ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    ครั้งที่ 5. ตามมาด้วยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 5.3 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.69 ลองติจูด 86.08 ความลึก 10 กิโลเมตร

    [​IMG]

    ครั้งที่ 6 ตามมาด้วยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขนาด 5.2 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ละติจูด 27.92 ลองติจูด 85.85 ความลึก 10 กิโลเมตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2015
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    ไม่มีพื้นที่ไหนในโลกหนีธรณีพิโรธได้ 7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่!

    [​IMG]

    ไม่ใช่แค่ Pray for Nepal แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวเขย่าประเทศเนปาลครั้งนี้ ชวนให้ประชากรนานาประเทศทั่วโลก รวมถึงคนไทยได้หยุดคิด หันมาทบทวน และใส่ใจกับการป้องกันและเอาตัวรอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติกันมากขึ้น...

    แต่การจะเอาชนะธรรมชาตินั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ควรดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่าง เรียนรู้จากมัน และเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จึงมีข้อน่ารู้ดีๆ 7 ข้อเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวมาฝากกัน น่าจะเป็นประโยชน์ให้คุณได้ไม่มากก็น้อย

    (คลิกอ่านรายละเอียด.. 7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่! รู้แล้วจะหนาว! ไม่มีพื้นที่ไหนในโลกหนีธรณีพิโรธได้ 7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่! - ข่าวไทยรัฐอ)

    1. แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ไง?
    2. ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว
    3. ที่ไหนปลอดภัยจากแผ่นดินไหว?
    4. สหรัฐอเมริกาเกิดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ
    5. บนโลกนี้ ที่ไหนเกิดแผ่นดินไหวน้อยที่สุด?
    6. ไทยก็เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นกัน
    7. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รู้แล้วจะหนาว! ไม่มีพื้นที่ไหนในโลกหนีธรณีพิโรธได้ 7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่!
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2558 06:05

    [​IMG]
    @แผ่นดินไหวในเขตชุมชน ทำเอารถราคว่ำระเนระนาด

    ไม่ใช่แค่ Pray for Nepal แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวเขย่าประเทศเนปาลครั้งนี้ ชวนให้ประชากรนานาประเทศทั่วโลก รวมถึงคนไทยได้หยุดคิด หันมาทบทวน และใส่ใจกับการป้องกันและเอาตัวรอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติกันมากขึ้น...

    แต่การจะเอาชนะธรรมชาตินั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ควรดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่าง เรียนรู้จากมัน และเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จึงมีข้อน่ารู้ดีๆ 7 ข้อเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวมาฝากกัน น่าจะเป็นประโยชน์ให้คุณได้ไม่มากก็น้อย

    1. แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ไง?

    แผ่นดินไหว เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ภายในโลกออกมา เพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

    การเกิดแผ่นดินไหวมีสาเหตุมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ อย่างแรกเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่ การทดลองระเบิดปรมาณู การกักเก็บน้ำในเขื่อน และแรงระเบิดจากการทำเหมืองแร่ ส่วนอย่างที่สองเป็นสาเหตุหลักของการเกิดแผ่นดินไหว คือ เกิดขึ้นตามธรรมชาติอันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทั้งนี้ทฤษฎีกลไกการเกิดแผ่นดินไหวที่ยอมรับกันในปัจจุบันมี 2 ทฤษฎีคือ

    - ทฤษฎีว่าด้วยการขยายตัวของเปลือกโลก : เกิดจากการที่เปลือกโลกเกิดการคดโค้ง โก่งตัวอย่างฉับพลัน และเมื่อวัตถุขาดออกจากกันจึงปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปคลื่นแผ่นดินไหว

    - ทฤษฎีว่าด้วยการคืนตัวของวัตถุ : เมื่อรอยเลื่อนเคลื่อนตัวจนถึงจุดหนึ่ง วัตถุจะขาดออกจากกันและเสียรูปอย่างมาก พร้อมทั้งปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาในรูปของคลื่นแผ่นดินไหว และหลังจากนั้นวัตถุจะคืนตัวกลับสู่รูปเดิม


    2. ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว

    ความร้ายแรงอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวสามารถบอกได้ในรูปของความรุนแรง (Intensity) และขนาด (Richter Magnitude) ของแผ่นดินไหว โดยแบ่งความรุนแรงและขนาดได้ดังนี้

    ขนาด น้อยกว่า 3.0 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 1-2 สิ่งที่พบคือ ประชาชนไม่รู้สึกถึงแรงสั่น ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ

    ขนาด 3.0-3.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 3 สิ่งที่พบคือ คนอยู่ในบ้านเท่านั้นที่รู้สึก

    ขนาด 4.0-4.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 4-5 สิ่งที่พบคือ ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้

    ขนาด 5.0-5.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 6-7 สิ่งที่พบคือ ประชาชนทุกคนรู้สึก และอาคารเสียหาย

    ขนาด 6.0-6.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 7-8 สิ่งที่พบคือ ประชาชนตื่นตกใจ และอาคารเสียหายปานกลาง

    ขนาด 7.0-7.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 9-10 สิ่งที่พบคือ อาคารเสียหายอย่างมาก

    ขนาด มากกว่า 8.0 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 11-12 สิ่งที่พบคือ อาคารเสียหายเกือบทั้งหมด

    3. ที่ไหนปลอดภัยจากแผ่นดินไหว?

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุกเวลาทุกนาที โดยเป็นแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 2 แมกนิจูดขึ้นไป เฉลี่ยแล้วเกิดขึ้นนาทีละ 2 ครั้งทั่วโลก พูดได้ว่าทุกพื้นที่บนโลกสามารถเกิดแผ่นดินไหวทั้งนั้น และสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ด้วย เพียงแต่ว่าจะเกิดครั้งใหญ่ หรือระดับปานกลาง หรือเกิดเพียงเล็กน้อย (แทบจะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน) เท่านั้นเอง ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็พบแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ของทุกประเทศบนโลกล้วนเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งสิ้น

    การเกิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่เป็นเปลือกโลก แต่ในภาพรวมมันก็สามารถพบได้ทั่วทุกพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักร (UK) เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับปานกลางบ่อยถึง 4-5 ครั้ง ทั้งๆ ที่พื้นที่ของประเทศไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยต่อของเปลือกโลก นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ดูเหมือนว่า...ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนโลก ก็แทบไม่มีโอกาสรอดจากมันได้เลย


    4. สหรัฐอเมริกาเกิดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ

    มีข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยา ของศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวในสหรัฐอเมริกา (USGS) พบว่าทั้ง 50 รัฐในประเทศล้วนเคยประสบภัยแผ่นดินไหวในระดับใดระดับหนึ่ง (รุนแรงมากถึงรุนแรงน้อย) หรือไม่ก็พบได้ทุกระดับความรุนแรงในพื้นที่เดียวกัน สำหรับรัฐที่พบแผ่นดินไหวน้อยที่สุดคือรัฐฟลอริดา และ รัฐนอร์ท ดาโคตา โดยแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในฟลอริดา เกิดขึ้นในปี 2006 และก่อนหน้านั้นเคยเกิดเมื่อนานมาแล้วในปี 1952

    ส่วนรัฐนอร์ท ดาโคตา เมื่อก่อนเคยถูกเชื่อว่าเป็นรัฐที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน มีบทความจากหลายสำนักอ้างว่ารัฐนอร์ท ดาโคตา เป็นสถานที่ที่คนเกลียดแผ่นดินไหวน่าจะชอบไปอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ แต่ต่อมา รัฐนี้ก็ถูกบันทึกว่ามีแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1975 ซึ่งมีศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ที่เมืองมินนิโซตา ซึ่งก็มีผลกระทบต่อเมืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และก่อนหน้านั้นพบว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในรัฐเดียวกันนี้เมื่อปี 1968 มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองฮัฟ ซึ่งตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.4 แมกนิจูด

    5. บนโลกนี้ ที่ไหนเกิดแผ่นดินไหวน้อยที่สุด?

    ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะหลีกหนีภัยคุกคามจากแผ่นดินไหว สถานที่ที่คุณอาจจะต้องการย้ายไปอยู่คือ ทวีปแอนตาร์กติกา เพราะตามข้อมูลของ USGS ระบุว่าพื้นที่แถบนั้นมีการเกิดแผ่นดินไหวน้อยกว่าทวีปอื่นๆ

    6. ไทยก็เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นกัน

    ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่หลายที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ จากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ผ่านมาเกือบ 40 ปี พบว่ามีแผ่นดินไหวขนาดกลาง (5.0-5.9 แมกนิจูด) เกิดขึ้น 8 ครั้ง หรือเฉลี่ย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก

    แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ไทยสูญเสียมากที่สุด นั่นคือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทรอินเดีย ใกล้ด้านตะวันตกของตอนเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยความรุนแรงระดับ 9.1-9.3 แมกนิจูด กระตุ้นให้เกิดคลื่นสึนามิสูงราว 30 เมตร เข้าท่วมทำลายบ้านเรือนตามแนวชายฝั่งโดยรอบ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน ใน 14 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย


    7. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

    ในเมื่อทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเราจึงควรรู้ข้อปฏิบัติตัวเวลาเกิดแผ่นดินไหวไว้ก่อนดีกว่า โดยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ให้อยู่อย่างมีสติ คิดหาหนทางที่ปลอดภัย หมอบอยู่บริเวณที่สามารถป้องกันสิ่งของหล่นใส่ เช่น บริเวณใต้โต๊ะ ใต้เตียง หลีกเลี่ยงให้ห่างจากหน้าต่าง

    หากอยู่นอกอาคารให้อยู่ในที่โล่ง ห่างจากสิ่งห้อยแขวนต่างๆ หากอยู่ในอาคารสูงให้รีบออกจากอาคารโดยเร็วและห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้ หากกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

    เมื่อแรงสั่นสะเทือนหยุดลง ให้รีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา จากนั้นให้ตรวจสอบตัวเองและคนข้างเคียง ถ้าพบคนบาดเจ็บให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากต้องอพยพให้สวมรองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีวัสดุแหลมคมอยู่ตามพื้น ออกห่างจากบริเวณที่สายไฟขาด ส่วนในกรณีที่ไม่ต้องอพยพ ให้ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ ให้ใช้วิธีดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นแก๊สให้ปิดวาล์วถังแก๊ส เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ อย่าเข้าไปในเขตอาคารพัง และไม่ควรแพร่ข่าวลือถ้าไม่ได้ตรวจสอบให้ถูกต้องเสียก่อน

    ที่มา : infoplease, answers.yahoo.com, dmd.go.th, tmd.go.th

    ภาพ : forbes, pinterest, htekidsnews, australiangeographic

    รู้แล้วจะหนาว! ไม่มีพื้นที่ไหนในโลกหนีธรณีพิโรธได้ 7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่! - ข่าวไทยรัฐอ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    7 พ.ค. ทำไม"เนปาล"เสี่ยง แผ่นดินไหวซ้ำ-ใหญ่กว่าเดิม?

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาหลายคนเชื่อว่า หลังเกิดแผ่นดินไหว 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 7,600 คนแล้ว เนปาลยังเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่า และมีอานุภาพทำลายล้างสูงกว่า ในพื้นที่รอยเลื่อนใกล้กรุงกาฐมาณฑุซ้ำอีกในอนาคต

    เอริค เคอร์บี นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน ระบุว่า จากการตรวจสอบเชิงธรณีวิทยาและการใช้เทคโนโลยีจีพีเอสตรวจสอบผลแผ่นดินไหวที่ผ่านมาของเนปาล พบว่า เปลือกโลกในบริเวณดังกล่าวเคลื่อนที่ไปเพียง 3 เมตร ทำให้เชื่อว่า แรงเครียดที่สะสมอยู่บริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลกในบริเวณดังกล่าวยังปลดปล่อยออกมาไม่หมดด้วยเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 25 เมษายน เพราะทางนักธรณีวิทยาและนักธรณีฟิสิกส์ ประมาณว่า ถ้าหากจะปล่อยแรงเครียดที่สะสมอยู่ในแนวรอยเลื่อนให้หมดไป พลังที่ปลดปล่อยออกมาต้องมากถึงระดับที่สามารถทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ไปได้ระหว่าง 10-15 เมตรเลยทีเดียว

    วอลเตอร์ เซลิกา นักธรณีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัย เซ็นทรัล วอชิงตันเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานดังกล่าว โดยยืนยันว่า แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นต่อๆ ไปในบริเวณนี้ สามารถใหญ่โตกว่าและรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาอีกมาก

    เนปาลตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากที่สุดพื้นที่หนึ่ง เนื่องจากเป็นจุดชนกันของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น คือ แผ่นอินเดีย กับแผ่นเอเชีย ซึ่งเคลื่อนที่เข้าปะทะกันที่ระดับความเร็ว 2 เซนติเมตรต่อปี รอยเลื่อนในบริเวณนี้มีความแตกต่างทางธรณีวิทยากับรอยเลื่อนทั่วไป เนื่องจากแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นที่ชนเข้าด้วยกันนั้นมีความหนาแน่นใกล้เคียงกันและชนกันในลักษณะของการปะทะ ไม่มีแผ่นหนึ่งแผ่นใดมุดจมลงใต้อีกแผ่นหนึ่ง ผลก็คือแผ่นเปลือกโลกค่อยๆ ม้วนลงด้านล่าง ในขณะที่แผ่นเอเชียม้วนขึ้นด้านบนกลายเป็นที่มาของเทือกเขาหิมาลัย

    มาร์ติน คลาร์ก นักธรณีฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า การชนกันของแผ่นเปลือกโลกทั้งสองทำให้เกิดแรงเครียดสะสมไปตลอดตามแนวรอยเลื่อน เหมือนเรากดขดลวดสปริงเอาไว้ พลังที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวเทียบได้กับพลัง เมื่อเราปล่อยขดสปริง นั่นเอง

    นอกจากนั้น รอยเลื่อนบริเวณนี้ยังมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือเป็นรอยเลื่อนแบบย้อนมุมต่ำ (ทรัสต์ ฟอลท์) ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่น่ากลัวที่สุดในบรรดารอยเลื่อนทุกรูปแบบ เนื่องจากสามารถทำให้เปลือกโลกสั่นไหวเป็นบริเวณกว้างมากที่สุด เพราะแนวหน้าตัดของรอยเลื่อนมีลักษณะลาดเอียง ทำมุมไม่เกิน 10 องศา และความลาดเอียงต่ำดังกล่าวทำให้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในระดับไม่ลึกมาก ก่อให้เกิดความสูญเสียได้สูงกว่า

    นอกจากนั้น ยังเป็นรอยเลื่อนที่มีอุณหภูมิต่ำ เกิดแผ่นดินไหวได้ยากกว่าแต่ทุกครั้งที่เกิดจะรุนแรงมหาศาลเสมอ

    ที่ผ่านมา นักวิชาการด้านธรณีวิทยา เข้าไปศึกษาพื้นที่ในบริเวณตอนกลางของประเทศเนปาลมามากมายในหลายรูปแบบ ตั้งแต่การวิเคราะห์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ การตรวจสอบร่องรอยความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและการขุดเจาะตามบริเวณแนวรอยเลื่อน ซึ่งผลทำให้พบว่า เคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่นี้ในอดีต แม้จะไม่สามารถระบุขนาดของมันได้แม่นยำนักก็ตาม

    แผ่นดินไหวใหญ่ในระดับ 8 ตามมาตราริกเตอร์ขึ้นไปในบริเวณดังกล่าวย้อนหลังกลับไปได้ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 1255 ซึ่งคร่าชีวิตประชากรเนปาลไปมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายนเกิดแผ่นดินไหวมหึมาที่ทำลายบ้านเรือนไล่ตั้งแต่ทิเบต ผ่านเนปาลไปจนถึงอินเดีย และครั้งล่าสุดที่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 8.2 ริกเตอร์คือเมื่อปี 1934 ที่กาฐมาณฑุ มีผู้เสียชีวิต 8,500 คน

    ทำไม"เนปาล"เสี่ยง แผ่นดินไหวซ้ำ-ใหญ่กว่าเดิม? : มติชนออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    12 พ.ค. วิปโยคซ้ำ! เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.4 เขย่าเนปาลอีกรอบ ใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์บนเทือกเขาหิมาลัย

    [​IMG]

