วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

มาเล่าต่อจากเมื่อวานนี้ครับ

พอไปวัดพุทธบูชาเสร็จก็ไปเจอคุณหนู BNBK กับคุณ PK ที่ วัดปทุมวนารามต่อ

ไปถึงเจอทั้งสองท่านกำลังสนทนาเรื่องการปฏิบัติกันอยู่ ก็พาทั้งสองชมภายในวัด หลังศาลาพระราชศรัทธา ซึ่งเป็นกุฏิของพระอาจารย์ถาวร ท่าน

ได้พาไปดูบอร์ด ที่บันทึกเรื่องราวของหลวงพ่อยี แห่งวัดดงตาก้อน (ท่านมรณะภาพนานแล้ว อายุ ร้อยกว่าปีเช่นกัน)

มีเรื่องที่ท่านยืดเหรียญบาทให้เป็นเส้น เสกไข่ต้มยอดบายศรีให้เป็นทองคำ เสกของให้เป็นทองคำ รวมไปถึงการอธิฐานบิณฑบาตรข้าวทิพย์จากเทวดาให้ลูกศิษย์ได้กิน(คุ้นๆนะ แต่ไอ้พวกเรายังเป็นของละเอียด ของท่านเป็นข้าวออกมาจริงๆ)


ทางคุณเปี๊ยกมีกล้องก็เลยได้ถ่ายรูปเอาไว้ ซึ่งจะได้ไปนำลงในกรธทู้ตามรอยพระอภิญญาครับ

พอนั่งคุยกันไปอีกสักครู่ก็สงสัยกันว่า หลวงพ่อยี ท่านมาสอน หลวงพ่อถาวรท่านทางกายเนื้อสมัยมีชีวิตหรืออย่างไร

ก็บังเอิญ พี่ที่วัดมาคุยด้วยบอกว่าหากอยากคุยก็ไปกราบถามท่านพระอ.ถาวรท่านได้โดยตรง

พวกเราก็จึงไปกราบถามพระอาจารย์ถาวรท่าน ว่า หลวงพ่อยีท่านมาสอนหลวงพ่ออย่างไรครับ

ท่านก็ได้ตอบว่า ท่านมาสอนในสมาธิ ในจิต เมื่อจิตมีความผูกพันธ์สื่อถึงกันได้ ก็ติดต่อกับท่านได้ทั้งหมด

ได้เรียนถามท่านว่าแล้วหลวงพ่อยีท่านมาสอนอย่างไร

ท่านได้ตอบว่า "ท่านมาทำให้ดูและสอนว่า แบบนี้ทำแบบนี้ เกิดผลแบบนี้"

ได้เรียนถามท่านว่า "แล้วฆราวาสมีเกณฑ์ได้อภิญญาหรือไม่"

ท่านได้ตอบว่า "ทั้งพระ ทั้งเณร ทั้งฆราวาส หากทำจริง จิตถึง ทำได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ของยาก เป็นของ ง่ายๆเป็นเรื่องธรรมดา"

" จิต"เราคิดว่า ก็ท่านได้แล้วก็ย่อมง่ายเป็นธรรมดา

ท่านก็หันไปพูดกับลูกศิษย์ท่านว่า "ไอ้เรานี่อยู่บ้านนอนตรงไหน นุ่งอะไร นี่รู้ได้หมด จิตมันทำได้ทุกอย่าง ปิดไม่ได้ คิดอะไร ก็รู้ทั้งหมด"

ไอ้เราก็คิดแล้วว่าท่านได้เฉลยแล้วว่าท่านได้ทั้งเจโตปริยญาณ และทิพยจักษุญาณแน่นอน ที่สำคัญก็คือ อภิญญาใหญ่ อิทธิวิธีด้วย

ก็เลยได้กราบเรียนถามท่านว่า "ทำอย่างไรหลวงพ่อ หลวงปู่ท่านจึงจะมาสอนบ้างครับ"

ท่านได้ตอบว่า " สำหรับเรื่องนี้ ต้องอาศัยอามิสบูชา ต้องไหว้ครู สังเกตุไหม วันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ พระปฏิบัติท่านต้องจัด พวงมาลัยมาไหว้ครูบาอาจารย์ เสมอ ไหว้ครูแล้ว ท่านก็เมตตามาสอน พอจิตถึง แม้พุทธญาณท่านก็เมตตามาสอนได้"

