ความสัมพันธ์ระหว่างสติกับปัญญา เพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

ผู้ที่ฝึกสติมาดีแล้ว
ช่วยชี้แนะว่าเมื่อเราต้องการอยากทราบว่าสติ
มีการเจริญขึ้นมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
ในทางสร้างสรร เราจะสังเกตจากอะไรได้บ้าง
ครับ
หากมีแต่สติที่ฝึกดีแล้ว แต่ปัญญายังจำกัด
สติก็ช่วยอะไรไม่ได้ใช่หรือไม่??

คำตอบระดับสมมุติบัญญัติก็พอนะครับ

 

................ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นอกุศลธรรม(ราคะ โทสะ โมหะ)จนเกินไปนัก ครับ

 

จะรับฟังไหวหรือเปล่า รับฟังไม่ไหว ก็สาระวนกับ แมวหน้าขาว
หน้าดำ ลพ.ตด ป๊าดดดดด สติไม่มี


สติ ที่ คนไทยเอามาใช้ เช่น ตื่นขึ้นมาเดินเหินได้ไม่ล้ม แล้ว ไปบอกว่า คนนั้นมีสติ
อันนั้น เป็น ธรรมวิบัติ ธรรมไม่ใช่ธรรม เอา ธรรมไปรองหมาเยี่ยว หรือ เอาคำว่า
"สติ" ไปใช้กับ สมมติบัญญัตโลก อุปโลกตนเองว่า เป็นคนมีสติ นั่นมัน "คนระเรื่อง"
[ ต่างคนต่างใช้บัญญัติ เอาธรรมเข้าตัว ]


สติหมายถึงการระลึกได้ใน สภาวะธรรม ที่เกิดความแตกต่างกัน ในแต่ละขณะจิต

จิตเราหนึ่งลมหายใจ ผันแปรไปแสนโกฏิเรื่อง สติที่ไว จะระลึกได้ ในความแตกต่าง
ความแปรปรวนนั้นทั้งหมด

จิตที่มี สติ ระลึกได้ถึงความแตกต่างในหนึ่งขณะลมหายใจ สามารถระลึกได้ถึง สภาพ
ธรรมที่แตกกต่างกันทั้งหมดแสนโกฏ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ปัญญา สติกล้าเกินไป
เขาก็เรียกว่า ฝุ้งซ่าน(ทางธรรม) [ อ้างอิง พระสารีบุตร กล่าวกับ พระอนุรุธ ]

ปัญญา คืออะไร คือ การจำแนกสรรพสิ่งให้กลายเป็น องค์คุณในการ ชำแรกออก
จาก อาสวะ ภวสวะ สาสวะ ...ซึ่ง จะต้องใช้การระลึก สามัญลักษณ์ในสิ่งที่สติเข้าไปรู้

พูดง่ายๆ ย้อนกลับมาระลึกที่ ตัว ภาชนะ หรือ ตัวจิต โดยอาศัยสติ ระลึกความเกิด
ความดับ ความตั้งอยู่ไม่ได้ ความไม่อยู่ในอำนาจ แม้นตัวสติเอง ระลึกแล้วก็ดับ เห็นความ
ดับของสติด้วย จึงจะมี สัมปชัญญะ ไม่เช่นนั้นมันจะขึ้นวิธีจิตกลายเป็น จิตสังขาร วจีสังขาร
กายสังขาร [ สติผลิกไปสนองบัญญัติโลกๆ สติขี้โม้ คนละ สติ ที่เขาเสวนาในทางธรรม ]

มีปัญญาเห็นความเกิด ความดับ เป็นไปเพื่อ ชำแรกออกจาก อาสวะ ภวสวะ สาสวะ เขา
ก็เรียกแค่ มีสัมปชัญญะ ปราศจากอัสมิมานะ

