ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว 5.7 เขย่าปาปัวนิวกินี | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „แผ่นดินไหว 5.7 เขย่าปาปัวนิวกินี แผ่นดินไหวขนาด 5.7 แมกนิจูด เขย่าประเทศเกาะปาปัวนิวกินี เมื่อเวลาประมาณ ตี 2 ครึ่งรุ่งสางวันอาทิตย์ แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือเตือนภัยสึนามิ วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:04 น.

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า เกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างรุนแรง วัดได้ 5.7 ตามมาตราแมกนิจูด ใต้ทะเลนอกชายฝั่งประเทศเกาะปาปัวนิวกินี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก และอยู่เหนือประเทศออสเตรเลีย เมื่อเช้าตรู่วันอาทิตย์ โดยสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. วันเสาร์ ตามเวลามาตรฐานสากล (02.30 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาในประเทศไทย) จุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเลลึกประมาณ 50 กิโลเมตร ห่างชายฝั่งเมืองทารอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 58 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือมีผู้บาดเจ็บล้มตาย และไม่มีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ ในเว็บไซต์ของศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ที่หมู่เกาะฮาวายของสหรัฐ.“

    อ่านต่อที่ : แผ่นดินไหว 5.7 เขย่าปาปัวนิวกินี | เดลินิวส์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชามติท่วมท้นหนุนกม.แต่งงานเกย์ไอร์แลนด์ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ประชามติท่วมท้นหนุนกม.แต่งงานเกย์ไอร์แลนด์ ผลการทำประชามติสนับสนุนการแต่งงานของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในไอร์แลนด์ ผ่านฉลุยร้อยละ 62.1 กลายเป็นประเทศแรกที่อนุมัติกฎหมายการสมรสของคนรักเพศเดียวกันด้วยการฟังเสียงประชาชน วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2558 เวลา 3:16 น.

    สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่า ชาวไอร์แลนด์ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 3.2 ล้านคนออกไปลงประชามติเกี่ยวกับกฎหมายการแต่งงานของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเมื่อวันศุกร์ ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการปรากฏว่า มีผู้ออกเสียง "เห็นด้วย" ร้อยละ 62.1 นับเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกลุ่มคนรักเพศเดียวกันในสังคมไอร์แลนด์ที่สถาบันศาสนามีอิทธิพลมาอย่างยาวนาน โดยคาดว่าจะมีร่างกฎหมายที่ชัดเจนออกมาในสัปดาห์นี้ ไอร์แลนด์ถือเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติกฎหมายดังกล่าวด้วยวิธีการทำประชามติ นับเป็นประเทศที่ 19 ในโลก และประเทศที่ 14 ของยุโรป ที่การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันได้รับการรับรองทางกฎหมาย กลุ่มผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนต่างมารวมตัวกันในลานหน้าปราสาทดับลิน โห่ร้องยินดีและเฉลิมฉลองด้วยการโบกธงสัญลักษณ์สีรุ้ง หนึ่งในผู้สนับสนุนสำคัญคือนายลีโอ วารัดการ์ รมว.กระทรวงสาธารณสุขและตัวเต็งว่าที่นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีคนแรกที่เปิดเผยถึงรสนิยมทางเพศของตนว่าชอบเพศเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า ความสำเร็จในการผลักดันเรื่องนี้นับเป็นการปฏิวัติทางสังคม อย่างไรก็ตาม แนวคิดเคร่งศาสนายังคงมีอิทธิพลในสังคมไอร์แลนด์ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เลือกลงเสียงข้าง "ไม่เห็นด้วย" โดยเชื่อว่าการแต่งงานเป็นเรื่องระหว่างหญิงและชายเท่านั้น ดิอาร์มุยด์ มาร์ติน เจ้าคณะสังฆมณฑลดับลิน ซึ่งโหวต "ไม่เห็นด้วย" กล่าวว่า สิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศควรได้รับการเคารพ แต่ก็ไม่ควรบิดเบือนนิยามของ "การแต่งงาน" การรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในไอร์แลนด์จนถึงปี 2536 ขณะที่การหย่าร้างเป็นเรื่องต้องห้ามตามกฎหมายจนถึงปี 2536 และยังคงห้ามไม่ให้มีการทำแท้งในปัจจุบัน เว้นแต่ว่าการตั้งครรภ์นั้นเป็นอันตรายต่อผู้เป็นมารดา กฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศ แม้ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก แต่อิทธิพลของสถาบันศาสนาก็เสื่อมคลายลงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา“

    อ่านต่อที่ : ประชามติท่วมท้นหนุนกม.แต่งงานเกย์ไอร์แลนด์ | เดลินิวส์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „เมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร เมียนมาออกกฎหมายกำหนดให้ผู้หญิงในบางพื้นที่ของประเทศ ต้องเว้นช่วงห่าง 3 ปี ในการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง เพื่อควบคุมจำนวนประชากร ขณะที่นักเคลื่อนไหวมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2558 เวลา 0:43 น.

    สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำเมียนมา ลงนามในร่างกฎหมายสาธารณสุข ที่ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในบางพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ในการออกกฎควบคุมการตั้งครรภ์ โดยจะต้องทิ้งช่วงห่าง 3 ปีในแต่ละครรภ์ ซึ่งรัฐบาลชี้แจงว่า เป็นความพยายามในการลดอัตราการเสียชีวิตของแม่และเด็ก ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับมติเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมันถูกเขียนขึ้นภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มชาวพุทธที่มีจุดยืนต่อต้านการเพิ่มจำนวนประชากรของชนหลุ่มน้อยชาวมุสลิม ซึ่งนายขิ่น เลย์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีมองว่า การลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ของประธานาธิบดีเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง นายเลย์กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีลักษณะของการนำไปใช้ที่อาจบ่อนทำลายสิทธิในการสืบพันธุ์ สิทธิสตรี รวมถึงเสรีภาพในการนับถือศาสนา ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์การกดขี่แบ่งแยกทางศาสนาและชาติพันธุ์ทวีความรุนแรงขึ้น.“

    อ่านต่อที่ : เมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร | เดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผวา! ถนนกำแพงเพชร ทรุดเป็นโพรงลึก คาดแล้งจัดดินแห้ง
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 พ.ค. 2558 17:30

    [​IMG]

    ระทึก! ถนนในกำแพงเพชรทรุดกว่าครึ่งเลน เป็นโพรงลึก 3 เมตร ชาวบ้านผวาเป็นอันตราย ต้องขับรถเลี่ยงเส้นทางอ้อมไปอีก 3 กม. คาดจากภัยแล้งรุนแรง ทำพื้นดินแห้งจนทรุดตัว พ่อเมือง ลงพื้นที่ สั่งซ่อมด่วน...

    เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2558 มีรายงานว่าเกิดเหตุถนนสายบ้านทุ่งตากแดด-บึงบ้าน พื้นที่หมู่ 5 ต.ทุ่งทราย อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร เกิดทรุดตัวจนเป็นโพรงลึก ยาวกว่าครึ่งเลน รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ยกเว้นรถจักรยานยนต์ โดยนายวันชัย พรมมี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.ทุ่งทราย อ.ทรายทองวัฒนา ซึ่งเป็นคนพบถนนทรุดตัว เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ได้ขับรถกลับจากส่งของ และเห็นข้างหน้ามีหลุมดำขนาดไม่ใหญ่มาก ตอนแรกคิดว่าเป็นงูเหลือมขดอยู่ จึงหักหลบแล้วจอดรถลงไปดู ก็พบว่าเป็นหลุมอยู่กลางถนน จึงได้หักกิ่งไม้เพื่อมากั้นไว้เป็นสัญลักษณ์ให้คนที่ผ่านไปมาได้ระมัดระวัง

    “แต่ในขณะที่กำลังใช้กิ่งไม้มาวางกั้น พื้นถนนได้ทรุดตัวขยายวงกว้างออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ตกใจวิ่งหนีแทบไม่ทัน จากนั้นได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาดูที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ประชาชนช่วยกันบอกรถให้ผ่านไปทางเส้นทางอื่น จากการวัดพบว่าถนนยุบลงไปเป็นโพรงลึกประมาณ 3 เมตร กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร กินถนนไปกว่าครึ่งเลน”

