ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ค้นหาคำตอบ สหรัฐฯและอียูจะสามารถต่ออายุแซงชั่นรัสเซียในครั้งต่อไปได้อีกหรือไม่?

    [​IMG]

    -------------
    มาสรุปข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวระหว่างสหรัฐฯ อียู และรัสเซียในมุมมองรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ (geopolitical view) ดูบ้างนะครับ ปัญหานี้เป็นศึกระหว่างสหรัฐฯร่วมมือกับยุโรปถล่มรัสเซีย โดยใช้ยูเครนเป็นสนามรบ และกำลังจะขยายไปยังประเทศพันธมิตรของรัสเซียในยุโรปเหมือนเมฆดำทมึนกำลังตั้งเค้ามีเสียงฟ้าร้องฮึ่มๆที่มาซิโดเนีย (Macedonia) อยู่ในตอนนี้ ซึ่งในโพสต์นี้จะเล่าให้ฟังโดยสรุปอีกครั้งว่าเหตุการณ์เหล่านี้มันเกี่ยวข้องกันอย่างไรโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการแซงชั่นรัสเซีย
    เมื่อวันที่ 20 พ.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า บริษัทต่างๆจากไซปรัส (Cyprus) กรีซ (Greece) และฮังการี (Hungary) ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่อียูแซงชั่นรัสเซีย จะอยู่แถวหน้าที่จะสามารถกลับมาส่งออกอาหารไปยังรัสเซียได้อีกครั้ง หากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียกล่าว
    นาย Sergei Dankvert ผอ.ขององค์การด้านความปลอดภัยในอาหารของรัสเซียได้กล่าวกับสื่อว่า "ขณะนี้มีประมาณ 20 บริษัทจากสามประเทศที่ผ่านการตรวจสอบทางด้านเทคนิคแล้ว แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่บ้างเนื่องจากถูกปกคลุมด้วยเรื่องการเมือง" (หมายความว่าถ้าสามประเทศนี้ยกมือในที่ประชุมสภาสหภาพยุโรปว่าไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุแซงชั่นรัสเซีย รัสเซียก็จะไฟเขียวให้ส่งออกอาหารมายังรัสเซียได้ทันที)
    กรุงมอสโคว์ได้ทำการแบนการส่งออกอาหารจากกลุ่มประเทศอียูเมื่อเดือนสิงคหาคมปี 2557 เพื่อตอบโต้ต่อมาตรการทางเศรษฐกิจในด้านธนาคาร บริษัทผลิตอาวุธและด้านพลังงานที่สหรัฐฯและอียูแซงชั่นรัสเซีย การแซงชั่นกลับจากฝ่ายรัสเซียจะหมดอายุในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ทางรัสเซียยังไม่มีท่าทีว่าจะต่ออายุแซงชั่นสหรัฐฯและยุโรปอีกหรือไม่ ซึ่งจะต้องดูท่าทีจากอียูซะก่อนว่าจะเอาอย่างไร
    ส่วนมาตรการแซงชั่นที่อียูกระทำต่อรัสเซียนั้นจะหมดอายุในเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถต่ออายุได้ก็ต่อเมื่อประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปทั้ง 28 ประเทศมีมติร่วมกันเป็นเอกฉันท์ (consensus) เท่านั้น แต่ในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางอียูได้ประกาศข้อตกลงทางการเมืองแล้วว่าจะขยายการแซงชั่นรัสเซียออกไปอีกจนถึงสิ้นปีนี้ (ถ้าจำไม่ผิดอียูจะทำการลงมติอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้ว่าจะต่ออายุแซงชั่นรัสเซียหรือจะยกเลิก)
    ทางรัสเซียรายงานว่า การตอบโต้อียูด้วยการแซงชั่นกับจากฝั่งรัสเซียทำให้ผู้ส่งออกของอียูสูญเสียรายได้ไปแล้วราว $3.5 billion (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท) ในขณะเดียวกันทางรัสเซียก็ได้สั่งนำเข้าอาหาร เครื่องอุปโภคประจำวัน และอาหารทะเลจากเอเซีย ลาตินอเมริกา แอฟริกาเหนือ (และอิหร่าน) ทางรัสเซียบอกว่าอาหารที่ถูกสั่งห้ามจากยุโรปถูกนำออกจากชั้นวางตามแหล่งขายอาหารตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แต่รัสเซียก็อยู่รอดมาได้ นี่คือการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนไปยังอียูว่า แม้ไม่มีอียูรัสเซียก็ไม่อดตาย
    เมื่อเล่นแผนกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียไม่ได้ผล แล้วสหรัฐฯจะทำอย่างไรหละคราวนี้? มีอยู่สองประเด็น โดยประเด็นแรกก็คือเรื่องวิกฤตยูเครนที่สหรัฐฯยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการแซงชั่นรัสเซีย แต่ล้มเหลวในขณะที่สื่อฯตะวันตกไม่กล้าที่จะเน้นย้ำและไม่กล้าที่จะเอ่ยปากวิเคราะห์ฉอดๆเป็นวรรคเป็นเวรเหมือนตอนที่เริ่มทำแซงชั่นรัสเซียในตอนแรกเลย
    นักวิเคราะห์ (Eric Zuesse) มองว่าสหรัฐฯเล่นแผนบีแทน โดย (แกล้ง) ขอสงบศึกกับรัสเซียในกรณีความขัดแย้งในยูเครน จึงได้ส่งจอห์น แคร์รี่เข้าไปขอเจรจาต่อรองกับทางรัสเซีย ส่วนนางนูแลนด์ที่เดินทางไปรอบหลังนั้นก็ทำพอเป็นพิธีเท่านั้น นักวิเคราะห์เน้นย้ำว่า "งานนี้แมร์เกิลและออลลองด์ชนะ ปูตินได้รับการตัดสินว่าชนะ เห็นได้ชัดว่าโอบาม่าและพวกนาซีที่มีอำนาจอยู่ในยูเครนขณะนี้พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แต่เศษซากที่พรรคพวกของโอบาม่าได้สร้างไว้ในยูเครนในความพยายาที่จะกำจัดกลุ่มชาติพันธุ์ในภูมิภาคดอนบาสส์นั้นต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอีกหลายสิบปี" (พอฟื้นฟูเสร็จ เดี๋ยวสหรัฐฯก็จะหาเรื่องไปถล่มอีกรอบ อย่างที่เคยถล่มกลุ่มประเทศอดีตยูโกสลาเวียในยุโรปในอดีตมาแล้ว และกำลังจะถล่มอีกรอบโดยเริ่มต้นที่มาซิโดเนียในเร็วๆนี้ - ผู้เขียน)
    คราวนี้มาดูเกมหนึ่งที่สหรัฐฯจะใช้สกัดอิทธิพลของรัสเซียในยุโรปบ้าง นั่นก็คือเรื่องท่อแก๊สจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรป สหรัฐฯไปเป่าหูชาวยุโรปว่าระวังนะพึ่งพาแก๊สจากรัสเซียมากๆ เกิดวันใดขัดใจรัสเซียขึ้นมาเดี๋ยวรัสเซียตัดแก๊สไม่ส่งให้ยุโรปเอาดื้อๆ ยุโรปจะตายทั้งเป็นเลยนะนั่นหนะ ชาวยุโรปนั้นเป็นโรคขวัญอ่อนขี้ตกใจง่าย ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ปอดแhก" ก็ตกใจและเป็นกังวลมาก จะทำอย่างไรดีหละ เพราะแก๊สที่ผลิตได้ในดินแดนของตัวเองก็ไม่พอใช้ซะด้วย สหรัฐฯก็บอกว่าเอางี้สิ หันมาใช้แก็สของสหรัฐฯในโครงการ TAP จากอาเซอร์ไบจานในทะเลแคสเบี้ยนดีกว่าไหม? ซึ่งบริษัทยุโรปก็ถือหุ้นรวมอยู่ด้วยหลายบริษัท พวกอียูบางประเทศก็บอกว่าดีๆ เห็นด้วย
    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศเห็นด้วยกับสหรัฐฯนะ มีหลายประเทศที่อยากใช้แก๊สจากรัสเซียเช่น ตุรกี (ตุรกีนี่เอาทั้งสองฝั่งคือสหรัฐฯก็เอารัสเซียก็เอา เพื่อความอยู่รอดของตัวเองถ้าไม่เอาของสหรัฐฯไอซิสจะได้อาละวาดในตุรกีแน่) กรีซ สาธารณรัฐเช็ก เซอร์เบีย มาซิโดเนีย และอีกหลายประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวียในอดีต ประเทศเหล่านี้หันมาทางรัสเซีย
    ดังนั้นหนังสือพิมพ์ Yeni Musavat ในอาเซอร์ไบจานมองว่า สหรัฐฯรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซียในกรีซ (แน่นอน… ก่อนหน้านี้สหรัฐฯก็ออกมาเบรกกรีซเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเปิดเผยมาแล้ว) ความไม่สงบในมาซิโดเนียจะเปิดทางให้เกิดการยึดอำนาจจากรัฐบาลชุดปัจจุบันของมาซิโดเนีย และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เป็นโปรตะวันตก (pro-Western government) ขึ้นมาในมาซิโดเนีย
    รายงานข่าวบอกว่า Jess L. Baily เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำมาซิโดเนียได้ให้การสนับสนุนนาย Zoran Zaev ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน (พรรค SDSM) ของมาซิโดเนียอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะมาแล้ว นาย Zoran Zae มีฉายาเป็นที่รู้กันดีในประชาชนชาวมาซิโดเนียว่า "a man of America" (แปลให้สุภาพว่า "บุรุษแห่งอเมริกา" แต่ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านทั่วไปก็จะเรียกว่า "ขี้ข้าอเมริกา" นั่นเอง)
    Dusan Prorokovic นักรัฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า ทันทีที่มาซิโดเนียหันมาสร้างความสัมพันธ์กับรัสเซีย สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศก็เกิดขึ้น เนื่องจากตะวันตกไม่ชอบใจท่าทีการเคลื่อนไหวแบบนี้ของรัฐบาลนาย Nikola Gruevski นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของมาซิโดเนีย หนังสือพิมพ์ของอาเซอร์ไบจานมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมาซิโดเนียนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นที่จะโหมเข้าถล่มกลุ่มประเทศเหล่านั้นในยุโรปที่สนับสนุนโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซีย
    ป.ล. ตอนนี้ข้อพิพาทกรณีหมู่เกาะ Kuril Islands ระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซียกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นฮ็อตขึ้นมาเช่นกัน หากสนใจเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปนะครับ
    The Eyes
    22/05/2558
    ----------
    EU Sanctions Critics Welcome to Russia's Food Market - Official / Sputnik International
    Washington Throws in the Towel on Ukraine, Shifts to 'Plan B' / Sputnik International
    US Seeks to Wreck Macedonia to Satisfy Its Ambitions in EU Energy Market / Sputnik International
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯโดนอีกแล้ว! รัสเซียสั่งห้ามนาโต้ขนอาวุธข้ามดินแดนและน่านฟ้าของรัสเซียไปยังอัฟกานิสถาน

    [​IMG]