เราก็ตบเข่าฉาด(ในใจ)ว่า ท่านสามารถกราบพระพุทธเจ้าได้ แบบนี้ท่านจิตถึงเป็นพระสุปฏิปันโน แน่นอน ท่านที่ปฏิบัติได้ปฏิบัติถึงท่านยืนยันตรงกันพูดเหมือนกันทั้งหมด

จากนั้นก็ขอโอกาสกราบเป็นศิษย์ของหลวงพ่อยี และพระอ.ถาวรท่าน ไม่กล้ารบกวนท่านมาก ทั้งที่ท่านเมตตาให้เวลากับพวกเราเป็นพิเศษ

เนื่องจากท่านต้องเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้า ถวายธรรม องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


เราจึงได้กราบลาท่าน


ข่าวดีก็คือ อีกไม่นานนี้ พวกเราจะได้มีโอกาสถวายพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมผะอบทองคำและเจดีย์แก้ว กับหลวงพ่อท่าน (กำหนดการจะแจ้งให้ทราบ) และในโอกาศวันนั้น ผมจะขออนุญาตจัดพานไหว้ครูเพื่อ ให้พวกเราได้กราบเป็นศิษย์เรียนอภิญญา กับอ.ถาวรท่านด้วย เพราะท่านได้เมตตาเปิดทางให้พวกเราเต็มที่แล้วนับเป็นโอกาสพิเศษ อันดีของพวกเราทุกคน

วาระใกล้เข้ามาก็ขอให้ทุกท่านจงเตรียมจิตของตนให้เหมาะกับการอันเป็นกุศลทุกประการด้วยเทอญ

 

เมื่อวาน ..!!

ไม่ทราบว่าใช่วัดปทุมวนาราม ที่อยู่ติดกับสยามพารากอน หรือเปล่าคะ
(คำถามอาจจะแปลกๆหน่อยนะคะ แบบว่าค่อนข้างห่างวัดวาพอสมควร)
พอดีผ่านเข้าไปชมงานคอมเวิร์ดฯ

ถ้าใช่ เมื่อวานนี้แวะไปที่นั้น ตรงตำแหน่งร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ
มองลงมา เห็นหลังคาวัดและบริเวณรอบๆ มีส่วนหนึ่งที่กำลังก่อสร้างด้วยค่ะ

ในใจก็นึกอยากเข้าไปจังเลย แต่ไม่กล้าอะค่ะ ถ้าทราบว่าอยู่กันเนี่ย
จะขอตามเข้าไปด้วยแล้ว ^_^

 

ธรรมมะดีๆที่น้องนาคามูระฝากมาครับ ใครอยากก้าวหน้าในธรรมได้รวดเร็วก็ลองนำไปปฏิบัติครับ

อยากให้อ่านเรื่องนี้

หลวงตาสอนการบวชในและพาศิษย์บวชจิตบนดาวดึงส์ <<


อานิสงส์ของการบวชจิตจากคำสอนของหลวงตา <<

การบวชจิต บวชในเนี่ย เป็นสูตรของหลวงปู่ดู่ท่านเลยนะ

หลวงปู่ดู่ท่านบอกว่า
การบวชทั้งในและนอกมันลำบากในยุคนี้
เราบวชใน คนไม่รู้....
แต่ผีรู้ เทวดารู้
การบวชในเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง

เวลาทำบุญให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ
...จะได้ชิน..ถ้าทำบ่อยๆ จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

บวชในยากกว่าบวชนอก
เวลาทำความดีอะไรก็ตาม
ให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ
มันจะปรับออกมาข้างนอกเอง
เป็นการบวชจากข้างในไปหาข้างนอก
ข้างนอกก็คือรูปลักษณ์ที่เป็นพระ
พอเราบวชแล้วเราจะไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ดี
เวลาเราแผ่บุญออกไป พลังงานก็ผ่านเราออกไปได้มากกว่าไม่ได้บวช
เพราะข้างในเราเป็นพระ