ยังเหลือ การ......นมสิการ ธรรมบางประการ ที่ผ่านหน้า ผ่านตา ผ่านแบบหญ้า
ปากคอก ตลอดเวลา ซึ่ง การเห็นตรงนี้ จะต้องเห็นเอง แจ้งเอง ตรัสรู้เอง ส่วนคนอื่น
หรือแม้แต่ ตถาคต ก็ได้แต่ ประกาศว่า มันมีอยู่น๊า ดูดีๆ [ บอกกล่าวด้วยวิธี ปั้นหม้อ ]

พูดอีกที่ มีสติ มีปัญญา [+ อินทรีย์อีก 3] ก็ใช่ว่า จะเห็นวิมุตติ เห็นอริยสัจจ

แต่หนทางเพื่อการเห็นวิมุตติ เห็นอริยสัจจ ไม่มีทางอื่น มีทางนี้ทางเดียว
เพียรหรือยัง หรือมัวแต่ เชื่อว่าเขาปัดระเบิด เขาทำโรงวิชา เขาหา
ว่า พระพุทธองค์อ่อนไม่รับภาคปราบมาร ไม่เก่งอย่าง ลพ.ตด !!! [ หน้า ซองแทออง อ่านแบบ ฟรังซัวลามูมินนิเย ]

 

ดีแต่โม้จาบจ้วงเขาไปทั่ว
มีเงื่อนไขปรองดองอยู่ 3 ข้อถ้าอยากมาโม้ในกระทู้
1.ตามไปแก้คำด่าในกระทู้แรกออกให้หมดแล้ว
แต่งบทกวีธรรมะใส่ไปแทน
2.เปลี่ยนรูปแมวเป็นอย่างอื่นไปไม่ต้องมาทำซ้ำ
เพราะแมวข้ามาก่อน
3.เอาคัทเอ๊าท์พ่อง "สงครามพระ"ออกไป

ทำ3 ข้อครบยอมปรองดอง ไม่ทำก็เดินคนละทาง
คนละทู้ ไม่เสือกมายุ่งกัน เข้าใจนะไอ้แมวลามก

 

ไอ้ทลึ่งเอ๊ย!!มึงอ่านโจทย์ก่อนโท้ได้ไหมวะ!!?
โจทย์ถามอะไร ก็ตอบแค่นั้นพอ

จ้องจะโม้วิมุติอย่างเดียว
เคยไปมาตั้งแต่เมื่อไรวะ!!
ถ้าไปมาแล้วบอกหน่อยว่าอยู่ตรงไหน?
จะได้ไม่ไปซ้ำ เดี๋ยวกลับมาต้องมาโม้ลามกแบบเอ็ง

 

กั๊กๆๆๆๆ

สังเกตไหมครับ ไม่เคยถามเขาว่า สงครามพระ หมายถึงอะไร

ไม่เคยถาม อ่านแค่ " สามคำ " ก็ ทะลึ่ง แปลเอง ไม่รู้มีความหมายไปทางไหน
ถึงได้ ห้ามไม่ให้เกิด " สงครามพระ "

ถ้า คุณไม่รณรงค์ให้ สงครามพระ มันเกิด แล้ว คุณ จะมาศึกษาธรรมะ ทำไม


อย่าบอกนะ เข้ามาศึกษา เพื่อ กันโน้นนั่นนี่ ของฉาน ของฉาน นั่นก็ไม่ได้
ข้าฯมะชอบ ข้าทำก่อง

เอิ่ม........


จะตายเปล่าไปกลับ ลูกระเบิดปรมณูสุ่มสี่สุ่มห้า หรือฮับ !!!

