จุดเริ่มของฌาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาจากดิน, 10 พฤษภาคม 2015.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ตอนนอนหลับมาสอนในฝัน แต่รู้ตัวในฝัน ว่าฝันอยู่

    ข้อดีคือ ผมเป็นคนดี เลย พอสอนได้ ....เพราะไม่เอาอะไร แค่อยาก ไม่ทุกข์ไปกับความคิดของตนเอง ไม่อยากงี่เง่า เหมือนคนอื่นที่มัน ทุกข์ไปกับความคิด ที่มันบ้าไปกับความคิด.....ไม่อยากทุเรศตนเอง เหมือนที่เรา มองเห็นคนอื่น วิ่งวุ่นวายไปกับความอยาก.....อยากได้นั่นอยากได้นี่..ฉอเลาะ ตอแหล สวมหน้ากาก..ทำไปได้ไง

    เห็นแล้วทุเรศในทุกวงการ...บ้าไม่เหมือนกัน

    ดีที่ตนเอง เลิกบ้าได้ เพราะ ไม่โง่ อีกแล้ว
     
  2. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่รู้ว่า ความคิดก็คือความคิดของใจ
    ไม่รู้ว่าใจมันก็รู้ ปรุงตามเรื่องของมัน
    ไม่รู้ว่าตนเองเป็นมนุษย์ ที่ เกิดมามีกายใจ

    เรามีกายใจ เป็นมนุษย์....นี่ รู้ความจริง :cool:
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    พอเป็นไปได้ไหมขอรับว่าเราเลยบ้า เลยโงไปแล้ว เป็นไปได้ไหมครับ เท่าที่สังเกตตนเองดู
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ยังอยู่ครับ...:cool: มันไม่โง่หรอก แต่มันเจตนา กวน...ผม แค่นั้นแหล่:'(
     
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ปาปิจฉตานิทเทส
    อธิบายความปรารถนาลามก

    พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า บางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่มีศรัทธา เมื่อ
    ปรารถนาอย่างนี้ว่า ขอชนจงรู้ว่า เราเป็นผู้มีศรัทธา เป็นต้น ย่อมทำอาการ
    อย่างไร คือ บุคคลนั้น ไม่มีศรัทธา ย่อมแสดงอาการว่า มีศรัทธา ผู้ทุศีล
    เป็นต้น ย่อมแสดงอาการของผู้มีศีลเป็นต้น.
    ถามว่า ย่อมแสดงอาการอย่างไร ?
    ตอบว่า ผู้ไม่มีศรัทธาก่อน ในวันมีมหรสพ เธอจะถือเอาไม่กวาด
    ปัดกวาดวิหารและทำการเทหยากเยื่อในเวลาที่พวกมนุษย์มาสู่วิหาร ครั้นทราบ
    ว่า การกระทำของเธอ มนุษย์ทั้งหลายรู้แล้ว จึงไปสู่ลานพระเจดีย์ ย่อม
    เทหยากเยื่อ ย่อมเกลี่ยทรายทำพื้นให้เสมอกัน ย่อมล้างอาสนะทั้งหลาย ย่อม
    รดน้ำที่ต้นโพธิ์.


    มนุษย์ทั้งหลายเห็นเธอแล้วก็สำคัญว่า ภิกษุอื่นที่ปฏิบัติวิหาร
    เห็นจะไม่มี ภิกษุนี้เท่านั้นเป็นพระเถระผู้มีศรัทธาปฏิบัติวิหารนี้อยู่ ดังนี้ จึง
    นิมนต์ภิกษุนั้น เพื่อฉันอาหาร.


    แม้ผู้ทุศีล ก็เข้าไปหาพระวินัยธร ย่อมถามในที่พร้อมหน้าแห่ง
    อุปัฏฐากทั้งหลายว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ครั้นเมื่อกระผมเดินไป โคตกใจแล้ว
    เมื่อกระผมปัดกวาดโคก็วิ่งเตลิดไป ทำให้หญ้าทั้งหลายขาดแล้ว เมื่อกระผม
    จงกรมอยู่หญ้าทั้งหลายย่อมอับเฉา เมื่อกระผมบ้วนน้ำลายให้ตกไปตัวแมลง
    เล็ก ๆ ย่อมตาย การให้น้ำลายตกไปที่หญ้าโดยไม่มีสติ โทษอะไรย่อมมีในที่
    นั้น ขอรับ ดังนี้.