    ชาวเนปาลเผชิญภัยพิบัติธรณีพิโรธซ้ำอีก...เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ขนาด 7.4 เขย่าประเทศเนปาล หลังเที่ยงวันนี้ 12.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 14.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ส่งผลให้ประชาชนในกรุงกาฐมาณฑุ ตื่นตระหนก รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายจากแผ่นดินไหวล่าสุด

    เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด่วน อ้างสำนักงานสำรวจภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ ว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.4 เขย่าเนปาลอีกแล้ว เพียง 2 สัปดาห์ หลังจากเพิ่งเกิดธรณีพิโรธใหญ่ ขนาด 7.8 บริเวณภาคกลางของประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากมีอาคารบ้านเรือนและโบราณวัตถุ-โบราณสถาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พังถล่มลงมาจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 คน

    บีบีซี แจ้งว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าเนปาล ล่าสุด เกิดขึ้นทางตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวง โดยห่างออกไปเป็นระยะทาง 83 กม. ใกล้กับชายแดนเนปาลด้านติดกับประเทศจีน และมีความลึก 18.5 กม. เมื่อเวลา 12.35 น. ของวันที่ 12 พ.ค. 58 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ใกล้กับเมืองนัมชี บาซาร์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากยอดเขาเอเวอเรสต์บนเทือกเขาหิมาลัยเท่าใดนัก แต่ความรุนแรงของแผ่นดินไหวสามารถทำให้ประชาชนในกรุงกาฐมาณฑุ รู้สึกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนถึงกับมีชาวเนปาลคนหนึ่งในเมืองหลวงกล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็นแผ่นดินไหวใหญ่ ระดับ ‘บิ๊ก วัน’ (Big One) อย่างแท้จริง

    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ขนาด 7.4 สามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เช่นเดียวกับกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศเลยทีเดียว เพียงแต่เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและความเสียหาย

    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย แจ้งความคืบหน้าว่า จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ที่เมือง Namche Bazar ห่างจากกาฐมาณฑุ 84 กม. เวลา 13.00 น. เวลาท้องถิ่น เบื้องต้นสถานทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ รายงานคนไทยปลอดภัย.

    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก BBC

    วิปโยคซ้ำ! เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.4 เขย่าเนปาลอีกรอบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  6. rubian

    rubian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +483
    เอาจริงๆนะ เหมือนแผ่นเปลือกโลกแผ่นของเนปาล พยายามเคลื่อนที่เข้าหาหิมาลัย เลย ไม่หยุด
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ในเวลาอีกไม่นานข่าวแผ่นดินไหวบนหน้า นสพ.
    ก็จะพาดหัวเล็กๆเหมือนข่าวอุบัติเหตุรถตู้เฉี่ยวชนแล้ว
    มีตายมีเจ็บเท่านั้นเท่านี้คน
    กลายเป็นเรื่องไม่น่าใส่ใจเพราะเกิดบ่อย
    จนชินชา
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อวยชัย กุลพงษ์
    แผ่นดินไหวใหญ่ซ้ำเนปาล แรงสั่นสะเทือนขนาด 7.3 ตึกอาคารถล่ม

    <iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/4iS2fuZ9fOc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://youtu.be/4iS2fuZ9fOc
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วสท. ชี้ภาคเหนือ อยู่แนวสะสมพลังงาน เสี่ยงแผ่นดินไหว
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2558 17:06

    [​IMG]

    รอยเลื่อนจากแผ่นดินไหวที่เนปาล คาดส่งผลมีความเสี่ยงแผ่นดินไหวภาคเหนือ แต่ไม่แรงเท่าเนปาล ย้ำใช้กฎหมายให้ทุกอาคารสูงรองรับแผ่นดินไหวระดับ 7 ได้ วสท.เตรียมพร้อมลดความสูญเสีย ของผู้ประสบภัยในเชียงราย

    วันที่ 12 พ.ค. 58 รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาล ว่า แม้รอยเลื่อนในเนปาลจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวในภาคเหนือยังคงมีอยู่ เนื่องจากแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกในย่านนี้ค่อนข้างจะแอคทีฟ คือมีการสะสมพลังงานและปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง

    สำหรับสถิติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่เกิดในย่านนี้ตามลำดับปี คือ 1. เกาะสุมาตราเหนือ อินโดนีเซีย ค.ศ.2004 ขนาด 9.2 2. เกาะนีอาส อินโดนีเซีย ค.ศ.2005 และ 2007 ขนาด 8.7 และ 8.5 3. เมืองเหวินฉวน จีน ค.ศ.2008 ขนาด 7.9 4. หมู่เกาะอันดามัน อินเดีย ค.ศ.2009 ขนาด 7.5 5. มัณฑะเลย์ เมียนมา ค.ศ.2011 ขนาด 6.8 6. เมืองชเวโบ เมียนมา ค.ศ.2012 ขนาด 6.8 7. มหาสมุทรอินเดีย อินโดนีเซีย ค.ศ.2012 ขนาด 8.2 และ 8.6 8. มณฑลเสฉวน จีน ค.ศ.2013 ขนาด 6.6 9. อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ประเทศไทย ค.ศ.2014 ขนาด 6.1 และ 10. เนปาล ค.ศ.2015 ขนาด 7.9

    ทั้งนี้ ประเทศไทยโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวนั้น นักวิชาการคาดว่าจะมีความรุนแรงอยู่ในระดับเพียง 6 กว่าๆ และใหญ่ที่สุดไม่เกิน 7 โดยโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แบบเนปาลในประเทศไทยค่อนข้างน้อย เนื่องจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวราบและน้อยกว่าเนปาลมาก ต่อปีอาจมีเพียงประมาณ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมพร้อมรับมืออย่างถูกต้อง และควรบังคับใช้กฎหมายให้ทุกอาคารสูงจะต้องรองรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในระดับ 7 ได้ เนื่องจากอาคารที่มีความสูง จะมีผลกระทบสร้างความเสียหายรุนแรงอย่างมากโดยเฉพาะกับผู้คนที่อยู่ภายใน

    “วสท.จะนำประสบการณ์แผ่นดินไหวในเนปาลมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในการบรรเทาช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน จ.เชียงราย การเตรียมพร้อมเพื่อลดผลกระทบและความสูญเสีย ตลอดจนนำประสบการณ์แผ่นดินไหวเนปาลไปเผยแพร่จัดแสดงในศูนย์เรียนรู้แผ่นดินไหว จ.เชียงราย ซึ่ง วสท.และกรมทรัพยากรธรณีกำลังร่วมกันพัฒนาการเรียนรู้ให้เป็นแนว Active Learning”


    วสท. ชี้ภาคเหนือ อยู่แนวสะสมพลังงาน เสี่ยงแผ่นดินไหว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แผ่นดินไหวเนปาล เกิดขึ้นจากอะไร
    26/4/2015 โดย VOP

    [​IMG]

    เมื่อ 13:11 ตามเวลาไทยของวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2558 โลกต้องตะลึงอีกครั้ง เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง 7.8 Mw โดยมีจุดศูนย์กลางห่างออกไป 34 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลัมจุง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงกาฐมาณฑุและโปขรา ในประเทศเนปาล สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อชีวิตและทรัพสิน โดยมีโบราณสถานต่างๆพังเสียหายมากมาย

    สาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งนี้ มาจากการสะสมพลังของจุด Locking line ราว 80ปี นับจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.0 ในเนปาลเมื่อปี พ.ศ.2477 ทั้งนี้แผ่นเปลือกโลกอินเดียนั้น โดยปกติจะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศเหนือตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยมีอัตราความเร็วในการเคลื่อนตัวประมาณ 2.0 เซ็นติเมตรต่อปี ขอบบนของแผ่นเปลือกโลกอินเดีย จะเบียดเข้ากับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียซึ่งเป็นที่ตั้งของทวีปเอเชียและยุโรป การเบียดกันได้ดันแผ่นดินให้สูงขึ้นเป็นเทือกเขาหิมาลัยตั้งแต่หลายล้านปีที่แล้ว (หิมาลัยทุกวันนี้ก็ยังคงมีความสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) โดยในการเบียดตัวขึ้นทางเหนือนี ้แผ่นปลือกโลกอินเดียซึ่งมีความหนาแน่นสูงกว่าเปลือกโลกยูเรเซียจะเป็นฝ่ายมุดตัวลงด้านล่าง การมุดตัวแบบนี้เมื่อนานไปปีจะทำให้เกิดจุดล็อกเนื่องจากความไม่เรียบของเปลือกโลก ทำให้แผ่นเปลือกโลกอินเดียเคลื่อนตัวต่อไปทางเหนือไม่สะดวก เกิดการสะสมแรงกดดันขึ้น จนสุดท้ายก็จะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเพื่อปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ออกมา ในลักษณะแบบ Reverse thrust ดังเช่นแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ที่เกิดขึ้นมาครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลตามที่เป็นข่าว เนื่องจากประเทศเนปาลนั้น ต้งอยู่ที่ขอบรอยเลื่อนพอดี