 

สังเกตุได้ จากการรู้เท่าทันในความคิดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ครับ
รู้เท่าทัน แล้วสามารถจำแนกได้ ว่าสิ่งที่กำลังคิดอยู่
เป็นบวก หรือเป็นลบ หรือเป็นกลางๆไม่บวกไม่ลบ
แล้วก็สามารถพิจารณาเห็นคุณ เห็นโทษ ที่เกิดจากความคิด
ณ เสี้ยวขณะเฉียบพลันนั้นๆได้ครับ

สำหรับผม
ผมเห็นว่าสติที่มาพร้อมกับความไม่พร่องในศีล เป็นพื้นของสมาธิ
สมาธิ เป็นพื้นของปัญญา
ถ้าสติดี ศีลก็ดี
ถ้าศีลดี สติดี สมาธิก็ดี
ถ้าศีลดี สติดี สมาธิดี ปัญญามันก็ดี
ถ้าปัญญาเรายังจำกัด นั่นเพราะสมาธิเรายังไม่ดี
ที่สมาธิเรายังไม่ดี นั่นเพราะศีลเรายังไม่ดี
ที่ศีลเรายังไม่ดี นั่นเพราะสติ ความรู้เท่าทัน ณ ขณะปัจจุบันเรายังไม่ดี

 

สติเอาแค่รู้ว่า มีอกุศลจิตเกิดขึ้น มีอกุศลจิตตั้งอยู่ อกุศลจิตดับไป...ก็แจ่มแล้วฮับ

 

ไอ้แมวลามก
คิดไม่ออกว่าว่าทำไมถึงไม่ควรจึ้นคัทเอ๊าท์
ว่า"สงครามพระ!!"
คิดว่าตนเองขึ้นเตือนชาวบ้านแล้วมันจะยับยั้งได้
ไอ้สิ้นคิด
อยากจะปรองดองไปทำตามเงื่อนไขมา!!
ไม่ทำไม่ต้องมาโม้ที่นี่
ไอ้แมวนักธรรมถ่อย
ความรู้มาก มารยาททราม

 

กุศล อกุศล ต้องใช้ปัญญานะครับ
มีแต่สติดี แต่ปัญญาไม่พอ.....ทำไงฮะ

 

กั๊กๆ ตกลง แปลคำว่า สงครามพระ เป็นอะไรหรือฮับ ถึงได้เข้าใจว่า ทำเพื่อ ยับยั้ง

เขารณรงค์ให้มันเกิด ต่างหาก หละ

แต่ อย่าเอาไป ปนกับเรื่อง แปลความ รับสารอย่างไร้สติ นะฮับ

" ลพ.ตด " เนี่ยะ ถามเขาหรือยังว่า หมายถึงอะไร หรือ ปล่อยให้
สัญญาตัวเอง แปลเอง ตีความเองไป เป็น คนนั้น คนนี้ เลยเขาใจ
ว่า กำลังมีคนพูดคำหยาบ มารยาททราม ฮิวววววส์

 

ความจริง อกุศล หรือกุศล....ตรงนี้เขาใช้ความตั้งใจดี ตั้งใจที่จะละชั่ว เป็นตัววัด คือ...การดูตนเอง เตือนตนเอง เป็นหลักไห้ได้ก่อน..นี่คือ สัมมาทิฐิครับ
ขั้นนี้บางคนยังไม่เรียกปัญญาครับ แค่เรียก รู้ว่าทุกข์ หาทางออกจากทุกข์...โดย ดูที่ตนเองเป็นหลัก.....แค่นี้...มันก็เริ่มมีสัมมาทิฐิเริ่มเป็นผู้รู้ทุกข์ของตน แล้วหาทางออกจากทุกข์ นี่ก็เป็นปัญญาแล้วครับ ปัญญาเริ่มต้น... นั่นเอง

 

ส่วนคำว่า ปัญญาไม่พอ...เพราะ สติยังฝึกมาไม่ดีพอนั่นเอง

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป....นี่เป็นปกติที่ ควรรู้และเข้าใจ อยู่แล้วครับ
แต่ การที่ มันกำลังจะเกิด กำลังเกิดขึ้น เกิดมาได้อย่างไร...ตรงนี้คือ ปัญญา เพื่อ ชำระ อวิชชาครับ....นี่ต้องรู้ให้ได้ครับ

 

ยังไม่ไปทำตามเงื่อนไขอีก
โผล่มาทำไม??

