ธรณีสูบยักษ์สูบ มหันตภัยล้างโลก–พยากรณ์โลก-กับหลักฐานสำคัญ-พระจักรพรรดิ 30 กย 53

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ออร์กะ, 2 มิถุนายน 2010.

  1. ออร์กะ

    ออร์กะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +1,375
    พอดีไปพบข้อมูลที่ควรอ่าน ถึงแม้จะชอบไม่ชอบ แต่รู้ไว้ใช่ว่าใสบ่าแบกหาม

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวเรื่อง อนาคตของไทย

    �Ѵ�ѹ����� (��ҫا) - ��ǧ��������ԧ�Ӻ���������ͧ "͹Ҥ��ͧ����Ȫҵ�"

    จากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาตร เกสปุตตสูตร

    - พวกข้าพเจ้า(กาลามชน) มีความสงสัยว่า
    - บรรดาสมณพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านี้ ใคร่เล่า
    - พูดจริง ใครเล่าพูดเท็จ ดังนี้

    - กาลมชน ท่านควรสนเท่ห์ ควรสงสัย
    - ความสงสัยของท่าน เกิดขึ้นแล้วในสิ่รสง
    งที่ควสัย
    - ท่านอย่าได้ถือโดยการฟังตามกันมา
    - อย่าได้ถือโดยเป็นของเก่าสืบเนื่องมา
    - อย่าได้ถือโดยตื่นข่าวลือ
    - อย่าได้ถือโดยอ้างตำรา
    ุ- อย่าได้ถือโดยเหตุนึกเอาเดาเอา
    - อย่าได้ถือโดยการคาดคะเน
    - อย่าได้ถือโดยการตรึกตามอาการ
    - อย่าได้ถือโดยต้องกับลัทธิความเชื่อของตน
    - อย่าได้ถือโดยผู้พูดเชื่อถือได้
    - อย่าได้ถือโดยสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา

    - กาลามชน เมื่อใดท่านรู้ด้วยตนเองว่า
    - ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล
    - ธรรมเหล่านี้เป็นโทษ
    - ธรรมเหล่านี้วิญญูชนติเตียน
    - ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้ได้เต็มที่
    - ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อทุกข์
    - กาลามชน ดังนี้ท่านพึงละทิ้งเสีย

    - ท่านจะสำคัญสิ่งนั้นเป็นไฉน
    - โลภะ เมื่อเกิดขึ้นในสันดานของบุคคล
    - โทสะ เมื่อเกิดขึ้นในสันดานของบุคคล
    - โมหะ เมื่อเกิดขึ้นในสันคานของบุคคล

    - ย่อมฆ่าสัตว์บ้าง
    - ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ให้บ้าง
    - ยุ่งเกี่ยวภรยาของชายอื่นบ้าง
    - พูดเท็จบ้าง

    - ท่านอย่าได้ถือโดยการฟังตามกันมา
    - อย่าได้ถือโดยเป็นของเก่าสืบเนื่องมา
    - อย่าได้ถือโดยตื่นข่าวลือ
    - อย่าได้ถือโดยอ้างตำรา
    ุ- อย่าได้ถือโดยเหตุนึกเอาเดาเอา
    - อย่าได้ถือโดยการคาดคะเน
    - อย่าได้ถือโดยการตรึกตามอาการ
    - อย่าได้ถือโดยต้องกับลัทธิความเชื่อของตน
    - อย่าได้ถือโดยผู้พูดเชื่อถือได้
    - อย่าได้ถือโดยสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา

    - กาลามชนเมื่อไรท่านรู้ด้วยตนเองว่า
    - ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
    - ธรรมเหล่านี้ไม่เป็นโทษ
    - ธรรมเหล่านี้ ท่านผู้รู้สรรเสริญ
    - ธรรมเหล่านี้ ใครสมาทานให้เต็มที่แล้ว
    - ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
    - เมื่อนั้นท่านพึงถึงพร้อม


    ...

     
  2. ออร์กะ

    ออร์กะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +1,375

    พอดีไปเจอะหลวงปู่จางที่เว็บ dhammasavana ว่าด้วย "วาทะธรรม ของ..หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ในพรรษา ปี 2545" ดูที่ลิงค์

    ก็นำมาลง เพื่อท่านใดสนใจศึกษา

    แต่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสสอน "กาลามสูตร" ที่ ออร์กะ ลงไว้ก่อนที่ ออร์กะ #243 และในพระพุทธศาสนา มีพระอริยสงฆ์หลายๆรูป ที่เราควรศึกษาคำสอนต่างๆ ของท่านเหล่านั้น เพื่อหาความรู้และใช้กาลามสูตรเป็นเครื่องกลั่นกรองใช่ไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มีนาคม 2015
  3. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410


    ฝันเห็น พระอินทร์ ท่านมาสอนให้ปฏิบัติอย่างไร เช่นใด บ้างคะ เผยแพร่เป็นธรรมทาน สาธุค่ะ
     
  4. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    (แค่ความฝัน).......