    เมื่อพระวินัยธรกล่าวว่า ดูก่อนผู้มีอายุ เมื่อเราไม่รู้ ไม่
    แกล้ง ไม่เจตนาฆ่าสัตว์ อาบัติย่อมไม่มี ดังนี้ แล้วกล่าวยกย่องพระวินัยธร
    ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ สิ่งนี้ย่อมปรากฏแก่กระผม ราวกะว่าเป็นของหนัก ท่าน
    ย่อมพิจารณาชอบแล้ว ดังนี้.


    มนุษย์ทั้งหลายฟังถ้อยคำนั้นแล้วเลื่อมใสว่า
    พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา ย่อมรังเกียจแม้ในเหตุมีประมาณเท่านี้ ท่านจัก
    กระทำกรรมหยาบอื่นได้อย่างไร ภิกษุผู้มีศีลเช่นกับภิกษุนี้ ย่อมไม่มี ดังนี้
    แล้วทำสักการะ.



    แม้ผู้ศึกษาน้อย ก็จะนั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐาก ย่อมกล่าวว่า
    ภิกษุโน้นทรงพระไตรปิฎก ภิกษุโน้นทรงนิกาย ๔ เป็นอันเตวาสิกของเรา
    ภิกษุเหล่านั้น เรียนธรรมในสำนักของเรา ดังนี้ พวกมนุษย์เลื่อมใสว่า ภิกษุ
    ผู้เป็นพหูสูตเช่นกับด้วยพระผู้เป็นเจ้าของเราไม่มี ได้ยินว่า ภิกษุรูปโน้น ๆ
    เรียนธรรมในสำนักของพระผู้เป็นเจ้าของเรา ดังนี้ จึงทำสักการะ.



    แม้ผู้ยินดีด้วยหมู่คณะ ในวันที่มีมหรสพ ยังบุคคลให้ถือเอาตั่ง
    คือที่นั่งยาวและหมอนข้าง ย่อมนั่งพักอยู่ในที่พักเวลากลางวันที่โคนไม้สุดเขต
    แดนแห่งวิหาร.


    มนุษย์ทั้งหลายมาแล้ว ย่อมถามว่า พระเถระไปไหน ดังนี้
    ชื่อว่าบุตรของคัณฐิกะ ผู้กล่าวคำอันคลุมเคลือนั่นแหละมีอยู่ ย่อมกล่าวด้วย
    เหตุนั้นนั่นแหละว่า พระเถระย่อมไม่นั่งในกาลเห็นปานนี้ ย่อมอยู่ในที่จงกรม
    อันมีระยะทางยาว อยู่ ณ ที่สุดแห่งวิหาร ดังนี้.


    แม้ภิกษุนั้น ก็ยังกาลให้
    ล่วงไปครึ่งวัน แล้วยังใยแห่งแมลงมุมที่ติดไว้ที่หน้าผา แล้วก็ให้บุคคลถือ
    เอาตั่งมานั่งที่ประตูแห่งบริเวณ.


    มนุษย์ทั้งหลาย ย่อมกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้
    เจริญ ท่านไปที่ไหน พวกกระผมมาไม่เห็นท่าน ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมยัง
    มนุษย์ให้รู้ซึ่งความที่ตนเป็นผู้ชอบความสงบด้วยคำว่า ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย
    ภายในวิหารนี้เกลื่อนกล่น ที่นี้เป็นที่เที่ยวเดินและยืนของภิกษุหนุ่มและสามเณร
    ทั้งหลาย อาตมานั่งในที่พักในเวลากลางวันซึ่งมีที่จงกรม ๖๐ ศอก ดังนี้.


    แม้ภิกษุผู้เกียจคร้าน ก็นั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐาก ย่อมกล่าวว่า
    ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย พวกท่านเห็นอุกาบาต (การตกลงของคบเพลิง) แล้ว
    หรือ ดังนี้ ถูกพวกมนุษย์ถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พวกกระผมย่อมไม่เห็น
    อุกกาบาตได้มีในเวลาไหนขอรับ ดังนี้ จึงกล่าวว่า ในเวลาเป็นที่จงกรมของ
    พวกเรา แล้วจึงถามว่า พวกท่านได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของแผ่นดิน หรือ
    ดังนี้ เมื่อเขากล่าวว่า พวกกระผมย่อมไม่ได้ยิน.