ไม่ทำปรองดองไม่เกิดโว้ย!!

 

ความรู้มาก มั่วมาก สติต้องดีด้วยนะฮะ
ไม่เช่นนั้น มันคงไม่กล้าก่อสงครามไปเรื่อยๆ
สติดีแต่ใช้ในทางทำลาย!!เพลีย

 

แมว แมว แมว....น้องเคยเห็นแมวรึเปล่า แมวมันตัวเล็ก ตัวเบา..บางตัวหางยาวคล้ายๆงวง.....ส่วนมากพกดวง ไม่ตายไว....ก็แมวนั่นไง...๙ ชีวิต...เอย

ทำนองเพลงช้าง..

 

เนี่ย....สงครามแมว....หนูตะเภา ชักจะเริ่ม ระอา...

 

....เมื่อยอมรับ คำว่า เจตสิก หรือ( คุณสมบัติของจิตชนิดหนึ่ง) สติ เอง ก็เป็นเช่นนั้น มีคุณสมบัติ ระลึกรู้...ระลึกรู้ อะไรระลึกสภาพธรรม(กาย เวทนา จิต ธรรม) ทั้งรูป ทั้ง
อกุศล และ กุศล แต่ สติเอง มีคุณสมบัติอีกอย่างคือ เมื่อมีแล้ว จะทิ้งอกุศล หรือ ถือกุศลทิ้งอกุศล...ถ้าสังเกตุว่าขาดคุณสมบัตินี้...แสดงว่าตัวที่นำหน้าอยู่ ไม่ใช่สติครับ แต่หลงอารมณ์อยู่ครับ ปัญญายังไม่พูดตอนนี้ครับ

 

ไอ้แมวลามกมันใช้ภาษาปลิ้นไปปลิ้นมา

ภาษาธรรมก็ปลิ้นเช่นเดียวกัน หยาบคายด้วย
มันบอกให้ทุกคนอยู่กับปัจจุบันธรรม
แต่มันเที่ยวไปส่องไอดีชาวบ้าน ว่าใครไปทำ
อะไรที่ไหน ??แล้วข้อมูลมาบรั๊บเขา
นั่น!!คือปัจจุบันธรรมของบิดามัน!?!

 

กั๊กๆๆๆๆ

ตกลง เข้าใจว่า เขาเข้ามาเสวนา เพื่อหาเรื่องด่าคน กวนประสาท
ด่าครูบาอาจารย์ ทำลายศรัทธา มารยาททราม หรือฮับ

สติ ใครกันแน่ ไม่ดี

สติ ที่ดี เวลาเจออะไร ก็อย่ารีบร้อนแปลไปทาง ถกเถียง กีดกัน ทำลาย จิฮับ

ลพ.ตด เนี่ยะ ใคร แปลได้ตั้งหลายอย่าง " ลูกพ่อ ตด " " ลูกพี่ต่างดาว "
อะไรก็ได้ แปลไปเรื่อยๆ อย่าให้กลายเป็นเรื่อง เสวนาอัปมงคล

แต่ถ้า สติไม่ดี ปัญญามันไม่เกิด แปลความเข้าทาง ถกเถียง กีดกัน ทำลาย
มันก็ เต้นแร้งเต้นกา ชักชวน ก่อการทะเลาะ ก่อการบาดหมาง ถามหาการปรองดอง

มั่วไปเรื่อยแหละ


สงครามพระ เขาหมายถึง สงครามรบกับกิเลส มีกิเลส ตัณหา
เป็นข้าศึก ร่วมกัน ทุกรูป ทุกนาม ไม่ใช่เรื่อง มา รบกันเองระหว่างสัตว์ จั๊กหน่อย


ไม่ไหวๆ พวก เอามือไปปัดระเบิดปรมณู หนักตั้ง หมื่นตัน ปัดเข้าไปได้
มือหักหมด