    แผ่นดินไหวเนปาล เกิดขึ้นจากอะไร – Jimmy's Blog
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong ได้แชร์โพสต์ของ LiveWire SkyKick

    Nepal quake ( 12 พค. 2015 )

    วันนี้ M7.3 ห่างจาก M7.8 เมื่อวันที่ 25 เมย. 139 กม.
    [​IMG]

    [​IMG]

    ทั้ง 2 จุดน่าจะเป็นคนละล๊อคกัน เมื่อปลดล๊อคได้ก็ขยับตามกันไป จากการศึกษาว่า แต่ละช่วงของแนวมุดตัว สามารถเกิดแผ่นดินไหวได้รุนแรงต่างกันเมื่อขยับตัวผ่านแนว Locking Line ( ปลดล๊อค )

    [​IMG]
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผมมีความคิดน่ะครับถ้าปลดล๊อกได้มากขึ้น แสดงว่าขณะนี้แผ่นปลือกโลกอินเดียซึ่งมีความหนาแน่นสูงกว่าเปลือกโลกยูเรเซียไม่มุดตัวลงไปด้านล่างได้เร็วขึ้นหรือครับ

    เพราะถ้าเราเคยอ่านบนความคุณ Zeta จะบอกว่าขั้นหนึ่งของการเกิดสนามแม่เหล็กโลกกลับขั้วคือแผ่นอินเดียมุดตัวลงไป โดย "เปลือกโลกแผ่นที่ ประเทศอินเดียตั้งอยู่ เมื่อหลายล้านปีก่อน ลอยอยู่ในทะเล ค่อยๆเคลื่อนตัวไปทางเหนือตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันมุดตัวเข้าไปใต้แผ่นฮิมมาลายา เมื่อเร็วๆนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวที่สิกขิม ชั้นหินดันกันจนแตกหัก" แต่ผมคิดว่าถึงคุณ Zeta จะเก่งแค่ไหน ก็คงคาดการณ์การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกไม่ได้ สิ่งที่เขาว่าไว้จึงไม่เกิดสักที เพราะการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกก็ต้องมีข้อจำกัดเหมือนมีอะไรสักอย่างมาขัดขวาง ซึ่งตามความเข้าใจของผมว่าทางธรณีวิทยาคงใช้คำว่า แนว Locking Line ( ปลดล๊อค )

    ดังนั้นเมื่อแนว Locking Line ( ปลดล๊อค ) เริ่มฉีกขาดไปเรื่อย ๆ เหมือนเสื่อผ้าเราที่ด้ายที่เย็บแนวผ้าเริ่มหลุด และมีแรงดึงอยู่ แนวนี้จะไม่ยิ่งฉีกขาดออกไปเรื่อยๆ หรือ แบบนี้มีลุ้นน่ะครับ
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทำไมหมาเนปาลเหมือนหมาไทยจัง

    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 12 พ.ค.58 เมื่อสุนัขมาหลบในร่มเงาศาสนาพุทธ มันกลับรอดตายราวปาฏิหารย์
    ขณะพระไทย ในศูนย์พึ่งพิงชาวเนปาล กำลังประชุมเตรียมความพร้อม เพื่อจะนำข้าวสารมาแจกผู้ประสบภัย ก็เกิดแผ่นดินไหวซ้ำขนาด M7.3 ทำให้บ้านพังลงมาทับสุนัข พระได้รีบเข้าไปช่วยสุนัข แผ่นดินเกิดมีการสั่นไหวอย่างแรงอีกครั้ง
    พระต้องรีบวิ่งออกมา แต่ช่วยชีวิตสุนัขไว้ได้ แต่ขาหลังหักไปข้างหนึ่ง ซึ่งดามเฝือกสักระยะก็จะกลับเป็นปกติได้ แม้ว่าในเนปาลนั้นมีประชาชนนับถือศาสนาพุทธเพียง 9% จากประชากรทั้งหมด 28 ล้านคน
    แต่เมื่อยามแผ่นดินไหว พระและวัดไทยก็เป็นที่พึ่งของคนทุกศาสนา ในด้านอาหารประทังชีวิต โดยไม่ได้เลือกว่ายากจน หรือ ร่ำรวย หรือแบ่งแยกว่านับถือศาสนาใด นี่เป็นจุดที่ศาสนาพุทธ สามารถอยู่ร่วมกันได้กับทุกศาสนาบนโลก มานานกว่า 2557 ปี
    คนนับถือพุทธแท้จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน เดินทางสายกลาง และไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน..เพียงหนึ่งชีวิตพระพุทธองค์ก็สอนให้ช่วยเหลือกัน...น่าแปลกที่คนไทยนับถือพุทธ แต่อยู่บนแผ่นดินเนปาล แผ่นดินของพระพุทธองค์ แทบไม่มีใครเป็นอะไรเลย
    แม้แต่สุนัขที่อาศัยร่มเงาในศาสนาพุทธ แผ่นดินไหวใหญ่รอบนี้มันยังรอด ในขณะที่ตอนนี้ชาวเนปาลมีการตาย และเจ็บเพียบอีกครั้ง มีรายงานว่าหลายร้อยคน ติดอยู่ใต้ซากอาคารอีกแล้ว !!
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย
    วันที่ 12 พ.ค.58 ไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหวเนปาลรอบใหม่ เจอศพแล้ว 35 ราย บาดเจ็บกว่าพัน..โอ้วว !!

    [​IMG]

    จากเหตุแผ่นดินไหวซ้ำอีกครั้งในเปาล แรงสั่นสะเทือนขนาด 7.3 ที่ความลึก 18.5 กิโลเมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนัมเช บาซาร์ ไปทางทิศตะวันตก 68 กิโลเมตร ใกล้กับเทือกเขาเอเวอเรสต์ และพรมแดนทิเบต แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ และลั่นสะเทือนไปถึงประเทศจีน
    ไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหว มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 35 ราย เป็นประชาชนในเนปาล 32 ราย และ อีก 3 ราย เป็นประชาชนที่อยู่ในเขตสิวัน รัฐพิหารของอินเดีย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,006 ราย
    งานนี้จะนับศพกันหวาดไหวไหมนี่..รออีกสัก 3 วันขึ้นไป ดูว่าจะเจออีกกี่ศพ..เละไปหมดทั้งจากครั้งก่อน และครั้งนี้..นี่มันอะไรกันนี่ ???
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ‘อุ๋ย’ อยู่เบื้องหลัง เด้งปลัดอารีพงศ์
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 13 พ.ค. 2558 07:22

    [​IMG]

    ไม่งั้นยกทีมศก.ออก สปช.ดันทำประชามติ ปฏิรูป2ปีจัดเลือกตั้ง

    ครม.เด้ง “อารีพงศ์” พ้นปลัดฯพลังงาน ไปนั่งเก้าอี้เลขา ก.พ.ร.ที่เดิม “ประยุทธ์” แจงไม่ใช่เพราะมีความผิด ทิ้งทุ่นจะมีทยอย ปรับตามมาอีก เผย “หม่อมอุ๋ย” เดินเกมกดดัน เจ้าตัวเบนเป้าหันไปลงชิงผู้ว่าการแบงก์ชาติ ก.แรงงานก็ร้อนระอุ “บิ๊กเต่า” ยังให้โอกาส “นคร” นั่งปลัดฯแรงงาน ขู่ถ้าคิดกบฏไม่เอาไว้แน่ ไขลานต้องปรับตัวทำงานเชิงรุก แถมเหน็บทำงานไม่ได้อย่างที่รับปาก วงในแฉเบื้องลึกฉุนปลัดฯไม่เห็นหัว สปช.เดินเกมดันประชามติปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ลาก “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯไปอีก 2 ปี “คำนูณ” หวั่นกระทบโรดแม็ป คสช. “ปนัดดา” ยาหอมยังต้องคงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านไว้ “บิ๊กตู่” ลั่นไม่กดดันตามโรดแม็ป เตือนชนกันเมื่อไรจะสั่งปิดถนน เมิน “แม้ว” ไปทอล์กโชว์แดนกิมจิ “บิ๊กป้อม” ขออย่าพูดกระทบไทย

    หลังมีกระแสข่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 พ.ค. จะมีการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหลายกระทรวง หลังรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประเมินผลการทำงานว่าไม่สามารถตอบสนองนโยบายได้

    ครม.โยก “อารีพงศ์” นั่งเลขา ก.พ.ร.