    ความฝัน หากไม่แน่ใจว่าเป็นจริง เก็บไว้เป็นส่วนตัว ไม่มาเขียนเผยแพร่ในที่สาธารณะก็จะไม่มีใครตามถามเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
     
  5. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,854
    ค่าพลัง:
    +1,223
    เขียนได้ดีนะ
     
  6. Ida wattle

    Ida wattle สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมทนาสาธุกับคุณออร์กะนะค
     
  7. ออร์กะ

    ออร์กะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +1,375
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> ขอโทษด้วยที่ไม่เห็นด้วยกับการกล่าวของคุณ Cronous

    ที่คุณ Cronous กล่าวมา ไม่ควรเหมาว่า ทุกๆ คนเป็นเหมือนกันหมด เพราะแต่ละคนมีความคิดความอ่านไม่เหมือนกัน


    มีคนจำนวนหนึ่งที่พูดถึง “ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา” หรือ “ทุกอย่างแปรผันตามกาลเวลา” อย่างที่คุณCronous กล่าว

    ซึ่งจริงๆ แล้ว แต่ละคนอาจพิจารณาไปตามแบบฉบับของตนๆ เช่น
    เมื่อเด็ก ฉันเป็นอย่างนั้น ตอนนี้เป็นอย่างนี้ไม่พบความสำเร็จเพราะฉันปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา

    แต่อีกคนกลับพบกับความสำเร็จทีประทับใจ เพราะความมานะพยายาม ต่อสู้ ไม่ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามกาลเวลา

    หรือ ความรักแปรผันไปตามกาลเวลา เพราะการขาดความรู้เรื่องการครองเรือน

    แต่ก็มีอีกมากที่ความรักของเขายั่งยืนเพราะเขารู้จักการผ่อนปรน รู้จักการประคองความรักให้ยั่งยืน

    ฉะนั้นเรื่องของเวลาที่เปลี่ยนไป มันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่จะพยายามให้เป็นไปตามความต้องการ ความนึกฝันหรือไม่

    หรือปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา หรือแล้วแต่เวรกรรม ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันหนึ่งๆ

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> สำหรับคนที่มีความคิด มีความอ่าน ของผู้มีความมานะพยายาม ที่มีจุดมุ่งหมาย เช่น ฉันโตขึ้น ฉันจะเป็นหมอ เป็นทหาร เป็นต้น และมานะบากบั่นจนสำเร็จได้ตามปรารถนา
    พวกเขาไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา


    คุณ Cronous กล่าวถึง “พวกที่งมงายภัยพิบัติก็คือคนมีกรรมหนักที่ต้องทำให้ใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวไม่จบสิ้น”

    ตามที่คุณCronous คิดนั้น ที่จริงคิดว่า คงไม่มีใครเขาคิดกันอย่างนี้ หรือมีก็น้อยคนนัก

    คนที่มีสติ ไม่ประมาท ก็ศึกษาหาความรู้ หาทางป้องกัน และยอมรับสภาพถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเกินกว่าที่จะรับมือ อย่างเช่น

    น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เมื่อรู้ว่าน้ำท่วม ก็หาทางป้องกัน หาซื้อเครื่องสูบน้ำ หาอิฐมาสร้างเขื่อน เป็นต้น

    เรื่องภัยพิบัติไม่ใช่เรื่องงมงาย แม้แต่นักวิทยาศาสตร์โลกยังศึกษาเพื่อรู้ไว้ และหาทางออก หาทางป้องกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา

    พระพุทธเจ้าโคตม ก็ตรัสพุทธทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติ เหมือนกับนอสตราดามุส และภัยพิบัติก็เกิดขึ้นเป็นจริง มีหลักฐาน ซึ่งก็แสดงเหมือนกันว่า พระพุทธองค์ทรงให้ข้อคิด ที่เราไม่ควรประมาทถึงพุทธทำนาย

