตุการณ์เหล่านี้บ่อยๆจะพบว่า ปฏิกริยาดวงอาทิตย์จะเกิดขึ้นมากกว่าปกติเมื่อมีปรากฏการณ์ดาวเรียงตัว จึงเป็นเหตุให้เราสามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าปฏิกริยาดวงอาทิตย์ที่มีมากกว่าปกติจะเกิดขึ้นในช่วงวันใด

ในช่วงเดียวกันนี้จะพบว่าโลกมีความแปรปรวนทางสภาพอากาศในหลายพื้นที่เช่น

-พายุก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก
RSOE EDIS - Tropical Storm Information

-ฝนตกหนักเป็นพิเศษทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
City, East Coast flooded after heavy rains - Stabroek News
Stormy Days Ahead... May Rainfall... East Coast "On Borrowed... | Buresh Blog | www.wokv.com

-แผ่นดินไหวรุนแรงกว่าปกติในรัฐ Oregon สหรัฐอเมริกา
Series of 6 earthquakes hit off Oregon coast

-ทอร์นาโดก่อตัวที่ประเทศจีน
Hundreds missing, many elderly tourists, after ship capsizes on China's Yangtze River | Reuters

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 มิถุนายนครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
- ปริมาณรังสี X-ray ที่วัดได้จากนอกโลก
http://services.swpc.noaa.gov/images/goes-xray-flux.gif

- ปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์
ESA Daily Sun Spot Number
http://www.sidc.be/silso/DATA/EISN/EISNcurrent.png

- วิดิโอภาพถ่ายมุมกว้างของพลังงานรอบๆดวงอาทิตย์
CACTus Diagostics
CACTUS CME Details

- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานบางส่วนจากดวงอาทิตย์ http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSyste...mp=2038-01-23+00:44:00&window=-1&cygnetId=261

 

A solar flare reaching above M6 level was detected on Monday afternoon beginning around 17:40 UTC. The source, sunspot 2371 is in a good geoeffective position for Earth directed eruptions. More details later this evening.


ผลพวงของคือ ค่าเคพุ่งปรี๊ด

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 25 มิถุนายน เวลา 8:36 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติส่งพลังงานออกมาเป็นมุมกว้างรอบทิศทาง โดยมีพลังงานส่วนที่มีทิศทางตรงกับโลก พบปริมาณจุดดับลดลงอย่างฉับพลันต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และส่งรังสี X-ray ออกมาสูงสุดในระดับ M7 จากการคำนวนพบว่ามวลพลาสม่าจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 16 UT +/- 7 ชั่วโมง

ในวันเดียวกันนี้ยังเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์ คือมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง

สำหรับเหตุการณ์บนโลกในช่วงนี้พบพายุลูกใหม่ก่อตัวขึ้นบริเวณประเทศเวียดนาม RSOE EDIS - Tropical Storm in Vietnam on Thursday, 25 June, 2015 at 06:07 (06:07 AM) UTC. EDIS CODE: TC-20150625-48823-VNM

และพบแผ่นดินไหวมากกว่าปกติใกล้กับประเทศนิวซีแลนด์

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตินอกโลกในครั้งนี้ที่จะสัมพันธ์กับโลก โปรดติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 29 มิถุนายน ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
- ภาพถ่ายมุมกว้างที่ดวงอาทิตย์มุมมองจากโลกสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้
CACTUS CME Details

- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานจากดวงอาทิตย์ http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSyste...mp=2038-01-23+00:44:00&window=-1&cygnetId=261

- รังสี X-ray ที่วัดได้จากนอกโลก
http://services.swpc.noaa.gov/images/goes-xray-flux.gif

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

วันที่ 5-6 กรกฏาคม เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ โดยส่งอนุภาคและพลังงานออกมาทิศทางหลักทางทิศตะวันออกไม่ตรงกับโลก โดยมีการขยายตัวของปริมาณจุดดับอย่างรวดเร็ว และสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และส่งรังสี X-ray ออกมาสูงสุดในระดับ M1 จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 10 กรกฏาคม เวลา 6 UT +/- 10 ชั่วโมง

ในวันที่ 7 กรกฏาคม ยังเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์ มีการเรียงตัวระหว่าง ดาวเสาร์ ดาวศุกร์ และ ดาวพุธ เป็นเส้นตรง