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอรับโอนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นเลขาธิการ ก.พ.ร. อนุมัติแต่งตั้งนายสุเทพ วัชรปิยานันทน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายมาณพ ชิวธนาสุนทร รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม น.ส.จารุวรรณ เฮงตระกูล กรรมการร่างกฎหมายประจำสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

    ขยับ ก.เกษตรฯ-ไอซีที-ศึกษาฯด้วย

    ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้งนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ที่ปรึกษาประจำสำนัก-เลขาธิการ ครม. เป็นรองเลขาธิการ ครม. นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร เป็นรองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายสุชาลี สุมามาลย์ รอง ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นพ.สรนิต ศิลธรรม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา

    “อารีพงศ์” เบนเป้าลงชิงผู้ว่า ธปท.

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพลังงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน มีการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน โดยนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม กล่าวกับคณะผู้บริหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ผมคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะได้ไปอยู่ในตำแหน่งใด ที่นี้มีเจ้าของ มีเจ้าที่ ผมในฐานะเป็นข้าราชการคนหนึ่ง ทำหน้าที่ได้แค่นี้” อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่านายอารีพงศ์ อาจไปสมัครเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ ด้วยคุณสมบัติใกล้ชิดฝ่ายการเมืองและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆมาหลายตำแหน่ง โดยที่ก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ขอให้ปลดนายอารีพงศ์ หากไม่ปลดจะยกทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจออกทั้งหมด สำหรับบุคคลที่มีชื่อจะมาเป็นปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ ได้แก่ นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน กับนายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ขณะที่นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ที่เป็นตัวเก็งอีกคนเหลืออายุราชการถึงเดือน ก.ย.นี้เท่านั้น

    “บิ๊กเต่า” ยังให้โอกาสปลัดฯแรงงาน

    ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ยังไม่นำรายชื่อนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงานเข้าที่ประชุม ครม. ตามที่เป็นข่าวว่าจะมีการโยกย้าย ยังทำงานตามปกติ ที่ผ่านมาตนกับข้าราชการระดับสูงทำงานร่วมกันได้ดีทุกคน แต่อยากให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพราะเน้นแต่เชิงรับทำให้งานล่าช้าไม่ทันใจ วันนี้เรื่องย้ายปลัดฯยังไม่อยู่ในหัว แต่ต่อจากนี้ไปไม่แน่ ถ้าปลัดคิดกบฏกับรัฐมนตรีก็ต้องย้าย เพราะทำงานด้วยกันไม่ได้ เรื่องที่ตนพูดในที่ประชุมตำหนิการทำงานล่าช้า อาจทำให้มองว่าจะมีการโยกย้ายนายนคร แต่เรื่องนั้นไม่ได้มีผลกับการตัดสินใจ ถ้าอยากย้ายก็จะย้าย วันนี้ยังทำงานร่วมกันเพราะยังมองไม่เห็นคนอื่น ถ้าจำเป็นต้องย้ายแล้วหาคนแทนไม่ได้จริงๆ ก็อาจดึงคนนอกเข้ามาได้ แต่ยืนยันไม่ใช่ทหาร

    เหน็บทำงานไม่ได้อย่างที่รับปาก

    ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นนายนครนำพวงมาลัยไหว้ศาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ อาจเพราะเสียขวัญ พล.อ.สุรศักดิ์หัวเราะก่อนถามกลับว่า จริงหรือ ปลัดฯตกใจขนาดนั้นเชียว เดี๋ยวคงต้องเรียกมาปลอบขวัญ จริงๆท่านเป็นคนน่ารัก แต่ความคิดอาจไม่เหมือนคนอื่น ปลัดฯคนนี้ตนตั้งมากับมือ อยากถามว่ายังจำได้หรือไม่ว่าก่อนที่ตนจะตั้งเคยรับปากไว้ว่าจะเร่งแก้ปัญหา 2 เรื่อง คือ ค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าว และปฏิรูปประกันสังคม แต่ผ่านมาหลายเดือนงานยังไปไม่ถึงไหน อยากให้ท่านไปประเมินตัวเอง ว่าทำงานมีประสิทธิภาพหรือไม่

    เผยเบื้องลึกฉุนปลัดฯไม่เห็นหัว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าขณะมีการประชุม ครม. นายนครได้นำพวงมาลัยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน โดยมีนายธีรพล ขุนเมือง รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และนายสิงหเดช ชูอำนาจ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน คอยยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ขณะที่บรรยากาศในกระทรวง ข้าราชการต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ข่าวการโยกย้ายนายนคร เนื่องจากระยะหลัง พล.อ.สุรศักดิ์ไม่พอใจการทำงานของนายนครหลายเรื่อง โดยเฉพาะล่าสุดที่ทีมงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มาขอข้อมูลผลงานกระทรวงแรงงาน แต่นายนครไม่ยอมรายงาน พล.อ.สุรศักดิ์ จนมารู้ทีหลังจึงตำหนิด้วยความไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นการข้ามหน้าข้ามตา ขณะที่ช่วงเช้านายนครได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงานที่ผ่านการคัดสรรจากคณะกรรมการจำนวน 2 ตำแหน่ง คือ นายสุทธิ สุโกศล แรงงานจังหวัดขอนแก่น และนางเพชรรัตน์ สินอวย ผอ.สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ทำให้ พล.อ.สุรศักดิ์มองว่ามีการล็อกสเปกกัน

    นายกฯแจงเด้งไม่ใช่เพราะความผิด

    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า การโยกย้ายนายอารีพงศ์เป็นการโยกย้ายปกติ ไม่ได้โยกย้ายเพราะมีความผิด ส่วนการโยกย้ายในตำแหน่งอื่นๆจะมีทยอยมาอีก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนได้สังเกตเห็นรอยแผลที่บริเวณขมับด้านซ้าย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า ไปทำเลเซอร์มา เป็นกระ มีคนแนะนำว่าควรไปเอาออกก็เลยตามใจ ถือเป็นเรื่องธรรมดาทุกคนต้องไปทำเมื่ออายุถึงวัย ถ้าปล่อย กระไว้วันข้างหน้าจะโตขึ้น เลยไปเลเซอร์ออกเสียก่อน ไม่ได้หวังว่าจะหล่ออะไร เพราะความหล่อก็อยู่เท่าเดิม


    ‘อุ๋ย’ อยู่เบื้องหลัง เด้งปลัดอารีพงศ์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    จอห์น แคร์รี่ กล่าวว่าสหรัฐฯไม่ชอบใจที่จะคงการแซงชั่นรัสเซียต่อไป