    ก็เสียงสั่นสะเทือนของแผ่นดิน
    ย่อมมีในเวลาไหนขอรับ ดังนี้ ก็กล่าวว่า ในเวลามัชฌิมยาม คือในเวลาที่
    พวกเรายืนพิงแผ่น กระดานกำหนดอารมณ์ โอภาสใหญ่ได้มีแล้ว แล้วถาม
    ว่า โอภาสใหญ่นั้น พวกเธอเห็นแล้วหรือ ดังนี้ เมื่อมนุษย์ถามว่า โอภาส
    ใหญ่ได้มีเวลาไหนขอรับ ดังนี้ จึงกล่าวว่า ในเวลาเป็นที่หยังลงแต่การ
    จงกรมของอาตมา ดังนี้.



    มนุษย์ทั้งหลายเลื่อมใสว่า พระเถระของเราทั้งหลาย
    ย่อมจงกรมตลอดยามทั้งสามเทียว ภิกษุผู้ปรารภความเพียรเช่นกับด้วยพระผู้-
    เป็นเจ้าของย่อมไม่มี ดังนี้ จึงทำสักการะ.



    แม้ผู้หลงลืมสติ ก็นั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐาก ย่อมกล่าวว่า เรา
    เรียนพระสูตรทีฆนิกายในกาลชื่อโน้น เรียนมัชฌิมนิกายในกาลโน้น สังยุตตนิกาย อังคุตตรนิกายในกาลโน้น ชื่อว่าการแลดูอย่างอื่นในระหว่างย่อมไม่มี
    แบบแผนเป็นราวกะเกิดขึ้นในปากของเรา และย่อมมาในที่แห่งเราปรารถนา
    แล้ว ๆ ส่วนภิกษุอื่น ยังปากให้ส่ายไป (เพื่อถามปัญหา) เป็นราวกะแพะ
    ดังนี้. มนุษย์ทั้งหลายเลื่อมใสแล้ว ด้วยคิดว่า บุคคลอื่นจักปฏิบัติเช่นกับ
    พระคุณเจ้าของเราย่อมไม่มี ดังนี้ แล้วทำสักการะ.



    แม้ผู้มีจิตไม่ตั้งมั่น ก็ย่อมถามปัญหาในพระอรรถกถาจารย์ ในที่
    พร้อมหน้าแห่งอุปัฏฐากทั้งหลาย คือ ย่อมถามว่า ชื่อว่า กสิณ ย่อมเจริญ
    อย่างไร ชื่อว่านิมิตที่เกิดขึ้นมีประมาณเท่าไร อุปจาระย่อมมีประมาณเท่าไร
    อัปปนาย่อมมีประมาณเท่าไร องค์ของปฐมฌานมีประมาณเท่าไร องค์ของทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน มีประมาณเท่าไร ดังนี้


    เมื่อพระอรรถกถาจารย์
    กล่าวว่า ดูก่อนอาวุโส ประโยชน์อะไรด้วยคำเหล่านี้ คำอะไร ๆ อย่างนี้ไม่
    มีหรือ และกระทำการยิ้มในเวลาที่กล่าวถ้อยคำอันเหมาะแก่การศึกษา ดังนี้
    จึงแสดงการได้สมาบัติของตนด้วยคำว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้อนี้ย่อมถูกต้อง
    ดังนี้.



    มนุษย์ทั้งหลายพากันเลื่อมใสว่า พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราได้สมาบัติ
    แล้ว ย่อมทำสักการะ.


    แม้ผู้มีปัญญาทราม ก็จะนั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐากทั้งหลาย กล่าว
    อยู่ว่า เราย่อมสละปริยัติ ดังนี้เป็นต้น ด้วยคำว่า เมื่อเราตรวจดูหมวดสาม
    แห่งธรรมอันยังสัตว์ให้เนิ่นช้าในมัชฌิมนิกายอยู่ มรรคนั่นแหละมาแล้วพร้อม
    ด้วยฤทธิ์ ชื่อว่าปริยัติ ไม่เป็นสิ่งที่กระทำได้โดยยากสำหรับพวกเรา การ
    สนใจในปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ ดังนี้ ย่อมแสดงซึ่งความที่ตนเป็นคน
    มีปัญญามาก.



    ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวอยู่อย่างนี้ ชื่อว่า ย่อมทำลายพระศาสนา.
    ชื่อว่า มหาโจรเช่นกับบุคคลนี้ ย่อมไม่มี เพราะว่า บุคคลผู้ทรงพระปริยัติ
    ชื่อว่า ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ หามีไม่.



    แม้ผู้ยังไม่สิ้นอาสวะ เห็นทารกในบ้านแล้ว ถามว่า มารดาบิดาของ
    พวกเธอย่อมกล่าวว่า เราเป็นอะไร. พวกทารกกล่าวว่า มารดาบิดาของกระผม
    กล่าวว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ ขอรับ.