พลังงานเนี่ย จะผ่านพระได้มากกว่าฆราวาสนะ
ลองคิดดูสิ เราเป็นพระนะ แค่เรานึกเนี่ย ก็เป็นแล้ว

ทำไม่เกิน ๓ ปี
จะรู้สึกว่าเราเป็นพระ
เรื่องอะไรที่ไม่ดีเราจะไม่พูด ไม่ทำ
แม้แต่ในฝัน ยังเป็นพระเลย

บวชจิตแล้วต้องสึกไหม..ไม่ต้อง
มันไม่เกี่ยวกัน เรื่องโลกกับเรื่องธรรมเป็นคนละเรื่อง
เวลาอยู่ทางโลกก็อยู่ไป เมื่อไรอยู่ทางธรรมเราก็บวชใน

ตื่นขึ้นมาก็ให้ทำแล้ว
กราบพระ ๖ ครั้ง
แล้วทำวัตรสั้นๆ
อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตั้งแต่องค์ปฐมถึงองค์ปัจจุบัน
เวลากินข้าว อาบน้ำ เวลาว่าง
เวลานอน ให้สวดจนกว่าจะหลับ

๓ ปี จะรู้สึกว่าข้างนอกจะเปลี่ยน
-----------------------------------------

มาบวชกันก่อน เวลาจะทำอะไรก็แล้วแต่อนิสงค์จะมากกว่า การปฎิบัติอะไรก็จะก้าวหน้ากว่าเดิมมากครับ

โมทนาด้วยครับ _/\_<!-- / message --><!-- sig -->

____________________________________________________________
"สัมมาทิฐิ สัมมาสมาธิิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ"

 

เมื่อวาน ..!!

ไม่ทราบว่าใช่วัดปทุมวนาราม ที่อยู่ติดกับสยามพารากอน หรือเปล่าคะ
(คำถามอาจจะแปลกๆหน่อยนะคะ แบบว่าค่อนข้างห่างวัดวาพอสมควร)
พอดีผ่านเข้าไปชมงานคอมเวิร์ดฯ

ถ้าใช่ เมื่อวานนี้แวะไปที่นั้น ตรงตำแหน่งร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ
มองลงมา เห็นหลังคาวัดและบริเวณรอบๆ มีส่วนหนึ่งที่กำลังก่อสร้างด้วยค่ะ

ในใจก็นึกอยากเข้าไปจังเลย แต่ไม่กล้าอะค่ะ ถ้าทราบว่าอยู่กันเนี่ย
จะขอตามเข้าไปด้วยแล้ว ^_^

-----------------------------------------------------------


ใช่ครับ เมื่อวานนี้ช่วงเย็น เสียดายไม่งั้นก็ได้ไปกราบอ.ถาวรท่านด้วยกันครับ

ไม่เป็นไรคราวหน้ามีครับ ไปถวายพระบรมสารีริกธาตุด้วยกันได้เลย

 

^_^

ถ้าทราบกำหนดการแล้ว และโอกาสอำนวย ก็คงไม่คลาดกันแล้วค่ะ

หรือหากว่าคุณคณานันท์กรุณาจัดให้มีติวเรื่องปฏิบัติสมาธิกันอีก
ขออนุญาตร่วมด้วยนะคะ รู้สึกต้องขอคำชี้แนะเยอะมากๆ แล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

มีจัดสอนสมาธิในวันเสาร์ที่ 16 กพ.นี้ เลา 9.30 น. ที่ออฟฟิตของคุณ Desire ชั้น 17 อาคารเลิศปัญญา ซอยรางน้ำ ครับ

ขอเรียนเชิญท่านที่สนใจไปร่วมฝึกกันได้ครับเป็นคลาสเริ่มต้นไม่ต้องมีพื้นฐานก็ได้ครับ

 

กำหนดการมาแล้ว หุหุ ไม่น่าจะพลาดด้วยประการทั้งปวง

ว่าแต่ซอยรางน้ำอยู่แถวไหนเหรอครับ ใครรู้บอกผมหน่อย

ผมไม่เคยไปครับ อยู่แถวรังสิต อ่ะอยู่แถวนี้จะไปด้วยกันก็ได้นะครับ

 