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้ (13 พ.ค.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ (US State Secretary) กล่าวว่า "การแซงชั่นรัสเซียเป็นส่ิงจำเป็น เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยของสันติภาพให้กับทุกคนในยูเครน การคงมาตรการแซงชั่นรัสเซียไว้นั้นไม่ใช่จุดมุ่งหมายหลักของสหรัฐฯ แต่การแซงชั่นมีความสำคัญในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในยูเครน นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญในการหาหนทางที่ชัดเจนและแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง"
    วันก่อนนี้แคร์รี่กล่าวถึงเงื่อนไขในการยกเลิกแซงชั่นรัสเซียนั้นว่า "ถ้าหากว่าเมื่อใดมีการนำข้อตกลงเจรจาสันติภาพกรุงมินส์กไปใช้ให้บรรลุผล ก็เป็นที่แน่ชัดว่าสหรัฐฯและอียูจะยกเลิกการแซงชั่นที่กระทำต่อรัสเซีย"
    มาลองวิเคราะห์คำพูดและท่าทีของสหรัฐฯหลังจากได้ฟังเทศนาจากปูตินดูบ้าง เห็นได้ชัดว่าท่าทีของสหรัฐฯนั้นลดความก้าวร้าวต่อรัสเซียลงไปมาก สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือไม่มีนักการเมืองหรือแม้แต่โอบามาออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างคณะของแคร์รี่กับคณะของปูตินในช่วงนี้เลยแม้แต่น้อย
    จากก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯพยายามอย่างเต็มที่เพื่อล้มรัสเซียให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายสหรัฐฯก็ต้องเป็นฝ่ายขอเข้าเจรจากับรัสเซียซะเอง ในแง่ของผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมหาอำนาจจักรวรรดิอเมริกาที่หยิ่งทนงตนยิ่งนักนั้น การส่งระดับรมว.ต่างประเทศมาขอเจรจาจับมือกับรัสเซียนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ฝืนและยอมมากที่สุดแล้ว ถ้าสหรัฐฯถือไพ่ที่มีแต้มเหนือกว่ามีหรือจะหมอบ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้แต้มของสหรัฐฯนั้นเป็นรองรัสเซีย ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่ ครั้นจะยอมทุกอย่างตามที่ฝั่งรัสเซียแย็บลองเชิงไปเช่นการยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯยกเลิกแซงชั่นรัสเซียในทันทีหรือกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอน
    ถ้าทำอย่างนั้นก็จะถูกชาวโลกมองว่าสหรัฐฯอ่อนแอกว่ารัสเซีย จากที่เคยต้อนเขาเกือบจนมุม สุดท้ายตัวเองก็กลายเป็นผู้ถูกต้อนให้จนมุมซะเอง แบบนี้อเมริกาเสียหน้าแน่ๆ แค่นี้ก็แทบจะไม่มีอะไรให้เสียอยู่แล้ว ดังนั้นสหรัฐฯจึงทำทีเป็นกั๊กเรื่องแซงชั่นเอาไว้ก่อน โดยยกเรื่องความไม่สงบในยูเครนมาเป็นข้ออ้าง แต่ไม่ยอมพูดถึงไคร์เมียเลย แปลกม๊ะ? ฮ่าๆๆ แสดงว่าสหรัฐฯยอมรับความพ่ายแพ้ในเกมแย่งไคร์เมียมาจากรัสเซียแล้วหละสิ
    คราวนี้ก็เข้าทางปูตินเลย ปูตินแทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยซ้ำไป ยูเครนและคู่กรณี (โดเน็ทส์กและลูฮานส์ก) จะปฏิบัติตามข้อตกลงเจรจาสันติภาพหรือไม่นั้นก็อยู่ที่สหรัฐฯซึ่งอยู่เบื้องหลังของรัฐบาลยูเครนมาโดยตลอดแล้วหละ ถ้าสหรัฐฯอยากคืนดีกับรัสเซียโดยเร็ว หมายความว่าอยากให้รัสเซียยกเลิกการแซงชั่นสหรัฐฯและอียูเช่นกัน สหรัฐฯก็ต้องทำให้ยูเครนปฏิบัติตามข้อตกลงกรุงมินส์กโดยเร็วที่สุดเอาเอง
    หากยูเครนตะวันออกยังไม่สงบจริง ความซวยก็จะมาเยือนสหรัฐฯในไม่ช้า เพราะความร่วมมือกับรัสเซียก็จะไม่เกิดขึ้น การที่สหรัฐฯหวังว่าจะส่งออกสินค้าของตัวเองมาขายในรัสเซียได้อย่างแต่ก่อนนั้นคงจะยากซะแล้วหละ สินค้าการเกษตรของอียูก็จะล้นตลาดอยู่อย่างนี้ต่อไป ไหนจะสินค้าจากสหรัฐฯก็จะไหลเข้าไปในยุโรปอีก ระบายออกมาที่รัสเซียก็ไม่ได้ เพราะรัสเซียห้ามไม่ให้นำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศที่แซงชั่นรัสเซียก่อนเข้ามาขายในรัสเซีย เศรษฐกิจของสหรัฐฯและอียูก็ทรุดหนักต่อไปเรื่อยๆหรืออาจจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำไป เล่นกับใครไม่เล่น เห็นฤทธิ์ปูตินแล้วหละสิ
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    Kerry Claims US Would Prefer Not to Keep Anti-Russian Sanctions / Sputnik International
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    อิหร่านเตือนหากใครกล้าโจมตีเรือบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับผู้ประสบภัยในเยเมน เกิดสงครามแน่!
    ------------
    ใครจะเล่นกับอิหร่านบ้างมาอิ! ฮ่าๆๆ สุดยอด... ทางกองทัพของอิหร่านประกาศเตือนอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านว่า อิหร่านจะตอบโต้ด้วยการใช้กำลังต่อประเทศใดๆที่โจมตีเรือบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้ประสบภัยสงครามซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่เยเมน
    พลจัตวา Massoud Jazzayeri กล่าวในโทรทัศน์ TV Alalam ของอิหร่านว่า "การโจมตีเรือส่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสมาคม Red Crescent จะถือว่าเป็นการจุดชนวนสงครามในภูมิภาค สหรัฐฯและซาอุดิฯ ควรจะรู้ว่าความอดทนอดกลั้นของอิหร่านนั้นมีขีดจำกัด"
    สำนักข่าว Fars ของอิหร่านรายงานว่าเรือบรรทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของช่วยเหลืออื่นๆน้ำหนัก 2,500 ตัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ และนักกิจกรรมด้านสันติภาพจากหลายประเทศออกจากท่าเรือ Bandar Abbas ทางตอนใต้ของอิหร่านมุ่งหน้าท่าเรือ Hudaydah ในทะเลแดงของเยเมน
    สมาคมเสี้ยวเดือนแดง (Iranian Red Crescent Society - IRCS) ของอิหร่านได้พยายามที่ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้เยเมนทั้งทางทะเลและทางอากาศ แต่ล้มเหลวเนื่องจากถูกฝั่งซาอุดิฯปิดล้อมทุกทางเพื่อทำสงครามฉีกประเทศเยเมน
    ก่อนหน้านี้อิหร่านได้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้เยเมนแล้ว 69 ตันซึ่งประกอบด้วยสิ่งของบรรเทาทุกข์ ยารักษาโรค อุปกรณ์ทางการแพทย์ และเครื่องบริโภคหลายรายการ
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    Iran Warns of War if Aid Ship to Yemen Attacked / Sputnik International
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ใครที่กล่าวหารัสเซียก่อน?... สหรัฐฯ!, ใครที่แซงชั่นรัสเซียก่อน?... สหรัฐฯ!, ใครที่ขอเข้าไปง้อคืนดีกับรัสเซียก่อน? ก็สหรัฐอีกนี่แหละ!

    [​IMG]