    ภิกษุนั้น ย่อมแสดงซึ่งความที่ตน
    เป็นผู้มีอาสวะสิ้นแล้วด้วยคำว่า ดุก่อนบุตรคหบดีผู้ฉลาด ใคร ๆ ไม่อาจเพื่อ
    จะลวงท่านได้ ดังนี้ ก็ในที่นี้บัณฑิตพึงทราบซึ่งภิกษุแม้อื่นอีกที่แสดงตนเป็น
    พระอรหันต์ มีพระอรหันต์ตุ่มน้ำและพระอรหันต์ย่านไทร เป็นต้น.


    มาเรียนปริยัติด้วยกันเถอะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images (2).jpg
      images (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.5 KB
      เปิดดู:
      33
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2015
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    นั่นคือความหมายการหมดอวิชชามีวิชชาแล้ว สู้ต่อไปครับทาเคชิ
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    บอกชื่อบอกสำนักหน่อยนะครับ ว่างๆผมจะไปเรียนวิชานั่งทางในชำระอวิชชาด้วย
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ก็ไม่รู้สินะ...(ขอกวนคืนบ้าง)

    ความหลง ก็คือความบ้า..ก็คือความโง่..(ในขณะที่หลง ใครวะจะรู้ตัวฉ

    ตอนนี้ที่พูดว่าตนเองโง่...เพราะรู้ว่าตัวเองเคยหลง มาก่อน นั่นเอง

    แต่กอนเคยทุเรศตนเอง ทุเรศคนอื่น ที่เขาหลง ไล่ตามความอยาก แบบไม่รู้ตัว

    พอมาตอนนี้ ตนเองเลิกหลงได้....เห็นคนอื่นยังหลงอยู่...เฮ้อ...ดูแล้วเหนื่อยแทน

    มันรักษายากหว่ะ โรคหลง เนี่ย
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่มี ใครผ่านผมได้ ค่อย แนะนำ อาจานให้รู้จัก....อิอิ ผมเป็น ยามเฝ้าประตูอยู่

    :cool:....
     
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    วันที่พุทธหายไปจากอินเดีย

    https://youtu.be/P3pELaXSSAM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    อยู่อำเภออะไรครับ
     
  12. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถามตัวเอง แล้วก็ตอบเอาเอง เถอะ......:cool:

    ขนาด รู้ว่า ในเชียงใหม่มีถ้ำเยอะแยะ...ขนาดนั้น..

    มาถามทำไมวะ....:boo:

    อยากดังมั้ย อยากดัง ก็บอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ของตน มาเลยดิ....อิอิ
     
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เมื่อเกิดผู้มีปาฎิหาริย์ ๓ ประเทศมหาอำนาจที่รุกรานสร้างอาณานิคม จะสูญสิ้นพังทลาย

    พระพุทธศาสนาจะย้อนคืนกลับมาเจริญตลอดจนตราบสิ้นโลก

    สิ้นพระพุทธศาสนาเมื่อใดก็สิ้นโลกเมื่อนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    หายไปไหน รีบมาาาาาาา
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ท่านอาจาน ประกาศชื่อ ประกาศสำนักเอาเองเถอะ....อย่าป๊อด:cool:
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    เชียงใหม่ มีเขาเยอะ เมื่อมีเขา ก็มีถ้ำเป็นของคู่กัน :cool:

    ชื่อ นามสกุล เกี่ยวอะไรกับถ้ำครับ คิกๆๆ

    เอางี้ไหมล่ะ นัดดวลกันที่ถ้ำตอง เคยไปถ้ำตองไหม
     
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    มีเรื่องไรจ่า...ฟ้าถล่ม ดินทลาย หรือไง....อิอิ อยู่ในโลกเดียวกันนี่แหล่ะ:cool:
    ประเทศเดียวกัน

    สักวัน คงได้เจอกันน่า
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    หรือเป็นอาจารย์หนวดยาว ซึ่งเคยเป็นข่าวเมื่อครั้งเหาะได้
     
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่เกี่ยวๆ ไม่ดวล....เบื่อทางขึ้นเขา เมารถ....
    ดวลอะไร ล่ะ ดวลธรรม ไม่จำเป็น ดวลสมาธิ...ติงต๊อง....ดวล รัมมี่ อาจสนุก
     
  20. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ดวลกำลังฤทธิ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...