    ฉะนั้นที่คุณCronous กล่าวถึง “พวกที่งมงายภัยพิบัติ” นั้น มันก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะไม่มีใครเขางมงาย แต่เขาเป็นผู้ไม่ประมาท ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนดีแล้ว

    ที่คุณCronous กล่าวมาว่า “บางคนตายไปแล้วก็ยังไม่เลิกคลั่งอยู่ดี” ขอถามหน่อยว่าคุณCronous รู้ได้อย่างไร หรือมีญาณวิเศษ

    การกล่าวของคุณ Cronous “กระแสโหมยังไงก็ไม่ขึ้น ถูกจับทางได้หมด

    ก็ดูเหมือนว่าคุณCronous เป็นผู้รู้ยิ่ง เป็นผู้รู้เป็นเลิศกว่าคนอื่นๆ แล้วจริงๆ เป็นอย่างไร รู้อะไรแค่ไหน

    และที่กล่าวว่า “บางคนตายไปแล้วร้อยชาติภัยพิบัติล้างโลกก็ยังไม่มา” ก็เป็นคำตอบที่แสดงว่าคุณCronous เป็นผู้รู้ยิ่งจริงๆ มีญาณพิเศษกว่าผู้อื่นใด

    แต่ลักษณะการที่คุณCronous แสดงมาแต่ต้นนั้น ไม่ใช่อย่างที่ความจริงควรเป็น มันน่าจะเป็นความนึกคิดแค่เฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น

    จึงขอบอกคุณCronous ว่า ควรอ่านคำสอนของหลวงพ่อคูณ ที่ว่า "อย่ามัวมองคนอื่นว่าเขาไม่ดี แต่เราต้องมองตนเองก่อนว่าดีพอหรือยัง"


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2015
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ทุกครั้งที่โลกธาตุสั่นสะเทือนหวั่นไหว ด้วยการสำเร็จในการบรรลุพระสัทธรรม นั้นจะยืดเวลารักษาสภาพของโลกธาตุต่างๆไว้


    แต่ทุกครั้งที่พระสัทธรรมถูกแต่งเติมด้วยสัทธรรมปฎิรูปและถูกย่ำยีด้วยอามิสทายาทที่เนรคุณต่อพระสัทธรรมธรณีจะหวั่นไหวพินาศ(ธาตุ๔)


    และทุกครั้งที่ อสัทธรรม นอกพระพุทธศาสนา เจริญโชติช่วงจนถึงขีดสุดก็ถึงคราวิบัติของโลก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เราเป็นผู้หนึ่ง ที่อยู่ในพระมหาสุบิน ใน อภยปริตร นั้น เป็นผู้เดียวในโลกในปัจจุบัน ณ กาลนี้ ที่รู้ทำนองที่แท้จริงของ อภยปริตร นั้น

    ถ้าไม่ใช่ อดีตชาติพระราชปาล หรือ เจ้าตำหนักปราสาทมุกสวรรค์ ที่เราระลึกชาติได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นพระสาวกรูปใด หรือเป็นใครที่ได้ร่วมฟังพระสัทธรรมในครานั้น?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.5 KB
      เปิดดู:
      48
  11. Wizard Destroyer

    Wizard Destroyer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +75
    แล้วจะจะขอโทษทำอัลไล ไม่ยกโทษให้ว่ะผู้วิเศษเอ๋ย หลอกลวงคนให้เตรียมตัวกลัวตาย
    มันโคตรน่าให้อภัยเลย โพสตอบเหมือนตัวเองดูดีฉิบหาย แต่มันก็คือการแถหน้าด้าน ๆ นี่ตกลงเอ็ง
    แกล้งโง่หรือโง่จริงๆกันแน่ ยอมรับเลยนะว่าผู้วิเศษจะมีท่วงทำนองลีลา
    การใช้ข้อความให้ผู้คนทั้งหลายคล้อยตามได้ง่าย ทำไมล่ะพอโดนจับทางได้
    ก็แถ แถ๊ดๆๆๆๆ มีอะไรหัดยอมรับความจริงซะบ้าง รู้จักไหมความจริง
    ไม่ใช่ความเพ้อเจ้อเหลวใหล ทำนายกันอยู่ได้ มีนิมิตรทุกวัน ฝันทุกวัน
    แล้วมันเกิดบ้างซักเรื่องไหมล่ะเอาที่มันตรง ๆ จริงแบบเป๊ะ ๆ ไม่ใช่เหวี่ยงแห
    ทำนายไปเรื่อย แน่จริงเอาให้ตรงซักเรื่องแล้วจะยอมรับในผู้วิเศษ