    ต่อมานายวิวัฒน์ ติดยงค์ นายช่างโยธาเทศบาล ต.ทุ่งทราย ได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยระบุว่า ถนนสายนี้เมื่อปีที่ผ่านมาเคยทรุดตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใหญ่ขนาดนี้ ส่วนสาเหตุคาดว่าคงเกิดจากปีนี้ภัยแล้งรุนแรง พื้นดินแห้งหมดไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวมีหนูนาขุดโพรงอาศัยจำนวนมาก เมื่อชาวนาไปขอน้ำจากชลประทานขอให้ปล่อยน้ำมากขึ้น กระแสน้ำที่มีความเร็วไหลผ่าน ทำให้ดินรับสภาพไม่ทัน และโพรงใต้ดินมีมากจึงทำให้ถนนทรุดตัวก็เป็นได้ จะประสานทางกองช่างให้มาซ่อมแซมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

    ด้านนายพรชัย เทียนยุทธ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งทราย เปิดเผยว่า ถนนสายนี้มีรถบรรทุกข้าว และรถบรรทุกทรายซึ่งมีน้ำหนักมากวิ่งผ่านประจำ เพราะสามารถไปออก จ.พิจิตรได้ ขณะนี้ประชาชนต้องใช้เส้นทางอื่นเบี่ยงไปซึ่งมีระยะทางอ้อมไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร เนื่องจากถนนที่ทรุดไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งล่าสุดนายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางไปตรวจสอบ และสั่งการให้ทางเทศบาลเข้าไปซ่อมแซมเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ต่อไป.

    ผวา! ถนนกำแพงเพชร ทรุดเป็นโพรงลึก คาดแล้งจัดดินแห้ง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง แม่สอด-แม่สะเรียง รถวิ่งได้แล้ว หลังดินถล่ม
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 พ.ค. 2558 10:44

    [​IMG]

    ผอ.สำนักงานทางหลวง จ.ตาก ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกล เร่งเคลียร์พื้นที่ แม่สอด-แม่ตะวอ-แม่วะหลวง (แม่ต้าน)-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน หลังเกิดฝนตกหนัก ทำดินภูเขาถล่มปิดทับเส้นทาง...

    สืบเนื่องจากหลังเกิดพายุฝนตกอย่างหนัก ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด-อุ้มผาง-พบพระ-แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ทำให้เกิดเหตุดินถล่มลงมาปิดทับเส้นทางถนนหลวงสายแม่สอด-แม่สะเรียง-บ้านแม่ตะวอ บริเวณบ้านแม่อมกิ หมู่ 4 ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง รอยต่อ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

    ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พ.ค.58 มีรายงานว่า นายจงจิตร เต็งยะ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงตาก สั่งการเจ้าหน้าที่แขวงการทางตากที่ 2 แม่สอด ร่วมกับเจ้าหน้าที่การทาง อ.ท่าสองยางจ.ตาก นำรถจักรกลและเครื่องมือหนัก ทั้งรถแทรกเตอร์-เกรดเดอร์-รถไถ-รถบรรทุกดินรถบดอัดดิน เร่งเข้าไปดำเนินการ เคลียร์เส้นทาง สาย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ไป ยัง อ.สบเมย และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นการด่วน เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ

    นายจงจิตร เปิดเผยว่า ภายหลังได้เกิดพายุฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด-อุ้มผาง-พบพระ-แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก ทำให้เกิดเหตุดินถล่มสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางถนนหลวงสายแม่สอด-แม่สะเรียง-บ้านแม่ตะวอ บริเวณบ้านแม่อมกิ หมู่ 4 ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง รอยต่อ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยดินได้ถล่มจากภูเขาสไลด์ลงมาทับเส้นทางสายดังกล่าว หลายช่วง หลายจุด เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เหตุดินถล่มดังกล่าวทำให้ถนนเสียหายมากต้องมีการปรับพื้นถนนใหม่ทั้งหมด ซึ่งแขวงการทางตากที่ 2 แม่สอด ได้ดำเนินการปรับพื้นที่ถนนตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็นที่ผ่านมา จนสามารถเคลียร์เส้นทางเปิดให้รถยนต์ประชาชนวิ่งผ่านสัญจรไป-มาระหว่างจังหวัดตากกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้แล้ว

    จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง แม่สอด-แม่สะเรียง รถวิ่งได้แล้ว หลังดินถล่ม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐแถลงบีบพม่า ให้สัญชาติโรฮีนจา-หม่องสวนทันควัน
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 24 พ.ค. 2558 05:55

    [​IMG]

    ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา เครือข่าย “โกโต้ง” และ “โกจง” ฝากขังผัดแรกอีก 3 คน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ก่อนจะส่งตัวเข้าคุก ในขณะที่สหรัฐฯจี้พม่ารับ “โรฮีนจา” เป็นพลเมือง แต่โดนพม่าสวนกลับทันควัน อ้างมนุษย์เรือเป็นพวก “เบงกาลี” จากบังกลาเทศ ด้านเลขายูเอ็นวอนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รับชาวโรฮีนจาขึ้นฝั่งด่วน คาดยังลอยเรืออยู่ในทะเลกว่า 3,500 คน หวั่นจะได้รับอันตรายจากทะเลแปรปรวน เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม

    หลายชาติยังคงวิตกกับปัญหาการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ในขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์เครือข่าย “โกโต้ง” ส่งฝากขังอีกชุด โดยเมื่อตอนสายวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.ประพันธ์ อารีย์บำบัด พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ได้เดินทางไปรับตัว 3 ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วย นายวุฒิ วุฒิประดิษฐ์ อดีตตำรวจ จ.สตูล ซึ่งเป็นหัวหน้าเครือข่ายที่รับผิดชอบในพื้นที่ ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล เครือข่ายนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ “โกโต้ง” นายศราวุธ พรหมกะหมัด และนายทนงศักดิ์ เหมมัน เครือข่ายนายบรรจง ปองผล หรือ “โกจง” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา นำไป ฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน หลัง ทำการสอบสวนเสร็จแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัวทั้งหมด ก่อนจะส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดนาทวี

    ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ประชุมสรุปความคืบหน้าผลการสืบสวนสอบสวนของคดีค้ามนุษย์ ก่อนจะแถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ หรือจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ตัวเลขผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับยังอยู่ที่ 77 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 46 คน ยังหลบหนีอีก 31 คน ในจำนวนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีนั้นยังมีตัวการสำคัญหลายคนทั้งที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่น ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.สตูล เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าล้างบางเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทางอัยการสูงสุดได้ส่งพนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนกับตำรวจด้วย เนื่องจากเหตุเกิดเชื่อมโยงหลายพื้นที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    ต่อมา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะเดินทางไปติดตามเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาซึ่งพักพิงอยู่ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จ.สงขลา นิคมสร้างตนเองรัตภูมิ รวมทั้งลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านคลองต่อ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสรวมทั้งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ตั้งแคมป์กักตัวชาวโรฮีนจา

    พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นความผิดเข้าลักษณะประมวลกฎหมายวิธีการพิจารณาความอาญา มาตรา 20 และเชื่อมโยงกันหลายพื้นที่ตั้งแต่บังกลาเทศ เมียนมา ไทย มาเลเซีย และมีความสลับซับซ้อนในเรื่องข้อเท็จจริง ผู้ต้องหารวมทั้งพยานบางส่วนอยู่ในต่างประเทศ การกระทำผิดบางส่วนเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงได้มีคำสั่งให้พนักงานอัยการมาเข้าร่วมสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนของฝ่ายตำรวจ เพื่อให้การทำงานการสอบสวนเป็นไปอย่างรัดกุมและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะร่วมกันสอบสวนควบคู่กันไป มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดีนี้ด้วย ได้มีการประชุมร่วมกันแล้วเมื่อวานนี้

    พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าผลการสืบสวนขยายผลชาวโรฮีนจา ศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 77 ราย จับกุมตัวผู้ต้องหา 43 คน พบแหล่งพักพิง 7 แห่ง พบศพ 36 ศพ ควบคุมตัวคนต่างด้าว 313 คน แยกเป็นโรฮีนจา บังกลาเทศ และพม่า เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 64 คน หลบหนีเข้าเมือง 249 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 81 ล้านบาท แยกเป็นเครือข่ายหัวไทร 63 ล้านบาท เครือข่ายสตูล 18 ล้านบาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม สั่งการให้ ตม.ตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง เพื่อส่งชาวโรฮีนจาทั้ง 313 คนคืนให้กับประเทศที่อยู่ของชาวโรฮีนจา