ในช่วงนี้ตรวจพบแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากกว่าปกติขนาด 6.3 ที่ประเทศญี่ปุ่น Earthquake - Magnitude 6.3 - KURIL ISLANDS - 2015 July 07, 05:10:26 UTC
และมีทอร์นาโดก่อตัวขึ้นในสหรัฐอเมริกา RSOE EDIS - Tornado in USA on Tuesday, 07 July, 2015 at 04:35 (04:35 AM) UTC. EDIS CODE: TO-20150707-49039-USA
ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์การความแปรปรวนในอวกาศโปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 กรกฏาคมครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
- วิดิโอภาพถ่ายการขยายตัวของปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์
RSOE EDIS - Tornado in USA on Tuesday, 07 July, 2015 at 04:35 (04:35 AM) UTC. EDIS CODE: TO-20150707-49039-USA
- พลังงาน X-ray ที่วัดได้จากดวงอาทิตย์จากนอกโลก http://services.swpc.noaa.gov/images/goes-xray-flux.gif
- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานจากดวงอาทิตย์บางส่วนในช่วงนี้ http://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSyste...mp=2038-01-23+00:44:00&window=-1&cygnetId=261
- ภาพถ่ายมุมกว้างของเหตุการณ์ที่ดวงอาทิตย์ในวันที่ 6 กรกฏาคม ที่ผ่านมา CACTUS CME Details

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 19 กรกฏาคม เวลา 9:48 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้างทางทิศตะวันตก ด้านเดียวกับโลก เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ C2 และเป็นช่วงที่ปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 22 กรกฏาคม เวลา 12 UTC +/- 7 ชั่วโมง

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในครั้งนี้โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 กรกฏาคม ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
- ภาพถ่ายมุมกว้างที่ดวงอาทิตย์
http://spaceweather.com/images2015/20jul15/cme_anim2.gif?PHPSESSID=pq9o25c0eju6nlo7laetusfc12
CACTUS CME Details

- โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานจากดวงอาทิตย์ http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=826815179

- ปริมาณจุดดับที่ดวงอาทิตย์ EISN | SILSO

- ปริมาณรังสี X-ray ที่วัดจากนอกโลกในช่วงนี้ http://services.swpc.noaa.gov/images/goes-xray-flux.gif

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ในวันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์ได้ลดลงถึงจุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ก่อนที่จะกลับมาสูงขึ้นอย่างฉับพลันในวันที่ 25 กรกฏาคม ESA Daily Sun Spot Number และเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ C3 ในวันที่ 24 กรกฏาคม ส่งคลื่นพลังงานออกมาในมุมแคบ ทางด้านหลังที่ไม่ตรงกับโลก จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินมทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 29 กรกฏาคม เวลา 12 UT +/- 10 ชั่วโมง

ในช่วงเดียวกันนั้นยังพบว่า เกิดพายุสนามแม่เหล็กระดับ 5 และเกิดแผ่นดินไหวมากกว่าปกติทั้งโลกที่มีขนาดเกิน 5.0 ในวันที่ 24 กรกฏาคม

Latest Earthquakes in the world

และมีพายุก่อตัวขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก สองลูก
RSOE EDIS - Tropical Storm Information
RSOE EDIS - Tropical Storm Information

สำหรับในช่วงวันที่ 29-30 กรกฏาคม นั้นจะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยมีการเรียงตัวของ ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ดาวพฤหัส และระหว่าง ดาวพุธ ดวงอาทิตย์ และ ดาวเนปจูน เป็นเส้นตรง
สำหรับโลกนั้นจะเป็นช่วงที่มีการเรียงตัวระหว่าง ดาวอังคาร โลก และ ดวงจันทร์ และเป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงในวันที่ 31 กรกฏาคม

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางธรรมชาติบนโลก อวกาศ และดวงอาทิตย์ สามารถติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฏาคม ครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 3 สิงหาคม เวลา 5:38 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้าง ส่งพลังงานออกมาแนวหลักออกมาทางทิศตะวันออก ทิศทางไม่ตรงกับโลก (http://spaceweather.com/images2015/03aug15/cme_anim2.gif?PHPSESSID=ed4s2cik60j3iad45u03850ok3) ในขณะที่ปริมาณ X-ray อยู่ในระดับ B5 และปริมาณจุดดับอยู้ในช่วงขาลง จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 18 UT+/- 10 ชั่วโมง

ทุกท่านที่มีความสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 สิงหาคม ครับ

 

ท่าทางว่าปีนี้ต้องเตรียมพร้อมกันอีกแล้วสิ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็นครับ

สรุปลักษณะการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกท่านจะเห็นได้ว่าแผ่นดินไหวที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ (ขนาดเกิน 6.8 ตามรูปที่แนบมา) นั้นจะแปรตามปริมาณจุดดับที่ดวงอาทิตย์ และจะเกิดในช่วงที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นหรือลดลงต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงขาลงของปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์

โดยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จะไม่เกิดขึ้นในช่วงที่ปริมาณน้ำในโลกมีสูง และมีพายุก่อตัวมากกว่าปกติ ทำให้วัฐจักรแผ่นดินไหวใหญ่สามารถขาดช่วงแบบรายคาบไปชั่วคราว สิ่งเหล่านี้เป็นข้อสรุปได้ว่าพลังงานใต้โลกนั้นมีการถ่ายเทกับชั้นบรรยากาศอย่างสม่ำเสมอส่งผลต่อระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ซึ่งอธิบายได้โดยใช้ทฤษฏีทางไฟฟ้าเกี่ยวกับคุณสมบัติของโลกที่เป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีการรับพลังงานไฟฟ้าจากนอกโลกมาสะสมไว้ในชั้นบรรยากาศและเปลือกโลก

Earth as a Spherical Capacitor

โดยปริมาณน้ำที่มีมากในอากาศนั้นเป็นปัจจัยทำให้การถ่ายเทพลังงานระหว่างบนดินและใต้ดินมีมากเป็นพิเศษ ทำให้การสะสมพลังงานใต้ดินจึงมีต่ำ ส่งผลให้แผ่นดินไหวทั่วโลกไม่รุนแรงในช่วงดังกล่าว

ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการคาดการณ์ภัยธรรมชาติโดยเฉพาะการคาดการณ์แผ่นดินไหวจึงมีความจำเป็นต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั่วโลกไปพร้อมกันๆ ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงในอวกาศ จึงจะทำให้รู้แนวโน้มของภัยธรรมชาติบนโลกได้อย่างถูกต้องครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม นี้จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยจะมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง และระหว่าง โลก ดวงจันทร์ และ ดาวเสาร์ เป็นเส้นตรง

ในวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมายังพบว่าปริมาณจุดดับบนดวงอาทิตย์กำลังอยู่ในช่วงขาลงและต่ำสุดในรอบกว่า 8 สัปดาห์ โดยลักษณะของเมฆบนโลกช่วงตะวันตกดิน เริ่มก่อตัวเป็นลอนคลื่นทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาในวันเดียวกัน

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกและดวงอาทิตย์จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติตดามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 สิงหาคมครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

วันที่ 21 สิงหาคม เวลา 9:49 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ M1 และพบปริมาณจุดดับขยายตัวอย่างฉับพลัน จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจากปฏฺิกริยาในช่วงนี้จะเดินทางมาถึงวงโคจรของโลกในวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 23 UT +/- 10 ชั่วโมง

ในช่วงเดียวกันนี้พบว่ามีพายุเกิดขึ้นในโลกถึง 5 ลูก โดยมีพายุใต้ฝุ่นสองลูก พายุเฮอร์ริเคนหนึงลูก และพายุโซนร้อนสองลูก
และพบว่าความรุนแรงแผ่นดินไหวอยู่ระดับต่ำระหว่างวันที่ 18-19 สิงหาคม ซึ่งแปรผกผันกับปริมาณน้ำในอากาศและจำนวนพายุรอบโลก

ทุกท่านทีสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่จะสัมพันธ์กับเหตุการณ์ครั้งนี้โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 สิงหาคมครับ

 

จากเฟส อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

ระหว่างวันที่ 24-27 สิงหาคม จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกครั้ง โดยในวันที่ 24 สิงหาคม มีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ และ ดาวเสาร์ เป็นเส้นตรง และในวันที่ 27-28 สิงหาคมจะมีการเรียงตัวระหว่าง โลก ดวงอาทิตย์ และดาวพฤหัส และ ระหว่าง โลก ดาวศุกร์ และดาวอังคาร เป็นเส้นตรง

ในวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 7:33 UT พบว่าเกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์มากกว่าปกติ ส่งรังสี X-ray ออกมาในระดับ M5 (สูงสุดในรอบ 2 เดือน) และเป็นช่วงที่ปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ~ สองสัปดาห์ จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนวงโคจรของโลกระหว่างวันที่ 27 และ 28 สิงหาคม

สำหรับบนโลกในวันเดียวกันนั้นเกิดแผ่นดินไหวมากกว่าปกติขนาด 6.0 เวลา 9:41 UT บริเวณหมู่เกาะ Kermadec Earthquake - Magnitude 6.0 - KERMADEC ISLANDS REGION - 2015 August 24, 09:41:26 UTC
และพลังงานพายุทั่วโลกโดยรวมได้อ่อนกำลังลงมา

ทุกท่านที่สนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์นอกโลกในครั้งนี้ โปรดติดตามสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 สิงหาคมครับ