    แล้วเอ็งน่ะบรรลุอรหันต์แล้วหรือไงถึงได้ถือดีมาสอนคนอื่นเค้าไปทั่ว
    กลับไปเอาตัวเองให้รอดก่อนดีไหม หน้าที่พวกเราแก็งค์ปาหินคือการให้ข้อมูล
    อีกด้านหนึ่งเพื่อให้คนอ่านคิดไม่หลงเชื่อคำทำนายเพ้อเจ้อ ผู้คนเสียหายมาแล้วเท่าไร
    กับช่วงปลายปี 2012 มิจฉาชีพเข้ามาหากินตบทรัพย์ไปได้แล้วเท่าไรกับความหวาดกลัว
    หัดคิดซะบ้างไม่ใช่เอาแต่เพ้อเจ้อไปวันๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2015
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ท่านจะคิดอย่างไร? เมื่อพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ในเรื่องภัยที่ ๕ ที่เรานำมาแสดง http://palungjit.org/threads/ทั้งชีวิตขอเรื่องเดียว.548578/

    Cronous

    อยากให้ท่านลองจับผิดเราบ้าง!

    เผื่อจะทำให้เราตาสว่างขึ้นมาบ้าง เราอยากจะแถเป็นสักครั้งสักที บ้างเหมือนกัน ว่างไหม? ถ้าว่าง จัดหนักให้เราบ้างนะ

    เราชอบวิธีคิดของท่าน มีภูมิดี การจัดตารางวัดสถานะบุคคล ยอดเยี่ยมมาก

    ไม่แน่อาจเป็นสาวกภูมิกลับชาติมา เกือบทั้งหมดทุกผู้ทุกคนที่เห็นข้อความนี้ของเรา แต่ยังขาดวิริยะศรัทธา ไม่สามารถวางแผนปลีกนำพาตนเองออกจากวิสัยฆราวาสได้ เพราะอวิชชาขวางอยู่

    ปล.ขอเชิญท่านใดก็ได้ที่ว่างพอ และอยากจะเสียเวลา ลองมาตรวจสอบเรา และทำให้เราเป็นของปลอมทำเทียมบ้างนะ เราอยากจะเป็นผู้แถเก่งเหมือนปลาไหลจริงๆ อะไรที่เรารู้จริงก็จะบอกตามจริง อะไรที่ไม่รู้จะไม่ตอบ และบอกไม่รู้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    วาทีสูตร

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นักพูด ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน ?
    นักพูดย่อมจำนนโดยอรรถ แต่ไม่จำนนโดยพยัญชนะก็มี นักพูดจำนนโดย
    พยัญชนะแต่ไม่จำนนโดยอรรถก็มี นักพูดจำนนทั้งโดยอรรถทั้งโดยพยัญชนะ
    ก็มี นักพูดไม่จำนนทั้งโดยอรรถทั้งโดยพยัญชนะก็มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    นักพูด ๔ จำพวกนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุผู้ประกอบด้วยปฏิสัมภิทา ๔ พึงถึงความจำนนโดยอรรถหรือโดยพยัญชนะ นี้ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส

    จบวาทีสูตรที่ ๑๐
    http://palungjit.org/threads/สำหรับคนที่ปรามาสท่านพุทธทาส.228071/
    https://youtu.be/WtqwE7zB9nM
    เสียดายถ้าเราเป็นพระภิกษุผู้จาริกไปแล้ว ไม่ใช่ฐานะที่จะมานั่งทำอะไรในแบบนี้อีก เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วในฐานะฆราวาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images (4).jpg
      images (4).jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.2 KB
      เปิดดู:
      48
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    กลามสูตร๑๐ คือการทำใจให้เป็นกลางในการพิจารณา


    เรื่องนี้เราพอเข้าใจ และเข้าใจยิ่งขึ้นไปอีกดังนี้ โปรดพิจารณาตามเรา


    "เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ย่อมไม่มี"

    จงเข้าใจว่าคำว่า บริสุทธิ์บริบูรณ์ครบถ้วน คือจะต้องรู้เป็นที่สุดแล้ว คือยกเว้นคนนอกศาสนา คนในฟังอ่านพิจารณาแล้วถูกหมด
    ถ้าไม่สามารถอย่าคิดเอง อย่าเอาหัวข้อธรรมใดธรรมหนึ่งไปประมวลว่าเป็นที่สุด ทั้งๆก็ไม่ถึงที่สุด