    “ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาดำเนินคดีกับผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเท่าเทียมตามหลักสากล ส่วนตำรวจที่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ขณะนี้จเรตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการดังกล่าวหรือไม่ หากตำรวจนายใดมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างไม่ละเว้น ส่วนคนที่ตรวจสอบไม่พบความเชื่อมโยงจะกลับไปอยู่ที่เดิมเพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ตามนโยบายของรัฐบาล” ผบ.ตร.กล่าว

    นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้เข้าร่วมการประชุมแก้ปัญหาขบวนเรือผู้อพยพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.ที่ผ่านมา ออกแถลงการณ์สรุปผลการประชุมเมื่อวันที่ 23 พ.ค. โดยระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องรัฐบาลเมียนมาให้พิจารณามอบสัญชาติแก่ชาวมุสลิมโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ภาคตะวันตกของเมียนมา เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวโรฮีนจาได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลเมียนมาในฐานะพลเมืองตามกฎหมาย เนื่องจากรากเหง้าของปัญหาผู้อพยพเกิดจากชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ไม่ได้รับการรับรองสัญชาติ จึงต้องอพยพไปหางานทำหรือแสวงหาอนาคตที่ดีกว่าในต่างแดน และตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ในที่สุด

    ด้านนายหม่อง หม่อง ออน มุขมนตรีรัฐยะไข่ของเมียนมา แถลงตอบโต้นายแอนโทนี บลิงเคน รมช.ต่างประเทศสหรัฐฯ โดยระบุว่ารัฐบาลเมียนมารู้สึกผิดหวังและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อข้อกล่าวหาของนายบลิงเคน เนื่องจากผู้อพยพบนเรือที่พบในน่านน้ำทะเลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นชาวเบงกาลีจากบังกลาเทศ ซึ่งตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลเมียนมา และรัฐบาลเมียนมาจะนำทางกลุ่มเจ้าหน้าที่สหประชาชาติไปพบกับกลุ่มผู้อพยพชาวเบงกาลีกว่า 208 ราย ที่กองทัพเรือเมียนมาช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อยืนยันว่าผู้อพยพที่พบทั้งหมดเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบจากการกีดกันหรือเลือกปฏิบัติใดๆ จากนโยบายทางการเมืองหรือศาสนาในเมียนมา

    นายซอว์ เทย์ ผู้อำนวยการสำนักประธานาธิบดีแห่งเมียนมา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า กลุ่มผู้อพยพ 208 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งที่เมืองหม่องดอว์ ทางตะวันตกของเมียนมา เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นเป็นชาวบังกลาเทศ และรัฐบาลเมียนมาจะดำเนินการผลักดันผู้อพยพกลับประเทศ โดยขณะนี้ได้มีการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่รัฐบาลบังกลาเทศบริเวณชายแดนให้เตรียมพร้อมรับตัวผู้อพยพกลับไป แต่ยังมิได้กำหนดวันและเวลาที่ชัดเจน ส่วนผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีในเมียนมาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปพบผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ทำให้ไม่อาจระบุได้ว่าผู้อพยพทั้งหมดเป็นชาวบังกลาเทศจริงหรือไม่

    วันเดียวกัน นางจูลี บิชอพ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีโดยระบุว่าตนได้หารือกับนายฮาซัน เคลอิบ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศแห่งอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผู้อพยพชาวโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศประมาณ 7,000 คนที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งที่ จ.อาเจะห์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพซึ่งได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซียเป็นชาวโรฮีนจา แต่อีกราว 60 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นชาวบังกลาเทศ และรัฐบาลอินโดนีเซียจะให้ที่พักพิงเฉพาะชาวโรฮีนจาที่เข้าข่ายผู้ลี้ภัยทางการเมือง ขณะที่ชาวบังกลาเทศถือเป็นแรงงานอพยพที่พยายามลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการเดินทางไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย และผู้อพยพกลุ่มนี้จะถูกทางการอินโดนีเซียพิจารณาส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง

    อย่างไรก็ตาม น.ส.วิเวียน ตัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเมินว่าขณะนี้ยังมีผู้อพยพชาวโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศอีกประมาณ 3,500 รายตกค้างอยู่บนเรือในน่านน้ำทะเลแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้น่าวิตกว่าผู้อพยพอาจเผชิญกับชะตากรรมเลวร้ายเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนในทะเล ด้วยเหตุนี้ นายบัน กี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) จึงได้เรียกร้องให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพซึ่งพบในน่านน้ำทะเลใกล้เคียงแต่ละประเทศขึ้นฝั่งเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยคัดกรองแยกแยะระหว่างผู้อพยพทางเศรษฐกิจกับผู้ลี้ภัยทางการเมือง เนื่องจากการช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในขณะนี้

    สหรัฐแถลงบีบพม่า ให้สัญชาติโรฮีนจา-หม่องสวนทันควัน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิรักตอบโต้ไอซิส ส่งนักรบชีอะห์ 3,000 คน ไล่ยึดเมืองคืน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 พ.ค. 2558 00:10

    [​IMG]
    @(ภาพ: AP Photo)

    นักรบกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลอิรัก เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม หรือ ไอซิส แล้ว หลังจากกลุ่มไอซิส สามารถยึดเมืองรามาดี เมืองสำคัญในจังหวัดอันบาร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังขับเคลื่อนประชาชน (พีเอ็มยู) ในอิรักส่งนักรบจำนวน 3,000 คน ออกจากฐานทัพอากาศใกล้เมือง ฮับบานิยา ซึ่งห่างจากเมืองรามาดีไปทางตะวันออกประมาณ 30 กม. ขณะเดียวกัน หัวหน้าชนเผ่าชาวมุสลิมสุหนี่ฝ่ายต่อต้านกลุ่มไอซิส ในจังหวัดอันบาร์ เผยว่า เขาได้ส่งอาสาสมัครไปเสริมกำลังให้กับตำรวจ, ทหาร และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ในปฏิบัติการยึดคืนเมืองด้วย

    อีกด้านหนึ่ง โฆษกตำรวจอิรัก เปิดเผยต่อสื่อว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลสามารถขับไล่นักรบไอซิส ออกจากเมืองฮูเซย์บา ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองรามาดี และเมืองฮับบานิยาได้แล้ว

    [​IMG]
    @โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ แจกสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้อพยพจากเมืองรามาดี ที่ค่ายในเมือง ฟัลลูจาห์ ทางตะวันตกของกรุงแบกแดด (ภาพ: AP Photo)

    ทั้งนี้ การต่อสู้ที่แย่งชิงเมืองรามาดีเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ราย และประชาชนราว 40,000 คน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดของเมืองรามาดี ต้องอพยพ โดยส่วนใหญ่เลือกเดินทางไปยังสะพานบเซบิซ เพื่อข้ามแม่น้ำยูเฟรทีสไปยังเมืองหลวงกรุงแบกแดด

    อย่างไรก็ตาม ทางการอิรักสั่งปิดสะพานสายนี้ไม่ยอมให้ผู้อพยพเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง โดยไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกิดจากความกังวลว่าอาจมีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธปะปนกับกลุ่มผู้อพยพเข้าไปก่อการร้ายในกรุงแบกแดด

    อิรักตอบโต้ไอซิส ส่งนักรบชีอะห์ 3,000 คน ไล่ยึดเมืองคืน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟื้น 'เส้นทางสายไหม' ทางทะเลสู่ศตวรรษที่ 21
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558 13:59

    [​IMG]
    @แผนที่เส้นทางสายไหม

    เส้นทางสายไหม เป็นที่รู้จักในฐานะเส้นทางการค้าของจีน เมื่อกว่า 2 พันปีก่อน ที่ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน ทั้งสินค้าที่สำคัญของจีนอย่างผ้าไหม ใบชา และอื่นๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก จากจีนไปสู่ยุโรปและแอฟริกา ประกอบไปด้วย 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล

    เส้นทางโบราณนี้ ถูกพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์เขตเศรษฐกิจบนเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 ครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายน ปี 2556 ระหว่างเยือนคาซัคสถานในเอเชียกลาง และในเดือนต่อมา ระหว่างเยือนอินโดนีเซีย ผู้นำจีน ประกาศว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือหนึ่งในเขตสำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเล จีนพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือทางทะเลกับอาเซียน ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานทางทะเล เช่น ท่าเรือต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันในเส้นทาง ซึ่งล่าสุดมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวม 57 ประเทศ เข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย หรือ AIIB ที่ริเริ่มโดยจีน เพื่อให้สินเชื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยในจำนวนสมาชิกก่อตั้งมีประเทศสมาชิกอียูหลายประเทศ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐอเมริกาด้วย

    ด้านภาคส่วนต่างๆ รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่นของจีน ที่อยู่ในเส้นทางทั้งทางบกและทะเล ก็ขานรับนโยบายเป็นอย่างดี เช่น ที่เมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง ทางชายฝั่งตอนใต้ ซึ่งมีความพร้อมในฐานะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของจีน ที่ก่อตั้งในปี 2523 และมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่ได้ก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไฉ่ ครอบคลุมพื้นที่ 15 ตารางกิโลเมตร ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งในเซินเจิ้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมบริการทันสมัย โดยเฉพาะด้านการเงิน โดยรัฐบาลจีนหวังให้เป็นเขตทดลองเคลื่อนย้ายเงินหยวนอย่างเสรี เพื่อผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ

    นอกจากนี้ ชัยภูมิที่ตั้งของ เฉียนไห่ ที่เป็นประตูเชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะฮ่องกง และมหาสมุทรแปซิฟิก ย่อมทำให้เขตเศรษฐกิจแห่งนี้ กลายเป็นสถานีสำคัญในโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลของจีนในอนาคต โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉียนไห่ จะสร้างเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่มูลนิธิเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และมูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเซินเจิ้น ได้จัดงานสัมนาทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน เรื่องเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 ณ เมืองเซินเจิ้น เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างภาคการเมือง ธุรกิจ นักวิชาการและเอ็นจีโอของจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน

    โดยนายหลิว หง ไฉ่ รองรัฐมนตรีกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมทางทะเลได้เพิ่มโอกาส 3 ประการให้จีนและอาเซียน 1. คือ การติดต่อสื่อสารระหว่างจีนกับอาเซียน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตร 2. ยกระดับความร่วมมือเขตการค้าเสรี และ 3. คือสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนของ 2 ฝ่าย โดยมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันเป็นพื้นฐาน พร้อมย้ำว่า จีนจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์และสันติภาพร่วมกันของทุกฝ่ายที่เข้าร่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ที่ต้องเปลี่ยนให้กลายเป็นทะลแห่งสันติภาพให้สำเร็จ

    ขณะที่ นายโภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า การเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปีนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในความร่วมมือจีน-อาเซียน ที่ครอบคลุมประชาชนรวมกว่า 2 พันล้านคน และเป็นแรงดึงดูให้อินเดีย ที่มีประชากรอีก 1,200 ล้านคน เข้าร่วมเป็นความร่วมมือ 3 ฝ่าย เพื่อความอยู่ดีกินดีและสันติภาพของประชากร รวมกว่า 3,200 ล้านคน ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับบางประเทศในอาเซียน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องใช้ความอดกลั้นและความเชื่อใจและจริงใจในการเจรจาแก้ปัญหา และมองถึงประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกันจากการพัฒนาเป็นสำคัญ

    นอกจากนี้ ยังเผยว่า ทางสมาคมฯ ได้ทำความตกลงกับมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศปักกิ่ง เมื่อปีที่แล้ว เพื่อศึกษาร่วมกันเรื่องคอคอดกระ หรือคลองกระ ซึ่งจะช่วยย่นเวลาในการเดินเรือเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ได้อย่างน้อย 2-3 วัน ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยจะศึกษาร่วมกันในประเด็นสิ่งแวดล้อม ประชาพิจารณ์ การอพยพโยกย้ายประชาชน การคัดเลือกแนวคลอง การพัฒนาและความมั่นคง ซึ่งหลังศึกษาเสร็จสิ้น จะเสนอให้ภาครัฐและภาคประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ พิจารณาต่อไป ซึ่งอาจรวมถึงเสนอรัฐบาลประเทศอาเซียน เพื่อนำไปสู่การร่วมพัฒนามากกว่าความขัดแย้ง

    แม้จีนจะยืนยันว่า แผนเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมทั้งทางบกและทางทะเล เป็นเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความร่วมมือขนาดใหญ่ที่เชื่อมประชากรถึง 3 ทวีปเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีจีนเป็นศูนย์กลาง ย่อมทำให้มหาอำนาจอีกขั้วหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอิทธิพลอยู่มากโดยเฉพาะกับประเทศในอาเซียน ที่เป็นคู่ขัดแย้งเรื่องเขตแดนทะเลจีนใต้กับจีน อย่าง ฟิลิปปินส์ จับตามองอย่างระแวง ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายทั้งต่อจีนในการดำเนินยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพื่อบรรลุจุดหมายในการสร้างประโยชน์ร่วมกันและสันติภาพของทุกฝ่าย ตามที่ประกาศไว้ รวมถึงเป็นความท้าทายต่ออาเซียนเอง ในการรักษาสมดุลระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันในหมู่ประเทศสมาชิก ที่มีความหลากหลาย ทั้งผลประโยชน์และความสัมพันธ์กับชาติมหาอำนาจที่แตกต่างกัน.

    ฟื้น 'เส้นทางสายไหม' ทางทะเลสู่ศตวรรษที่ 21 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไอโอวาเมินคุมหวัดนก
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 23 พ.ค. 2558 05:15

    [​IMG]

    สำนักข่าวรอยเตอร์ลงพื้นที่สำรวจฟาร์มสัตว์ปีก 6 แห่ง ที่รัฐไอโอวา ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ พบว่า 3 แห่ง ไม่ปฏิบัติตามกฎข้อระเบียบของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (ยูเอสดีเอ) หรือของรัฐเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ที่กำลังลุกลามครั้งรุนแรงสุด ไม่ว่าเป็นเรื่องคุมเข้มการเข้าออก การใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อให้กับคนงาน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อล้อรถยนต์ที่กำลังออกนอกฟาร์ม ทำให้เกิดความเสี่ยงว่าโรคดังกล่าวจะกระจายออกนอกพื้นที่

    ขณะที่ทางยูเอสดีเอเข้าร่วมประชุมกับสมาคมการค้าอุตสาหกรรมในรัฐวอชิงตัน เมื่อ 21 พ.ค. วันรุ่งขึ้นร่วมประชุมกับกลุ่มพ่อค้าสัตว์ปีกในเมืองเอกเด มวงส์ ของรัฐไอโอวา เพื่อพัฒนาความปลอดภัยด้านชีวภาพในพื้นที่ติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพขึ้น.

    ไอโอวาเมินคุมหวัดนก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    22 พ.ค. ปิดหอไอเฟลหลังพนักงานหยุดงานประท้วงแก๊งล้วงกระเป๋าอาละวาด

    [​IMG]

    ปารีส 22 พ.ค.- หอไอเฟลซึ่งเป็นสัญลักษณ์กรุงปารีสของฝรั่งเศสปิดในวันนี้ เนื่องจากพนักงานหยุดงานประท้วงแก๊งล้วงกระเป๋าอาละวาดก่อเหตุทั่วสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งนี้

    การปิดหอไอเฟลช่วงก่อนวันหยุดสัปดาห์นี้ซ้ำรอยเมื่อครั้งพนักงานพิพิธภัณฑ์ลูฟว์หยุดงานในเดือนเมษายน 2556 ประท้วงแก๊งล้วงกระเป๋าก่อเหตุในพิพิธภัณฑ์เช่นกัน พนักงานหอไอเฟลแถลงว่า หยุดงานเนื่องจากหอเก่าแก่อายุ 126 ปีแห่งนี้มีแก๊งล้วงกระเป๋าก่อเหตุมากขึ้นและเกิดเหตุทำร้ายร่างกายหลายครั้ง พวกเขาต้องการให้ฝ่ายบริหารรับรองอย่างเป็นทางการว่าจะดำเนินมาตรการที่ได้ผลและยั่งยืนในการกวาดล้างเหตุร้ายที่มีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อวันละหลายคน พนักงานที่หยุดงานเผยว่า แก๊งล้วงประเป๋ารวมตัวกันแก๊งละ 4-5 คน บางครั้งอาจมีมากถึง 30 คน และหลายครั้งก่อเหตุวิวาทกันเอง พนักงานบางคนเคยถูกข่มขู่เมื่อเข้าไปเตือนให้หยุดการกระทำ

    กรุงปารีสเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปีที่แล้วมีคนไปเยือนมากถึง 22 ล้านคน และเป็นจุดที่บรรดานักต้มตุ๋นและนักล้วงกระเป๋ามักตระเวนก่อเหตุ โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ปีที่แล้วกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสถึงกับขอให้ตำรวจจีนมาช่วยลาดตระเวนตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นมาก ด้านหนังสือพิมพ์ลิเบอราซิยงรายงานในวันนี้ว่า ทางการจะส่งตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาล 26,000 นายออกตรวจตราตามท้องถนนในกรุงปารีสช่วงฤดูร้อนนี้เพื่อจัดการกับแก๊งล้วงกระเป๋า.-สำนักข่าวไทย

    ปิดหอไอเฟลหลังพนักงานหยุดงานประท้วงแก๊งล้วงกระเป๋าอาละวาด | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เครื่องเร่งอนุภาคชนกันด้วยพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „เครื่องเร่งอนุภาคชนกันด้วยพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเดินทางของอนุภาคภายในเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก "แอลเอชซี" สามารถพุ่งชนกันด้วยค่าพลังงาน 13 เทระอิเล็กตรอนโวลต์เป็นครั้งแรก วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:41 น.

    <iframe width="750" height="500" src="https://www.youtube.com/embed/ffM0XysgFWw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่าองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป ( เซิร์น ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับความคืบหน้าในการทำงานของ "Large Hadron Collider" ( แอลเอชซี ) หรือเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ว่าอนุภาคสามารถเคลื่อนที่ครบวงรอบของท่อตัวนำที่มีความยาวของเส้นรอบวง 27 กิโลเมตร ที่พลังงานซึ่งมากถึง 13 เทระอิเล็กตรอนโวลต์ ( ทีอีวี ) ได้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการเดินเครื่องเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2551 พลังงานสูงสุดที่เครื่องแอลเอชซีสามารถทำได้ คือ 8 ทีอีวี เมื่อปี 2555 ก่อนที่เซิร์นจะระงับการเดินเครื่องชั่วคราวเมื่อเดือนก.พ. 2556 เพื่อซ่อมแซมและพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และกลับมาเปิดเครื่องอีกครั้งเมื่อเดือนเม.ย. โดยมีการประเมินด้วยว่า อุปกรณ์อาจเพิ่มพลังงานการพุ่งชนของอนุภาคได้มากถึง 14 ทีอีวีในอนาคต เครื่องแอลเอชซีถือเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยที่สุดในโลก ฝังตัวอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินราว 175 เมตร ในพื้นที่รอยต่อระหว่างภาคตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์กับภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ใช้งบประมาณก่อสร้างสูงกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 303,300 ล้านบาท ) โดยเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ใช้ในการพิสูจน์ทฤษฎีฟิสิกส์เกี่ยวกับ "อนุภาคฮิกส์" ซึ่งเป็นอนุภาคพื้นฐานที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ตามหลักกลศาสตร์ควอนตัม ส่งผลให้ศ.ดร.ปีเตอร์ ฮิกส์ จากสกอตแลนด์ และศ.ดร.ฟรองซัวส์ อองแกลต์ ชาวเบลเยียม ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกัน เมื่อปี 2556“

    อ่านต่อที่ : เครื่องเร่งอนุภาคชนกันด้วยพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ | เดลินิวส์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    23 พ.ค.รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำมันรั่ว เป็นภาวะวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม

    [​IMG]

    ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศให้เหตุการณ์น้ำมันกว่า 100,000 แกลลอน รั่วไหลลงสู่ทะเลของเมืองซานตาบาร์บาราในสัปดาห์นี้ เป็นภาวะวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่าสำนักงานบริหารความปลอดภัยในการส่งวัสดุอันตรายทางท่อ (พีเอชเอ็มเอสเอ) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ มีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ ให้บริษัท เพลนส์ ออล อเมริกัน ไปป์ไลน์ ผู้ประกอบการท่อส่งน้ำมันในรัฐแคลิฟอร์เนีย เร่งระบายคราบน้ำมันและสิ่งตกค้างอื่นภายในท่อส่ง และตรวจสอบความเสียหายตามขั้นตอนของรัฐบาลกลาง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ท่อส่งน้ำมันของเพลนส์ ออล อเมริกัน ไปป์ไลน์ ซึ่งมีความยาวราว 17 กิโลเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 61 เซนติเมตร และตัดผ่านเมืองซานตาบาร์บารา เกิดการแตกเมื่อวันอังคาร ส่งผลให้มีน้ำมันราว 105,000 แกลลอนรั่วไหลลงสู่ชายหาดในเมืองซานตา บาร์บารา เป็นระยะทางยาวกว่า 30 กิโลเมตร สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ระบบนิเวศในแถบนั้น โดยมีรายงานการพบสัตว์ทะเลทั้งสิงโตทะเล โลมา และนกกระทุงตายเกลื่อน หรือมีคราบน้ำมันเกาะเต็มตัวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

    [​IMG]

    ขณะที่นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดในเมืองซานตา บาร์บารา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำมันรั่วไหลลงมา เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดสรรงบประมาณ และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขสถานการณ์

    [​IMG]

    ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับท่อส่งน้ำมันของเพลนส์ ออล อเมริกัน ไปป์ไลน์ อย่างน้อย 223 ครั้ง ทำให้มีน้ำมันรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อมราว 864,300 แกลลอน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,072 ล้านบาท) โดยในจำนวนนี้ 25 ครั้งมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยรัฐบาลกลาง

    อ่านต่อที่ : รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำมันรั่ว | เดลินิวส์
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Elzindu Constantine

    [​IMG]

    ‪#‎ภัยแล้ง‬
    /// พิจิตร-แม่น้ำยมยังวิกฤติ สูบน้ำบ่อบาดาลในแม่น้ำยมเลี้ยงต้นข้าว ///
    23/05/15
    พิจิตร - แม่น้ำยมในพื้นที่จังหวัดพิจิตรยังวิกฤติ ตลอดทั้งสายยังแห้งขอด ชาวนาสูบน้ำจาก บ่อบาดาลในแม่น้ำเลี้ยงต้นข้าวที่เริ่มเพาะปลูกได้เดือนเศษ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์แม่น้ำยมยังวิกฤติแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน 4 อำเภอของจังหวัด พิจิตร ยังอยู่ในสภาพที่แห้งขอดจนเห็น ท้องน้ำแม้ว่าจะเริ่มมีฝนตกลงมาจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ส่งผลกระทบกับการเพาะ ปลูกข้าว ชาวนาในพื้นที่หมู่ 3 บ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ต้องอาศัยสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจาะไว้กลางแม่น้ำยมที่แห้งเพื่อนำขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวที่เริ่มเพาะปลูกได้เดือนเศษเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวที่ลงทุนปลูกไว้เสียหาย
    นายอนันต์ ฉิมช้าง ชาวนาในพื้นที่หมูที่ 3 กล่าวว่า ทำนาไว้บนพื้นที่ 30 ไร่ ประสบปัญหาขาดน้ำในการเลี้ยงต้นข้าวเนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งจนหมด ฝนก็ขาดช่วง ฝนที่ตกลงมาก็ไม่เพียงพอ จึงต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำวิธีการที่นำมาใช้คือการสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจอะในท้องแม่น้ำยมที่แห้งขอดเพื่อสูบน้ำขึ้นมาในบ่อพักก่อนที่จะใช้มอเตอร์สูบน้ำจากบ่อขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวเพื่อป้องกันความเสียเสียหายของข้างที่ลงทุนเพาะ
    ปลูกไว้
    สำหรับการสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจอะในท้องแม่น้ำยมที่แห้งเป็นวิธีที่ชานาในพื้นที่ริมแม่น้ำยมนิยมนำมาใช้เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถนำน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นข้าวได้ แต่ก็ต้องประสบปัญหา ต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากต้องสูบน้ำ 2 ครั้ง ครั้งแรกสูบจากใต้ดินในท้องแม่น้ำยมขึ้นมาในบ่อพักน้ำในแม่น้ำ ก่อนที่จะใช้มอเตอร์สูบจาก บ่อน้ำขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งชาวนาต้องยอม เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหาน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นข้าวได้
    Cr: Nation TVs
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T

    ~~~ >>> มีฝนตก "เลือด" ในไวโอมิง: หลักฐานเพิ่มเติมของ Nibiru หางเลียโลก? น่าจะใช่!