    -------------
    เมื่อวันที่ 18 พ.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) (ชื่อนี้คนไทยจำได้ดี เพราะพึ่งมาเยือนประเทศไทยและจับมือกับลุงตู่เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง) ได้ยกเลิกคำสั่งที่อนุญาตให้กองทัพนาโต้ขนยุทโธปกรณ์ไปยังอัฟกานิสถานผ่านเขตแดนของรัสเซีย
    ตามรายงานอย่างเป็นทางการซึ่งลงนามโดยนายกฯเมดเวเดฟเมื่อวันจันทร์ที่ 18 นี้ระบุว่า การตัดสินใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดในการขนส่งสินค้าของนาโต้ไปยังอัฟกานิสถาน ได้ถูกยกเลิกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คำสั่งนี้รวมถึงการอนุญาตให้มีการจัดส่งอุปกรณ์หนักทางทหาร (delivery of military hardware) และเครื่องมือต่างๆผ่านระบบราง รถยนตร์ หรือผ่านน่านฟ้าของรัสเซียด้วย (ไม่มีทางน้ำเพราะอัฟกานิสถานไม่มีพื้นที่ติดทะเล)
    รัสเซียได้อนุญาตให้นาโต้ขนส่งสินค้าทางกองทัพไปยังอัฟกานิสถานผ่านดินแดนของรัสเซีย ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาในอัฟกานิสถานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชติในปี 2001 ตามมติของ UNSC นั้นได้มีการจัดตั้งกองกำลังสนับสนุนด้านการรักษาความปลอดภัยระหว่างประเทศขึ้นในอัฟกานิสถาน (International Security Assistance Force - ISAF) และในทุกประเทศที่สนับสนุนภารกิจรักษาความปลอดภัยนำโดยนาโต้ ในปี 2008 รัสเซียได้ลงนามในคำสั่งอนุญาตให้ ISAF สามารถขนส่งสินค้าและยุทโธปกรณ์ผ่านดินแดนของตัวเองได้
    ต่อมาในปี 2014 ทางกรุงวอชิงตันประกาศว่าปฏิบัติการในอัฟกานิสถานได้เสร็จสิ้นแล้ว กองกำลังผสมนำโดยสหรัฐฯ จึงถูกย้ายออกจากอัฟกานิสถาน และให้กองทัพของอัฟกานิสถานเข้ารับช่วงต่อในการรักษาความมั่นคงของประเทศได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯก็ยังคงกองกำลังของตนจำนวน 13,000 นาย ไว้ในอัฟกานิสถานจนถึงสิ้นปี 2016 อ้างว่าเพื่อจับตาดูกองกำลังท้องถิ่น และให้การสนับสนุนด้านการฝึกทหารในปฏิบัติการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
    นั่นคือข่าวแบบเนื้อๆ เน้นๆ ตอนแรกรัสเซียก็ใจดีอุตส่าห์ให้นาโต้ใช้เส้นทางผ่านรัสเซียในการขนถ่ายอาวุธไปยังอัฟกานิสถานแม้จะอ้างว่าเพื่อต่อต้านกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายตาลีบันในอัฟกานิสถาน ซึ่งต่อมาโอบาม่าบอกว่าตาลีบันไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายเฉยเลย และอาจจะใช้นาโต้ขนเฮโรอีนจากอัฟกานิสถานเข้ามาในรัสเซียโดยใช้เส้นทางในรัสเซียในการขนไปยังประเทศปลายทางในยุโรปและสหรัฐฯเองด้วย แล้วก็โทษเม็กซิโกและกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาว่าเป็นแหล่งผลิตเฮโรอีนและนำเข้าไปในสหรัฐฯ
    อีกทั้งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาสหรัฐฯได้ศึกษาเส้นทางชัยภูมิในรัสเซียไว้เรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าโอกาสนี้แหละเหมาะที่สุดแล้วที่จะเล่นงานรัสเซีย จึงเริ่มกลยุทธ์บ่อนทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียก่อนด้วยการถล่มค่าเงินรูเบิล แล้วเล่นสงครามราคามน้ำมันกัน ตามด้วยแผนแซงชั่นทางเศรษฐกิจของรัสเซีย ขยันซ้อมรบใกล้ชายแดนรัสเซียบ่อยครั้งขึ้นโดยใช้นาโต้บังหน้า โดยยกกรณีวิกฤตยูเครนเป็นข้ออ้าง กะว่างานนี้จะเอารัสเซียให้หมอบให้ได้
    แต่รัสเซียก็รู้ทันเล่ห์ของสหรัฐฯ แม้จะเพลี่ยงพล้ำในตอนแรกแต่ก็สามารถตั้งเกมรับได้ และรัสเซียสามารถทำให้เศรษฐกิจของตนเองกลับมามีความมั่นคงได้อีกครั้ง รัสเซียมองว่าอุตส่าห์ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือสหรัฐฯมาโดยตลอด สุดท้ายสัญชาตญาณนักล่าของพวกตะวันตกมันไม่เคยหายไปเลย จ้องจะแว้งกัดอยู่เรื่อย เข้าทำนองที่ว่ากินบนเรือนขี้บนหลังคาชัดๆ
    อย่ากระนั้นเลย ถึงเวลาสั่งสอนอเมริกากลับบ้างแล้ว จึงมีมาตรการตอบโต้ต่างๆตามมาเป็นระยะ ล่าสุดก็นี่แหละสั่งยกเลิกคำสั่งอนุญาตขนอาวุธและสิ่งของของนาโต้ผ่านรัสเซียไปยังอัฟกานิสถานซะเลย ถ้าตรวจพบจะยึด ถ้าบินผ่านน่านฟ้าของรัสเซียก็จะสอยให้ร่วง ยุทธการหมีเด็ดปีกอินทรีกำลังเริ่มขึ้นแล้ว
    The Eyes
    21/05/2558
    ----------
    http://rt.com/n…/259809-russia-stops-nato-afghanistan-cargo/
    Military Cargo Transits Through Russia to Afghanistan Expired - Government / Sputnik International
    http://publication.pravo.gov.ru/Document/…/0001201505180018…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    อีกมุมหนึ่งของยูเครนภายใต้การกำกับของสหรัฐฯวันนี้ มวยหมู่ม็อบชนม็อบสามัคคีบาทากันกลางถนน

    <iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/y3OT7iiZ02A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    -------------
    วันนี้ (21 พ.ค.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานเหตุกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกันด้วยความรุนแรงในกรุงเคียฟประเทศยูเครน การปะทะกันด้วยความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มที่ประท้วงคัดค้านการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกรุงเคียฟกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว กับกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดลายพรางใส่ไอ้โม่งปิดหน้าปิดตามถือโล่ห์ตำรวจ ตอนแรกก็มีการตะโกนใส่กัน จากนั้นก็ตามด้วยการขว้างปาก้อนหินและยิงดอกไม้ไฟใส่กัน แล้วก็นำมาซึ่งการเผชิญหน้าวิ่งเข้าตะลุมบอนกันและแจกขนมตุ๊บตั๊บให้กันอย่างที่เห็นในคลิป การปะทะกันครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย รายงานข่าวบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 15 รายได้รับบาดเจ็บด้วย
    การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับพวกนักเลงรับจ้างที่บริษัทเจ้าของโครงการจัดมาโดยเฉพาะนี้ไม่ใช่พึ่งมีขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันในลักษณะนี้และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายถูกยิงด้วย หลังเกิดเหตุปะทะกันครั้งแรก โครงการก่อสร้างก็ถูกระงับไป แต่จู่ๆชาวบ้านก็พบว่ามีรั้วมากั้นบริเวณไซต์งานก่อนสร้างเหมือนว่าจะมีการดำเนินการก่อสร้างอีกครั้ง กลุ่มผู้ประท้วงจึงรวมตัวกันออกมารื้อทำลายรั้วดังกล่าว
    แต่ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายสิบคนสวมชุดไอ้โม่ง ปะปนอยู่กับตำรวจเข้ามาขัดขวางการรื้อรั้วรอบสถานที่ก่อสร้างด้วย จึงนำมาซึ่งความรุนแรงทำร้ายร่างกายกันอย่างที่เห็น ทางผู้ผู้ว่าฯของกรุงเคียฟได้เสนอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้าง แต่ทางบริษัทผู้ก่อสร้างยืนยันว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับกรุงเคียฟ ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงออกมาตำหนิผู้ว่าฯ ว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่
    ตอนนี้ไม่ค่อยจะมีสงครามใหญ่ในยูเครนตะวันออก แม้จะมีการสู้รบประปรายบ้างแต่ก็ไม่ใหญ่โตถึงขนาดที่รัฐบาลยูเครนจะต้องเรียกใช้กำลังเสริมจากฝ่ายขวาหัวรุนแรง อย่างพวกนีโอนาซีอาซอฟ ดังนั้นพวกนี้จึงรับจ็อบพิเศษงานถนัดคือรับตื้บม็อบรายวันตามใบสั่งลูกพี่ใหญ่ ใครขัดขวางนายทุน อาซอฟจัดให้ ทุกวันนี้ในกรุงเคียฟก็ใช่ว่าจะสงบนะ มีการประท้วงวุ่นวายเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง บ้านเมืองภายใต้ประชาธิปไตยที่อเมริกาจัดให้ยูเครนก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ
    The Eyes
    21/05/2558
    ----------
    http://rt.com/news/260597-kiev-clashes-construction-site/
    https://www.youtube.com/watch?v=y3OT7iiZ02A
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย
    วันที่ 22 พ.ค.58 อยากรู้ไหม ทำไมช่วงนี้อเมริกา และ UN ต้องเดินเกมส์ผู้อพยพกับอาเซียน

    [​IMG]