    ------------
    Who firstly alleged Russia? It's the USA. Who has begun the anti-Russia sanction? It's the USA. Now who ask for conciliation with Russia? It's the USA again. Funny ha!
    เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.58) โอบาม่าส่งจอห์น แคร์รี่(John Kerry) รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯเข้าขอเจรจาสานสัมพันธ์กับรัสเซียด่วน เมื่อปีที่แล้วสหรัฐฯหาทางทำลายรัสเซียทุกช่องทางเร่ิมด้วยการกล่าวหาประกาศให้รัสเซียเป็นภัยคุกคามของสหรัฐฯด้วย ตามด้วยยุทธการถล่มค่าเงินรูปเบิลของรัสเซียและการแซงชั่นรัสเซีย โดยสหรัฐฯได้กดดันให้ประเทศต่างๆที่เป็นพันธมิตรของตนในยุโรปและเอเซียบางประเทศเช่นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เข้าร่วมแซงชั่นรัสเซีย โดยยกเหตุผลเรื่องวิกฤตยูเครนเป็นข้ออ้าง มีหรือที่รัสเซียจะยอมให้สหรัฐฯกดหัวอยู่ฝ่ายเดียว รัสเซียก็สั่งให้แซงชั่นสหรัฐฯและกลุ่มประเทศเหล่านั้นเพื่อเป็นการตอบโต้กลับบ้าง และกลุ่มพันธมิตรของรัสเซียกับจีนก็ประสานมือกันเริ่มมาตรการฆ่าดอลล่าร์สหรัฐฯอย่างจริงจังด้วย
    สหรัฐฯพยายามยั่วยุให้รัสเซียใช้กำลังทางทหารก่อนโดยจัดซ้อมรบกับชาติสมาชิกนาโต้ใกล้ชายแดนรัสเซียอยู่หลายครั้ง รัสเซียก็ไม่หลงกล แต่รัสเซียก็จัดซ้อมรบนับครั้งไม่ถ้วนทั่วประเทศ และตามฐานทัพต่างๆของตน รวมทั้งในทะเลดำด้วยเช่นกัน ล่าสุดก็มีจีนเข้าร่วมซ้อมรบกับรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากเสร็จงานวัน V-Day เมื่อวันที่ 9 พ.ค.58 ณ จตุรัสแดงที่กรุงมอสโคว์ที่ผ่านมา
    นักวิเคราะห์และผู้นำหลายประเทศทั้งในสหรัฐฯและยุโรปรวมทั้งฝั่งรัสเซียด้วยต่างก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียและการพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียที่กระทำโดยสหรัฐฯและพันธมิตรนั้นไม่ได้ผล เพราะนั่นยิ่งทำให้รัสเซียแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจของรัสเซียสามารถปรับตัวได้แม้จะอยู่ภายใต้การแซงชั่นอย่างรุนแรงจากสหรัฐฯและอียู ค่าเงินรูปเบิลมีเสถียรภาพมากขึ้นและทรงตัว นักลงทุนจากทั่วโลกต่างก็มุ่งหน้าเข้าไปลงทุนในรัสเซีย ภายใต้การกดดันจากสหรัฐฯ รัสเซียกลับสามารถเพิ่มปริมาณทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศได้ พันธมิตรของรัสเซียเพิ่มมากขึ้นภายใต้การนำของปูติน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างรัสเซียกับกลุ่มพันธมิตรทั่วโลกเริ่มแน่นแฟ้นมากขึ้นและเพ่ิมขึ้น
    ในขณะที่เศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯกับอียูนั้นดูเหมือนว่าจะเดินสวนทางกันกับของรัสเซีย ก่อนหน้านี้สหรัฐฯเที่ยวไล่ล็อบบี้กดดันผู้นำประเทศต่างๆในอียูไม่ให้เข้าร่วมงานวัน V-Day ที่กรุงมอสโคว์ สหรัฐฯเองก็ไม่ได้ส่งคนของตัวเองเข้าร่วมงานด้วย แต่เมื่อโอบาม่าหยุดคิดและประมวลเหตุการณ์ทำการประเมินผลจากการดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวและใช้สื่อฯกระแสหลักของตัวเองโจมตีรัสเซียมาโดยตลอดนั้นพบว่าไม่เป็นผลดีกับสหรัฐฯเอาซะเลย รัฐบาลสหรัฐฯจึงต้องคิดหนัก
    หลังจากที่ผู้นำประเทศต่างๆเดินทางกลับประเทศของตนกันหมดแล้วจากการเข้าร่วมงานวัน V-Day ที่รัสเซีย เมื่อวานนี้รัฐบาลสหรัฐฯก็ตัดสินใจส่งนายจอห์น แคร์รี่พร้อมคณะบินตรงไปยังเมือง Sochi ของรัสเซีย (อยู่ติดทะเลดำใกล้กับจอร์เจีย) เพื่อขอให้นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียช่วยนำไปทำพิธีวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถานทหารนิรนามเพื่อไว้อาลัยให้กับเหล่าทหารนิรนามและเหยื่อผู้เสียชีวิตจากฝีมือของนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจำนวนหลายล้านคน ซึ่งทางรมว.ต่างประเทศของรัสเซียก็ใจกว้าง ไม่ถือโกรธอะไรกับอเมริกา ยินดีพานาย John Kerry เข้าทำพิธีวางพวงมาลาด้วย
    จากนั้นทางนาย John Kerry ก็ได้ขอให้นาย Sergei Lavrov พาเข้านาย John Kerry และคณะเข้าพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อขอคืนดีกับรัสเซียด้วย ซึ่งทางปูตินก็ไม่ได้เล่นตัว ไม่ปฏิเสธท่าทีที่ดูเหมือนอยากจะเป็นเพื่อนจากสหรัฐฯ จะไปถือสากับเด็กเกเรเอาแต่ใจไปทำไม ถ้าเขาบอกว่าสำนึกตัวว่าได้กระทำบางอย่างผิดพลาดไปก็แล้วมาสารภาพและขอคืนดี ก็ย่อมให้อภัยได้ แต่ในใจของรัสเซียนั้นก็คงจะคิดอย่างเดียวกันกับที่ฟิเดล คาสโตรได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า "I don't trust US." แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะสานไมตรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยกัน หากแต่ต้องระวังตัวขึ้นอีกหลายเท่านัก
    การเจรจากันระหว่างคณะทูตของสหรัฐฯนำโดย John Kerry กับฝั่งรัสเซียที่นำโดยปธน.ปูตินนั้นใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง John Kerry บอกว่าเป็นการพูดคุยกับเกี่ยวปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน ปัญหาซีเรีย และยูเครน
    เกี่ยวกับปัญหายูเครนนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางนายเปโตร โปโรเชนโก ปธน.ของยูเครนออกมากล่าวว่ายูเครนจะยึดเอาสนามบินโดเน็ทส์กที่โดนถล่มจนเละไม่เหลือชิ้นดีกลับมาเป็นของยูเครน แม้จะอยู่ในพื้นที่การปกครองของสาธารณรัฐโดเน็ทส์กก็ตาม ก่อนหน้านี้อีตาคนนี้ก็ออกมาพูดว่าเขาจะเอาไคร์เมียคืนมาเป็นของยูเครนด้วย ก็ไม่รู้ว่าก่อนที่จะออกมาพูดอย่างนั้นเขาถามปูตินหรือยังว่าปูตินจะอนุญาตให้ทำอย่างนั้นด้วยหรือไม่ ขนาดสหรัฐฯเองยังต้องวิ่งมาง้อปูตินถึงที่เลยนะ โปโรเชนโก้คิดให้ดีนะ โรงงานช็อกโกแล็ตของโปโรเชนโก้ 1-2 แห่งก็ยังอยู่ในรัสเซียอยู่นะ มันจะคุ้มค่าหรือนายพ่อค้าขนมหวาน ธุรกิจของนายจะเจ๊งเอาได้ง่ายๆนา
    ส่วนท่าทีล่าสุดจากฝั่งสหรัฐฯนั้น คือสหรัฐฯยอมทำตามแนวทางของรัสเซียโดยต้องให้เป็นไปตามข้อตกลงการเจรจาที่กรุงมินส์กเท่านั้นและรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯได้เรียกร้องให้โปโรเชนโก้เคารพต่อการหยุดยิงด้วย ส่วนเรื่องปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านนั้น แคร์รี่กล่าวว่าจะต้องเน้นเรื่องการเป็นเอกภาพ (unity) ในการเจรจากันภายใน 6 สัปดาห์ก่อนถึงเส้นตาย
    ส่วนเรื่องปัญหาซีเรียนั้นทั้งสองฝ่าย (สหรัฐฯกับรัสเซีย) มีความเห็นร่วมกันว่าพวกกลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง และตระหนักความไม่มีเสถียรภาพในเซีย ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในซีเรีย
    Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "จุดสำตัญในการแก้ไขปัญหาซีเรียก็คือต้องมีการเจรจากันจากทุกฝ่ายในซีเรีย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายจะต้องเรียกร้องให้ฝ่ายที่ขัดแย้งกันปฏิบัติตามแถลงการณ์เจนีวา"
    ทางรัสเซียแสดงความคิดเห็นว่าไม่ต้องการให้ตะวันตกยกเรื่องการใช้อาวุธเคมีมาเป็นข้ออ้างในการกดดันปธน. Assad ผู้นำของเซียเรีย และเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระดับมืออาชีพร่วมกันอย่างเป็นกลางเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้ประจักษ์ และไม่ควรนำเรื่องอาวุธเคมีนี้มากดดันทางการเมืองก่อนที่จะรู้ผลของการตรวจสอบ หรือใช้เป็นข้ออ้างในการใช้กำลังกับซีเรีย
    หากสหรัฐฯยอมรับเงื่อนไขนี้จากรัสเซีย ก็แสดงว่าสหรัฐนและนาโต้จะไม่สามารถถล่มซีเรียได้อีก แต่สหรัฐฯมีก๊อกสองสำรองไว้อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็พึ่งประกาศข่าวเองว่าได้ฝึกพวกที่สหรัฐฯตั้งชื่อว่า "กองกำลังกบฎสายกลาง" ในหลายประเทศเพื่อนำมาใช้งานในโอกาสต่างๆแทนทหารของสหรัฐฯ และสหรัฐฯก็สนับสนุนทั้งเงินทุนและอาวุธให้กลุ่มนี้เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลซีเรียด้วย
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    US Signaling Willingness to Break Ice in Relations With Russia - Analyst / Sputnik International
    ‘Isolation’ is Not Working: US Seeks Cooperation With Russia - German Media / Sputnik International
    Kerry: Poroshenko Should 'Think Twice' Before Using Force in Donbass / Sputnik International
    Kerry Says Important to Maintain US-Russia Contact After Talks With Putin / Sputnik International
    Putin, Lavrov Begin Talks With Kerry in Sochi / Sputnik International
    Putin to Meet With Kerry in Sochi Tuesday / Sputnik International
    Lavrov to Kerry: Russia-US Cooperation Possible Only on Equal Basis / Sputnik International
    Potatoes for Kerry: Russian FM keeps up gift exchange traditions — RT News
    http://rt.com/news/257953-lavrov-kerry-sochi-talks/
    Kerry, Lavrov Meet in Sochi, Lay Wreaths in Memory of Killed WWII Soldiers / Sputnik International
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เครื่องบินรบสหรัฐฯล่วงในอ่าวอาหรับนักบินดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย, เฮลิค็อปเตอร์ของสหรัฐฯหายสาบสูญในเนปาล