    "มหาบพิตร ตถาคตอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยตนเองโดยชอบ เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระผู้มีพระภาค ตถาคตรู้แจ้งโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก และหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ด้วยตนเองแล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ตาม แสดงธรรมมีความงามในเบื้องต้น มีความงามในท่ามกลาง และมีความงามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถและพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์ครบถ้วน"


    ตอบตรงตามหลักธรรมของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระบรมมหาศาสดาเป็นใหญ่ ให้กว้างขวางลึกซึ้ง
    ไม่เอาบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นที่ตั้งมากกว่าพระองค์ ถ้าจะสอนธรรมของพระองค์ ควรยกพระดำรัสวาจาของพระองค์มาสอน เพราะทรงตรัสไว้ดีแล้วด้วยพระปรีชาญาณ อธิบายเนื้อหาธรรมนั้นอย่างเต็มความสามารถที่สุด แสดงธรรมอย่างมีเหตุ มิใช่ไม่มีเหตุ ทรงประกาศอรรถและพยัญชนะบริสุทธิ์ มิใช่ไม่บริสุทธิ์
    พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมมีความงามในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด


    04-06-2012, 10:42 AM

    {O}เฉพาะที่พระองค์{O}
    หลักธรรมในพระพุทธศาสนานี้พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ ที่อาศัยอยู่
    ในเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล เนื่องจากในสมัยนั้นมีผู้อวดอ้างตนในคุณวิเศษกันมาก
    เชิดชูแต่ลัทธิของตัว พูดจากระทบกระเทียบดูหมิ่นลัทธิอื่น พร้อมทั้งชักจูงมิให้เชื่อ
    ลัทธิอื่น เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จถึงเกสปุตตนิคมดินแดนที่เต็มไปด้วยผู้อวดอ้าง
    ชาวกาลามะได้ทูลถามด้วยความสงสัยว่าใครพูดจริง ใครพูดเท็จ?
    พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย
    หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ
    1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
    2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
    3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
    4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
    5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
    6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
    7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
    8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
    9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
    10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

    ไม่เชื่อตถาคตให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ครบถ้วนแล้วจะได้อะไร? ถามอย่างนี้ดีกว่า!

    "ธรรมกำเนิด๑๐ นี้ในอดีตเราใช้เวลาพิจารณาแล้วบัญญัติสำเร็จในเวลา ๓-๕ นาที เมื่อหลังลาสิกขาปี๕๔ ถ้าท่านคิดว่าเป็นอารมณ์บัญญัติ ตรวจเนื้อความเถิดว่า เป็นไปเพื่อประโยชน์ในการอันใด"

    "พึงพิจารณาให้ละเอียดกว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีก ยังอดีตธรรมนี้ที่เราได้พิจารณาเป็นรากแก้ว เพื่อความเป็นไปของความอยู่รอด จวบจนตลอดอายุพระพุทธศาสนา เพราะเราเป็นผู้รู้คัมภีร์อักขระพยัญชนะมาร*โดยอัศจรรย์ อันเป็นคำสอน*มิจฉาทิฐิ* ของพวกเดียรถีย์"

    {O} ว่าด้วยกำเนิดบุคคล ๑๐ จำพวก หลังจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน{O}