    ~~~>>> It Is Raining “Blood” In Wyoming: More Proof Of Nibiru Tail Licking Earth? Likely, Yes!

    โลกที่รัก
    Dear world,

    Zetas และคำทำนายต่าง ๆ ได้กล่าวว่า 'ฝนเลือดมีความเกี่ยวข้องกับหางแม่เหล็กของ Nibiru ... วิดีโอนี้เป็นหลักฐานมากกว่านี้? ดูเหมือนว่ามันแน่ใจว่ามันเป็นดังนั้น ...
    The Zetas and many prophecies, have said that the ‘blood rain’ is associated with the magnetic tail of Nibiru… is this video more proof of this? It sure seems so…

    มันจะหายไป? ไม่, ไม่ได้สักพัก
    Will it go away? No, not for awhile.

    จะเกิดอะไรขึ้น?
    What will happen?

    หาง Nibiru จะเลียโลก: ครั้งแรก "ฝุ่นสีแดง" จะล่วงหล่นมาจากฟ้าแล้ว ตามมาด้วย "กรวด" จากนั้น "ก้อนหิน" และ "พายุไฟ
    Nibiru Tail Will Lick Earth: First “Red Dust” Falls From Sky, Then “Gravel”, Then “Boulders” And “Firestorms”

    คำทำนายต่างๆ ได้บอกว่าเรากำลังเข้าสู่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเผาผลาญทุกอย่างที่อยู่บนพื้นผิวโลก:
    Many prophecies are saying we’re entering the big event, that will burn everything on the surface:

    คำทำนาย Sanat Kumara (1989): โลกจะกลายเป็นดวงอาทิตย์ เกือบทั้งหมดบนพื้นผิวของโลกจะถูกทำลาย, น้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภคลดน้อยลง, ภูเขาไฟจะปะทุ แผ่นดินไหวจะจู่โจม
    Sanat Kumara Prophecies (1989): Earth Is Becoming A Sun, Almost All On Surface Of Earth Will Be Destroyed, Water Supply For Consumption, Diminishing, Volcanoes Will Erupt, Earthquakes Will Strike

    ไฟจะฝนตกจากสวรรค์ ... โลกจะสั่นและ แตก ... ผู้ชายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะมา ...

    Fire Will Rain From The Heavens… Earth Will Shudder And Break… Upheavals Man Has Never Dreamed Of, Will Come To Pass… Will You Have Your Earthen Shelters Prepared?


    <iframe width="480" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/JimxsokFfnk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมว่าเป็นอุกาบาตสีเขียว ที่เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่จะมาพร้อมฝุ่นสีแดงจากนอกโลก ที่มาพร้อม Nibiru

    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    ได้เกิดปรากฏการณ์ไฟสีเขียวลึกลับเหนือประเทศเนเธอร์แลนด์
    Mysterious Green Light Phenomenon appears above the Netherlands.

    วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2015: เมื่อ Harry Clipperton ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในเมือง Groningen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ถ่ายภาพบางส่วนของธรรมชาติที่เขาอยากจะโพสต์ไว้ในบล็อกของเขา
    May 21, 2015: On Tuesday, Blogger Harry Clipperton a resident of the City Groningen in the Netherlands made some pictures of the nature which he wanted to post it on his blog.

    หลังจากที่เขากลับมาบ้าน เขาสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดในภาพของเขา มีอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนว่าเป็นปรากฏการณ์ไฟสีเขียวแปลกในท้องฟ้า
    After returning home, he noticed something strange in one of his pictures what looks like a strange green light phenomenon in the sky.

    แฮร์รี่เขียนในบล็อกของเขาใน Groninganus "ว่าตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นข้อผิดพลาดจากกล้องที่สกปรกหรือจุดน้ำบนเลนส์ แต่มันไม่ชัดเจน ผมจำได้ว่าได้เกิดชนิดหนึ่งของแฟลชในขณะที่ฉันถ่ายภาพ ดังนั้นฉันตัดสินใจว่ามันจะต้องมาจากฟ้าผ่า หรืออาจจะเป็นยูเอฟโอ. "
    Harry writes on his blog Groninganus ”At first I thought it is a camera error, dirt or water speck on the lens but it is clearly not. I remember there was a kind of flash at the moment I took the pictures so I decided it must have been lightning or maybe it’s a UFO.”

    เราอาจจะสงสัยว่ามันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นเลเซอร์ลับหรือโครงการคานเช่นนอร์เวย์เกลียวหรือมันเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ
    We may wonder whether it is a natural phenomenon, a man-made secret laser or beam project, like the Norway Spiral or is it something supernatural.
    UFO Sightings Hotspot: Mysterious Green Light Phenomenon appears above the Netherlands
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เยเมน : กลุ่มฮูติสอย F-16 ของกองทัพอากาศซาอุดิฯได้1ลำ พร้อมยึดขีปนาวุธที่ยังไม่ได้ใช้งานจากเครื่องบินรบ

    [​IMG]

    -------------
    ซาอุดิฯโดนอีกแล้วครับท่าน! วันนี้ (24 พ.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่ากลุ่มฮูติในเยเมนสามารถสอยเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศซาอุดิอารเบียได้บริเวณรอบนอกกรุงซานาเมืองหลวงของเยเมน และได้ยึดขีวปนาวุธที่ยังไม่ได้ใช้งานซึ่งติดอยู่กับเครื่องบินรบ F-16 ได้ 2 ลูกด้วย โดยเครื่องบินรบของซาอุดิฯได้บินรุกล้ำน่านฟ้าเยเมนหวังจะเข้าไปทำภาระทิ้งระเบิดในเยเมนประจำวัน จึงโดนสอยร่วงลงกับพื้นจนได้ รายงานข่าวบอกว่าตอนนี้กลุ่มฮูติได้ส่งนักรบติดอาวุธหลายร้อยคนออกล่าตัวนักบินของซาอุดิฯที่ดีดตัวออกจากเครื่องบินรบก่อนถูกสอยร่วงและนักบินหายตัวไป
    เมื่อวันที่ 11 พ.ค.56 ที่ผ่านมาเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศราชอาณาจักรโมร็อคโคหนึ่งในกองกำลังผสมอาหรับที่นำโดยซาอุดิฯก็พึ่งจะถูกสอยร่วงไปหนึ่งลำโดยฝีมือของฮูติที่ไม่มีเครื่องบินรบ มีแต่อาวุธบ้านๆแต่ก็สอยนกยักษ์จากฝั่งซาอุดิฯได้ถึง 2 ลำไปแล้ว
    เมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 ที่ผ่านมารายงานข่าวบอกว่า ทหารซาอุดิฯถูกกลุ่มฮูติสังหารไปจำนวน 10 นายในระหว่างการต่อสู้กันภาคพื้นดินใกล้ชายแดนเยเมน โดยทางกลุ่มฮูติได้ยิงจรวดและปืนใหญ่ถล่มฐานที่มั่นของกองกำลังซาอุดิฯ ทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์ของฝั่งซาอุดิฯในบริเวณดังกล่าวเสียหายยับ
    The Eyes
    24/05/2558
    ----------
    Houthis Seize Unused Missiles From Saudi Jet Downed in Yemen - Reports / Sputnik International
    Jet Fighter From Saudi-Led Coalition Goes Missing in Yemen / Sputnik International
    Houthi Attack Kills 10 Saudi Soldiers on Border With Yemen / Sputnik International
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In & Outside World

    [​IMG]

    5.1
    พม่า
    ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 74 กม.
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป.ป.ช.ตั้งเป้าวัดความโปร่งใสหน่วยงานรัฐ 8.2 พันแห่งให้ทันในปี’60
    เขียนวันที่ วันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2558 เวลา 13:29 น.เขียนโดยisranews