    มีหลายคนสงสัยว่ากระแสผู้อพยพชาวโรฮินจา ที่เงียบๆ มานาน ทำไมช่วงนี้จึงถูกอเมริกา , สหประชาชาติ (UN) และ องค์กรสิทธิฯ ที่หนุนหลังโดยกลุ่มอิิลลูมินาติ โหวกเหวกโวยวายเหลือเกิน คำอธิบายสั้นๆ คือ
    1. ยุทธศาสตร์ปักหมุดเอเซียปี 2558 เพราะประชาคมอาเซียน 10 ชาติ จะรวมตัวกันในปี 2558 นี้ มีประชากรรวมกันถึง 630 ล้านคน มีอำนาจต่อรองสูงในอนาคต อเมริกาต้องทำให้เกิดความระแวง และแตกแยกกันในกลุ่มอาเซียนให้ได้ เกมส์โรฮินจานี่แหละกระทบกับทุกประเทศมากที่สุด
    2. ตรงรัฐยะไข่ต่อกับบังคลาเทศ เป็นจุดลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพียบ เช่น ท่าเรือ พลังงาน และศูนย์ของระบบต่างๆ จากอินเดีย จีน จะทำให้เอเซียเจริญอย่างมาก ดังนั้นอเมริกาต้องทำ ให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อทำลาย หรือ ชลอความเจริญ บล็อคอินเดียและจีน
    3. อเมริกา ต้องการสร้าง "สาธารณรัฐโรฮินจา" เป็นนอมินี เพื่อแทรกเบียดกลาง ขอมีส่วนแบ่งในผลประโยชน์ต่างๆ ด้วย จึงสร้างความเกลียดชังระหว่างชาวพุทธ และ อิสลาม ในจุดพื้นที่เป้าหมาย ยุยงให้เกิดการปะทะกัน , ฝึกฝนกองกำลังติดอาวุธ , สนับสนุนอาวุธให้ต่อสู้กับรัฐบาล ฯลฯ
    สร้างความเกลียดชังกันระหว่างศาสนา เชื้อชาติ จนโลกหันมามอง หลักการใช้วิธีการ "ติมอร์เลสเต้ โมเดล" หนุนให้ต่อสู้ด้วยอาวุธ ก่อสงครามกลางเมืองกับรัฐบาลอินโดฯ จนถึงการทำประชามติแยกประเทศ และให้ UN รับรองประเทศ
    บางคนสงสัยว่าคนของ UNHCR เรียกเก็บหัวคิวอพยพคนละ 6,000 บาท และจ่ายอีกหลายด่านระหว่างทางอีกคนละ 74,000 บาท (รวม 80,000 บาทต่อคน) แล้วพวกเขาจะเอาเงินเหล่านี้มาจากไหน?? ก็ต้องถามให้คิดกลับว่า
    เรืออพยพลำใหญ่ๆ จุได้ 300-400 คน ลองคิดดูว่า "ราคาลำละเท่าไร ??" อย่างต่ำลำละ 10 ล้านบาท ค่าน้ำมัน อาหาร และอื่นๆ ฯลฯ อีกเพียบ ลองคิดดูซิ ว่าถ้าไม่มีเงินจริงๆ ใครจะให้ขึ้นเรือฟรีๆ ?? และเรือนี้พอใกล้ฝั่ง จะถูกผู้อพยพทำให้ล่ม เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาช่วย หรือ ประเทศปลายทางจับได้ "จะต้องถูกยึด" ไม่ได้คืนกลับไป
    มุกใกล้ชายฝั่ง แล้วทำเรือให้ล่มนี่ คือมุกที่ใช้มานานแล้วสำหรับพวกเขา เคยมีผู้อพชาวโรฮินจา อพยพทางเรือจากมาเลย์ฯ ลอยยาว ไปใกล้ชายฝั่งออสเตรเลีย แล้วก็ทำเรือล่มจมทิ้งเรือไปเลย "คิดดูว่าคนจนๆ ไหวไหม?" เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเห็นครั้งแรกหน้าตาแปลกๆ ร้อง เฮ้ย..มาจากไหนเนี่ย ??
    ขบวนการค้ามนุษยเป็นสปอนเซอร์ฟรีหรือ ?? รัฐบาลบังคลาเทศ และพม่า เป็นสปอนเซอร์ฟรีหรือ ??...หรือว่ามีมือที่มองไม่เห็น เป็นสปอนเซอร์ และรีบรับลูกกันเป็นขบวนการ กดดันชาติในอาเซียน...คิดดีๆ แล้วจะสว่างวาบ..อ๋อ..มันลำลึกจริงๆ !!
    อย่าไปหลงกลเขา ต้องตั้งหลักเอาความมั่นคงของชาติไทยเป็นสำคัญ และความมั่นคงของอาเซียนเป็นเป้าหมายถัดไป...สื่อแดงรับลูกต่างชาติเห็นขี้ดีกว่าใส้ หยุดพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนได้แล้ว..เหม็นขี้ฟัน !!
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 21 พ.ค.58 ชาวญี่ปุ่นก่อม็อบลุกฮือ ขับไล่ทหารสหรัฐ ออกไปจากดินแดนตนเอง
    สหรัฐ ใช้เกาะโอกินาวาเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐ และมีทหารประจำการกว่า 23,500 ราย จากทหารอเมริกันกว่า 47,000 นาย ที่ตอนนี้ยึดญี่ปุ่นไว้โดยพฤตินัย และมี แผนจะย้ายฐานทัพไปอยู่ในเขตฟูเตนมะ เพื่อลดกระแสต่อต้านของคนญี่ปุ่น
    เพราะทหารอเมริกัน ชอบก่อคดีรุมข่มขืนนักเรียนหญิงญี่ปุ่น จนทำให้เกิดการโกรธแค้นของประชาชนจำนวนมาก และ ผู้ประท้วงไม่อยากให้เกาะโอกินาวาตกเป็นพื้นที่สงครามกระสุนตกอีก
    ตอนนี้สถานการณ์ต่อต้านการใช้เกาะโอกินาวา เป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ลุกลามบานปลาย เมื่อมีชาวญี่ปุ่น รวมตัวราว 35,000 คน ในสนามฟุตบอลของเขตนาฮะ เพื่อประท้วง และแสดงจุดยืน ให้สหรัฐปิด และเคลื่อนย้ายฐานทัพที่อยู่ในเขตฟูเตนมะ
    และยกเลิกแผนสร้างฐานทัพ บริเวณชายฝั่งในเขตนาโกะ ของจังหวัดโอกินาวา แต่ยังมีชาวญี่ปุ่นบางส่วน ที่ต้องการให้สหรัฐคุ้มครอง อ้างว่าจีนกำลังขยายอิทธิพลมากขึ้นในย่านทะเลจีนใต้
    -------------------------------->
    พวกหลังคิดว่า มีอเมริกาอยู่แล้วอุ่นใจว่างั้นเถอะ เพราะถ้าอเมริกาไม่ทิ้งระเบิดใส่ ก็จะไม่มีใครทำอยู่แล้ว ถ้าขับไล่อเมริกาไป เดี๋ยวอเมริกาก็หาเรื่องรุกรานเอาระเบิดมาทิีงใส่อีก
    ปกติคนญี่ปุ่นไม่ชอบก่อม็อบ ครั้งนี้คงสุดกลั้นจริงๆ ถึงรวมตัวได้มากขนาดนี้ ตอนนี้คนญี่ปุ่นเลยแตกเป็น 2 เสี่ยงเพราะอเมริกา คือ มีพวกต่อต้าน กับ พวกสนุนอเมริกา ที่กลุ่มหลังนี้นำทีมโดยพรรครัฐบาล
    นี่คือตัวอย่างรูปธรรม อเมริกาแทรกแซงทางทหารประเทศใด คนในชาติแตกออกเป็นเสี่ยงเพราะขัดแย้งกันเมื่อนั้น ประเทศไหนคนใจร้อน หูเบา และดิบเถื่อนหน่อย ก็จับอาวุธมารบกันให้ตายไปข้างหนึ่ง
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "โรฮีนจา > บังคลาเทศ > อัลกออิดะห์ > ซาอุดิอาระเบีย ตะวันตก"
    ... เมื่อ 26 ธันวาคม ปี 2012 มีการออกวีดีโอจากนาย Ayman al-Zawahiri หัวหน้าของกลุ่ม "อัลกออิดะห์" ที่บอกว่า จะมีการขยายสาขาการปฎิบัติการของกลุ่มมาสู่ "อนุภาคพื้นของคาบสมุทรอินเดีย" โดยจะครอบคลุมถึง อินเดีย บังคลาเทศ และพม่าด้วย
    ... โดยจะมีการแต่งตั้งให้ Asim Umar เป็นหัวหน้าสาขาดูแลภาคพื้นดังกล่าว โดยจะมีการกระตุ้นดึงมวลชนจากดินแดนนี้เข้ามาเป็นพวกเพื่อเผยแพร่แนวคิดของกลุ่ม โดย Asim Umar นั้นเคยทำงานกับกลุ่มตาลิบันในปากีสถานของเผ่าชาวปัญจาบมานานก่อนมาเริ่มมาสัมพันธ์กับกลุ่ม "อัลกออิดะห์" ในที่สุด โดยเขาเก่งในการโฆษณาชวนเชื่อและดึงมวลชน เช่นการเขียนบทความต่างๆ
    ... โดยเป้าหมายคือการดึงมวลชนในมุสลิมในประเทศ อินเดีย บังคลาเทศ และพม่าที่ถือว่าเป็นมุสลิมที่นิคมความเป็นกลางๆ ไม่เคร่งครัดรุนแรงมากมาเป็นพวกเข้ากลุ่มให้ได้ และกระตุ้นให้ต่อสู้เพื่อสร้างระบบเคาะลีฟะห์ ( คล้ายๆที่ ISIL ดึงมวลชนเข้ามาในกลุ่ม ) โดยมีการยกเอาสมัยโบราณที่ราชวงศ์โมกุลที่เป็นอิสลามเคยปกครองอินเดียมานานเป็นร้อยปี ( ราชวงศ์โมกุลนั้นเป็นอิสลามแต่เชื้อสายมองโกลผสมกับเติร์ก ไม่ใช่อาหรับ คล้ายๆอ๊อตโตมัน )
    ... โดยกระตุ้นกระทุ้งว่ามุสลิมในอินเดียนั้นห่างเหินจากการยีฮัดมานานแล้ว ให้ตื่นขึ้นมาสู้และทำลายระบอบของอเมริกาให้พินาศพร้อมกัน
    ... นอกจากกลุ่ม "อัลกออิดะห์" แล้วในบังคลาเทศยังมีกลุ่ม Jamaat-e-Islami และกลุ่ม Hefazat-e-Islam ที่นิยมความรุนแรงอีกด้วย
    ... ทั้งกลุ่ม "โบโกฮารัม" ในไนจีเรีย และล่าสุดกลุ่ม "อัล ชาบับ" ( Al Shabaab ) ในโซมาเลียและอาฟริกาตะวันออกล้วนก็เกี่ยวข้องกับ "อัลกออิดะห์" ทั้งสิ้น และก็เกี่ยวข้องกับ "ซาอุดิอาระเบีย" ในการอุดหนุนทางการเงินมาโดยตลอดเช่นกัน หรือแม้แต่ "อเมริกา อิสราเอล" ในการให้การจัดการและการฝึกฝนทางการสู้รบมาด้วย
    ... หลังจากเริ่มมีกลุ่ม "อัลกออิดะห์" สาขาในย่านอนุภาคพื้นของคาบสมุทรอินเดีย นี้แล้วก็เริ่มมีการฆ่าสังหารกลุ่มหรือคนต่างๆที่ไม่เห็นด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ไม่รุนแรงเหมือน ISIL ก็ตาม และจะมาอีกเรื่อยๆแทรกซึมมาตามที่หัวหน้ากลุ่มได้ประกาศออกไป
    ... ซึ่งถ้าเอาเรื่องนี้ไปประกอบกับข้อมูลเก่าๆตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา ที่มีข่าวเรื่อง ซาอุดิอาระเบียเข้ามาเผยแพร่แนวคิด วาฮาบี้ หรือให้ทุนการศึกษานักศึกษาไทยไปเรียนที่โน่น พร้อมกับให้การหนุนกลุ่ม ฺบีอาร์เอ็น อาร์เคเค แล้ว ยิ่งทำให้เราต้องระวังรอบคอบมากขึ้นในการจะตัดสินใจเปิดรับผู้อพยพใดๆเช่นพี่น้อง "ชาวโรฮีนจา" เป็นต้น เพราะอาจจะมีการส่งกลุ่มก่อการรุนแรงมาแทรกซึมได้ เหมือนล่าสุดที่มีข่าวว่า ISIL ได้แอบส่งนักรบขึ้นเรือแฝงไปกับผู้อพยพไปยุโรปด้วย
    ... ดังนั้นการจะมองปัญหาผู้อพยพจากชาติใดๆ นั้นถ้าเราเข้าใจว่า อาจจะมีการแทรกซึมแทรกแซงจากกลุ่มใดๆเพื่อมาสร้างมาปั่นป่วนในประเทศได้ เราต้องให้คิดให้หนัก ว่าจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่ อย่าลืมว่าวิธีการคิดของแต่ละกลุ่มในโลกล้วนต่างกัน การที่เรารับผู้อพยพด้วยความเมตตานั้นดีแล้ว แต่อาจจะเป็นการเหมือน "ชาวน่าเลี้ยงงูเห่า" ก็ได้ ถ้าไม่รู้ที่มาที่ไปให้ละเอียดของอันตรายที่จะตามมา
    .
    Asim Umar, head of new Al-Qaeda branch
    http://www.nytimes.com/2015/05/04/w...ian-subcontinent-attack-on-bloggers.html?_r=1
    Al Qaeda opens branch in the ‘Indian Subcontinent’ | The Long War Journal
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    9. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    ในวันที่9กันยายนปี2014 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การสหประชาชาติโหวตผ่านมติให้มีกรอบระเบียบโลกในการการปรับโครงสร้างหนี้ของประเทศต่างๆในระดับพหุภาคี เพื่อให้ระบบการเงินโลกเดินหน้าต่อไปได้
    ตามแผนการจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาที่จะทำหน้าที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่เป็นประเทศสมาชิกของยูเอ็น
    มตินี้ผ่านที่ประชุมยูเอ็นด้วยคะแนน 128เห็นด้วย 16ไม่เห็นด้วยและ34ไม่ลงคะแนน
    พูดกันง่ายๆ ยูเอ็นกำลังทำตัวเป็นรัฐบาลโลกในการเข้าไปไกล่เกลี่ยหนี้สินให้สมาชิกประเทศกับเจ้าหนี้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพวกแบงค์หรือกองทุนที่มาซื้อพันธบัตรของประเทศต่างๆที่ออกมามากมายในการใช้จ่ายของภาครัฐบาลแต่สุดท้ายแล้วไม่มีปัญญาจ่าย
    ตัวแทนของอาร์เจนติน่ากล่าวว่า ถ้าหากวิกฤติหนี้ของประเทศต่างๆไม่ได้รับการแก้ไข วิกฤติอื่นๆจะตามมา
    ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องนำเสนอกรอบระเบียบโลกระดับพหุภาคีเพื่อที่จะดำเนินขบวนการปรับโครงสร้างหนี้ประเทศ
    สหรัฐโหวตไม่เห็นด้วยกับมตินี้ของยูเอ็น โดยอ้างว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังพยายามแก้ไขปัญหาหนี้ประเทศเหมือนกัน
    ตกลงยูเอ็นและกองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังจะแย่งงานกันทำหรือในการแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้โลก ที่ก่อโดยระบบเครดิตทำให้โลกมีหนี้รวมกัน$200ล้านล้าน ในขณะที่จีดีพีโลกอยู่แค่$70ล้านล้าน
    ไม่มีทางใช้หนี้ได้
    เนื่องจากวันที่23กันยายน2015นี้จะเป็นวันแรกของปีเสียงแตรที่จะมีการยกเลิกหนี้ ห้ามเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ใหม่ แต่บริโภคได้แต่ของที่เก็บตุนกันมา เราต้องดูว่ายูเอ็นจะปฏิบัติตามจิตวิญญาณของปีเสียงแตรหรือไม่ด้วยการยกหนี้ให้ลูกหนี้ประเทศ เพื่อตั้งต้นชีวิตกันใหม่ในโลกใหม่
    ประเทศใดที่ยอมทำตามยูเอ็นให้เป็นรัฐบาลโลกจะได้ยกหนี้ ประเทศใดขัดขืนอาจจะมีอนาคตที่ไม่แจ่มใส ได้ยกหนี้แล้วแต่ต้องแลกกับอะไร ยูเอ็นยังไม่บอก
    There is no free lunch ไม่มีใครเลี้ยงข้าวเที่ยงเราฟรีๆหรอก
    thanong
    22/5/2015
    Resolution on Sovereign Debt Restructuring Adopted by General Assembly Establishes Multilateral Framework for Countries to Emerge from Financial Commitments | Meetings Coverage and Press Releases
    Proposal for Sovereign Debt Restructuring Framework among 6 Draft Texts Approved by Second Committee | Meetings Coverage and Press Releases
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    10. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    เมื่อเร็วๆนี้ทาง The McKinsey Institute ได้ออกรายงานพิเศษว่าหนี้โลกเกือบจะแตะ$200ล้านล้านแล้ว ขาดเพียงแค่$1ล้านล้านเท่านั้น
    แต่ไม่ต้องห่วงตอนนี้หนี้โลกโดยรวมแล่นผ่านระดับ$200ล้านล้านไปแล้ว เทียบเท่ากับว่ามนุษย์แต่ละคนบนโลกนี้มีหนี้$27,204 ในขณะที่จีดีพีโลกอยู่ที่$70ล้านล้าน
    เนื่องจากวิกฤติการเงินของปี2008 ทำให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งบรรดาธนาคารกลางหลักของโลกปั๊มเงิน สร้างหนี้ใหม่ให้ระบบการเงินเพื่ออุ้มไม่ให้ระบบการเงินพัง ทำให้มีหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นสูงถึง$57ล้านล้านในระยะ8ปีที่ผ่านมา
    จีนเองก็มือเติบ สร้างหนี้เพิ่มจากปี2007เป็น$28ล้านล้าน หรือ282%ต่อจีดีพี
    ระบบการเงินโลกเป็นระบบเครดิตที่ผู้สร้างนำมาให้เราใช้ให้เราลุ่มหลงในภาพมายาของความรวยที่สร้างอยู่บนกองหนี้ เป็นการใช้เงินอนาคตที่ไม่มีวันจ่ายคืนได้
    หนี้โลกนี้เป็นฟองสบู่ที่ต้องแตก ไม่มีทางที่จะเลี่ยงได้ ทางยูเอ็นและกองทุนการเงินระหว่างประเทศรู้เรื่องนี้ดี จึงได้เตรียมการที่จะปรับโครงสร้างหนี้โลก
    พูดง่ายๆพวกที่หนุนยูเอ็นและกองทุนการเงินระหว่างประเทศสร้างปัญหาหนี้เองแล้วขอแก้ปัญหาเอง โดยให้ประเทศต่างๆติดกับดักหนี้แล้วมาช่วยแก้ปัญหาเพื่อควบคุมประเทศต่างๆให้อยู่ในแถว หรือยอมยกอำนาจอธิปไตยให้รัฐบาลโลกในโลกใหม่ของปีเสียงแตร
    thanong
    22/5/2015
    $200 Trillion Global Debt, Silver Technical Breakout, Gold & Silver Stock Updates | SilverSeek.com
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หวั่นปิดตำนานกว่า 2,000ปี !! ‘พัลไมรา’ เมืองมรดกโลก ‘ตกอยู่ในอันตราย’ ใต้อุ้งมือไอซิส โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558 05:30