ขอดูก่อนค่ะถ้าไม่ติดธุระก็จะไปค่ะ อยากให้อาจารย์ทวนวิชาอีกทีค่ะ (สู้ๆค่ะ)

 

สวัสดีค่ะ
ดิฉันมาใหม่, ดิฉันมืดบอด, ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี
(เอ่อ...ฟังดูเหมือนคนมีปัญหาชีวิตเลย......ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะคะ)

----------------------------------------------

คือดิฉันก็ติดตามเรื่องภัยพิบัติอยู่เหมือนกัน
ดิฉันเป็นคนเดียวในบ้านที่ศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรม
คนอื่นๆก็เป็นพุทธตามประเพณี มีความเข้มข้นของ
ศีลธรรมแตกต่างกันไป ...เรื่องปฏิบัติธรรม เค้าไม่ว่า
แต่ถ้าดิฉันพูดมากกว่านี้ (อย่างเรื่องภัยพิบัติ หรือเรื่อง
ผี สาง เทวดา) ดิฉันก็กลัวว่าทางบ้านจะรับไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เชื่อหรอกนะคะ แต่เค้าจะมีความ
สงสัยมาก และก็คงว่าดิฉันเพี้ยนไปแล้ว

ออกตัวก่อนว่า ดิฉันไม่ได้มีพะลงพลังอะไรเลย
เพียงแต่อ่านมาก ค้นมากเท่านั้น แต่มันคงไม่ทำให้
ดิฉันเชื่อได้ ถ้าไม่เริ่มจากการมีศรัทธาในพระพุทธเจ้าก่อน
ดิฉันศรัทธา และไม่สงสัยในธรรมของพระองค์ค่ะ

------------------------------------

ดิฉันได้แต่หาข้อมูล และเตรียมตัว เตรียมใจแบบเงียบๆเท่านั้น
ก็คิดว่า อย่างมากก็แต่ตาย ก็คงจะทำใจตายแบบไม่เศร้าหมองได้
แต่ก็ยังสงสัยว่า ตัวเองเกิดมาแบบมีภาระหน้าที่เพื่อการณ์นี้ด้วยหรือไม่
เพราะเห็นหมอดูทัก (คือท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่เป็นหมอดูอาชีพ)
เมื่อ 10 ปีก่อน ท่านบอกว่า เราเกิดมาเพื่อช่วยคน เราน่าจะได้เป็นหมอ
ซึ่งตอนนั้น ฟังแล้วก็ไม่ใส่ใจ เพราะไม่นึกรักอาชีพหมอซักนิด แต่แล้ว
เมื่อเดือนก่อน ท่านดูดวงให้ ท่านก็ยังบอกอีกว่า ถ้าเป็นหมอ จะไปได้ดี
เพราะเรามีพรสวรรค์ ซึ่งปัจุบันนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวของอะไรกับอาชีพหมอเลย
เลยสงสัยว่า ถ้าเรามีพรสวรรค์จริง ทำไมไม่มีอะไรดลใจให้เราเดินไปใน
แนวทางนั้นเลย

---------------------------------------------------------

แต่เมื่อมาติดตามอ่านเรื่องภัยพิบัติแล้ว มันกลับดลใจมาก
รู้สึกอยากช่วย คือถ้าวันนั้นมาถึง แล้วตัวเองยังไม่ตาย
ก็อยากจะมีโอกาสได้ช่วยคนอื่นเท่าที่จะช่วยได้
ทำอย่างไรจะรู้ได้ล่ะค่ะ ว่าตัวเองมีภาระเพื่อการณ์นี้หรือไม่
เพราะพูดตรงๆว่า ถ้าไม่มีภาระอะไร ดิฉันก็จะพิจารณา
ความตายไว้อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม ดิฉันมืดบอด ปัญญาน้อย รบกวนท่าน
ผู้รู้ช่วยชี้แนะ ติเตียนด้วยนะคะ

ปล. อยากไปฝึกสมาธิด้วยจัง แต่อยู่ ตจว.