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวันนี้ทางกองทัพนาวิกโยธินของสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.58) ว่า เครื่องบินรบรุ่น F/A-18F Super Hornet ซึ่งปฏิบัตภารกิจคู่กับเครื่องบินรบรุ่น Strike Fighter Squadron (VFA) 211 ของสหรัฐฯจากเรือ USS Theodore Roosevelt ซึ่งประจำการอยู่ในอ่าวอาหรับ (Arabian Gulf) ประสบอุบัติเหตุตกในขณะปฏิบัติภาระกิจ ตามรายงานแจ้งว่านักบินสองคนสามารถดีดตัวออกมาได้และยังมีสติสัมปชัญญะดีทุกอย่างไม่ได้รับบาดเจ็บ ทางกองทัพสหรัฐฯกำลังทำการสอบสวนเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวและยืนยันว่าสาเหตุที่เครื่องบินรบของสหรัฐฯตกในครั้งนี้ไม่ได้มาจากการโจมตีจากฝ่ายข้าศึก (จริงอ๊ะ? มันน่าสงสัยอยู่นา...)
    เรือรบ USS Theodore Roosevelt ของสหรัฐฯเข้าประจำการในอ่าวอาหรับเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการ Operation Inherent Resolve ใช้สำหรับส่งเครื่องบินรบไปถล่มอิรัคและซีเรียอ้างว่าเพื่อต่อต้านกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2557
    ในวันเดียวกันนี้ก็มีรายงานอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯอีกว่าเครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์รุ่น UH-1Y Huey ซึ่งบรรทุกสัมภาระความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาลได้หายสาบสูญไป โฆษกกองทัพสหรัฐฯรายงานว่ามีนาวิกโยธินของสหรัฐฯอยู่ในเฮลิค็อปเตอร์ลำนั้น 6 นายและทหารเนปาลอีก 2 นาย ซึ่งหายไปใกล้เมือง Charikot (ปัจจุบันคือ Bhimeshwar) ในประเทศเนปาล
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    US Jet Fighter Crashes in Gulf After Taking Off From Aircraft Carrier / Sputnik International
    US Helicopter Disappears While Transporting Aid to Nepal / Sputnik International
    http://wavy.com/…/l…/http://www.navy.mil/submit/display.asp…
    http://news.usni.org/…/breaking-navy-super-hornet-crashes-i…
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวดี!… บริษัทขายตรง Infinitus ของจีนกำลังจะพาพนักงานของตนมาเที่ยวเมืองไทยอีกราว 12,700 คน

    [​IMG]

    ------------
    ว้าว!... เมื่อวานนี้นำเสนอข่าวไปว่าเจ้าของกิจการนักธุรกิจจีนมหาเศรษฐีอันดับที่ 24 ของจีนพาพนักงานของตนเที่ยวกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสจำนวน 6,400 คนในคราวเดียว ฝรั่งเศสก็ออกมาต้อนรับด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากจีนขนเงินมาใช้จ่ายในประเทศฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก
    วันนี้เจอข่าวจากเว็บไซต์เดลินิวส์แจ้งว่าข่าวจากททท.ประกาศว่าบริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่ของจีนจะพาพนักงานของตนจำนวน 12,700 คนมาท่องเที่ยวเมืองไทย เข้าพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาว เป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่สองเท่าของกรุ๊ปทัวร์ที่ไปฝรั่งเศสซะอีก การเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยในครั้งนี้จะเริ่มระหว่างวันที่ 10-26 พ.ค.นี้ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจะทะยอยกันมาพร้อมกันครั้งละประมาณ 2-3 พัน การท่องเที่ยวในครั้งนี้จะไปเที่ยวชมฟาร์มจระเข้ สวนนงนุช และล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา และไปเที่ยวที่พัทยาด้วย คาดว่าจะมีเงินสะพัดถึง 600 ล้านบาท
    กรุ๊ปทัวร์จีนกลุ่มนี้เคยเดินทางมาเที่ยวมองไทยอยู่บ่อยๆ ในเดือนเมษายนมีกรุ๊ปทัวร์จากบริษัทฯของจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยถึง 16,000 คน ในขณะที่เดือนพฤศจิกายน มีจำนวน 10,000 คน ททท.คาดว่าปีหน้าจะมีกรุ๊ปทัวร์จากจีนกลุ่มนี้เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็น 20,000 คน
    ข่าวที่น่ายินดีอย่างนี้แล้วทำไมถึงไม่ช่วยกันโปรโมทเล่าพี่น้องเอ๋ย... ส่วนพวกบ่อนทำลายสังคมไทย พวกไม่รักชาติไทย ไม่ปรารถนาให้ประเทศไทยได้รับความเจริญก้าวหน้าจะคอยไปเม้นท์แสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์โทษรัฐประหารไปโน่น ชักแม่น้ำทั้ง 5 สารพัดเหตุผลที่จะอ้างเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาลนี้และของประเทศไทย พวกนี้เทอดทูนบูชาตะวันตกยิ่งกว่าแผ่นดินแม่ของตัวเอง พากันสร้างความรังเกียจให้กับนักท่องเที่ยวจีน ว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องแบบนี้มันก็มีกันทุกประเทศนั่นแหละ คนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศก็ใช่ว่าจะนิสัยดีทุกคนซะที่ไหน มันเป็นบางคนต้องรู้จักแยกแยะ ส่วนทางการจีนเขาก็เข้มงวดกับประชาชนของเขาในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย
    กรุ๊ปทัวร์นักท่่องเที่ยวจีน 6,400 คนแห่กันไปเที่ยวฝรั่งเศส ทุกๆประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐฯต่างก็อยากได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วยกันทั้งนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสคอยอำนวยความสะดวกให้กับกรุ๊ปทัวร์ดังกล่าวเป็นอย่างดี และผลตอบรับจากภาคสังคมของฝรั่งเศสก็เป็นไปในทางบวกด้วย นั่นคือการสำเสนอข่าวของสื่อฯของเขา เขาไม่ปฏิเสธไม่ขับไล่นักท่องเที่ยวที่ขนเงินไปให้ประเทศเขา ต่างกับคนไทยบางคนบางกลุ่มที่เห็นรัฐบาลนี้ทำอะไรก็รู้สึกขัดหูขัดตาไปซะทุกอย่าง เห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับสังคมไทยก็บอกว่าไม่ดีคอยแต่จะเตะตัดขา บ่อนทำลายอยู่เรื่อยๆ น่าเศร้าที่สมองของคนพวกนี้คิดได้แต่ในเรื่องแบบนั้น
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    จีนพาพนง.เที่ยวไทย1.27หมื่นคน | เดลินิวส์
    http://www.tatnews.org/huge-chinese-incentive-group-to-con…/
     

แชร์หน้านี้

Loading...