    [​IMG]

    ความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายสุหนี่สุดโหด ‘รัฐอิสลาม’ หรือไอซิส ดูเข้มข้นขึ้นมากในช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะแผ่วๆ ลงไปสักพัก เพราะนอกจากไอซิส จะบุกยึดเมืองรามาดี เมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ในอิรัก ที่อยู่ห่างจากกรุงแบบแดดเพียงแค่ 100 กิโลเมตร เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาได้แล้ว ล่าสุดกลุ่มไอซิส ยังสามารถยึดเมืองพัลไมรา (Palmyra) เมืองโบราณเก่าแก่ ในประเทศซีเรีย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วย

    [​IMG]

    ศาสตราจารย์เควิน บัตเชอร์ แห่งมหาวิทยาลัยวอร์วิค ประเทศอังกฤษ ได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์ของสำนักข่าวบีบีซีว่า เมืองพัลไมรากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะอยู่ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารรัฐบาลซีเรียที่ยังคงโอบล้อมรอบเมืองมรดกโลกแห่งนี้เอาไว้ หลังจากกลุ่มไอซิสสามารถยึดเมืองพัลไมราได้เมื่อวันพุธที่ 20 พ.ค. และที่น่าพรั่นพรึงคือ ยังถือเป็นครั้งแรกที่ไอซิสสามารถยึดเมืองพัลไมราได้จากการสู้รบชนะทหารซีเรียและกองกำลังพันธมิตรของซีเรีย โดยตรง

    [​IMG]

    ศ.บัตเชอร์ อธิบายถึงเมืองพัลไมราให้คนรุ่นเราฟังว่า น่าจะเป็นสถานที่สุดท้ายที่คนบนโลกนี้คาดว่าจะได้มาเห็น ‘เสาหิน และซุ้มประตูโค้งโรมัน’ ที่ยังหลงเหลืออยู่มาจนถึงวันนี้ หลังจากบรรดาผู้คนในยุคศตวรรษที่ 17และ 18 ที่เดินรอนแรมมาเห็นต่างพากันประหลาดใจ ที่ได้เห็นซากเมืองโบราณแห่งนี้ยังยืนหยัดตระหง่านอยู่กลางทะเลทรายซีเรีย ในระยะครึ่งทางระหว่างเมืองท่าจากฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มายังดินแดนลุ่มแม่น้ำยูเฟรตีส

    [​IMG]

    เมืองพัลไมรา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 210 กม. ได้รับสมญานาม ‘เวนิสแห่งทะเลทราย’ โดยนอกจากจะตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายซีเรียแล้ว บริเวณนี้ยังถือเป็น ‘โอเอซิส’ ที่อุดมสมบูรณ์กลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ จนทำให้มีการตั้งชื่อเมืองนี้ว่า พัลไมรา ซึ่งหมายถึง เมืองแห่งต้นปาล์ม (Palm) จึงทำให้เคยเป็นศูนย์กลางการค้า ที่กองคาราวานพ่อค้ามาหยุดพัก บนเส้นทางสายไหมในอดีต

    [​IMG]

    ภายในเมืองพัลไมรา มีวิหารโบราณในสภาพสมบูรณ์ รวมทั้งถนนหนทางที่ประดับด้วยแนวเสาหินแบบโรมันไปตลอดเส้นทาง โดยจากหลักฐานทางโบราณคดี ปรากฏชื่อเมืองพัลไมรา ตั้งแต่ 2,000 กว่าปีก่อน เริ่มตั้งแต่ยุคพุทธศตวรรษที่ 1 จากนั้นเมืองโบราณแห่งนี้ก็ได้เจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงภายใต้ยุคของจักรวรรดิโรมัน จนกระทั่งมาถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ผู้ปกครองเมืองพัลไมราได้ฉวยโอกาสขณะจักรวรรดิโรมันเกิดความระส่ำระสาย ประกาศเอกราช

    [​IMG]