 

สวัสดีครับคุณ Lazaza

ผมเองก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีหน้าที่อะไรในการช่วยเหลือภัยพิบัติ อาจจะมีหน้าที่แค่ให้กำลังใจสนับสนุนอยู่ห่างๆ

แต่กระนั้น ถ้าพยายามทำให้จิตใจเราดี ทำให้การกระทำของเราต่อตนเองและส่วนรวมดี พยายามสวดมนต์ทำสมาธิ สะสมบุญกุศล ช่วยเหลือครอบครัวและสังคมบ้างเล็กๆน้อยๆเท่าที่ทำได้ เพียงเท่านี้ก็นับไ้ด้ว่าเป็นผู้ที่ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท และไม่ทำตัวเป็นขยะของโลกและจักรวาล ผมก็เห็นถึงความหมายและประโยชน์ของการเกิดมาในยุคนี้แล้วละครับ

 

ทางธรรม
มีโครงการจะอัดเสียงคุณคณานันท์สอนปฏิบัติ
แต่ขอเป็นราวมีค. ให้มหาลัยปิดเทอมก่อน เมื่อเสร็จแล้วจะแจ้งคุณ Lazaza นะคะ
ตอนนี้เอาแค่ศีล ๕ ก่อนให้เต็ม ต่อด้วยพรหมวิหาร ๔ เพื่อแต่งศีลให้งาม
คุมกายวาจาใจให้ศีล ๕ ละเอียด
แนะนำคนในบ้านให้เดินตามคำแนะนำนี้ โดยไม่ต้องพูดเรื่องภัยพิบัติ

ทางโลก
เตรียมอาหารแห้ง น้ำดื่มเก็บใกล้มือ อ้างว่าช่วงนี้ของแพงต้องซื้อตุนเล็กน้อย
มีไฟฉาย มีดพก เอกสารสำคัญ เสื้อผ้าสักสองชุด ยาสามัญประจำบ้าน เสื้อหนาว เสื้อฝน อยู่ในที่ๆหยิบได้สะดวก
เติมน้ำมันรถให้เต็มเสมอ มีแผนที่ประเทศไทยอยู่ในรถ
จากนี้พาคนในบ้านเที่ยววัดแถวๆสระบุรี ลพบุรี เผื่อต้องไปพึ่ง
อ้างวันมาฆบูชาไปทำบุญก็ได้ค่ะ

ลองแค่นี้ก่อนนะคะ

 

เรื่องอัดเสียงการสอนสมาธินั้นผมติดค้างพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณจำรัสมานานมากๆแล้วครับ

ดังนั้นจะเริ่มอัดเสียงตั้งแต่ ของวันที่16 กพ.นี้เลยครับ เนื่องจาก

1.เป็นการฝึกเบื้องต้น ปูพื้นฐานเป็นต้นไป

2.จัดในห้องประชุมซึ่งจะสงบเพียงพอที่จะบันทึกเสียงได้

จะเริ่มบันทึกไปเรื่อยๆครับ ท่านที่สนใจจะจัดส่งเพื่อเป็นธรรมทานให้ฟรีครับ

 

ขอบคุณทุกท่านนะคะทั้งผู้ที่ร่วมอนุโมทนา
คุณ apichan และคุณ sutatip ด้วย
ดิฉันจะเตรียมเท่าที่เตรียมได้นะคะ

ดิฉันสนใจมากนะคะ เรื่องเสียงอัดสอนการทำสมาธิ
ของคุณคณานันท์ ถ้าออกมาเมื่อไหร่ก็ขอความกรุณาด้วยนะคะ
ไม่รู้ปัญญาน้อยๆอย่างดิฉัน จะฝึกได้สักแค่ไหน

ไม่ทราบว่าพื้นที่แถบอีสาน มีที่ไหนที่เหมาะแก่การ
หลบภัยบ้างคะ ดิฉันอยู่ขอนแก่น หากเกิดเหตุ ดิฉันก็คง
ไปไกลมากไม่ได้ แรกๆก็เล็งๆวัดแถวอุดรฯไว้
ไม่รู้ว่าวัดป่าบ้านตาดเค้าจะรับไว้พิจารณารึปล่าว
แล้วอยู่ในป่านี่เราต้องไปสร้างที่หลบภัยในป่าด้วยหรือไม่คะ