    [​IMG]

    ป.ป.ช. ตั้งเป้าวัดความโปร่งใสหน่วยงานรัฐ 8,200 แห่ง ภายปีงบประมาณ 2560 ยันช่วยให้เกิดการบริหารโปร่งใส-เป็นธรรม

    ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ประจำปีบประมาณ 2558 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม

    นายสรรเสริญ กล่าวตอนหนึ่งว่า ระบบประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ จะช่วยให้เกิดการบริหารที่โปร่งใสและเป็นธรรมในหน่วยงานภาครัฐที่ชัดเจน นำสู่การยกระดับดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันของประเทศให้สูงขึ้น ซึ่งจะดำเนินการให้ครอบคลุมหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด 8,200 หน่วยงาน ภายในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งในปีงบประมาณ 2558 สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสกับหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานศาล รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ส่วนราชการส่วนกลาง จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ โดยมีสำนักงาน ป.ป.ท. และกรมการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมเป็นหน่วยงานในการจัดตั้งงบประมาณและรับผิดชอบการประเมิน

    http://www.isranews.org/isranews-short-news/item/38746-nacc_1166.html
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิดตัวเลขผู้อพยพโรฮิงญาจากทุกมุมโลก
    เขียนวันที่ วันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:17 น.เขียนโดยทีมข่าวอิศรา

    [​IMG]

    ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคง ยืนยันชัดเจนว่า การอพยพย้ายถิ่นของชาวโรฮิงญาด้วยการล่องเรือออกจากค็อกบาซา ประเทศบังคลาเทศนั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีมานี้ หรือแม้แต่ปี 2558 ที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก็ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย แต่ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ประสบปัญหาคล้ายๆ กัน

    การอพยพย้ายถิ่นของชาวโรฮิงญาเกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ที่มีนัยทางความมั่นคงจนถูกประเทศต่างๆ จับตามอง เริ่มขึ้นเมื่อราวปี 2535 โดยชาวโรฮิงญาที่อพยพย้ายถิ่น มีทั้งจากรัฐยะไข่ หรืออาระกัน ประเทศเมียนมาร์ จากปัญหาการถูกกดขี่เพราะไม่ได้รับการยอมรับเป็นพลเมือง กับชาวโรฮิงญาจากบังคลาเทศ ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่แร้นแค้น เนื่องจากเป็นประเทศยากจน มีประชากรมากกว่า 80 ล้านคน อย่างไรก็ดี ในระยะหลังๆ เริ่มมีคนพื้นเมืองบังคลาเทศเองที่อพยพย้ายถิ่นออกมาเช่นกัน

    การอพยพย้ายถิ่นของชาวโรฮิงญาเริ่มมี "ขบวนการนำพา" เข้าไปเกี่ยวข้องและจัดระบบผลประโยชน์เมื่อราวปี 2552 ทำให้ประชากรชาวโรฮิงญาที่เดินทางล่องเรือออกจากเมืองซิตต่วย หรือ ชิตตะเว ของรัฐยะไข่ และค็อกบาซา ของบังคลาเทศ มีจำนวนมากขึ้น

    แต่เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้สถานการณ์การอพยพย้ายถิ่นรุนแรงถึงขีดสุด คือ สงครามกลางเมืองในรัฐยะไข่ เมื่อปี 2555 ที่มีการปะทะกันระหว่างชาวพุทธพม่า กับมุสลิมโรฮิงญา ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย และชาวโรฮิงญาต้องไร้ถิ่นฐานหลายหมื่นคน

    ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญาก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง วิธีการที่ใช้กันอยู่ คือ การล่องเรือออกจากค็อกบาซา ประเทศบังคลาเทศ โดยอาศัยหน้าที่ไม่มีมรสุม เส้นทางผ่านอ่าวเบงกอล สู่ทะเลอันดามัน ขึ้นฝั่งที่ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

    หากจำแนกผู้อพยพย้ายถิ่นชาวโรฮิงญา มีทั้งชาวโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ที่หนีภัยการสู้รบ และการอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กับชาวโรฮิงญาในบังคลาเทศที่ไม่มีงานทำ และชาวบังคลาเทศเองที่ต้องการแสวงหาโอกาสในชีวิตที่ดีกว่า
    แรงจูงใจสำคัญที่ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นเพื่อหางานทำ คือ นโยบายรับแรงงานมุสลิมของมาเลเซีย ซึ่งเคยมีโควต้าสำหรับชาวโรฮิงญาเป็นการเฉพาะ ทำให้ชาวโรฮิงญานิยมเดินทางไปมาเลเซีย โดยใช้เส้นทางเรือ ขึ้นฝั่งที่ประเทศไทย แล้วอาศัยขบวนการนำพา ส่งเข้ามาเลเซีย หรืออาจต่อไปอินโดนีเซีย

    จากไทม์ไลน์การอพยพย้ายถิ่นของชาวโรฮิงญาตลอดหลายสิบปีดังกล่าว ทำให้หลายประเทศทั่วโลกถูกชาวโรฮิงญาลักลอบเข้าเมืองเพื่อไปหางานทำ บางส่วนถูกจับกุม คุมขัง และไม่สามารถส่งกลับประเทศต้นทางได้

    ข้อมูลจากสมาคมชาวโรฮิงญา ระบุว่า ประเทศที่มีผู้อพยพชาวโรฮิงญาจำนวนมาก มีอยู่หลายประเทศในหลายทวีป เช่น ซาอุดิอาระเบีย ราว 400,000 คน, หลายประเทศในตะวันออกกลาง, เนปาล ซึ่งใช้การเดินเท้าจากบังคลาเทศและรัฐยะไข่, แคนาดาและสหรัฐอเมริกา ราว 1,000 คน, อินโดนีเซีย 1,200 คน, มาเลเซีย 40,000 คน, อินเดีย 30,000 คน, ปากีสถาน 200,000 คน และไทย 100,000 คน

    นอกจากนั้นยังมีประเทศที่ถือเป็นต้นทางของชาวโรฮิงญา คือ เมียนมาร์ ประมาณการณ์ว่าปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาอยู่ราวๆ 800,000 ถึง 1,500,000 คน และบังคลาเทศ 300,000 คน

    มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงของไทยด้วยว่า ในการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย วันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ฝ่ายความมั่นคงได้เสนอรายงานไปยังรัฐบาล เพื่อแสดงจุดยืนว่าปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นชาวโรฮิงญาไม่ได้เป็นปัญหาของไทยประเทศเดียว แต่ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ประสบปัญหาคล้ายๆ กัน โดยผู้อพยพชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ไม่ได้หนีภัยการสู้รบ แต่เป็นการแสวงหาโอกาสในทางเศรษฐกิจ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

    สรุปยอดผู้อพยพย้ายถิ่นชาวโรฮิงญาทั่วโลก (ทั้งในและนอกค่ายอพยพ)

    1.เมียนมาร์ 800,000 - 1,500,000 คน
    2.ซาอุดีอาระเบีย 400,000 คน
    3.บังกลาเทศ 300,000 คน
    4.ปากีสถาน 200,000 คน
    5.ไทย 100,000 คน
    6.มาเลเซีย 40,000 คน
    7.อินเดีย 30,000 คน
    8.อินโดนีเซีย 1,200 คน
    9.สหรัฐอเมริกา/แคนาดา 1,000 คน

    เมียนมาร์ร่วมวงถกวิกฤติผู้อพยพ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เมียนมาร์ว่า เมียนมาร์จะส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมฉุกเฉินเพื่อแก้วิกฤติผู้อพยพ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ได้ระบุรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมที่ชัดเจน

    นายซอ เท เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีเมียนมาร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า เมียนมาร์พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาผ่านการตกลงกันอย่างสร้างสรรค์และอยู่บนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม แต่การเข้าร่วมประชุมไม่ได้หมายความว่าเมียนมาร์เป็นผู้รับผิดชอบกับวิกฤติที่เกิดขึ้นเพียงผู้เดียว หรือหมายความว่าเมียนมาร์ยอมใช้คำว่าโรฮิงญา ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของรัฐบาลเมียนมาร์

    มาเลย์-อินโดฯยอมรับโรฮิงญาขึ้นฝั่ง

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่ 20 พฤษภาคม รัฐมนตรีต่างประเทศจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ร่วมประชุมฉุกเฉิน 3 ฝ่ายที่ปุตราจายาของมาเลเซีย เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่กำลังส่งกระทบต่อหลายประเทศในภูมิภาค ท่ามกลางการเข้าร่วมสังเกตการณ์ของตัวแทนจากหน่วยงานของสหประชาชาติและองค์กรช่วยเหลือผู้ลี้ภัยต่างๆ

    หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายอะนีฟะห์ อะมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย และ นางเรทโน่ มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า ทั้งสองประเทศจะไม่ผลักดันเรือผู้อพยพอีก พร้อมยื่นข้อเสนอให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้อพยพชาวโรฮิงญาหลายพันคนที่ยังติดค้างบนเรือประมงที่ลอยลำอยู่กลางทะเล โดยมีเงื่อนไขว่าประชาคมโลกจะต้องร่วมมือกันดำเนินการส่งผู้อพยพกลับประเทศต้นทางภายใน 1 ปี และที่พักพิงชั่วคราวเหล่านี้มีให้เฉพาะคนที่อยู่ในทะเลตอนนี้เท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยข่าวกรองมาเลเซียพบว่า จำนวนผู้อพยพที่ยังติดอยู่กลางทะเลขณะนี้มีประมาณ 7,000 คน

    ขณะที่ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้เข้าร่วมในการแถลงข่าว แต่ขอกลับไปตรวจสอบดูก่อนว่าการดำเนินการเช่นนี้จะขัดต่อหลักกฎหมายของไทยหรือไม่

    ท่าทีดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกในการแก้วิกฤตผู้อพยพ หลังจากก่อนหน้านี้ หลายชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผลักดันเรือผู้อพยพไม่ให้ขึ้นฝั่ง จนถูกกระแสกดดันและถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกตำหนิอย่างรุนแรง

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    บรรยายภาพ : เรือโรฮิงญา (ภาพจากกรุ๊ปไลน์เจ้าหน้าที่ภาคใต้)

    เปิดตัวเลขผู้อพยพโรฮิงญาจากทุกมุมโลก

    เปิดตัวเลขผู้อพยพโรฮิงญาจากทุกมุมโลก
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,638
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เย๊ส! : กองทัพไทยขอให้สหรัฐฯนำเครื่องบินลาดตระเวนและทหารอเมริกันออกไปจากภูเก็ตซึ่งอ้างว่าเพื่อสอดแนมให้ความช่วยเหลือโรฮิงญา

    [​IMG]

    -------------
    วันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Thailand Tells Aircraft to Leave as US Tries to Reach Rohingya Migrants" แปลว่า "ประเทศไทยสั่งให้เครื่องบินลาดตระเวนสอดแนม (ของสหรัฐฯ) ออกไป (จากประเทศไทย) เนื่องจากสหรัฐฯพยายามเข้ามาวุ่นวายกับปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญา" (อ่านแล้วมันเสอะเจยยยยย คริๆ ต้องงี้ดิ ให้มันรู้ซะมั่ง! ขอบคุณครับลุงตู่) ต่อมา Sputnik พาดหัวข่าวรองว่า "รายงานบอกว่ากองทัพไทยได้ขอให้เครื่องบินและทหารของสหรัฐฯออกไปจากภูเก็ต และปฏิเสธข้อเรียกร้องจากฝั่งอเมริกาที่ต้องการให้ใช้เกาะภูเก็ตเป็นฐานปฏิบัติการอ้างเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรงฮิงญา"
    โอ้รัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯนี่แสบใช่ย่อย คิดจะมาตั้งฐานทัพอย่างถาวรในภูเก็ต กะจะยึดเกาะภูเก็ตเป็นของตนเองอย่างที่ทำในเกาะกวมและโอกินาวาประเทศญี่ปุ่นหละสิ กองทัพไทยรู้ทันหรอกน่า
    รายงานข่าวบอกว่ากองทัพไทยได้ขอให้ทางกองทัพสหรัฐฯออกไปจากภูเก็ตหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจฝึกซ้อมภายใต้ปฏิบัติการ "Guardian Sea" (นี่สื่อฯรัสเซียเขาอุตส่าห์ใช้คำสุภาพกับสหรัฐฯเพราะเกรงใจไทยแล้วนะ ถ้าใช้ภาษาชาวบ้านเช่นเตะโด่งหรือเขี่ยหรือดีดประมาณนี้ เดี่ยวสหรัฐฯก็จะมองว่าไทยไม่ไว้หน้าและจะพาลหาเรื่องรังแกไทยอีก จึงใช้คำว่า "ขอให้ออกไปซะ!" แทน ความหมายก็คือ "ไม่ต้อนรับวุ้ย!") โดยสหรัฐฯต้องการจะคงเครื่องบินสอดแนมสังกัดนาวิกโยธินของตนไว้ในภูเก็ตหลังจากจบภารกิจซ้อมรบ 5 วัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ทางกองทัพไทยได้ขอให้กองทัพสหรัฐฯรีบๆออกไปจากอธิปไตยของไทยภายในวันศุกร์
    นั่นคือข่าวจากฝั่งรัสเซีย เขาเอาข่าวมาจากไหน? ก็เอามาจากสื่อฯจ.ร.ภาคภาษาอังกฤษของไทยนี่แหละ แต่เน้นคนละประเด็นกัน โดยสื่อฯจ.ร.ของไทยขี้ข้าอเมริกันพาดหัวข่าวว่า "Army rejects US help for Rohingya" แปลว่า "กองทัพปฏิเสธสหรัฐฯเพื่อช่วยชาวโรฮิงญา" แสบไหมหละสื่อฯจ.ร.ของไทย กองทัพไทยไม่เคยพูดว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือโรฮิงญาซักครั้ง ภาพในสื่อฯก็มีทั่วไปว่ากองทัพไทยได้ให้ความช่วยด้านมนุษยธรรมทั้งอาหาร น้ำดื่ม น้ำมันเชื้อเพลิง และซ่อมเครื่องยนต์เรือให้กับผู้อพยพชาวโรฮิงญาในทะเล โดยกองทัพเรือไทยได้ไปตั้งครัวทำอาหารเลี้ยงดูพวกโรฮิงญาบนเรือรบของไทยกลางทะเลเลย แต่สื่อฯ จ.ร.ของไทยมันบอกว่ากองทัพไทยปฏิเสธความช่วยเหลือ กรรม! แต่การที่สหรัฐฯจะมากดดันให้ไทยตั้งค่ายผู้อพยพชาวโรงฮิงญาในไทยอย่างถาวรนั้น อันนี้ไม่ได้เด็ดขาด แนะนำให้สหรัฐฯรับไปเองละกัน พอไม่ข้อเรียกร้องแรกไม่ได้ผล สหรัฐฯก็มามุกใหม่คือจะใช้ภูเก็ตเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารอ้างช่วยเพื่อช่วยเหลือพวกโรฮิงญาซะเลย ชักศึกเข้าบ้านสิไม่ว่า
    ไทยรู้ว่าสหรัฐฯจะมาแผนไหน กะจะมาใช้สนามบินภูเก็ตส่งเครื่องบินสอดแนมของตนเองเข้าไปในทะเลจีนได้ และเพื่อแผ่อิทธิพลของตนในภูมิภาคนี้ โดยคาดหวังจะให้จีนไม่พอใจไทยหละสิ ฝันไปเหอะ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของพวกนักการเมืองขายชาติ สมคบคิดกับต่างชาติหวังให้ไทยแตกแยกและกลายเป็นสนามรบอย่างยูเครนตะวันออกและเยเมนนะวุ้ย เห็นคุณภาพระหว่างสื่อฯไทย (บางสำนัก) กับสื่อฯรัสเซียหรือยัง? ดูออกหรือยังว่าใครที่รักประเทศไทยมากกว่ากัน sputnik ยังไม่มีสาขาในไทย มีแต่ที่เวียตนามและญี่ปุ่นแต่เสนอข่าวแบบช่วยเหลือและสนับสนุนไทย ในขณะที่สื่อฯจ.ร.รายนั้นตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในไทยหากินกับคนไทยแท้ๆ แต่พฤติกรรมคือบ่อนทำลายประเทศไทย กรรม!
    The Eyes
    24/05/2558
    ----------
    Thailand Tells Aircraft to Leave as US Tries to Reach Rohingya Migrants / Sputnik International
     

แชร์หน้านี้

Loading...