    ศ.บัตเชอร์ เขียนไว้ว่า เรื่องราวของราชินีซีโนเบียแห่งพัลไมรา ซึ่งหาญกล้าต่อสู้กับจักรพรรดิออรีเลียนแห่งจักรวรรดิโรมัน เป็นเรื่องราวที่นักประวัติศาสตร์ทราบกันดี แต่น้อยคนจะรู้ว่า พัลไมรายังต้องต่อสู้กับอาณาจักรซาซาเนียน เปอร์เซียนส์ ด้วย
    ในอดีต พัลไมรา ถือเป็นเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองในตะวันออกกลาง เป็นเมืองที่มีศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างไปจากเมืองอื่นๆ ของจักรวรรดิโรมัน นอกจากนั้น เมืองพัลไมรา ยังได้รับสมญานามว่า เมืองเวนิสแห่งทะเลทราย เพราะเป็นศูนย์กลางเส้นทางเครือข่ายของการค้าขายเหมือนกัน เพียงแต่พ่อค้าเดินทางด้วยการขี่อูฐรอนแรมกลางทะเลทราย ในขณะที่เมืองเวนิส ในอิตาลี เส้นทางการคมนาคมเป็นคูคลองที่พ่อค้าใช้เรือเป็นพาหนะ
    ท่ามกลางวันเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป เมืองโบราณ พัลไมราสามารถคงอยู่และอยู่รอดมาจนถึงคนรุ่นเรา โดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนเมืองพัลไมรา เป็นมรดกโลก เมื่อปีพ.ศ.2523 ในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านโบราณ ระหว่างโรมันกับเปอร์เซีย และยังเคยเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า และกองคาราวาน เป็นเมืองโอเอซิสที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก
    ขณะที่ ศ.บัตเชอร์ยังระบุว่า การค้นหาซากโบราณสถานและโบราณวัตถุของนักโบราณคดีในเมืองโบราณพัลไมรา ยังไม่มากนัก โดยซากปรักหักพังของโบราณสถานส่วนใหญ่อยู่ใต้ผิวดิน ในระดับที่ไม่ลึกมากอีกด้วย จึงเสี่ยงต่อการถูกขุดค้นและโดนขโมยโดยกลุ่มมิจฉาชีพ
    แต่ถึงอย่างไร ชะตากรรมของเมืองโบราณพัลไมราที่ผ่านๆ มา คงไม่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงเท่ากับช่วงเวลานี้ หลังจากกลุ่มไอซิสได้ยึดครองเมืองพัลไมราไว้ในอุ้งมือได้แล้ว โดย ศ.บัตเชอร์ ระบุว่า ถ้าเมืองพัลไมราโดนทำลายโดยไอซิสละก็ จะถือเป็นการทำลายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญในภูมิภาค ตะวันออกกลาง นอกจากนั้นยังจะทำให้มีชาวซีเรียบาดเจ็บล้มตายจากความเหี้ยมโหดของกลุ่มไอซิส
    ขณะที่ นายมามูน อับดุล คาริม หัวหน้าสำนักงานโบราณสถานของซีเรีย กล่าวว่า ก่อนที่กลุ่มไอซิสจะบุกยึดเมืองพัลไมราได้นั้น ทางสำนักโบราณสถานซีเรียได้ทำการเคลื่อนย้ายรูปปั้นโบราณหลายร้อยอันไปเก็บในที่ปลอดภัยแล้ว เพียงแต่ยังเป็นห่วงพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงอยากเรียกร้องให้ประชาคมโลกมาช่วยกันป้องกันเมืองพัลไมรา เพราะ นี่เป็นการสู้รบของชาวโลกทั้งมวล!!
    เพราะไม่นานที่ผ่านมา เราได้เห็นกลุ่มไอซิส ทำลายเมืองฮัตรา และนิมรุด เมืองโบราณของอิรักจนแหลกยับกับตามาแล้ว คงได้แต่ภาวนาให้เมืองพัลไมราอยู่รอดปลอดภัย โดยอิรินา โบโควา ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก กล่าวด้วยความวิตกกังวลอย่างที่สุด ที่การสู้รบและกลุ่มไอซิสจะทำลายเมืองพัลไมรา ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในตะวันออกกลางและแหล่งอารยธรรมของภูมิภาคนี้...
    หวั่นปิดตำนานกว่า 2,000ปี !! ‘พัลไมรา’ เมืองมรดกโลก ‘ตกอยู่ในอันตราย’ ใต้อุ้งมือไอซิส - ข่าวไท
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมสงสัยจริงๆ ครับ หลัง 1 ปี เขาจะหาที่อยู่ให้โรฮีนจาและบังกลาเทศได้อย่่างไร เพราะเขากำหนดระยะเวลาไว้เพียง 1 ปี ที่จะให้ความช่วยเหลือ ถ้าเกินเวลา ไม่กลายเป็นปัญหาของประเทศเขาในกรณีโรฮีนจา และบังกลาเทศหรือ หรือ

    มาเลย์จ่อเริ่มภารกิจค้นหา-กู้ภัยเรืออพยพโรฮีนจาในทะเลอันดามัน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 พ.ค. 2558 00:11

    [​IMG]
    (ภาพ: AP Photo)

    นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศในวันพฤหัสบดี ว่ามาเลเซียจะเริ่มปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจาในทะเลอันดามัน...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งประเทศมาเลเซีย กล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ค. ว่า มาเลเซียจะเริ่มภารกิจค้นหาและกู้ภัย เรืออพยพชาวมุสลิมโรฮีนจา ในทะเลอันดามัน และจะมีการขนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พวกเขาทั้งทางบกและทางทะเลด้วย

    คำประกาศของนายนาจิบ ราซัค เกิดขึ้นหลังจากมาเลเซียปฏิเสธไม่รับเรืออพยพเข้าฝั่ง ก่อนที่เมืองวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลของมาเลเซียและอินโดนีเซีย อีกหนึ่งประเทศที่กำลังรับมือปัญหาผู้อพยพทางทะเล ประกาศให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้อพยพที่ขึ้นฝั่งในประเทศของพวกเขา แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากประชาคมนานาชาติด้วย

    ในวันพฤหัสบดี นายกฯ ราซัค ระบุในบัญชีผู้ใช้เว็บไซต์ทวิตเตอร์ของเขาว่า การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่หิวโหยและป่วยไข้ เป็นพื้นฐานความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ และภารกิจค้นหาและกู้ภัยโดยกองทัพเรือและหน่วยงานทางน้ำของประเทศ มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิต

    วันเดียวกัน นายอานิฟาห์ อามาน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย และนาง เรตโน มาร์ซูดี รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย จัดการประชุมร่วมกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รมว.ต่างประเทศเมียนมา ที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา ในเรื่องผู้อพยพโรฮีนจา ซึ่งถือเป็นการฝ่าทางตันได้ 1 ชั้น หลังเมียนมาปฏิเสธความรับผิดชอบในวิกฤติผู้อพยพ และไม่ส่งตัวแทนร่วมประชุม รมว.ต่างประเทศ ในภูมิภาคเมื่อวันพุธ

    ทั้งนี้ เชื่อกันว่าปัจจุบันมีผู้อพยพชาวโรฮีนจาจากเมียนมา และชาวบังกลาเทศ หลายพันคนติดค้างอยู่บนเรือซึ่งลอยลำอยู่ในทะเลอันดามัน และอ่าวเบงกอล จำนวนกว่า 7,000 คน โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีผู้อพยพกว่า 3,000 คน ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านหรือเดินทางถึงชายฝั่งประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย

    มาเลย์จ่อเริ่มภารกิจค้นหา-กู้ภัยเรืออพยพโรฮีนจาในทะเลอันดามัน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากรายละเอียดข่าวได้บอกว่า ชาวโรฮีนจา (+บังกลาเทศ) ได้อพยพเพื่อหนีความลำบากยากจนจากประเทศเมียนมา ก็แสดง ว่า UNHCR ให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร ??? เลยทำให้พวกเขาต้องอพยพ (/พาอพยพ) และรัฐบาลมาเลเซียและอินโดนีเซียก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือในการจัดหาที่อยู่ใหม่แก่ชาวโรฮีนจา
    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยินข่าวว่าทางรัฐบาลมาเลเซียและอินโดนีเซียจะให้ที่พักพิง แค่ 1 ปี ถ้าเลย 1 ปี พวกเขาไม่มีทางหาที่อยู่ใหม่ให้โรฮีนจาแน่นอน นอกจากจะรับโรฮีนจามาเป็นประชากร หรือตัดแบ่งดินแดนยกให้โรฮีนจาไปอยู่อาศัย เพื่อเห็นแก่มนุษยชน ซึ่งเราก็เคยช่วยเขมรเวลาประเทศแตกแล้ว พอหลังจากนั้น อย่าลืม การตอบแทนบุญคุณ กรณี เขาพระวิหาร

    รบ.โอบามา'ขี่ม้าขาว' ช่วยโรฮีนจา จะพาไปอยู่สหรัฐฯมากกว่าเดิม!!
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 พ.ค. 2558 16:30

    [​IMG]

    รัฐบาลโอบามาออกโรงเป็นผู้นำประชาคมโลก ประกาศจะช่วยผู้อพยพชาวโรฮีนจาให้มาอยู่ในสหรัฐฯมากกว่าเดิม หลังจากได้พาไปอยู่แล้วกว่าพันคน พร้อมกับส่ง รมช.ต่างประเทศบินตรงถึงเมียนมา หารือช่วยชาวโรฮีนจาแล้ว

    เมื่อ 21 พ.ค.58 เว็บไซต์ ไทม์ รายงานความเคลื่อนไหวของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กรณีผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮีนจา ประกาศพร้อมจะให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจา ด้วยการรับมาอยู่ในสหรัฐฯ มากกว่าเดิม อันเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของประชาคมโลกในการช่วยเหลือผู้อพยพโรฮีนจากว่า 3,000 คนที่นั่งเรือลอยลำอยู่กลางทะเล ในช่วง3สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหนีความลำบากยากจนจากประเทศเมียนมา

    แมรี ฮาร์ฟ โฆษกหญิงประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 20 พ.ค.ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มีการเตรียมตัวสำหรับบทบาทการเป็นผู้นำในความพยายามช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจา ที่ดำเนินการโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ ด้วยการรับผู้อพยพชาวโรฮีนจามาพำนักอยู่ในสหรัฐฯ มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากได้ดำเนินการหาที่พำนักให้แก่ชาวโรฮีนจาไปเรียบร้อยแล้วกว่า 1,000 คนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา

    ‘ดิฉันคิดว่า รัฐบาลมาเลเซียและอินโดนีเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือในการจัดหาที่อยู่ใหม่แก่ชาวโรฮีนจา ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากคงไม่สามารถจัดการรับได้ทั้งหมด แต่สหรัฐฯกำลังเตรียมตัวจะเป็นผู้นำในการให้ความช่วยเหลือชาวโรฮีนจาในเรื่องนี้’ โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว

    ขณะเดียวกัน นายแอนโธนี บลินเคน รมช.ต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางมาเยือนเมียนมา ในวันพฤหัสฯ ที่ 21 พ.ค.นี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมา ร่วมมือกับรัฐบาลบังกลาเทศช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮีนจา โดยโฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาควรปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ต่างๆ ของชาวโรฮีนจาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในเมียนมา.

    รบ.โอบามา'ขี่ม้าขาว' ช่วยโรฮีนจา จะพาไปอยู่สหรัฐฯมากกว่าเดิม!! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อย่าไปสนในข่าวที่ทางอินโด หรือมาลเซีย ออกข่าวว่าจะช่วยโรฮีนจาอย่างไร น่ะครับ เพราะข่าวเมือวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา อิเหนาของเราเองก็กระทำแบบนี้กับโรฮีนจา "พวกเขาถูกผลักดันโดยมาเลเซีย 2 ครั้ง พวกเขาบอกว่าในครั้งที่สอง เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียพกปืนมาด้วย แถมบอกว่าจะยิงเรือถ้ากลับมาอีก จากนั้นก็ตามประกบเรือผู้อพยพตลอดทางที่ไปอินโดนีเซีย" เธอกล่าว" ลองคิดเอาเองครับว่าคนเราจะกลับตัวแบบหน้ามือเป็นหลังมือได้หรือ แล้วภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาคืออะไร ????