ช่วงนี้อากาศมันไม่ค่อยปกติเลยนะคะ เดี๋ยว 3 วันหนาว
3 วันร้อน หนาวก็หนาวสั่นเลย ร้อนก็ร้อนแดดเปรี้ยงเลย
เมื่ออาทิตย์ก่อน ดิฉันเข้ากรุงเทพฯ อากาศแย่มากเลยนะคะ
เหมือนมลพิษมันอบอวลอยู่ในนั้น ไม่ระบายไปไหน
ท่านๆที่อยู่กรุงเทพ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

สวัสดีครับ ผมพึ่งกลับมาจากการไปตะลุยเขาชนไก่กับการฝึกรด.มาครับ เวลาที่อยู่บนเขาชนไก่ เห็นคนอื่นเครียดๆ กดดันกัน แต่ผมรู้สึกสบายมากครับ ก็เลยพยายามแผ่เมตตาให้เขาตลอด บริเวณนั้น มีพรหม เทพเทวดา อยู่มากมายครับ ไปไหนมาไหนก็ยิ้มให้ โบกมือให้ตลอด เห็นแล้วก็มีความสุขครับ ผมเป็นหัวหน้ากองร้อยครับ ก็ได้หน้าที่ให้มาคุม แล้วก็คอยตักอาหารให้คนอื่นๆ แล้วก็ค่อยกินคนสุดท้ายครับ รู้สึกมีความสุขมากเลยครับ เวลาได้ช่วยคนอื่น เวลาตักอาหารผมก็จะอธิษฐานประมาณว่าขอให้อาหารเต็มไปด้วยพลังแห่งสัมมาทิฎฐิ แล้วก็ตักอาหารไปเรื่อยๆครับ ไปมาคราวนี้รู้สึกคุ้มมากเลยครับ คืนแรก ผมมีอาการคล้ายกายทิพย์จะหลุด ประมาณ3ครั้ง แต่ยังไม่หลุด ก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วก็นอนไปครับ ผมขอยืนยันอาการของคุณ tam220t ครับ สรุปแล้วคร่าวๆไปมาคราวนี้กำลังใจสูงขึ้นมากเลยครับ ผมยังรู้สึกอีกด้วยว่าเคยอยู่แถวนั้นมาก่อน ภูมิประเทศแถวนั้นก็คุ้นตา คล้ายมีความคุ้นเคยมาก่อน และคิดว่าหลายๆท่านก็น่าจะเคยอยู่แถวนั้นมาก่อนครับ ถ้ายังไง ขอให้ผู้ที่ทราบช่วยยืนยันด้วยครับ ผมตั้งจิตอธิษฐาน ณ ที่นั่นเลยว่า "ความสุขของผู้อื่นจะต้องมีความสำคัญ มากกว่าความสุขส่วนตัวของเรา ดังนั้นเราจะต้องช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข โดยไม่สนถึงความยากลำบากของตัวเอง" ขอให้ทุกๆท่านได้รับความสุขความเจริญจากอานิสงค์ของบุญที่ผมได้กระทำเอาไว้ชอบแล้ว ทั้งมวลทั้งหมดทั้งสิ้นนะครับ สาธุ ขอให้ทุกๆท่านให้ความสำคัญกับจิตใจที่เบาสบาย เต็มไปด้วยพรหมวิหาร4 และเป็นสัมมาทิฎฐิ ให้มากกว่าการยึดติดในระดับของสมาธินะครับ เพราะว่าจะไม่มีประโยชน์เลย หากเรามีสมาธิแก่กล้า แต่ว่าไม่รู้จักการให้อภัยและรักผู้อื่น ให้เสมอเหมือน หรือยิ่งกว่า ที่เรารักตัวเอง ขออนุโมทนาในสัมมาปฏิบัติของทุกๆท่านครับ

 

สัมผัสกระแสเย็นชุ่มฉ่ำจากโพสต์ของคุณ Xorce
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิค่ะ

 

ขอเป็น MP3หรือCD เพราะ เครื่องคอมพิวเตอร์ มันไม่ยอมรับแผ่น ดีวีดี ก๊อป

 

คุณเล็กครับผมขอ 1 ชุดครับ ขอบคุณครับ

 

สุธาทิพ ขอจองหนึ่งชุดค่ะ

 

ขอหนึ่งชุดเหมือนกันครับ แบบซีดี