    จำพวกที่ ๑ มีโอกาสที่จะได้รับรู้มีความเข้าใจ และปราถนาโดยเห็นว่า " ในรูปลักษณะต่างๆ ในสิ่งก่อสร้างในพระปฏิมาใดก็ตามที่ปรากฎขึ้นมาจนถึงในยุคปัจจุบันนั้น เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ปฏิบัติตามพระพุทธวจนะ ในพระปัจฉิมโอวาทโดยเห็นว่า เพียงเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๒ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " พระธรรมคำสั่งสอนทั้งหมด ที่ปรากฎขึ้นมาจนถึงในยุคปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าตามพระพุทธวจนะ ตามพระปัจฉิมโอวาทโดยเห็นว่า เพียงเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๓ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " ทั้งรูปพระปฏิมาและพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ควรอยู่เคียงคู่กันตลอดไปโดยเห็นว่า เพียงเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๔ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " จะมีพระธรรมปฏิมาใดใดก็ตาม พระธรรมคำสั่งสอนใดใดก็ตาม แม้จะมีแค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ โดยเห็นว่า เพียงเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๕ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " ถึงแม้จะมีหรือไม่มีสิ่งใดก็ตาม จะเกิดธรรมอันประเสริฐ มีคุณวิเศษเพียงใดก็ตาม ที่ปรากฎในพระพุทธศาสนานี้ ก็หาได้มีความหมายหรือมีประโยชน์ ในการใดใดแก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๖ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " ยังลังเลสงสัยอยู่เมื่อได้ยิน และได้พบเห็นทุกๆสิ่งที่ปรากฎ ในพระพุทธศาสนา และยังก็ลังเลสงสัยอยู่อย่างนั้น โดยตลอดโดยไม่มีความเข้าใจว่าสิ่งใดที่มีประโยชน์ และสิ่งใดไม่มีประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๗ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " สมควรเกลียดชัง กล่าวให้ร้ายป้ายสีและจ้องจะทำลาย อยู่เสมอๆในทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่ปรากฎ ในพระพุทธศาสนาเมื่อมีโอกาส ด้วยเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    " จำพวกที่ ๘ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนาโดยเห็นว่า " เห็นดีเห็นงามตามบางสิ่งบางอย่าง ในพระพุทธศาสนาและนำเอาไปประพฤติใช้ โดยเห็นว่าเป็นประโยชน์ แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๙ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ มีความเข้าใจและปราถนา โดยเห็นว่า " ทุกสิ่งทุกอย่างในพระพุทธศาสนา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มีอยู่ในสำนัก และในลัทธิ ในศาสนาที่ตนเองนับถืออยู่แล้ว โดยถือเอาเป็นของตน ด้วยเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง

    จำพวกที่ ๑๐ ไม่มีโอกาสที่จะได้รับรู้ด้วยห่างไกลตามภาวะกรรมบันดาล ทั้งไม่มีความเข้าใจและความปราถนา โดยการใดๆเลยในพระพุทธศาสนา ด้วยขาดการศึกษา,การเรียนรู้,การเจริญภาวนา,การพิจารณาไตร่ตรอง จึงไม่ก่อเกิดประโยชน์ใดใด แก่ตนและพวกพ้อง

    (๐)โปรดนอบน้อมมาพิจารณาในการต่างๆต่อไป(๐)


    ผู้ที่อ้างกลามสูตร๑๐ได้ คือผู้ที่ตรัสรู้ดีแล้วเท่านั้น! กลามสูตร๑๐ มีไว้เพื่อแสดงฐานะธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่มีไว้เพื่อให้ผู้อื่นหรือผู้หนึ่งผู้ใด นำไปกล่าวอ้าง เพื่อแสดงความรู้ความสามารถ ของตนเองด้วยมานะทิฎฐิ ในการไม่เห็นด้วยกับสิ่งๆต่างๆของตนเอง
    https://youtu.be/QxPyyCvynLA
    ผู้ที่มีมานะธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถกล่าวธรรมต่างๆอย่างตรงไปตรงมาได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201

    อุปาลีเถราปทานที่ ๘ (๖)
    ว่าด้วยผลแห่งการสร้างสังฆาราม

    พระพุทธเจ้าทรงมีเมตตาในมิตรและศัตรูเสมอภาคกัน คือ ไม่มีความคิดต่างกันระหว่างพระเทวทัตผู้เป็นศัตรู กับพระราหุลผู้เป็นโอรส ดังข้อความว่า

    วธเก เทวทตฺตมฺหิ โจเร องฺคุลิมาลเก

    ธนปาเล ราหุเล จ สพฺพตฺถ สมมานโส.

    พระพุทธเจ้ามีพระทัยเสมอกันในบุคคลทั้งหมด คือ พระเทวทัตผู้ทำร้าย โจรองคุลีมาล ช้างนาฬาคิรี และพระราหุล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ผนวกข้อมูลแถม ให้เครดิตแก่ เจ้าของกระทู้

    http://palungjit.org/threads/จริงหรือไม่-ที่ในดวงจันทร์อีกด้านมีสิ่งนี้.549714/

    ยืนยันความคิดที่ถูกต้อง
    http://palungjit.org/threads/ความสามารถที่เหนือพระเจ้าที่มีโลกแค่ใบเดียว.549610/

    เปิดเผยไม่ถึงอาทิตย์เนปาลล่มทันที
    http://palungjit.org/threads/ทั้งชีวิตขอเรื่องเดียว.548578/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2015
  17. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    น่าสนใจมาก


    นอกจาก พระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ดั้งเดิม หรือ ทิพยวิเศษบริสุทธิธรรม พระสัทธรรม (ธรรมราชา)

    และ คัมภีร์อักขระพยัญชนะมาร หรือ อหังการวิเศษมาร อสัทธรรม

    ที่เราเห็นด้วยปฎิสัมภิทาญานเมื่อปี๕๔ แล้ว

    ยังมีอันอื่นอีกรึ!