    อิเหนาพบเรือโรฮีนจานอกฝั่งอาเจะห์ เชื่อเป็นลำที่ไทย-มาเลเซียผลักดัน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2558 15:01 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - พบเรือผู้อพยพลำหนึ่งเมื่อช่วงรุ่งสางวันพุธ (20 พ.ค.) นอกชายฝั่งอาเจะห์ของอินโดนีเซีย บนเรือมีชาวโรฮีนจาหลายร้อยคน กลุ่มผู้สังเกตการณ์เชื่อว่าเป็นเรือลำเดียวกับที่พบนอกชายฝั่งไทยเมื่อ 3 วันก่อน

    ทางการไทยได้ผลักดันเรือลำดังกล่่าวออกจากน่านน้ำไทย โดยยืนกรานว่าพวกเขาต้องการเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย หลังจากนั้นเรือลำนี้ก็ขาดการติดต่อไปในช่วงคืนวันเสาร์

    ล่าสุดชาวประมงอินโดนีเซียได้ช่วยเหลือผู้อพยพมากกว่า 400 คนจากเรือไม้ลำสีเขียว บริเวณนอกชายฝั่งอาเจะห์ เมื่อช่วงรุ่งสางของวันพุธ

    คนเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของผู้อพยพหลายพันคนที่มาถึงชายฝั่งมาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากที่พวกค้ามนุษย์ตัดสินใจทอดทิ้งพวกเขา เพราะเจอกับการปราบปรามอย่างหนัก

    นักข่าวของเอเอฟพี ได้ขึ้นไปบนเรือที่ถูกพบลำนี้ แล้วยืนยันว่ามันคือเรือลำเดียวกันกับที่หายไปเมื่อ 3 วันก่อน

    คริส เรวา หนึ่งในทีมงานของอาระกันโปรเจคต์ ที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์การเดินทางข้ามอ่าวเบงกอลของผู้อพยพ ได้บอกว่า กลุ่มของเธอก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่านี่คือเรือลำนั้นที่ขาดการติดต่อไป

    "นักวิจัยของเราในอาเจะห์ได้ยืนยันว่านี่เป็นเรือลำเดียวกัน" เธอกล่าว

    เธอยังบอกด้วยว่า ผู้อพยพเหล่านั้นดูอ่อนระโหยโรยแรง นักวิจัยได้พูดคุยกับผู้อพยพ 2 คนในช่วงสั้นๆ พวกเขาเล่าว่า ถูกผลักดันออกจากน่านน้ำไทย 3 ครั้ง ซึ่งเดิมทีนั้นทางกลุ่มผู้สังเกตการณ์เคยคิดว่าถูกผลักดันออกมาเพียงแค่ 2 ครั้ง

    "แต่พวกเขาได้เล่าถึงสิ่งที่แย่กว่านั้น นั่นก็คือพวกเขาถูกผลักดันโดยมาเลเซีย 2 ครั้ง พวกเขาบอกว่าในครั้งที่สอง เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียพกปืนมาด้วย แถมบอกว่าจะยิงเรือถ้ากลับมาอีก จากนั้นก็ตามประกบเรือผู้อพยพตลอดทางที่ไปอินโดนีเซีย" เธอกล่าว

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนยันมีสิทธิดูแลน่านฟ้าและน่านน้ำรอบเกาะเทียม หลังตะเพิดเครื่องบินสหรัฐฯ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 23:33 น.

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/4eSOMcpLdyk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เอพี - จีนเมื่อวันพฤหัสบดี(21พ.ค.) ยืนยันถึงความชอบธรรมในการเฝ้าระวังเหนือน่านฟ้าและทะเลรอบๆเกาะเทียมต่างๆที่พวกเขาสร้างขึ้นในน่านน้ำพิพาทของทะเลจีนใต้ ตามหลังเหตุกองทัพเรือแดนมังกรแจ้งเตือนไปยังเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐฯลำหนึ่งให้ออกนอกพื้นที่จนเกิดการโต้เถียงกัน

    [​IMG]

    นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวัน ย้ำถึงจุดยืนของปักกิ่งต่ออำนาจอธิปไตยอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเหนือเกาะๆต่างที่พวกเขาสร้างขึ้นจากการนำทรายไปถมบนแนวหินปะการังและแนวหินโสโครก

    แม้บอกว่าเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรายงานข่าวเหตุโต้เถียง แต่นายหงยืนยันถึงความชอบธรรมของการลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าและพื้นที่ทางทะเลที่เกี่ยวกับเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทางทะเลใดๆ "เราหวังว่าประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องจะเคารพอำนาจอธิปไตยของจีนเหนือทะเลจีนใต้ ละทิ้งพฤติกรรมที่อาจก่อการโต้เถียงอย่างรุนแรงและหันมาทำบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค" นายหง บอกกับผู้สื่อข่าว

    ทีมงานของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นแห่งสหรัฐฯ รายงานว่าพวกเขาอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวันพุธ(20พ.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่อำนวยการบินแห่งกองทัพเรือจีน เรียกร้องผ่านวิทยุถึง 8 ครั้งให้เครื่องบินลาดตระเวนพี-8เอ โพไซดอนลำหนึ่งของกองทัพสหรัฐฯ ออกนอกพื้นที่ขณะที่มันบินอยู่เหนือแนวปะการัง เฟียรี ครอส รีฟ ที่ปักกิ่งกำลังง่วนอยู่กับงานสร้างเกาะเทียม แต่ลูกเรือสหรัฐฯตอบกลับไปว่าพวกเขาบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากล จนเจ้าหน้าที่อำนวยการบินของกองทัพเรือจีนต้องเตือนอีกรอบว่า "นี่คือกองทัพเรือจีน คุณควรไปได้แล้ว"

    ซีเอ็นเอ็นบอกว่าพวกเขาได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้เดินทางไปพร้อมกับเที่ยวบินลาดตระเวนลำดังกล่าว เพราะว่าสหรัฐฯต้องการเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับโคงการสร้างเกาะของจีน พร้อมทั้งระบุว่าเป็นครั้งแรกที่เพนตากอนมีเทปบันทึกเสียงอย่างเป็นทางการต่อพฤติกรรมของจีนที่แสดงท่าทีท้าทายเช่นนี้

    โครงการก่อสร้างของจีนได้ก่อความแตกร้าวอย่างรุนแรงในหมู่ประเทศต่างๆที่แข่งขันอ้างสิทธิอธิปไตยในทะเลจีนใต้ ซึ่งปักกิ่ง อ้างความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงเหนือหมู่เกาะต่างๆที่กระจัดกระจายเกือบทั้งหมด ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวซึ่งที่ตั้งของเหล่าเส้นทางการเดินเรือพาณิชย์ที่พลุกพล่านที่สุดของโลก ก็ถูกอ้างกรรมสิทธิ์บางส่วนโดยฟิลิปปินส์ ไต้หวัน บรูไน มาเลเซียและเวียดนามเช่นกัน

    สหรัฐฯและเกือบทั้งหมดของ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน ต้องการให้จีนระงับโครงการดังกล่าว เนื่องจากต้องสงสัยว่ามันมีเป้าหมายสร้างหมู่เกาะและภูมิประเทศที่เป็นแผ่นดินอื่นๆ เพื่อปักกิ่งจะสามารถอ้างอำนาจอธิปไตยและตั้งฐานทัพ

    อเมริกาบอกว่าพวกเขาขอไม่แสดงจุดยืนต่อคำกล่าวอ้างอำนาจปธิปไตย แต่ยืนยันว่าพวกเขาต้องหาทางออกด้วยการเจรจา นอกจากนี้วอชิงตันยังบอกด้วยว่าการรับประกันความปลอดภัยและสิทธิทางทะเลคือเป้าหมายลำดับแรกของความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันขึ้นแรงคลายกังวลอุปทานล้น หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำปิดลบ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2558 05:14 น. (แก้ไขล่าสุด 22 พฤษภาคม 2558 10:08 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ขยับขึ้นแรง หลังสต๊อกเชื้อเพลิงที่ลดลงของสหรัฐฯ ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำลดลง หลังคาดหมายว่าเฟดคงไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ตลาดน้ำมันขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นัยตั้งแต่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลสต๊อกเชื้อเพลิงเมื่อวันพุธ (20 พ.ค.) โดยระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ปรับลด 3 สัปดาห์ติด ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย และกำลังผลิตก็ลดลง 112,000 บาร์เรลต่อวัน

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ขยับขึ้นในกรอบแคบๆ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง กระพือแรงคาดเดาว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอเมริกาจะรอจนถึงช่วงปลายปีแล้วถึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.34 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,285.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.97 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,130.82 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลจากระดับ 2,129.20 จุดเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ค.) แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.05 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,090.79 จุด

    ข้อมูลเผยให้เห็นว่าผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดหมายไว้ ขณะเดียวกัน ยอดขายบ้านมือสองลดลงอย่างน่าประหลาดใจในเดือนเมษายน ส่วนตัวเลขการผลิตในเดือนพฤษภาคมก็ยังอ่อนแออย่างต่อเนื่อง

    เจ้าหน้าที่ของเฟดปฏิเสธขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า และตอนนี้นักลงทุนกำลังรอคำแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในวันศุกร์ (22 พ.ค.) ที่จะบอกใบ้ครั้งใหม่ว่าเมื่อไหร่ที่ธนาคารกลางแห่งนี้จะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006

    ด้วยความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดเวลาของการขึ้นดอกเบี้ย ตามหลังตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,204.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แฉ IS ฆ่าตัดคอแล้วหลายศพหลังยึดเมืองโบราณซีเรีย-เข้าคุมที่มั่นสำคัญในรามาดี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2558 04:01 น. (แก้ไขล่าสุด 22 พฤษภาคม 2558 10:10 น.)

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/27rHBibF8-Q" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - องค์กรเฝ้าระวังฯ แห่งหนึ่งระบุไอเอสประหารชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 17 ศพ ในนั้นเป็นพลเรือนหลายคน หลังนักรบบุกยึด “พัลไมรา” เมืองโบราณในซีเรียได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ส่วนสหรัฐฯ ยอมรับถือเป็นสิ่งน่าผิดหวัง แต่ยืนยันยังไม่ได้พ่ายแพ้ต่อไอเอส อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เนื่องจากในอิรักอีกหนึ่งสมรภูมิรบมีรายงานว่าพวกญิฮัดกลุ่มนี้เข้ายึดฐานที่มั่นต่างๆ ของกองกำลังความมั่นคงแบกแดดในเมืองรามาดีได้อีกหลายจุด

    [​IMG]

    “ไอเอสลงทัณฑ์ไปแล้ว 17 คน ในนั้นรวมถึงพลเรือนและนักรบผู้ภักดี โดยมีอยู่ 4 คนที่ถูกฆ่าตัดศีรษะ” รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย บอกกับเอเอฟพี พร้อมเผยว่าพลเรือนเหล่านั้นทำงานให้กับสภาปกครองท้องถิ่น ส่วนนักรบหนึ่งในนั้นเป็นทหารของทางการ และที่เหลือเป็นสมาชิกของกองกำลังป้องกันชาติ กลุ่มนักรบที่ฝักใฝ่รัฐบาล “พวกเขาถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับฝ่ายรัฐบาล”

    นักเคลื่อนไหวชาวซีเรียคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพีผ่านเฟซบุ๊กว่า พวกไอเอสออกคำสั่งให้ชาวบ้านอยู่แต่ในที่พักอาศัย ไอเอสห้ามชาวบ้านออกจากที่พักอาศัยและกำลังตรวจค้นตามบ้านเรือน เพื่อตามล่าพวกที่ภักดีต่อรัฐบาล

    นอกจากนี้แล้ว นักเคลื่อนไหวรายดังกล่าวยังเผยด้วยว่า เขาได้คุยกับผู้คนในเมืองพัลไมราทางโทรศัพท์ และได้รับการบอกเล่าว่าพวกเขาต้องการหลบหนีออกจากเมืองแต่ก็ไม่กล้า หลังจากได้ยินข่าวเกี่ยวกับการประหาร โดยเฉพาะการฆ่าตัดศีรษะ

    จากข้อมูลของศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย บอกว่ามีผู้คนแล้วกว่า 460 ศพที่ต้องสังเวยชีวิตในเหตุสู้รบเพื่อแย่งชิงเมืองพัลไมรา ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ในนั้นรวมถึง 49 คนที่ถูกไอเอสลงทัณฑ์ด้วยการประหารชีวิต ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 9 คน

    ตัวเลขดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากกลุ่มนักรบญิฮัดสุดโต่ง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) บุกเข้ายึดและควบคุม “พัลไมรา” เมืองโบราณในซีเรียได้อย่างสมบูรณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ทำให้เกิดความวิตกว่าสถานที่ซึ่งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกแห่งนี้ ตลอดจนศิลปะวัตถุอันตีค่าไม่ได้ มีความเสี่ยงที่จะถูกทำลาย นอกจากนั้น นี่ยังถือเป็นชัยชนะสำคัญอีกครั้งหนึ่งของไอเอส หลังจากกลุ่มนี้เพิ่งตีเมืองรามาดี จากกองทัพอิรักได้สำเร็จไม่กี่วันก่อน

    พัลไมราตั้งอยู่บนพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยอยู่ตรงจุดตัดของทางหลวงสายสำคัญๆ ซึ่งสามารถไปทางตะวันตกสู่กรุงดามัสกัสและเมืองฮอมส์ ส่วนทางตะวันออกก็ไปยังอิรัก

    ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ยอมรับว่าการสูญเสียเมืองพัลไมรา คือความเสียหายใหญ่หลวงสำหรับพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนยันเขาไม่คิดว่าอเมริกากำลังพ่ายแพ้ต่อไอเอส และไม่เห็นด้วยกับเสียงเรียกร้องของรีพับลิกันที่ต้องการให้ส่งกองกำลังภาคพื้นของสหรัฐฯเข้าไปกำราบพวกไอเอส

    ในส่วนของสถานการณ์ที่รามาดี เจ้าหน้าที่เผยว่าพวกไอเอสได้เข้าควบคุมฐานที่มั่นต่างๆจากกองกำลังความมั่นคงอิรักทางตะวันออกของเมืองในวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ในความพยายามรักษาแนวโน้มของสงคราม ตามหลังเข้ายึดเมืองนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

    พวกนักรบญิฮัดเดินหน้ารุกคืบไปตามแม่น้ำยูเฟรติส โจมตีที่มั่นต่างๆ ที่ควบคุมโดยรัฐบาลในเมืองฮูซายบาห์ ห่างจากเมืองเอกของจังหวัดอันบาร์ ไปทางตะวันออก 7 กิโลเมตร “ไอเอสเข้าควบคุมแนวป้องกันต่างๆ ในฮูซายบาห์ อัล-ชาร์คีเยาะห์ จุดที่เชื่อว่ากองกำลังความมั่นคงจะใช้เป็นฐานปฏิบัติการลุยปลดปล่อยรามาดี” ตำรวจระดับนายพันรายหนึ่งบอก

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเห็นของนายก ออสซี ดีมาก ครับ “จะไม่ทำอะไรก็ตามที่อาจส่งเสริมให้คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาสามารถล่องเรือมาได้ หรือร่วมมือกับแก๊งค้ามนุษย์เพื่อมาแสวงหาชีวิตใหม่ในต่างแดนได้”

    นายกฯ ออสซีประกาศไม่รับ “โรฮีนจา” เข้าประเทศ-ชี้จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 13:58 น. (แก้ไขล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 15:57 น.)

    [​IMG]
    @นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย

    เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย ยืนยันในวันนี้ (21 พ.ค.) ว่ารัฐบาลของเขาไม่มีนโยบายรองรับคลื่นผู้อพยพที่ล่องเรือมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย และเท่ากับส่งเสริมให้คนกล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงตายกลางทะเล

    แอ็บบอตต์ ซึ่งใช้นโยบายปิดกั้นผู้ลี้ภัยทางเรืออย่างจริงจัง ระบุว่า ออสเตรเลีย “จะไม่ทำอะไรก็ตามที่อาจส่งเสริมให้คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาสามารถล่องเรือมาได้ หรือร่วมมือกับแก๊งค้ามนุษย์เพื่อมาแสวงหาชีวิตใหม่ในต่างแดนได้”

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ออสเตรเลียพร้อมจะให้ที่พักพิงแก่มุสลิมโรฮีนจาจากพม่า และผู้อพยพบังกลาเทศหรือไม่ แอ็บบอตต์ก็ตอบหนักแน่นว่า “ไม่ ไม่ ไม่”

    “ถ้าเราแสดงออกแม้แต่น้อยว่าเราสนับสนุนให้คนล่องเรือมา ปัญหานี้จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ไม่มีวันดีขึ้น”

    ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาและบังกลาเทศเกือบ 3,000 คนว่ายน้ำมาขึ้นฝั่ง หรือได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย หลังจากที่ไทยเริ่มมีมาตรการกวาดล้างเครือข่ายค้ามนุษย์อย่างจริงจัง จนทำให้นายหน้าบางรายตัดสินใจทิ้งผู้อพยพเอาไว้กลางทะเล

    แอ็บบอตต์ชี้ว่า สิ่งที่ออสเตรเลียจะทำก็คือสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์ทุกวิถีทาง หากสำเร็จปัญหาคลื่นผู้อพยพทางเรือก็จะหมดไปเอง

    “วิธีที่ดีที่สุดก็คือ เราต้องประกาศให้ชัดเจนว่าถ้าพวกเขากล้าเสี่ยงชีวิตมาบนเรือเก่าๆ จวนพัง พวกเขาก็จะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งก็คือชีวิตใหม่ในประเทศตะวันตก”

    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มใช้มาตรการผลักดันเรือผู้ลี้ภัยออกนอกน่านน้ำไปก่อนที่พวกเขาจะล่องมาถึงชายฝั่งออสเตรเลียตั้งแต่ แอ็บบอตต์ ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ในเดือนกันยายน ปี 2013 ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ ไม่มีเรือผู้ลี้ภัยล่องมาถึงออสเตรเลียอีก และข่าวคนเสียชีวิตจากเหตุเรือผู้ลี้ภัยอับปางนอกชายฝั่งแดนจิงโจ้ก็หมดไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนโจมตีว่า นโยบายของแอบบ็อตต์เข้าข่ายละเมิดพันธกิจที่ออสเตรเลียมีต่อนานาชาติ

    ก่อนที่แคนเบอร์ราจะใช้มาตรการเช่นนี้ มีเรือผู้อพยพล่องเข้าไปถึงน่านน้ำออสเตรเลียแทบไม่เว้นแต่ละวัน และมียอดคนจมน้ำเสียชีวิตกลางทะเลหลายร้อยคน


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : อินเดียส่งกำลังติดอาวุธออกลาดตระเวนตามถนนในแคชเมียร์ ห้ามแบ่งแยกดินแดนเดินขบวนประท้วงครบรอบ “2 ผู้นำเรียกร้องสิทธิแคชเมียร์” ถูกลอบสังหาร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 18:29 น.

    [​IMG]

    เอพี – กองกำลังพร้อมอาวุธอัตโนมัติอาวุธจากรัฐบาลอินเดียหลายร้อยนายออกลาดตระเวนตามถนนสายหลักในจังหวัดแคชเมียร์ป้องกันไม่ให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนออกเดินขบวนครบรอบวัน 2 ผู้นำการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แคชเมียร์สามารถมีสิทธิ์ลงคะแนน เมียร์วาอิซ โมฮัมเหมด ฟารุค (Mirwaiz Mohammed Farooq) และ อับดุล กานี โลน( Abdul Gani Lone) ถูกลอบสังหาร 25 ปีก่อนหน้านี้

    หลังจากการเสียชีวิตของเมียร์วาอิซ โมฮัมเหมด ฟารุค (Mirwaiz Mohammed Farooq) และอับดุล กานี โลน (Abdul Gani Lone )2 ผู้นำเรียกร้องสิทธิการลงคะแนนของชาวแคชเมียร์ แล้ว ยังไม่สามารถตามจับคนร้ายผู้ก่อเหตุได้ แต่เชื่อกันว่ากลุ่มติดอาวุธเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หวังต้องการให้ประเด็นการเรียกร้องสิทธิแคชเมียร์ล้มเหลว

    เอพีรายงานวันนี้(21)ว่า โรงเรียน ห้างร้าน และการให้บริการเดินทางสาธารณะต่างปิดตัวลงในวันพฤหัสบดี(21)ใน ศรีนาการ์ (Srinagar) หลังจากที่ทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคชเมียร์ประกาศให้มีการเดินขบวนครั้งใหญ่ ในขณะที่อินเดียสั่งให้ประชาชนในพื้นที่หลบอยู่แต่ภายในบ้านของตนเอง และสั่งกักบริเวณเมียร์วาอิซ อูมาร์ ฟารุค( Mirwaiz Umar Farooq )ผู้นำการเดินขบวน พร้อมกับพรรคพวกภายในที่พักของตนเอง

    ซึ่งฟารุคต้องเป็นผู้นำขบวนประท้วงไปยังสุสานซึ่งฝังร่างบิดาของเขา เมียร์วาอิซ โมฮัมเหมด ฟารุค และสมาชิกแบ่งแยกดินแดนและประชาชนที่ถูกสังหาร 25 ปีก่อนหน้านี้ โดยบิดาของฟารุคถูกลอบสังหารเมื่อ 25 ปีที่แล้วขณะที่โลนผู้นำอีกคนถูกยิงเสียชีวิตในปี 2002 ในระหว่างเดินขบวนประท้วงครบรอบการเสียชีวิตของฟารุคผู้พ่อ

    เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า แคชเมียร์มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นนับตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมาหลังจากที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นของกองกำลังแบ่งแยกดินแดนแคชเมีย รวมไปถึงการกวาดล้างของกองทัพอินเดียส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 68,000 คน

    แต่ถึงแม้ว่ากลุ่มกบฏแคชเมียร์จะถูกปราบปรามเป็นจำนวนมาก แต่ในพื้นที่ยังคงไม่มีความมั่นคงสูง รวมไปถึงมีการประท้วงตามท้องถนนที่บ่อยครั้ง และมีจุดตรวจตลอดตามท้องถนน ซึ่งทางอินเดียมีกำลังทหารประจำที่แคชเมียร์หลายพันนายพร้อมกับใช้กฎหมายทางความมั่นคงทางทหารในพื้นที่ทำให้เพิ่มความขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่มากขึ้น

    In Pics :
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทอร์นาโดไม่ต่ำกว่า 1 ลูกถล่ม “เทกซัส-โอคลาโฮมา” ยับ!! หลังคาปลิว-น้ำท่วมฉับพลันระดับเอว-ตึกถล่ม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 12:44 น. (แก้ไขล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 14:50 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - รัฐเทกซัสและโอคลาโฮมาต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายอีกครั้งหลังจากในช่วงค่ำเวลาราว 19.00 น. มีพายุทอร์นาโดไม่ต่ำกว่า 1 ลูกเข้าทำลายตึกรามบ้านช่อง หลังคาปลิว รวมไปถึงทำให้ตึกร้างถล่ม และคาดว่าสภาพอากาศจะยังคงเลวร้ายต่อไปในวันพุธ (20 พ.ค.)