    :cool:

    ภาษาเก่าแก่ทางธรรมในพระพุทธศาสนา ๑ทิพยภาษา ๒สุทธมาคธี ๓มาคธี ๔มคธ๕ปรากฤต ๖สันสกฤต ๗บาลี ๘ไทย


    มนุษย์ช่างไม่เข้าใจ?


    ผ่านมาแค่ ๒๕๐๐ ปี เปลี่ยนไปตั้ง ๖-๗ ภาษา นี่อย่างต่ำละนะ
    หมดภาษาไทยแล้วไม่รู้จะเป็นภาษาอะไร? บ่องตง ฯลฯใช้กันผิดเพี้ยนลูกหลานตามมาทีหลัง สะอื้นแน่

    อหังการวิเศษมารเริ่มออกทำงานเมื่อไหร่? อย่าหวังเลยว่าจะมีผู้ทรงจำพระธรรมคัมภีร์ได้แม้แต่เพียงตัวเดียว แน่นอนนี่หมายถึงพระไตรปิฏกก็หายไปด้วย

    ถ้าไม่มีผู้มีปฎิสัมภิทาญานมาจุติ เตรียมตัวบอกลาพระพุทธศาสนาได้เลย อีกแค่ ๓๐ ชั่วอายุคนเอง ก็ได้ ๕,๐๐๐ พันปีแล้ว จะอยู่ถึงไหม?นะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2015
  18. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    รวมตำนานงูยักษ์อสุรกาย | indepencil.com
     
  19. ออร์กะ

    ออร์กะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +1,375

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--> ไม่เห็นด้วยกับข้อความของคุณ Cronous

    คุณCronous กล่าวว่า “แล้วจะจะขอโทษทำอัลไล”

    คำตอบ – “ขอโทษด้วยที่ไม่เห็นด้วยกับการกล่าวของคุณ Cronous” อ่านเข้าใจนะ และสิ่งนี้เป็นการกล่าวของผู้เป็นมิตร ไม่ใช่คนพาล

    คุณCronous กล่าวว่า “ไม่ยกโทษให้ว่ะผู้วิเศษเอ๋ย”

    คำตอบ - ก็ตลกดี พูดมาทำไม ไม่มีใครเขาขอร้องให้คุณCronous ยกโทษให้

    ที่คุณCronous กล่าวมา เช่น “แน่จริงเอาให้ตรงซักเรื่องแล้วจะยอมรับในผู้วิเศษ แล้วเอ็งน่ะบรรลุอรหันต์แล้วหรือไง”

    คำตอบ - คุณCronous กล่าวมามันขัดความจริง เพราะไม่มีใครเป็นผู้วิเศษ ไม่มีใครบอกว่าบรรลุอรหันต์

    มีแต่ที่คุณCronous เองที่กล่าวมาว่า “บางคนตายไปแล้วก็ยังไม่เลิกคลั่งอยู่ดี”
    ก็แสดงว่า คุณCronous เป็นผู้วิเศษ ถึงถามไปว่า “รู้ได้อย่างไร หรือมีญาณวิเศษ”


    ที่คุณCronous กล่าวมายืดยาวเรื่อง “หลอกลวงคนให้เตรียมตัวกลัวตาย ... ทำนายกันอยู่ได้ …”

    การพูดของคุณ Cronous เป็นการพูดเพ้อเจ้อ ไร้การค้นคว้า ไร้เหตุผล แถมลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธเจ้าของคนไทยทั้งหลาย

    ดูที่พระพุทธเจ้าตรัสพุทธทำนาย ตรงกับความเป็นจริงในปัจจุบัน มีพระสงฆ์ไม่น้อย เอามาให้ได้ดู ได้ศึกษา

    เช่น จากวัดมงคลรัตนาราม ลงไว้ ที่

    ถ้าจะหาความรู้ใส่ตนก็ควรศึกษาพุทธทำนายบ้าง เช่น
    พุทธทำนายของพระพุทธ
    สุบินนิมิตข้อที่ 1 : ภัยธรรมชาติ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    โคล่ำสัน 4 ตัว วิ่งมาจากทิศทั้ง 4 มีลักษณะอาการเกรี้ยวกราด ประดุจจะชนกัน ด้วยความโกรธแค้นกันมานาน พอโคทั้ง 4 วิ่งเข้ามาใกล้กันแล้ว กลับถอยห่างออกจากกันไป ไม่ชนกันเลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น คือ ฟ้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล มันก็เกิดขึ้นปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ได้รู้ได้เห็น