    ฟ็อกซ์นิวส์รายงานเมื่อวานนี้ (20) ว่า ในช่วงค่ำวันอังคาร (19) เวลาราว 19.00 น. มีพายุทอร์นาโดจำนวนหนึ่งพัดเข้ามาในแถบมิดเวสต์อเมริกา หนึ่งในนั้นได้พัดเข้าไปยังเมืองมินเนอรัล เวลส์ (Mineral Wells) รัฐเทกซัส ไปทางตะวันตกราว 80 ไมล์ของดัลลัส สื่อท้องถิ่นเทกซัส Fort Worth Star-Telegram รายงาน ซึ่งยังไม่มีรายงานความเสียหายล่าสุดออกมา แต่ทว่าตำรวจท้องถิ่นได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อท้องถิ่นเทกซัสว่า พายุทอร์นาโดทำให้ตึกร้างแห่งหนึ่ง ทำให้โบสถ์ 2 หลังได้รับความเสียหาย และหลังคาของตึกของหน่วยงานท้องถิ่นทะลุ

    และในเวลา 19.45 น. มีรายงานปรากฏพายุทอร์นาโดลูกที่ 2 พัดเข้าเมือง แต่ยังไม่ได้รับรายงานการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในเมืองรันอเวย์ เบย์ (Runaway Bay) และเมืองบุนวิล (Booneville) ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟอร์ตเวิร์สต์ ราว 50 ไมล์ ชางเมืองในพื้นที่รายงานว่า มีทอร์นาโดอย่างน้อย 1 ลูกทำลายบ้านเรือนและตึกอพาทเมนต์จนได้รับความเสียหาย

    เดวิด วอล์กเกอร์ นายอำเภอเคาน์ตี ไวซ์ ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ 4 สื่อสหรัฐฯ ว่า มีหลังคาของอพาร์ตเมนต์จำนวน 2 หลังได้รับความเสียหายเนื่องมาจากพายุ พังราบถล่มลงมา หรือเป็นรูโหว่เกิดขึ้น

    เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังไม่มีรายงานความสียหายที่เกิดขึ้นกับพายุทั้ง 2 ลูกนี้

    ที่บริดจ์พอร์ต (Bridgeport) เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าเทกสัตว์ต้องใช้เรือเพื่ออพยพประชาชนหลายสิบคนหนีพายุ หลังจากที่ชุมชนบ้านเคลื่อนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม “เราเผชิญน้ำท่วมสูงระดับเอวในคืนนี้ ในระหว่างที่ทำการเคลื่อนย้ายชาวบ้านผู้สูงวัยบนรถโมไบล์โฮมให้ออกมา” ตำรวจบริดจ์พอร์ตกล่าวกับฟอกซ์ 4

    แมตต์ สตอลเลย์ (Matt Stalley) นักพยากรณ์อากาศสหรัฐฯ เปิดเผยถึงระดับน้ำฝนกับเอพีว่า เมืองดิเคเตอร์ (Decatur)มีระดับน้ำฝนสูงถึง 5.1 นิ้ว และเมืองบริดจ์พอร์ตมีระดับน้ำฝนราว 4.8 นิ้ว

    นอกจากนี้ฟอกซ์นิวส์ยังรายงานว่า ทอร์นาโดได้พัดเข้าเมืองกิดดิงส์ (Giddings)

    ในช่วงเช้าวันอังคาร (20) ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานถึงพายุทอร์นาโดขนาดเล็กจำนวนหลายลูกได้พัดเข้ามาใกล้กับเมืองกิดดิงส์ ห่างไปทางตะวันออกของออสตินราว 55 ไมล์ ผู้อำนวยการหน่วยงานฉุกเฉินของเมืองได้ให้สัมภาษณ์กับสตาร์ เทเลแกรมว่า ทอร์นาโดทำความเสียหายคอกปศุสัตว์ในพื้นที่จนได้รับความเสียหาย และรวมไปถึงหลังคาของโรงแรมรามาดา อินน์ (Ramada Inn) ซึ่งมีรายงานว่าแขกชายของโรงแรมคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บหลังจากที่มีเศษซากปลิวทะลุหน้าต่างที่ปิดไว้เข้าไปจนได้รับบาดเจ็บศรีษะ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ซาน มาร์คอส (San Marcos)

    และในโอคลาโฮมามีรายงานว่าเกิดเหตุน้ำท่วมในเมืองนอร์แมน (Norman) ซึ่งนักพยากรณ์อากาศคาดว่าทางตอนกลางด้านใต้ของรัฐโอคลาโฮมาจะมีฝนตกหนักถึง 8 นิ้วครึ่ง ซึ่งในช่วงเช้าวันอังคาร (20) มีพายุทอร์นาโดขาดเล็กจำนวนมากถล่มใกล้กับเมืองเพอร์เซล (Purcell) ทางใต้ของโอคลาโฮมาในขณะที่มีรายงานว่าทอร์นาโดอีก 3 ลูกปรากฏใน 3 เคาน์ตี แต่ยังไม่ได้รับรายงานบาดเจ็บหรือเสียหาย

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาธารณสุข “เกาหลีใต้” ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ MERS รายที่ 2 ของประเทศ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 12:35 น. (แก้ไขล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 14:48 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลุ่มโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) รายที่ 2 ของประเทศ โดยเป็นสตรีคนหนึ่งซึ่งได้รับเชื้อต่อจากสามีที่ล้มป่วยหลังเดินทางกลับจากบาห์เรน ขณะที่มีแนวโน้มว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มเป็นรายที่ 3 ด้วย

    กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า หญิงที่ติดเชื้อเพราะดูแลสามีที่ป่วยอาการยังคงที่ ทว่าชายวัย 76 ปีที่นอนโรงพยาบาลในห้องเดียวกับผู้ติดเชื้อ MERS รายแรกเริ่มมีอาการไข้สูงตั้งแต่เมื่อวาน (20 พ.ค.)

    “ผู้ป่วยที่พบรายแรกมีอาการดีขึ้น และแพทย์กำลังเฝ้าดูอาการของผู้ป่วยรายที่สอง เนื่องจากเคสของเธอเพิ่งได้รับการยืนยัน แต่เวลานี้อาการของเธอคงที่” เจ้าหน้าที่จากสถาบันควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

    กระทรวงสาธารณสุขโสมขาวยืนยันวานนี้ (20) ว่า ไวรัส MERS ไม่มีโอกาสแพร่กระจายในวงกว้างอย่างแน่นอน เพราะบุคคลที่สัมผัสผู้ป่วยรายแรกทุกคนถูกแยกเดี่ยว และผู้ป่วยเองก็เริ่มมีอาการคงที่แล้ว

    อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อ MERS อยู่ระหว่าง 30-40 เปอร์เซ็นต์ โดยเชื้อมีระยะฟักตัวตั้งแต่ 2-14 วัน

    “อัตราการเสียชีวิต 40 เปอร์เซ็นต์จัดว่าค่อนข้างสูง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากระบบทางเดินหายใจอาจล้มเหลวได้” ชอย จุน-ยอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากแผนกโรคติดต่อ โรงพยาบาลซีเวียแรนซ์ (Severance Hospital) บอกกับรอยเตอร์

    กลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ MERS พบในมนุษย์ครั้งแรกเมื่อปี 2012 โดยเกิดจากโคโรนาไวรัสซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่เคยระบาดหนักในจีนเมื่อปี 2003 ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน หรือยารักษา

    ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อ MERS ทั่วโลก 1,118 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 423 ราย โดยเชื้อจะระบาดรุนแรงเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิของซีกโลกเหนือ และส่วนใหญ่เกิดจากการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,631
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนังตัวอย่าง! ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำพิพากษา “คุกนักการเมืองท้องถิ่น” 11 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 16:43 น. (แก้ไขล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 17:29 น.)

    [​IMG]

    หนังตัวอย่าง! “คุกนักการเมืองท้องถิ่น” 11 ราย ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน “เป็นเท็จ” ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านบทพิเคราะห์คดี “นายกเทศมนตรีตําบลแม่คํามี เมืองแพร่” ศาลชี้เป็นผู้นําชุมชนต้องปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน แต่กลับละเลยไม่ใสใจต่อหน้าที่อันสําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองที่จะต้องปฏิบัติ ทําให้ระบบการตรวจสอบขาดประสิทธิภาพ เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน “เป็นเรื่องร้ายแรง และไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ”

    วันนี้ (21 พ.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 11 เรื่อง กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกอบด้วย

    คำพิพากษากรณี นายไพศาล สุโกรัตน์ เลขานุการนายกเทศมนตรีตําบลนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่ได้รับแต่งตั้ง 2 ครั้ง ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 4 กระทง เปนจําคุก 8 เดือนและปรับ 32,000 บาท แต่นายไพศาลให้การรับสารภาพ เปนประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษใหกึ่งหนึ่ง คงจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท แต่ไมปรากฏวาผูคัดค้านไดรับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ปีและมีผลใหถูกต้องหามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแตวันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายวิถี วงษเพ็ชร ปรึกษานายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาจําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 4 กระทง เป็นจําคุก 8 เดือน และปรับ 32,000 บาท แต่นายนายวิถีให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านไดรับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี และมีผลให้ถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายทนุ ร่มเกตุ รองนายกเทศมนตรีตําบลเสม็ด อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่นายทนุให้การรับสารภาพ เป็นประโยชนแก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านไดรับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี และมีผลใหถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ ชลธาร์นนท รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาซก อําเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่ว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี และมีผลให้ถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นางสาวอุลัยรัก สีนิล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตําบลพลวงทอง อําเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่นางสาวอุลัยรักให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผูคัดค้านไดรับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกําหนด 1 ปี และมีผลใหถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายศุภสิทธิ์ แตงจุ้ย นายกองค์การบริหารส่วนตําบลศรีษะทอง อําเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท แต่นายศุภสิทธิ์ ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกําหนด 1 ปี และมีผลให้ถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแตวันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายอภินันท์ ตันมา นายกเทศมนตรีตําบลแม่คํามี อําเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ยื่นคัดค้านจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากว่าให้จําคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 4 กระทง เป็นจําคุก 8 เดือน และพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว นายอภินันท์ เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานภาพของผู้คัดค้านจึงเป็นผู้นําชุมชน ต้องปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน แต่ผู้คัดค้านกลับละเลย ไม่ใสใจต่อหน้าที่อันสําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองที่จะต้องปฏิบัติ ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ อันเป็นมาตรการที่กฎหมายบัญญัติไว้เพื่อให้เกิดการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองทําให้ระบบการตรวจสอบขาดประสิทธิภาพ เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ และมีผลให้ถูกต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นางมลิวรรณ สุระมณี รองนายกองคการบริหารสวนตําบลมหาสวัสดิ์ จังหวัดนครปฐม ยื่นคัดค้านจงใจไมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สิน ซึ่งพนจากตําแหนงมาแลวเปนเวลาหนึ่งปโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เปนจําคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท แต่นางมลิวรรณให้การรับสารภาพ เปนประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษใหกึ่งหนึ่ง คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่ไมปรากฏวาผูคัดคานไดรับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกใหรอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป และมีผลใหถูกตองหามมิใหดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเปนเวลา 5 ปนับแตวันที่พนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายอนุวัตร ทับนาง รองนายกองคการบริหารสวนตําบลหวยจรเข จังหวัดนครปฐม ยื่นคัดค้านจงใจไมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สิน ซึ่งพนจากตําแหนงมาแลวเปนเวลาหนึ่งปโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เปนจําคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท แต่นายอนุวัตร ให้การรับสารภาพ เปนประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษใหกึ่งหนึ่ง คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท แต่ไมปรากฏวาผูคัดคานไดรับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกใหรอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป และมีผลใหถูกตองหามมิใหดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเปนเวลา 5 ปนับแตวันที่พนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นายธงชัย มีฤทธิ์ นายกองคการบริหารสวนตําบลบัวปากทา อําเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ยื่นคัดค้านจงใจไมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สิน ซึ่งพนจากตําแหนงมาแลวเปนเวลาหนึ่งปโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุก 2 เดือน และปรับ8,000 บาท แต่นายธงชัย ให้การรับสารภาพ เปนประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษใหกึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แต่ไมปรากฏวาผูคัดคานไดรับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกใหรอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป และมีผลใหถูกตองหามมิใหดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเปนเวลา 5 ปนับแตวันที่พนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 34 วรรคสอง

    คำพิพากษากรณี นางวยุรี วงศหมื่นรัตน เลขานุการนายกเทศมนตรีตําบลปาแมต อําเภอเมืองแพร จังหวัดแพร ยื่นคัดค้านจงใจไมยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพยสินและหนี้สิน ซึ่งพนจากตําแหนงมาแลวเปนเวลาหนึ่งปโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แต่นางวยุรี ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษใหกึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แต่ไมปรากฏวาผูคัดคานไดรับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกใหรอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป และมีผลใหถูกตองหามมิใหดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเปนเวลา 5 ปนับแตวันที่พนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 34 วรรคสอง.

    ::
     

แชร์หน้านี้

Loading...