    สุบินนิมิตข้อที่ 2 : เยาวชนมั่วสุมเสพกาม
    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ต้นไม้นานาชนิด ยังไม่ใหญ่โตพอที่จะมีดอกมีผล แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกและผล จนกิ่งก้านสาขาจะรอรับดอกผลนั้นไม่ไหว
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามี แต่กุมารีนั้นอยากแต่งงานให้เป็นครอบครัว เพราะมีความกระสัน ใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่

    บางคนมั่วสุมกัน ไม่มีความละอาย เยี่ยงสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา ก็หาวิธีฆ่าลูกในท้องของตัวเอง จึงเป็นบาปกรรมต่อไปในภายภาคหน้ายิ่งนัก

    อยากให้คุณ Cronous ศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน จะได้ไม่ลบหลู่พระพุทธองค์

    คุณ Cronous กล่าวเองว่า หน้าที่พวกเราแก็งค์ปาหินคือการให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งเพื่อให้คนอ่านคิดไม่หลงเชื่อคำทำนายเพ้อเจ้อ ผู้คนเสียหายมาแล้วเท่าไร กับช่วงปลายปี 2012 มิจฉาชีพเข้ามาหากินตบทรัพย์ไปได้แล้วเท่าไรกับความหวาดกลัว หัดคิดซะบ้างไม่ใช่เอาแต่เพ้อเจ้อไปวันๆ

    คำตอบ – ที่คุณCronous กล่าวมา เราไม่เห็นว่าคุณCronous จะให้ข้อมูลอะไรที่มีหลักฐาน มีเหตุผล เพราะจากที่คุณCronous กล่าวว่า “พวกเราแก็งค์ปาหินคือการให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งเพื่อให้คนอ่านคิดไม่หลงเชื่อคำทำนายเพ้อเจ้อ” ก็ไม่เห็นว่าคุณCronous ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์

    เราอย่างดีก็เอาข้อมูลที่น่าศึกษา เช่น พุทธทำนาย คำทำนายที่เกิดขึ้นเป็นจริง เอามาลงให้ศึกษา เราเองไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนที่ไหน ไม่ได้บอกให้ใครเขื่อ ใครมีกุศลปัญญาก็เข้าใจได้เอง ไม่ได้ไปง้อให้ใครมาสนใจ และที่สำคัญไม่ได้ไปหลอกลวงใคร เราไม่ไปเอาเงินทองจากใคร ที่จะเดือดร้อนก็มีพวกมารฝ่ายเดียว

    ฉะนั้นสิ่งที่คุณ Cronous เขียนมามันฟ้องหรือเป็นการกล่าวโทษตนเองมากกว่า

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เรื่องสายฟ้านั้น ทำความเข้าใจใหม่อีกอย่างหนึ่ง ว่าไม่ได้มีแต่พระอินทร์เพียงเท่านั้น ที่สามารถควบคุม สายฟ้าได้ อหังการวิเศษมาร นั้น สามารถควบคุมดลบันดาลให้เกิดสายฟ้าที่น่ากลัวที่สุด ถ้าคิดไปว่า พระอินทร์ควบคุมสายฟ้าแต่เพียงผู้เดียว สรรพสัตว์ที่ตายเพราะสายฟ้าทั้งหลาย ฯ หรือควบคุมไม่อยู่ ใครจะรับผิดชอบ พระอินทร์รึ! ยังมีผู้อื่นอีก ฯลฯ

    ธาตุ๔ มาประชุมกันสามารถให้กำเนิดฟ้าผ่าได้ เรื่องนี้ควรรู้ไว้ ผ่าที่ดาวดวงอื่นก็มี ไม่ใช่ไม่มี นี่คือ อิทัปปัจจยตา ของธาตุ๔ อย่าง ๑

    เรื่องฟ้าผ่าน่ะเป็นสิ่งประกอบในการต่อต้านกับเพศพรหมจรรย์มานานมากแล้ว ! โดยจากฤทธิ์ของอหังการวิเศษมาร

    ในพระพุทธศาสนามีแต่ของร่มเย็นร่มรื่นคืนชีวิต ไม่มีของร้อนรุนแรงอย่างนั้นหรอก มีแต่ฝนโบกขพรรษ ทิพยดนตรี ฯลฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...